Masukสกาวใจเดินมาหยุดหน้าห้องนอนของหลานชาย วันนี้นางตั้งใจจะพูดเกลี่ยกล่อมให้จอมทัพยอมแต่งงาน ถึงแม้ว่าจะหนักใจไม่น้อยกับภารกิจนี้ แต่พอนึกถึงผลประโยชน์ที่ตนจะได้ ทำให้กำลังใจพุ่งสูง แผนการพูดหว่านล้อมก็บังเกิด แล้วคิดว่ามันจะสำเร็จสวยงามตามตั้งใจ ก่อนจะรวบรวมพลังเคาะประตูห้อง อึดใจต่อมาประตูห้องบานนั้นก็เปิดออก
“ย่ามีเรื่องจะคุยด้วย ใหญ่พอมีเวลาให้ย่าไหมลูก”
จอมทัพชะงักไปเล็กน้อยกับประโยคที่ได้ยิน เพราะตลอดหลายปีมานี้ สกาวใจไม่เคยมาหาเขาที่ห้อง หากจะมีเรื่องคุยก็ไปคุยระหว่างทานอาหาร หรือไม่ก็ในห้องรับแขก ห้องนั่งเล่นแล้วแต่โอกาส การที่สกาวใจมาหาเขาในวันนี้ ต้องมีเรื่องสำคัญจะพูดด้วยแน่นอน ในใจคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องการถูกคลุมถุงชน
“เชิญครับคุณย่า” สกาวใจก้าวเข้าไปในห้องหลานรัก ทรุดกายลงนั่งบนโซฟาปลายเตียง โดยมีจอมทัพนั่งอยู่ใกล้ๆ “คุณย่ามีอะไรจะพูดกับผมครับ”
“ย่าพูดตรงๆ นะใหญ่ ย่าอยากให้ใหญ่แต่งงานตามที่คุณปู่บอก”
จอมทัพอึ้งและตกใจ ที่อยู่ๆ สกาวใจก็มาพูดให้เขายอมทำตามความต้องการของลิขิต ทั้งที่เมื่อวานนี้สกาวใจมีทีท่าไม่เห็นด้วย แต่เหตุใดวันนี้หนังมันคนละม้วน
“ผมขอโทษนะครับที่ทำตามที่คุณย่าบอกไม่ได้ ผู้หญิงที่ผมจะแต่งงานด้วยคือน้ำหวานคนเดียวครับ ถ้าผมไม่ได้แต่งกับน้ำหวาน ผมก็จะไม่แต่งงานกับใครอีกเลยตลอดชีวิต”
จอมทัพบอกผู้สูงวัยเสียงหนักแน่น แววตาจริงจังจนสกาวใจนึกหวั่นขึ้นมาว่า นางจะพูดให้หลานชายยินยอมได้หรือไม่
“ย่ารู้ว่าใหญ่รักน้ำหวาน ย่าเองก็เอ็นดูน้ำหวานเช่นกัน แต่ย่าคิดว่า ใหญ่ต้องแต่งงานครั้งนี้นะลูก”
“ทำไมผมต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักด้วย ผมทำใจไม่ได้หรอกครับ อีกอย่างผมรักน้ำหวานและเป็นคนรักษาสัญญา ผมให้สัญญากับน้ำหวานไว้ว่า จะแต่งงานกับเธอหลังจากที่น้ำหวานจบปริญญาเอก ผมไม่มีวันผิดสัญญาครับ ยังไงผมก็ไม่แต่งครับ” เขายังตั้งมั่นในจุดเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทว่าสกาวใจก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“ย่ามีเหตุผลนะลูก แล้วย่าก็อยากให้ใหญ่ฟังย่าพูดให้จบก่อน แล้วต่อจากนั้นใหญ่จะตัดสินใจยังไงมันก็เป็นสิทธิ์ของใหญ่” สกาวใจเห็นว่าจอมทัพนิ่งเงียบคล้ายกับว่า ยอมรับฟังเหตุผล นางจึงรีบพูดต่อ “เหตุผลของย่าคือ ถ้าใหญ่ไม่แต่งงานกับผู้หญิงที่คุณปู่หาให้ คุณปู่จะยกทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งให้ผู้หญิงคนนั้น ส่วนอีกครึ่งจะยกให้การกุศล เราทุกคนก็จะไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้ ทรัพย์สินต่างๆ ที่เราครอบครองคุณปู่ก็จะยึดหมด รวมทั้งเงินในบัญชีก็จะเอาไปให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เท่ากับว่าเราเป็นคนหมดตัว ต้องเริ่มต้นกันใหม่ สำหรับใหญ่ ใหญ่อาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย ใหญ่เก่ง มีความสามารถ มีความรู้ ย่อมหาทางเอาตัวรอดได้ แต่ใหญ่อย่าลืมนะว่า ย่าแก่แล้ว พ่อแม่ของใหญ่ก็อายุมากขึ้น จะให้ลำบากตอนแก่อย่างนั้นหรือ ไหนจะสาวกับหน่อยอีก สองคนนี้เคยลำบากซะที่ไหน หมดเนื้อหมดตัวจะอยู่ได้เหรอ แต่ถ้าใหญ่แต่งงานทุกอย่างก็เหมือนเดิม”
สกาวใจพยายามคิดหาทางเกลี่ยกล่อมหลานรักมาตลอดทั้งคืน มีแผนการมากมายไหลเข้ามาในหัว ทว่าสุดท้ายนางก็เลือกใช้วิธีนี้ที่มีทางสำเร็จมากที่สุด
จอมทัพมีสีหน้าตกใจและแปลกใจในเวลาเดียวกัน ยิ่งได้ยินคำพูดของคนเป็นย่า เขายิ่งไม่เข้าใจลิขิตมากขึ้น ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงอยากให้ตนแต่งงานกับผู้หญิงที่หาให้มากถึงเพียงนี้ มากจนยกทุกสิ่งอย่างที่สร้างมาให้กับหญิงสาวคนนั้น ทั้งที่ไม่ใช่นิสัยของลิขิตที่จะบังคับลูกหลานให้ทำตามที่ตัวเองต้องการ
“ผมไม่เข้าใจคุณปู่ว่า ทำไมท่านถึงทำแบบนี้ ผู้หญิงคนนั้นมีดีอะไร ถึงอยากให้ผมแต่งงานด้วย ถึงได้ตั้งข้อแม้บ้าๆ นี้ขึ้นมา” จอมทัพทำสีหน้าคิดไม่ตก “แล้วคุณย่าทราบหรือไม่ครับว่า ผู้หญิงที่ผมจะแต่งงานด้วยคือใคร”
“ย่าก็ไม่รู้หรอกลูก ย่าลืมถามคุณปู่ ตอนนั้นย่ามัวแต่ตกใจที่ได้ยินคุณปู่พูดว่าจะยกสมบัติให้มัน” นางจะตอบคล้ายแก้ตัว “ตกลงใหญ่จะแต่งงานไหมลูก ในความคิดของย่านะ ย่าว่าใหญ่แต่งงานตบตาคุณปู่ไปก่อน ให้คุณปู่เห็นว่า ใหญ่ทำตามที่คุณปู่ต้องการ เหมือนกับแต่งงานในนาม แล้วปล่อยเวลาไปสักพัก จากนั้นก็หาทางเลิกกับมัน ย่าจะช่วยใหญ่เรื่องนี้เอง ย่าจะบีบมันจนอยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็ทำท่าบึ้งตึง แข็งกร้าวใส่มันบีบมันอีกทาง ย่ารับรองว่า มันอยู่ไม่ได้แน่ๆ แค่นี้เราก็ยังได้สิทธิ์ที่เราจะได้ตามเดิม ใหญ่ว่าดีไหมลูก”
จอมทัพคิดตามคำพูดของสกาวใจ หากเขายอมทำตามความต้องการของลิขิต ครอบครัวเขาก็ยังคงอยู่ในฐานะเดิม ทุกคนยังคงสุขสบายบนกองเงินกองทอง อยู่ในสังคมเลิศหรู แต่ถ้าไม่ทุกสิ่งอย่างก็จะตรงกันข้าม เขาจะทนเห็นสภาพของทุกคนได้อย่างนั้นหรือ ราวกับว่าอนาคตของทุกคนอยู่ในการตัดสินใจของเขาในวันนี้ ลิขิตทำเช่นนี้เสมือนไม่ให้ทางเลือกกับเขาเลย
แต่ถ้าหากเขายอมแล้วทำตามคำแนะนำของสกาวใจ นั่นก็เท่ากับว่าจอมทัพผิดสัญญาที่ให้ไว้กับธนัสสรณ์ เธอจะรู้สึกเช่นไรหากตนบอกว่าจะต้องแต่งงานกับหญิงอื่น เธอต้องเสียใจแน่นอน
“ใหญ่ทำตามที่ย่าบอกนะ ย่าว่ามันดีที่สุดแล้ว ส่วนเรื่องน้ำหวาน ใหญ่ก็บอกน้ำหวานไปตามตรงว่า เรื่องมันเป็นแบบนี้ รอให้ถึงวันที่เลิกกับแม่นี่ก่อน แล้วใหญ่ค่อยไปแต่งงานกับน้ำหวาน ย่าเชื่อว่าน้ำหวานต้องเข้าใจใหญ่แน่ๆ จ้ะ แต่ถ้าใหญ่ยังกังวล ให้ย่าโทรไปคุยกับน้ำหวานเองก็ได้นะ”
สกาวใจคาดเดาได้ไม่ยากว่า เรื่องที่จอมทัพวิตกคือเรื่องใด นางจึงพูดเปิดทางในการแก้ปัญหาให้หลานรัก แม้ว่าจะรู้สึกสงสารจอมทัพไม่น้อย แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อข้อเสนอของลิขิตเป็นแรงจูงใจอันล้ำเลิศ ที่ทำให้นางมองข้ามความทุกข์ของหลาน เห็นผลประโยชน์จองตนเองเป็นที่ตั้ง
จอมทัพถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาเป็นคนไม่ยอมคน ไม่ยอมให้ใครมาบังคับในเรื่องที่ไม่ปรารถนาจะทำง่ายๆ แต่เรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขาเพียงคนเดียว ยังมีอีกหลายคนเข้ามาเกี่ยวข้อง หากลิขิตจะยึดสิทธิ์ที่ตนจะได้เพียงคนเดียว จอมทัพจะไม่ยอมอ่อนเด็ดขาด ชายหนุ่มถึงกับถอนใจเฮือกใหญ่ ความหนักใจแน่นไปทั่วอก
Chapter 93“ปู่ไม่เครียดก็ได้ แต่ต้องสัญญากับปู่นะว่า จะไม่ปิดกั้นตัวเอง”“ค่ะคุณปู่” รุ่งอัมพรรับปาก “เย็นนี้สาวตั้งใจทำกับข้าวให้คุณปู่กินค่ะ คุณปู่อยากกินอะไรคะ”ลิขิตทำท่านึกก่อนจะตอบ “อยากกินต้มยำทะเล ข้าวผัดปู คะน้าน้ำมันหอย”“ได้เลยค่ะ รับรองเย็นนี้คุณปู่พุงกางแน่”“ปู่ไม่กลัวพุงแตก แต่กลัวว่าจะกินกับข้าวฝีมือเราไม่ได้มากกว่า” ปู่หยอกเย้าหลานสาวคนโตกลับ ทั้งที่รู้เต็มอกว่า ฝีมือการทำอาหารของรุ่งอัมพรไม่เป็นรองใคร“แหม คุณปู่พูดอย่างนี้ กำลังใจสาวหดเหลือนิดเดียวเอง ใช่สิ...คุณปู่มีเหลนคนโปรดแล้วนี่ หลานสาวคนนี้ก็เลยตกกระป๋อง” รุ่งอัมพรทำท่างอนไม่จริงจัง พูดติดตลกว่า “สงสัยสมบัติคงจะไหลเข้าไปอยู่ในกระเป๋าน้องนิวคนเดียวแน่ๆ งานนี้สงสัยต้องหาผัวรวยๆ ไว้เลี้ยงตัวเองซะแล้ว”ทั้งหมดพากันหัวเราะกับประโยคจิกกัดของรุ่งอัมพร ที่ผู้พูดพูดเองยังนึกขำไปด้วย เป็นเสียงหัวเราะที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข เด็กชายจอมพลเข้ามาเติมเต็มความสุขให้กับครอบครัวรุจิเวโรจน์ให้เพิ่มมากขึ้น และจะเพิ่มมากขึ้นทุกๆ วันนับต่อจากนี้ ตกบ่าย หลังจากให้นมจอมพลและกล่อมจนหลับ ศรัญญาก็ได้มีเว
Chapter 92“ไม่ต้องกลัวนะแก้ว พี่จะอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน” เขาให้กำลังใจศรัญญา“ค่ะพี่ใหญ่” และแล้วเวลาที่ทั้งสองรอคอยก็มาถึง ทุกขั้นตอนระหว่างการผ่าคลอด จอมทัพทำหน้าที่บันทึกไว้ในกล้องวิดีโอทุกขึ้นตอน จนกระทั่งวินาทีสำคัญ ทารกน้อยเพศชายออกจากครรภ์ศรัญญา“ลูกชายของเราน่ารักน่าชังมากๆ เลยแก้ว” จอมทัพบอกภรรยา ในขณะที่พยาบาลนำทารกมาให้ผู้เป็นแม่ดู ศรัญญาน้ำตาไหลเมื่อเห็นหน้าลูก แล้วยิ่งได้ยินประโยคต่อมาของสามี เธอก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้ “พี่รักแก้ว รักมากที่สุด”คำรักมาพร้อมกับจุมพิตที่แนบลงบนหน้าผากของเธอ ศรัญญายิ้มอย่างมีความสุข เธอรู้มาตลอดว่าเขารักตน เพียงแค่ว่าเขาไม่เคยเอ่ยปาก แล้ววันนี้จอมทัพก็ได้เอ่ยคำนั้นออกมาแล้ว ศรัญญาสุขล้นทั้งกายและใจ สามเดือนต่อมา รถตู้สีดำแล่นมาจอดหน้าบ้านสุขเกษม จอมทัพอุ้มเด็กชายจอมพล รุจิเวโรจน์ หรือน้องนิววัยสามเดือนก้าวลงมาเป็นคนแรก ตามด้วยศรัญญา รุ่งอัมพร รุ่งทิวาและตบท้ายด้วยตาล สาวใช้ที่ติดสอยห้อยตามไปทุกที่ ก่อนที่ทั้งหมดจะก้าวเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ พอก้าวเข้าไปในห้องโถงใหญ่ พวกเขาก็พบว่า เจ้าของบ้านมานั่งรอด้วยใบหน้ายิ
Chapter 91 หนึ่งปีผ่านไป บ้านสุขเกษมคือบั้นปลายชีวิตของลิขิตกับสกาวใจ ทั้งสองตัดสินใจไปอยู่ที่นั่นแบบถาวร เป็นเพราะสถานที่แห่งนี้เหมาะกับการพักผ่อน บรรยากาศดี สภาพแวดล้อมไร้มลพิษ เหมาะกับการพักรักษาตัวของลิขิตเป็นที่สุด โดยมีนภาพรเป็นผู้ร่วมอาศัยด้วยอีกคน แต่ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะอยู่ห่างไกล ทว่าลูกหลานก็หมั่นไปเยี่ยมเยียนเสมอ บางครั้งวิมุตกับดวงดารามาอยู่นานเป็นเดือน ทางด้านจอมทัพ หลังจากทุกอย่างลงตัว เขาได้เดินมาหาศรัญญาพร้อมกับต้นดอกรัก ใบหน้าจอมทัพเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่คนที่มองเห็นรู้สึกงง โดยเฉพาะต้นดอกรักในมือหนา “พี่มีเรื่องอยากจะให้แก้วช่วย”สรรพนามที่ทั้งคู่เคยใช้ ฉันและเธอ เวลานี้ได้เปลี่ยนไป เสมือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง “ช่วยอะไรคะ” ศรัญญายังงงไม่หาย “ช่วยปลูกดอกรักของเราให้เติบโตและงอกงามไง” จอมทัพยิ้มให้เธอ “พี่รู้ว่า ตลอดระยะเวลาที่เราแต่งงานกัน พี่เป็นสามีที่ไม่ดี ไม่ดูแลแก้วเหมือนกับที่ควรจะเป็น แถมยังทำร้ายจิตใจแก้วสารพัด พี่ขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา พี่สัญญ
Chapter 90 “อา...อืม...คุณจิม”เธอเปล่งเสียงครางทรมานอันแสนสุขตลอดเวลาที่เขาสร้างความสุขให้ตน ศตวรรษเองก็ยังคงลิ้มรสความหอมหวานจากน้ำเสน่หาที่เขาไม่คิดจะละห่าง เพราะทั้งกลิ่นและรสมันทำให้หัวใจเขาเต้นเร่า ร่างกายดูสมบุกสมบรรณ ทุกสัดส่วนตื่นตัวจนทนไม่ไหว แต่ก็ยังเชยชมดอกทิวลิปช่อน้อยต่อไป สร้างกระแสลาวาปรารถนาให้เธอ“หวานที่สุด ชื่นใจจัง”เขาบ่นพึมพำอยู่บริเวณนั้น เน้นขบเม้มทับทิมสวาทจนเธอสะดุ้งเฮือก ครางเสียงกระเส่า ความรัญจวนไม่ต้องพูดถึง ทะลุเพด่านความรู้สึก สูงลิบลิ่วไปบนท้องนภา“อา...อา...อืม...คุณจิม...คุณจิม...พะ...พอคะ”มันเกิดขีดสุดที่ไพลินจะทานรับได้ เธอร้องขอเขา แต่เขากลับไม่สนใจ ชื่นชมทิวลิปงามต่อไป ทว่าศตวรรษสร้างความทรมานอันแสนสุขให้เธอได้ไม่นาน เพราะเวลานี้ ความอดทนอดกลั้นของตนก็จวนเจียนจะไม่ไหว ร่างกายตอบสนองความใคร่ทุกสัดส่วน รีบสะบัดผ้าขนหนูที่พันกายไว้ทันที“ฉันต้องการเธอ...หลิน...เมีนรักของฉัน” เขาไม่รอช้า แทรกความเป็นชายเข้าสู้ถ้ำสวาทที่รู้สึกถึงความซาบซ่านอย่างอธิบายไม่ถูก แต่ที่รู้สึกได้คือ ขนในกายลุกเกลียว ฝ่าความคับแน่นที่แน่นจับจิตจับใจ“โอ๊ย...คุณจิม...คุณจิ
Chapter 89“คุณแม่จะทำอย่างนี้ทำไมคะ”“ก็อยากได้เธอมาเป็นสะใภ้น่ะสิคุณแม่วางแผนตั้งแต่ต้นแล้ว ตั้งแต่ขอตัวเธอมาเป็นเลขาส่วนตัว และทำให้ฉันหึงเธอต่างๆ นานา ที่ฉันรู้เพราะฉันเป็นลูกคุณแม่ ย่อมรู้นิสัยคุณแม่ดีกว่าใคร เพียงแค่ว่าฉันไม่พูดก็แค่นั้น ท่านอยากทำอะไรฉันก็ให้ท่านทำไป คล้อยตามไปตามแผน ซึ่งมันก็ส่งผลดีกับฉันด้วย เพราะในที่สุดเราก็ได้แต่งงานกัน”ทุกเรื่องที่วิมาลทำ ศตวรรษรู้ทุกอย่าง แต่เขาเลือกที่จะไม่พูด เดินไปตามเกมของมารดา เพราะคิดว่า เรื่องนี้ตนมีแต่ได้กับได้ แล้วจะค้านไปเพื่ออะไรไพลินเพิ่งเข้าใจเรื่องทั้งหมด เธอเองก็เคยสงสัยว่า เหตุใดวิมาลาต้องให้ตนไปเป็นเลขาส่วนตัวชั่วคราวด้วย ทั้งที่นางมีคนทำงานแทนพี่แนนหลายคน เลือกมาสักคนก็ได้ หรือจะให้วลีมาทำแทนก็ได้ แต่นางกลับเลือกตน ที่แท้เหตุผลเป็นเช่นนี้เอง“แล้ว...” เธอกำลังจะถามต่อ แต่เขาไม่ยอม“นี่แม่คุณ นี่คืนเข้าหอนะ จะมาเล่นร้อยแปดคำถามทั้งคืนหรือไง” ศตวรรษทำเสียงดุ “ฉันว่าเราปั้มหลานให้คุณแม่ดีกว่า ก่อนออกจากห้องเธอไม่ได้ยินเหรอว่า คุณแม่สั่งให้เรามีลุกเร็วๆ อย่าทำให้คนแก่ต้องคอยนานเลยนะ เริ่มเลยดีกว่า”ศตวรรษรอคอยช่วงเวลานี้จ
Chapter 88 “รับรองครับว่า คุณแม่ได้อุ้มหลานแน่ๆ” ฝ่ายลูกชายก็รับลูกคู่แม่สุดที่รัก “ผมกับหลินจะทำเต็มที่ครับ”วิมาลายิ้มกว้าง ตบบ่าศตวรรษ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้เจ้าบ่างเจ้าสาวอยู่กันตามลำพัง ทันทีที่ประตูห้องหอปิดลง ไพลินลุกขึ้นยืน ร่างสาวสั่นเล็กน้อย แต่หัวใจสั่นยิ่งกว่า เพราะตอนนี้เธออยู่กันสองต่อสองกับเขา ช่วงเวลาที่เธอกลัวและกังวลมากที่สุดกำลังมาถึงแล้ว“หลินไปอาบน้ำก่อนนะคะ”เธอพูดจบก็รีบเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที ส่วนศตวรรษก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเดินผิวปากไปนอนหงายบนเตียง หันไปมองบานประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทอย่างคนอารมณ์ดีไพลินใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง พอเธอก้าวออกมาจากห้องดังกล่าวด้วยชุดคลุมสีขาว ศตวรรษก็เข้าไปทำธุระในห้องน้ำเป็นคนต่อไป ไพลินจึงใช้โอกาสนี้รีบเดินไปหยิบชุดนอนในตู้เสื้อผ้า แล้วสวมใส่ทันที ก่อนจะมาล้มตัวลงนอน ดึงผ้าห่มมาคลุมกายจนเห็นแต่ศีรษะ นอนใจเต้นระทึก แรงยวบของที่นอนทำให้คนที่กำลังนอนตะแคงตัวสั่น ใจสั่นถึงกับหายใจไม่สะดวก นอนตัวเกร็งอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา ยิ่งรับรู้ว่า คนตัวโตขยับเข้ามาใกล้ กายเธอก็แข็งทื่อ อยากจะขยับหนี แต่ทำไม







