“จุ๊ๆๆๆ ถ้าฉันเป็นเธอ ตอนที่ได้ออกไปจากที่นี่ ฉันจะใช้เงินที่สมัตถ์ให้ไว้ตอนหย่า ไปซื้อบ้านสักหลังแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ หางานหาการทำแล้วแต่งงานกับผู้ชายสักคนที่รักเธอ จะไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นผูกพยาบาทกับเทียนหยดอีก เพราะอะไรรู้ไหม” นางถามแล้วยิ้มร้ายราวกับแม่มดที่เกิดมาเพื่อบำรุงบำเรอด้านดำมืดของผู้คน
“อะไร” ราตรีถามนางอย่างขลาดๆ
“เพราะฉันจะเอาคลิปที่เธอสนุกกับจีรวัฒน์ไปปล่อยในเน็ต ให้มันดังไปทั่วโลก ยังไม่พอนะยังไม่พอ ฉันจะส่งคลิปนี้ไปตามบริษัทต่างๆ ทำให้พวกเขาไม่อยากรับเธอทำงาน และถ้าเธอยังไม่สำนึก ฉันจะจับเธอยัดใส่ถุงดำแล้วโยนขึ้นเรือไปเป็นอีตัวให้พวกกะลาสี ไม่ได้ผุดได้เกิด!”
“แกมันบ้า! แกไม่กล้าหรอก ตำรวจจะลากคอแกเข้าคุก”
“เธอจะลองดูก็ได้นะ เพราะฉันไม่ได้มาขู่ ฉันแค่มาบอก ฉันไม่จำเป็นต้องลงมือทำเรื่องชั่วๆ ด้วยตัวเองนี่ ฉันมีเงิน แค่เอาเงินหว่านทุกอย่างก็มาเกยอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว แต่รู้อะไรไหมราตรี สิ่งเดียวที่เงินซื้อไม่ได้คือความรักยังไงล่ะ ความรักและความซื่อสัตย์ ถ้าเธออยากครอบครองเธอต้องรู้จักให้ ให้
“เดี๋ยวก็เบื่อไปเองมั้งคะ”“ไม่...โอบว่าไม่เบื่อง่ายๆ หรอก พี่ต้องมีอีกสักโหลอ่า จริงๆ”“โอบ...” เทียนหยดครางเสียงต่ำ โหลหนึ่งเลยหรือ ไม่ไหวหรอก“แหะๆ โอบไปรอที่รถดีกว่า หิวแล้ว แม่ครับย่าครับ ไปขึ้นรถเร็วเข้า”โอบนิธิรีบเผ่นก่อนถูกพี่สาวเขกหัว มื้อค่ำวันนี้รอเขาอยู่ ก่อนที่สมาชิกทุกคนของบ้านจะทยอยกันไปขึ้นรถเพื่อไปฉลองงานวันเกิดให้กับเด็กหญิงตัวน้อยเด็กหญิงมัชฌาวี โสภณวิชญ์__________ทฤษฎีโลกกลมยังใช้ได้เสมอในทุกยุคทุกสมัย ในระหว่างที่ครอบครัวโสภณวิชญ์กำลังเลี้ยงฉลองอยู่นั้น ภายในร้านอาหารเดียวกันก็มีหนึ่งสตรีเฝ้ามองความอบอุ่นของพวกเขาด้วยสายตาแสนเสียดาย แม้ข้างกายมีหนุ่มใหญ่เคียงข้าง ทว่ามิใช่ในแบบปกตินานมากแล้วที่ราตรีมิได้เห็นสมัตถ์ มิได้เห็นคนที่อยู่ในหัวใจ มันทรมานยามเห็นพวกเขามีความสุข พอทนไม่ไหวก็รีบบอกให้คนข้างกายลุกกลับ เธอขอย้ายร้านด้วยไม่อยากทนมองความสุขของพวกเขาให้มันร้าวรานใจราตรีเดินออกจากร้านเงียบๆ พร้อมกับลูกค้าของตัวเอง ไม่ทันได้
-+- บทส่งท้าย -+-____________งานวิวาห์แสนหวานถูกจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ถัดมา งานเล็กๆ แต่อบอุ่น สองสามีภรรยาหมาดๆ เลือกทะเลที่ไม่ไกลจากเมืองกรุงฯ เป็นสถานที่ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ด้วยภาวะตั้งครรภ์ของเทียนหยดไม่ชวนให้สมัตถ์อยากนั่งเครื่องบินออกนอกประเทศ ทริปฮันนีมูนสั้นๆ ไม่กี่วันของทั้งสอง เลยสรุปที่ชายทะเลที่สมัตถ์เคยมาคราวก่อน คลื่นลมยังแรงด้วยเข้าสู่ฤดูฝนพรำ คู่สามีภรรยาเดินจับมือกันเดินไปตามชายหาดที่ทอดยาว กลุ่มนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาทั้งไทยและเทศ เดินกันขวักไขว่ ครึกครื้นไม่น้อย“ลมแรงจัง กลับโรงแรมดีไหม ฝนจะตกแล้วด้วย” สมัตถ์ว่าเทียนหยดส่ายหน้าดิก ซบศีรษะลงกับบ่าของสามี สองมือของทั้งสองจับกันไว้มั่น มีแหวนแต่งงานสวมไว้คนละวง“เดินต่ออีกนิดนะคะ สัก...ต้นมะพร้าวต้นนู้น...ค่อยกลับ” ว่าที่คุณแม่ชี้ไปข้างหน้า เจ้าเล่ห์น้อยๆ เพราะต้นมะพร้าวที่ว่าอยู่ไกลโข“ไม่เหนื่อยหรือไง เดินมาตั้งไกลแล้วนะ”“ไม่ค่ะ ถ้าเหนื่อย จะขึ้นหลังคุณแล้วกัน”“หึๆๆ
“ฉันรู้ และขอโทษที่มัวแต่ทำใจในเรื่องนี้จนละเลยสิ่งที่ควรปฏิบัติต่อเธอ ฉันเสียใจที่แม่ต้องตาย แต่มันเสียใจมากกว่าเดิมที่รู้ว่าคนที่ทำให้ท่านต้องตาย...คือเธอ” เขาเอ่ยด้วยเสียงเหมือนผิดหวังระคนน้อยใจ ทำไมต้องเป็นเทียนหยดด้วยเล่า ทำไม“ขอโทษ ฉันขอโทษนะคุณสมัตถ์ ขอโทษจริงๆ”“ชู่ว์...เราเลิกพูดเรื่องนี้เถอะนะ พูดไปก็มีแต่เจ็บปวด ฉันเชื่อว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ อุบัติเหตุน่ะ ไม่มีใครอยากให้มันเกิดหรอก เราลืมเรื่องร้ายๆ แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กันเถอะนะ ลืมมันให้หมด ลืมว่าเราเคยเกลียดกัน ลืมว่าเราเคยทุกข์ทรมานเพราะความสูญเสีย เรามาอยู่กับปัจจุบันดีกว่า ยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องทำไม่ใช่เหรอ เรามาทำมันไปพร้อมกันเถอะนะ”เทียนหยดน้ำตาซึม ถูกสมัตถ์ดึงตัวไปกอด และมันช่างอบอุ่นนัก นี่คืออ้อมกอดที่เธอโหยหา ช่างควรค่าแก่การเฝ้ารอเหลือเกิน“ฉันว่าเรากินมื้อค่ำดีกว่า ฉันมีอะไรอยากให้เธอดู”“อะไรคะ”“ไม่บอก เธอต้องรอดึกๆ และควรกินมื้อค่ำแล้วหลับสักงีบ ดึกๆ เดี๋ยวฉันปลุก”“แน่นะคะ&rd
[21]พรางรัก___________รุ่งเช้าเสียงกุกกักดังขึ้นที่ข้างเตียง เทียนหยดลืมตาขึ้นช้าๆ สมองหนักอึ้ง โพรงปากรสชาติฝืดเฝื่อน พอขยับลุกขึ้นนั่ง มืออุ่นๆ ของสมัตถ์ก็ช่วยพยุงให้เธอนั่งดีๆ“เป็นยังไงบ้าง อยากอ้วกไหม”หญิงสาวพยักหน้าเมื่อถูกถาม และพอเขาเอาถุงพลาสติกมารอใต้ปาก เธอก็โก่งคออาเจียน มันทรมานเมื่อไม่มีสิ่งใดออกมากับการสำรอกนอกจากน้ำลายเปรี้ยวๆ สมัตถ์ไม่ได้นึกรังเกียจ เขายังช่วยลูบหลัง ช่วยเก็บถุงอาเจียนไปทิ้ง“ฉันจะไปทำงานแล้วนะ เอารถเธอไป”“เอ้า แล้วฉันล่ะ” เธอท้วง ถ้าให้นั่งแท็กซี่ช่วงนี้มีหวังได้อ้วกบนรถแท็กซี่แน่ๆ“เธอไม่มีรถก็ไม่ต้องไปสิ”“ได้ไง ฉันจะไป”“ฮื่อ...พูดไม่รู้ฟัง แพ้ท้องแทบจะยืนไม่ขึ้น ยังจะหาเรื่องอีก แล้วถ้าไปทำงานเผลอไปพะอืดพะอมให้พนักงานเห็น เดี๋ยวลูกน้องก็ได้นินทาพอดี” สมัตถ์หาทางเลี่ยงไม่ให้เทียนหยดไปทำงาน แต่เทียนหยดกลับคิดเป็นอื่น“ช่างสิ นินทาหรือ
สมัตถ์อมยิ้ม ยักไหล่ใส่คนที่ร้องขอ “ทำไมล่ะ”“กลัวลูกได้ยินมั้ง ฉันนี่ร้ายกาจจริงๆ”“ถึงร้ายก็รักนะ”“คะ?” ประโยคที่ออกจากปากสมัตถ์ทำเอาเทียนหยดตื่นตะลึง นี่เธอหูฝาดหรือเปล่า “อะไร ฉันไม่ได้ยิน”“เธอได้ยิน ฉันรู้”“ก็มันไม่แน่ใจนี่นา พูดอีกทีซิ”“ไม่”“น่านะ พูดอีกที” คนสวยร้องขอสมัตถ์เบะปากน้อยๆ ตั้งหน้าตั้งตาขับรถแต่ก็แอบมองเทียนหยดเป็นครั้งคราว เรียวปากคลี่ยิ้มบางๆ บางเสียจนเทียนหยดไม่ทันสังเกต“คุณจะพาฉันไปไหน” เธอถาม“ก็หาอะไรกิน แล้วพากลับบ้าน”“ไม่กลับ ฉันจะกลับคอนโดฯ ถ้าไม่ไปส่งฉันที่นั่น ก็เชิญคุณลงไปโบกแท็กซี่กลับเอง” เธอยืนยัน แล้วสมัตถ์จะทำอะไรได้ นอกจากทำตามที่แม่ของลูกบัญชา_________เวลา 21:30 นาฬิกากลิ่นนมหอมๆ ลอยอวลทั่วห้อง เทียนหยดผลักประตูเข้าไปแล้วสูดกลิ่นนั้นจนเต็มปอด ผู้ช่วยคนเก่งของเธอยืนยิ้มแป้นอยู่หน้าเตา เจ้า
เธอพยักหน้า จีรวัฒน์เคลื่อนกายออกจากโต๊ะตัวสูงมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ ดวงตาเขามีหยาดน้ำตารื้นอยู่ในนั้น“โชคดีนะจี ขอโทษสำหรับทุกอย่าง”จีรวัฒน์มองเทียนหยดอย่างอาลัยอาวรณ์“ขอกอดสักทีได้ไหม ครั้งสุดท้าย...”เทียนหยดยิ้มน้อยๆ ดวงตามีหยาดน้ำใสไม่แพ้จีรวัฒน์ การจากกันด้วยดีย่อมน่าพิศสมัยกว่าการลาจากแบบโกรธเคือง อ้อมกอดของจีรวัฒน์อบอุ่นเสมอ ทว่าเธอไม่ต้องการมันอีกแล้ว หากมิได้อ้อมกอดของสมัตถ์มาครอบครอง เธอก็ขอแค่กอดตัวเองตลอดไปหวืด! โครม!ความโกลาหลเกิดขึ้นชั่วขณะ อะไรสักอย่างพุ่งมาทางด้านหลังเทียนหยดแล้วจับแยกหญิงสาวกับจีรวัฒน์ออกจากกัน จีรวัฒน์ถูกผลักจนล้มหงายหลัง ชนเข้ากับโต๊ะเก้าอี้โครมคราม แต่คนต้นเหตุยังไม่สาแก่ใจ ตามไปประเคนหมัดใส่จีรวัฒน์อีกสามทีซ้อนพลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!“คุณสมัตถ์!? หยุดนะ! คุณสมัตถ์ฉันบอกให้หยุด!”พลั่ก!หมัดสุดท้ายกระแทกใบหน้าจีรวัฒน์จนเลือดกบปาก ด้วยว่าไม่นิยมออกกำลังกาย ร่างกายจึงมิใช่หุ่นนักกีฬา ไม่มีลวดลายพอจะต่อกรกับหมัดแกร่งของอีกฝ่ายสมัตถ์ลุกจ
“จุ๊ๆๆๆ ถ้าฉันเป็นเธอ ตอนที่ได้ออกไปจากที่นี่ ฉันจะใช้เงินที่สมัตถ์ให้ไว้ตอนหย่า ไปซื้อบ้านสักหลังแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ หางานหาการทำแล้วแต่งงานกับผู้ชายสักคนที่รักเธอ จะไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นผูกพยาบาทกับเทียนหยดอีก เพราะอะไรรู้ไหม” นางถามแล้วยิ้มร้ายราวกับแม่มดที่เกิดมาเพื่อบำรุงบำเรอด้านดำมืดของผู้คน“อะไร” ราตรีถามนางอย่างขลาดๆ“เพราะฉันจะเอาคลิปที่เธอสนุกกับจีรวัฒน์ไปปล่อยในเน็ต ให้มันดังไปทั่วโลก ยังไม่พอนะยังไม่พอ ฉันจะส่งคลิปนี้ไปตามบริษัทต่างๆ ทำให้พวกเขาไม่อยากรับเธอทำงาน และถ้าเธอยังไม่สำนึก ฉันจะจับเธอยัดใส่ถุงดำแล้วโยนขึ้นเรือไปเป็นอีตัวให้พวกกะลาสี ไม่ได้ผุดได้เกิด!”“แกมันบ้า! แกไม่กล้าหรอก ตำรวจจะลากคอแกเข้าคุก”“เธอจะลองดูก็ได้นะ เพราะฉันไม่ได้มาขู่ ฉันแค่มาบอก ฉันไม่จำเป็นต้องลงมือทำเรื่องชั่วๆ ด้วยตัวเองนี่ ฉันมีเงิน แค่เอาเงินหว่านทุกอย่างก็มาเกยอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว แต่รู้อะไรไหมราตรี สิ่งเดียวที่เงินซื้อไม่ได้คือความรักยังไงล่ะ ความรักและความซื่อสัตย์ ถ้าเธออยากครอบครองเธอต้องรู้จักให้ ให้
สมัตถ์จำต้องนั่งลงที่ว่างข้างๆ นาง ที่แท้ผกากรองหรอกหรือที่ช่วยกันเทียนหยดออกไปจากเรื่องวุ่นวาย ด้วยหัวอกของคนเป็นแม่ นางต้องทำทุกวิถีทางเพื่อลูกสินะ ในขณะที่เขาเอาแต่โทษว่าเป็นความผิดพลาดของเทียนหยดแท้ๆ“แล้วตำรวจ ก็เลยสรุปเอาว่าสามีคุณเป็นคนขับ และตั้งข้อหาขับรถโดยประมาท”“ใช่ แต่รุ่งรดิศในตอนนั้นแม้แต่หายใจด้วยตัวเองยังทำไม่ได้เลย ฉันวิ่งเต้นหาผู้หลักผู้ใหญ่ จนในที่สุดเรื่องมันก็เงียบลง ใช้เงินไปไม่ใช่น้อย ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นเพราะอุบัติเหตุ คุณเองก็อย่าโกรธยัยเทียนเลยนะ”“ผมไม่ได้โกรธนะครับ ผมแค่รู้สึก...น้อยใจสวรรค์ละมั้ง ที่ให้เทียนหยดเป็นคนขับรถ แต่พอมาถึงตอนนี้ ผมกลับดีใจที่เทียนหยดเป็นคนขับรถนั่น เพราะถ้าสามีคุณเป็นคนขับ เขาคงเป็นคนที่ทำให้แม่ผมตาย และพอถึงตอนนี้ที่ผมรู้ความจริงว่าเขาเป็นพ่อแท้ๆ มันคงเจ็บปวดพิลึก”“เวลาอาจช่วยเราได้ค่ะคุณสมัตถ์ ไม่มีใครอยากให้เรื่องร้ายๆ มันเกิดนี่คะ”“จริงครับ” สำทับประโยคนั้นของว่าที่แม่ยายราว มันคงถึงเวลาที่เขาต้องทำใจ ทำใจให้ชิน
[20]กว่าเราจะเข้าใจ___________หลังมื้อค่ำอันกร่อยสนิท ศรีสุรางค์ก็เข้านอนหลังจบมื้ออาหาร เทียนหยดออกจากบ้านไปและไม่ยอมรับโทรศัพท์คนเป็นแม่ ผกากรองส่งโอบนิธิเข้านอน แล้วลงมาเดินเล่นที่สนาม มือก็กดโทรศัพท์ไปด้วย“ทำไมไม่รับโทรศัพท์นะยัยเทียน” บ่นให้คนที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้วนั่งลงยังม้านั่งริมสนาม คิดว่าหากสักสิบนาทีเทียนหยดไม่ติดต่อมา นางจะขึ้นนอนเสีย ทว่าความตั้งใจมีอันถูกพับเก็บเมื่อร่างสูงของใครคนหนึ่งมาหยุดยืนตรงหน้านาง เขาถอนหายใจเบาๆ ทำให้นางรู้ว่าเขากำลังมีความหนักใจ“เธอไม่รับโทรศัพท์ใช่ไหมครับ”“อือฮึ อยู่คอนโดฯ นั่นแหละ ฉันโทรหานิดา ผู้ช่วยของยัยเทียนน่ะ เห็นบอกว่าไปถึงที่นั่นแล้ว แต่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ฉัน”“เธอคงโกรธผม”“แน่นอน เป็นฉันฉันก็โกรธ” ผกากรองว่า เงยหน้ามองคนตัวสูงแล้วม่านตาก็ขยายกว้างกว่าเก่า สมัตถ์กำลังนั่งคุกเข่าลงตรงหน้านาง ก่อนจะก้มกราบแทบเท้าคนที่เขาเคยเกลียด “คุณสมัตถ์! นี่ค