Share

ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา
ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา
Author: สายลมไร้กาลเวลา

บทที่ 1

Author: สายลมไร้กาลเวลา
“ฉู่หนิง นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป เจ้าก็คือองค์ชายสิบแปดแห่งราชวงศ์ต้าฉู่ของเรา!”

“เราขอสั่งให้เจ้านำทัพหนึ่งแสนนาย มุ่งหน้าไปยังชายแดนโดยเร็ว เพื่อต้านทานกองทัพสามแสนนายของต้าจ้าว!”

ณ ท้องพระโรงแห่งต้าฉู่ ภายในตำหนักจินหลวน

เด็กหนุ่มร่างผอมบางในอาภรณ์ผ้าป่านเนื้อหยาบผู้หนึ่งกำลังคุกเข่าอยู่ตรงกลาง

สองฟากฝั่งรายล้อมไปด้วยเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊จนเต็มพื้นที่ ส่วนตำแหน่งด้านหน้าสุดนั้นคือเหล่าองค์ชายสิบกว่าพระองค์ที่สวมใส่อาภรณ์สำหรับเชื้อพระวงศ์

“น้องสิบแปดเอ๋ย ต่อจากนี้ไปพวกเราก็คือครอบครัวเดียวกัน หลายปีมานี้ เจ้าใช้ชีวิตอยู่นอกวัง ตอนนี้ ถึงเวลาที่เจ้าควรจะไปออกแรงแสดงฝีมือที่แนวหน้าเพื่อราชวงศ์บ้างแล้ว!”

“เสด็จพ่อทรงมีพระประสงค์ที่จะฝึกฝนเจ้า จึงได้ส่งเจ้าไปยังแนวหน้าเพื่อสร้างผลงาน เจ้าอย่าได้ทำให้ความหวังดีของเสด็จพ่อต้องสูญเปล่าเล่า!”

“ฉู่หนิง แม้จะเกิดอยู่ในหมู่สามัญชน แต่เจ้าก็มีสายเลือดของราชวงศ์ ย่อมต้องมีความรับผิดชอบ การเดินทางไปยังแนวหน้าครั้งนี้ หากเจ้ามัวแต่รักตัวกลัวตายจนทำให้ราชวงศ์ต้องเสียหน้า เสด็จพ่อจักต้องลงโทษอย่างหนักแน่นอน!”

“ฉู่หนิง ยังไม่รีบขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณของเสด็จพ่ออีกหรือ?”

เหล่าองค์ชายต่างเผยรอยยิ้มเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม

น้ำเสียงนั้นยิ่งฟังดูสูงส่งหยิ่งผยอง!

จากสามัญชนกลายเป็นองค์ชาย แม้จะต้องไปเป็นตัวตายตัวแทนที่แนวหน้า ฉู่หนิงก็สมควรจะซาบซึ้งในบุญคุณของราชวงศ์!

เหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ทั่วทั้งราชสำนักมองเด็กหนุ่มที่คุกเข่าบนพื้น ในแววตานั้นมีทั้งความเวทนา ความเย็นชา และความสะใจในคราวเคราะห์ของผู้อื่น

ต้าฉู่และต้าจ้าวทำศึกที่แนวหน้าต่อเนื่องมาหลายปี แต่ครั้งนี้แคว้นต้าฉู่ประสบภัยแล้งครั้งใหญ่ เป็นเหตุให้เสบียงที่แนวหน้าขาดแคลน ขวัญกำลังใจทหารตกต่ำ กองทัพพ่ายแพ้ยับเยิน

ฮ่องเต้จึงตัดสินพระทัยเลือกองค์ชายองค์หนึ่งไปยังแนวหน้าเพื่อสร้างขวัญกำลังใจของกองทัพให้มั่นคง!

แต่เหล่าองค์ชายต่างรู้ดีว่าศึกครั้งนี้เก้าส่วนตายหนึ่งส่วนรอด จึงไม่มีผู้ใดกล้าไป!

โชคดีที่คนสนิทขององค์รัชทายาทสืบพบว่า ในปีนั้นครั้งที่ฝ่าบาทเสด็จประพาสต้น มีสตรีแพศยานางหนึ่งยั่วยวนฝ่าบาท และได้ให้กำเนิดบุตรชาย กลายเป็นองค์ชายที่ราชวงศ์ทอดทิ้งไว้ข้างนอก

หากเป็นยามปกติ คงไม่มีผู้ใดใส่ใจสายเลือดราชวงศ์ที่พลัดหลงอยู่ข้างนอก

แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน การส่งคนไปตายที่แนวหน้า จะมีใครเหมาะสมไปกว่าองค์ชายกำพร้าผู้นี้อีกหรือ?

ภายใต้การจัดการของเหล่าองค์ชาย ฉู่หนิงจึงถูกรับตัวกลับเข้าพระราชวังได้สำเร็จ ทั้งยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นองค์ชายสิบแปด!

ฉู่หนิงก้มหน้าไม่กล่าววาจาใด ทว่าในใจกลับกำลังหัวเราะเยาะ

องค์ชายพวกนี้ล้วนแต่รักตัวกลัวตาย อยากจะผลักไสเขาไปยังแนวหน้ากันทั้งสิ้น

คิดว่าเขาเป็นเพียงสามัญชนที่ไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ หรือ?

ในฐานะผู้ที่ทะลุมิติ เขาย่อมรู้ดีว่า เมื่อเทียบกับแนวหน้าแล้ว การต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์นั้นโหดร้ายยิ่งกว่า!

การแก่งแย่งในราชวงศ์ดุเดือดถึงเพียงนี้ ตัวเขาไร้ซึ่งอำนาจและอิทธิพล เดิมทีก็ไม่คิดจะอยู่ที่นี่ต่อ การไปยังแนวหน้าต่างหากคือหนทางรอดเพียงหนึ่งเดียว!

สำหรับองค์ชายองค์อื่น การไปแนวหน้าอาจมีแต่เก้าส่วนตายหนึ่งส่วนรอด

แต่สำหรับเขาแล้ว นั่นคือโอกาสที่สวรรค์ประทาน!

แต่ว่า คิดจะให้ข้าไปเป็นตัวตายตัวแทนทั้งที จะไม่ให้ผลประโยชน์อะไรบ้างได้อย่างไร?

ฉู่หนิงเงยหน้าขึ้นมองเหล่าองค์ชาย แสร้งทำสีหน้าตื่นเต้นยินดีอย่างยิ่ง “ขอบคุณท่านพี่ทุกท่านที่เมตตา การได้แบ่งเบาภาระของราชวงศ์ถือเป็นเกียรติของข้า ต่อให้ต้องตายในสงครามที่ชายแดน ห่อศพด้วยหนังม้าก็ไม่เสียดาย!”

“ในฐานะสายเลือดของราชวงศ์ สิบแปดปีมานี้ ข้าไม่เคยทำสิ่งใดเพื่อราชวงศ์เลย การไปยังแนวหน้าครั้งนี้ ข้าจะทุ่มเทสุดกำลัง แม้ร่างกายต้องแหลกสลายเป็นผุยผง เพื่อตอบแทนบุญคุณเสด็จพ่อ!”

น้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยวหนักแน่น ท่าทีที่ไม่หวั่นเกรงต่อความตาย ทำให้เหล่าองค์ชายและขุนนางต่างเงียบงัน

แม้แต่ฉู่หวยที่ประทับอยู่บนบัลลังก์ เมื่อได้เห็นหน้าบุตรชายเป็นครั้งแรก ในใจก็อดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้

เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าบุตรชายคนอื่น ๆ ของตนไม่อยากไปแนวหน้า จึงได้จงใจตามหาฉู่หนิงมาเป็นตัวตายตัวแทน

แต่ฉู่หนิงก็เป็นองค์ชายเช่นกัน เหตุใดจึงไม่กล้าช่วงชิงกับคนพวกนี้เล่า?

แม้สิบแปดปีมานี้ฉู่หนิงจะไม่เคยทำสิ่งใดเพื่อราชวงศ์ แต่ราชวงศ์เองก็ไม่เคยทำสิ่งใดเพื่อฉู่หนิงเช่นกัน

บัดนี้เพิ่งตามหาตัวฉู่หนิงพบ ก็จะส่งเขาไปตายที่แนวหน้าเสียแล้ว!

ทว่าฉู่หนิงไม่เพียงแต่จะไม่ปฏิเสธ กลับแสดงท่าทีห้าวหาญมุ่งมั่นถึงเพียงนี้!

เมื่อมองใบหน้าที่หล่อเหลาและมีความคล้ายคลึงกับตนเองอยู่สามส่วน ในหัวของฉู่หวยก็อดปรากฏภาพใบหน้างดงามของสตรีผู้นั้นในอดีตขึ้นมาไม่ได้

มารดาของฉู่หนิง ในปีนั้นนางก็ติดตามเรามาโดยที่ไม่ลังเลเช่นนี้!

เราเป็นเพียงผู้ผ่านทางในชีวิตนาง แต่นางกลับเห็นเราเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิต

แม้จะไม่ได้พบหน้าเราอีก นางก็ยังคงให้กำเนิดบุตรชายของเรา!

แต่บัดนี้ เรายังไม่ได้ทำหน้าที่ของบิดาต่อฉู่หนิง แต่กลับต้องส่งเขาไปยังแนวหน้า

เป็นเราที่ติดค้างฉู่หนิง!

“ฉู่หนิง สมแล้วที่เป็นบุตรที่ดีของเรา!”

ฉู่หวยมองฉู่หนิงด้วยสายตาให้กำลังใจ “แต่การเดินทางไปแนวหน้าครั้งนี้อันตรายยิ่งนัก หากเจ้ามีความต้องการใด ก็จงเอ่ยมาได้เลย”

นี่คือการประทานรางวัลให้ฉู่หนิง!

สีหน้าขององค์รัชทายาทฉู่เวยเปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบก้าวออกมา “เสด็จพ่อ ในฐานะองค์ชาย การที่ฉู่หนิงจะทุ่มเทกำลังเพื่อราชวงศ์ เป็นสิ่งที่พึงกระทำอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

องค์ชายสี่รีบกล่าวเสริม “ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ ฉู่หนิงเพิ่งเข้าวัง ยังไม่เข้าใจกฎระเบียบในวัง จะปล่อยให้เขาร้องขอตามใจชอบได้อย่างไร?”

องค์ชายหกยิ่งมองฉู่หนิงด้วยความรังเกียจ “เสด็จพ่อทรงรับเขากลับเข้าวัง คืนสถานะองค์ชายให้ก็นับเป็นพระกรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่แล้ว ยังจะมีความจำเป็นใดให้ต้องร้องขออีก?”

ขุนนางคนอื่น ๆ ก็พากันกล่าวเสริม

“จากสามัญชนกลายเป็นองค์ชาย ฉู่หนิงสมควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ การไปยังแนวหน้าครั้งนี้ คือโอกาสที่เขาจะได้สร้างผลงานให้ราชวงศ์!”

“ถูกต้อง เขาควรจะขอบพระทัยฝ่าบาทที่ประทานโอกาสให้เขาได้สร้างผลงานต่างหาก!”

“องค์ชายสิบแปด ท่านยังจะยืนเหม่ออะไรอยู่ รีบขอบพระทัยแล้วถอยออกไปได้แล้ว!”

คำพูดทุกคนทำให้ศีรษะที่ก้มต่ำอยู่แล้วของฉู่หนิงยิ่งก้มต่ำลงไปอีก

ขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ทั่วทั้งราชสำนัก เขาไม่รู้จักผู้ใดเลย และไม่มีใครสักคนที่จะยอมช่วยเขา

สิ่งที่เขาใช้ประโยชน์ได้มีเพียงความรู้สึกผิดที่ฮ่องเต้ชรามีต่อตัวเขาและมารดาของเขาเท่านั้น

ช่วงชิงไป ก็ช่วงชิงไม่ได้อย่างแน่นอน

การถอยเพื่อรุกคืบต่างหากคือยอดกลยุทธ์!

บนบัลลังก์มังกร ฉู่หวยมองเหล่าขุนนางทั่วทั้งท้องพระโรงที่ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจาแทนฉู่หนิงแม้แต่คนเดียว สายตาก็อดฉายแววผิดหวังขึ้นมาแวบหนึ่งไม่ได้

จากนั้นก็หันไปมองฉู่หนิงที่ถูกคนพูดจากดดันจนไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ฉู่เวยได้แต่ถอนหายใจยาวอยู่ในใจ

เด็กคนนี้มาจากสามัญชนจริง ๆ ไม่เคยได้พบเห็นโลกกว้าง ถูกคนมากมายรุมกลั่นแกล้งเพียงเท่านี้ ก็จนปัญญาเสียแล้ว

แต่ถึงอย่างไรนี่ก็คือสายเลือดของเขา จะปล่อยให้ถูกขุนนางพวกนี้รังแกได้อย่างไร?

พวกเจ้าผลักไสให้ฉู่หนิงไปตาย ยังไม่คิดจะพูดจาดี ๆ สักสองสามประโยคเลยหรือ?

ยิ่งไปกว่านั้น ฉู่หนิงก็ยอมรับปากจะไปแนวหน้าแล้ว เราเพียงแค่อยากจะประทานรางวัลให้เขาเพิ่มเติม เพื่อชดเชยความรู้สึกผิดในใจเท่านั้น

แต่คนเหล่านี้กลับพูดจาไม่หยุดหย่อน ตั้งใจจะขัดขวาง

ฉู่หนิงไม่กล้าตอบโต้ แต่พวกเจ้าคิดว่าเราผู้เป็นฮ่องเต้องค์นี้ตายไปแล้วหรือไร?

“พอได้แล้ว!”

ฉู่หวยตวาดลั่น ทุบโต๊ะแล้วลุกขึ้น รัศมีแห่งองค์จักรพรรดิที่แผ่ออกจากร่างทำให้เหล่าขุนนางหวาดกลัว พากันคุกเข่าลงกับพื้น

“ฝ่าบาทโปรดอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉู่หวยกวาดตามองทุกคนแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยเสียงเย็น “หากฉู่หนิงไปแนวหน้าด้วยฐานะองค์ชายเพียงอย่างเดียว เกรงว่าคงยากที่จะทำให้คนยอมรับนับถือ”

“ใครก็ได้ ถ่ายทอดราชโองการลงไป แต่งตั้งฉู่หนิงเป็นเผิงไหลจวิ้นอ๋อง พระราชทานตำแหน่งแม่ทัพผิงตง พร้อมจวนหนึ่งหลัง!”

สีหน้าของเหล่าองค์ชายพลันย่ำแย่ขึ้นมาเล็กน้อย

แม้จะได้รับการแต่งตั้งเป็นเพียงจวิ้นอ๋อง แต่ก็ทำให้สถานะของฉู่หนิงแทบไม่ต่างจากพวกเขา และมีคุณสมบัติพอที่จะแย่งชิงบัลลังก์กับพวกเขาได้แล้ว!

ส่วนฉู่หนิงนั้นราวกับตกตะลึงจนโง่งมไปแล้วกับการพระราชทานนี้ ยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่รู้จะทำอย่างไร

เด็กโง่คนนี้ คงไม่เคยเห็นโลกกว้างจริง ๆ !

ฉู่หวยมองฉู่หนิงแวบหนึ่ง “ยังไม่คุกเข่าขอบพระทัยอีก?”

ฉู่หนิงได้สติ รีบทำความเคารพทันที “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ทรงประทานรางวัลพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉู่หวยจึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “เจ้าเพิ่งมาถึงเมืองหลวง ยังไม่คุ้นเคยกับอะไรหลายอย่าง พักอยู่ที่เมืองหลวงสักระยะก่อน แล้วค่อยเดินทางไปแนวหน้า”

“หากไม่มีเรื่องอื่นแล้ว เจ้าก็ถอยออกไปเถิด!”

ฉู่หนิงยกยิ้มมุมปาก “เสด็จพ่อ ลูกเพิ่งมาที่พระราชวังเป็นครั้งแรก จึงได้เตรียมของขวัญแรกพบมามอบให้เสด็จพ่อและบรรดาท่านพี่ด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

จะไม่มีเรื่องอื่นได้อย่างไรเล่า!

วันนี้เหล่าองค์ชายรังแกตนไว้มากเพียงนี้ จะต้องเอาคืนให้ได้!

อีกอย่าง การทำศึกก็คือการผลาญเงิน หากไร้ซึ่งเงินทองย่อมมิอาจทำการใดได้!

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
แสบสกล แสบสกล แสบสกล
hahaha no worries ...
goodnovel comment avatar
แสบสกล แสบสกล แสบสกล
it's shuts down ...
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 696

    แต่ก็มีคนก้าวออกมาคัดค้านทันที “ฮึ่ม ใต้เท้าเหอดูแลกรมโยธาธิการ หากย้ายไปกรมการคลัง ใครจะรับผิดชอบงานของกรมโยธาธิการ?”“ถูกต้อง ใต้เท้าเหอไม่เหมาะดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลัง ให้ใต้เท้าจางดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลังเหมาะสมกว่า”“ใต้เท้าจางไม่เหมาะ ให้ใต้เท้าเผิงดำรงตำแหน่งเหมาะสมที่สุด”“ฝ่าบาท ในความเห็นของกระหม่อม ใต้เท้าโม่เหมาะกับตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลังที่สุด”ทุกคนพากันก้าวออกมา ปกป้องผู้ที่ตนเองจงรักภักดีตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลังมีความสำคัญอย่างยิ่ง พวกเขาต้องแย่งตำแหน่งนี้มาให้เจ้านายของตนเองให้ได้ ไม่เช่นนั้นต่อไปอยู่ในราชสำนัก จะตกอยู่ใต้อำนาจผู้อื่นแต่พวกเขายิ่งทะเลาะกัน รอยยิ้มบนใบหน้าฉู่หนิงก็ยิ่งกว้างทะเลาะเลย ทะเลาะเยอะๆ ทะเลาะจนทำให้เสด็จพ่อรำคาญพวกเจ้า ถึงเวลานั้น ตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลังก็จะเป็นของหลิวโส่วเริ่นเจ้าพวกนี้ยังคิดจะฉวยโอกาส แต่หารู้ไม่ว่าเสด็จพ่อ ถนัดเรื่องการถ่วงดุลอำนาจมากที่สุดตอนนี้พวกเจ้าแต่ละคนให้ขุนนางที่สนับสนุนตนเองออกมาร่วมวงด้วย นี่ไม่เท่ากับกำลังบอกฮ่องเต้ว่า : คนพวกนี้เป็นคนของพวกเจ้า!ด้วยนิสัยของฮ่องเต้ ไม่มีทางปล่อยให้ฝ่ายใด

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 695

    “เสด็จพ่อ ลูกคิดว่าใต้เท้าหลิวเพียงพอที่จะดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลัง!”ฉู่หนิงก้าวออกมาพูดแทนหลิวโส่วเริ่น “ในช่วงนี้ ขุนนางกรมการคลังขาดแคลน ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถจัดการได้ทันท่วงที ใต้เท้าหลิวเป็นคนประคับประคองกรมการคลังมาโดยตลอดดูจากใต้เท้าหลิวจัดการงานของกรมการคลังในช่วงที่ผ่านมา เขาสามารถดำรงตำแหน่งนี้ได้อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”การมีคนในราชสำนักย่อมทำให้ทำงานง่ายขึ้น หากสามารถควบคุมกรมการคลังที่เป็นหนึ่งในหกกรม ก็เท่ากับมีหูตาอยู่ในราชสำนักนี่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาปิงโจวในอนาคตอย่างมากยิ่งไปกว่านั้น หลิวโส่วเริ่นมีพื้นเพมาจากปิงโจว และยังเคยเป็นเจ้าเมืองเมืองติ้งเซียง มีความผูกพันกับปิงโจว หลังจากกลายเป็นเสนาบดีกรมการคลัง จะต้องหาวิธีดูแลปิงโจวแน่นอนราชสำนักในอดีต ท้องพระคลังขาดแคลน กรมการคลังมีแต่ชื่อ ไม่มีอำนาจมากนักแต่ตอนนี้ต่างออกไปแล้ว ท้องพระคลังได้รับเงินมากมายเช่นนั้น กรมการคลังในอนาคต เป็นเนื้อก้อนโตเลยทีเดียว!แต่ก็เพราะเป็นเนื้อก้อนโต องค์รัชทายาทกับองค์ชายคนอื่นๆ ก็อยากชิงดูสักตั้ง!ทันทีที่สิ้นเสียงฉู่หนิง องค์รัชทายาทก้าวออกมาคัดค้านเป็นคนแรก“น้องส

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 694

    เพราะอย่างไรเสีย ฉู่หนิงก็เป็นคนทวงเงินกลับคืนมาทันทีที่สิ้นเสียง ขุนนางที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาขององค์รัชทายาทก้าวออกมาสนับสนุนทันที เมื่อองค์ชายรองและคนอื่นๆ เห็นดังนี้ก็หันไปสบตากัน จากนั้นก็พากันเห็นด้วย เวลานี้ ขุนนางคนอื่นๆ จึงจะเข้าใจเหล่าองค์ชายเห็นพ้องต้องกัน!แต่มาลองคิดดูมันก็ถูก ครั้งนี้ฉู่หนิงได้สร้างความดีความชอบอันใหญ่หลวงเช่นนี้ ทำให้เขาเด่นเกินหน้าเกินตา ในฐานะองค์ชาย ใครก็ต้องหวั่นเกรงในเรื่องของการพระราชทานรางวัล เหล่าองค์ชายย่อมไม่อยากให้ฉู่หนิงได้เปรียบเหล่าขุนนางที่เข้าใจแล้ว ก็พากันก้าวออกมาสนับสนุน“ฝ่าบาท องค์รัชทายาทพูดถูก!”“ชีวิตของฉู่อ๋องในปิงโจวลำบากมาก เมื่อก่อนราชสำนักไม่มีเงิน ได้แต่ปล่อยให้ฉู่อ๋องพึ่งพาตนเอง ตอนนี้ราชสำนักมีเงินแล้ว ก็ควรดูแลฉู่อ๋องเป็นพิเศษ!”“กระหม่อมก็รู้สึกว่าควรพระราชทานเงิน”“ขอฝ่าบาทโปรดทรงมีพระราชโองการ!”คำพูดของขุนนางบุ๋นบู๊ ทำให้หลิวโส่วเริ่นที่เป็นผู้รักษาการณ์กรมการคลังทนดูต่อไปไม่ได้แล้วเขาก้าวออกมากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ฝ่าบาท ฉู่อ๋องช่วยราชสำนักทวงเงินกลับคืนมานับร้อยล้าน ช่วยแก้ปัญหาท้องพระคลังขาดแ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 693

    วันต่อมา ยามเหมายามเช้าในเดือนห้า ท้องฟ้าสว่างจนมองเห็นชัดฉู่หนิงสวมชุดอ๋องสีม่วง ควบม้ามาถึงหน้าประตูพระราชวัง“คำนับท่านอ๋อง!”หน้าประตูพระราชวัง ขุนนางหลายคนพากันประสานมือคารวะฉู่หนิงสามารถทำให้เหล่าตระกูลใหญ่ยอมอ่อนข้อเพียงลำพัง ทั่วราชวงศ์ต้าฉู่มีเพียงฉู่หนิงที่ทำได้ไม่ว่าเหล่าขุนนางจะอยู่ฝ่ายใด ล้วนชื่นชมฉู่หนิงมากฉู่หนิงกวาดมองทุกคนแวบหนึ่ง พยักหน้าแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี”ขณะที่กำลังพูด มีเสียงกีบเท้าม้า องค์ชายรองฉู่หมิงควบม้ามาถึงแล้ว“น้องสิบแปด ช่างหน้าใหญ่จริงๆ!” องค์ชายรองมองฉู่หนิงที่ถูกทุกยกยอจนแทบตัวลอย แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม“พี่รองล้อเล่นแล้ว ข้าเพิ่งมาถึงเอง เป็นเพราะขุนนางทุกท่านเกรงใจเกินไปต่างหาก”“พอแล้ว รีบเข้าไปเถิด การประชุมเช้ากำลังจะเริ่มแล้ว”เมื่อกล่าวจบ องค์ชายรองพลิกกายลงจากม้า แล้วเดินตรงไปที่ประตูของพระราชวังฉู่หนิงพลันยิ้มเล็กน้อย แล้วเดินตามไปโดยไม่พูดอะไรมากที่หน้าประตูตำหนักจินหลวน มีองค์ชายและขุนนางมารออยู่แล้ว เมื่อเห็นองค์ชายรองกับฉู่หนิงเดินมา ก็พากันคารวะองค์รัชทายาทเพียงกวาดมองฉู่หนิงด้วยสีหน้าไร้อารม

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 692

    ผู้หญิงคนนี้หนีไปได้ ไม่แน่อาจเป็นปัญหาใหญ่ในวันข้างหน้าแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องเหล่านี้ จัดการคนเจ็ดคนนี้ก่อนค่อยว่ากัน“ฮึ่ม ว่ามา เหตุใดต้องลอบสังหารข้า?” ฉู่หนิงจ้องคนทั้งเจ็ดอย่างเย็นชาและถามหัวหน้าตระกูลทั้งเจ็ดเงียบทันทีเหตุใดลอบสังหารเจ้า? ในใจเจ้าไม่รู้เลยหรือ?เดิมทีปิงโจวอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลใหญ่ แต่พอเจ้าฉู่หนิงไปปิงโจว ยึดที่ดินทั้งหมดคืน ตระกูลใหญ่จะอยู่รอดได้อย่างไรไม่ฆ่าเจ้าแล้วจะฆ่าใคร?แต่พวกเขาไม่กล้าพูดคำพูดนี้ออกมา เพราะกลัวฉู่หนิงจะลงมือกับตนเอง“ไม่พูดใช่หรือไม่?”ฉู่หนิงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเจ้าก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เด็กๆ ฆ่าพวกมันให้หมด!”ทันทีที่คำสั่งดังขึ้น ก่อนคนทั้งเจ็ดจะตั้งสติได้ หร่านหมิงพลันยิ้มอย่างดุร้าย เงื้อมดาบในมือขึ้น ก็ตัดศีรษะของหัวหน้าตระกูลคนหนึ่งหลุดโดยตรง เมื่อทัพอาชาคนอื่นเห็นดังนี้ ก็พากันลงดาบในมือ พริบตาเดียว ที่เกิดเหตุมีดวงวิญญาณเพิ่มมาหกดวงกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งจนฉุนจมูก ฉู่หนิงปิดจมูก พลางโบกมือสั่ง “เผาศพ แล้วฝังไว้ตรงนี้!”หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ทุกคนเดินทางกลับเมืองเ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 691

    ในที่สุดก็หาตัวผู้อยู่เบื้องหลังคดีลอบสังหารเจอเสียทีเป็นไปตามที่ฉู่หนิงคาดการณ์ เป็นฝีมือของแปดตระกูลใหญ่แห่งปิงโจว ที่จริงเดาออกนานแล้วว่าเป็นฝีมือของคนเหล่านี้ เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่มีหลักฐานก็เท่านั้นเองตอนนี้มีการชี้ตัวของเหล่าตระกูลใหญ่ การจับกุมแปดตระกูลใหญ่แห่งปิงโจว ก็เป็นไปอย่างมีความชอบธรรมและหลักฐานองค์รัชทายาทมองดูแผ่นหลังที่เดินจากไปของฉู่หนิง มีความไม่เต็มใจเสี้ยวหนึ่งแลบผ่านแววตาวันนี้เจ้าหมอนี่ไม่เพียงทวนเงินคลังที่ถูกยักยอกกลับคืนมา และยังหาเงินสำหรับการสร้างสุสานให้เสด็จพ่อด้วย เสด็จพ่อคงจะโปรดปรานเขามากขึ้นแน่!ไม่ได้ ปล่อยให้ฉู่หนิงทำสำเร็จไม่ได้เด็ดขาดองค์รัชทายาทพลันหรี่ตาลง และกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เสด็จพ่อ ปัจจุบันน้องสิบแปดใจกล้าบ้าบิ่น จะต้องทำให้เหล่าตระกูลใหญ่ เกิดความไม่พอใจต่อเขาแน่นอน นี่ไม่เป็นผลดีต่อราชวงศ์ต้าฉู่ของเรานะ เพราะวันข้างหน้ายังมีเรื่องอีกมากมายต้องพึ่งพาเหล่าตระกูลใหญ่”แต่เวลานี้ฮ่องเต้กำลังจมอยู่กับความปีติยินดีของการสร้างสุสานหลวง เมื่อได้ยินองค์รัชทายาทว่าร้ายฉู่หนิง สีพระพักตร์จึงเคร่งขรึมลงทันที“รัชทายาท เรารู้ว่า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status