Share

บทที่ 2

Author: สายลมไร้กาลเวลา
ของขวัญแรกพบหรือ?

องค์รัชทายาทและเหล่าองค์ชายต่างเผยรอยยิ้มเย็นชาที่มุมปาก

แค่สามัญชนคนหนึ่งยังจะนำของขวัญแรกพบมาด้วย?

ด้วยฐานะของพวกเขา ของล้ำค่าหายากอันใดบ้างที่ไม่เคยเห็น จะมาอยากได้ของจากสามัญชนเช่นเจ้าหรือ?

ทว่า ฉู่หวยที่ประทับอยู่บนบัลลังก์มังกรกลับเผยสีหน้ายินดีออกมา “ดูท่ามารดาของเจ้าจะสั่งสอนเจ้ามาเป็นอย่างดี นำของขวัญของเจ้าขึ้นมาสิ”

อย่างไรเสีย เขาก็เป็นบุตรของเรา ทั้งยังจะถูกส่งไปยังแนวหน้าเพื่อเป็นตัวตายตัวแทนด้วยน้ำมือของเขาเอง จะไม่รับของขวัญของฉู่หนิงเลยก็คงจะไม่ได้กระมัง?

ฉู่หนิงหยิบหยกแขวนขนาดครึ่งฝ่ามือออกมาจากอกเสื้อ “นี่คือของขวัญที่ลูกตั้งใจมอบให้เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ”

สีหน้าของฉู่หวยเปลี่ยนไปเล็กน้อย “รีบนำมาให้เราดูเร็วเข้า!”

หัวหน้าขันทีจ้าวหมิงรีบรับหยกแขวนมาทันที จากนั้นยื่นให้ฉู่หวย

เมื่อมองหยกแขวนที่ยังคงมีความอบอุ่นซึ่งอยู่ในมือ ฉู่หวยก็เผยสีหน้าหวนรำลึกถึงอดีต

นี่คือของขวัญที่เรามอบให้แก่มารดาของฉู่หนิง

คาดไม่ถึงว่านางจะเก็บรักษามันไว้ตลอด ทั้งยังส่งต่อให้ฉู่หนิงอีก

นาง คงจะเกลียดชังเราที่ไม่เคยไปหานางเลยกระมัง

“ของขวัญชิ้นนี้ เราชอบมาก!”

เมื่อจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้แล้ว ฉู่หวยก็กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกที่แฝงไปด้วยความรู้สึกผิดต่อมารดาของฉู่หนิง “เจ้ามอบของขวัญแรกพบให้เรา เราก็จะมอบของให้เจ้าหนึ่งชิ้นเช่นกัน”

“ใครก็ได้ นำกระบี่คู่กายของเรามามอบให้ฉู่หนิง”

ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา สีหน้าขององค์รัชทายาท เหล่าองค์ชาย และขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ต่างก็เปลี่ยนไปอย่างยิ่ง

กระบี่คู่กายของฮ่องเต้ นั่นคือสมบัติล้ำค่าประหนึ่งฮ่องเต้เสด็จมาด้วยพระองค์เอง มีกระบี่เล่มนี้อยู่ในมือ ย่อมไม่มีผู้ใดกล้าลบหลู่ฉู่หนิง

องค์รัชทายาทเป็นคนแรกที่ไม่ยอม รีบก้าวออกมายืนคัดค้าน “เสด็จพ่อ กระบี่เล่มนี้...”

“องค์รัชทายาท เจ้ากำลังสงสัยในการตัดสินใจของเราอย่างนั้นหรือ?”

ฮ่องเต้ตรัสขัดขึ้นก่อนที่องค์รัชทายาทจะพูดจบ “อีกไม่นานฉู่หนิงจะต้องไปทัพหน้า มีกระบี่เล่มนี้อยู่ในมือ จะได้ใช้ควบคุมเหล่าทหารที่แนวหน้าได้!”

องค์รัชทายาทไม่กล้าโต้เถียง ทว่าแววตาอันเย็นชากลับฉายแววอำมหิตแวบหนึ่ง

เขาแอบมองกระบี่เล่มนี้มานานแล้ว ไม่คิดว่าตอนนี้จะตกเป็นของฉู่หนิงเสียได้

ในขณะนั้น จ้าวหมิงถือกระบี่คมกริบในฝักสีเหลืองอร่ามมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉู่หนิง

ฉู่หนิงยื่นมือไปรับกระบี่ล้ำค่า กล่าวด้วยความตื่นตระหนก “เสด็จพ่อ กระบี่เล่มนี้ล้ำค่าเกินไป ลูกเคิดว่าท่านพี่องค์รัชทายาทดูจะชอบมันมาก ไม่สู้มอบกระบี่เล่มนี้ให้เขาดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

ดวงตาขององค์รัชทายาทเป็นประกาย!

นับว่าเจ้าเด็กนี่รู้จักกาลเทศะ ของที่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าควรจะได้ ก็สมควรจะเป็นฝ่ายมอบออกมาเอง!

องค์รัชทายาทมองฮ่องเต้ด้วยความยินดี “เสด็จพ่อ ยากนักที่ฉู่หนิงจะมีน้ำใจเช่นนี้ กระบี่เล่มนี้...”

ฉู่หวยทำหน้าบึ้ง “หึ กระบี่เล่มนี้ใช้สำหรับควบคุมเหล่าทหารแนวหน้า หรือว่าองค์รัชทายาทอยากจะไปแนวหน้า?”

องค์รัชทายาทถึงกับพูดไม่ออกในทันที

แม้จะอยากได้กระบี่เล่มนี้ แต่เขาก็ไม่อยากไปแนวหน้า

โชคดีที่ฮ่องเต้เองก็รู้ว่าการตำหนิองค์รัชทายาทต่อหน้าธารกำนัลจะเป็นการทำลายบารมีของเขา จึงหันไปมองฉู่หนิง “ของที่เรามอบให้เจ้า จะส่งต่อให้ผู้อื่นตามใจชอบได้อย่างไร?”

“เสด็จพ่อทรงสั่งสอนได้ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉู่หนิงก้มหน้ากล่าวอย่างนอบน้อม “เป็นเพราะลูกเพิ่งมาถึงจึงไม่เข้าใจกฎระเบียบ ถือโอกาสใช้ของขวัญแรกพบนี้เป็นการขอโทษท่านพี่องค์รัชทายาท”

พูดจบ เขาก็หยิบห่อผ้าออกมาจากแขนเสื้อ

หลังจากคลี่ผ้าที่ห่อไว้หลายชั้นออก ก็เผยให้เห็นของที่อยู่ข้างใน...ใบชาสีเขียวมรกตกองหนึ่ง!

ฉู่หนิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงใจ “ข้ารู้ว่าองค์รัชทายาทและเสด็จพี่ทุกท่านไม่ได้ขาดแคลนของล้ำค่าหายากอันใด แต่ใบชานี้ข้าเป็นคนปลูกและเก็บด้วยตนเอง ถือเป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ หวังว่าเสด็จพี่ทุกท่านจะรับไว้”

วุ่นวายมาตั้งนาน ทำทีลับ ๆ ล่อ ๆ บอกว่าเป็นของขวัญแรกพบ สุดท้ายกลับเป็นแค่ใบชากองหนึ่งอย่างนั้นหรือ?

แค่ชาเขียวธรรมดา ๆ ยังกล้าเอาออกมาให้ขายหน้าอีก?

มุมปากขององค์รัชทายาทกระตุก “น้ำใจของน้องสิบแปดพวกเราขอรับไว้ แต่ใบชานี้เจ้าเก็บไว้เองเถิด”

ฉู่หนิงถอนหายใจยาว “ท่านพี่องค์รัชทายาทไม่ชอบชาเขียวที่ข้าปลูกด้วยตนเองสินะ”

แววตาที่ผิดหวังนั้นถูกฮ่องเต้เห็นเข้าพอดี

เจ้าพวกลูกทรพี!

ถึงแม้ฉู่หนิงจะเป็นตัวตายตัวแทน แต่ก็เป็นน้องชายของพวกเจ้านะ

คนเขาให้ของขวัญยังจะรังเกียจอีก?

ฮ่องเต้เลิกคิ้ว “ยากนักที่ฉู่หนิงจะมีน้ำใจเช่นนี้ ใบชาพวกนี้เราและพวกเสด็จพี่ของเจ้ารับไว้แล้ว”

“จ้าวหมิง เจ้าเอาใบชาไปแบ่งให้พวกเขา”

หัวหน้าขันทีจ้าวหมิงรับคำ แล้วรับใบชาจากมือของฉู่หนิงไปแบ่งให้เหล่าองค์ชายคนละเล็กน้อย เหลือส่วนใหญ่ไว้แล้วนำไปถวายข้างกายฮ่องเต้

องค์รัชทายาทมองใบชาที่เขียวจนเรืองแสงในมือ แววตาเต็มไปด้วยความดูแคลน

เดี๋ยวออกจากท้องพระโรงไปแล้ว จะหาหมาสักตัวโยนให้มันกิน!

“เสด็จพ่อ ธุระต่าง ๆ จบสิ้นแล้ว ควรจะเลิกว่าราชการได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ” องค์รัชทายาทอดใจรอไม่ไหวที่จะโยนชาเขียวในมือทิ้ง

ฮ่องเต้พยักหน้าเล็กน้อย กำลังจะประกาศเลิกว่าราชการ ใครจะรู้ว่าฉู่หนิงกลับเอ่ยขึ้นมาทันที “เดี๋ยวก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

องค์รัชทายาทขมวดคิ้ว “เจ้ายังมีเรื่องอะไรอีก?”

ฉู่หนิงทำท่าทีลำบากใจเล็กน้อย “ท่านพี่องค์รัชทายาท โบราณกล่าวไว้ว่าของขวัญเมื่อให้แล้วต้องได้รับคืน ข้ามอบของขวัญแรกพบให้เสด็จพี่ทุกท่านแล้ว แต่เสด็จพี่ทุกท่านยังไม่ได้มอบของขวัญแรกพบให้ข้าเลยนะ”

องค์รัชทายาทและเหล่าองค์ชายถึงกับตกตะลึง

ขอของขวัญแรกพบต่อหน้าธารกำนัล?

ยังมีคนหน้าหนาถึงเพียงนี้อีกหรือ?

ช่วยรู้จักอายบ้างได้หรือไม่!

ชาเขียวที่เจ้ามอบให้มันจะสักกี่อีแปะกันเชียว ยังกล้ามาทวงของขวัญตอบแทนจากพวกเขาอีกหรือ?

เหล่าขุนนางกลับเงียบกริบในยามนี้

ฉู่หนิงได้รับการยอมรับกลับสู่ราชวงศ์แล้ว ชื่อของเขาถูกบันทึกลงในบันทึกลำดับญาติของสำนักราชวงศ์ ตามหลักแล้ว เหล่าองค์ชายในฐานะผู้อาวุโสของฉู่หนิงก็ควรจะให้ของขวัญแรกพบจริง ๆ

แต่ว่า นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของเหล่าองค์ชาย พวกเขาไม่อยากจะไปล่วงเกินเหล่าองค์ชายเพราะฉู่หนิง

บนบัลลังก์มังกร ในตอนแรกฮ่องเต้แสดงสีหน้าตกตะลึง ไม่เชื่อว่าฉู่หนิงจะกล้าขอของขวัญแรกพบด้วยตนเอง

แต่จากนั้นในแววตากลับเผยความยินดีออกมา

ต้องอย่างนี้สิ!

ฉู่หนิงก็เป็นองค์ชาย ทั้งยังได้รับการแต่งตั้งเป็นจวิ้นอ๋อง ก็ควรจะทัดเทียมกับองค์ชายคนอื่น ๆ

ของขวัญแรกพบนี้ จำเป็นต้องให้!

เมื่อมองเหล่าองค์ชายที่เงียบกริบ ฮ่องเต้ก็ใช้มือขวาลูบเคราแพะใต้คางแล้วแย้มสรวล “พวกเจ้าในฐานะพี่ชาย ตามความสัมพันธ์แล้วก็ควรจะมอบของขวัญแรกพบ”

“อีกทั้งเมื่อครู่พวกเจ้าก็เพิ่งรับของขวัญจากฉู่หนิงไป ตามหลักการแล้วก็ควรจะให้ของขวัญตอบแทนเช่นกัน”

เมื่อฮ่องเต้ตรัสออกมาแล้ว เหล่าองค์ชายก็ไม่อาจจะยืนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป

องค์รัชทายาทเป็นคนแรกที่แสดงท่าที “เสด็จพ่อตรัสได้ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ ลูกยินดีมอบม้าดีสิบตัวให้แก่น้องสิบแปด!”

ม้าชั้นดีหนึ่งตัวอย่างน้อยก็ต้องราคาสองร้อยตำลึง!

องค์รัชทายาทมอบของขวัญตอบแทน จะให้แค่ม้าตัวเดียวก็คงไม่ได้

แต่ก็ไม่อาจมอบของที่ล้ำค่าเกินไป ม้าสิบตัวจะว่ามากก็ไม่มาก จะว่าน้อยก็ไม่น้อย

องค์ชายคนอื่น ๆ ต่างคำนวณมูลค่าในใจ แล้วพากันก้าวออกมา

“น้องสิบแปด พี่มีร้านขายผ้าสองแห่งทางใต้ของเมืองขอมอบให้เจ้า!”

“พี่มอบร้านตีเหล็กสองแห่งให้เจ้า!”

“พี่มอบผ้าไหมหนึ่งร้อยพับ!”

“พี่มอบไข่มุกราตรีหนึ่งคู่!”

...

แม้ในใจจะไม่เต็มใจ แต่เมื่อฮ่องเต้ผู้เป็นบิดาเอ่ยปากแล้ว ใครเล่าจะกล้าไม่ให้?

เมื่อคิดว่าของล้ำค่าของตนเองถูกฉู่หนิงใช้ชาเขียวแลกไป เหล่าองค์ชายก็รู้สึกพะอืดพะอมราวกับกลืนแมลงวันตายเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น

แต่ฮ่องเต้กลับพอพระทัยอย่างยิ่ง ทรงลุกขึ้นยืนแล้วแย้มสรวลพลางตรัสว่า “ฉู่หนิงเอ๋ย ยังไม่รีบขอบคุณพวกเขาอีก”

“ขอบพระทัยเสด็จพี่ทุกท่าน!” ฉู่หนิงประสานมือคารวะเหล่าองค์ชายด้วยสีหน้าจริงใจ

ฮ่องเต้หัวเราะฮ่า ๆ “อย่างนี้สิถึงจะเหมือนครอบครัวเดียวกัน ต่อไปพวกเจ้าต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อปกป้องต้าฉู่ของเราให้รุ่งเรืองไปร้อยชั่วอายุคน”

“จริงสิ เจ้าเพิ่งมาถึงเมืองหลวง ยังไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่นี่ เราจะส่งองครักษ์สองนายติดตามเจ้าไป เผื่อว่าเจ้าจะไม่รู้จักทาง”

“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!”

ฉู่หนิงประสานมือคารวะ จากนั้นองครักษ์สองนายก็เดินตามเขาออกไปพร้อมกัน

แต่ในขณะนี้ องค์รัชทายาทฉู่เวยกลับจ้องมองแผ่นหลังของฉู่หนิงที่เดินจากไปอย่างเย็นชา

ไม่สิ พูดให้ถูกคือ เขากำลังจ้องมองกระบี่คู่กายของฮ่องเต้ในมือของฉู่หนิง!

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 185

    “ขะ...ขอบคุณในความหวังดีของท่านพี่องค์รัชทายาท แต่ข้า…ข้าจะกลับ”ฉู่หนิงที่ดื่มจนเมาลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปทางประตูตำหนักอย่างโซซัดโซเซ รัชทายาทยิ้มหยันดื่มจนเมาก็จะกลับทั้งเช่นนี้เลย?ฝันไปเถอะ!คืนนี้ เจ้าสารเลวฉู่หนิงต้องชดใช้รัชทายาทรีบลุกขึ้นประคองฉู่หนิง “น้องสิบแปดดื่มจนเป็นสภาพเช่นนี้ เกรงว่าขี่ม้าไม่ไหวด้วยซ้ำ ยังจะกลับอย่างไร?ที่ข้ามีตำหนักเยอะแยะ เดี๋ยวข้าจัดห้องให้เจ้าพัก!”เมื่อกล่าวจบ ก็หันไปสั่งหลิงเฟยเยียนที่อยู่ข้างๆ “เรื่องนี้ให้ชายาที่รักจัดการก็แล้วกัน”หลิงเฟยเยียนยิ้มหยันในใจให้ข้าจัดการ ฮึ่ม เจ้าอยากรู้ว่าข้ากับฉู่หนิงมีอะไรกันจริงหรือไม่มากกว่ากระมังในเมื่อเจ้าไม่เชื่อใจข้า เช่นนั้นข้าก็ทำให้เจ้าดู!หลิงเฟยเยี่ยนที่ไม่พอใจเดินเข้าไปประคองแขนของฉู่หนิงด้วยรอยยิ้ม นางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในเมื่อองค์รัชทายาทมีรับสั่ง คืนนี้น้องสิบแปดก็ค้างคืนที่นี่เถิด ข้าจะให้คนไปแจ้งองครักษ์ของเจ้า”ทันทีที่รู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลจากแขน ร่างกายฉู่หนิงก็พลันสั่นสะท้าน เขาแสร้งทำท่าจะดึงมือขวาออก แต่ในความเป็นจริงกลับใช้โอกาสนี้ถูร่างกายหลิงเฟยเยียนแถมเขายัง

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 184

    ขณะเดียวกันก็ทำให้ฉู่หนิงที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารตาไม่กล้ามองต่อล้อเล่นหรือเปล่า มองต่อไปมีหวังได้เรื่องแน่!รัชทายาทกำลังจ้องเขาอยู่ที่ข้างๆ นะหากทนไม่ไหวจนเลือดกำเดาไหล เช่นนั้นก็อธิบายยากแล้วรัชทายาทย่อมสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวเล็กน้อยระหว่างฉู่หนิงกับหลิงเฟยเยียน แม้รู้สึกเจ็บใจ แต่ก็ยังกล่าวด้วยรอยยิ้ม“น้องสิบแปดไม่ต้องมากพิธี วันนี้ข้าใจร้อนเกินไป ล่วงเกินฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่น คืนนี้จึงตั้งใจจัดงานเลี้ยง หวังว่าน้องสิบแปดจะช่วยพูดอะไรดีๆ ต่อหน้าฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นหน่อย”รัชทายาทกล่าวพลางลากฉู่หนิงไปนั่งที่ฝั่งขวาของตนเองเมื่อหลิงเฟยเยียนเห็นทั้งสองนั่งลง นางก็ไปนั่งลงตรงฝั่งซ้ายของรัชทายาท หรือก็คือตรงข้ามกับฉู่หนิงนั้นเองนางยกกาเหล้ารินให้ฉู่หนิงหนึ่งจอกโดยไม่รอให้รัชทายาทเอ่ยปาก หลังจากนั้นจึงจะรินให้รัชทายาทกับตนเองตามลำดับภาพนี้ทำให้ฉู่หนิงอึ้งเล็กน้อยเหตุใดจึงรินเหล้าให้ตนก่อน?ควรรินให้รัชทายาทก่อนไม่ใช่หรือ?รัชทายาทในเวลานี้กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาคิดไม่ถึงว่าต่อหน้าเขาเช่นนี้ หลิงเฟยเยียนไม่คิดจะปกปิดเลยนางแพศยาผู้นี้ต้องมีอะไรกับฉู่หนิงแน่!รัชทายา

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 183

    “องค์รัชทายาทเชิญข้าไปร่วมงานเลี้ยงที่ตำหนักบูรพาคืนนี้?”ภายในจวนอ๋อง หลังจากฉู่หนิงได้รับข่าว บนใบหน้ากลับฉายแววพินิจฉู่หนิงมองบัตรเชิญในมือ เผยอมุมปากขึ้นเล็กน้อย “เจ้ากลับไปบอกองค์รัชทายาทว่า คืนนี้ข้าจะไปตรงตามเวลาแน่นอน”องครักษ์ตำหนักบูรพาขานรับ ประสานมือคารวะถอยออกไปสีหน้าจ้าวอวี่เปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “พระองค์ เกรงว่างานเลี้ยงคืนนี้ ไม่ใช่งานเลี้ยงที่ดีอะไรพ่ะย่ะค่ะ!”พระองค์เพิ่งให้องค์ชายทั้งหลายไปหาเรื่ององค์รัชทายาทที่ตำหนักบูรพา องค์รัชทายาทไม่เพียงไม่โกรธ กลับกันยังจะเชิญไปร่วมงานเลี้ยง ต้องมีเจตนาที่ไม่ดีแอบแฝงแน่นอนงานเลี้ยงครั้งนี้ ไปไม่ได้!แต่ฉู่หนิงกลับหัวเราะเบาๆ “วางใจเถิด องค์รัชทายาทยังรอให้ข้าไปแนวหน้า เขาไม่มีทางลงมือกับข้าในเวลานี้แน่นอนใช่แล้ว ทางหร่านหมิงเป็นอย่างไรบ้าง?”วันนี้ฉู่หนิงมอบหมายเรื่องรับนักโทษให้หร่านหมิงรับผิดชอบทั้งหมด จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางนั้นเป็นอย่างไรแม้ช่วงแรกรับนักโทษสองพันกว่าคนมาได้อย่างราบรื่น แต่ยังเหลืออีกแปดพันคน ส่วนหร่านหมิงก็มีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เกิด สามารถควบคุมสถานก

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 182

    จ้าวเฟยเยี่ยนกลอกตาหนึ่งรอบ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ “องค์ชายรอง ข้อหาที่ร้ายแรงเช่นนี้ ข้าแบกรับไม่ไหวหรอกนะ!”เมื่อกล่าวจบ นางก็เดินไปแทรกตรงกลางระหว่างรัชทายาทกับองค์ชายทั้งหลาย ทำให้ทั้งสองฝ่ายใจเย็นลงชั่วคราวรัชทายาทย่อมไม่อยากสร้างปัญหาเพิ่มในเวลานี้ จึงได้แต่แค่นเสียงเย็น ‘ฮึ่ม’ โดยไม่พูดอะไรต่อส่วนองค์ชายรองเผยอมุมปากหัวเราะเบาๆ “เมื่อครู่ข้ากับน้องๆ ทุกคนล้วนได้ยินเจ้าพูดว่าแตะต้องฉู่หนิงไม่ได้แล้ว ทำไม เจ้ายังจะแก้ตัวอีกหรือ?” จ้าวเฟยเยี่ยนหัวเราะเบาๆ “ข้าแค่กำลังเกลี้ยกล่อมองค์รัชทายาท อย่าไปทวงถามเงินหนึ่งล้านตำลึงกับฉู่หนิงก็เท่านั้น อย่างไรข้าก็ยังเป็นหนี้ฉู่หนิงอยู่หนึ่งแสนตำลึงเงินหากองค์รัชทายาทกดดันฉู่หนิงมากเกินไป เขาก็จะมาทวงเงินกับข้า ดังนั้นข้าจึงเกลี้ยกล่อมองค์รัชทายาท อย่าแตะต้องฉู่หนิง” สมกับที่เป็นหญิงแกร่งของต้าจ้าว เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็หาคำแก้ตัวที่เหมาะสมได้แล้ว“นี่…”องค์ชายรองขมวดคิ้ว ชั่วขณะไม่รู้ควรตอบอย่างไรทั้งที่รู้ว่าจ้าวเฟยเยี่ยนสมคบคิดกับรัชทายาท แต่ไม่มีหลักฐานเอาผิดต่อให้เอาเรื่องนี้ไปฟ้องฮ่องเต้ ฮ่องเต้ก็คงมองว่าพวกเขากำลังทะเลาะกันเ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 181

    ฉู่หนิงไปเยี่ยมองค์ชายหลายพระองค์ติดต่อกัน พอไปถึงก็พูดถึงจุดประสงค์ที่มาโดยตรง…ขอยืมเงิน!เมื่อองค์ชายเหล่านั้นได้ยินว่าฉู่หนิงขอยืมเงินเพราะรัชทายาท ก็พากันเดือดดาลทันทีอุตส่าห์หาตัวตายตัวแทนมาได้แล้ว อีกทั้งกำลังจะไปแนวหน้าแล้วด้วย รัชทายาทกลับหาเรื่องเดือดร้อนให้พวกเขาในเวลานี้โดยเฉพาะองค์ชายรองฉู่หมิงโมโหจนลุกขึ้นตบโต๊ะ เขาพลางปลอบใจฉู่หนิง พลางเรียกองค์ชายท่านอื่นมารวมตัว เตรียมบุกไปถามรัชทายาทที่ตำหนักบูรพาให้รู้เรื่องแม้ฉู่หนิงจะ ‘ห้ามปราม’ แล้ว แต่พวกเขามีคนเยอะกว่า สุดท้ายก็จำต้องปล่อยให้เหล่าองค์ชายมุ่งหน้าไปยังตำหนักบูรพาขณะเดียวกัน ภายในตำหนักบูรพา เมื่อรัชทายาทได้ยินคำพูดของจ้าวเฟยเยี่ยน สีหน้าเคร่งขรึม เอาแต่นิ่งเงียบจ้าวเฟยเยี่ยนที่อยู่ในตำหนักยิ้มหยัน “ดูท่าว่าฉู่หนิงอยากยืมเงินให้ท่านจริงๆ ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มาหาข้าหรอกเจ้าฉู่หนิงช่างเพ้อฝันเก่งจริงๆ คิดว่าข้าจะยอมจ่ายหนึ่งแสนตำลึงเงินที่เหลือให้เขา น่าขำสิ้นดีแต่พูดก็พูดเถอะ องค์รัชทายาทวางหมากตานี้ได้เฉียบจริงๆ ตอนนี้ฉู่หนิงคงจะทำอะไรไม่ถูกแล้วกระมัง!” จ้าวเฟยเยี่ยนยังไม่รู้ว่ารัชทายาทโดนฮ่องเต้สั่งส

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 180  

    จ้าวเฟยเยี่ยนแววตาสั่นไหว รู้สึกแปลกประหลาดในใจไม่หยุด ฉู่หนิงเจ้าหมอนี่จะมาหาข้าเพื่ออะไร? ได้ยินว่าเจ้าหมอนี่ไปขอตัวนักโทษจำนวนมากมาจากเสนาบดีกรมอาญา เขาไม่ไปฝึกยุทธ์ให้คนเหล่านี้ แต่กลับมาหาข้า สงสัยจะว่างมากกระมัง แน่นอนว่า คำพูดนี้นางไม่กล้าเอ่ยออกมา ระหว่างที่แผนการยังไม่ลุล่วงตามประสงค์ นางจำเป็นต้องประคับประคองฉู่หนิงไว้ก่อน จ้าวเฟยเยี่ยนหัวเราะออกมาเบา ๆ “เผิงไหลจวิ้นอ๋องไม่เคยมาหาใครโดยไร้เหตุผล แต่วันนี้อุตส่าห์มาถึงที่นี่ ไม่ทราบมีเรื่องอันใดหรือ?” ใบหน้าของฉู่หนิงเผยแววลำบากใจออกมา “เฮ้อ ความจริงเรื่องนี้ข้าเองก็พูดยากนัก หากมิใช่เพราะถึงทางตัน ข้าก็คงไม่ถ่อมาหาท่านหรอกองค์หญิงเฟยเยี่ยน” คิ้วเรียวกระตุกเบา ๆ จ้าวเฟยเยี่ยนพลันใจเต้นหวิว ๆ ขึ้นมาทันใด ไม่รู้เหตุผลใด นางพลันรู้สึกขึ้นมาว่าฉู่หนิงดูคล้ายจะมาเอาประโยชน์จากตนเองอย่างบอกไม่ถูก ปรับสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังขึ้นมา จ้าวเฟยเยี่ยนก็หรี่ตาพลางเอ่ยถามว่า “เรื่องใดกันทำให้เผิงไหลจวิ้นอ๋องถึงขั้นเสด็จมาพบข้าด้วยตนเองเช่นนี้?” ฉู่หนิงแสร้งทำท่าทีหมดสิ้นหนทาง “เฮ้อ ความจริงก็มิใช่เรื่องใหญ่อะไรนักหรอก เพียง

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status