ตอนที่๗
พบปะคนในบ้าน “มาแล้วหรอไออุ่น” เสียงทรงอำนาจของประมุขใหญ่ของบ้านเรียกความสนใจของอัยยภัทรได้เป็นอย่างดี “สวัสดีค่ะคุณปู่ ไอคิดถึงคุณปู่ที่สุดเลยค่ะ”อัยยภัทรลุกขึ้นไหว้ชายชราที่กำลังเดินเข้ามา ก่อนจะรีบเดินเข้าไปประคอง “ปู่ก็คิดถึงไออุ่น “ ชายชราลูบหัวหญิงสาวอย่างเอ็นดู อัยยภัทรเป็นตัวของตัวเองได้เวลาอยู่กับเจ้าสัวกิตติ หญิงสาวสามารถยิ้มจากหัวใจของเธอเอง “เดินระวังนะคะ” “เจ้าเด็กคนนี้นี่ ปู่ยังไม่ได้แก่ขนาดนั้นเสียหน่อย อีกอย่างนี่ก็บ้านปู่ ปู่ก็เดินของปู่อยู่ทุกวัน” เจ้าสัวกิตติเอ่ยอย่างเอ็นดู “ก็ไอเป็นห่วงคุณปู่นี่คะ” อัยยภัทรยิ้มอย่างเอาใจ ชายชราตรงหน้านอกจากให้ชีวิตใหม่กับเธอแล้ว ยังให้ความรักความเอ็นดูกับเธอ เวลาอยู่กับเจ้าสัวกิตติเธอรู้สึกเหมือนอยู่กับญาติผู้ใหญ่จริงๆ ไม่ได้รู้สึกด้อยค่าว่าเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกรับมาเลี้ยง “เป็นห่วงปู่ก็มาหาปู่บ่อยๆสิ” “ไออยากกลับมาอยู่กับคุณปู่” อัยยภัทรเผลอพูดความในใจออกไป “ทำไมล่ะ พี่ศึกเขาดูแลไออุ่นของปู่ไม่ดีหรือไง?” ชายชราเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย น้ำเสียง แววตาและสีหน้าของอัยยภัทรมันแฝงไปด้วยความเศร้าอย่างชัดเจน “ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ พี่ศึกดูแลไอดีทุกอย่าง แต่ไอแค่กลัวคุณปู่เหงาเท่านั้นเอง” อัยยภัทรแสร้งทำสีหน้าสดใส เพราะไม่อยากให้เจ้าสัวกิตติไม่สบายใจ “ประจบประแจงเก่งแบบนี้นี่เองคุณพ่อถึงได้หลงนักหลงหนา” เสียงคุณหญิงชลลดาดังขึ้นด้านหลังเจ้าสัวกิตติ “สวัสดีค่ะคุณป้า” อัยยภัทรบกมือไหว้หญิงวัยกลางคนที่เดินเข้ามาใหม่ ชลลดาจำยกมือรับไหว้อย่างเสียไม่ได้ หากเธอสามารถขัดใจพ่อของสามีเธอได้ ลูกชายเธอคงไม่ต้องแต่งงานกับคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบนี้ “สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณพ่อสบายดีนะคะ” ชลลดาเลิกให้ความสนใจกับอัยยภัทรแล้วหันไปทักทายประมุขของบ้านแทน “มานี่ฉันประคองคุณพ่อไปนั่งเอง ส่วนเธอไปหาน้ำหาท่ามารับแขกสิ ยืนบื้อทำไม” ชลลดาเดินเข้าแทรกระหว่างกลาง อัยยภัทรจำเป็นต้องปล่อยแขนของเจ้าสัวกิตติอย่างเสียไม่ได้ “ไม่ต้องหรอกไออุ่น อยู่กับปู่นี่แหละ เด็กรับใช้ในบ้านมีเยอะแยะไป เธอก็เรียกใช้สักคนสิแม่ชลลดา” เจ้าสัวกิตติเอ่ยเสียงเรียบ “เด็กรับใช้ในบ้านต่างอะไรจากเด็กนี่ล่ะคะคุณพ่อ” ชลลดาเถียงเจ้าสัวกิตติเสียงแหว “ชลลดา!! ไออุ่นเป็นหลานฉัน ไม่ใช่เด็กในบ้าน!!” เจ้าสัวกิตติพูดเสียงแข็ง เขารู้ว่าลูกสะใภ้ของเขาไม่ชอบอัยยภัทรมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ยิ่งชนะศึกต้องมาแต่งงานกับอัยยภัทรคงยิ่งเพิ่มความเกลียดชังในตัวหญิงสาวให้กับลูกสะใภ้เขาเป็นอย่างมาก ชลลดาไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงกับเจ้าสัวกิตติทำได้เพียงแค่ข่มความโกรธไว้เท่านั้น “ดาขอโทษค่ะคุณพ่อ “ ชลลดาจำยอมข่มความเกลียดชังไว้ในใจก่อนจะเอ่ยขอโทษพ่อสามี “แล้วสงครามล่ะไม่มาด้วยหรือไง?” เมื่อเห็นแต่ลูกสะใภ้แต่ไม่เห็นลูกชายก็อดถามถึงไม่ได้ “มาค่ะ พอดีคุณสงครามเจอชนะศึกหน้าบ้าน เลยแวะคุยกัน สักพักคงตามเข้ามาค่ะ” ชลลดาอธิบาย “งั้นก็ดี วันนี้อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนได้ไหม?” “ได้สิคะ ดากับคุณสงครามตั้งใจจะมากินข้าวเย็นกับคุณพ่ออยู่แล้ว” ชลลดายิ้มอย่างประจบประแจง ชายชราทำได้เพียงพยักหน้ารับคำ “แล้วไออุ่นล่ะลูก หนูอยู่กินข้าวเย็นกับปู่ก่อนค่อยกลับได้ไหม?” น้ำเสียงอ่อนโยนที่เจ้าสัวกิตติใช้กับอัยยภัทรยิ่งเพิ่มความริษยาในใจของชลลดามากยิ่งขึ้น “ไออยากทานข้าวเย็นกับคุณปู่นะคะ แต่ไอต้องถามพี่ศึกก่อนว่าเย็นนี้พี่ศึกมีธุระที่ไหนหรือเปล่า” อัยยภัทรแบ่งรับแบ่งสู้ “งั้นเธอคงไม่ได้กินข้าวกับคุณพ่อแล้วล่ะ เพราะเย็นนี้ตาศึกต้องไปรับหนูวิกกี้ไปทานข้าว” ชลลดาตอบแทน “วิกกี้ไหน? ทำไมเจ้าศึกต้องไปรับไปกินข้าว” ชายชราถามอย่างอดสงสัยไม่ได้ “อุ๊ย!! ดาคงลืมบอกคุณพ่อไปค่ะ ว่าตอนนี้ตาศึกกำลังคบหาดูใจกับวิกกี้ วิกานดา ลูกสาวคนสวยของคุณหญิงแพรวพราวเพื่อนของดาเอง หนูวิกกี้นี่ทั้งสวย รวย ฉลาด เหม๊าะเหมาะ เหมาะสมกับตาศึกมากค่ะคุณพ่อ” ชลลดาอวดสรรพคุณของวิกานดาเป็นฉากๆ “เธอเอาสมองส่วนไหนคิดชลลดา ลูกชายเธอแต่งงานแล้วจะให้ไปคบหาดูใจกับผู้หญิงอื่นได้ยังไง!!” ชายชราถามเสียงเครียด ก่อนจะหันไปมองอัยยภัทรที่ก้มหน้ามองมือตัวเองที่ประสานกันอยู่บนตัก “แต่งแล้วก็เลิกได้ค่ะ ดาไม่ยอมรับลูกสะใภ้ที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าหรอกค่ะ” ชลลดามองอัยยภัทรด้วยสายตาเหยียดหยาม “เธอนี่มันเกินคนจริงๆนะ” ชายชราส่ายหัวอย่างหนักใจ ชลลดาเป็นคนน่ารัก แต่ไม่รู้ผีห่าซาตานตนไหนทำให้เธอเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ หรือเพราะสังคมเปลี่ยน นิสัยเลยเปลี่ยนตามไปด้วย จากผู้หญิงที่มีความเมตตา จิตใจดี กลับกลายเป็นผู้หญิงเจ้ายศเจ้าอย่างเสียได้ “คุณพ่อจะมาว่าดาแบบนี้ไม่ได้นะคะ ดาเป็นแม่ดาแค่อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของดา” ชลลดาเถียง “แล้วไออุ่นไม่ดีตรงไหน? “ “แต่แม่นี่เป็นเด็กกำพร้าลูกเต้าเหล่าใครก็ไม่รู้” “เธอคงจะลืมไปว่าตอนเธอมา เธอก็ไม่ได้ลอยมา เธอก็เป็นแค่พนักงานคนนึงในบริษัท แต่ฉันก็ให้โอกาสเธอได้แต่งงานกับลูกชายคนเดียวของฉัน เพราะฉันคิดว่าเธอเป็นคนดี และลูกชายฉันก็รักเธอ “ “แต่ตาศึกไม่ได้รักแม่นี่เหมือนที่คุณสงครามรักดานะคะคุณพ่อ!!” คำพูดของชลลดาเหมือนเข็มทิ่มแทงเข้าสู่ขั้วหัวใจของอัยภัทรนับร้อยเล่ม “เธอรู้ได้ยังไงว่าตาศึกไม่ได้ไออุ่น เธอรู้หัวใจตาศึกได้ยังไง!!” “ชนะศึกเป็นลูกดา ดาย่อมรู้ใจลูกตัวเองดีที่สุด!!” “ไม่เป็นไรค่ะคุณปู่ ถ้าวันนี้ไอกินข้าวกับคุณปู่ไม่ได้ เดี๋ยววันหลังไอขออนุญาตพี่ศึกมากินข้าวกับคุณปู่ทีหลังก็ได้ค่ะ อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ” อัยยภัทรรีบแทรกก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายเพราะเธอเป็นสาเหตุ “ไม่ต้องวันหลังหรอก วันนี้ล่ะ ถ้าเจ้าศึกไม่อยู่กินข้าวกับปู่ก็ช่างหัวมันไป แต่ไออุ่นต้องอยู่ ส่วนเธอแม่ดา พาลูกพาผัวเธอไปกินข้าวกับแม่วิกกี้อะไรนั่นเถอะ ฉันจะกินข้าวกับไออุ่นสองคน” ชายชราพูดเสียงเขียว “คุยอะไรกันครับ ท่าทางเครียดจัง” สงครามที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมชนะศึกเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นบรรยากาศในห้องตึงเครียดผิดปกติ “แกมาก็ดีแล้ว พาลูกพาเมียแกกลับบ้านไป พ่ออยากพัก” ชายชราออกปากไล่ทันที เรียกสีหน้างงงวยของสองผู้มาใหม่ได้เป็นอย่างดี “อ้าวว..” สงครามร้องเสียงหลง “ไปๆพากันกลับไปได้แล้ว ส่วนแกตาศึกวันนี้ปู่จะให้ไออุ่นนอนที่นะ แกมีธุระอะไรต้องไปจัดการก็ไปเถอะ ปู่คงต้องคิดเรื่องแกกับไออุ่นใหม่อีกครั้ง พากันกลับไปได้แล้ว” ชายชราออกปากไล่ซ้ำ “คุณปู่ครับ นี่มันเรื่องอะไรกัน” ชนะศึกที่งงอยู่แล้วยิ่งมึนงงเข้าไปอีก “ไออุ่นพาปู่ขึ้นไปพักที” ชายชราบอกหญิงสาว ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันเดินออกจากห้องไปตอนที่๘ วางเพลิง "นี่มันเรื่องอะไรครับคุณแม่" ชนะศึกถามขึ้นทันทีที่ชายชรากับอัยยภัทรก้าวพ้นประตูห้องไป "ก็ปู่แกล่ะสิ แหมมม แตะต้องแม่ไออุ่นไม่ได้เลยนะ ออกโรงปกป้องออกหน้าออกตา" ชลลดาอดไม่ได้ที่จะเบะปากใส่ด้วยความหมั่นไส้ในตัวหญิงสาว "ทำไมคุณขยันหาเรื่องให้ผมปวดหัวจังชลลดา คุณก็รู้ว่าคุณพ่อท่านเอ็นดูไออุ่นมากแค่ไหน" สงครามส่ายหัวอย่างระอาในพฤติกรรมของชลลดา เขารู้สึกว่าชลลดาเปลี่ยนไปตั้งแต่เริ่มคบค้าสมาคมกับกลุ่มของคุณหญิงแพรวพราว ชลลดาชอบหายออกจากบ้าน ใช้เงินฟุ้งเฟ้อเป็นกระดาษ หาที่มาที่ไปไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ได้เดือดร้อน เพราะชลลดายังใช้เงินในส่วนที่เป็นของตนเอง ไม่ได้มาวุ่นวายหรือขอเพิ่มแต่อย่างใด "นี่คุณสงครามอย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ" ชลลดาเสียงเขียวใส่สงคราม ทันทีที่สงครามพูดจบ "แล้วเรื่องมันเป็นยังไง ทำไมคุณปู่ดูโกรธขนาดนั้นครับ" ถ้าเรื่องแค่นี้ปู่เขาน่าจะชินแล้ว เพราะตั้งแต่เขาแต่งงานกับอัยยภัทรมา แม่ของเขาก็คอยตามเหยียดหยามอัยยภัทรตลอด ทั้งต่อหน้าและลับหลัง "แม่แค่บอกปู่แกว่า แกกำลังคบหากับหนูวิกกี้ ให้แม่ไออุ่นเตรียมใจได้เลย" "แม่บอกปู่กับไอเรื่องผมกับวิกกี้หรอครับ?"
ตอนที่๗ พบปะคนในบ้าน “มาแล้วหรอไออุ่น” เสียงทรงอำนาจของประมุขใหญ่ของบ้านเรียกความสนใจของอัยยภัทรได้เป็นอย่างดี “สวัสดีค่ะคุณปู่ ไอคิดถึงคุณปู่ที่สุดเลยค่ะ”อัยยภัทรลุกขึ้นไหว้ชายชราที่กำลังเดินเข้ามา ก่อนจะรีบเดินเข้าไปประคอง “ปู่ก็คิดถึงไออุ่น “ ชายชราลูบหัวหญิงสาวอย่างเอ็นดู อัยยภัทรเป็นตัวของตัวเองได้เวลาอยู่กับเจ้าสัวกิตติ หญิงสาวสามารถยิ้มจากหัวใจของเธอเอง “เดินระวังนะคะ” “เจ้าเด็กคนนี้นี่ ปู่ยังไม่ได้แก่ขนาดนั้นเสียหน่อย อีกอย่างนี่ก็บ้านปู่ ปู่ก็เดินของปู่อยู่ทุกวัน” เจ้าสัวกิตติเอ่ยอย่างเอ็นดู “ก็ไอเป็นห่วงคุณปู่นี่คะ” อัยยภัทรยิ้มอย่างเอาใจ ชายชราตรงหน้านอกจากให้ชีวิตใหม่กับเธอแล้ว ยังให้ความรักความเอ็นดูกับเธอ เวลาอยู่กับเจ้าสัวกิตติเธอรู้สึกเหมือนอยู่กับญาติผู้ใหญ่จริงๆ ไม่ได้รู้สึกด้อยค่าว่าเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกรับมาเลี้ยง “เป็นห่วงปู่ก็มาหาปู่บ่อยๆสิ” “ไออยากกลับมาอยู่กับคุณปู่” อัยยภัทรเผลอพูดความในใจออกไป “ทำไมล่ะ พี่ศึกเขาดูแลไออุ่นของปู่ไม่ดีหรือไง?” ชายชราเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย น้ำเสียง แววตาและสีหน้าของอัยยภัทรมันแฝงไปด้วยความเศร้าอย่างชัดเจน “ไม่
ตอนที่๖เป็นห่วง"ไออุ่นนน พี่ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปรับเมื่อเช้า พี่ตื่นสายนิดหน่อย" พรพระพายขอโทษขอโพยหญิงสาวตรงหน้า"ไม่เป็นไรค่ะพี่พระพาย " หญิงสาวหันไปยิ้มให้กับพรพระพายเพื่อเป็นการบอกว่าเธอไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรหญิงสาวเลย"แล้วไออุ่นมาที่นี่ถูกได้ไง" พระพายถามขึ้น เพราะตั้งแต่เช้าหญิงสาวมัวแต่วุ่นวายกับการประชุมสำคัญ จึงฝากอัยยภัทรไว้กับเลขาให้ช่วยดูแลไปก่อน โดยบอกว่าให้อัยยภัทรนั่งรอเธอในห้องทำงาน เอาเอกสารที่เกี่ยวข้องมาให้อัยยภัทรอ่านรอระหว่างรอเธอกลับมา พอประชุมเสร็จเธอก็รีบพุ่งตรงมาหาอัยยภัทรทันที"พี่ศึกมาส่งค่ะ" อันยภัทรตอบพรพระพาย คำตอบของอัยยภัทรทำให้พรพระพายหน้าตาเหลอหลา"พี่ศึกมาส่ง ตายๆ เดี๋ยวไออุ่นนั่งรอพี่ตรงนี้ก่อนนะ อ่านเอกสารรอไปก่อน ตรงไหนไม่เข้าใจเดี๋ยวพี่กลับมาอธิบาย พี่จะเป็นคนสอนงานไออุ่นเอง แต่เดี๋ยวพี่มานะพี่ขอไปคุยโทรศัพท์แป๊ปนึง" พรพระพายบอกกับอัยยภัทรก่อนจะก้าวออกจากห้องทิ้งให้อัยภัทรนั่งอ่านเอกสารเงียบๆต่อไป"เป็นสิบๆสายเลย แกตายแน่ยัยพระพาย" พรพระพายรู้สึกเสียวสันหลังทันทีที่เปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วเห็นเบอร์ชนะศึกโทรเข้าเป็นสิบๆสายที่ไม่ได้รับ(ว่ายังไง) แค่เ
ตอนที่ ๕ทำงานวันแรก“วันนี้ไปทำงานวันแรกสินะ” ชนะศึกถามขึ้นทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะอาหาร อัยยภัทรเตรียมอาหารเช้าให้เขาทุกวัน ถึงแม้เขาจะกินเพียงกาแฟแก้วเดียวแล้วออกไปทำงาน“ค่ะ” อัยยภัทรเงยหน้ามาสบตาชายหนุ่ม“อืม ตั้งใจทำงานล่ะ “ ชนะศึกยังคงจิบกาแฟอ่านหนังสือบนโต๊ะที่ถูกเตรียมไว้โดยอัยยภัทร บางทีชายหนุ่มก็สงสัยว่าอัยยภัทรรู้ได้อย่างไรว่าเขาชอบทำอะไร ชอบอ่านหนังสือแบบไหน อ่านถึงตรงไหนแล้ว“พี่ศึกคะ..” อัยยภัทรเรียกชนะศึก ชายหนุ่มที่กำลังจ้องหน้งสืออยู่ละสายตาจากหนังสือหันมาสบตาหญิงสาวตรงหน้า“ไอขอบคุณมากนะคะ ที่พี่ศึกยอมให้ไอไปทำงาน” อัยยภัทรอยากขอบคุณเขาสักครั้ง หากเขาไม่ยอมเสียอย่างสิบพรพระพายก็ไม่อาจจะสู้ได้“พี่แค่ยอมตามใจยัยพระพายเฉยๆ” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ จริงๆเขาไม่ได้ยอมพรพระพายแต่เขาเสียรู้ยัยตัวแสบนั่นต่างหาก“นั่นล่ะค่ะ ไอแค่อยากขอบคุณพี่ศึก” อัยยภัทรพูดก่อนจะก้มกินข้าวเช้าตรงหน้าต่อเงียบๆ“แล้วไปทำงานยังไงล่ะ ยัยพระพายมารับหรือยังไง?”“เดี๋ยวไอนั่งรถไฟฟ้าไปเองค่ะ”“ทำไมถึงไปเอง ทำไมพระพายถึงไม่มารับ” น้ำเสียงของชนะศึกแฝงไปด้วยความหงุดหงิด“พี่พระพายอยู่คนละฟากกับเรา ไอเลยบอก
ตอนที่ ๔การเจรจาสำเร็จ“พี่ไม่อนุญาต!!!” เสียงชนะศึกดังจากห้องรับแขก สองพี่น้องกำลังเถียงกันเรื่องให้อัยยภัทรไปทำงาน“ทำไมคะ?” พรพระพายถามอย่างเหลืออดกับพี่ชายตนเอง“จะไปทำทำไมให้เหนื่อย พี่มีเงินเยอะแยะไอจะใช้ยังไงก็ได้”“ไออุ่นอาจจะไม่อยากได้เงินพี่ แต่อาจจะอยากได้อิสระในการใช้ชีวิตบ้าง พี่ขังไออุ่นไว้แต่ในห้องสี่เหลี่ยมพี่ไม่สงสารน้องบ้างหรอไง?” พรพระพายจะต่อสู้เพื่ออัยยภัทรให้ถึงที่สุด“สงสาร สงสารทำไม ในห้องนี้มีทุกอย่างที่ควรจะมี เผลอๆอาจจะมีเกินจำเป็นด้วยซ้ำ หรือถ้าไออยากได้อะไรพี่ก็จะซื้อมาให้แต่พี่ไม่ให้ไอไปทำงานเด็ดขาด” น้ำเสียงเด็ดขาดของชนะศึกไม่ได้ทำให้พรพระพายกลัวแม้แต่น้อย ถ้าเป็นเรื่องอื่นหญิงสาวคงถอยให้พี่ชายได้ไม่ยาก แต่พอเป็นเรื่องของอัยยภัทร พรพระพายพร้อมสู้หัวชนฝามาแต่ไหนแต่ไร“พี่หวงไออุ่น หรือพี่มีอะไรที่ต้องปิดหูปิดตาไออุ่นหรือไง ถึงไม่ให้น้องออกไปใช้ชีวิตเลย จะไปข้างนอกก็ต้องให้พระพายเป็นคนพาไป พี่ศึกไออุ่นโตแล้วนะ เรียนจบแล้ว ควรมีเพื่อนมีสังคมของตัวเอง พี่ศึกจะมาผูกไออุ่นไว้กับพี่ไม่ได้ น้องเป็นคนไม่ใช่นกน้อยในกรงทอง!!” คำถามและคำพูดของพรพระพายทิ่มกลางอกของช
ตอนที่ ๓ผู้ชายแปลกหน้า“ขอโทษครับ “ ชายหนุ่มหน้าตาดีเอ่ยขึ้นด้านหลังของอัยยภัทร“อ้อ!! ขอโทษค่ะ” อัยยภัทรรีบกล่าวคำขอโทษ และหลีกทางให้ชายหนุ่มเพราะคิดว่าชายหนุ่มต้องการเลือกหนังสือตรงหน้าเธอ“ผมไม่ได้จะเลือกหนังสือครับ ผมแค่อยากรู้จักคุณเฉยๆ ผมกรภัทร เรียกกรเฉยๆก็ได้ แล้วคุณล่ะ” ชายหนุ่มหน้าตาดีเอ่ยแนะนำตัวก่อนจะสอบถามชื่อของอัยยภัทร“อัยยภัทรค่ะ เรียกไอว่าไอเฉยๆก็ได้” อัยยภัทรตอบกลับอย่างงงๆ แต่เมื่อชายหนุ่มตรงหน้าแนะนำตัวแล้ว เธอจะเมินเฉยก็ดูเสียมารยาทเกินไป“คุณไอมาซื้อหนังสือคนเดียวหรอครับ ผมแนะนำได้นะครับ ผมเห็นคุณไอเลือกหนังสือนานแล้วยังไม่ได้หนังสือเสียที” ชายหนุ่มอาสาอย่างแข็งขัน“ไอมากับพี่สาวค่ะพอดีพี่พระพายไปซื้อกาแฟ อีกเดี๋ยวคงจะกลับมา ส่วนหนังสือนี่ไอก็เลือกซื้อไปหลายเล่มแล้ว ส่วนที่กำลังดูอยู่ก็ดูรอพี่พระพายเฉยๆค่ะ” อัยยภัทรตอบตามความจริง กรภัทรหน้าเจือนเล็กน้อย“คุณไอดูชอบอ่านหนังสือนะครับ”“ค่ะ ไอชอบอ่านหนังสือ แล้วคุณกรล่ะคะ”“ผมก็ชอบครับ คุณไอชอบหนังสือแนวไหนล่ะครับ เผื่อชอบแนวเดียวกันเราจะได้มาแชร์กันได้”“ไออ่านได้หลายแนวค่ะ แต่ถ้าชอบเป็นพิเศษคงเป็นพวกป