แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: สาวฉกรรจ์จอมต๊อง
“เทียนหยู่ ตั้งแต่ปู่ได้รับสายจากแพทย์เซียนเฒ่า ปู่ก็รอหลานมาตลอดเลย ในที่สุดวันนี้หลานก็มาสักที แล้วนั่นจะยังยืนอยู่หน้าประตูทำไมเล่า?”

หลังจากที่ท่านปู่ได้รับแจ้งการมาถึงและรออยู่สักพักแล้วพบว่าเขาไม่เข้าไป ท่านปู่จึงมาถึงหน้าประตูด้วยตัวเอง

เย่เทียนหยู่หันมองก่อนจะเรียกเขาพร้อมรอยยิ้ม “ท่านปู่หลิน!”

“พวกหลานรู้จักกันรึ?” ท่านปู่มองดูหลานสาวที่อยู่ด้านข้างแล้วถามขึ้นด้วยความสงสัย

สีหน้าของหลินหว่านหรูกร่อยไปเล็กน้อยในพริบตา

“เจอกันตอนกลางวันน่ะครับ” เย่เทียนหยู่รีบช่วยอธิบาย

“อย่างนั้นก็บังเอิญจริง ๆ บางที นี่อาจเป็นพรหมลิขิตของสวรรค์ก็ได้ พอดีวันนี้เป็นฤกษ์ดีสำหรับการแต่งงาน รอเราทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว พวกหลานก็ไปจดทะเบียนกันเถอะ” ท่านปู่หลินพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง แพทย์เซียนเฒ่ามีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นลูกศิษย์ของเขาก็น่าจะเก่งมากเช่นกัน

เย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สุดท้ายเขาจะตระหนักได้ว่าสาวสวยคนนี้คือคู่หมั้นของเขา หลินหว่านหรู เขาอดไม่ได้ที่จะมองดูรูปร่างของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง โดยเฉพาะ ‘ส่วนสำคัญ’

หลินหว่านหรูเองก็สังเกตเห็นสายตาลามกของเย่เทียนหยู่ ทำให้เธออดคิดถึงเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ และเธอก็ยิ่งละอายและขุ่นเคือง

อิตาคนสารเลวนี่ เมื่อคืนทำตัวฉวยโอกาสก็น่ารังเกียจมากพออยู่แล้ว ดันมาเป็นคู่หมั้นที่ทำให้ตัวเธอเองบุบสลายอีก

ความแค้นทั้งเก่าและใหม่มารวมกันพอดี

ท่านปู่มีความสุขมาก แต่ชายหญิงวัยกลางคนข้างกายกลับมีสีหน้าเย็นชา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่พอใจอย่างมาก

พวกเขาเป็นพ่อแม่ของหลินหว่านหรู ลูกสาวของพวกเขาไม่เพียงแต่หน้าตางดงามน่าทึ่ง แต่เธอยังเป็นประธานบริษัทอีกด้วย แล้วเธอตกไปอยู่ในมือของคนบ้านนอกแบบนี้ได้ยังไง?

ผู้เป็นแม่อย่าง หลิวอวิ๋นซิ่ว อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาตรง ๆ ว่า “พ่อคะ พ่อคงไม่ได้ตั้งใจจะให้หว่านหรูแต่งงานกับเด็กคนนี้จริง ๆ หรอกนะคะ?”

“ดูการแต่งตัวของเขาสิ เชยไร้รสนิยม เหมือนพวกบ้านนอกคอกนาไม่มีผิด”

“ถ้าลูกสาวของฉันแต่งงานกับเขา ฉันจะยังมีหน้ากล้าออกไปเจอใครอีกคะ?”

“ก็นั่นน่ะสิ นี่มีแต่จะทำให้คนอื่นเอาตระกูลหลินของเราไปพูดเป็นเรื่องตลกเท่านั้น” ผู้เป็นพ่ออย่าง หลินหง เองก็พูดด้วยความไม่พอใจเช่นกัน

“พูดเรื่องเหลวไหลอะไร เทียนหยู่ไม่ใช่พวกบ้านนอก แค่เพียงที่ผ่านมาเขาอาศัยอยู่บนเขาจึงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องทางโลก และเพราะแบบนี้พวกเธอถึงต้องดูแลเขาเป็นพิเศษ”

“สรุปก็คือ เรื่องการแต่งงานของทั้งคู่ ตกลงตามนี้”

ท่านปู่ยืนหยัดเป็นอย่างมาก และเอ่ยประโยคตัดสินเด็ดขาด

สองสามีภรรยาไม่กล้าปริปาก

ถึงแม้ว่าตอนนี้ท่านปู่จะยกการบริหารบริษัทให้หลินหว่านหรูเป็นคนจัดการแล้ว แต่ก็ไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจของเขา

หลินหว่านหรูเองก็เข้าใจจุดนี้ดี ดังนั้นเธอจึงได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว

สิ่งเดียวที่เธอไม่คาดคิดก็คือ คู่หมั้นของเธอเป็นจอมวายร้ายฉวยโอกาสเมื่อคืน ตอนนี้ไม่ใช่แค่วายร้ายแต่ยังเป็นวายร้ายบ้านนอกจากบนเขาอีกต่างหาก!

แต่นั่นก็ไม่เป็นไร เธอจะให้เจ้าวายร้ายคนนี้รู้ว่าอะไรคือความแตกต่าง และปล่อยให้เขาล่าถอยไปเอง

ส่วนเรื่องจะมาแตะต้องตัวเธอน่ะเหรอ?

เป็นไปไม่ได้!

ตกบ่ายกว่า ๆ หลินหว่านหรูขับรถพาเย่เทียนหยู่ไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนตามคำขอของคุณปู่

ไม่นานทั้งคู่ก็กลับออกมา เมื่อมองดูรูปของหลินหว่านหรูในทะเบียนสมรสที่สีหน้าเย็นชา เย่เทียนหยู่ก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ดูรูปที่คุณถ่ายสิ คุณมีความสุขหน่อยไม่ได้เหรอ?”

“มีความสุข?”

“แต่งงานกับคนไม่รู้ตาสีตาสาแบบนาย คนไร้ความสามารถที่มีแต่คุยโวโอ้อวด นายคิดว่าฉันจะดีใจได้เหรอ?”

“คุณคิดผิดแล้ว ที่จริงผมเก่งมากเลยล่ะ”

“อย่างนายเนี่ยนะ?”

“จริงครับ โดยเฉพาะทักษะทางการแพทย์ คนอื่นเรียกผมว่าแพทย์เซียนน่ะ!”

“ถุย!”

“อย่างนายเนี่ยนะแพทย์เซียน!”

“ถ้าอย่างนายเป็นแพทย์เซียน งั้นฉันคงเป็นเจ้าแม่กวนอิมไปแล้วหรอกย่ะ!”

หลินหว่านหรูตะคอกอย่างเย็นชาและพูดว่า: “ฉันแนะนำให้นายเลิกเปลืองน้ำลายไปเถอะ ฉันไม่ใช่เด็กสามขวบนะ และฉันจะไม่ถูกหลอกด้วยคำพูดน่าฟังของนายด้วย”

“ก็ได้ครับ” เย่เทียนหยู่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้

“นายเข้าใจก็ดี สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นเป็นอุบัติเหตุ เราสองคนน่ะมันคนละโลกกัน ฉันกับนายน่ะมันเป็นไปไม่ได้ แล้วก็ไม่มีวันเป็นไปได้ด้วย!”

“ก็ไม่แน่หรอกครับ บางทีหลังจากได้อยู่ด้วยกันแล้ว คุณอาจจะพบว่าฉันดีแค่ไหน แล้วก็ตกหลุมรักผมโดยไม่รู้ตัวก็ได้”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1345

    เย่เทียนหยู่รู้สึกทำอะไรไม่ถูก ถ้ารู้แบบนี้ ก็คงไม่ให้พวกเธอสองคนดื่มตั้งแต่แรกในขณะเดียวกันนั้นเอง หลิวซือซือที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็ยกแก้วในมือขึ้น แล้วพูดออกมาว่า “พี่เย่คะ ฉันมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกกับพี่มาโดยตลอด แต่ก็กลับไม่มีโอกาสได้พูดมันออกมาเลย”“งั้นก็อย่าพูดเลยจะดีกว่า” เย่เทียนหยู่นึกถึงเรื่องในอดีตของเขากับหลิวซือซือขึ้นมา ก่อนจะคาดเดาได้อย่างคลุมเครือว่าเธอกำลังจะพูดอะไร“ไม่ได้ค่ะ วันนี้ฉันต้องพูดให้ได้!”“ฉันกลัวว่าถ้าผ่านวันนี้ไปแล้ว ฉันไม่มีโอกาสได้พูดมันอีก”หลิวซือซือพูดด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่เย่คะ ฉันชอบพี่ค่ะ ชอบพี่มาตลอด ฉันชอบพี่มากจริง ๆ!”“ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันต้องไปทวงหนี้กับพี่ ฉันก็ถูกความสง่างามและความมั่นคงอันแข็งแกร่งของพี่ดึงดูดไปแล้วค่ะ ต่อมาพี่ก็คอยช่วยฉันเอาไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหัวใจเต้นแรงมากกว่าเดิม ทำให้ฉันชอบพี่มากขึ้นเรื่อย ๆ”“แต่ก็เหมือนว่าพี่จะไม่เคยสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของฉันเลย หลายครั้งที่ฉันอยากจะรุกเข้าหาพี่แต่ก็ไม่กล้า จนกระทั่งพบว่าพี่กับประธานหลินคบกันอยู่ ฉันถึงได้เข้าใจว่าฉันไม่ใช่อะไรสำหรับพี่เล

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1344

    แม้จะเป็นเพียงเวลาสั้น ๆ แต่ทั้งสองคนก็ได้ยินเรื่องราวที่เกี่ยวกับไป๋เฉิงกรุ๊ป และความน่ากลัวของแก๊งพยัคฆ์ทมิฬมาไม่น้อย ดังนั้นความหวาดกลัวและความรู้สึกหวั่นเกรงที่มีต่อตระกูลไป๋จึงมาจากใจของพวกเธออย่างแท้จริงสองสาวพูดสลับกันไปมา จนเกิดเป็นเสียงที่ดังอึกทึกขึ้น เย่เทียนหยู่แทบไม่มีโอกาสได้พูดเลยด้วยซ้ำ ในที่สุดเขาก็มีโอกาส เขาจึงพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ พูดจบรึยัง?”สองสาวพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้“พวกเธอฟังฉันนะ พวกเธอวางใจเถอะ แค่ตระกูลไป๋ พวกมันทำอะไรฉันไม่ได้หรอก” เย่เทียนหยู่พูดออกมาตรง ๆ เดิมทีก็คิดจะบอกว่าไป๋เฉิงกรุ๊ปเป็นของตนอยู่หรอก แต่จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนความคิดถึงอย่างไรตอนนี้ก็อยู่ข้างนอก แถมแก๊งพยัคฆ์ทมิฬและไป๋เฉิงกรุ๊ปเองก็มีชื่อเสียงที่ไม่ดีสักเท่าไหร่คำพูดนี้ แทบจะไม่เห็นตระกูลไป๋อยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย นั่นเป็นถึงหนึ่งในตระกูลที่ทรงพลังที่สุดในเมืองตะวันออกเชียวนะ ในใจของสองสาวจึงรู้สึกไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่พวกเธอมองหน้ากัน ต่างคนต่างก็คิดว่าที่พี่เย่จงใจพูดแบบนี้ก็เพื่อทำให้พวกเธอสบายใจก็เท่านั้น“เอาล่ะ ไม่ต้องสนใจพวกเขาแล้ว ควรกินก็กิน ควรดื่มก็ดื่มเถอะ” ที

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1343

    สีหน้าหลี่ซินเยว่และหลิวซือซือเต็มไปด้วยความรู้สึกทำอะไรไม่ถูก เมื่อกี้ตอนที่พวกเธอนึกถึงความน่ากลัวของตระกูลไป๋ อันที่จริง พวกเธอก็คิดที่จะเตือนเย่เทียนหยู่ไม่ให้ทำร้ายตงซู่อยู่เหมือนกัยแต่เมื่อลองนึกดูอีกที ในสถานการณ์แบบนี้ ด้วยนิสัยของตงซู่ ต่อให้จะหยุดเอาไว้ได้ก็ไม่มีความหมายอยู่ดีเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ พวกเธอก็ไม่มีทางให้ถอยกลับอีกต่อไปแล้วเป็นอย่างที่คิด เห็นเพียงตงซู่ที่กำลังร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ขณะเดียวกันเขาก็หันไปจ้องเย่เทียนหยู่ด้วยความเกลียดชัง แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้ไม่สามารถพูดอะไรได้ ยิ่งไม่ควรทำอะไรบุ่มบ่ามด้วยเช่นกันอย่างไรก็ตาม รอจนกว่าตนจะออกไปจากที่นี่ได้เสียก่อน จากนั้นก็จะต้องรายงานเรื่องนี้ให้ไช่เตา คุณชายเตาได้ทราบ พอถึงตอนนั้น ตนจะต้องทำให้ไอ้เด็กนี่อยู่ไม่สู้ตายให้ได้ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็เงียบกริบ ไม่มีใครกล้าส่งเสียงใด ๆ ออกมาเลยแม้แต่น้อย เพราะกลัวว่าจะเผลอทำให้ตัวเองเข้าไปเอี่ยวด้วยใครจะไปคิดล่ะว่า ชายหนุ่มที่ดูสุภาพไม่มีพิษมีภัยข้าง ๆ สาวสวยสองคนนี้จะลงมือได้โหดเหี้ยมมากขนาดนั้น แต่ถึงอย่างไร อีกฝ่ายก็สมควรโดนแล้วแค่เห็นก็รู้เลยว่าไ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1342

    เมื่อได้ยินคำสั่ง ลูกน้องทั้งสองคนของเขาก็รีบตั้งท่าเตรียมพร้อมขึ้นทันที ก่อนจะเดินตรงไปหาเย่เทียนหยู่ด้วยท่าทางดุดัน งานที่ต้องจัดการกับคนแบบนี้ มันได้กลายเป็นการเสพติดของพวกเขาไปแล้ว อย่างน้อยพวกเขาก็ชอบความรู้สึกแบบนี้เย่เทียนหยู่ส่ายหัว ก่อนจะลุกขึ้นยืน หากไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะทำให้คนอื่นตกใจ ป่านนี้เขาคงจะโบกมือซัดเจ้าพวกนั้นให้กระเด็นไปนานแล้วจากนั้นก็เอาชีวิตของพวกมันมา ณ เดียวนั้นเลย!เมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่ยังกล้าลุกขึ้นมาพูดท้าทายตนอยู่ ทั้งสองจึงรู้สึกว่าศักดิ์ศรีของพวกเขากำลังถูกดูหมิ่น นั่นจึงทำให้พวกเขารู้สึกโกรธอย่างมาก ก่อนที่ต่อมาทั้งสองจะเหวี่ยงหมัดออกไปพร้อมกันในทันทีผั๊วะ ผั๊วะ!เกิดเสียงผั๊วะดังขึ้นสองครั้งติด ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกตกตะลึงของผู้คน เย่เทียนหยู่ใช้ฝ่ามือฟาดพวกเขาจนกระเด็นออกไปก่อนที่ร่างของพวกเขาจะร่วงลงกระแทกพื้นอย่างแรง ร่างกายราวกับกำลังแหลกสลาย รู้สึกเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหวสีหน้าตงซู่ดูตกใจอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กนี่จะรู้วิชากังฟูด้วย เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “ไม่แปลกใจเลยที่แกกล้าทำตัวหยิ่งยโสแบบนี้ ที่แท้แ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1341

    หลี่ซินเยว่และหลิวซือซือที่กำลังด่ากันอย่างเมามัน กลับคิดไม่ถึงเลยว่าจู่ ๆ เสียงของตงซู่จะดังขึ้นมาข้างหู นั่นจึงทำให้พวกเธอรู้สึกตกใจจนต้องหันมองไปตามเสียงในทันทีเป็นตงซู่จริง ๆ ด้วย!นอกจากนี้ ด้านหลังของเขายังมีเหล่าชายฉกรรจ์ที่ดูดุร้ายอยู่อีกด้วย แค่มองก็รู้เลยว่าไม่ใช่คนดีอะไรสีหน้าของพวกเธอซีดเผือดในทันที!ต้องเข้าใจก่อนว่า พวกเธอเตรียมตัววางแผนจะหนีในวันนี้กัน แต่ตอนนี้ตงซู่กลับมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ เป้าหมายของเขาไม่ต้องพูดก็รู้ หรือต่อให้จะเป็นการพบกันโดยบังเอิญ แต่หากได้ยินสิ่งที่พวกเธอเพิ่งจะพูดออกมาเมื่อสักครู่นี้ เกรงว่าคงไม่มีทางปล่อยพวกเธอไปง่าย ๆ แน่เมื่อตงซู่เห็นสีหน้าตกใจของทั้งสอง เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกมาว่า “ด่าสิ ทำไมไม่ด่าต่อแล้วล่ะ นี่พวกเธอคิดว่าฉันไม่รู้อะไรเลยใช่ไหม?”หลี่ซินเยว่ตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนจะรีบลุกขึ้น และพูดออกไปว่า “รุ่นพี่เองเหรอคะ พอดีเมื่อกี้ฉันดื่มมากไปน่ะค่ะ เลยไม่รู้ว่าเผลอพูดอะไรไม่ดีออกไปบ้าง อย่าโกรธกันเลยนะคะ”“หลี่ซินเยว่ จริงอยู่ที่ฉันชอบเธอมาก แต่ฉันก็ไม่โง่ขนาดนั้น เธอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ ว่าพวกเธอเตรียมตัวที่จะหนีในคืนน

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1340

    หลิวซือซือไม่อยากให้เย่เทียนหยู่รู้เกี่ยวกับปัญหาใหญ่ที่ตนต้องเจอยังไงซะ ตระกูลไป๋ก็เป็นถึงหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่แห่งเมืองตะวันออก จะล่วงเกินตระกูลไป๋เพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยของตนไม่ได้“ไม่มีจริง ๆ น่ะเหรอ?”เย่เทียนหยู่สังเกตเห็นว่าเธอมีท่าทีแปลก ๆ เขาจึงพูดขึ้นว่า “หลี่ซิน พวกเธออยู่ด้วยกัน ไหนเธอพูดมาซิ”“ไม่มีอะไรจริง ๆ ค่ะ พี่เย่ ไหนเมื่อกี้พี่บอกว่ามีเรื่องอยากจะถามไงคะ เรื่องอะไรเหรอ?”จู่ ๆ หลี่ซินเยว่ก็รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันทีโดยไม่ทันตั้งตัวเย่เทียนหยู่จึงเข้าใจได้ในทันที ว่าทั้งสองจะต้องมีเรื่องปิดบังตนอยู่แน่นอน แต่ในเมื่อไม่ยอมพูด เขาเองก็ไม่อยากถามให้มากความ แต่ต้องบอกเลยว่า หลี่ซินเยว่คนนี้ค่อนข้างมีทักษะในการเข้าสังคมมากกว่าหลิวซือซือเสียอีกบวกกับที่เธอเคยทำงานเป็นผู้จัดการระดับกลางของหลินซื่อกรุ๊ปมาก่อน ตอนนั้นเธอเองก็ทำได้ไม่เลวเลยทีเดียวไม่แน่ว่าอาจจะพิจารณาให้เธอขึ้นมารับตำแหน่งผู้บริหารเลยก็ได้ หรือถ้าเธอไม่ไหวจริง ๆ ก็ให้รับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปก็ฟังดูไม่แย่เหมือนกัน แล้วตนก็รับบทบาทท่านประธานไปก็พอ ยังไงซะ บริษัทจะทำกำไรได้หรือไม่ได้ก็ไม่สำคัญอยู่

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1339

    ไม่นานก็ถึงเวลาเลิกงาน พวกหลี่ซินเยว่ก็พากันเดินทางออกจากบริษัท พวกเธอรู้สึกกังวลอยู่ตลอด เธอกลัวว่าตงซู่จะเล่นตุกติกเพื่อรั้งไม่ให้พวกเธอไปแต่ก็กลับคิดไม่ถึงว่าจะราบรื่นมากขนาดนี้ในตอนนั้นเอง ทั้งคู่ก็ได้รับสายจากเย่เทียนหยู่ หลังจากที่วางสาย หลี่ซินเยว่ก็ถามขึ้นว่า “ซือซือ พวกเราจะกลับไปเก็บของแล้วหนีไปเลย หรือพวกเราจะไปพบกับพี่เย่กันก่อนดี?”หลิวซือซือรู้สึกลังเล หากเป็นคนอื่นเชิญก็คงไม่เป็นไร แต่การที่จะได้ทานข้าวกับพี่เย่สักครั้ง สำหรับเธอนับว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากมากเธอจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไม่งั้นเราก็ไปตามนัดกันก่อนดีไหม ถึงยังไงคืนนี้เราก็สามารถไปได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว”“ได้ เอาตามที่เธอว่าเลย”“แต่ว่านะ เรื่องของพวกเรา อย่าได้บอกกับพี่เย่เด็ดขาด”“เข้าใจแล้ว ถึงยังไงที่นี่ก็เป็นเมืองหลวง พี่เย่เองก็ไม่ได้เก่งไปเสียทุกอย่าง พวกเราจะสร้างปัญหาให้เขาไม่ได้” หลี่ซินเยว่เองก็เห็นด้วยอย่างมากทั้งสองตัดสินใจกันอย่างแน่วแน่ ไม่นานพวกเธอก็มองเห็นรถของเย่เทียนหยู่เย่เทียนหยู่เองก็สังเกตเห็นการมาถึงของพวกเธอ ทั้งคู่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมกระโปรงรัดรูปทรงเอ เผ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1338

    เขาถึงขั้นกล้าลงมือกับคุณท่านเย่ ที่เป็นถึงพ่อแท้ ๆ ของตัวเอง!อย่าไรก็ตาม ปัจจุบันตระกูลเย่นับว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน และอาจจะล้มได้ทุกเมื่อในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นก็รออีกสักสองสามวันก็แล้วกัน รอจนกว่าพวกงู แมลง มด หนูโผล่หัวออกมาให้หมดเสียก่อน พอถึงตอนนั้นก็ค่อยจัดการรวดเดียว แล้วค่อยมอบความสดใสให้กับตระกูลเย่อีกครั้งนอกจากนี้ ก็เพื่อที่จะรอดูว่าท่านอาจารย์จะมีการเคลื่อนไหวอะไรรึเปล่า มาถึงตอนนี้ อันที่จริงในใจเขาก็เริ่มรู้สึกสงสัยขึ้นมาบ้างแล้วเช่นกันหลังจากว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงหม่าต้านขึ้นมาได้ เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านไป ก็ดูเหมือนว่าหม่าต้านคนนี้จะไม่ใช่คนดีอะไร เขาจึงได้สั่งการให้คนไปตรวจสอบคนผู้นี้ดูสักหน่อยจริงด้วย หลี่ซินเยว่กับหลิวซือซือเองก็ทำงานที่ไป๋เฉิงกรุ๊ปไม่ใช่รึไง เช่นนั้นก็เชิญพวกเธอมาก็ได้นี่ จะได้ให้พวกเธอช่วยอธิบายสถานการณ์ในไปเฉิงกรุ๊ปให้ฟังด้วยเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เย่เทียนหยู่ก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะกดโทรออกหาหลี่ซินเยว่ทันที เดิมทีตั้งใจจะโทรหาหลิวซือซือ แต่เมื่อนึกถึงความรู้สึกของหลิวซือซือที่มีต่อตน

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1337

    ในใจโจวฉิงรู้สึกสั่นสะท้านอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่ต้นจนจบหม่าต้านก็เผยความรู้สึกหวาดกลัวออกมาไม่หยุด นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกตกใจไปชั่วขณะการแสดงออกของหม่าต้านหลังจากนั้น ราวกับคนใกล้ตายที่กำลังร้องขอชีวิตไม่หยุดไม่มีผิด ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นถึงความกลัวของเขาที่มีต่อคุณเย่ได้เป็นอย่างดีคนคนหนึ่ง เหตุใดถึงทำให้คนอีกคนกลัวได้มากขนาดนี้ แต่นั่นก็ทำให้เธอได้เห็นถึงสถานะและจุดยืนของเขาได้อย่างชัดเจนหลังจากที่โจวฉิงได้สติ ในใจก็กลับรู้สึกเหมือนมีม้ากำลังวิ่งพล่านไปทั่ว ทำให้เธอรู้สึกสั่นสะเทือนอย่างมากในเวลานี้ เธอก็นึกถึงสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูดก่อนหน้านั้นขึ้นมาได้ แต่ตอนนั้นเธอก็กลับไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำว่าเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยการกดโทรออกเพียงครั้งเดียวเท่าที่เห็นแทบไม่จำเป็นต้องโทรเลยด้วยซ้ำ อารมณ์เหมือนแค่เขาไอออกมาก็สามารถทำให้หม่าต้านวิ่งมาคุกเข่าเพื่อร้องขอชีวิตได้เลยอย่าว่าแต่เธอเลย ขนาดหลินหว่านหรูเองก็ชะงักไปด้วยเช่นกัน แม้เธอจะรู้ดีว่าเย่เทียนหยู่เก่งกาจมาก แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่าเย่เทียนหยู่จะเก่งกาจได้มากถึงเพียงนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า โจวฉินเองก็เพิ่งจะพูดไป ว่าตระกูลไป๋เป

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status