@ คฤหาสน์สกาย
นี่นะหรือคฤหาสน์ของเขา มันใหญ่โตสมกับคนมีฐานะร่ำรวย อาจจะถึงขั้นเป็นมหาเศรษฐีเลยก็ว่าได้ แถมยังอยู่ในซอยเปลี่ยวลึก รอบด้านติดกับป่า ไม่มีผู้คนสัญจรไปมา ทำไมถึงได้มาสร้างบ้านอยู่ในที่ลับตาคนแบบนี้กันนะ
ชะเอมสอดสายตาผ่านกระจกหน้ารถมองเข้าไปยังบ้านหลังใหญ่ แต่แล้วความคิดที่มีก็ดับวูบเมื่อประตูรถได้ถูกเปิดออก พร้อมกับชายรูปร่างกำยำสองคนที่ยืนรออยู่ด้านนอก
“เข้าไปข้างในกันเถอะครับ”
โฬมเอ่ยจบก็เดินนำหญิงสาวเข้าไปในคฤหาสน์ที่อยู่ตรงปีกซ้าย
ฝั่งนี้ได้ถูกตกแต่งให้เป็นห้องสังสรรค์ไว้สำหรับนั่งดื่มเหล้ากับกลุ่มเพื่อนสนิทของมาเฟียหนุ่ม มีโต๊ะสนุกเกอร์ตั้งวางอยู่ด้านหลังโซฟา ส่วนอีกห้องที่โล่งกว้างขนาดใหญ่ได้ถูกจัดให้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมยิงปืนขนาดย่อม
ภายในห้องนั้นมีชั้นวางสำหรับจัดเก็บปืนกระบอกหลากหลายขนาด ต้องชื่นชอบขนาดไหนถึงได้นำมาเก็บไว้ในบ้านของตนเอง และไม่รู้ว่ามันเป็นปืนจริงหรือว่าปืนปลอม
“มาได้สักทีนะ”
เสียงทุ้มดังขึ้นก็ทำให้ชะเอมรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก เธอก้าวเข้าไปในห้องนั้นอย่างเชื่องช้าราวกับขาทั้งสองข้างไร้กำลัง พอเดินพ้นประตูชายที่เป็นลูกน้องคนสนิทของเขาก็จัดการปิดประตูทันที
“พาฉันมาที่นี่ทำไมคะ”
เธอถามออกไปด้วยหัวใจที่สั่นระรัว ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังถือปืนอยู่ในมือและเล็งไปยังเป้าที่อยู่ตรงหน้า
ปัง!
กระสุนนัดแรกได้ยิงออกไปโดนเป้าหมายเลขแปด ชะเอมได้ยินเสียงอันใกล้ก็สะดุ้งโหยงตัวแข็งทื่อราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง
“ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนอื่น”
“ฉะ ฉัน ไม่ได้ยุ่งกับใครเลยนะคะ” เธอตอบออกไปเสียงสั่น
“แล้วไอ้หมอนั่นมันเข้าไปอยู่ในบ้านเธอได้ยังไง”
ปัง!
เสียงปืนนัดที่สองดังขึ้น และเป้าหมายเลขเก้าก็ได้ถูกเจาะเป็นรู ชะเอมหลับตาปี๋ ยกมือขึ้นปิดหูทั้งสองข้าง
“ฉันไม่ชอบคนทรยศ และฉันก็เคยเตือนเธอแล้วนะว่าอย่าทำ”
สกายเอ่ยพร้อมกับกระชากข้อมือของหญิงสาวให้มายืนหันหลังให้เขาอยู่ข้างหน้า ส่วนเขายืนโอบอยู่ทางด้านหลัง พร้อมกับพยายามจับมือที่สั่นของเธอมาจับปืนที่อยู่ในมือ
“จะทำอะไร ปล่อยฉันนะ ฮึก”
ชะเอมดิ้นขัดขืน ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ พยายามจะดึงมือออกแต่ก็ไม่เป็นผล เขาจับมือเธอประกบกับด้ามปืนไว้แน่น และใช้นิ้วคล้ายกับบังคับให้เธอลั่นไกออกไปยังเป้าที่อยู่ตรงหน้า
“ฉันควรจะให้อภัยคนที่มันทรยศฉันอย่างนั้นเหรอ เงินก็รับไปแล้ว แต่ทำไมถึงไม่ทำตามสัญญา”
“ฮึก”
ชะเอมส่งเสียงสะอื้นพร้อมกับหยดน้ำตาที่ร่วงเผาะลงบนโหนกแก้ม เธอส่ายหน้าไปมาอย่างไม่รู้ว่าทำอะไรผิด
“มองเป้าข้างหน้าให้ดี ๆ ล่ะ ถ้าครั้งหน้ายังกล้าขัดใจฉันอีกล่ะก็ คนที่จะยืนอยู่ตรงนั้นจะกลายเป็นเธอแทน”
ปัง!
กระสุนนัดนี้ได้ยิงเข้าที่เป้าหมายเลขสิบ เป็นจังหวะเดียวกันกับชะเอมที่ขาอ่อนกำลังลง แต่ดีที่สกายย่อตัวลงรับไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นคงจะลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น
เธอหายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วง หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำด้วยความกลัว ผู้ชายคนนี้มันบ้าไปแล้ว ถึงกับพาเธอมาขู่เพื่อไม่ให้กล้าหือกับเขาเลยหรือ
“หึ ให้ยิงปืนแค่นี้ถึงกับแข้งขาอ่อน ถ้าฉันทำอย่างอื่นคงจะลงจากเตียงเองไม่ได้เลยสิท่า”
“ว้าย”
ชะเอมร้องเสียงหลงเมื่อถูกชายหนุ่มถือวิสาสะช้อนเอาตัวเธอขึ้นมาอุ้มอยู่ในอ้อมแขนโดยไม่ทันตั้งตัว
“ปล่อยฉันลง ฉันเดินเองได้”
สกายหลุบตามองคนที่อยู่ในอ้อมแขน เอ่ยกับเธอด้วยน้ำเสียงแข็ง
“ถ้าไม่อยากกลายเป็นเมียลูกน้องของฉันที่ยืนอยู่ด้านนอก ก็อย่าทำให้ฉันเบื่อ”
ตอนเดินเข้ามาชะเอมเห็นลูกน้องของสกายยืนเฝ้าอยู่ทั่วทุกมุมคฤหาสน์นับสิบกว่าคน ราวกับว่าชีวิตของเขากำลังตกอยู่ในอันตรายถึงต้องมีคนมาคอยอารักขา แต่ถ้าให้เธอโดนคนพวกนั้นปู้ยี่ปู้ยำก็คงยอมตายเสียดีกว่า
ตึกตัก ตึกตัก
หัวใจดวงน้อยเต้นกระตุกเสียงดัง ชะเอมเลื่อนมือไปคล้องคอของเขาตอนที่อุ้มเธอขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของบ้าน แต่แล้วพอเปิดประตูเข้าไปในห้อง ร่างของเธอก็ถูกโยนลงบนเตียงขนาดคิงส์ไซซ์อย่างไม่ใยดี
ตุบ!
“โอ๊ย ฉันเจ็บนะ” ชะเอมเอ่ยพรางดันตัวลุกขึ้นนั่ง
“แค่นี้ไม่ถึงตายหรอก” เสียงกร้าวดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก
“นี่ห้องใครคะ”
เธอมองไปรอบ ๆ ก็รู้สึกสงสัย ห้องนอนขนาดใหญ่ แต่ภายในห้องกลับไม่พบร่องรอยของการพักอาศัยเลย และผ้าปูที่นอนก็ยังคงได้กลิ่นของน้ำยาปรับผ้านุ่มโชยเข้าจมูกราวกับว่าเพิ่งซักแห้งแล้วก็เพิ่งนำมาเปลี่ยน
“ต่อไปห้องนี้จะกลายเป็นห้องนอนของเธอ”
เขาเอ่ยพร้อมกับวางเข่าข้างหนึ่งลงที่ปลายเตียง จ้องเธอด้วยแววตาหื่นกระหายและน่ากลัว
ตึกตัก ตึกตัก
“คุณจะทำอะไร”
“เช็กของไง”
“ว้าย”
มือหนาเลื่อนไปดึงขาของหญิงสาวจนเธอนอนหงายหลังลงบนที่นอน ชะเอมตกใจจนทำตัวไม่ถูก เขากำลังจะถอดกางเกงในสีดำลายลูกไม้ที่อยู่ภายใต้กระโปรงยีนของเธอออกจากเรียวขา เธอดิ้นขัดขืนแต่มันก็ถูกถอดออกไปอย่างง่ายดาย
ชะเอมรีบเอามือมาปิดน้องสาวของตัวเองผ่านกระโปรงด้วยความอาย เขาดูเร่งรีบและก็เอาแต่ใจมากจนเธอตื่นตระหนก
“เอามือออกไป” เสียงกร้าวเอ่ยออกคำสั่ง
“ฉะ ฉัน อาย”
เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น พวงแก้มแดงปลั่งด้วยสีเลือดฝาด ดวงตากลมโตไหววูบไม่กล้าสบตาคนตัวสูงที่ยืนออกคำสั่ง แต่แล้วความอายที่มีก็เหมือนจะสะดุ้งหนีกับคำดูถูกของเขาอีกครั้ง
“หึ ผู้หญิงที่เอาตัวแลกเงินอย่างเธอ ยังมีความอายอยู่อีกเหรอ”
@ มหาวิทยาลัย1 ปีต่อมาเหล่ารุ่นน้องได้ยืนรายล้อมรุ่นพี่บัณฑิตที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี พร้อมกับร้องเพลงบูมกันดังกึกก้องไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย ท่ามกลางสายตาของคนที่มาร่วมแสดงความยินดีในวันรับปริญญาชะเอมอยู่ในชุดนักศึกษาที่สวมชุดครุยสีดำทับอีกชั้น ได้ยืนอยู่กลางวงล้อมของเหล่ารุ่นน้อง ทั้งร่วมร้องเพลงและขยับร่างกายเป็นจังหวะตามเนื้อเพลงที่ดังขึ้นหลังจากนั้นเธอก็ไปถ่ายรูปร่วมเฟรมกับเพื่อนรัก ผลัดกันแสดงความยินดี“ดีใจด้วยนะแก”“ยินดีกับแกเหมือนกันนะน้ำหวาน”“เรียนจบแล้วก็อย่าลืมเพื่อนอย่างฉันล่ะ” น้ำหวานทำหน้าหงอยเล็กน้อย เมื่อคิดว่าเรียนจบแล้วคงจะได้เจอกันน้อยลง ด้วยอายุที่มากขึ้น และต่างคนก็ต้องไปทำหน้าที่ของตนเอง“จะลืมได้ยังไง แกเป็นเพื่อนรักของฉันนะ ฉันยังอยู่กรุงเทพฯ พักที่บ้านพี่สกาย ถ้ามีเวลาก็มาเจอกันบ่อย ๆ นะ”ขณะที่สองสาวกอดกัน ก็มีเสียงทุ้มดังอยู่ใกล้ ๆ และพอหันไปมองก็พบว่าเป็นธามไท หนุ่มเจ้าของโรงแรมที่พวกเธอไปฝึกงาน“ยินดีด้วยนะครับน้องน้ำหวาน น้องชะเอม”“ขอบคุณนะคะพี่ธามไท ว่าแต่มาแสดงความยินดีกับพวกเราสองคน ทำไมมีดอกไม้แค่ช่อเดียวคะ” ชะเอมเอ่ยทักทายหนุ่มรุ่นพี่ ก่อนจะเ
@ โรงแรมธามไทสกายขับรถมาส่งแฟนสาวด้วยตัวเอง วันนี้เธอต้องฝึกงานเป็นวันแรกในช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็ได้ติดต่อโรมแรมของเพื่อน เพื่อขอให้แฟนสาวและเพื่อนรักของเธอมาฝึกงานที่นี่“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”เธอปลดเข็มขัดนิรภัยออกก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม แล้วโน้มตัวไปจูบที่แก้มของเขา“ปากด้วยสิครับ”จุ๊บ!“หนูไปก่อนนะคะ เดี๋ยวยัยน้ำหวานจะบ่นเอาว่ามาถึงช้า”ที่ช้าก็เพราะถูกเขาจับกินตั้งแต่เช้าตรู่ ทั้งบนเตียง ในห้องน้ำ จนได้อาบน้ำด้วยกัน กว่าจะแต่งตัวเสร็จแล้วลงมากินมื้อเช้า ก็ทำให้ออกจากบ้านช้ากว่าที่กำหนด“ครับ”สิ้นเสียงขานรับชะเอมก็เปิดประตูลงจากรถ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงประตูอีกฝั่งที่เปิดออก จึงรีบหันไปมองด้วยความสงสัย“พี่สกาย จะลงมาทำไมอีกคะ”“รีบไม่ใช่เหรอครับ เข้าไปข้างในสิ พี่แค่จะเข้าไปส่งเมีย”ชะเอมกระตุกยิ้มพร้อมกับมือที่โดนอีกฝ่ายกอบกุม แล้วพากันเดินเข้าไปในโรงแรมของเพื่อนแฟนหนุ่ม“ชะเอม”ทันทีที่น้ำหวานเห็นเพื่อนเดินเข้ามากับแฟน ก็โบกมือแล้วเอ่ยเรียกเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะนี่คงจะเป็นครั้งแรกที่ได้เจอหนุ่มรุ่นพี่ใจดีที่เป็นธุระเรื่องฝึกงานให้เธอกับชะเอม“สวัสดีค่ะพี่สกาย ห
ร่างของหญิงสาวถูกอุ้มคีบเอวขณะที่ริมฝีปากก็บดจูบกันอย่างเร่าร้อน และวางลงข้างโต๊ะสนุกเกอร์ เท้าแตะพื้นโน้มตัวคว่ำหน้านอนบนนั้น แอ่นก้นงามให้เขากระแทกร่องสาวจากทางด้านหลัง“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า... พี่สกาย”เสียงร้องครางดังระงมของทั้งคู่ประสานกันลั่นห้อง เขาได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มกินดุ กินโหด เพราะฉะนั้นน้ำเดียวไม่เคยพอ“อ่า... เมียพี่ตอดดีมาก”“อื้อ จะ จุก ซี้ด...”“พี่ขออีกน้ำนะครับ”ปัก ปัก ปัก!!!คนทั้งสองผลัดเปลี่ยนกันมอบบทรัก จนกระทั่งน้ำสีขาวขุ่นหลั่งออกมาเป็นครั้งที่สาม สกายก็อุ้มหญิงสาวมานั่งอยู่บนตักตรงโซฟาดังเดิมเพื่อพักให้หายเหนื่อย“ขอบคุณนะคะที่พายายมาอยู่ด้วย”“เราขอบคุณพี่หลายรอบแล้วนะ”เอ่ยพลางยื่นมือหนาเชยปลายคางของหญิงสาวให้เงย ก่อนจะก้มลงไปจูบแผ่วเบา ทำเอาคนโดนจูบคลี่ยิ้มเขิน“ก็พี่แสนดีแบบนี้ไงล่ะคะ ให้ขอบคุณวันละล้านรอบก็ยังตอบแทนไม่หมดเลย”“ไม่ต้องล้านรอบหรอก ตอบแทนเป็นตัวกับหัวใจวันละน้ำสองน้ำก็พอ”“คนบ้า”หญิงสาวคลี่ยิ้มส่งสายตามองค้อนให้คนเจ้าเล่ห์ พูดดีด้วยหน่อยไม่ได้ ต้องวกเข้าเรื่องสิบแปดบวกตลอดทั้งสองต่างจ้องตาและหลุดยิ้มออกมา พักกันพอหายเหนื่อย สกายและชะเอมก็พากันไปยั
@ โรงพยาบาลสามทุ่มของวันนี้ยายของหญิงสาวจะเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ เมื่อช่วงพลบค่ำได้ตรวจเลือดและสภาพร่างกายโดยรวมแล้วมีความพร้อมทุกอย่างปรียานุชแม่ของสกายได้จัดการติดต่อกับทางโรงพยาบาลทั้งสองแห่งเรื่องการผ่าตัด เพราะหัวใจที่นำออกมาแล้วนั้น จำเป็นต้องนำไปปลูกถ่ายให้กับยายของชะเอมโดยด่วน จะให้มีเรื่องผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด“เจอกันอีกแล้วนะพ่อหนุ่ม”ผู้เป็นยายเอ่ยทักทายสกายทันทีที่เห็นเด็กทั้งสองเดินเข้าไปหาในห้องพักผู้ป่วย ทำเอาชะเอมงุนงงว่าไปรู้จักกันตอนไหน เพราะเธอไม่เคยพาแฟนหนุ่มมาเยี่ยมยายเลยสักครั้ง“ยายรู้จักพี่สกายด้วยเหรอคะ”“รู้จักสิ เขาก็เคยมาเยี่ยมยาย”ชะเอมยังไม่อยากคาดคั้นสิ่งที่อยากรู้ในตอนนี้ เลยได้แต่คลี่ยิ้มส่งกำลังใจให้ผู้เป็นยาย สักพักก็มีพยาบาลและเจ้าหน้าที่เวรเปลมาพายายไปที่ห้องผ่าตัด“หนูจะรออยู่ตรงนี้นะคะ”หญิงสาวที่จับมือของยายมาตลอดทางก็ปล่อยมือออกเพราะเข้าไปในห้องผ่าตัดด้วยไม่ได้ สกายจึงโอบไหล่พาชะเอมไปนั่งรอที่เก้าอี้หน้าห้องผ่าตัดผู้เป็นยายเข้าไปได้ไม่นาน ก็มีเจ้าหน้าที่วิ่งออกมาจากลิฟต์ ในมือยังถือกระติกสี่เหลี่ยม เข้าไปในห้องผ่าตัดอย่างรวดเร็วหัวใจข
@ ทะเลชะเอมถูกแฟนหนุ่มจูงมือเข้าไปยังร้านอาหารริมทะเลแห่งหนึ่ง ทั้งสองเข้าไปนั่งที่โต๊ะแล้วเปิดดูเมนูเพื่อสั่งอาหาร“พามากินข้าวไกลจังเลยนะคะ”“เราเพิ่งผ่านเรื่องร้ายมาด้วยกัน พี่เลยอยากพาเธอมาเปิดหูเปิดตา เผื่อว่าจะรู้สึกดีขึ้น”“ขอบคุณนะคะ ตอนนี้หนูรู้สึกดีขึ้นมากแล้วค่ะ” เธอยิ้มให้กับคนตรงหน้าทั้งสองนั่งรออาหารไม่นานก็มีพนักงานเดินมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ หลังจากนั้นสกายก็พาชะเอมไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับชายทะเล เปิดประตูออกมานั่งเล่นรับลม และลงเล่นน้ำทะเลที่ด้านหน้าได้เลย“คืนนี้นอนกันที่นี่นะ”ชะเอมที่กำลังแง้มผ้าม่านมองดูคลื่นของน้ำทะเลก็หันมาถามกลับ“แต่เราไม่ได้เอาเสื้อผ้ามานะคะ”“พี่เตรียมมาให้แล้วครับ”“ไปแอบเตรียมมาตอนไหนคะ หนูไม่เห็นพี่หิ้วกระเป๋าลงมาจากห้องเลย”“ถ้าเห็นจะเรียกว่าแอบเหรอ”ชายหนุ่มกระตุกยิ้มหย่อนก้นลงนั่งที่ปลายเตียง จับหญิงสาวนั่งลงบนตักแล้วสวมกอดเธอทางด้านหลัง เกยปลายคางลงที่ไหล่บาง เอ่ยกระซิบข้างใบหู“เราจะทำอะไรดี”“ไปเดินเล่นกันไหมคะ”“ดูแดดสิครับ เดี๋ยวผิวเมียพี่ก็เสียหมด เรามานอนพักกันดีกว่า”“ว้าย พี่สกาย ไม่เอา นี่มันกลางวันอยู่เลยนะคะ”เสียงหว
ชะเอมกดเบอร์โทรออกไปหาเพื่อน และทันทีที่น้ำหวานรับสายก็ส่งเสียงเอ็ดเธอด้วยความเป็นห่วง“แกไปอยู่ไหนมา ฉันติดต่อไม่ได้เลย รู้ไหมว่ามีคนเป็นห่วง ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน คิดว่าแกคงจะเกิดเรื่องขึ้นแน่ ๆ ถึงได้หายไปเลย สรุปมันเกิดอะไรขึ้นบอกฉันมาเดี๋ยวนี้”“เอาทีละคำถามได้ไหม ฉันฟังไม่ทัน”“ก็ฉันเป็นห่วงแกนี่ เล่นหายออกไปแล้วให้คนอื่นมาบอก ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย”“แกตั้งสติก่อนนะ เมื่อวานฉันถูกคุณอคิณจับตัวไป”“คุณอคิณ ทำไมต้องจับตัวแกไปด้วย ไอ้คนหน้าไหว้หลังหลอก ไอ้ปีศาจในคราบนักบุญ หน้าหล่อเสียเปล่าแต่สันดานแย่สุด ๆ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ฉันน่าจะผลักให้ตกเรือตั้งแต่ไปช่วยน้ำท่วม”น้ำหวานรู้สึกโกรธแทนเพื่อน และโมโหตัวเองด้วยที่หลงไหลเพียงหน้าตาหล่อเหลา โดยไม่รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริง“เอาน่า อย่าโมโหไปเลย ตอนนี้ฉันปลอดภัยแล้ว พี่สกายเป็นคนไปช่วย”“พี่สกาย พี่รถสปอร์ตที่แกแอบชอบน่ะเหรอ นั่นไง ฉันคิดไว้แล้วว่ายังไงเขาก็ต้องชอบแกเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นจะเสี่ยงชีวิตไปช่วยแกทำไม แล้วตอนนี้แกอยู่ที่ไหน ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรใช่ไหม”“ฉันอยู่โรงพยาบาล”“นี่มันทำแกเจ็บถึงขนาดเข้าโรงพยาบาลเลยเหรอ”“เป