นาวินปล่อยให้ความเป็นตัวเขาอยู่นิ่งๆ ในตัวคนพี่ แล้วก้มลงจูบที่ท้ายทอยไล่มาตามแผ่นหลัง มืออีกข้างลูบไล้เขี่ยที่ยอดอก เพื่อช่วยให้คนพี่ได้ผ่อนคลาย
“ไปต่อเลยมั้ย"
“อืม”
"งั้นผมขยับนะครับ”
ณัฏฐ์เม้มปากพยักหน้ารับ
นาวินเริ่มขยับช้าสลับเร็ว เน้นย้ำตรงจุดที่ทำให้คนตัวเล็กร้องเสียงดัง
“ผมอยากได้ยินเสียงพี่เรียกชื่อผมดังๆ”
เขาเร่งจังหวะเร็วขึ้น
“อ่าาาาาา นาวินนนนน”
“ผมรักพี่นะ”
ณัฏฐ์ได้ยินคำบอกรักเท่านั้นแล้วแหละ เสียงที่เจ้าตัวออมไว้ตั้งแต่ต้น คราวนี้ไม่ต้องออมกันแล้ว เขาครางชื่อคนรักออกมาเสียงดังลั่น ดังจนกลัวว่าจะเล็ดลอดออกไปสู่ภายนอก
“นาวิน นาวิน เราจะเสร็จแล้ว แรงอีก แรงอีกนิดนะอ่าาา”
นาวินเองก็ใกล้จะถึงฝั่งฝัน และเมื่อได้ยินเสียงคนรักสั่งให้เขาเร่ง เขาก็เร่งจังหวะทันทีอย่างไม่รีรอจนเสียงของเขาทั้งสองที่กระทบกันนั้นดังแข่งกับเสียงครางหวานเสียงชื่อเขาไม่ยอมหยุด
“พร้อมกันนะคะ ที่รัก”
นาวินบอกคนรักแล้วกดเข้าไป
“เอ่อ.. พี่คินทร์ ผมว่าพี่คินทร์ดื่มเยอะไปแล้วแน่เลย”“พี่ไม่ได้เมา พี่ชอบเราจริงๆ ชอบมานานแล้ว ไม่รู้ว่าพี่บอกเราตอนนี้มันจะสายไปมั้ย แต่พี่ก็อยากบอกและอยากขอโอกาส ถ้าณัฏฐ์ยังไม่มีใคร หรือยังไม่ได้ตกลงใจกับใคร รับพี่ไว้พิจารณานะ”ณัฏฐ์ยอมรับว่าเขาตกใจกับการสารภาพและการกระทำของเมคินทร์“เอ่อ.. คือ”“อย่าพึ่งปฏิเสธพี่ เก็บไว้คิดก่อน เรายังมีเวลาด้วยกันอีกเยอะ จริงมั้ย”เมคินทร์มองคนตรงหน้า ที่เริ่มทำหน้าตาท่าทางไม่ถูก กับการที่เขาเริ่มรุก ความจริงเขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะรุกเร็วขนาดนี้ ถ้าไม่เห็นรอยจ้ำแดงที่คอณัฏฐ์ แม้ว่าเจ้าตัวจะลงแป้งทับไว้ แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขา ทำให้เขารู้ดีว่ามันคืออะไร และเขาก็อยากรู้ความสัมพันธ์ของสองคนนั้นอยู่ขั้นไหน แต่ถ้าณัฏฐ์ยังไม่ได้บอกว่ามีแฟน เขาก็ยังมีสิทธิ์ใช่มั้ยทั้งคู่กินด้วยกันต่อสักพักณัฏฐ์ก็พยายามที่จะขอตัวกลับ โดยอ้างว่าวันพรุ่งนี้เขามีประชุมกับลูกค้าตอนเช้า จนเมคินทร์ยอมปล่อยตัวให้เขากลับและเดินมาส่งเขาที่รถ แล้วมองรถที่คนตรงหน้าขับมา เป็นรถญี่ปุ่นธรรมดาน่าจะใช้มาเกือบสิบปีแล้ว“ณัฏฐ์อยาก
“เปล่าครับพี่ ไม่ใช่อย่างนั้น ผมใช้คำพูดผิดไปหน่อย ผมหมายถึงว่า พี่ไปกินไปสนุกกับเพื่อนๆ พี่ดีกว่า เพราะถ้าผมไป ผมไม่รู้จักใคร เพื่อนๆ พี่คงงง แล้วจะพาลไม่สนุกเอาครับ”พอได้โอกาสณัฏฐ์รีบแก้ตัวพัลวัน“เพื่อนก๊วนนี้ของพี่ ณัฏฐ์ก็รู้จัก เป็นเพื่อนในคณะนั่นแหละ ณัฏฐ์เป็นสายรหัสพี่ เพื่อนๆ พี่ก็รู้จักณัฏฐ์กันทุกคน”ณัฏฐ์ทำหน้างง“เมื่อก่อนมีแต่คนอยากได้ณัฏฐ์มาอยู่ในสายรหัสกันทั้งนั้น ดีนะที่พี่ใช้วิชามาร เลยได้ณัฏฐ์มาอยู่ในสาย”ณัฏฐ์พยักหน้าเบาๆ พร้อมนึกย้อนไปในอดีต ใช่ตอนเขาปีหนึ่ง ตอนกิจกรรมรับน้อง เขามักจะโดนรุ่นพี่ปีสองปีสามแกล้งประจำ แต่ก็จะมีขนมมากมายส่งมาให้เขาตลอด แถมตอนช่วงปีหนึ่งเขาแทบไม่ค่อยได้ใช้เงินตัวเองเลย เพราะตกเย็นพี่พี่ก็จะพาไปเลี้ยงบอกว่าเป็นธรรมเนียมของรุ่นพี่รุ่นน้องที่นี่ และพี่เมคินทร์ก็พาเขาไปเลี้ยงบ่อยมาก“อ้าว แต่ผมกับจับสายรหัสปกตินะครับ”“เห็นมั้ยว่าพี่ทำได้เนียนแค่ไหน ฮ่า ฮ่า ฮ่า”“หมายความว่า พี่ล็อคผมหรือครับ”“ความลับเปิดเผยแล้ว มาชนแ
ตึ๊ง..คุณเมคินทร์ : พี่ถึงแล้วนะครับคุณเมคินทร์ : ไม่ต้องรีบนะครับ พี่มาก่อนเวลานัดเองณัฏฐ์มองที่หน้าจอโทรศัพท์ ที่มีข้อความเด้งโชว์มา แล้วมองไปที่นาฬิกา ที่บอกเวลา 18.20 น. ซึ่งเวลานัดคือ 19.00 น. เขาไม่ได้ผิดเวลานัดนะณัฏฐ์ : ผมคงไปถึงประมาณทุ่มนึงเลยนะครับ วันนี้รถเยอะมาก ไม่สามารถขับเร็วทำเวลาได้เลยณัฏฐ์ : (ส่งสติ๊กเกอร์ หมีทำตาวิ้งวิ้ง)คุณเมคินทร์ : ค่อยๆ ขับมานะครับ ยังงัยคืนนี้เรามีเวลากันทั้งคืนณัฏฐ์อ่านข้อความแล้ว เอ๊ะ.. รู้สึกแปลก ๆ ก็ส่งสติ๊กเกอร์ ไปให้ณัฏฐ์ : (ส่งสติ๊กเกอร์ หมีชนแก้ว)เวลา 18.50 น. ณัฏฐ์ขับรถมาจอดที่ลานจอดรถของร้านอาหารยุโรปชื่อดังย่านอโศกที่เมคินทร์ส่งโลเคชั่นมาให้ ดูที่ลานรถแล้วมีแต่รถยุโรปหรูหราราคาแพงทั้งนั้นเลย มีแต่เขานี่แหล่ะที่ขับเจ้าเต่าน้อยรถเก๋งคันเก่าค่ายญี่ปุ่นมาจอด ดูแล้วจมหายไปเลย สงสัยจบจากกินมื้อนี้ คงต้องกินอาหารญี่ปุ่นไปทั้งเดือน คิดแล้วขากลับคงต้องไปตุนมาม่าไว้สักลังนึง น่าจะดี เขาเปิดประตูรถออกแล้วก็ยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูปบรรยากาศร้านภายนอ
แล้วนาวินก็ยื่นหน้าโน้มคอผมเข้ามารับจูบ ริมฝีปากของเราสัมผัสกัน เค้าเชิงขอเข้าไปภายใน ซึ่งผมก็อนุญาตให้เขาเข้าไป ปลายลิ้นเราสัมผัสดึงดูดแรกเปลี่ยนความหอมหวานซึ่งกันและกัน รสสัมผัสของนาวินทำให้ผมอ่อนปวกเปียกไปทุกครั้ง ผมแพ้รสจูบเขาจริงๆ เมื่อนาวินถอนจูบออก เขาก็ยังไม่ยอมหยุดแค่นี้ เขาหันมาจูบไซ้ตามซอกคอแล้วก็“อือ.. นาวินพอก่อน อึ้ยยย .. นายทำอะไรเนี่ย”ผมเริ่มรู้สึกวาบหวิวไปตามรสสัมผัสของเขา จึงต้องรีบบอกให้เขาหยุดก่อนที่จะเลยเถิดตามอารมณ์กันไปไกลกว่านี้ ดีนะ ที่รถผมติดฟิล์มดำรอบคันและตอนนี้ก็จอดในมุมที่ห่างจากตัวร้านอาหารพอสมควร แต่แล้วก็รู้สึกได้ว่าเจ้าลูกหมาได้กัดดูดทำรอยที่ซอกคอผมเข้าแล้วละซิ“แสดงความเป็นเจ้าของ ว่าพี่ณัฎฐ์มีเจ้าของแล้ว และเจ้าของก็หวงมากด้วย”“บ้า นายคิดอะไร เรากับพี่คินไม่ได้มีอะไรกันซักหน่อย แล้วดูทำเข้าสิ ตอนบ่ายนี้เราก็ยังต้องเข้าไปทำงานต่อ เป็นรอยแบบนี้ คนอื่นเห็นจะว่างัย”“ไม่ว่างัย ผมก็จะบอกว่า ผมทำเอง”“คนบ้า มันใช่เรื่องที่ต้องมาคุยอวดกันที่ไหน เรื่องแบบนี้”“ก็ผมจะอวดจะได้ไม่ต้องมีใครมายุ่งกับพี่”
ช่วงนี้ ทีมงานออกแบบของผม งานเข้ากันทุกคนเลย ทำให้ต้องอยู่ทำงานลากยาวกันไป ถึงสองสามทุ่มทุกวันเลย บางวันก็ลากไปจนถึงสี่ทุ่ม ซึ่งถ้าผมไม่ติดอะไรผมก็จะอยู่รอพวกเขาแล้วไปกินข้าวด้วยกันก่อนกลับ บางวันดึกหน่อย นาวินก็จะอ้อนให้ผมอยู่ค้างคืนด้วย ซึ่งมันก็เป็นความรู้สึก และความสัมพันธ์ที่ดีนะ เรียกว่าตอนนี้เราแทบจะหายใจเข้าออกเป็นกันและกันอยู่แล้ว ดูจากแผนงานวันนี้ ก็น่าจะเลิกดึกเช่นเคย นี่ก็ใกล้เที่ยงล่ะ ผมว่าผมควรจะต้องดูแลเค้าซะหน่อย พาไปกินข้าวนอกบริษัทดีกว่า เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง“เที่ยงนี้นายอยากกินอะไร”ผมเอ่ยปากถามนาวิน“ตามใจพี่เลยครับ ผมยังไงก็ได้ แค่มีพี่นั่งกินด้วย ผมก็โอเคแล้ว”“ถ้างั้นกินมาม่ามั้ย เดี๋ยวไปต้มให้กิน นั่งกินในห้องนี่แหละไม่ต้องไปไหน”ผมแอบแขวะ และหมั่นไส้คนตรงหน้านี้เหลือเกิน“ถ้าพี่กิน ผมก็กินนะ”นาวินเอามือวางออกจากเม้าส์และเอื้อมมากุมมือผม แล้วพูดต่อว่า“ผมพูดจริงนะ ที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีพี่อยู่ด้วย ผมโอเคหมด ขอเพียงพี่ไม่ทิ้งผมไปก็พอ”“เป็นอะไรไป จะมาดราม่า รัชดาลัยเธียร์เตอร์อะไรกันขนาดนี้ ฮึนาวิน”ผมจับมือเค้าเขย่า เบาเบาให้กำลังใจเขา เพราะผมรู้ช่วงนี้เขากำลังเค
ชายหน้าคุ้นคนนั้นเดินตรงเข้ามาทัก และจับมือผม ตอนแรกผมตกใจ แต่พอเขาแนะนำตัว เท่านั้นแหละ ความทรงจำเก่าๆ ของผมก็วิ่งปู๊ดขึ้นมาทันทีเลย“ครับ พี่คิน ผมดีใจจัง เราไม่ได้เจอกันนานมากแล้วนะ”พอผมพูดจบพี่คินก็คว้าตัวผมไปกอดซะแน่นเลย ซึ่งผมเองก็กอดเขากลับด้วยเช่นกัน เรามองตากัน กี่ปีแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน ก็ตั้งแต่พี่คิดเรียนจบไปนั่นแหล่ะ เราไม่ได้เจอกันอีกเลย ได้ข่าวแต่ว่าพี่คินไปเรียนต่อที่เมืองนอก“อ้าว เมคินทร์หลานรู้จักกับณัฏฐ์ด้วยหรือ”ท่านประธานของผมทัก ซึ่งในขณะเดียวกัน ทั้งแขกคนสำคัญของท่านประธาน ร่วมทั้งพี่ศุกโชคและนาวินก็มองมาที่ผมกับพี่คินตาค้างเช่นกัน โดยเฉพาะนาวินนั้นมองมาด้วยใบหน้าที่ไม่มีรอยยิ้ม แววตามีแต่ความสงสัย“ครับ ผมกับณัฏฐ์เราเรียนคณะเดียวกัน ณัฏฐ์เป็นน้องในสายรหัสที่ผมรักมากที่สุดเลยครับ”พี่คินอธิบายให้ฟังพร้อมเน้นคำบางคำเป็นพิเศษแล้วพูดต่อว่า“ตอนเรียนว่าน่ารักแล้ว เจอตอนนี้ยิ่งน่ารักไปกว่าเดิมอีก”แล้วพี่คินก็ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าจะได้เห็น คือ เอามือมาจับแก้มผมลูบไปมา จนตัวผมเองก็ตกใจ เบี่ยงตัวหลบแทบไม่ทัน ผมยอมรับว่าสมัยเรียนผมสนิทกับพี่คินมาก แม้ว่าเราจะห่างก