"กลับมาถึงกันแล้วหรือตาเจตน์ นี่ไปซื้อหมึกกันมาถึงไหนถึงได้กลับมาสายกันจนป่านนี้ ป่านนี้วุ้นมะพร้าวป้ากับอาหารทะเลไม่เน่าหมดแล้วหรือไง แล้วนั่นดูเจ้าอิงอีก ตอนไปเธอไม่น่าจะแต่งชุดนี้ไปนะ"
"พอดีว่ามีอุปสรรคนิดหน่อยครับป้าไก่ รายนั้นไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนถึงได้โดนหมึกพ่นน้ำหมึกใส่เต็มตัวเลย ผมเลยต้องจอดแวะโรงแรมให้ล้างตัวแล้วค่อยกลับมา ส่วนของที่ป้าไก่สั่ง ไม่มีอะไรเน่าเสียหายหรอกครับ เพราะว่าผมอัดน้ำเเข็งใส่มาให้เต็มที่"
"งั้นก็ดี ไหนๆวันนี้เราก็อยู่กันพร้อมหน้าแล้ว เย็นนี้เพื่อนป้าจะพาหลานสาวที่พี่งกลับจากอังกฤษเข้ามาทานข้าวด้วย เจตน์อยู่ทานด้วยกันนะลูก ไม่ได้มีนัดอะไรที่ไหนใช่ไหม"
"ไม่มีครับป้าไก่"
"ดีแล้ว งั้นเจตน์ก็ขึ้นไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะ ไว้เย็นๆค่อยลงมา"
และทันทีที่จิรายุเดินขึ้นบันไดไป คุณกนกวรรณก็รีบจูงข้อมืออิงรดาออกไปคุยกันที่ประตูหลังบ้านในทันที ทั้งสองคนทำท่าทีลับๆล่อๆ พอมองซ้ายแลขวาแล้วไม่มีใคร คุณกนกวรรณจึงได้เริ่มต้นเป็นฝ่ายถาม
"ตาเจตน์เป็นยังไงบ้างอิง ดีขึ้นไหม"
"ก็คิดว่าน่าจะดีขึ้นบ้างค่ะคุณท่าน ไม่ได้มีท่าทีเศร้าใจอะไร ส่วนคุณนพนนท์เองก็ไม่เห็นติดต่อคุณเจตน์มา เพราะว่าอะไรรู้ไหมคะ ตอนที่หนูกับคุณเจตน์นั่งกินข้าวกันอยู่ อยู่ๆหนูก็เหลือบไปเห็นคุณนนท์เธอเดินควงกับคนรักเธอมาค่ะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าโลกจะกลมอย่างที่เขาบอกกันจริงๆ ดีนะคะที่คุณเจตน์ไม่เห็น ไม่งั้นน่าจะคงเศร้าต่อไปอีกค่ะ"
"ดี งั้นเธอก็จับตาดูตาเจตน์ต่อไป เย็นนี้ฉันนัดเพื่อนฉันให้พาหลานสาวมาดูตัวกับตาเจตน์แล้ว ก็ได้แต่ภาวนาว่าต่อมความเป็นชายของตาเจตน์มันจะกลับมาใช้การได้ ยิ่งพูดไปฉันล่ะก็ยิ่งกลุ้ม มีหลานชายคนเดียวทั้งที อยู่ๆก็มาเป็นเก้งเป็นเกย์ไปเสีย ยังไงเธอก็ช่วยฉันหน่อยก็แล้วกันนะอิง"
"ได้ค่ะคุณท่าน หนูก็อยากให้คุณเจตน์หายกลับมาเป็นผู้ชายเหมือนกัน คุณเจตน์ออกจะทั้งหล่อทั้งหน้าตาดี เป็นเกย์แบบนี้ น่าเสียดายของนะคะ" อิงรดาพูดออกมาแบบหน้าแหยๆ
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน จิรายุแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าสิ่งที่ตนกำลังได้ยินอยู่นั้นมันคือความคิดของผู้เป็นป้าและก็ยายอิงรดา สองคนนั้นกำลังแอบคุยกระซิบกันอยู่ที่มุมหลังบ้านเรื่องเขา และแน่นอนว่าสิ่งที่เขาได้ยินเข้ามาในหูเต็มๆก็คือ ทั้งสองคนนั้นคิดว่าเขาเป็น เกย์
เมื่อครู่ที่จิรายุกลับขึ้นห้องไปแล้วก็ว่าจะอาบน้ำแล้วก็พักผ่อนเสียหน่อย แต่ตอนที่จับมือถือขึ้นมาแบตเตอรรี่ก็ดันแจ้งเตือนว่ากำลังจะหมด พอนึกได้ว่าลืมสายชาร์จไว้ในรถก็เลยจะเดินออกไปเอา แต่หูก็ได้ยินเสียงแว่วมาจากทางหลังบ้านว่ามีคนกำลังคุยกัน
ทีแรกก็ไม่ได้คิดสนใจ คิดว่าเป็นเสียงน้าตากับน้าเจิด แต่พอเดินมาหน้าบ้านผู้เป็นป้าก็ไม่รู้ว่าหายไปไหน มันไวเกินไปที่ป้าของเขาจะขยับโยกย้ายไปที่อื่น รวมถึงอิงรดาด้วย บวกกับความรู้สึกที่บอกว่าหลังบ้านตรงนั้นมันมีอะไรแน่ๆ เลยจำเป็นต้องกำจัดความสงสัยเดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อเงี่ยหูฟัง
ทันทีที่ได้ยินจิรายุยอมรับว่าโกรธ โกรธทั้งป้าของตัวเองแล้วก็โกรธทั้งอิงรดา ไม่รู้ว่าสองคนนั้นไปเอาความคิดที่บ้าบอคอแตกขนาดนั้นมาจากไหน เขาเนี่ยนะจะเป็นมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าทั้งป้าและอิงรดาเห็นว่าเขาสนิทกับนพนนท์ก็เลยจินตนาการกันเป็นตุเป็นตะไป
จิรายุเดินย่องออกมาจากตรงนั้นเบาๆก่อนจะรีบเดินกลับขึ้นไปบนห้อง ภายในใจจากที่โกรธก็เริ่มจะกลายเป็นขำ ยิ่งอิงรดารับปากกับป้าของเขาอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะคอยจับตาดููเขาเอาไว้และจะพยายามช่วยให้เขาหายกลับมาเป็นผู้ชายปกติ จิรายุก็ยิ่งตลก อยากจะรู้นักว่าอิงรดาจะทำท่าไหนให้เขาหายกลับมาเป็นผู้ชายอย่างเก่า ก็ในเมื่อทุกวันนี้เขาก็เป็นผู้ชายมาดแมนร้อยเปอร์เซ็นและไม่เคยแม้แต่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนอย่างใด
แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อทั้งป้าและอิงรดาอุตส่าห์ตั้งใจช่วยกันวางแผนเพื่อช่วยเขาขนาดนี้ เขาเองก็จะลองเล่นไปตามน้ำดูเสียหน่อย คิดเเล้วจิรายุก็เกิดความคิดสนุกๆอยากแกล้งคนขึ้นมาทันที
"คุณเจตน์คะ คุณท่านให้มาตามลงไปข้างล่างค่ะ อีกเดี๋ยวแขกคุณท่านก็น่าจะมาแล้ว" เสียงอิงรดามาเคาะประตูเรียก จิรายุจึงเดินออกไปเปิดประตูอย่างนั้นทั้งๆที่บนศรีษะมีผ้าเช็ดตัวผืนเล็กสีขาวม้วนคลุมผมเอาไว้อีกทั้งบนใบหน้าก็ยังมีแผ่นมาร์กหน้าแปะอยู่
"มากันแล้วเหรอ ฉันยังมาร์กหน้าไม่เสร็จเลย"
"เอ่อ นี่คุณเจตน์มาร์กหน้าด้วยเหรอคะ ไหนวันนั้นบอกหนูว่าใช้แค่ครีมกันแดดอย่างเดียว"
"แล้วมันผิดด้วยเหรอที่ฉันเริ่มจะอยากหันมาดูแลตัวเอง เธอไม่เคยได้ยินหรือไงว่าเมื่อไหร่ที่เราอกหัก เมื่อนั้นเราจะอยากทำตัวเองให้ดูดีขึ้น เพื่ออย่างน้อยคนที่เขาทิ้งเราไปจะได้เสียดาย"
"ก็ไม่ผิดหรอกค่ะ แต่แค่หนูไม่เคยเห็น"
"ถ้างั้นเธอก็ช่วยบอกป้าไก่ให้รอสักแป๊บ เดี๋ยวฉันแต่งตัวเสร็จแล้วจะรีบลงไป"
"ได้ค่ะๆ งั้นหรูลงไปรอข้างล่างนะคะ"
ทันทีที่บานประตูถูกปิดจิรายุก็ดึงทั้งผ้าโพกผมและแผ่นมาร์กหน้าที่นพนนท์เคยฝากซื้อแต่ลืมเอาไว้ออกทิ้งไป คนที่กำลังชอบใจยืนขำตัวงอเมื่อนึกถึงสายตาอิงรดาที่มองมาที่เขาแบบอึ้งๆ ก็แน่ล่ะสิ จิรายุมุมนี้เคยมีใครได้เห็นเสียที่ไหน ในเมื่อป้าไก่กับอิงรดาอยากมาปรักปรำเขาก่อน เขาก็เลยลองทำอะไรๆสนุกๆแก้เผ็ดเล่นดูเสียบ้าง เชื่อได้เลยว่าป่านนี้อิงรดาคงรีบวิ่งหน้าตื่นลงไปบอกป้าเขาเรียบร้อยแล้วว่าเธอเห็นเขาทำอะไร
"คุณท่านคะ หนูตามคุณเจตน์ให้แล้วนะคะ แต่คุณเจตน์บอกว่าขอเวลาอีกเดี๋ยวค่ะ"
"ตาเจตน์มันมัวทำอะไรอยู่ถึงยังได้ยังไม่ลงมา นี่เดี๋ยวหนูแอลกับเพื่อนฉันก็จะมาถึงแล้วนะ"
"เอ่อ คือ คุณเจตน์ยังมาร์กหน้าไม่เสร็จค่ะ"
"มาร์กหน้า!"
อิงรดาพยักหน้าหงึกหงักสองสามทีเมื่อเห็นคุณกนกวรรณทำหน้าตกใจ อย่าว่าแต่คุณกนกวรรณเลยที่ตกใจ ตัวเธอเองก็ตาค้างเหมือนกันตอนที่เขาเปิดประตูออกมา
"ตกลงตอนนี้ตาเจตน์มันคงตั้งใจจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงแล้วสินะถึงได้ทำอะไรแบบนี้ ไม่ได้การละ ฉันคงต้องรีบหาคู่ดูตัวให้มันเด็ดขาด เริ่มจากหลานสาวเพื่อนฉันคนนี้แหละ"
"หนูท้องจริงๆด้วยค่ะคุณเจตน์""อะไรนะ นี่พูดจริงหรือเปล่าอิง""สองขีดชัดเจนขนาดนี้โกหกได้ด้วยเหรอคะ"อิงรดาชูแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ที่ปรากฎสัญลักษณ์สองขีดที่อยู่ในมือชููยื่นให้จิรายุดู ช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เธอมีอาการแปลกๆ เอาแต่เวียนหัวหงุดหงิดวิงเวียนเป็นว่าเล่น ดึกๆดื่นๆก็ชอบตื่นลุกขึ้นมาหาอะไรกินทั้งที่นอนหลับไปแล้ว จนจิรายุเองยังเคยแอบแซวว่าสงสัยเธอคงจะท้องแล้วแน่ๆยิ่งพอได้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน รายนั้นก็ชอบจับเธอกินทั้งเช้าและค่ำ บางทีดึกดื่นค่ำมืดกว่าจะได้หลับได้นอนก็ปาไปเกือบค่อนคืน ทั้งทีเธอเองก็บอกไปแล้วว่าให้เขาเพลาๆลงหน่อย งานแต่งก็ยังไม่ได้จัด กว่าจะถึงฤกษ์ก็ต้องรออีกตั้งสองเดือนถึงจะถึงวันที่คุณกนกวรรณหาเอาไว้ให้ เธอเลยกลัวว่าป่านนั้นตัวเองจะได้ท้องโย้ก่อนเข้าพิธีแต่งงาน"เย้!ในที่สุดลูกพ่อก็มาสักที แบบนี้ต้องประกาศให้โลกรู้ว่าจิรายุก็มีน้ำยา นึกว่าจะต้องอับอายขายขี้หน้าคนแถวนี้เสียแล้วว่าฉันทำลูกไม่เป็น"จิรายุกระโดดเย้วๆอยู่สามสี่ทีก็วิ่งกลับมาอุ้มเธอขึ้นหมุนไปรอบๆ อิงรดาอดขำไม่ได้ที่จิรายุยังจำได้อยู่ว่าเธอแกล้งล้อเขาว่าอะไร เพราะตั้งแต่ที่ตั้งใจมีอะไรกันไปแบบไม่มีกา
"แกต้องรับผิดชอบยายอิง"นั่นคือคำประกาศิตที่คุณกนกวรรณพึ่งจะประกาศออกไป อิงรดายังคงนั่งก้มหน้าโดยมีจิรายุหลานชายของเธอนั่งจับมือไว้ คงจะเป็นเพราะว่าเด็กนั่นกลัวทำให้เธอและผู้เป็นยายผิดหวังเสียใจ จึงไม่กล้าเงยหน้าสบตา หากแต่ว่าความจริงเป็นอย่างไร คงจะมีแต่เธอเท่านั้นที่รู้อยู่เต็มอก นึกย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เธอยังคงส่งนักสืบเฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวของอดีตสามีที่ย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับภรรยาใหม่ ซึ่งก็คือ นันที อดีตแม่บ้าน ด้วยความที่ยังคงรักและเป็นห่วง บวกกับที่เธอได้ข่าวมาว่าพักหลังมานี้อดีตสามีสุขภาพไม่ค่อยจะดีนักและออกไปไหนไม่ค่อยได้ ทำให้ฝ่ายหญิงนั้นแอบลักลอบมีความสัมพันธ์กับชายคนใหม่ และไม่ได้ใส่ใจดูแลอดีตสามีของเธออย่างที่ควรจะเป็น จนอดีตสามีของเธอรู้เข้าก็เริ่มตรอมใจ เธอเองด้วยความที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายปี บอกตามตรงก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เลยยังแอบดูแลให้ความช่วยเหลือในฐานะเพื่อนเก่า โดยที่ไม่เคยเอ่ยปากบอกให้ใครรู้แต่พอสืบไปสืบมา นอกเหนือจากเรื่องสามี ความจริงบางอย่างที่เธอได้รับรู้เพิ่มมาอีกอย่างด้วยก็คือ พ่อหลานชายตัวดี ยังคงติดต่อคบหากับเอมมิกาลูกสาวของนันที
ไม่ใช่แค่อิงรดาที่หน้าเหวอ แต่เอวารินที่โทรมาอยู่ในสายก็หน้าเหวอตกใจไปตามๆกัน แถมฝ่ายนั้นยังจะถามจิรายุซ้ำเพื่อความแน่ใจอีกต่างหาก จนได้ฟังคำตอบรอบที่สองของจิรายุไป ทำเอาอิงรดาถึงกับต้องรีบแย่งโทรศัพท์มือถือที่ถูกจิรายุแย่งไปคืนกลับมา'น้องแอลฟังไม่ผิดหรอกครับ พี่บอกว่าอิงเป็นแฟนพี่ หรือว่าจะเอาให้ชัดๆเลยก็คือ อิงเป็นเมียพี่ครับ'"คุณเจตน์พูดแบบนั้นกับคุณแอลไปได้ยังคะ""ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อฉันพูดความจริง หรือเธอจะเถียงอีกว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน"จิรายุหน้ายุ่งคิ้วยุ่งสวนกลับคนตัวเล็กทันทีที่เธอแหวมา ก็จะให้เขาทำยังไงได้ล่ะ ยอมทนเห็นแฟนตัวเองถูกคนอื่นจีบเฉยๆอย่างนั้น ถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นผู้หญิงก็ตามอย่างนั้นเหรอ คงไม่ใช่เขาล่ะ คอยดูเถอะ นี่ขนาดยังไม่ได้คบกันออกหน้าออกตาเขายังหวงเธอขนาดนี้ วันไหนที่มีโอกาสได้ประกาศความเป็นเจ้าของขึ้นมา รับรองว่าอิงรดาจะไม่มีทางได้เหลียวมองใคร"แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆนี่คะ"อิงรดาน้ำเสียงอ่อนลง แถมยังทิ้งตัวนั่งลงไปบนเตียงราวกับว่าหมดอะไรตายยาก ในเมื่อตอนนี้เธอเองไม่สามารถแสดงสิทธิ์ในการครอบครองเขาได้ เพราะฉะนั้นเรื่องสถานะความสัมพันธ์ระหว
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นก้องอยู่ภายในห้องครัว ยิ่งอิงรดาส่งเสียงกระเส่าครวญครางออกมาเท่าไหร่ เเรงกระแทกที่ถูกส่งไปก็ยิ่งมีมากเพิ่มขึ้นเท่านั้น ทันที่ผละออกจากริมฝีปากหวานได้ สายตาคมของเขาก็ก้มจ้องลงมายังจุดสอดประสาน อิงรดามองภาพจิรายุซี๊ดปากหน้านิ่วที่เกิดจากการกระทำร่วมกันของเขาและเธอก็เกิดความเสียวซ่านบวกกับความอาย จิรายุเองก็เลือกที่จะมองสลับกันบนล่าง ใบหน้างดงามที่กำลังเสียวซ่านของอิงรดา สลับกับจุดเชื่อมประสานกลางกาย"อ่าส์ แน่นดีมากๆเลยอิง ได้มองหน้าเธอสลับกับมองนมไปด้วยแบบนี้ ขยับแค่ไม่กี่ทีฉันก็เกือบจะเสร็จแล้ว""แน่ใจเหรอคะว่าคุณเจตน์มองแค่หน้าหนูแล้วก็มองนม หนูเห็นว่าคุณเจตน์ชอบมองลงไป..ข้างล่าง""ก็อันนั้นฉันก็อยากเห็นไงว่าร่างกายของเราสองคนเข้ากันได้ดีมากแค่ไหน ว่าแต่เธอยังเจ็บอยู่อีกหรือเปล่า""ไม่เจ็บแล้วค่ะ ตอนนี้มีแต่..เสียว"อิงรดายิ้มหวานตาหยี พร้อมกับใบหน้ายู่ยี่แล้วจึงแลบลิ้นน้อยๆออกมา พอจิรายุเห็นเข้าก็รีบตามเข้าไปประกบดูดปากอย่างไว ในขณะที่สะโพกแกร่งยังคงซอยขยับเรียกเสียงครางหวานๆ อิงรดาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความสุขที่จิรายุมอบให้ จนเผลอปล่อยเสียงครางออกมาเป็นที
"แล้วคุณเจตน์กับพี่เอม เอ่อ คบกันมานานแล้วเหรอคะ""อื้ม เป็นสิบปีแล้ว แต่ก็คบๆเลิกๆ บางทีเลิกกันไปปีสองปีแล้วก็กลับมาคบกันใหม่ ฉันเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ตัดเอมออกไปจากชีวิตจริงๆไม่ได้บางทีก็อาจจะเป็นเพราะว่า เราเป็นคนแรกของกันและกัน""คุณเจตน์กับพี่เอม เป็นคนแรกของกันและกัน" อิงรดาเผลอพูดย้ำซ้ำคำนั้นออกมาเสียงเบา ราวกับว่าสิ่งนั้นกำลังสร้างความเจ็บปวดให้กับเธออยู่ลึกๆ ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆน้อยๆสามสี่ทีเพื่อไล่เอามวลน้ำตาที่กำลังทำท่าว่าจะเอ่อทะลักขึ้นมา กระนั้นถ้าหากตอนนี้เขาได้จ้องมองเข้ามาในดวงตาก็คงจะเห็นได้ถึงร่องรอยความแดงของมัน"เธอหึงฉันเหรออิง น้อยใจฉันอยู่หรือเปล่า""ปละ เปล่านี่คะ""แต่ถ้าเธอจะบอกว่าหึงแทนคำว่าเปล่า คำนั้นมันอาจจะทำให้ฉันดีใจมากกว่าก็ได้นะ"จิรายุเองก็มองมาที่เธอตาละห้อยสร้อยเศร้า ทั้งในใจก็ยังเอาแต่ครุ่นคิดว่าความรู้สึกที่อิงรดามีต่อตนเองนั้นจะใช่ความจริงหรือเปล่า หากแต่ก็ทำได้เพียงแค่เว้าวอนว่าขอให้เธอชอบเขาจริงๆ เพราะตอนนี้ตัวเขานั้นสามารถพูดได้อย่างเต็มปากแล้วว่า เขาชอบเธอ"คุณเจตน์ อยากให้หนูรู้สึกอย่างนั้นจริงๆเหรอคะ""อื้ม อยาก เพ
'ถ้าเธออยากจะยกเลิกเรื่องที่เคยตกลงกันไว้ก็ได้ แต่ระหว่างนี้ห้ามกินยาคุมฉุกเฉินเด็ดขาด รอจนกว่าประจำเดือนจะมา ถ้าประจำเดือนมาเธอก็รอดตัวไป แต่ถ้าไม่ เราก็ต้องมาตกลงกัน'อิงรดานั่งเหม่อกับข้อเสนอแกมคำสั่งล่าสุดของจิรายุอยู่ที่บริเวณใต้ร่มไม้หน้าบ้านอย่างหมดไร้ซึ่งหนทางและไม่เข้าใจเลยว่าจิรายุจะบังคับเธอไปทำไม ในเมื่อการมีลูกกับเธอนั้นก็ไม่ได้ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เพราะการที่เธอยอมตกลงทำเรื่องอะไรกับเขาแบบนี้ตั้งแต่เริ่มแรกเลยนั้นก็คือความต้องการของคุณกนกวรรณต่างหาก บวกกับความสงสารและแอบมีเขาเข้ามาอยู่ในใจ ด้วยความที่อยากจะมีเขาอยู่ใกล้ๆ เลยทำให้เธอยอมรับปากอะไรออกไปแบบนั้น การที่เธอยินยอมที่จะปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาได้เข้ามาเจริญเติบโตในร่างกายของเธอได้ นั่นก็เป็นเพราะว่า เธอรักเขา แล้วเขาล่ะ รักเธอก็ไม่ได้รัก ในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้ผิดเพศผิดปกติอะไรเสียหน่อย ทำไมถึงต้องรั้งเธอไว้ด้วยเรื่องแบบนี้ ไม่รู้บ้างเลยหรือไงว่าแค่นี้เธอก็เจ็บเจียนตายอยู่มะรอมมะร่อแล้วภายใต้ความทึบของม่านกรองแสงผืนยาวบนชั้นสอง เรือนร่างสูงใหญ่ยืนเอียงตัวพิงบานกระจกหนามองทะลุผ่านเงาสะท้อนออกไปยังด้านนอก เพื
ไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง อิงรดาไม่รู้ตัวเลยสักนิดด้วยซ้ำว่าเผลอเอื้อมมือไปเปิดประตูให้เอมมิกาเข้ามาในบ้านตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เดินกลับเข้ามาในบ้านแล้วได้ยินเสียงของเอมมิกาพยายามเสียงดังแข่งใส่จิรายุอยู่"แต่เอมไม่เลิก! เจตน์คบกับเอมมาถึงขนาดนี้แล้ว เอมเสียเวลาชีวิตไปเป็นสิบๆปีก็เพราะว่าเจตน์มัวแต่เกรงใจป้า เอมต้องการเจตน์คืน ยังไงเจตน์ก็ต้องกลับมาคบกับเอมเหมือนเดิม""เลิกพูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้ได้แล้วนะเอม คุณเลิกกับผมแล้วแต่งงานใหม่ไปแล้ว ตอนนี้จะมาอยากทวงผมคืน คุณบ้าไปแล้วหรือเปล่าฮะ""เอมไม่ได้บ้า แต่เอมแค่อยากมาขอโอกาสเจตน์อีกครั้ง เอมคิดถึงเจตน์ ที่เอมต้องแต่งงานไปก็เพราะว่าแม่บังคับเอม ความจริงเอมไม่เคยรักผู้ชายคนนั้นเลย เอมรักเจตน์""แต่ผมไม่ได้รักคุณแล้วเอม ผมรักคนอื่น""คนอื่นของเจตน์ คืออีนังเด็กอิงรดาเนี่ยเหรอ เจตน์อย่าคิดนะว่าคืนนั้นเอมไม่เห็นว่าคุณนั่งจูบกันกับมันอยู่ที่ริมหาด""แล้วไง ผมกับคุณเลิกกันไปแล้ว ผมจะไปกอดใครจูบใครมันก็เรื่องของผมเอม"และอีกร้อยล้านถ้อยคำสารพัดสารเพที่ยังพากันหลั่งไหลเข้ามาในหูของอิงรดาผู้น่าสงสาร เธอไม่ได้เดินกลับเข้าไปในบ้าน หากเ
ในที่สุดอิงรดาก็ทำใจกล้าเปิดประตูออกไปได้เสียที หลังจากที่ยืนสวดมนต์ทำใจอยู่เสียนาน พอจิรายุบอกว่าจะเป็นฝ่ายเปิดออกไปเองก็ไม่ยอม บานประตูค่อยๆเปิดกว้างออกขึ้นทีละน้อย จนในที่สุดจิรายุทนไม่ไหวจึงได้เบียดตัวออกไปยืนอยู่หน้าห้องทันทีนาทีนั้นอิงรดาแทบจะอยากกรี๊ดออกมาดังๆแต่ก็ทำไม่ได้ ในเมื่อตกลงกันแล้วว่าเธอจะเป็นฝ่ายเปิดออกไปก่อนเพื่อดูลาดเลาแล้วเขาค่อยตามเธอไป เพราะถ้าหากว่าแถวนั้นมีใครอยู่ เธอจะได้เบี่ยงเบนความสนใจให้จิรายุออกมาได้ แต่พอออกมา ปรากฎว่าบ้านทั้งหลังนั้นกลับว่างเปล่า อิงรดาชะเง้อหน้ามองหาคนในบ้าน แต่ก็ไม่เจอใครเลย "เห็นไหม ไม่เห็นมีใครเลย""คุณเจตน์ อย่าพึ่งเสียงดังไปสิคะ"คนตัวเล็กรีบยกมือขึ้นมาจุ๊ปากเป็นสัญลักษณ์ให้จิรายุนั้นพูดเบาๆ แม้ว่าในใจจะคิดว่ามันแปลกมาก แต่อิงรดาก็เลือกที่จะสาวเท้าเข้าไปในครัว เพราะเป็นที่อยู่ประจำของยาย แต่พอเดินเข้าไปแล้วยังคงเห็นแก้วเปล่าใบที่จิรายุนั้นวางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนก็เริ่มหน้าแดงขึ้นมา"รู้นะว่าคิดอะไร""หนูเปล่านะ"จิรายุที่เดินตามเข้ามาติดๆ หยุดมองตามทิศทางสายตาที่อิงรดานั้นมองไปก็ได้โอกาสแซวขึ้นมาทันที ยิ่งเดินอ้อมไปข้างหน้าแล้
อิงรดาถูกจิรายุอุ้มหวือตัวลอยขึ้นไปจากพื้น ทันทีที่เขาก้าวเดินพ้นจากห้องครัวออกมา ภายในใจก็ได้แต่ภาวนาขอว่าอย่าให้ใครได้ออกมาพบเห็นหรือเจอะเจอเลย แม้ว่าเปอร์เซ็นความเป็นไปได้จะน้อยมากที่หญิงสูงวัยทั้งสองคนนั้นจะเดินลงมาข้างล่างดึกดื่นป่านนี้ แต่ยังไงเสียเธอก็ยังกลัวอยู่ดี อิงรดากลัวว่าจะทำให้คุณกนกวรรณและผู้เป็นยายผิดหวัง กลัวถูกตราหน้าว่าเนรคุณ แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับไม่สามารถที่จะหักห้ามไม่ให้พาเอาตัวเองเข้าไปใกล้จิรายุได้แต่ทันทีที่บานประตูห้องนอนถูกปิด ราวกับว่าเวลานี้โลกทั้งโลกนั้นมีเพียงแค่เธอกับเขาแค่สองคน ยามเมื่อจิรายุวางเธอลงไปบนเตียงนุ่ม อิงรดาก็ใช้มือวาดไปโอบกอดรอบคอแกร่งนั่นให้โน้มลงมาหาแล้วตอบกลับเขากลับด้วยจูบในแบบเดียวกัน ลิ้นร้อนเล็กใหญ่เกี่ยวก่ายพันกันจนแน่น เสื้อยืดของเธอถูกเขาเลิกขึ้นมาจนมากองรวมกันอยู่ที่คอ ในขณะที่เขาเริ่มใช้ฝ่ามือใหญ่สำรวจบีบคลึงไปทั่ว"คุณเจตน์"อิงรดาหลุดครางเสียงหวานออกมาทันทีที่ความอวบงามนั้นถูกเขี่ย สองคู่ชูชื่นพากันแข็งเกร็งตั้งชูราวกับรู้ว่าอีกไม่นานจะต้องถูกจิรายุแวะเข้ามาเยี่ยมชมเสื้อยืดสีขาวถูกเขาถอดออกไปทางศรีษะ ตามด้วยเสื้อยืดสีดำของต