“สวัสดีครับคุณวาคิม เอ่อ คุณมนตราไม่มาด้วยเหรอครับ”คำพูดที่ดูเหมือนทักทายของผู้ชายที่ผมไม่คิดจะได้พบเจอกันอีกพูดส่งออกมา แต่ทว่า...สายตาของคนตรงหน้ากลับมองหาคนที่ถามถึงไปทั่ว และด้วยท่าทางแบบนั้นมันยิ่งยั่วทำให้อารมณ์ขุ่นเคืองที่คุกรุ่นอยู่เมื่อคืนปะทุขึ้นมาอีกครั้ง“นี่คุณ...??” ผมตีหน้าขรึมยกคิ้วเลิกขึ้นหนึ่งข้างทำหน้าตาสงสัย“อ้าว...ทางเลขาผมไม่ได้แจ้งทางคุณไปหรือไงครับว่าผมเป็นใคร” ส่วนไอ้หนุ่มลูกครึ่งละตินยังคงทำหน้าตายียวนกวนประสาทเหมือนเมื่อคืนไม่มีผิด ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากคล้ายดูถูก“ก็แจ้งอยู่แหละครับ เพียงแต่ไม่คิดว่าคนที่ไม่มีมารยาทจ้องจะฉกเอาของของคนอื่นจะมีตำแหน่งเป็นถึงผู้นำของประเทศ” ท่าทีที่ผ่อนคลายลงของคนที่ยังมีโทสะแผ่ซ่านอยู่ในใจที่กำลังพยายามกดเก็บอาการอยากตะบันหน้าใครเอาไว้ เอ่ยแดกดันกระแนะกระแหนกลับในขณะที่มือในกระเป๋ากางเกงกลับกำหมัดแน่น“แหม่ๆๆ ดูเหมือนว่าคุณจะเข้าใจอะไรผิดไปนิดนะครับ ถ้าจะกล่าวหาว่าผมจ้องจะฉกของของคุณแล้วล่ะก็ ประเด็นแรกของสิ่งนั้นมันต้องเป็นของคุณจริง ๆ แล้วเสียก่อน ไอ้พวก...ที่ชอบแอบอ้างเพราะหวงก้างผมเจอมาเยอะแล้วครับ...แบบเนี่ย...ผม...ไม่.
รุ่งเช้า ~~ร่างบางนอนสั่นเทาอยู่ภายใต้ผ้าห่มหนาขนาดใหญ่ อันเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ดีว่าหญิงสาวกำลังป่วยมีไข้ เนื่องจากร่างกายได้รับการบาดเจ็บจนอักเสบไปทั่วทั้งร่าง“ป้าแจ่มดูแลคุณมนต์ด้วย ถ้ามีอะไรโทรหาผมได้โดยตรงเลยนะ”น้ำเสียงเข้มออกคำสั่งหนักแน่นให้กับแม่บ้าน หลังจากที่รุ่งเช้าคนที่อยู่ภายใต้อ้อมกอดของผมดันมีอุณหภูมิร่างกายร้อนดั่งไฟ และถ้าหากไม่เป็นเพราะตารางงานที่เธอนัดท่านทูตในงานเลี้ยงเมื่อคืนได้ถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้ก่อนหน้านี้แล้ว ผมคงไม่มีทางปล่อยให้เธอต้องนอนซมอยู่คนเดียวแน่นอน“ได้ค่ะ ป้าจะดูแลคุณมนต์ให้ดีที่สุด” ป้าแจ่มระบายยิ้มอบอุ่น เนื่องจากตัวแกไม่คิดรังเกียจหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย ออกจะไปทางเอ็นดูสงสารมากกว่า โดยเฉพาะเมื่อตนเองได้เห็นร่องรอยอารยธรรมอันรุนแรงที่เจ้านายของเธอฝากไปตามเรือนร่างของหญิงสาวด้วยแล้ว คนแก่ที่ผ่านโลกมาเยอะอย่างแกยิ่งสงสารจับใจ“ส่วนยาแก้ไข้ ยาทา ยาแก้อักเสบเดี๋ยวผมจะจัดการส่งมาให้แล้วกัน ป้าจะได้ไม่ต้องออกไปซื้อ...อ่อ...แล้วก็ผมย้ำนะว่าถ้ามีอะไรให้โทรหาผมได้ทันที ผมไม่อนุญาตให้ป้าตามหมอประจำตระกูลมาเข้าใจไหม”น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหนักแน่นเอ่ยย้ำ
รถหรูยังคงวิ่งแล่นไปเรื่อย ๆ ด้วยความเร็วเท่าเดิม โดยระมัดระวังเวลาเข้าโค้งเพิ่มมากขึ้น พร้อมกันกับที่ภายในรถทางฝั่งห้องผู้โดยสารก็ต่างเซ็งแซ่ไปด้วยเสียงร้องคำรามกระเส่าผสานเข้ากับเสียงลามกสุดสยิวที่เกิดจากเนื้อกระทบกันไม่หยุด เสมือนกับการลงทัณฑ์ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ถาโถมเข้ายังตรงจุดกึ่งกลางกายสาวอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ร่องหนีบแน่นพลันแดงก่ำจากท่วงท่าต่าง ๆ ที่เขาพอจะจัดสรรได้ในพื้นที่ขนาดกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าแห่งนี้และนอกจากร่องสวาทจะแดงก่ำแล้ว...สิ่งที่แดงไม่แพ้กันก็คือลำคอขาวและเนินอกอวบอิ่มที่เกิดเป็นรอยจ้ำและรอยฟันเต็มไปทั่ว เนื่องจากการบริเวณเหล่านั้นได้ถูกดูด ถูกกัดสะเปะสะปะไปหมด และแม้ว่ารอยเหล่านั้นจะไม่ได้รุนแรงถึงขนาดเลือดตกยางออก แต่ทว่า...ก็พอที่จะให้รู้สึกแสบ ๆ คัน ๆ อยู่บ้างโดยร่างระหงที่อ่อนล้าเต็มทีก็ได้แต่ถูกโอบอุ้มเหวี่ยงไปมาในพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็กด้วยท่วงท่าที่พอจะเป็นไปได้ แรงกระแทกที่สาดเข้าร่องแดงทั้งจากทางด้านหน้าและจากทางด้านหลังถูกส่งมาไม่หยุดยั้ง จนภายในรถที่ถูกตกแต่งด้วยโทนสีดำถูกคราบขาวป้ายเปรอะไปทั่วทุกแห่งหนจนดูน่าอับอายส่วนอาการเจ็บของหญิงสาวที่ในเวล
แคว่ก ~~“โอ๊ย...!!”เสียงชุดเดรสราคาสูงที่ถูกฉีกกระชากไม่เหลือชิ้นดีจากน้ำมื้อของคนที่ซื้อมันมา เนื้อผ้าบางที่ขาดรุ่งริ่งจนเผยให้เห็นเนื้อเนียนขาวผ่องพร้อมกับกางเกงชั้นในเส้นเดียวที่แทรกอยู่ในร่องก้นงามงอน จนทำให้เนื้อเนียนแน่นกลมกลึงโค้งงอนโก่งเด่นเป็นสง่าท้าสายตาคุกรุ่นที่เต็มไปด้วยโทสะในคราแรกเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนขึ้นมาในทันทีเพี๊ยะ...!!มือหนาฟาดลงไปยังแก้มก้นสีขาวนวลด้วยความรู้สึกมันเขี้ยว อีกทั้งอาการกำหนัดที่เริ่มจะพองขยายแน่นคับกางเกงสูทสุดหรู จนตัวเขายังเผลอคิดว่าถ้าหากตนเองยังไม่ยอมปลดปล่อยให้สิ่งที่อยู่ข้างในออกมาเป็นอิสระแล้วล่ะก็ ซิปที่ใช้กักขังไอ้ตัวปัญหาตัวใหญ่ที่อยู่ข้างในคงจะปริแตกในไม่ช้านี้ครืดดดดด ~~ซิปที่แทบจะปริถูกมือข้างที่เหลือของคนคุมเกมจัดการปลดและเลื่อนลงมาช้า ๆ เสียงที่ดังชัดท่ามกลางความเงียบสงัดในรถหรูที่กำลังแล่นไปตามเส้นทางทำให้หญิงสาวที่กำลังหนาวสะท้านด้วยผิวต้องแรงลมจากเครื่องปรับอากาศที่อยู่ในรถถึงกับตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวแทน“ทะ...ท่านประธานค่ะ ยะ...อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ” เสียงสั่นเครือพูดตะกุกตะกักเอ่ยเตือนสติคนด้านหลัง และในขณะที่หญิงสาวกำลังจะหยั
ตุบ...!!“โอ๊ยยยยย...” ฉันซูดปากร้องพร้อมกับตัวที่ล้มลงพับไปนั่งบนพื้นรถแวนหรูที่ด้านในตกแต่งโอ่อ่าเต็มระบบซึ่งเป็นคันเดียวกันกับที่ฉันนั่งตอนออกมาจากโรงพยาบาลก่อนหน้านี้“หึ...สำออย”แต่ทว่า...คนใจร้ายที่หัวใจยังเต็มไปด้วยไฟโกรธนอกจากเขาจะไม่สงสารในสภาพของหญิงสาวแล้ว เขายังเย้ยหยันพูดจาเหน็บแนมใส่อีกฉันช้อนสายตามองหน้าคนตัวโตที่ปรายตามองต่ำลงมา พร้อมกับมือที่นวดคลึงไปที่ข้อเท้าตัวเองเบา ๆ โดยที่ไม่ยอมลุกขึ้นไปนั่งยังเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างของเขาและด้วยการกระทำของฉันที่ไม่ได้คิดอะไร นอกเหนือจากความรู้สึกน้อยใจกลับทำให้คนที่คิดร้ายเข้าใจผิด คิดว่าฉันกำลังทำท่าทางรังเกียจเขาไม่ยอมลุกขึ้นไปนั่งข้างเขาดี ๆ และด้วยความคิดเองเออเองของคนใจร้ายนั้น นั่นจึงทำให้เขาทำในสิ่งที่ฉันเองก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะทำกับคนป่วยอย่างฉันได้ออกมา...ครืดดดดด ~~บานกระจกที่ไว้ใช้กั้นระหว่างโซนคนขับรถกับผู้โดยสารถูกกดให้ยกขึ้นปิดทันทีโดยคนตัวโตที่ยังคงปรายตามองมาที่ฉันไม่หยุด และหลังจากที่บานกระจกทึบนั้นได้ปิดลงจนเหลือเพียงความเป็นส่วนตัวในส่วนห้องผู้โดยสารแล้ว คำสั่งกร้าวจากคนที่กำอำนาจในมือก็แผดเสียงขึ้น“มานี่.
“ท่านประธานค่ะ ปล่อยมือมนต์ก่อนได้ไหมคะ มนต์...เจ็บ...”ใบหน้าสวยหวานเริ่มซีดเผือดด้วยอาการเจ็บที่เกิดขึ้นตามร่างกายจนไม่อาจแยกได้ว่าความเจ็บที่บังเกิดมันอยู่ที่ส่วนไหนมากกว่ากันแน่ ไม่ว่าจะเป็นไหล่ที่ถูกเขาบีบ ข้อมือที่ถูกเขาจับไว้แน่นจนแทบจะหัก หรือว่าจะเป็นอาการแพงตรงข้อเท้าที่อาการยิ่งปะทุขึ้นเนื่องจากถูกเขาลากตามมาอย่างไม่ไยดี“เจ็บเหรอ...!! เลิกมารยาได้แล้วเพราะจากมุมนี้ไอ้หนุ่มลูกครึ่งหน้าเห่ยนั่นมันไม่ได้เห็นท่าทางอ่อยของคุณตอนนี้หรอกนะ”คำพูดร้ายกาจพ่นออกมาจนกลบความหล่อที่เปล่งประกายของเขาในวันนี้จนหมดสิ้น หลังจากที่เขาพาฉันเดินหลบออกมาตรงระเบียงที่ปราศจากผู้คน“ท่านประธาน...!!” ดวงตากลมโตมองผู้ชายปากร้ายด้วยแววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ อีกทั้งริมฝีปากยังเม้มแน่นจนเลือดห้อเพราะทั้งรู้สึกน้อยใจและเจ็บตามร่างกายในคราวเดียวกัน“ทำไมรับไม่ได้ที่ผมรู้ทันหรือไง...ฮึ” ปากร้าย ๆ ยังพ่นคำพูดร้าย ๆ ออกมาต่อเนื่องและไม่มีท่าทีจะหยุดฟันที่กัดกรอดแน่น แววตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง อีกทั้งมือบางที่กำแน่นด้วยความไม่พอใจ แต่ทว่า...ด้วยความเป็นมืออาชีพในฐานะเลขาที่ไม่เคยทำงานขาดตกบกพร่องมาก่อน