All Chapters of ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา: Chapter 1 - Chapter 10

100 Chapters

บทที่ 1

“ฉู่หนิง นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป เจ้าก็คือองค์ชายสิบแปดแห่งราชวงศ์ต้าฉู่ของเรา!”“เราขอสั่งให้เจ้านำทัพหนึ่งแสนนาย มุ่งหน้าไปยังชายแดนโดยเร็ว เพื่อต้านทานกองทัพสามแสนนายของต้าจ้าว!”ณ ท้องพระโรงแห่งต้าฉู่ ภายในตำหนักจินหลวนเด็กหนุ่มร่างผอมบางในอาภรณ์ผ้าป่านเนื้อหยาบผู้หนึ่งกำลังคุกเข่าอยู่ตรงกลางสองฟากฝั่งรายล้อมไปด้วยเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊จนเต็มพื้นที่ ส่วนตำแหน่งด้านหน้าสุดนั้นคือเหล่าองค์ชายสิบกว่าพระองค์ที่สวมใส่อาภรณ์สำหรับเชื้อพระวงศ์“น้องสิบแปดเอ๋ย ต่อจากนี้ไปพวกเราก็คือครอบครัวเดียวกัน หลายปีมานี้ เจ้าใช้ชีวิตอยู่นอกวัง ตอนนี้ ถึงเวลาที่เจ้าควรจะไปออกแรงแสดงฝีมือที่แนวหน้าเพื่อราชวงศ์บ้างแล้ว!”“เสด็จพ่อทรงมีพระประสงค์ที่จะฝึกฝนเจ้า จึงได้ส่งเจ้าไปยังแนวหน้าเพื่อสร้างผลงาน เจ้าอย่าได้ทำให้ความหวังดีของเสด็จพ่อต้องสูญเปล่าเล่า!”“ฉู่หนิง แม้จะเกิดอยู่ในหมู่สามัญชน แต่เจ้าก็มีสายเลือดของราชวงศ์ ย่อมต้องมีความรับผิดชอบ การเดินทางไปยังแนวหน้าครั้งนี้ หากเจ้ามัวแต่รักตัวกลัวตายจนทำให้ราชวงศ์ต้องเสียหน้า เสด็จพ่อจักต้องลงโทษอย่างหนักแน่นอน!”“ฉู่หนิง ยังไม่รีบขอบพระทั
Read more

บทที่ 2

ของขวัญแรกพบหรือ?องค์รัชทายาทและเหล่าองค์ชายต่างเผยรอยยิ้มเย็นชาที่มุมปากแค่สามัญชนคนหนึ่งยังจะนำของขวัญแรกพบมาด้วย?ด้วยฐานะของพวกเขา ของล้ำค่าหายากอันใดบ้างที่ไม่เคยเห็น จะมาอยากได้ของจากสามัญชนเช่นเจ้าหรือ?ทว่า ฉู่หวยที่ประทับอยู่บนบัลลังก์มังกรกลับเผยสีหน้ายินดีออกมา “ดูท่ามารดาของเจ้าจะสั่งสอนเจ้ามาเป็นอย่างดี นำของขวัญของเจ้าขึ้นมาสิ”อย่างไรเสีย เขาก็เป็นบุตรของเรา ทั้งยังจะถูกส่งไปยังแนวหน้าเพื่อเป็นตัวตายตัวแทนด้วยน้ำมือของเขาเอง จะไม่รับของขวัญของฉู่หนิงเลยก็คงจะไม่ได้กระมัง?ฉู่หนิงหยิบหยกแขวนขนาดครึ่งฝ่ามือออกมาจากอกเสื้อ “นี่คือของขวัญที่ลูกตั้งใจมอบให้เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าของฉู่หวยเปลี่ยนไปเล็กน้อย “รีบนำมาให้เราดูเร็วเข้า!”หัวหน้าขันทีจ้าวหมิงรีบรับหยกแขวนมาทันที จากนั้นยื่นให้ฉู่หวยเมื่อมองหยกแขวนที่ยังคงมีความอบอุ่นซึ่งอยู่ในมือ ฉู่หวยก็เผยสีหน้าหวนรำลึกถึงอดีตนี่คือของขวัญที่เรามอบให้แก่มารดาของฉู่หนิงคาดไม่ถึงว่านางจะเก็บรักษามันไว้ตลอด ทั้งยังส่งต่อให้ฉู่หนิงอีกนาง คงจะเกลียดชังเราที่ไม่เคยไปหานางเลยกระมัง“ของขวัญชิ้นนี้ เราชอบมาก!”เมื่อจ
Read more

บทที่ 3

“หึ แค่ใบชาธรรมดา ๆ แลกกับม้าดีของข้าไปตั้งสิบตัว!”ตำหนักบูรพาองค์รัชทายาทฉู่เวยโกรธจนหน้าเขียว เขาขว้างถ้วยชาในมือลงบนพื้นอย่างแรงแต่แค่นี้ยังไม่หายโกรธ เขากระทืบซ้ำลงไปบนใบชาที่อยู่บนพื้นสองครั้ง แล้วตะโกนออกไปข้างนอก “ใครก็ได้ เอาชาเขียวนี่ไปให้หมากิน!”ชาเขียวนี่ก็เหมือนกับฉู่หนิง แค่เห็นก็รู้สึกขัดหูขัดตา!องค์ชายเจ็ดผู้ซึ่งสนับสนุนองค์รัชทายาทมาตลอดหัวเราะเบา ๆ “ท่านพี่องค์รัชทายาท ไยต้องถือสาหาความกับคนที่กำลังจะตายด้วยเล่า?”“ถือสาหาความหรือ?”องค์รัชทายาทสีหน้ามืดมน “เสด็จพ่อประทานกระบี่คู่กายของเขาให้ฉู่หนิง กระบี่เล่มนั้นควรจะเป็นของข้า หากได้กระบี่คู่กายของเสด็จพ่อมา บารมีและชื่อเสียงของข้าจะเหนือกว่าองค์ชายคนอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง!”มุมปากขององค์ชายเจ็ดยกยิ้มเล็กน้อย หัวเราะเบา ๆ พลางเอ่ยขึ้น “ฉู่หนิงนั่นก็เป็นแค่สามัญชนที่ไม่เคยเห็นโลกภายนอกมากนัก หากท่านพี่องค์รัชทายาทไปหาเขาด้วยตนเอง เขายังจะกล้าเก็บกระบี่คู่กายของเสด็จพ่อไว้อีกหรือ?”แค่สามัญชนคนหนึ่ง จะกล้ามาแย่งชิงกระบี่คู่กายของฮ่องเต้กับองค์รัชทายาทได้อย่างไร?ถึงแม้จะได้รับการแต่งตั้งเป็นจวิ้นอ๋อง แต่ก็
Read more

บทที่ 4

“ฝ่าบาท องค์รัชทายาททรงนำกระบี่คู่กายที่ฝ่าบาทพระราชทานให้เผิงไหลจวิ้นอ๋องไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ภายในพระราชวัง องครักษ์เงาได้นำข่าวล่าสุดที่ได้รับมารายงานฮ่องเต้ที่กำลังจิบชาอยู่แทบจะสำลักน้ำชาพระเนตรเบิกกว้างราวกับระฆังทองแดง!กระบี่คู่กายที่เรามอบให้ฉู่หนิง องค์รัชทายาทกล้าดีอย่างไรถึงได้เอาไป?เจ้าลูกทรพีนี่ ช่างกล้าหาญยิ่งนัก!ความโกรธแล่นขึ้นสู่สมองในชั่วพริบตา น้ำชาที่ติดอยู่ในลำคอถูกกลืนลงไปอย่างยากลำบาก“บังอาจ!”ฮ่องเต้ทุบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน ตวาดเสียงดังลั่น “ไปเรียกเจ้าลูกทรพีนั่นมาพบเรา!”กระบี่เล่มนั้น เป็นเพียงของที่มอบให้ฉู่หนิงในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้นรอจนฉู่หนิงพลีชีพในสงครามที่แนวหน้า กระบี่เล่มนั้นก็ยังคงเป็นขององค์รัชทายาทอยู่ดี!แต่องค์รัชทายาทรีบร้อนเอากระบี่กลับไปเช่นนี้ หรือคิดว่าเราผู้เป็นฮ่องเต้ไม่มีตัวตนอยู่หรือไร?องครักษ์เงาเหลือบมองฮ่องเต้ที่ทรงพิโรธ มุมปากก็กระตุก ไม่รู้ว่าควรจะพูดความจริงออกไปดีหรือไม่“เจ้ายังจะยืนเหม่ออะไรอยู่ ยังไม่รีบไปถ่ายทอดคำสั่งอีก?”สายพระเนตรของฮ่องเต้เย็นเยียบ ถ้วยชาในมือก็ถูกขว้างลงบนโต๊ะอย่างแรงองครักษ์เงาอธิบายอย
Read more

บทที่ 5

“จวิ้นอ๋อง ท่าน...ท่านคงไม่ได้คิดจะขายหอกเล่มนี้ไปด้วยหรอกนะพ่ะย่ะค่ะ?”“ทำเช่นนี้มิได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ หอกเล่มนี้เป็นของที่ฝ่าบาทเคยใช้เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ล้ำค่าหาใดเปรียบ ขายไม่ได้เด็ดขาด!”จ้าวอวี่และกวนอวิ๋นพอเห็นท่าทีของฉู่หนิงก็ร้อนรนขึ้นมาทันทีขายกระบี่คู่กายของฮ่องเต้ไปแล้ว ฮ่องเต้ไม่ทรงลงโทษ นั่นเป็นเพราะความโปรดปรานที่ทรงมีต่อท่านจวิ้นอ๋องแล้วแต่หากจะขายหอกเล่มนี้อีก ฝ่าบาทต้องทรงพิโรธเป็นแน่!ฉู่หนิงยกยิ้มมุมปาก มองหอกยาวในมือแล้วเอ่ยชมอย่างประหลาดใจ “หอกเล่มนี้เป็นของที่เสด็จพ่อเคยใช้ คงจะมีค่ายิ่งกว่าสินะ!”“อีกไม่นานข้าก็จะต้องไปทัพหน้าแล้ว หากไม่มีเงินมากพอ ทหารเบื้องล่างที่ไหนจะยอมฟังคำสั่งข้า?”กวนอวิ๋นและจ้าวอวี่พลันนิ่งเงียบไปการพ่ายศึกที่แนวหน้า ไม่ใช่เพียงเพราะขาดแคลนเสบียง แต่ยังมีสาเหตุมาจากเบี้ยหวัดทหารไม่เพียงพอด้วยหากเผิงไหลจวิ้นอ๋องไปมือเปล่า ทหารที่แนวหน้าคนไหนจะยอมฟังคำสั่งขององค์ชายที่ไม่มีทั้งอำนาจ บารมี และเงินทอง?ทุกสิ่งที่เผิงไหลจวิ้นอ๋องทำ ล้วนทำเพื่อเหล่าทหารที่แนวหน้าทั้งสิ้น!ในวินาทีนี้ ภาพลักษณ์ของฉู่หนิงในใจของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
Read more

บทที่ 6

“หากจวิ้นอ๋องต้องการหาคนรับใช้ พรุ่งนี้ข้าน้อยสามารถติดประกาศรับสมัครได้พ่ะย่ะค่ะ”กวนอวิ๋นและจ้าวอวี่สบตากัน ก่อนจะเอ่ยเสนอขึ้นมาจวนใหญ่โตเช่นนี้ มีเพียงพวกเขาสองคนย่อมดูแลได้ไม่ทั่วถึง จวนจวิ้นอ๋องที่กว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ จะไม่มีสาวใช้และบ่าวชายได้อย่างไรฉู่หนิงส่ายหน้า “ข้าต้องการผู้คุ้มกัน การเดินทางไปแนวหน้าครั้งนี้ อันตรายยิ่งนัก หากข้าไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของตัวเองได้ แล้วจะเอาชนะกองทัพศัตรูได้อย่างไร?”กวนอวิ๋นและจ้าวอวี่พลันนิ่งเงียบไปจวิ้นอ๋องอุทิศตนเพื่อบ้านเมือง เสี่ยงอันตรายด้วยตนเอง หากไม่มีคนคอยคุ้มกันข้างกาย ย่อมตายอย่างไม่ต้องสงสัย!แม้ศึกครั้งนี้โอกาสชนะจะมีไม่มาก แต่จวิ้นอ๋องในฐานะองค์ชายกลับยินดีเดินทางไปแนวหน้าเพื่อบ้านเมือง รู้ทั้งรู้ว่าทำไม่ได้แต่ก็ยังจะทำ รู้ทั้งรู้ว่าศึกครั้งนี้ไปแล้วอาจไม่ได้กลับมา แต่ก็ยังมุ่งหน้าสู่สนามรบอย่างไม่ลังเล!ในเมื่อสายเลือดราชวงศ์ยังทำได้ถึงเพียงนี้ แล้วพวกเขาจะปฏิเสธได้อย่างไร?สีหน้าของกวนอวิ๋นพลันจริงจังขึ้น ประสานมือแล้วกล่าวเสียงทุ้ม “จวิ้นอ๋องเข้าใจในหลักการอันยิ่งใหญ่ กวนผู้นี้ยินดีติดตามท่านอ๋องเพื่อรับ
Read more

บทที่ 7

“ฝ่าบาท เผิงไหลจวิ้นอ๋องได้นำคนที่เขาเพิ่งรับเข้ามาใหม่มุ่งหน้าไปยังทิศใต้ของเมือง ข้าน้อยคาดว่าเขาน่าจะไปที่ร้านตีเหล็กพ่ะย่ะค่ะ”ภายในพระราชวัง องครักษ์เงาคุกเข่าข้างหนึ่งรายงานฮ่องเต้ที่ทรงฉลองพระองค์เรียบร้อยแล้ว พยักหน้าเล็กน้อย บนใบหน้าปรากฏความพึงพอใจ“ไปร้านตีเหล็ก ย่อมเป็นเพราะเรื่องอาวุธ ในที่สุดฉู่หนิงก็ทำเรื่องที่ทำให้เราพอใจเสียที”ฮ่องเต้สะบัดแขนเสื้อ พลางเสด็จไปยังนอกตำหนัก แย้มพระสรวลแล้วตรัสว่า “ไปว่าราชการ!”องครักษ์เงาอ้าปากค้าง คำพูดที่มาถึงริมฝีปากแล้วก็ถูกกลืนกลับลงไปอย่างยากลำบากยากนักที่ฮ่องเต้จะทรงเกษมสำราญเช่นนี้ จะไปขัดพระทัยฝ่าบาทไม่ได้!หวังว่าการเดินทางครั้งนี้ของเผิงไหลจวิ้นอ๋องจะสามารถตีอาวุธได้อย่างราบรื่นเถอะ!ในขณะนั้น ภายในตำหนักบูรพา องค์รัชทายาทที่กำลังคัดลอกพระคัมภีร์อยู่ก็ได้รับข่าวเช่นกัน“อะไรนะ ฉู่หนิงพาคนไปที่ร้านตีเหล็กที่น้องรองมอบให้เขาหรือ?”“จริงแท้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ คนของเราจับตาดูอยู่ตลอด” องครักษ์ส่วนตัวขององค์รัชทายาทที่สวมชุดเกราะตอบเสียงทุ้มองค์รัชทายาทหรี่ตาลง ดวงตาฉายแววเยือกเย็นแวบหนึ่งเจ้าฉู่หนิงสารเลว ก่อนตายยังทำ
Read more

บทที่ 8

“จวิ้นอ๋องจะตีอาวุธด้วยตนเองหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เซียวหมิงแสร้งทำท่าทางตื่นตระหนก “ทำเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด หากฝ่าบาททรงทราบเข้า จะต้องลงโทษพวกเราอย่างหนักเป็นแน่” หลุมพรางน่ะ ขุดรอฉู่หนิงไว้ก่อนแล้วรอจนเบื้องบนสืบสวนเรื่องนี้ขึ้นมา เขาก็จะสามารถปัดความรับผิดชอบได้อย่างสะอาดหมดจดฉู่หนิงขมวดคิ้ว บนใบหน้าเผยสีหน้าไม่พอใจ “ข้าตีอาวุธก็ไม่ใช่เพื่อตนเอง แต่เพื่อให้เหล่าผู้คุ้มกันมีอาวุธใช้ในสนามรบ!หากเสด็จพ่อจะทรงลงโทษ เช่นนั้นก็ให้ลงโทษข้าคนเดียวเถิด!หากกรมกลาโหมจะสืบสวน ก็ให้ข้ารับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวเถ้าแก่เซียวออกไปเถอะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้าและช่างตีเหล็กทุกคน!”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทหารผ่านศึกกว่าสามสิบคนซาบซึ้งใจอย่างยิ่งพวกเขาเป็นเพียงทหารผ่านศึกที่ถอยกลับมาจากแนวหน้า หลายคนกล่าวว่าพวกเขาเป็นทหารหนีทัพ ด้วยเหตุนี้จึงดูถูกพวกเขาหลายปีมานี้ เพราะความพ่ายแพ้ในครั้งนั้น พวกเขาจึงถูกมองด้วยสายตาเย็นชาและถูกปฏิบัติอย่างหมางเมินมาโดยตลอด ไม่มีใครสนใจพวกเขาเลยแต่วันนี้ เพื่อให้พวกเขามีอาวุธที่ถนัดมือ ฉู่หนิงถึงกับยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียวในวินาทีนี้ ท่าทีที่พวกเขามีต่อฉ
Read more

บทที่ 9

“ฆ่าคนหรือ? ไม่จำเป็นหรอก”ฉู่หนิงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย กล่าวอย่างเย็นชา “ข้ากำลังจะไปแนวหน้า การต่อสู้แย่งชิงอำนาจในเมืองหลวงไม่เกี่ยวกับข้า การฆ่าคนไม่มีประโยชน์อันใดต่อข้า”กวนอวิ๋นชะงักไปเพื่อความปลอดภัยของแนวหน้า จวิ้นอ๋องยอมที่จะไม่รักษาหน้าตาของตนเอง กระทั่งไม่คิดจะต่อสู้แย่งชิงกับองค์ชายคนอื่น ๆ หากในราชสำนักมีคนสนับสนุน จวิ้นอ๋องต่างหากคือผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะสืบทอดบัลลังก์น่าเสียดายที่การไปแนวหน้าครั้งนี้ มีโอกาสตายมากกว่ารอดมากนัก เกรงว่าทั้งชีวิตนี้จวิ้นอ๋องคงไม่มีโอกาสเช่นนั้นแล้ว“เอาละ ไม่ต้องไปสนใจเซียวหมิงผู้นั้น ต่อไปนี้ข้าจะสอนวิธีการตีเหล็กแบบหนึ่งให้พวกเจ้า”ฉู่หนิงหยิบเหล็กดิบที่ถูกตีเป็นรูปทรงของดาบขึ้นมา กล่าวอย่างช้า ๆ “วิธีนี้เรียกว่าร้อยหลอมกลายเป็นเหล็กกล้า!”หลังจากที่ได้เห็นกระบี่คู่กายและหอกประจำตัวของฮ่องเต้แล้ว ฉู่หนิงก็มั่นใจว่ายุคสมัยนี้ยังคงหยุดอยู่ที่ยุคเหล็กอาวุธทั้งหมด ล้วนทำมาจากเหล็กและครั้งนี้ เขาจะหลอมเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้า เพื่อสร้างอาวุธถนัดมือให้ผู้คุ้มกันของตนเองภายใต้การสอนของฉู่หนิง เหล่าทหารผ่านศึกก็เริ่มลงมือตีเหล
Read more

บทที่ 10

ภายในร้านตีเหล็ก เปลวไฟในเตาลุกโชน อุณหภูมิที่ร้อนระอุทำให้เหล่าทหารผ่านศึกทั้งหมดต้องถอดเสื้อท่อนบนออกภายใต้การสอนของฉู่หนิง พวกเขานำเหล็กดิบในมือมาตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า!ที่เรียกว่าร้อยหลอมกลายเป็นเหล็กกล้า ไม่ใช่แค่การตีเหล็กหนึ่งร้อยครั้ง แต่คือการตีเหล็กให้มีความแข็งแกร่งจนถึงมาตรฐานของเหล็กกล้าหนึ่งร้อยครั้งเป็นเพียงแนวคิด การจะเพิ่มความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ทำให้เหล็กกลายเป็นเหล็กกล้าได้นั้น เป็นกระบวนการที่ยาวนานอย่างยิ่งโชคดีที่สภาพร่างกายของเหล่าทหารผ่านศึกนั้นแข็งแกร่ง คนกว่าสามสิบคนแบ่งงานกันอย่างเป็นระบบ ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง สถานการณ์ในร้านตีเหล็กเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีความวุ่นวายเลยแม้แต่น้อยฉู่หนิงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น “ด้วยความเร็วระดับนี้ อีกสามวันก็จะสามารถตีอาวุธออกมาได้หนึ่งชุด!”มีผู้คุ้มกันแล้ว จะไม่มีอาวุธได้อย่างไรการเดินทางไปแนวหน้าครั้งนี้ย่อมอันตรายอย่างยิ่ง การรักษาชีวิตน้อย ๆ ของตนเองไว้คือสิ่งสำคัญที่สุดความสามารถของฉู่หนิงมีจำกัด ไม่สามารถจัดหาอาวุธเช่นนี้ให้แก่ทหารที่แนวหน้าได้ทั้งหมด แต่การติดอาวุธให้แก่ผู้คุ้มกันขอ
Read more
PREV
123456
...
10
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status