ซัน : สองต่อสองคืออะไรผมไม่รู้จัก? กิจกรรมสนุก ๆ มันต้องอยู่กันหลาย ๆ คนสิวะ ยัยหุ่นบึ๊มก็เหมือนกัน สักวันผมจะลากมาร่วมวง! จูน : คนอย่างไอ้พี่ซันเหรอคะ? เป็นผู้ชายที่เกิดมามีหน้าที่แค่อย่างเดียวจริง ๆ คือการสร้างความสุขให้กับผู้หญิงบนเตียงเท่านั้นอย่าเผลอเอามาเป็นพ่อพันธ์เชียวนะสงสารอนาคตของชาติ!
View More...ผู้ชายสันดานหมา ๆ ก็ได้มองแค่ขาอ่อนจูนเท่านั้นล่ะค่ะ อ้อ! ไม่ได้มองเพราะความสามารถของเขานะ แต่ได้มีวาสนาตาก็เพราะน้องจูนใจบุญล้วน ๆ
-KaLaGiNee Bar-
“วันนี้ก็แซบค่า”
“เช่นเคยจ้ะมาร์กี้คนสวย ไม่แซบไม่ใช่จูน” แค่เดินเข้ามากระเทยตัวแม่อย่างอีมาร์กี้ หรือไอ้มาโนช อดีตหนุ่มป๊อบของโรงเรียนประจำจังหวัดก็ดังทักทายเพื่อนจูนแล้ว
“ก็นะ หาผัวให้ได้ค่อยเชิดไม่มองพื้น” แค่ตอบประโยคมั่นหน้านิดเดียวอีมาร์กี้ก็เบ้ปากใส่จูนซะแล้ว
“ไม่เอาค่ะกาลกิณีบาร์มีแต่หมาไม่มีเทพบุตร”
“อีดอก! บาร์กูออกจะมีแต่หนุ่มหล่อน่าจับมาฟาดทั้งนั้นแหกตาดูซะบ้างอีจูน”
“ฟาดตูดกับมึงน่ะสิอีเก้ง หยุดกระแนะกระแหนเรื่องความสวยและโสดของกูซะที เลิกปากหมาแล้วบริการลูกค้าเดี๋ยวนี้ค่ะ now!”
“อีจูนอีผี! อีผีแม่ม่ายมาสิงคนสวย!” ฮ่า ๆๆ อีมาร์กี้หรือไอ้มาโนชเพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยมปลายของน้องจูนกระชากเสียงกร่นด่าใส่หน้าคนสวยเวอร์อย่างจูนแล้วก็เดินจากไป มันไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะแต่มันเดินไปหาเครื่องดื่มมาให้ต่างหาก
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อจูนนะคะ เป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ แม่เป็นคนไทย ส่วนพ่อเป็นลุงฝรั่งที่มีหัวใจโคตรรักความเป็นไทย ต้นกำเนิดการมีชีวิตของน้องจูนคนสวยที่มีชื่อสั้น ๆ ว่าจูน จูนจริง ๆ ชื่อโคตรสั้นและโคตรไม่ลูกครึ่ง คือมันมีความเป็นมาแบบนี้ค่ะ
พ่อฉันเป็นคนอังกฤษเมืองผู้ดี ตอนจบเกรด 12 กำลังจะขึ้นมหาวิทยาลัยพ่อก็มาเที่ยวเมืองไทย พอมาเที่ยวก็เกิดชอบเลยขอปู่กับย่ามาเรียนที่นี่ซะเลย มาเรียนแล้วยังไงต่อคะ ก็บุพเพสันนิวาสนำพาให้ไปเจอแม่ในวันพระจันทร์เต็มดวงไง คืนวันเพ็ญเดือนสิบสองแล้วก็พบรัก คบกัน เรียนจบ แต่งงาน มีลูก
ด้วยความที่พ่อรักความเป็นไทยมาก แล้วพ่อก็จำได้ดีว่าวันแรกที่พบแม่พระจันทร์มันโคตรสวย พอมีลูกก็ตั้งชื่อสั้น ๆ ตามความประทับใจที่ตราตรึงไม่รู้ลืมว่า จันทร์ ชื่อจันทร์สั้น ๆ ฮ่า ๆๆ แต่แม่แย้งว่าชื่อเหมือนยายทวดมากนั่นมันชื่อยายทวดเลยล่ะ พ่อเลยเปลี่ยนจากจันทร์เป็นเอาเดือนเกิดมาผสม ฉันเกิดเดือนกรกฏาคม = July อ่านว่า จูลาย จูลายตัดอายข้างหลังไปเหลือจูล แต่จูลมันทำไมฟังดูแปลก ๆ จังเลยพ่อเลยเอาจูล กับ จันทร์มายำรวมกันกลายเป็น...
...กลายเป็นน้องจูนค่า!!!
ฮ่า ๆๆ ชื่อสั้น ๆ แต่โคตรมีที่มา ชื่อโคตรโหลแต่พ่อกับแม่สร้างประวัติความเป็นมาให้มันดูมีมูลค่าได้โคตรเจ๋งเลยใช่ไหมล่ะ
ปัก!
“มาแล้วค่ะ!”
“กระแทกกระทั้นทำตัวเป็นกาลกิณีต่อลูกค้ายิ่งกว่าชื่อร้านอีกนะคะมึงเนี่ย” ฉันยิ้มและกล่าวคำสรรเสริญอีเก้งเจ้าของร้านด้วยรอยยิ้ม
“มึงไม่หล่อไม่มีจู๋กูไม่ปฏิบัติดีค่ะ”
“ติดป้ายไฟหน้าทางเข้าเลยค่ะมาร์กี้เน้นคำโต ๆ ไปเลยว่า ไม่มีจู๋ห้ามเข้า”
“ว้าย! อีจจูนอีผี! อีชะนีปากร้าย”
“ฮ่า ๆๆ ดีใจที่มึงด่า ไปค่ะไปบริการผู้ชายเถอะอย่าสนใจชะนีสวย ๆ แบบกูเลย” แค่ได้ทำให้มาร์กี้มันด่าเล็ก ๆ น้อย ๆ น้องจูนคนนี้ก็อารมณ์ดีแล้ว ส่วนอีมาร์กี้ก็มองค้อนแล้วก็เดินบิดตูดไปคอยบริการแขกผู้ชายตามคำแนะนำของฉันจริง ๆ
กลับมาที่เรื่องของฉันดีกว่าค่ะ ฉันอายุ 22 ปี เพิ่งเรียนจบ จบแบบเพิ่งจบมาหมาด ๆ งานการยังไม่มีทำแต่ความว่างมันเยอะก็เลยออกมานั่งดริ๊งซ์กับเพื่อนบ่อย ๆ ถ้าไม่ได้นัดเพื่อนก็มีที่นี่ ๆ แหละ อีกาลกิณีบาร์ที่มีเจ้าของเป็นตัวกาลกิณียิ่งกว่าชื่อผับเป็นที่สิงสถิตเพราะมันเป็นของเพื่อน มาคนเดียวได้เพราะถ้าเมาเดี๋ยวมันลากกลับเอง อิอิ
อ้อ ๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องของจูนนะคะ แต่อย่างจูนอย่าเรียกว่านางเอกเลย คุณสมบัติไม่ครบมีดีก็แค่สวยมาก สวยเวอร์ สวยกินคน กินผี กินยันซาตาน แต้มบุญก็เช่นกัน แต้มบุญไม่ถึงหรอกไม่น่าจะเป็นนางเอกได้ เอาเป็นว่าเรื่องนี้น้องจูนเป็นตัวเอก เป็นแค่ตัวเอกก็พอเพราะฉันไม่อยากเป็นนางเอก การเป็นนางเอกมันจะมีเส้นบาง ๆ ของการต้องมีความน่ารักเอาไว้ซึ่งน้องจูนไม่น่าจะมี แหะ ๆ
“อีจูนขา~”
“เฮ้อ! ไม่ไปเวียนว่ายตายเกิดสักทีอีมาโนช กูจะนั่งดื่มและฟังเพลงอย่างสงบในกาลกิณีบาร์สักวันไม่ได้เลยสินะ”
“อีชะนีปากไร้คุณธรรม!”
“ไม่ต้องด่ากูต่อรีบพูดเรื่องของมึงมา”
“ชิส์! กูจะบอกว่ามีผู้ชายล้อหล่อเขาอยากเลี้ยงเหล้ามึงค่ะ” อีมาร์กี้กระซิบกระซาบและเอาไหล่มากระแซะฉันเหมือนตัวมันนั่นแหละที่โดนผู้ชายมาขอเลี้ยงเหล้าซะเอง
“หือ? คนไหนคะเพื่อนมาร์กี้” ได้ยินแบบนี้ก็หูผึ่งสิคะ เหล้าฟรีมันดีกับคนที่ไม่มีงานอิอิ
“คนนั้นค่ะเพื่อนจูนที่สูง ๆ หล่อ ๆ ตัวขาวออร่าเหมือนจะโปร่งแสงตรงมุมโน้น” แล้วอีมาร์กี้ก็ชี้นิ้วไปตรงนั้นด้วยความเขินอายและระริกระรี้
“หือ? ชื่ออะไรมึงรู้ไหม” ฉันมองไม่ค่อยชัดเท่าไหร่เพราะมันค่อนข้างไกลและมืดแต่รู้ว่าขาว ขาวมากจริง ๆ
“ชื่อนี้โลกต้องรู้เพราะคนหล่อต้องถูกจารึกชื่อเสมอ มึงฟังดี ๆ นะคะอีจูน”
“อย่าเยอะมาโนช”
“ชิส์! เออ ๆ เขาชื่อ...พี่ซัน” อีมาร์กี้บอกด้วยความอารมณ์เสียที่โดนฉันตัดบท
“ซัน?” ฉันทวนชื่อแล้วหรี่ตามองอีกครั้ง โชคดีที่ตอนนี้เป็นจังหวะที่ไฟมันสว่างขึ้นก็เลยมองเห็นหน้าคนคนนั้นได้ชัดเจน
“อีมาโนช” พอเห็นหน้าฉันก็รีบสะกิดอีมาร์กี้หรือไอ้มาโนชทันที
“อะไรคะหล่อใช่ไหมล่ะชะนี”
“...มึงไปบอกเขาให้กูหน่อย”
“โอ้โหเพิ่งเคยเห็นพุ่งใส่ผู้ชายที่มาขอเลี้ยงเหล้า เอาไงคะให้บอกว่า?”
“บอกว่ากูดื่มแต่ไวน์ไม่แดกเหล้า ไม่แหกตาดูให้ดีก็ไม่ต้องมาสาระแนขอเลี้ยง...ไอ้เส็งเค็งมะเร็งหำ!”
“อื้อ~ พี่ซัน~ ซี๊ด~ เสียว~” จูนร้องครางเพราะผมกำลังดูดหน้าอกเธอพร้อมกับกดนิ้วกลางเข้าไปในร่องรักช้า ๆจ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ~ผมดูดนมสองข้างสลับกันไปมา และการดูดนมแม่ลูกอ่อนสิ่งที่ตามมาก็คือน้ำนมที่เข้าไปในปากผมด้วย มันมีรสคาวนิด ๆ แล้วก็ออกหวานหน่อย ๆ รวม ๆ แล้ว...อร่อยดีครับ นมเมียจะรสไหนก็อร่อยทั้งนั้นนั่นแหละ ต่อให้มันมีแต่กลิ่นคาวไม่มีรสหวานเลยถ้าให้กินผมก็พร้อมกินด้วยความเต็มใจ“อื้อ~ มันคาวนะคะ” จูนลูบหัวผม เธอสอดนิ้วเข้ามาขยุ้มผมที่เปียกชื้น ปากบอกคาวแต่แอ่นอกให้ผมเต็มที่จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ~ผมไม่สนใจว่าเธอจะบอกว่าคาว ลูกกำลังหลับถึงตื่นกลางดึกจุ๊บแจงก็มีน้ำนมที่จูนปั๊มไว้ให้กินอยู่ดี เพราะฉะนั้นคืนนี้เมียผมจะคัดนมจนปวด ถ้าผมไม่ช่วยเมียผมก็คงนอนคัดนมทั้งคืน ทรมานแย่เลยครับ“อื้อ~ ที่รักขา เสียว ซี๊ด~” ยิ่งดูดเธอยิ่งครางดัง แล้วก็เป็นคนเอื้อมมือไปปิดน้ำด้วยตัวเอง ผมก็เลยอุ้มเธอขึ้นแล้วพาออกไปด้านนอก ก่อนที่จะยกเธอให้นั่งบนเค้าเตอร์ในห้องน้ำ“นมเมียพี่หวานมากรู้ตัวรึเปล่า” ผมบีบหน้าอกเธอเบา ๆ ส่วนจูนก็นั่งสูดปากมองผมแล้วก็ตั้งเข่ายกเท้าขึ้นวางบนขอบเค้าเตอร์เองโดยที่ผมไม่ต้องบอก ทำให้ตอนนี้
“ว่าไงครับหมูน้อยของคุณพ่อ” ผมกลับจากบริษัทก็พุ่งเข้ามาหาเจ้าหมูของผมทันที เด็กน้อยของผมชื่อว่าน้องเซนส์ครับชื่อนี้มาจากพ่อล้วน ๆ คุณแม่มือใหม่เธอเป็นคนตั้ง เธอบอกว่ายืนพื้น ซ.โซ่ มาจากชื่อพ่อ เป็นพยัญชนะต้น ส่วนสระ วรรณยุกต์ และตัวสะกดที่ตามมาแม่หมูเอามาจากเซนส์ของพ่อนี่ล่ะครับ เซนต์ที่จุ๊บท้องแล้วโดนลูกถีบปากก็มั่นใจบวกกับโมเมเอาว่าเป็นลูกชาย เซนส์มั่ว ๆ ของพ่อดันกลายเป็นเรื่องจริง ไอ้เจ้าหมูน้อยของผมก็เลยมีชื่อน่าหยิกว่า น้องเซนส์“วันนี้ไม่ยอมนอนกลางวันเลยค่ะ” จูนเดินเข้ามาแล้วก็บอกผมด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะเดินมานั่งที่พื้นข้างผม“แล้วเหนื่อยไหมครับ ไปนอนพักผ่อนนะเดี๋ยวพี่ดูลูกต่อเอง” ผมทัดหูให้จูนที่ยิ่งมีลูกก็ยิ่งสวยขึ้น มีน้ำมีนวลขึ้น“แค่เหนื่อยคุยค่ะ เด็กอะไรจ้อได้ทั้งวัน” จูนตอบแล้วก็หันไปทำหน้าหมั่นเขี้ยวลูกที่นอนอยู่บนเบาะ ไอ้หมูน้อยอายุได้สามเดือนแล้ว แถมตัวก็โคตรโต“ถ้างั้นเดี๋ยวคุณพ่อจะพาลูกหมูคุยต่อเองครับ คุณแม่ไปงีบนะดูแลเจ้าหมูน้อยมาทั้งวันแล้ว”“ไม่เป็นไรค่ะพี่ซันทำงานมาเหนื่อย ๆ จูนไม่ได้เลี้ยงคนเดียวซะหน่อย มีจุ๊บแจงช่วย”“พี่ก็ไม่เหนื่อยจ้ะวันนี้งานไม่ได้เยอะ ไ
“จูน”“คะ?”“วันนี้ปวดท้องอีกรึเปล่า”“ก็มีปวดเตือนนะคะ แต่แค่นิดหน่อย” พี่ซันถามแบบนี้ทุกวันตั้งแต่ฉันปวดท้องเตือนครั้งแรก เฮียแกก็ถามแบบถามนั่นล่ะค่ะ ถามจริง ๆ ถามร่ำไร ถามด้วยสีหน้าทั้งตื่นเต้นทั้งเครียด อารมณ์เวลาถามเรื่องนี้จะสวิงมาก“ทำหน้าเครียดอีกแล้วค่ะ” ฉันจับหน้าพี่ซันแล้วเอานิ้วคลึงหัวคิ้วที่ขมวดเป็นปมของเขา“พี่กลัวจูนเจ็บ”“เรื่องธรรมดาของผู้หญิงนี่คะเวลาคลอดลูก”“ไม่รู้สิครับ พี่เห็นจูนปวดเตือนแล้วพี่สงสาร ขนาดปวดเตือนยังร้องไห้แล้วถ้าคลอดจริงจูนจะเป็นยังไง” ตอนนี้ทั้งเสียงทั้งสีหน้าของเขามันดูเครียดมาก จนฉันอดยิ้มเอ็นดูไม่ได้“ใคร ๆ เขาก็คลอดลูกกันค่ะ ไม่ต้องกังวลเลยค่ะพี่ซัน”“แต่พี่ไม่อยากให้เมียพี่เจ็บ เปลี่ยนใจผ่าคลอดไหมที่รัก” คำถามนี้ถูกถามมารอบที่สิบห้าภายในระยะเวลาตลอดสามวันที่ผ่านมา เขากังวลกับการเจ็บปวดของฉันจนแทบจะไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว ยิ่งใกล้ถึงวันคลอดก็ยิ่งกังวลหนัก“พี่ซันคะพี่กำลังทำให้จูนกลัวนะ จากที่จูนพร้อมจะคลอดธรรมชาติแต่คุณพ่อกำลังทำให้คุณแม่กลัวความเจ็บ แล้วเดี๋ยวคุณแม่ก็จะเอาเก็บไปคิดจนนอนไม่หลับ”“เฮ้อ! พี่ขอโทษครับ เอาเป็นว่าวันคลอดพี่จะบีบม
“จูน ๆ จูนครับ”“คะ ฮ้าว~ มีอะไรคะ” ฉันลืมตาตื่นด้วยความสะลึมสะลือเพราะพี่ซันที่ปลุกฉันด้วยเสียงตื่นเต้นหรืออะไรสักอย่างฉันเองก็ยังจับใจความน้ำเสียงเขาไม่ได้“ลูก”“คะ? เป็นอะไรพี่ซันจูนง่วง”“ลูกครับ ลูก...ลูกถีบพี่” พี่ซันหน้าตื่นพูดไปยิ้มไปแต่ลูกอยู่ในท้องจะถีบพี่เขาได้ยังไง“ถีบได้ไงคะ ฮ้าว~” ฉันทั้งถามทั้งแคะขี้ตา มันสว่างรึยังก็ไม่รู้ อยากจะตีคุณพ่อจริง ๆ ที่ใจกล้ามาปลุกคุณแม่แต่เช้าแบบนี้“ถีบปากครับ”“หือ? ถีบได้ไงลูกอยู่ในท้อง พี่ซันฝันเหรอนอนต่อได้แล้วจูนง่วง” ฉันบอกแล้วก็หันไปกอดพี่ซันให้เขานอนสักที“ไม่ ๆ เมื่อกี้ลูกถีบพี่จริง ๆ นะจูน”“อื้อ~ พี่ซันนี่ยังไงจูนจะนอน” ฉันลืมตามองเขาพร้อมกับส่งสายตาให้รู้ว่าฉันต้องการนอนอย่าเพิ่งกวน“เหอะ! ก็แค่ตื่นเต้นที่ลูกดิ้น นอนไปเลยขี้เซา” พี่ซันบ่นฉันเบา ๆ แต่ก็ยอมนอนลงแล้วก็ขยับตัวให้ฉันนอนหนุนไหล่เหมือนที่ฉันชอบทำอยู่ทุกวัน แต่เมื่อกี้พี่เขาบอกว่ายังไงนะ...“ลูกดิ้นเหรอคะ?” นี่มันเข้าเดือนที่หกแล้วนี่คุณหมอก็บอกว่าเบบี๋จะเริ่มดิ้นแต่ฉันยังไม่รู้สึกว่าลูกดิ้นเลยสักครั้ง พอพี่ซันบอกคุณแม่ก็เลยตื่นเต้นจนแทบจะตื่นเต็มตา“ครับ”“อื้อ~ ทำ
“อ้วก!!!”“พี่ซัน ไหวรึเปล่าคะ”“อื้อ~ อุ๊! อ้วก!!!” ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมารอบนี้รอบที่สามแล้วที่คุณพ่อวิ่งเข้าห้องน้ำ น่าสงสารจริง ๆ หน้าซีดหมดแล้ว“น้ำค่ะ ล้างปากก่อนนะ” ฉันยื่นแก้วน้ำให้คนที่นั่งพิงผนังห้องน้ำข้างชักโครกด้วยท่าทางหมดแรง“ครับ”“ไหวรึเปล่าจูนว่าไปหาหมอดีกว่าไหม อ้วกเยอะมากเลย”“เคยไปแล้วครับ หมอตรวจแล้วไม่เจอโรค พอหมอรู้ว่าเมียท้องหมอไล่กลับบ้านเลย”“ฮ่า ๆๆ แล้วนี่ไปทำงานไหวเหรอคะ” ไม่รู้ว่าจะสงสารหรือจะขำดีนะ“ช่วงนี้คุณพ่อท่านไปดูแลบริษัทแทนน่ะ ตั้งแต่จูนหนีนั่นแหละ ช่วงเช้ากับกลางวันพี่จะแพ้ท้องแทนเมียหนักเลยไปไหนไม่ค่อยไหว” ฉันค่อย ๆ พยุงเขาให้ลุกขึ้น สภาพคุณชายสวิงมานั่งหมดแรงเกาะชักโครกแบบนี้มันดูไม่จืดจริง ๆ“คนเดียวพอนะคะสงสารคุณพ่อ ถ้าแพ้ท้องแทนจูนทุกครั้งพี่ซันได้ตายพอดี”“ไม่เอาพี่ไหว ขอลูกสักสามคนนะที่รัก คนเดียวลูกเหงาแย่” คนจะตายเพราะอ้วกรีบส่ายหน้า แถมมองหน้าเมียตาละห้อย“เลี้ยงไหวเหรอคะ” ฉันพยุงคนเก่งแต่ปาก แต่สังขารไม่ให้เลยสักนิดมานั่งที่เตียง“ผมเคยแสดงความยินดีกับคุณจูนแล้วนี่ครับที่มีผัวรวย”“จูนหมายถึงเลี้ยงให้เขาเป็นคนดีอ่ะ เลี้ยงไหวสั่งสอนไห
“ว่าไงครับเมีย ไม่อยากอาบน้ำก่อนแล้วเหรอ หืม~”“อื้อ~”“ถ้างั้นพี่พาไปอาบน้ำก่อนดีกว่า ไม่อยากขัดใจเมีย” พี่ซันพูดแล้วก็ทำท่าจะดึงนิ้วมือออกจากตัวฉัน“อื้อ~ จูน อ๊ะ! จูนขอ ซี๊ด~ ขอ...อาบน้ำพี่ซันก่อนได้ไหม”“จูน...รู้ตัวรึเปล่าว่าพูดอะไรออกมา” พี่ซันหยุดขยับนิ้วแล้วก็ถามฉันเสียงนิ่ง พอเห็นท่าทางของเขาฉันก็เกิดความรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา หรือเราหื่นจนเกินพอดี แต่เมื่อกี้อารมณ์มันพาไปจริง ๆ ก็เลยพูดแบบนั้นออกไป“คือ...”“พูดแบบนี้ไม่อยากนอนเหรอครับ หืม~” พี่ซันยิ้มให้ฉันจากนั้นเขาก็ก้มหน้าลงมาที่คอแล้วดูดเม้มเต็มแรงอีกครั้ง จากที่ใจเสียเลยแทบกรี๊ดกับการโดนจู่โจม“อืม~ เสียว~” ฉันจับหัวของเขาเอาไว้แล้วแหงนหน้าสูดปาก มันจะล้มแล้วจริง ๆ สยิวจนขาสั่น“ฮึ ๆ เมียพี่ก็เสียวทุกครั้งที่ผัวทำนั่นแหละ” พี่ซันขำเบา ๆ จากนั้นเขาก็ดึงนิ้วออกแล้วจับฉันให้หันหน้าไปหาเขาพอเราเผชิญหน้ากันตรง ๆ ต่างฝ่ายก็รีบผวากอดแล้วก็จูบกันด้วยความเร่าร้อนทันที พี่ซันดูดปากสอดลิ้นเข้ามากระหวัดเกี่ยวไล่ต้อนลิ้นของฉัน มือของเขาก็ทำหน้าที่จัดการกับเสื้อผ้าฉัน ส่วนฉันเองก็จัดการกับชุดที่มันเกะกะและบดบังหุ่นแน่น ๆ ของพี่ซันทั
Comments