"จำใส่สมองน้อยๆของเธอไว้ ที่ฉันแต่งงานด้วยเพราะคุณปู่ขอร้อง ฉันไม่เคยรักเธอเลยสักนิด!!" ชนะศึกพูดกรอกหูอัยยภัทรทุกครั้งที่มีโอกาส "ไออุ่นทราบค่ะ" หญิงสาวตอบรับเสียงเรียบ
View Moreตอนที่ ๑
อัยยภัทร "วันนี้พี่มีไปทานข้าวกับคุณแม่ที่บ้าน เดี๋ยวเย็นพี่มารับนะ เตรียมตัวรอด้วย " ชายหนุ่มในชุดสูทที่ถูกตัดอย่างประณีตสีเทาเข้ม กำลังหย่อนก้นนั่งตรงข้ามกับหญิงสาวเอ่ยปากพูดโดยที่ยังไม่ทันทักทายเธอเลยด้วยซ้ำ ยังไงซะเธอจะถือซะว่าเป็นประโยคทักทายเธอยามเช้าล่ะกัน ชนะศึก อัคราวัฒนกุล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณชลลดา และ คุณสงคราม อัคราวัฒนกุล ลูกชายและลูกสะใภ้ของเจ้าสัวกิตติ อัคราวัฒนกุล เจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์และบริษัทนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์ฯที่ใหญ่ที่สุดและรวยติดหนึ่งในสามของประเทศ "ค่ะ" หญิงสาวตอบรับเพียงแค่นั้นก่อนจะก้มหน้ามองชามข้าวต้มกุ้งที่วางอยู่ตรงหน้า เหมือนว่ามันมีอะไรพิเศษอยู่ในนั้น "ไออุ่น ถ้วยข้าวต้มมันมีอะไรน่ามองมากนักหรือไง พี่คุยด้วยทำไมไม่เงยหน้ามาคุยกับพี่ดีๆ"น้ำเสียงขุ่นมัวที่บ่งบอกว่าเขาไม่พอใจในการกระทำที่เธอกำลังทำอยู่ตอนนี้ "ค่ะ ไอรับทราบคำสั่งพี่ศึกแล้วค่ะ เย็นนี้เรามีนัดไปทานข้าวกับคุณแม่ของพี่ เดี๋ยวไอจะเตรียมตัวรอนะคะ "อัยยภัทรตอบก่อนจะก้มหน้าตั้งใจจัดการข้าวต้มกุ้งตรงหน้า เธอกับชนะศึกแต่งงานกันมาปีกว่าๆแล้ว แต่ทุกเช้าบรรยากาศจะเป็นแบบนี้เสมอ อย่างว่าแหละคนไม่ได้รักกันแล้วต้องมาแต่งงานกัน เธอมันก็แค่เด็กในบ้านที่เจ้าสัวกิตติเอ็นดูแล้วรับมาอุปการะก็เท่านั้น ไม่ได้ร่ำรวยหรือเทียบเท่ากับบุคคลที่มารดาของชนะศึกหมายมั่นปั้นมือ แต่ด้วยความที่ชนะศึกเป็นหลานชายคนเดียวของเจ้าสัวกิตติ เขาจึงต้องยอมทำตามคำสั่งของปู่ ซึ่งมันขัดใจคุณชลลดา แต่แล้วยังไงล่ะ สุดท้ายแล้วคำสั่งของเจ้าสัวย่อมมีความประกาศิตมากกว่าอยู่แล้ว ถึงอัยยภัทรจะมีสถานะเป็นลูกสะใภ้ของคุณชลลดา แต่คุณชลลดาก็ยังคงเหยียดหยามและตอกย้ำทุกครั้งว่าเธอแค่เด็กในบ้าน ที่เจ้าสัวเอ็นดูเลยได้ตกถังข้าวสารเท่านั้น "พี่ชอบที่ไอเป็นเด็กดีนะ แต่ช่วยมีความเป็นคนมากกว่านี้หน่อยได้ไหม อย่าทำตัวน่าเบื่อเป็นหุ่นยนต์แบบนี้ มันน่านำคาญ" ชนะศึกพูดเสียงเครียด อัยยภัทรที่เขาเคยรู้จักร่าเริงมากกว่านี้ แต่ไม่รู้อะไรทำให้อัยยภัทรของเขาเปลี่ยนไปหลังจากที่เขาไปเรียนต่างประเทศ "ไอขอโทษที่ทำให้พี่ศึกรำคาญค่ะ" น้ำเสียงของหญิงสาวยังคงเรียบเฉยไม่มีความรู้สึกเช่นทุกครั้ง "ช่างเถอะไอ วันนี้พระพายบอกว่าจะมารับไอไปช่วยเลือกของนะ" ชนะศึกนึกขึ้นได้อีกเรื่อง น้องสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขาโทรมาขออนุญาตพาภรรยาของเขาไปซื้อของ ซึ่งเขาก็อนุญาตเพราะเขารู้ว่าพรพระพายรักและเอ็นดูอัยยภัทรมากแค่ไหน "พี่พระพายโทรมาบอกไอแล้วค่ะ ไอกำลังจะขออนุญาตพี่ศึกพอดี"เธอเหมือนจะนึกขึ้นได้ใาตัวเธอเองก็มีเรื่องที่ต้องแจ้งเขาเหมือนกัน "กำลังจะขออนุญาตงั้นหรอ เรานั่งร่วมโต๊ะกันมาเกินสิบห้านาทีแล้วนะอัยยภัทร เธอพูดกับพี่แทบจะนับคำได้ กลัวดอกพิกุลจะร่วงหรือยังไงกัน" "ไอขอโทษค่ะ " อัยยภัทรขอโทษชนะศึกทั้งๆที่ยังก้มหน้ามองชามข้าวต้มตรงหน้า "ช่างเถอะอัยยภัทร พี่ไม่รู้จะทำยังไงกับเธอแล้วเหมือนกัน อ่ะนี่ บัตรสำรองวงเงินไม่จำกัด" ชายหนุ่มยื่นบัตรเครดิตสีดำให้กับหญิงสาวตรงหน้า นั่นแหละเขาถึงได้เห็นหน้าหญิงสาวเต็มวงหน้าเสียที หลังจากที่เจ้าหล่อนเอาแต่ก้มหน้ามองชามข้าวต้ม "ไม่เป็นไรค่ะพี่ศึก ไอคงไม่ได้ใช้อะไร" อัยยภัทรตอบอย่างเกรงใจ "เอาไปเถอะ ไอจะใช้หรือไม่ใช้พี่ไม่ได้ว่า แต่มีไว้ก็ยังดีกว่าไปทำขายหน้าว่าเป็นเมียของพี่แต่ไม่มีปัญญาซื้อของอะไรเลย" อัยยภัทรไม่ได้ตอบอะไรชายหนุ่มตรงหน้า เพียงแต่ยื่นมือไปรับบัตรเครดิตไว้เพียงเท่านั้น "จะไม่ขอบคุณพี่สักหน่อยหรือไง" ชายหนุ่มมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้ ใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก พูดน้อย ถามคำตอบคำ ทำตัวเป็นอากาศ ไม่พยายามเข้าหาเขา ไม่สร้างความน่ารำคาญ ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีเยี่ยม เหมือนหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ยังไงยังงั้นแหละ "ขอบคุณค่ะ" อัยยภัทรยกมือประนมไหว้ขอบคุณชนะศึกอย่างนอบน้อม ก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต้มในชามตนเองต่ออย่างเงียบๆ "เฮ้อ พี่ไปทำงานก่อนนะ แล้วไปซื้อของกับพระพายก็ดูแลกันดีๆ เย็นนี้พี่มารับไปกินข้าวกับแม่นะ" ชนะศึกวางแก้วกาแฟอย่างเหนื่อยหน่ายใจกับหญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะคว้าเสื้อสูทสีสวย อัยยภัทรรีบลุกอ้อมมาถือกระเป๋าเอกสารของชายหนุ่มแนบอก "ไม่ต้องก็ได้ ไอไปกินข้าวต่อเถอะ" ชายหนุ่มหันมาพูดกับหญิงสาว ถ้ามีรอยยิ้มบนใบหน้าสักนิดเขาคงจะชื่นใจมากกว่านี้ "ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นหน้าที่ของไออยู่แล้ว" หญิงสาวตอบหน้าซื่อ เหมือนมันเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุดแล้ว "ไอลองพูดว่า ไม่เป็นไรค่ะ ไออยากถือของไปส่งพี่ไปทำงาน" ชนะศึกอดไม่ไหวที่จะสอน "ค่ะ ไออยากช่วยถือของไปส่งพี่ศึกไปทำงานค่ะ" อัยยภัทรทำตามที่ชนะศึกบอกอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ "อยากพูดอะไรก็ตามใจไอแล้วกัน" พูดจบชายหนุ่มก็เดินไปที่หน้าประตูห้อง โดยที่มีหญิงสาวเดินถือกระเป๋าเอกสารตามไปติดๆ เขากับอัยยภัทรแต่งงานกันมาปีกว่า ทำไมความรักมันถึงจืดชืดเร็วขนาดนี้นะหรอ ไม่ได้จืดชืดเร็วหรอก มันไม่เคยหวานฉ่ำมาแต่ไหนแต่ไรแล้วต่างหาก อัยยภัทรทำตัวเป็นหุ่นยนต์แม้แต่วันที่หญิงสาวเข้าห้องหอกับเขา หญิงสาวเอาแต่นอนแข็งทื่อจนเขาหมดอารมณ์ และก็แยกห้องนอนกันมาจนถึงทุกวันนี้ "พี่ไม่รู้นะว่าไอไปเจอกับอะไรมา แต่พี่อยากได้ไอคนเดิมกลับมานะ" ชนะศึกพูดก่อนจะเดินออกจากห้องไปทิ้งให้หญิงสาวมองตามหลังชายหนุ่ม "มันไม่มีไอคนเดิมแล้วค่ะพี่ศึก ไอคนนั้นได้ตายไปนานแล้ว" อัยยภัทรพูดเสียงเพ้อตอนที่ ๑๐เหลนปู่ก๊อกๆๆ“ขออนุญาตค่ะคุณปู่ ไอเอาชามาให้” อัยยภัทรส่งเสียงเชิงขออนุญาตเข้ามา หญิงสาวไม่ได้พรวดพราดเปิดประตูเข้ามาแต่อย่างใด อัยยภัทรทำตัวเหมือนเด็กรับใช้คนนึงในบ้านเท่านั้น กินข้าวในครัว ช่วยเหลืองานบ้าน แม้ไม่ถึงขนาดหยิบจับเต็มตัว แต่หญิงสาวก็ไม่เคยเกียจคร้านเลย“เข้ามาเลยไออุ่น ปู่กำลังรออยู่พอดี” ชายชราอนุญาตด้วยน้ำเสียงเอ็นดู ก่อนจะลุกจากเตียงเดินไปนั่งที่ระเบียงห้องแทน ชนะศึกจึงเดินมาช่วยหญิงสาวถือของที่ยกมา“ทำไมถึงยกมาเอง เด็กในบ้านเยอะแยะ” ท่าทีของชนะศึกอ่อนโยนกว่าทุกครั้ง และอัยยภัทรสัมผัสมันได้ เขาคงแค่กลัวคุณปู่เอ็ดละมั้งที่ปล่อยให้เธอทำอะไรเองหลายๆ อย่าง อย่างที่คุณปู่ชอบเอ็ดเธอเรื่องไม่ยอมเรียกใช้เด็กในบ้านแต่กลับทำเอง“ไอยกมาได้ค่ะ ของแค่นี้เอง ทุกคนก็งานล้นมือกันหมดแล้ว” อัยยภัทรแก้ต่างให้กับตัวเองแล้วก็เด็กรับใช้ในบ้าน“สงสัยปู่ต้องจ้างแม่บ้านเพิ่มแล้วล่ะครับ หลานสะใภ้สุดที่รักของปู่ไม่ยอมเรียกใช้ใครเลย” ชนะศึกเดินเอาชุดชงชาและกาแฟของตนไปวางที่โต๊ะฉลุลายสวยริมระเบียง“ถ้าไออุ่นกลับมาอยู่กับปู่นะ ปู่ยอมจ้างเพิ่มสิบคนเลย” เจ้าสัวกิตติแหย่หลานชายอย่างอารมณ
ตอนที่๙ทวงคำสัญญา“เรื่องราวมันเป็นยังไงระหว่างแกกับแม่วิกกี้ลูกสาวเพื่อนแม่แกน่ะ” เจ้าสัวกิตติไม่ชอบใจนักกับข่าวที่เพิ่งรับรู้ แต่จะให้ไปว่าที่ตัวลูกสะใภ้เขาก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร“ก็ไม่มีอะไรหรอกครับปู่แม่แค่ผมทำความรู้จักกับน้องเขาแค่นั้นเอง” ชนะศึกอธิบาย สำหรับเขาแล้ววิกานดาก็เป็นแค่ลูกสาวของเพื่อนแม่ ที่แม่เขาอยากให้ทำความรู้จักแค่นั้นเอง แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าแม่เขาพยายามจับคู่ให้ มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เขาจะแต่งงานกับอัยยภัทรแล้ว“แค่ทำความรู้จักหรอ ปู่ว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น” ชายชราดูออกถึงความลำบากใจของหลานชาย“ก็อย่างที่ปู่รู้นั่นแหละครับว่าแม่พยายามจับคู่ให้ผมกับวิกกี้ แต่ผมจะทำยังไงได้ อะไรที่ผมเลี่ยงได้ก็เลี่ยง แต่ถ้าลี่ยงไม่ได้ก็ต้องยอมตามน้ำบ้าง” ชนะศึกสารภาพตามตรง เขาเลี่ยงเท่าที่จะเลี่ยงได้ เขาไม่อยากมีปัญหากับแม่ แต่เขาก็ไม่คิดว่าแม่ของเขาจะมาบอกเรื่องนี้ให้ปู่กับอัยยภัทรรู้“แล้วแกล่ะรู้สึกยังไง”“ผมจะไปรู้สึกอะไรได้ล่ะครับปู่ผมมีไออุ่นอยู่ปู่ก็รู้” ต่อให้เขาไม่มีอัยยภัทร เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับวิกานดาอยู่ดี“ปู่รู้ว่าแกมีไออุ่น ปู่รู้ว่าแกรักน้อง แล้วไออุ่นรู้ไ
ตอนที่๘ วางเพลิง "นี่มันเรื่องอะไรครับคุณแม่" ชนะศึกถามขึ้นทันทีที่ชายชรากับอัยยภัทรก้าวพ้นประตูห้องไป "ก็ปู่แกล่ะสิ แหมมม แตะต้องแม่ไออุ่นไม่ได้เลยนะ ออกโรงปกป้องออกหน้าออกตา" ชลลดาอดไม่ได้ที่จะเบะปากใส่ด้วยความหมั่นไส้ในตัวหญิงสาว "ทำไมคุณขยันหาเรื่องให้ผมปวดหัวจังชลลดา คุณก็รู้ว่าคุณพ่อท่านเอ็นดูไออุ่นมากแค่ไหน" สงครามส่ายหัวอย่างระอาในพฤติกรรมของชลลดา เขารู้สึกว่าชลลดาเปลี่ยนไปตั้งแต่เริ่มคบค้าสมาคมกับกลุ่มของคุณหญิงแพรวพราว ชลลดาชอบหายออกจากบ้าน ใช้เงินฟุ้งเฟ้อเป็นกระดาษ หาที่มาที่ไปไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ได้เดือดร้อน เพราะชลลดายังใช้เงินในส่วนที่เป็นของตนเอง ไม่ได้มาวุ่นวายหรือขอเพิ่มแต่อย่างใด "นี่คุณสงครามอย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ" ชลลดาเสียงเขียวใส่สงคราม ทันทีที่สงครามพูดจบ "แล้วเรื่องมันเป็นยังไง ทำไมคุณปู่ดูโกรธขนาดนั้นครับ" ถ้าเรื่องแค่นี้ปู่เขาน่าจะชินแล้ว เพราะตั้งแต่เขาแต่งงานกับอัยยภัทรมา แม่ของเขาก็คอยตามเหยียดหยามอัยยภัทรตลอด ทั้งต่อหน้าและลับหลัง "แม่แค่บอกปู่แกว่า แกกำลังคบหากับหนูวิกกี้ ให้แม่ไออุ่นเตรียมใจได้เลย" "แม่บอกปู่กับไอเรื่องผมกับวิกกี้หรอครับ?"
ตอนที่๗ พบปะคนในบ้าน “มาแล้วหรอไออุ่น” เสียงทรงอำนาจของประมุขใหญ่ของบ้านเรียกความสนใจของอัยยภัทรได้เป็นอย่างดี “สวัสดีค่ะคุณปู่ ไอคิดถึงคุณปู่ที่สุดเลยค่ะ”อัยยภัทรลุกขึ้นไหว้ชายชราที่กำลังเดินเข้ามา ก่อนจะรีบเดินเข้าไปประคอง “ปู่ก็คิดถึงไออุ่น “ ชายชราลูบหัวหญิงสาวอย่างเอ็นดู อัยยภัทรเป็นตัวของตัวเองได้เวลาอยู่กับเจ้าสัวกิตติ หญิงสาวสามารถยิ้มจากหัวใจของเธอเอง “เดินระวังนะคะ” “เจ้าเด็กคนนี้นี่ ปู่ยังไม่ได้แก่ขนาดนั้นเสียหน่อย อีกอย่างนี่ก็บ้านปู่ ปู่ก็เดินของปู่อยู่ทุกวัน” เจ้าสัวกิตติเอ่ยอย่างเอ็นดู “ก็ไอเป็นห่วงคุณปู่นี่คะ” อัยยภัทรยิ้มอย่างเอาใจ ชายชราตรงหน้านอกจากให้ชีวิตใหม่กับเธอแล้ว ยังให้ความรักความเอ็นดูกับเธอ เวลาอยู่กับเจ้าสัวกิตติเธอรู้สึกเหมือนอยู่กับญาติผู้ใหญ่จริงๆ ไม่ได้รู้สึกด้อยค่าว่าเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกรับมาเลี้ยง “เป็นห่วงปู่ก็มาหาปู่บ่อยๆสิ” “ไออยากกลับมาอยู่กับคุณปู่” อัยยภัทรเผลอพูดความในใจออกไป “ทำไมล่ะ พี่ศึกเขาดูแลไออุ่นของปู่ไม่ดีหรือไง?” ชายชราเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย น้ำเสียง แววตาและสีหน้าของอัยยภัทรมันแฝงไปด้วยความเศร้าอย่างชัดเจน “ไม่
ตอนที่๖เป็นห่วง"ไออุ่นนน พี่ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปรับเมื่อเช้า พี่ตื่นสายนิดหน่อย" พรพระพายขอโทษขอโพยหญิงสาวตรงหน้า"ไม่เป็นไรค่ะพี่พระพาย " หญิงสาวหันไปยิ้มให้กับพรพระพายเพื่อเป็นการบอกว่าเธอไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรหญิงสาวเลย"แล้วไออุ่นมาที่นี่ถูกได้ไง" พระพายถามขึ้น เพราะตั้งแต่เช้าหญิงสาวมัวแต่วุ่นวายกับการประชุมสำคัญ จึงฝากอัยยภัทรไว้กับเลขาให้ช่วยดูแลไปก่อน โดยบอกว่าให้อัยยภัทรนั่งรอเธอในห้องทำงาน เอาเอกสารที่เกี่ยวข้องมาให้อัยยภัทรอ่านรอระหว่างรอเธอกลับมา พอประชุมเสร็จเธอก็รีบพุ่งตรงมาหาอัยยภัทรทันที"พี่ศึกมาส่งค่ะ" อันยภัทรตอบพรพระพาย คำตอบของอัยยภัทรทำให้พรพระพายหน้าตาเหลอหลา"พี่ศึกมาส่ง ตายๆ เดี๋ยวไออุ่นนั่งรอพี่ตรงนี้ก่อนนะ อ่านเอกสารรอไปก่อน ตรงไหนไม่เข้าใจเดี๋ยวพี่กลับมาอธิบาย พี่จะเป็นคนสอนงานไออุ่นเอง แต่เดี๋ยวพี่มานะพี่ขอไปคุยโทรศัพท์แป๊ปนึง" พรพระพายบอกกับอัยยภัทรก่อนจะก้าวออกจากห้องทิ้งให้อัยภัทรนั่งอ่านเอกสารเงียบๆต่อไป"เป็นสิบๆสายเลย แกตายแน่ยัยพระพาย" พรพระพายรู้สึกเสียวสันหลังทันทีที่เปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วเห็นเบอร์ชนะศึกโทรเข้าเป็นสิบๆสายที่ไม่ได้รับ(ว่ายังไง) แค่เ
ตอนที่ ๕ทำงานวันแรก“วันนี้ไปทำงานวันแรกสินะ” ชนะศึกถามขึ้นทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะอาหาร อัยยภัทรเตรียมอาหารเช้าให้เขาทุกวัน ถึงแม้เขาจะกินเพียงกาแฟแก้วเดียวแล้วออกไปทำงาน“ค่ะ” อัยยภัทรเงยหน้ามาสบตาชายหนุ่ม“อืม ตั้งใจทำงานล่ะ “ ชนะศึกยังคงจิบกาแฟอ่านหนังสือบนโต๊ะที่ถูกเตรียมไว้โดยอัยยภัทร บางทีชายหนุ่มก็สงสัยว่าอัยยภัทรรู้ได้อย่างไรว่าเขาชอบทำอะไร ชอบอ่านหนังสือแบบไหน อ่านถึงตรงไหนแล้ว“พี่ศึกคะ..” อัยยภัทรเรียกชนะศึก ชายหนุ่มที่กำลังจ้องหน้งสืออยู่ละสายตาจากหนังสือหันมาสบตาหญิงสาวตรงหน้า“ไอขอบคุณมากนะคะ ที่พี่ศึกยอมให้ไอไปทำงาน” อัยยภัทรอยากขอบคุณเขาสักครั้ง หากเขาไม่ยอมเสียอย่างสิบพรพระพายก็ไม่อาจจะสู้ได้“พี่แค่ยอมตามใจยัยพระพายเฉยๆ” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ จริงๆเขาไม่ได้ยอมพรพระพายแต่เขาเสียรู้ยัยตัวแสบนั่นต่างหาก“นั่นล่ะค่ะ ไอแค่อยากขอบคุณพี่ศึก” อัยยภัทรพูดก่อนจะก้มกินข้าวเช้าตรงหน้าต่อเงียบๆ“แล้วไปทำงานยังไงล่ะ ยัยพระพายมารับหรือยังไง?”“เดี๋ยวไอนั่งรถไฟฟ้าไปเองค่ะ”“ทำไมถึงไปเอง ทำไมพระพายถึงไม่มารับ” น้ำเสียงของชนะศึกแฝงไปด้วยความหงุดหงิด“พี่พระพายอยู่คนละฟากกับเรา ไอเลยบอก
Comments