กลับมาที่ปัจจุบัน....
สุดท้ายฉันก็ต้องมานั่งกินอาหารญี่ปุ่นที่ร้านของอาร์ตด้วยความจำใจและจำยอม
"อยากกินอะไรสั่งเลยไม่ต้องเกรงใจ"
"แน่นอนสิฉันจะเกรงใจนายทำไม" ฉันตอบโดยไม่มองหน้าคนถาม สายตาของฉันตอนนี้กำลังหาเมนูที่ชอบกิน อยากจะบอกว่าฉันชอบกินอาหารญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เมื่อก่อนตอนที่ยังเรียนอยู่ฉันมักจะชอบไปเดินตลาดนัดแล้วฉันจะซื้อซูชิคำละสิบบาทยี่สิบบาทมากินตลอดเพราะมันอร่อย จนกระทั่งฉันเรียนจบมีงานทำมีเงินเดือนใช้ฉันก็เลยอยากมาลองกินอาหารญี่ปุ่นแพงๆ ดูบ้างว่ารสชาติมันจะต่างกันมาแค่ไหน สรุปคือก็ต่างกันพอสมควรโดยเฉพาะวัตถุดิบและตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฉันก็มักจะเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นประจำแต่ไม่ใช่ว่าฉันไม่ซื้อที่ทำขายตามตลาดนัดนะฉันก็ยังซื้อกินอยู่ดีเพราะมันราคาถูกและอร่อย
"ชม"
"อะไร"
"เธอเคยมีแฟนหรือเปล่า"
"ถามทำไม"
"ก็ถามดูเผื่อว่าฉันจะได้เป็นแฟนคนแรกของเธอไง^^"
"ฝันไปเถอะ"
"ฉันจะทำให้เธอใจอ่อนให้ได้"
"ถ้าทำได้ก็ลองดู"
"อย่าท้านะเว้ย"
"ฉันไม่ได้ท้าเพราะฉันมั่นใจว่าฉันไม่มีทางชอบผู้ชายแบบนายแน่"
"หึ"
"หึทำไม"
"เปล๊า"
ฉันมองหน้าอาร์ตที่ทำท่าทางกวนๆ ใส่อย่างไม่สบอารมณ์ สักพักอาหารก็มาเสิร์ฟฉันก็เลยเลิกสนใจเขาแล้วก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย อยากจะบอกว่าอาหารร้านอาร์ตทุกเมนูมันอร่อยมากๆ เหมือนไปกินถึงญี่ปุ่น
"กินเบาๆ ไม่มีใครแย่งหรอกน่า^^"
อาร์ต...
ผมนั่งอมยิ้มอย่างพอใจที่ได้ต่อปากต่อคำกับชมจันทร์เพราะมันทำให้ผมไม่เครียดดี คิดแล้วก็นะผมจะทำยังไงให้ชมจันทร์ยอมใจอ่อนกับผมสักทีผมอยากมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเพราะที่ผ่านมาผมไม่เคยมีแฟนมาก่อนถึงผมจะมีสาวๆ ในสต๊อกเยอะแต่ผมก็ไม่เคยเรียกใครว่าแฟน ถามว่าทำไมผมถึงอยากได้ชมจันทร์มาเป็นแฟนนั่นก็เป็นเพราะเธอตรงสเป๊กผมทุกอย่างหมายถึงตอนนี้นะไม่ใช่เมื่อก่อนเพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่เสียเวลามาตามจีบแบบนี้หรอก และอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญก็คือแม่ของผมชอบชมจันทร์มากปลื้มมาก ถามว่าแม่ผมรู้จักชมจันทร์ได้ยังไงเรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อปีก่อนแม่ผมไปตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาลที่ชมจันทร์ทำงานอยู่ แล้วทีนี้ชมจันทร์ก็มาดูแลแม่ผมโดยที่เธอไม่รู้ว่านั่นคือแม่ผมและผมก็ไม่รู้ด้วยว่าพยาบาลที่ดูแลแม่คือชมจันทร์จนกระทั่งปีนี้ผมได้พาแม่ไปตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาลอีกครั้งทำให้ผมรู้ว่าพยาบาลที่แม่ปลื้มนักปลื้มหนาก็คือชมจันทร์แม่บอกให้ผมจีบชมจันทร์เพราะแม่อยากมีลูกสะใภ้เป็นพยาบาลแม่กลัวว่าผมจะเอาเด็กที่ผมเลี้ยงดูอยู่มาเป็นเมียแม่บอกแม่รับไม่ได้ผมก็เลยบอกแม่ไปตามตรงว่าผมตามจีบมาหลายปีแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ
"แกมันไร้ความสามารถจริงๆ นะตาอาร์ต ไม่รู้ล่ะยังไงแกก็ต้องเอาหนูชมมาเป็นลูกสะใภ้แม่ให้ได้" นั่นคือคำสั่งของแม่
"มองหน้าทำไมนักหนาเนี่ยฉันกินข้าวไม่ลง"
"เหอะนี่ขนาดกินข้าวไม่ลงนะหมดทุกอย่างที่สั่งมา5555" ผมแซวคนตรงหน้าที่ซัดอาหารทุกอย่างจนหมดเกลี้ยงผมเห็นแบบนี้ก็ปลื้มสิเพราะนั่นเท่ากับว่าชมจันทร์ชอบอาหารที่ร้านของผม
"ฉันแค่เสียดายของหรอกย่ะ"
"ว่าแต่เธออิ่มแล้วใช่ไหมจะได้เช็คบิล"
"ทำไมจะเก็บเงินฉันหรือไง"
"เปล่าฉันบอกเลี้ยงก็คือเลี้ยงดิ ฉันเลี้ยงเธอได้ตลอดชีวิตนั่นแล่ะ"
"ไม่ต้องเลี้ยงฉันมีเงิน"
"งั้นแปลว่ามื้อนี้เธอจะจ่ายเอง??"
"นายนี่เลิกกวนโมโหฉันสักวันจะได้ไหมเนี่ย"
"โอเคโอเคไม่กวนแล้ว งั้นเดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอที่โรงพยาบาลนะ"
"อืมม"
หลังจากนั้นผมก็พาชมจันทร์ออกจากร้านแล้วขับรถพาเธอไปส่งที่โรงพยาบาลเพราะใกล้จะบ่ายโมงแล้วระหว่างทางที่ผมกำลังขับรถอยู่จู่ๆ ก็มีสายโทรเข้ามาเป็นเบอร์จากไอ้นัตผู้จัดการผับผมรีบขับรถเข้าข้างทางแล้วรับสายทันทีเพราะปกติมันไม่เคยโทรหาผมเวลานี้
"มึงโทรมามีอะไรไอ้นัต"
"แย่แล้วครับคุณอาร์ตเกิดเรื่องแล้ว"
"เรื่องอะไรของมึงไอ้นัต"
"ไอ้เมฆกับไอ้ชายพนักงานร้านเรามันทะเลาะกันครับคุณอาร์ต"
"ทะเลาะกันเรื่องอะไร"
"เรื่องผู้หญิงครับมันแย่งผู้หญิงคนเดียวกันตอนนี้มันจะแทงกันอยู่แล้วครับคุณอาร์ตไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามเลยเพราะกลัวโดนลูกหลง"
"เออๆ เดี๋ยวกูจะรีบไปที่ผับมึงดูไว้ให้ดีอย่าให้พวกมันแทงกันตายซะก่อน"
"ครับๆ คุณอาร์ตรีบมานะครับ"
"เออๆ" ผมวางสายจากไอ้นัตแล้วหันไปพูดกับชมจันทร์ที่กำลังมองหน้าผมอยู่เหมือนอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
"ชมเธอไปที่ผับกับฉันก่อนได้ไหมตอนนี้มีเรื่อง"
"อื้มมได้ๆ" จากนั้นผมก็รีบขับรถไปที่ผับทันทีเพราะกลัวจะเกิดเรื่องราวใหญ่โตกลัวจะมีการฆ่ากันตาย
ผมใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ขับรถมาถึงที่ผับผมไม่รอช้ารีบลงจากรถแล้ววิ่งเข้าไปในผับทันที พอเข้ามาก็เห็นเหตุการผู้ชายสองคนซึ่งเป็นพนักงานร้านผมเองพวกมันกำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายใบหน้าแต่ละคนดูแทบไม่ได้โดยที่มือของพวกมันถือมีดกันอยู่คนละเล่มดูๆ แล้วน่าจะเป็นมีดปอกผลไม้ในครัว
"เห้ยพวกมึงหยุด!!!" ผมรีบห้ามมันสองคนที่กำลังถือมีดคนละเล่มแต่ดูเหมือนพวกมันจะไม่ได้สนใจเพราะเอาแต่จ้องหน้ากันอยู่และก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าใส่กันผมก็เดินลงไปหาพวกมันแล้วขู่
"กูสั่งให้พวกมึงหยุดไงใครไม่หยุดกูจะให้การ์ดเอาไปกระทืบหลังร้าน!!!"
"นายไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้ผมจะไม่ยอมเด็ดขาดมันรู้ทั้งรู้ว่าผมตามจีบน้องฝนอยู่แต่มันก็ยังมาแย่งไป"
"ก็น้องเขาบอกว่าเขาไม่ได้ชอบมึงน้องเขาชอบกูแล้วมึงจะให้กูทำไงไอ้เมฆ"
"มึงอย่ามาโกหกกูไม่เชื่อ"
"พวกมึงจะฆ่ากันเพราะผู้หญิงคนเดียวเหรอวะห๊ะ" ผมถามพวกมันอย่างเหลืออดมีที่ไหนจะฆ่ากันตายเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียวบ้าหรือเปล่าวะ
"ผมรักของผมอยู่ดีๆ ไอ้ชายมันก็มาแย่งของผมไปเป็นนายนายจะยอมไหมล่ะ" ไอ้เมฆมันย้อนถามผม
"ไม่จริงครับนายผมไม่ได้แย่งน้องเขามาบอกว่าชอบผมคนเดียว"
"มึงโกหก"
"กูไม่ได้โกหก" ผมถึงกับปวดประสาทไม่รู้จะทำยังไงดีกับพวกมันสองตัว ผมก็เลยให้คนไปตามตัวต้นเหตุนั่นก็คือฝนมาเคลียร์ว่าจะเลือกใครระหว่างไอ้เมฆกับไอ้ชาย
"พวกมึงจะยอมรับความจริงกันไหมถ้ากูจะให้ผู้หญฺิงที่มึงสองตัวแย่งกันมาเลือกว่าจะเลือกใคร" พอผมถามพวกมันก็เงียบ
"ว่าไง ถ้าฝนมันเลือกไอ้ชายมึงไอ้เมฆมึงก็ต้องยอมรับความจริงแต่ถ้าฝนมันเลือกไอ้เมฆมึงก็ต้องยอมรับความจริงนะไอ้ชาย"
"ครับ/ครับนาย" มันสองคนตอบเสียงกระท่อนกระแท่น
"แล้วมีดที่พวกมึงถือเอาโยนลงพื้นเดี๋ยวนี้กูสั่ง"
เพล้ง/เพล้ง พวกมันสองตัวยอมทำตามที่ผมสั่งจากนั้นผมก็ส่งสัญญาณให้ไอ้นัตไปเก็บมีดสองเล่มนั้นออกมา
เวลาต่อมา...
"เลือกมาว่าจะเอาใครระหว่างไอ้เมฆกับไอ้ชาย" ผมถามเด็กเสริฟที่ชื่อฝนที่ตอนนี้ยืนก้มหน้าก้มตาอยู่ตรงหน้า
"คือ..ฝนเลือกพี่..พี่ชายค่ะฝนรักพี่ชาย"
"พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงวะฝนที่ผ่านมามันคืออะไร" น้ำเสียงไอ้เมฆสั่นเครือเมื่อได้ยินคำตอบของฝน
"ฉันขอโทษนะพี่เมฆฉันแค่สงสารพี่ฉันก็เลยไม่กล้าบอกความจริงกับพี่ว่าฉันรักพี่ชาย" ผมมองหน้าไอ้เมฆที่ตอนนี้ทรุดตัวนั่งลงไปกับพื้นอย่างคนสิ้นหวัง ผมเข้าใจความรู้สึกของมันดีว่าเสียใจขนาดไหนฟ
"ตอนนี้มึงก็ได้ฟังจากปากของฝนแล้วกูหวังว่ามึงจะยอมรับความจริงนะไอ้เมฆ" ไอ้ชายเดินไปหาไอ้เมฆที่ยังนั่งอยู่ที่พื้นอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิตก่อนจะเดินจูงมือคนรักของมันเดินไปหลังร้าน ผมมองดูไอ้เมฆที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมซึ่งผมก็ไม่รู้จะช่วยมันยังไงดี
ตอนนี้ทุกคนกำลังคิดว่าไอ้เมฆมันกำลังนั่งทำใจอยู่ก็เลยแยกย้ายกันทำหน้าที่ของตัวเองและในขณะที่ผมกำลังจะหันหลังกลับจู่ๆ สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นไอ้เมฆมันร้องไห้แล้วก็หยิบมีดอีกเล่มออกมาจากกระเป๋ากางเกงด้านหลังมันกำลังจะเอามีดกรีดข้อมือตัวเองผมเห็นก็เลยรีบไปคว้ามีดเล่มนั้นออกมาจากมือของมันโดยไม่ทันระวังทำให้มีดมันบาดเข้ากลางฝ่ามือของผมจนเลือดกระฉูด
"โอ๊ย!!!" ผมร้องลั่นเมื่อความเจ็บแล่นเข้ามา
"นาย!!!ผมขอโทษ" ไอ้เมฆร้องไห้ขอโทษผมเพราะมันคิดว่ามันทำให้ผมเจ็บ
"อาร์ตนายเป็นยังไงบ้าง ใครก็ได้ขอผ้าสะอาดมาให้หน่อยค่ะฉันจะเอาซับแผล" ชมจันทร์ตะโกนถามคนในร้านด้วยน้ำเสียงตกใจเพราะตอนนี้เลือดผมไหลไม่หยุด
ชมจันทร์....
"นี่ครับผ้าสะอาด" เด็กผู้ชายคนนึงวิ่งเอาผ้ามาให้ฉัน
"ขอบใจจ๊ะ" ฉันรับผ้ามาจากนั้นก็รีบเอามันซับเลือดให้อาร์ตที่ตอนนี้เลือดยังไหลไม่ยอมหยุด ฉันคอยซับเลือดให้เขาพอมั่นใจว่าเลือดหยุดไหลบ้างแล้วฉันค่อยๆ ดูบาดแผลของเขาและเห็นว่าแผลของเขาลึกมากน่าจะต้องเย็บหลายเข็ม
"นายไปโรงพยาบาลเถอะแผลใหญ่ขนาดนี้คงต้องเย็บหลายเข็ม"
"เย็บเลยเหรอ ไม่อ่ะฉันกลัวเข็มฉันกลัวหมอ" อาร์ตส่วนหน้าบอกฉันเสียงสั่น
"ตัวโตขนาดนี้กลัวหมอกลัวเข็มเหรอ"
"ก็คนมันกลัวให้ทำไง"
"ถึงนายจะกลัวยังไงนายก็ต้องไปทำแผลที่โรงพยาบาลเข้าใจไหม"
"ถ้าฉันไปเธอจะอยู่ใกล้ๆ ฉันได้ไหมล่ะ" สายตาเว้าวอนทำให้ฉันอดสงสารไม่ได้ก็เลยพยักหน้า
"อืมฉันจะอยู่ข้างๆ นายเอง"
"ถ้าอยู่ใกล้เธอก็ไม่มีอะไรที่ฉันต้องกลัว" ฉันถอนหายใจกับคำพูดเสี่ยวๆ ของอาร์ต
"หวานซ้าาาาาา"
"ไอ้นัต!!!"
"โทษครับนาย"
หมอพี..."พ่อขา""ครับลูก""ทำไมพ่อกับอาอาร์ตถึงไม่ค่อยถูกกันล่ะคะหนูเห็นเจอหน้ากันทีไรก็ทะเลาะกันตลอดเลย""เรื่องมันยาวลูกอย่าไปรู้เลยเนอะว่าแต่ตอนนี้ลูกสาวพ่อหิวหรือยังครับ""หิวแล้วค่า อืมมมไม่รู้พี่พีคไปไหนหนูไม่เจอเลย" น้องพั้นช์มองหาพี่ชายตัวเอง"น่าจะอยู่ข้างในบ้านมั้งลูกก็เราสองคนพากันเดินออกมานั่งเล่นข้างนอกถ้าหนูจไปหาพี่ก็ไปเถอะ""แล้วพ่อล่ะคะไม่เข้าไปด้วยกันเหรอ""เดี๋ยวพ่อตามไปหนูเข้าไปก่อนเลยแต่อย่าลืมที่พ่อบอกนะลูก""ไม่ลืมค่า ห้ามคุยกับคนแปลกหน้าแล้วก็คนหน้าไม่แปลกค่า^^""โดยเฉพาะ....""ผู้ชายค่า""ดีมากครับ" ผมยืนมองลูกสาวเดินเข้าไปในงาน หลายๆคนอาจจะมองว่าผมหวงลูกสาวของผมซึ่งผมก็ยอมรับว่าทั้งหวงทั้งห่วงเพราะแกเป็นเด็กไม่ค่อยพูดถ้าไม่สนิทจริงๆแกเป็นคนเข้ากับคนอื่นยากมากขนาดไปโรงเรียนแกยังไม่ค่อยมีเพื่อนเลยแกบอกว่าเพื่อนที่โรงเรียนชอบนินทาเพื่อนคนอื่นๆแกก็เลยไม่ชอบและชอบที่จะอยู่คนเดียว แกเหมือนผมแทบทุกอย่างเลยโดยเฉพาะนิสัยใจคอซึ่งผมก็หวังว่าแกจะไม่มีอารมณ์รุนแรงเหมือนผมเมื่อก่อนนะแต่ผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ลูกสาวผมก็แค่คนเรียบร้อยพูดน้อยไม่เข้าสังคมก็แค่นั้นเอง ส่วนลูกชา
อาร์ต...."ผมชอบพี่พั้นช์ผมอยากได้พี่พั้นช์เป็นแฟนครับปะป๊า^^""ห๊ะ!!! เตอร์บอกอยากได้พี่พั้นช์แฟน??""คร๊าบบบบบ""เตอร์ครับเตอร์เพิ่งเจ็ดขวบเองนะลูก" ผมบอกลูกด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ"เจ็ดขวบก็มีหัวใจนี่ครับปะป๊า"ในเมื่อลูกชายสุดที่รักของผมพูดมาขนาดนี้แล้วคงต้องช่วยแล้วล่ะแต่..แต่มันติดตรงที่พ่อของน้องพั้นช์นี่แล่ะไอ้หมอพีมันหวงลูกสาวมันยังกับไข่ในหินแม่งใครที่เป็นผู้ชายเข้าใกล้ไม่ได้เลย ผมจำได้ตอนที่ผมไปรับลูกสาวผมน้องอบเชยที่โรงเรียนอนุบาลซึ่งก็เรียนห้องเดียวกันกับน้องพั้นช์น้องพีคผมเจอไอ้หมอพีมันกำลังยืนกอดอกทำตาขวางใส่เด็กผู้ชายที่เดินจับมือลูกสาวมันออกมาจากห้องเรียนเพราะคุณครูให้เข้าแถวแล้วเดินจับมือกันออกมาเป็นคู่ๆผมเห็นมือมันกำหมัดแน่นด้วยความโกรธและไม่พอใจแต่มันก็ทำอะไรไม่ได้ไงเพราะเด็กก็แค่ไม่กี่ขวบแล้วเด็กก็คงไม่ได้คิดอะไรกันหรอกมันอ่ะคิดมากไปเองแต่...พอมาตอนนี้ผมคิดแบบนั้นไม่ได้แล้วเพราะลูกชายผมมันบอกว่าชอบลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของไอ้หมอพี ผมปวดหัวแทนลูกผมตอนนี้เลยละกัน"เตอร์ครับทำไมเตอร์ไม่ไปชอบคนอื่นๆล่ะลูกเพื่อนที่โรงเรียนก็มีตั้งเยอะแยะอ่ะครับลูก" ผมพยายามโน้มน้าวจิตใจลูกเผื
8ปีต่อมาชมจันทร์...."แม่ขาาา แม่"ตุบ ตุบ ตุบ เสียงวิ่งพร้อมเสียงตะโกนเรียกมาแต่ไกลของลูกสาวของฉันนั่นก็คือน้องอบเชยทำให้ฉันต้องรีบวางมือจากสิ่งที่ทำแล้วหันไปถามลูกสาวที่เพิ่งเลิกเรียนมาน้องอบเชยตอนนี้อายุได้เก้าขวบกว่าแล้ว"ขาคนสวยของแม่ว่าไงคะลูก^^" ที่ฉันพูดไม่เกินจริงเลยลูกสาวของฉันทั้งสวยทั้งน่ารักไม่ใช่แค่ฉันนะที่ชมลูกใครเห็นใครเจอก็พูดแบบนี้ทั้งนั้นบางคนบอกน้องอบเชยสวยได้แม่ฉันทำได้แค่ยิ้มบางๆเพราะจริงๆแล้วที่ฉันสวยได้ขนาดนี้ก็เพราะมีดหมอต่างหาก แต่ก็ดีแล้วล่ะที่น้องอบเชยสวยปะป๊าของแกจะได้ไม่ต้องเสียเงินพาลูกไปทำสวยแล้วลูกก็จะไม่เจ็บตัวด้วย ฉันยังจำวันนั้นได้ดีวันที่ฉันตัดสินใจไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีเป็นอะไรที่เจ็บปวดและทรมานมากๆถึงมากที่สุด"วันนี้แม่ทำอะไรให้น้องอบทานบ้างคะน้องอบหิวแล้วหิวมากๆๆเลยค่า""โถลูกขาแม่ก็นึกว่าอะไรตะโกนมาซะเสียงดังลั่นบ้านเลยเรียบร้อยเหมือนพี่พั้นช์มั่งสิคะลูก" พี่พั้นช์ที่ฉันพูดถึงก็คือลูกสาวของหมอพีกับยัยพินแกเป็นเด็กเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ต่างจากลูกสาวของฉันราวฟ้ากับดินที่ทั้งดื้อและซนเอาแต่ใจตัวเองอีกต่างหากเพราะโดนปะป๊าสปอยล์ตามใจมาตั้งแต่เด็ก
หลายเดือนต่อมา....อาร์ต...."ฮึก ฮึก ฮือออ ฮือออ" "เสียงอะไรวะ" ผมสะลึมสะลือแล้วก็บ่นพึมพำคนเดียวท่ามกลางความมืดภายในห้องนอนเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นที่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงใครแต่ทั้งห้องมันก็มีแค่ผมกับชมไหมถ้าไม่ใช่ชมแล้วจะใครวะจะว่าผีก็ไม่น่าจะใช่เพราะเพิ่งทำบุญบ้านกันไปหรือว่าชมร้องเพราะปวดท้อง พอนึกขึ้นได้สติเริ่มมาผมก็รีบเปิดไฟหัวเตียงแล้วหันไปทางฝั่งที่ชมนอนปรากฏว่าเธอกำลังนั่งร้องไห้อยู่กลางที่นอนผมรีบถามทันทีด้วยความเป็นห่วง"ชมร้องไห้ทำไมใครทำอะไรหรือปวดท้อง" ผมถามพร้อมกับเอามือไปแตะที่ท้องใหญ่ๆของเธอ"อาร์ตชมกลัว ฮืออ ฮืออออ""กลัวอะไรครับไหนบอกผัวมาซิ""ฮึก ฮึก อีกไม่กี่วันลูกสาวของเราก็จะคลอดแล้วใช่ไหม""อื้มมใช่ทำไมเหรอ""ชมกลัวฮือออ ฮือออออกลัวลูกเกิดมาจะไม่สวยเหมือนชมเมื่อก่อนไง ฮืออ ชมสงสารลูกอ่าาาา ฮืออออ" ผมถึงกับถอนหายใจเมื่อได้ยินสิ่งที่เมียรักพูดทั้งน้ำตา "ที่ตื่นขึ้นมากลางดึกนี่แล้วร้องไห้นี่เพราะกลัวลูกจะเกิดมาไม่สวย??""อื้ออออ ใช่ ฮึก ฮึก""โอ๋ โอ๋ ไม่เป็นไรน๊าาา ถ้าลูกไม่สวยเดี๋ยวปะป๊าคนนี้จะพาลูกไปเกาหลีเองจะให้หมอทำให้สวยเหมือนเจนี่แบล็คพิ้งค์
ชมจันทร์....ตอนนี้ฉันอยู่ที่สนามบินเพื่อมาส่งยัยพินกับหมอพีไปอเมริกาส่วนอาร์ตไม่ได้มาเพราะจู่ๆเขาก็รู้สึกเวียนหัวหน้ามืดฉันก็เลยต้องมาคนเดียวแล้วให้เขานอนพักอยู่ที่ห้อง"เดินทางปลอดภัยนะแก แกไม่อยู่ฉันคงเหงามากเลย""แกอย่ามาพูดว่าเหงายัยชมฉันเห็นแกที่ไหนที่นั่นก็ต้องมีคุณอาร์ตอยู่ด้วยตลอดเวลามีแฟนตามติดเป็นเงาตามตัวขนาดนั้นแกจะเหงาได้ยังไงจ๊ะเพื่อนรัก^^" ฉันโดนยัยพินแซวแต่เรื่องนี้ไม่เกินจริงเลยสักนิดคือตอนนี้ฉันไม่ได้ทำงานที่โรงพยาบาลแล้วเพราะอาร์ตบังคับให้ฉันลาออกเนื่องจากว่าแม่ของหมอพีพอรู้เรื่องที่ฉันกับหมอพีไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วแต่ไม่ยอมบอกกับท่านท่านก็เลยมาพาลด่าหาว่าฉันหลอกท่านทำให้ท่านพลาดโอกาสที่จะหาผู้หญฺิงที่เพียบพร้อมและเหมาะสมให้กับหมอพีแล้วแม่หมอพีก็ยังพาลเข้าใจผิดอีกหาว่าฉันยุยงส่งเสริมให้ยัยพินไปหลอกหมอพีแล้วก็ปล่อยให้ท้องเพื่อจับหมอพีฉันนี่อายมากเพราะไม่เคยเจอใครมาด่าต่อหน้าขนาดนี้ ตอนที่แม่หมอพีด่าฉันอาร์ตก็เดินเข้ามาได้ยินพอดีเขาโกรธและไม่พอใจเป็นอย่างมากก็เลยด่าแม่หมอพีไปชุดใหญ่จนคนทั้งแผนกหันมามอง แล้ววันนั้นอาร์ตเขาก็สั่งให้ฉันลาออกทันทีเขาบอกว่าเมียคนเดียวเขาเลี
หมอพี...ผมไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีและมีความสุขได้มากขนาดนี้ ตั้งแต่เด็กจนโตตั้งแต่จำความได้ผมไม่เคยมีความสุขมากเท่านี้มาก่อนตอนนี้ผมมีผู้หญิงที่ผมรักและกำลังจะมีลูกกับเธอซึ่งอาจจะได้ลูกแฝดก็เป็นได้ แต่ผมคิดว่ามีทางเป็นไปได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะผมเคยมีพี่ชายฝาแฝดแต่เขาไม่อยู่แล้วเขา..ฆ่าตัวตายเพราะโดนกดดันจากแม่ที่บังคับเขาทุกอย่างพอพี่ชายผมเสียไม่นานพ่อของผมก็ขอหย่ากับแม่พ่อโยนความผิดไปให้แม่บอกว่าเพราะแม่ถึงทำให้พี่ชายผมคิดสั้นตอนนั้นแม่ผมเสียใจมากแทบจะฆ่าตัวตายตามพี่ชายผมไป ผมสงสารแม่มากก็เลยปลอบแม่และบอกกับแม่ว่าแม่ยังมีผม และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแม่ก็โยนความหวังทุกอย่างมาให้ผมซึ่งผมก็ขัดคำสั่งแม่ไม่ได้เพราะกลัวว่าท่านจะเสียใจแล้วทิ้งผมไปอีกคน เรื่องพี่ชายฝาแฝดของผมไม่มีใครรู้ทุกคนคิดว่าผมเป็นลูกชายคนเดียวของแม่ ตอนนั้นผมต้องทนรับแรงกดดันทุกอย่างแม่สั่งให้ทำอะไรเรียนอะไรผมก็ทำตามที่ท่านต้องการทุกอย่างจนกลายเป็นความเคยชินของแม่ ถ้าผมไม่ทำตามท่านก็จะขังผมไว้ในห้องไม่ให้ออกไปไหนไปเจอใคร ตอนนั้นผมรับรู้ถึงความรู้สึกของพี่ชายว่าเพราะอะไรเขาถึงคิดสั้น มีหลายครั้งที่ผมอยากทำแบบพี่แต่สุดท้า