Share

ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา
ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา
Author: สายลมไร้กาลเวลา

บทที่ 1

Author: สายลมไร้กาลเวลา
“ฉู่หนิง นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป เจ้าก็คือองค์ชายสิบแปดแห่งราชวงศ์ต้าฉู่ของเรา!”

“เราขอสั่งให้เจ้านำทัพหนึ่งแสนนาย มุ่งหน้าไปยังชายแดนโดยเร็ว เพื่อต้านทานกองทัพสามแสนนายของต้าจ้าว!”

ณ ท้องพระโรงแห่งต้าฉู่ ภายในตำหนักจินหลวน

เด็กหนุ่มร่างผอมบางในอาภรณ์ผ้าป่านเนื้อหยาบผู้หนึ่งกำลังคุกเข่าอยู่ตรงกลาง

สองฟากฝั่งรายล้อมไปด้วยเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊จนเต็มพื้นที่ ส่วนตำแหน่งด้านหน้าสุดนั้นคือเหล่าองค์ชายสิบกว่าพระองค์ที่สวมใส่อาภรณ์สำหรับเชื้อพระวงศ์

“น้องสิบแปดเอ๋ย ต่อจากนี้ไปพวกเราก็คือครอบครัวเดียวกัน หลายปีมานี้ เจ้าใช้ชีวิตอยู่นอกวัง ตอนนี้ ถึงเวลาที่เจ้าควรจะไปออกแรงแสดงฝีมือที่แนวหน้าเพื่อราชวงศ์บ้างแล้ว!”

“เสด็จพ่อทรงมีพระประสงค์ที่จะฝึกฝนเจ้า จึงได้ส่งเจ้าไปยังแนวหน้าเพื่อสร้างผลงาน เจ้าอย่าได้ทำให้ความหวังดีของเสด็จพ่อต้องสูญเปล่าเล่า!”

“ฉู่หนิง แม้จะเกิดอยู่ในหมู่สามัญชน แต่เจ้าก็มีสายเลือดของราชวงศ์ ย่อมต้องมีความรับผิดชอบ การเดินทางไปยังแนวหน้าครั้งนี้ หากเจ้ามัวแต่รักตัวกลัวตายจนทำให้ราชวงศ์ต้องเสียหน้า เสด็จพ่อจักต้องลงโทษอย่างหนักแน่นอน!”

“ฉู่หนิง ยังไม่รีบขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณของเสด็จพ่ออีกหรือ?”

เหล่าองค์ชายต่างเผยรอยยิ้มเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม

น้ำเสียงนั้นยิ่งฟังดูสูงส่งหยิ่งผยอง!

จากสามัญชนกลายเป็นองค์ชาย แม้จะต้องไปเป็นตัวตายตัวแทนที่แนวหน้า ฉู่หนิงก็สมควรจะซาบซึ้งในบุญคุณของราชวงศ์!

เหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ทั่วทั้งราชสำนักมองเด็กหนุ่มที่คุกเข่าบนพื้น ในแววตานั้นมีทั้งความเวทนา ความเย็นชา และความสะใจในคราวเคราะห์ของผู้อื่น

ต้าฉู่และต้าจ้าวทำศึกที่แนวหน้าต่อเนื่องมาหลายปี แต่ครั้งนี้แคว้นต้าฉู่ประสบภัยแล้งครั้งใหญ่ เป็นเหตุให้เสบียงที่แนวหน้าขาดแคลน ขวัญกำลังใจทหารตกต่ำ กองทัพพ่ายแพ้ยับเยิน

ฮ่องเต้จึงตัดสินพระทัยเลือกองค์ชายองค์หนึ่งไปยังแนวหน้าเพื่อสร้างขวัญกำลังใจของกองทัพให้มั่นคง!

แต่เหล่าองค์ชายต่างรู้ดีว่าศึกครั้งนี้เก้าส่วนตายหนึ่งส่วนรอด จึงไม่มีผู้ใดกล้าไป!

โชคดีที่คนสนิทขององค์รัชทายาทสืบพบว่า ในปีนั้นครั้งที่ฝ่าบาทเสด็จประพาสต้น มีสตรีแพศยานางหนึ่งยั่วยวนฝ่าบาท และได้ให้กำเนิดบุตรชาย กลายเป็นองค์ชายที่ราชวงศ์ทอดทิ้งไว้ข้างนอก

หากเป็นยามปกติ คงไม่มีผู้ใดใส่ใจสายเลือดราชวงศ์ที่พลัดหลงอยู่ข้างนอก

แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน การส่งคนไปตายที่แนวหน้า จะมีใครเหมาะสมไปกว่าองค์ชายกำพร้าผู้นี้อีกหรือ?

ภายใต้การจัดการของเหล่าองค์ชาย ฉู่หนิงจึงถูกรับตัวกลับเข้าพระราชวังได้สำเร็จ ทั้งยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นองค์ชายสิบแปด!

ฉู่หนิงก้มหน้าไม่กล่าววาจาใด ทว่าในใจกลับกำลังหัวเราะเยาะ

องค์ชายพวกนี้ล้วนแต่รักตัวกลัวตาย อยากจะผลักไสเขาไปยังแนวหน้ากันทั้งสิ้น

คิดว่าเขาเป็นเพียงสามัญชนที่ไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ หรือ?

ในฐานะผู้ที่ทะลุมิติ เขาย่อมรู้ดีว่า เมื่อเทียบกับแนวหน้าแล้ว การต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์นั้นโหดร้ายยิ่งกว่า!

การแก่งแย่งในราชวงศ์ดุเดือดถึงเพียงนี้ ตัวเขาไร้ซึ่งอำนาจและอิทธิพล เดิมทีก็ไม่คิดจะอยู่ที่นี่ต่อ การไปยังแนวหน้าต่างหากคือหนทางรอดเพียงหนึ่งเดียว!

สำหรับองค์ชายองค์อื่น การไปแนวหน้าอาจมีแต่เก้าส่วนตายหนึ่งส่วนรอด

แต่สำหรับเขาแล้ว นั่นคือโอกาสที่สวรรค์ประทาน!

แต่ว่า คิดจะให้ข้าไปเป็นตัวตายตัวแทนทั้งที จะไม่ให้ผลประโยชน์อะไรบ้างได้อย่างไร?

ฉู่หนิงเงยหน้าขึ้นมองเหล่าองค์ชาย แสร้งทำสีหน้าตื่นเต้นยินดีอย่างยิ่ง “ขอบคุณท่านพี่ทุกท่านที่เมตตา การได้แบ่งเบาภาระของราชวงศ์ถือเป็นเกียรติของข้า ต่อให้ต้องตายในสงครามที่ชายแดน ห่อศพด้วยหนังม้าก็ไม่เสียดาย!”

“ในฐานะสายเลือดของราชวงศ์ สิบแปดปีมานี้ ข้าไม่เคยทำสิ่งใดเพื่อราชวงศ์เลย การไปยังแนวหน้าครั้งนี้ ข้าจะทุ่มเทสุดกำลัง แม้ร่างกายต้องแหลกสลายเป็นผุยผง เพื่อตอบแทนบุญคุณเสด็จพ่อ!”

น้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยวหนักแน่น ท่าทีที่ไม่หวั่นเกรงต่อความตาย ทำให้เหล่าองค์ชายและขุนนางต่างเงียบงัน

แม้แต่ฉู่หวยที่ประทับอยู่บนบัลลังก์ เมื่อได้เห็นหน้าบุตรชายเป็นครั้งแรก ในใจก็อดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้

เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าบุตรชายคนอื่น ๆ ของตนไม่อยากไปแนวหน้า จึงได้จงใจตามหาฉู่หนิงมาเป็นตัวตายตัวแทน

แต่ฉู่หนิงก็เป็นองค์ชายเช่นกัน เหตุใดจึงไม่กล้าช่วงชิงกับคนพวกนี้เล่า?

แม้สิบแปดปีมานี้ฉู่หนิงจะไม่เคยทำสิ่งใดเพื่อราชวงศ์ แต่ราชวงศ์เองก็ไม่เคยทำสิ่งใดเพื่อฉู่หนิงเช่นกัน

บัดนี้เพิ่งตามหาตัวฉู่หนิงพบ ก็จะส่งเขาไปตายที่แนวหน้าเสียแล้ว!

ทว่าฉู่หนิงไม่เพียงแต่จะไม่ปฏิเสธ กลับแสดงท่าทีห้าวหาญมุ่งมั่นถึงเพียงนี้!

เมื่อมองใบหน้าที่หล่อเหลาและมีความคล้ายคลึงกับตนเองอยู่สามส่วน ในหัวของฉู่หวยก็อดปรากฏภาพใบหน้างดงามของสตรีผู้นั้นในอดีตขึ้นมาไม่ได้

มารดาของฉู่หนิง ในปีนั้นนางก็ติดตามเรามาโดยที่ไม่ลังเลเช่นนี้!

เราเป็นเพียงผู้ผ่านทางในชีวิตนาง แต่นางกลับเห็นเราเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิต

แม้จะไม่ได้พบหน้าเราอีก นางก็ยังคงให้กำเนิดบุตรชายของเรา!

แต่บัดนี้ เรายังไม่ได้ทำหน้าที่ของบิดาต่อฉู่หนิง แต่กลับต้องส่งเขาไปยังแนวหน้า

เป็นเราที่ติดค้างฉู่หนิง!

“ฉู่หนิง สมแล้วที่เป็นบุตรที่ดีของเรา!”

ฉู่หวยมองฉู่หนิงด้วยสายตาให้กำลังใจ “แต่การเดินทางไปแนวหน้าครั้งนี้อันตรายยิ่งนัก หากเจ้ามีความต้องการใด ก็จงเอ่ยมาได้เลย”

นี่คือการประทานรางวัลให้ฉู่หนิง!

สีหน้าขององค์รัชทายาทฉู่เวยเปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบก้าวออกมา “เสด็จพ่อ ในฐานะองค์ชาย การที่ฉู่หนิงจะทุ่มเทกำลังเพื่อราชวงศ์ เป็นสิ่งที่พึงกระทำอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

องค์ชายสี่รีบกล่าวเสริม “ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ ฉู่หนิงเพิ่งเข้าวัง ยังไม่เข้าใจกฎระเบียบในวัง จะปล่อยให้เขาร้องขอตามใจชอบได้อย่างไร?”

องค์ชายหกยิ่งมองฉู่หนิงด้วยความรังเกียจ “เสด็จพ่อทรงรับเขากลับเข้าวัง คืนสถานะองค์ชายให้ก็นับเป็นพระกรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่แล้ว ยังจะมีความจำเป็นใดให้ต้องร้องขออีก?”

ขุนนางคนอื่น ๆ ก็พากันกล่าวเสริม

“จากสามัญชนกลายเป็นองค์ชาย ฉู่หนิงสมควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ การไปยังแนวหน้าครั้งนี้ คือโอกาสที่เขาจะได้สร้างผลงานให้ราชวงศ์!”

“ถูกต้อง เขาควรจะขอบพระทัยฝ่าบาทที่ประทานโอกาสให้เขาได้สร้างผลงานต่างหาก!”

“องค์ชายสิบแปด ท่านยังจะยืนเหม่ออะไรอยู่ รีบขอบพระทัยแล้วถอยออกไปได้แล้ว!”

คำพูดทุกคนทำให้ศีรษะที่ก้มต่ำอยู่แล้วของฉู่หนิงยิ่งก้มต่ำลงไปอีก

ขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ทั่วทั้งราชสำนัก เขาไม่รู้จักผู้ใดเลย และไม่มีใครสักคนที่จะยอมช่วยเขา

สิ่งที่เขาใช้ประโยชน์ได้มีเพียงความรู้สึกผิดที่ฮ่องเต้ชรามีต่อตัวเขาและมารดาของเขาเท่านั้น

ช่วงชิงไป ก็ช่วงชิงไม่ได้อย่างแน่นอน

การถอยเพื่อรุกคืบต่างหากคือยอดกลยุทธ์!

บนบัลลังก์มังกร ฉู่หวยมองเหล่าขุนนางทั่วทั้งท้องพระโรงที่ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจาแทนฉู่หนิงแม้แต่คนเดียว สายตาก็อดฉายแววผิดหวังขึ้นมาแวบหนึ่งไม่ได้

จากนั้นก็หันไปมองฉู่หนิงที่ถูกคนพูดจากดดันจนไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ฉู่เวยได้แต่ถอนหายใจยาวอยู่ในใจ

เด็กคนนี้มาจากสามัญชนจริง ๆ ไม่เคยได้พบเห็นโลกกว้าง ถูกคนมากมายรุมกลั่นแกล้งเพียงเท่านี้ ก็จนปัญญาเสียแล้ว

แต่ถึงอย่างไรนี่ก็คือสายเลือดของเขา จะปล่อยให้ถูกขุนนางพวกนี้รังแกได้อย่างไร?

พวกเจ้าผลักไสให้ฉู่หนิงไปตาย ยังไม่คิดจะพูดจาดี ๆ สักสองสามประโยคเลยหรือ?

ยิ่งไปกว่านั้น ฉู่หนิงก็ยอมรับปากจะไปแนวหน้าแล้ว เราเพียงแค่อยากจะประทานรางวัลให้เขาเพิ่มเติม เพื่อชดเชยความรู้สึกผิดในใจเท่านั้น

แต่คนเหล่านี้กลับพูดจาไม่หยุดหย่อน ตั้งใจจะขัดขวาง

ฉู่หนิงไม่กล้าตอบโต้ แต่พวกเจ้าคิดว่าเราผู้เป็นฮ่องเต้องค์นี้ตายไปแล้วหรือไร?

“พอได้แล้ว!”

ฉู่หวยตวาดลั่น ทุบโต๊ะแล้วลุกขึ้น รัศมีแห่งองค์จักรพรรดิที่แผ่ออกจากร่างทำให้เหล่าขุนนางหวาดกลัว พากันคุกเข่าลงกับพื้น

“ฝ่าบาทโปรดอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉู่หวยกวาดตามองทุกคนแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยเสียงเย็น “หากฉู่หนิงไปแนวหน้าด้วยฐานะองค์ชายเพียงอย่างเดียว เกรงว่าคงยากที่จะทำให้คนยอมรับนับถือ”

“ใครก็ได้ ถ่ายทอดราชโองการลงไป แต่งตั้งฉู่หนิงเป็นเผิงไหลจวิ้นอ๋อง พระราชทานตำแหน่งแม่ทัพผิงตง พร้อมจวนหนึ่งหลัง!”

สีหน้าของเหล่าองค์ชายพลันย่ำแย่ขึ้นมาเล็กน้อย

แม้จะได้รับการแต่งตั้งเป็นเพียงจวิ้นอ๋อง แต่ก็ทำให้สถานะของฉู่หนิงแทบไม่ต่างจากพวกเขา และมีคุณสมบัติพอที่จะแย่งชิงบัลลังก์กับพวกเขาได้แล้ว!

ส่วนฉู่หนิงนั้นราวกับตกตะลึงจนโง่งมไปแล้วกับการพระราชทานนี้ ยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่รู้จะทำอย่างไร

เด็กโง่คนนี้ คงไม่เคยเห็นโลกกว้างจริง ๆ !

ฉู่หวยมองฉู่หนิงแวบหนึ่ง “ยังไม่คุกเข่าขอบพระทัยอีก?”

ฉู่หนิงได้สติ รีบทำความเคารพทันที “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ทรงประทานรางวัลพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉู่หวยจึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “เจ้าเพิ่งมาถึงเมืองหลวง ยังไม่คุ้นเคยกับอะไรหลายอย่าง พักอยู่ที่เมืองหลวงสักระยะก่อน แล้วค่อยเดินทางไปแนวหน้า”

“หากไม่มีเรื่องอื่นแล้ว เจ้าก็ถอยออกไปเถิด!”

ฉู่หนิงยกยิ้มมุมปาก “เสด็จพ่อ ลูกเพิ่งมาที่พระราชวังเป็นครั้งแรก จึงได้เตรียมของขวัญแรกพบมามอบให้เสด็จพ่อและบรรดาท่านพี่ด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

จะไม่มีเรื่องอื่นได้อย่างไรเล่า!

วันนี้เหล่าองค์ชายรังแกตนไว้มากเพียงนี้ จะต้องเอาคืนให้ได้!

อีกอย่าง การทำศึกก็คือการผลาญเงิน หากไร้ซึ่งเงินทองย่อมมิอาจทำการใดได้!

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
แสบสกล แสบสกล แสบสกล
hahaha no worries ...
goodnovel comment avatar
แสบสกล แสบสกล แสบสกล
it's shuts down ...
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 318

    คำพูดนี้ทำให้องค์รัชทายาทและบรรดาองค์ชายถอนหายใจโล่งอกแม้ว่าเฝิงอันกั๋วจะไม่ได้ปฏิเสธ แต่เขาก็ไม่ได้ตอบตกลงเช่นกัน ไม่ได้ให้เหตุผลที่ฮ่องเต้จะตัดสินได้โดยตรงฮ่องเต้ขมวดคิ้ว นึกไม่ถึงว่าเฝิงอันกั๋วจะมีมุมที่เจ้าเล่ห์แบบนี้ด้วยแต่ที่เขาพูดก็มีเหตุผล อย่างไรสมญานามฉู่อ๋องก็เคยถูกใช้โดยฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งราชวงศ์มาก่อน หากลูกหลานจะใช้ก็ต้องถามสำนักราชวงศ์ฮ่องเต้พยักหน้าเล็กน้อย “ใต้เท้าเฝิงพูดได้มีเหตุผล”จากนั้นหันไปมองชายชราผมขาวที่ถือไม้เท้าอยู่ในแถว “เสด็จอา ท่านคิดเห็นอย่างไร?”ชายชราผู้นี้มีนามว่าฉู่อวี๋ เป็นอาแท้ ๆ ของฮ่องเต้ ได้รับแต่งตั้งเป็นฉินอ๋อง ดูแลสำนักราชวงศ์ฉู่อวี๋ถอนหายใจยาว ๆ ก่อนจะค้ำไม่เท้าก้าวออกมา พูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า “ฝ่าบาท เรื่องนี้ไม่เคยมีในราชวงศ์มาก่อน”ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว รู้สึกไม่ค่อยพอใจแต่ฉู่อวี๋กลับเสริมเพิ่มว่า “แต่ในกฎของราชวงศ์ก่อน ๆ เหมือนจะไม่ได้มีข้อห้ามว่าห้ามใช้พระนามของฮ่องเต้ผู้บุกเบิกราชวงศ์ กระหม่อมตัดสินเรื่องนี้ไม่ได้ พระองค์ทรงตัดสินพระทัยได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”ความหมายชัดเจนมาก ไม่มีกฎห้ามไม่ให้ใช้ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่เคยมีผู้ใดใช้มาก่อ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 317

    “ฝ่าบาท ลูกไม่กล้าก้าวก่ายการตัดสินพระทัยขององค์พระองค์พ่ะย่ะค่ะ ลูกเพียงรู้สึกว่าสมญานามฉู่อ๋องเป็นพระนามของฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ หากมอบให้ฉู่หนิง เกรงว่าจะไม่เหมาะสม”องค์รัชทายาทไม่ใช่คนโง่ ย่อมได้ยินถึงความไม่พอพระทัยในน้ำเสียงของฮ่องเต้หากยังยืนกรานคัดค้าน ฮ่องเต้จะต้องไม่พอพระทัยแน่นอน!ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว ละสายตาจากฮ่องเต้ไปที่องค์ชายคนอื่นและถาม“พวกเจ้าคิดอย่างไรกับคำพูดของรัชทายาท?”องค์ชายรองเป็นคนแรกที่ก้าวออกมา “เสด็จพ่อ ลูกมองว่าที่เสด็จพี่รัชทายาทกล่าวมาก็มีเหตุผลพ่ะย่ะค่ะ”องค์ชายที่เหลือเห็นว่ามีคนนำก็ใจกล้าขึ้นมา พากันก้าวออกไปพูดสนับสนุน“เสด็จพ่อ ในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์เรา ไม่เคยมีผู้ใดกล้าใช้สมญาฉู่อ๋อง!”“ฉู่หนิงเกิดในหมู่สามัญชน หากได้รับแต่งตั้งเป็นฉู่อ๋องเพียงเพราะผลงานการรบ เกรงว่าจะเร่งร้อนเกินไปพ่ะย่ะค่ะ”“ใช่พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ ต่อให้จะแต่งตั้งฉู่หนิงเป็นชินอ๋อง แต่จะให้เป็นฉู่อ๋องไม่ได้”บรรดาองค์ชายต่างแสดงความไม่พอใจฮ่องเต้มองท่าทีของทุกคน พระพักตร์แสดงถึงความไม่พอพระทัยมีคนกล้าคัดค้านความต้องการของเรางั้นหรือ?นี่มันพวกลูกทรพี!เหอะ ตอนน

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 316

    เหล่าขุนนางไม่กล้าเข้าไปยุ่งกับพวกเขาในตอนนี้ พากันหลีกทางให้หลังจากทักทายไม่นาน ทุกคนก็มายืนเรียงแถวเป็นสองฝั่งที่ตำหนักอิงอู่“กระหม่อม/ลูก ถวายพระพรฝ่าบาท!”ฮ่องเต้แย้มพระโอษฐ์ “ไม่ต้องมากพิธี ครั้งนี้ฉู่หนิงคว้าชัยชนะที่แนวหน้า พวกเจ้าก็มาฟังรายละเอียดด้วยกัน”จ้าวหมิงที่อยู่ด้านข้างนำรายงานชัยชนะออกมาอ่าน “กราบทูลเสด็จพ่อ ลูกใช้ขบวนลำเลียงเสบียงเป็นเหยื่อล่อให้ทัพศัตรูออกมาโจมตี แต่แท้จริงคือแอบซ่อนกำลังทหารไว้ในขบวนอยู่ก่อนแล้ว ทำลายกองโจมตีและกองซุ่มของศัตรูในคราเดียว”“จากนั้นเปิดประตูเมืองเพื่อล่อศัตรูมายังกำแพงเมืองฝั่งใต้ เมืองค่ายใหญ่ของศัตรูว่างเปล่าก็ส่งทหารที่จัดเตรียมไว้ก่อนแล้วเข้าไปเผาค่ายศัตรู พร้อมทั้งบุกเข้าไปยังกองบัญชาการ สังหารมู่หรงจู๋!”“ศึกครั้งนี้กำจัดทัพศัตรูไปสองแสนนาย อีกแสนนายที่เหลือได้เข้ายึดเมืองทั้งสี่ ลูกได้สั่งให้ไปตียึดคืนแล้ว”“กระนั้น ครั้งนี้กองทัพฝ่ายเราก็เสียกำลังพลไปเกินครึ่ง บัดนี้เหลือเพียงหกหมื่นนาย หวังว่าเสด็จพ่อจะส่งอนุญาตให้รับสมัครเพิ่ม พร้อมทั้งจัดหาเสบียงมาสนับสนุน อีกไม่นานก็จะตีคืนเมืองทั้งสี่จากศัตรูได้สำเร็จ”เมื่อรายง

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 315

    สถานการณ์ของเมืองติ้งเซียงเริ่มเข้าที่เข้าทาง เมืองฉู่หนิงเปิดประตูให้ทุกคนเข้าทดสอบส่วนพวกจ้าวอวี่กับกวนอวิ๋นที่กำลังโจมตีเมืองอีกสี่แห่งก็กำลังดำเนินการตามแผนแต่เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามยึดครองเมือง การโจมตีจึงไม่รุนแรงนัก ใช้วิธีปิดล้อมเพื่อตัดกำลังช่วยเหลือกองทัพปิดล้อมเมืองหนึ่งแห่ง รอให้อีกสามเมืองส่งคนมาช่วยเหลือ จากนั้นรอกำจัดระหว่างทางแต่กองทัพแคว้นจ้าวไม่ได้โง่ พวกเขาไม่ได้ส่งคนมาช่วยเหลือแต่อย่างใดฉู่หนิงไม่แปลกใจเมื่อได้ยินข่าวนี้ สั่งให้พวกเขาล้อมเมืองแค่หนึ่งแห่งก็พอ รอให้เสบียงในเมืองหมดลง กองทัพแคว้นจ้าวก็จะพ่ายแพ้ไปเองกาลเวลายืนอยู่ฝั่งของกองทัพฉู่ ฉู่หนิงไม่รีบร้อนแม้แต่น้อยยิ่งไปกว่านั้น การเก็บกองทัพแคว้นฉู่เหล่านี้ไว้ก็ใช้ต่อรองกับราชสำนักได้ด้วยและหลังจากวันนี้ ในที่สุด ฮ่องเต้ประทับอยู่ในเมืองหลวงก็ได้รับข่าวของฉู่หนิง“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ข่าวชัยชนะ เป็นข่าวชัยชนะจริง ๆ ด้วย!”ฮ่องเต้กำรายงานชัยชนะของฉู่หนิงไว้ในมือ เดินออกจากตำหนักอิงอู่ด้วยเสียงหัวเราะ“สวรรค์คุ้มครองแคว้นฉู่ สวรรค์คุ้มครองแคว้นฉู่!”ฮ่องเต้มีพระพักตร์ปลื้มปิติ “เด็ก ๆ เรียกขุนนางทุกฝ่ายม

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 314

    เมื่อมองฝูงชนเบื้องหน้า คนเหล่านี้มาเพราะเชื่อมั่นในตัวเขา!เขาสูดหายใจเข้าลุก ๆ ก่อนจะยกมือสั่งเสียงทุ้ม “ทหาร เปิดประตูเมือง!”สีหน้าของหลิวโส่วพลันเปลี่ยนไป “ท่านอ๋อง ท่าน…ท่านจะทำอันใด?”“ข้าจะออกไปปลอบโยนทุกคน!”“ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ คนเหล่านี้เป็นคนอดอยาก หากประสงค์ร้ายขึ้นมา…”“พอแล้ว ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร หากความกล้าแค่นี้ก็ยังไม่มี ข้าก็ไม่เหมาะสมที่จะเป็นองค์ชาย!”ฉู่หนิงมีท่าทีแน่วแน่ ว่าจบก็ลงจากกำแพงเมืองไม่นาน ประตูเมืองก็เปิดออก ฉู่หนิงควบม้านำทหารกลุ่มหนึ่งออกไปช้า ๆหลิวโส่วเริ่นตะโกนเสียงดัง “เผิงไหลจวิ้นอ๋องเสด็จ เหตุใดยังไม่คำนับอีก?”ทุกคนรีบโค้งตัวประสานมือ “คารวะท่านอ๋อง!”ฉู่หนิงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ทั้งสองกลุ่มอยู่ใกล้กันมาก ทำให้เขาเห็นสภาพของทุกคนชัดเจนราษฎรส่วนใหญ่สวมเสื้อผ้าชุดบาง ร่างกายผ่ายผอม สีหน้ามีความตื่นตระหนกฉู่หนิงถอนหายใจยาว ๆ แล้วพูดเสียงทุ้ม “ข้าทราบถึงจุดประสงค์ที่ทุกคนมาที่นี่ แต่ข้าต้องการผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงกำยำ พวกเจ้ามีสภาพเช่นนี้ ต่อให้ส่งเข้าสนามรบไปก็เปล่าประโยชน์”แม้จะฟังดูใจร้าย แต่มันก็เป็นความจริงคนแบบนี้เข้าส

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 313

    ฉู่หนิงสังหารตู้หยวนจีด้วยกลยุทธ์สายฟ้าฟาด เป็นที่หวั่นเกรงของเจ้าเมืองทั้งสี่ด้วยเหตุนี้ ในช่วงเวลาหลายวันต่อมา เจ้าเมืองทั้งสี่ไม่กล้าล่าช้าแม้แต่น้อย ทำตามคำสั่งของฉู่หนิงอย่างเต็มกำลังและผลลัพธ์ ก็เกินความคาดหมาย!สามวันต่อมา ขณะที่ฉู่หนิงกำลังฝึกใช้หอกอยู่ในลานบ้าน จู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังมาจากด้านนอกจากนั้น เสียงที่ดูร้อนรนของหลิวโส่วเริ่นก็ดังขึ้น “ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง เกิดเรื่องใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ฉู่หนิงขมวดคิ้ว โยนหอกในมือกลับขึ้นแท่นวางอาวุธอย่างมั่นคง“มีเรื่องอันใดกัน ใต้เท้าหลิวจึงต้องตื่นตระหนกเช่นนี้?”ฉู่หนิงยื่นมือไปรับผ้าจากสาวใช้ด้านข้าง เช็ดเหงื่อที่หน้าผากไปพลาง ถามด้วยรอยยิ้มไปพลางหลิวโส่วเริ่นรับราชการมาหลายปี เรื่องที่ทำให้เขาตื่นตระหนกแบบนี้น่าจะมีไม่มาก“ท่านอ๋อง ท่านรีบไปดูเถิด นอกเมืองมีคนเยอะมาก!”หลิวโส่วเริ่นพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น “คนเหล่านี้บอกว่ามาเข้าร่วมกองทัพ นอกจากนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นชายฉกรรจ์ กระหม่อมกลัวว่าจะมีกองทัพแคว้นจ้าวปะปน ฉวยโอกาสโจมตีเมืองในจังหวะที่ทัพเราไม่ทันระวัง!”มีคนมาเยอะมากหรือ?ฉู่หนิงหรี่ตา โยนผ้าลงในกะละมังและ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status