ใจดวงน้อยสั่นไหวอย่างรุนแรงทั้งเสียใจน้อยใจและโกธรจนทำให้น้ำตาเม็ดใสไหลอกจากหางตาแต่คนตัวเล็กกับไม่ได้มีท่าทีสนใจ เธอกับก้าวเดินไปหยุดยืนต่อหน้าของคิริน “ซอลต้องการคำตอบที่ชัดเจน ถ้าพี่ให้คำตอบกับซอลไม่ได้ก็อย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีก” ตากลมจ้องเขม็งไปที่ตาคมที่กำลังเซมองไปทางอื่น เสียงหวานเอ่ยเสียงแข็งกร้าวยังไงวันนี้เธอก็ต้องได้คำตอบที่ชัดเจน เธอมีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่เป็นของเล่นของใคร “ว่ายังไงคะ” หญิงสาวถามย้ำอีกครั้ง แต่คนตัวโตก็ยังเงียบเช่นเดิม “งั้นถือว่า ซอลได้คำตอบแล้ว ต่อไปก็อย่ามาข้องเกี่ยวกันอีก”ใบหน้าสวยก้มหน้าลงเพื่อปกปิดน้ำสีใสที่กำลังเอ่อคลอไม่นานมันก็ไหลอาบไปทั่วแก้มอิ่ม ปากบางเม้มแน่นสั่นระริกอย่างอัดอั้นพยายามที่จะไม่ปล่อยโฮออกมา ใจแกร่งสั่นไหวเมื่อเห็นร่างเล็กที่กำลังยื่นสั่นเทาอยู่ข้างหน้า เขาเองก็ยังไม่สามารถที่จะหาคำตอบได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่เขานั้นได้บอกเธอไปนั้น เขาพูดความจริงทั้งหมด “เราลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก่อนไหม”เสียงทุ้มดังขึ้นทำให้ซอลลาแหงนหน้าขึ้นไปมองยังคิรินอย่างไม่เข้าใจ “เฮียขอเวลาหน่อยได้ไห
ปึง คิรินปิดประตูรถลงและเดินกับขึ้นไปนั่งข้างคนขับที่มีโรมนั่งประจำอยู่หน้าพวงมาลัย ไม่นานรถยนต์คันหรูก็ขับทะยานออกสู่ท้องถนนด้วยความเร็วพอสมควร ร่างเล็กได้แต่มองออกนอกหน้าต่างมองออกไปอย่างใช้ความคิด ตอนนี้เธอเริ่มสับสนไปหมดแล้ว เขาเป็นคนที่ผลักไสเธอเองแต่วันนี้กับมาทำราวกับหึงหวงเธอเสียอย่างนั้นจู่ๆรถก็ก็จอดลงพอมองออกไปเธอกับไม่คุ้นตากับที่นี้ ที่นี้เป็นเหมือนโกดังเก็บของขนาดใหญ่ที่คล้ายกับอู่ซ่อมรถเพราะทั่วบริเวณมีทั้งซากรถและอุปกรณ์การช่างหลายอย่า “รออยู่บนนี้แปปนึ่ง เดี่ยวเฮียมา” คิรินหันมาบอกร่างเล็กและเปิดประตูตามโรมเดินเข้าข้างใน ร่างเล็กได้แต่มองตามหลังแกร่งไปจนสุดสายตา มือเล็กหยิบมือถือขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา 30นาทีต่อมา ร่างเล็กเริ่มรู้สึกเบื่อและเมื่อยที่นั่งอยู่ในรถเป็นเวลานานครั้นมองออกไปนอกรถท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ่มแต่กับไม่ท่าทีว่าชายหนุ่มทั้งสองจะกลับมา “เห้อ ทำไมยังไม่กลับมาอีกนะ” ร่างเล็กมองไปยังต้นทางที่ทั้งสองเดินไปครั้งแล้วก็ไม่มีวี่แววว่าพวกเขาจะกลับมา “ไปดูหน่อยดีกว่า” ร่างเล็กตัดสินใจเดินลงจากรถมือกำสายกระเป๋าแน่นขาเรียวเดินก้าวย่างออกไปอย่างช
คิรินตวาดลั่นใช้เก้าอี้ในมือจ่อที่ใบหน้าของพร้อมที่ห่างเพียงคืบ ใบหน้าหล่อตอนนี้เคร่งขึมจนหน้าเกรงขามแต่กับไม่ได้ทำให้พร้อมตื่นกลัว เขากับมองไปที่คิรินอย่างท้าทาย ผู้คนในร้านต่างแตกตื่นพากันวิ่งออกจากร้านอย่างชุลมุน “หึ ใครเมียมึงกัน กูเห็นแต่ซอลลาที่นั่งอยู่ตรงหน้ากู” พร้อมหัวเราะในลำคออย่างเย้ยยันในคำพูดของชายหนุ่ม “มึงอยากลองใช่ไหม มึงคิดว่าไอ้พรีมพี่มึงจะช่วยมึงได้รึไง” “คนอย่างกูไม่ต้องพึ่งคนอื่นหรอก กูไม่ใช่คนกระจอกแบบมึง” “ไอ้เหี้ยพร้อมมึง” คิรินที่กำลังเดือดดาลยกเก้าอี้ขึ้นเตรียมจะฟาดใส่พร้อมอีกครั้ง “พี่คิริน อย่านะคะ” ซอลลาที่เห็นว่าเหตุการณ์เริ่มจะไปกันใหญ่เดินเข้ามาประจันหน้ากับคิรินอย่างไม่นึกกลัว ใบหน้าสวยแสดงสีหน้าจริงจัง ครั้งนี้คิรินกำลังทำเกินไป “หลบไปซอล รอเฮียจัดการชู้ของเธอก่อน” “ไม่ค่ะ คนที่ต้องหลบคือพี่” “เธอปกป้องชู้ต่อหน้าเฮียเหรอ” “ไหนคะชู้ พี่ลืมอะไรไปหรือป่าว เราไม่ได้เป็นอะไรกันนะพี่คิริน” “ซอลลา” คิรินตวาดลั่นในต
“เห้อ อย่ามาเล่นกับใจกันได้ไหม” ร่างเล็กมองตามรถที่ขับไปออกด้วยความรู้สึกหลากหลาย ใจหนึ่งก็อยากจะเอาชนะแต่อีกใจก็ไม่อยากเสี่ยง ร้านอาหารซอลลาเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอย่างทุกครั้ง มือเล็กหยิบเมนูขึ้นมาเปิดดู วันนี้เธอไม่ได้อยากกินอะไรเป็นพิเศษ แค่อยากมาหาอะไรใส่ท้องแค่นั้น “มาทำไมไม่บอกพี่เลยหล่ะ” “พี่พร้อม” ฉันเงยหน้ามองผู้ชายตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม “หายไปหลายวันเลยนะ” พี่พร้อมเอ่ยตัดพ้อพร้อมกับเลื่อนเก้าอี้นั่งลงตรงข้ามกับฉัน ฉันมองผู้ชายตรงนี้อย่างพิจารณา พี่พร้อมถือว่าเป็นผู้ชายที่หล่อมากคนหนึ่ง นิสัย หน้าที่การงานก็เพียบพร้อมทุกอย่าง ฉันนั้นรับรู้ว่าอีกฝ่ายมีความรู้สึกดีๆให้ แต่ฉันกับไม่เคยรู้สึกกับเขามากกว่าพี่ชาย เลยซักครั้ง จะบอกปตรงๆก็กลัวว่าพี่เขาจะเสียใจฉันจึงเลือกที่ ทำเป็นไม่รู้และหลบหลีกตลอดมา “ซอล ซอล “พร้อมพยายามเรียกซอลลาที่กำลังเม่อลอย มือหนาโบกไปมาเพื่อเรียกสติ “เอ่อค่ะ พี่พร้อมทีอะไรรึป่าว”ซอลลาที่พึ่งได้สติเอ่ยถามขึ้น “พี่
ปึง! เสียงประตูปิดกระแทกดังสนั่น ผมมองคนตัวเล็กที่เดินออกไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ตอนนี้ผมเริ่มไม่เข้าใจตัวเองแล้วเหมือนกัน "มึงจะเอายังไงต่อ" "กูคงต้องปล่อยเธอไป ยังไงซ่ะ กูก็ยังจะรอเซลีน" "หึ มึงแน่ใจเหรอ" โรมเอ่ยขึ้น แววตาที่มองนั้นดูจริงจังกว่าทุกครั้ง "แน่ใจ ในเมื่อน้องมันจะไปกูก็ไม่รั้ง ยังไงเซลีนกลับมา กูกับน้องก็ต้องต่างคนต่างไปอยู่ดี" "ก็ดี ถ้าอย่างนั้นกูจะจีบน้องมัน หวังว่ามึงจะไม่หวงก้าง" ตาคมตวัดมองอย่างดุดัน "ไอ่โรม แต่นั้นมันเมียกู มึงจะยอมหักกับกูเหรอวะ" เสียงเข้มตวาดลั่น ลุกขึ้นไปกระชากคอเสื้อของโรมจนเซมาข้างหน้าหลายก้าวแต่มันกับไม่ได้มีท่าทีตกใจกลัวแถมยังจ้องเขม็งมาที่ผม ในตาของมันแน่วแน่อย่าวกับยื่นยันสิ่งที่พูดไปเขาจะทำมันจริงๆ "มึงก็จมปลักกับผู้หญิงที่มึงรอไปสิ ถ้ามึงไม่คิดจริงจัง อย่าเอาความรู้สึกของน้องมันมาเล่น กูให้โอกาสมึงทบทวนดีๆ ถ้ามึงยังโง่อยู่ก็เรื่องของมึงแล้ว" โรมปัดมือผมที่จับคอเสื้อมันอยู่ออกก่อนที่มันจะเดินออกไป "ไอ่โรมมันพูดถูก มึงทบทวนดู" วายุเดินมาตบไหล่ผมเบาๆหล
คอนโดKRรถสปอร์ตคันหรูขับเคลื่อนเข้ามาจอดยังลาดจอดรถ คิรินรีบลงจากรถช้อนร่างเล็กขึ้นเดินตรงดิ่งเข้าไปยังข้างในคอนโด ติ๊ด คิรินใช้ตัวดันประตูเข้ามาภายในห้องตรงดิ่งเดินพาร่างเล็กมายังห้องนอน "เจ้าเจ๋อ ตื่นมานะจะจัดการให้ดูเลย" ร่างแกร่งยื่นเท้าเอวมองคนตัวเล็กที่นอนหลับไม่ได้สติอย่างคาดโทษ คิรินได้แต่ถอดถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ยังไงเสียเขาก็ต้องจัดแจ้งเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คนตัวเล็กอยู่จู่ๆความคิดชั่วร้ายก็เกิดขึ้นในหัว ปากหยักยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ผมจัดแจงถอดเสื้อผ้าน้อยชิ้นของตัวเล็กออกจนหมดรวมไปถึงชั้นในตัวสวยด้วย ผมลอบกลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า ในตอนแรกคิดจะแกล้งคนตัวเล็กแต่กับเป็นการแกล้งตัวเองไปเสียดาย "หืม อย่าพึ่งตื่นสิว่ะ"คิรินบ่นกับตัวเอง ปากหนาไล่ดูดดึงตามเนื้อเนียนจนเกิดรอยแดงไปทั่วทั้งตัว ไว้เว้นแม้แต่ขาอ่อนด้านใน "หืม เกือบไม่รอด" คิรินยื่นขึ้นเต็มความสูงมองผลงานบนตัวร่างเล็กอย่างพอใจ ชายหนุ่มจัดแจงสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีทึบตัวยาวให้กับคนตัวเล็ก กว่าจะติดกระดุมเสร็จก็เล่นเอาเหงื่อแตกเต็มหัว มือหนาปาดเหงื่อไคร่ที่ไ