เพราะว่า...การช่วยตัวเอง...ในที่ทำงานมันผิด!! “โดนของจริงดีกว่าไหมครับ...แค่นิ้ว...มันคงไม่อาจจะสนองความต้องการของคุณได้” นี่จึงเป็นบทลงโทษที่เธอต้องรับมันไป...โทษฐานที่ทำให้ท่านประธานอย่างเขาจับได้...!!
더 보기ตอนที่ 1 บทนำ
“อ๊ะ อ๊ะ อื้ออออ~~”
“อย่าครางออกมาถ้าหากไม่อยากโดนผมกระแทกต่ออีกทั้งคืน!!”
เสียงทุ้มแสนเสน่ห์ดังก้องกังวาน หลังจากที่เขาบรรจงเน้นกระแทกบั้นเอวเข้าร่องสาวไม่ยั้ง จนความเสียวซ่านทำให้เจ้าของร่างครวญครางอื้ออึงอยู่ในลำคอ
กระทั่งสิ้นเสียงคำรามบอก ร่างสาวที่กำลังกระเด็นกระดอนไปตามแรงส่งถึงกับกัดฟันแน่นพยายามข่มเสียงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของตัวเองเอาไว้ เพียงเพื่อหวังว่าหลังจากจบบทเพลงสวาทอันรัญจวนใจในครั้งนี้เขาจะถอดถอนความใหญ่โตที่อัดแน่นอยู่ข้างในร่างออกแล้วปล่อยให้ร่างสะคราญได้เป็นอิสระสักที เพราะถ้าหากร่างบางยังคงต้องถูกกระทำรุนแรงอยู่แบบนี้ต่อแล้วละก็...พรุ่งนี้คงไม่แคล้วต้องปวดหนึบไปทั่วทั้งร่างอย่างแน่นอน...
แต่ทว่า...สิ่งที่คิดกับสิ่งที่ธรรมชาติได้รังสรรค์เอาไว้แล้ว...มันช่างขัดกันเสียจริง เพราะต่อให้ร่างระหงจะพยายามกัดฟัน เพื่อสกัดกั้นอารมณ์สยิวที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ข้างในมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่สิ่งที่แสนจะควบคุมได้ยากที่สุดเลยนั่นก็คือ...การที่จะควบคุมตัวเองไม่ให้เปล่งเสียงออกมาหลังจากที่ปลายหัวมนกระแทกสัมผัสเข้ากับจุดที่ลึกที่สุดอีกทั้งยังเป็นจุดที่ไวต่อการถูกกระตุ้นที่สุดอีกด้วย
จนสุดท้ายแล้ว ความเสียวที่ตีมวนอยู่ในท้องน้อยก็ไม่อาจต้านทานคำสั่งของคนบนร่างเอาไว้ได้เลย
“อ๊ะ อื้ออออ~~ อ่าาาาา~~”
“ผมเตือนคุณแล้วนะ ว่าถ้าคุณยังส่งเสียงเย้ายวนผมไม่หยุดอยู่แบบนี้แล้วล่ะก็ ผมรับรองได้เลยว่าคืนนี้คุณคงต้องอ้าขารับตัวตนผมทั้งคืนอย่างแน่นอน!!”
สิ้นคำขู่ที่ดูเหมือนจะเจือไปด้วยน้ำเสียงพึงพอใจของคนตัวโตที่กำลังโยกย้ายสะบัดเอวไม่หยุดอยู่บนร่างของฉัน ฉันที่เหมือนกับสมองขาวโพลนไม่รับรู้อะไรอีกต่อไปแล้วนั้น ก็ได้แต่ปล่อยตัวปล่อยใจให้ล่องลอยไปตามแรงปรารถนาของร่างกาย พร้อมกับเสียงครวญครางที่คละเคล้าผสานเข้ากับเสียงกระทบกับของเนื้อมนุษย์ดังสอดประสานเข้ากันเป็นอย่างดี...
------------------------------------------------------------------------------------------ พบกับ...เรื่องใหม่ในนามปากกาหื่นคนเดิม พาวิจิตร 😍 เรื่อง...ลวงสวาทท่านประธานธงแดง🚩 นักแสดงนำ...มนตรา x วาคิม คำเตือน⛔️ ระวัง!! อย่าอ่านถ้าไม่อยากเกลียดพระเอกเรื่องนี้ (อ่านเถอะมาช่วยเกลียดโน๊ยยยยย😁)------------------------------------------------------------------------------------------ฉันยังคงยืนนิ่งฟังบทสนทนาที่อยู่ด้านนอกต่อ หลังจากที่คนด้านนอกได้พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขาให้กับผู้เป็นมารดาของเขาได้ฟัง ความเงียบที่ก่อตัวขึ้นมากินระยะเวลาเท่า ๆ กับความคิดในหัวของฉัน ก่อนที่ฝ่ายมารดาของเขานั้นจะยังคงไม่ยินยอมและพยายามต้อนคนด้านนอกให้จนมุม...“...หึ...เจ้านายกับลูกน้องยังงั้นหรอ แกคิดว่าแม่โง่ขนาดนั้นเลยหรือไง” เสียงทรงพลังเอ่ยย้ำอย่างต้องการที่จะรู้ความจริงที่เกิดขึ้นให้ได้ พร้อมกับจ้องมองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตัวเองเขม็ง“ก็ถ้าหากแม่มีคำตอบของตัวเองอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมาถามเอาความจริงกับผมหรอกครับ ในเมื่อผมพูดอะไรไปแม่ก็ไม่เชื่อผมอยู่ดี”ก่อนที่เสียงเยียบเย็นเฉยชาจะส่งไปหาผู้เป็นมารดาอย่างไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร เพราะเขานั่นก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าถ้าหากเขายังไม่ยกผู้หญิงที่เขาซ่อนเอาไว้ภายใต้การคุ้มครองของตัวเองให้ขึ้นมามีสถานะแล้วล่ะก็ แม่ของเขาก็จะไม่มีทางมาระรานหรือวุ่นวายไปมากกว่านี้ เพียงแต่ว่า...เขาที่อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมครั้งนี้แม่ของเขาถึงกับออกตัวแรงแซงโค้งมาวีนเขาถึงที่ทำงานได้และในระหว่างที่เขากำลังสงสัยพฤติกรรมของผู้เป็นมารดา คำถามที่จู่ ๆ ก็โ
“มีอะไรครับ ถึงมาหาผมถึงที่นี่” ผมพูดโดยไม่มองหน้าท่าน ก่อนจะหย่อนกายนั่งลงเก้าอี้ตัวเดิม“ทำไมถึงไม่ติดต่อแม่กลับมาบ้าง แม่ฝากบอกป้าแจ่มไปแล้วไม่ใช่หรอไง ว่าให้บอกแกให้ติดต่อแม่มาโดยด่วน แล้วทำไมแกถึงทำเป็นไม่สนใจคำสั่งของแม่ จนแม่ต้องถ่อมาหาถึงที่นี่ แม่ถามแกจริง ๆ เถอะนี่ใจคอแกจะไม่ฟังคำแม่ ไม่เห็นความสำคัญของแม่เลยใช่ไหม...ห๊ะ...!!”เสียงที่กำลังตวาดแว้ดลั่นของแม่ผมที่ส่งมารัวไม่หยุดกลับไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกสะเทือนความรู้สึกแม้แต่น้อย ผมที่แทบจะบอกได้เลยว่าคำพูดเหล่านั้น เขาทำได้เพียงเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา แต่ทว่า...สิ่งที่ผมไม่รู้เลยก็คือมันได้ทะลุไปจนทำให้คนที่ยืนแอบฟังอยู่ด้านหลังประตูห้องพักกำลังรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย“ยังไงก็มาถึงที่นี่แล้วไม่ใช่หรือไงครับ มีอะไรก็พูดมาได้เลย” ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยค่อนไปทางเอือมระอากับพฤติกรรมของผู้เป็นมารดา โดยที่สายตาเลือกจะมองไปยังเอกสารตรงหน้าแทน“คิมนี่แกจะเอาแบบนี้ใช่ไหม แกจะทำให้แม่หัวใจวายให้ได้เลยใช่ไหม...!!”ส่วนผู้เป็นมารดาที่พอเห็นอากัปกิริยาตอบกลับมาของลูกชาย ก็ยิ่งเดือดดาลไม่พอใจในพฤติกรรมแสนดื้อดึงของคนตรงหน้า พร้อมกับเ
ร่างบางถูกคนตัวโตพาเข้ามายังในห้องน้ำ เขาที่ค่อย ๆ วางหญิงสาวลงบนฝานั่งชักโครกอย่างแผ่วเบา ก่อนที่เขาจะยืนมองร่างนุ่มนิ่มนั้นโดยไม่ยอมเดินกลับออกไปจากนั้น...ภายในห้องน้ำก็ตกอยู่ในภวังค์ความเงียบที่มีเพียงแค่เสียงลมหายใจของคนทั้งสองที่ต่างฝ่ายต่างเงียบงันไม่ยอมพูดอะไรออกมาก่อน เหมือนกับว่ากำลังรอให้อีกฝ่ายขยับปากพูดก่อนเพื่อที่ตนเองจะได้ไม่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามประสาทในครั้งนี้ จนกระทั่งเมื่อฉันที่เห็นว่าการอยู่ในความเงียบตอนนี้รังแต่จะสร้างความอึดอัดให้กับฉันอยู่ฝ่ายเดียว เพราะด้วยคนใจร้ายที่คงต้องเพิ่มฉายาหน้ามึนให้อีกหนึ่งตำแหน่งยังคงยืนกอดอกไขว้ขามองฉันไม่วางตา จนกลายเป็นฉันเองที่อดทนไม่ไหวจำต้องเอ่ยปากออกไปก่อน...“ท่านประธานมีอะไรจะให้มนต์รับใช้อีกไหมคะ” ฉันพูดโดยที่ดวงตายังจับจ้องไปยังพื้นห้องน้ำไม่ยอมเงยขึ้น“ทำไม...ถ้าผมจะใช้งานคุณ...คุณรับไหวงั้นหรอ”น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่เต็มไปด้วยคำดูถูกพูดด้วยหน้าตาที่ดูไร้ความรู้สึก และด้วยคำพูดของเขาก็ทำให้ฉันถึงกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ พร้อมกับคิดไปถึงความรู้สึกในตอนนี้เกี่ยวกับคนตรงหน้าที่พรั่งพรูมาไม่หยุดความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันเหมือน
ปั่กๆๆๆ ตั่บๆๆๆ“อ๊ะ...อ๊ะ...เจ็บ มนต์เจ็บ”หญิงสาวถึงกับร้องเสียงหลงทันทีที่ร่างกายโดนกระทำรุนแรง ร่างบางที่กระเด็นกระดอนไปตามแรงกระแทกที่ส่งมาไม่ยั้ง อีกทั้งมือหนาสองข้างของคนบนร่างยังตรงเข้าขยำหน้าอกอวบใหญ่กับเข้ากอบกุมลำคอเรียวระหงด้วยท่วงท่าเสมือนว่าเขานั้นกำลังควบคุมหญิงสาวจากด้านบนอยู่“ปากดีนักนะ...อ่ะ...แน่จริงก็อย่าครางออกมาซิ...ถ้าไม่อย่างนั้นคุณก็จงรับชะตากรรมไปจนกว่าจะเลิกงานแล้วกัน อืมมมมม...แล้วผมรับรองได้เลยว่า คุณจะลืมรสชาติของไอ้เวรนั้นไปเลย...ซี๊ดดดดด...”คนใจร้ายส่งเสียงเหี้ยมน้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธ ด้วยเพราะนึกถึงคำพูดของหญิงสาวที่มีต่อเขา คำพูดเหล่านั้นมันช่างแทงใจดำเขาเสียเหลือเกินเพราะจริงอยู่ที่ทุกประโยคของเธอที่พูดออกมาเกี่ยวกับสถานะระหว่างเราในตอนนี้ ตัวเขานั้นไม่อาจเถียงได้แม้แต่คำเดียว เพียงแต่การมาพูดต่อหน้าต่อตาเหมือนกับว่าต้องการยุติความสัมพันธ์ระหว่างเราในจังหวะที่เธอได้เจอคนใหม่...มันช่างดูจะไม่ให้เกียรติคนอย่างเขาเลย...เพราะถ้าหากความสัมพันธ์ในครั้งนี้มันจะต้องจบลง มันต้องเป็นเพราะว่าตัวเขานั้นไม่ต้องการเธอแล้ว ไม่ใช่..!! เป็นเพราะเธอที่ไม่ต้องก
“มนต์นี่คุณจะเดินหนีผมไปไหน เรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง...!!”คนตัวโตที่เห็นว่าหญิงสาวสะบัดตัวเดินหนีออกไปจากการสนทนา ถึงกับประกาศกร้าวออกมาอย่างไม่พอใจ พร้อมกับรุดตัวลุกขึ้นยืนปรี่เดินไปหาหญิงสาวทันทีและทันทีที่เขาถึงตัวสาวเจ้า เขาก็คว้าหมับเอายังต้นแขนเรียวบาง พร้อมกับออกแรงบีบเต็มมือ“โอ๊ย...!! มนต์เจ็บนะคะ” ฉันหันไปแว้ดใส่เขา พร้อมกับพยายามแกะมือเหนียวที่เกาะอยู่ที่ต้นแขน“เจ็บงั้นหรอ ดี...เพราะคุณจะได้เจ็บมากกว่านี้แน่...!!”สิ้นคำประกาศกร้าว ร่างทั้งร่างของฉันก็ถูกเขาจับพลิกเอนแนบนอนลงไปกับโต๊ะทำงานของตัวเอง ก่อนที่ข้าวของและเอกสารที่อยู่บนโต๊ะจะถูกกวาดลงพื้นกระจัดกระจายเต็มไปหมด คงเหลือไว้เพียงแค่ร่างบางที่ถูกจับนอนกดแผ่หลารอรับบทลงโทษที่จะตามมา“คะ...คุณวาคิมนะ...นี่คุณจะทำอะไรของคุณกันค่ะ” น้ำเสียงตะกุกตะกักเอ่ยถามพร้อมกับแววตาที่สั่นระริกด้วยกลัวใจของเขาตอนนี้เหลือเกิน“หึ...จะทำอะไรงั้นหรอ ก็ทำให้คุณจำให้ขึ้นใจไงว่าคุณเป็นของใคร และจะช่วยระลึกความหลังของเราสองคนที่มีในห้องนี้ไปพร้อมกันยังไงล่ะ”สิ้นคำเหี้ยมที่มาพร้อมกับแววตาวาวโรจน์เต็มไปด้วยแรงปรารถนา ชุดทำงานที่ฉันใส่มาก็พล
“อะ...เอ่อ...อ่า”เสียงอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ของปราบทำให้ผมอดไม่ได้ที่เงยหน้าขึ้นไปมอง“มีอะไร คำถามมันยากนักหรือไงถึงตอบไม่ได้สักที” ดวงตาคมกริบหรี่มองคนตรงหน้าอย่างต้องการจับผิด“ปะ...เปล่าครับนาย เพียงแต่คุณมนตราเธอไปทานอาหารครับ” ปราบตอบทั้งที่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตา“ห้องอาหารของบริษัทก็อยู่แค่นี้ ทำไมป่านนี้แล้วยังไม่กลับมาอีกล่ะ” ผมถามย้ำ โดยที่คนตรงหน้าก็ได้แต่มีสีหน้าเลิ่กลั่กส่งกลับมา และนั่นมันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด“ตอบ...!!”น้ำเสียงเข้มตวาดลั่น พร้อมกับร่างกำยำพิงเอนกายแนบไปกับพนักเก้าอี้ผู้บริหารขนาดใหญ่“เอ่อ...พอดีคุณมนต์เธอออกไปทานอาหารข้างนอกบริษัทน่ะครับ เลยน่าจะยังไม่กลับเข้ามา”ปราบหน้าเสียยามนึกไปถึงเรื่องทอล์กออฟเดอะทาวน์ในกลุ่มของบริษัทที่เป็นเหมือนกับกลุ่มลับที่พนักงานเอาไว้แลกเปลี่ยนข่าวสารกัน โดยเนื้อข่าวที่เป็นที่โจษจันกันในวันนี้ก็คือ...หัวข้อที่ว่าคุณมนตราเลขาสุดขรึมของท่านประธานเปิดตัวแฟนหนุ่มสุดหล่อลูกครึ่งละตินที่หล่อถึงกับทำให้สาว ๆ ในบริษัทต่างอิจฉากันทั่วแต่สิ่งที่ทุกคนไม่รู้เลยก็คือชายหนุ่มในรูปที่ถูกแอบถ่ายส่งต่อมาในกลุ่มนั้น ดันเป็นชายหนุ่มที่อาจจ
댓글