Share

บทที่ 741

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
เมื่อสิ้นเสียง มือคู่หนึ่งก็เอื้อมตรงมาที่หยกขาวในมือฉินซู

ฉินซูปัดมืออีกฝ่ายออก แล้วกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “หยกขาวชิ้นนี้ข้าซื้อแล้ว”

ชายหนุ่มผู้สวมอาภรณ์หรูหราผู้นั้นแผดเสียงด้วยความโอหังในทันใด “เจ้าเด็กเหลือขอ บังอาจแย่งชิงของรักของหวงของข้ารึ? เจ้ามิรู้หรือว่าข้าเป็นใคร?”

ฉินซูมองสำรวจอีกฝ่ายแล้วถามกลับว่า “ข้าควรรู้ด้วยรึ?”

“ฮ่า ๆ ที่แท้ก็เป็นคนต่างถิ่นโง่เง่า หากมิอยากตายก็รีบเอาหยกขาวนั่นมา มิเช่นนั้นตัวข้าคุณชายผู้นี้จะทำให้เจ้ามิได้เห็นแสงตะวันในวันพรุ่ง!”

เห็นอีกฝ่ายเย่อหยิ่งถึงเพียงนี้ เดิมทีฉินซูมิได้คิดจะสนใจไยดี

ทว่า ในเวลานั้นเอง เถ้าแก่แผงลอยก็รีบเอ่ยปากเกลี้ยกล่อมว่า “คุณชาย ท่านยอมยกหยกขาวนั้นให้แก่คุณชายเซียวเถิดขอรับ เขาคือคุณชายใหญ่แห่งตระกูลเซียว อย่าได้ล่วงเกินเป็นเด็ดขาดเลยขอรับ”

ฉินซูยิ่งสงสัย “ตระกูลเซียวเก่งกาจมากหรือ?”

“ฮ่า ๆ ๆ แม้แต่ตระกูลเซียวของข้าก็ยังมิรู้จัก เจ้านี่ช่างโง่เขลาเสียจริง!”

ผู้ติดตามที่อยู่ข้างกายชายหนุ่มเชิดหน้าขึ้นกล่าวว่า “เจ้าเด็กเหลือขอ จงฟังให้ดี นายท่านของบ้านพวกข้าคือเสนาบดีในราชสำนักผู้ดูแลเรื่องคดีอาญา ทีนี้รู้สึกกลัวขึ้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 746

    ซ่างกวนอวิ๋นซีมองฉินซูด้วยสีหน้ากังขา “เจ้าใจดีถึงเพียงนั้นเชียวรึ?”ฉินซูตอบโต้อย่างท่าทีเป็นเหตุเป็นผล “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ ข้าย่อมเข้าใจดีอยู่แล้ว!”ซ่างกวนอวิ๋นซีมองเขาล้ำลึก จากนั้นก็ตะโกนออกไปนอกประตูว่า “ใครก็ได้ นำแผนที่ฝั่งตะวันออกของเป่ยเยี่ยนมาให้บุตรแห่งนักปราชญ์!”ยังมิทันที่บ่าวรับใช้ข้างนอกจะตอบรับ ฉินซูก็กล่าวขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน “ข้าต้องการแผนที่เป่ยเยี่ยนทั้งหมด แผนที่เต็ม!”ด้วยกลัวว่าซ่างกวนอวิ๋นซีจะสงสัย เขาจึงอธิบายเพิ่มเติม“อ๋องเซียงหยางแห่งแคว้นฉีอาจจะยกทัพมารุกรานในภายหน้า เมื่อข้ารู้จักตำแหน่งที่ตั้งของเป่ยเยี่ยนของพวกท่านแล้ว บางทีอาจจะช่วยได้บ้าง”เมื่อนึกได้ว่าฉินซูสามารถยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยได้อย่างง่ายดาย ซ่างกวนอวิ๋นซีก็มิได้ซักไซ้ต่อไป แต่กลับจดจำเอาไว้ขึ้นใจ!นางจึงพยักพเยิดให้บ่าวรับใช้ข้างนอกประตูอีกฝ่ายก็รับคำด้วยความเคารพ มินานก็นำแผนที่หนังวัวแผ่นใหญ่มาให้ฉินซูฉินซูเปิดดูผาดหนึ่งแล้วกล่าวกับบ่าวรับใช้ผู้นั้นว่า “เอาไปแขวนไว้ที่ห้องข้าเถิด”บ่าวรับใช้ชะงักไป มองซ่างกวนอวิ๋นซีเป็นเชิงสงสัยอีกฝ่ายพยักหน้าเล็กน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 745

    ฉินซูยิ้มเล็กน้อยแต่มิได้พูดกระไร พูดกันตามตรง เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของราชสำนักเป่ยเยี่ยน เขาย่อมขี้คร้านจะสอดมือไปยุ่งเกี่ยวเป็นธรรมดาหลังจากพูดคุยกันอีกครู่หนึ่งมู่หรงโม่ก็เอ่ยลาออกไปด้วยท่าทีหนักใจส่วนฉินซูก็กลับมายังหอดารารักษ์เขาตรงดิ่งเข้าไปในห้องนอนพร้อมปิดประตูแน่น แล้วจึงนำหยกขาวที่ซื้อมาจากพ่อค้าแผงลอยออกมามองดูตัวอักษรจีนตัวย่อคุ้นตาที่สลักอยู่บนนั้น เขาก็อดมิได้ที่จะรู้สึกสะท้อนใจข้ามมิติมาที่นี่เพียงสามเดือน แต่บัดนี้กลับรู้สึกเหมือนผ่านไปชั่วชีวิตตัวอักษรหลายตัวบนหยกขาวนี้เลือนรางจากการกัดเซาะของกาลเวลาจนมองเห็นได้มิชัดเสียแล้วแต่ฉินซูก็ยังพอจะอ่านได้คร่าว ๆสิ่งที่บันทึกอยู่บนหยกขาวนี้ คือที่ตั้งของมรดกตกทอดของผู้ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่งเพียงแต่ชื่อสถานที่ มีเพียงตัวอักษรคำว่า 'รกร้าง' เพียงสองคำเท่านั้น ส่วนที่เหลือถูกลมและทรายกัดเซาะจนยากจะแยกแยะและสิ่งที่ทำให้ฉินซูคาดมิถึงที่สุดก็คือ มุมล่างขวาของหยกขาวนี้ยังสลักรูปทรงคล้ายกุญแจไว้อีกด้วยเมื่อเห็นรูปทรงนี้ ฉินซูก็นึกถึงตอนที่อยู่ในแคว้นหนานเยวี่ย และได้รับแผนที่ขุมทรัพย์จากเจ้าสำนักอสนีบาตรูปทรงภา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 744

    ฉินซูพูดอย่างจริงจัง "ตงอี๋ติดกับเป่ยเยี่ยนและต้าเหยียน พวกท่านกับแคว้นตงอี๋ถูกคั่นด้วยทิวเขาสูงชัน มิเหมาะแก่การเดินทัพกลับกันต้าเหยียนของเรา ติดกับตงอี๋บริเวณพื้นที่ราบ หากตงอี๋ต้องการจะรุกราน การยกทัพโจมตีต้าเหยียนของเราจะมิง่ายกว่าหรือ?อีกอย่างเมื่อหลายสิบปีก่อน หลังจากตงอี๋พ่ายแพ้ในสงคราม ก็ยกเมืองหลายเมืองให้ต้าเหยียนของเรา บัดนี้ท่านกลับบอกว่าพวกเขาจะยกทัพโจมตีเป่ยเยี่ยนของพวกท่าน ข้ามิเข้าใจเลยจริง ๆ""รายละเอียดแน่ชัดข้าเองก็มิค่อยแน่ใจนัก อย่างไรเสีย เสด็จพ่อก็ตรัสเช่นนี้กับข้าเมื่อวาน" มู่หรงโม่เองก็รู้สึกสงสัยในเรื่องนี้เป็นอันมากเช่นกันฉินซูเลิกคิ้วถามว่า "เป็นเพราะกังวลว่าทางตงอี๋จะยกทัพบุกเข้ามา เสด็จพ่อของท่านถึงให้มู่หรงฟู่พักอยู่ที่ต้าเหยียนมิต้องกลับมาหรือ?""ถูกต้อง เป็นเช่นนั้น"ฉินซูลูบคางพลางทำท่าครุ่นคิด จากนั้นก็มองมู่หรงโม่ด้วยแววตาเคลือบแคลง ท่าทางคล้ายอยากจะพูดบางอย่างแต่ก็ลังเลเมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้น มู่หรงโม่อดถามมิได้ "สหายฉิน ท่านคิดกระไรออก อยากจะบอกกระไรหรือ?"ฉินซูถามกลับอย่างใจเย็น "สหายมู่หรง ท่านกับพวกน้องชายของท่าน ความสัมพันธ์เป็นอย่า

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 743

    มู่หรงโม่ลูบคาง แล้วกล่าวอีกครั้งว่า “ถ้าเช่นนั้นเราลองสมมติว่าอ๋องเซียงหยางยกทัพล้านนายตรงมาประชิดชายแดนต้าเหยียนของท่าน ต้าเหยียนของท่านจะต้านทานศัตรูเช่นไร?”“กองทัพนับล้านเดินทางไกล เสบียงย่อมตามมามิทัน เพียงส่งกองทหารชั้นยอดอ้อมไปตัดเส้นทางส่งเสบียงอาหาร ก็มิต้องกังวลว่าพวกเขาจะมิยอมถอยทัพแล้ว”มู่หรงโม่จึงกระจ่างแจ้งในทันที เขาอุทานด้วยความประหลาดใจว่า “คาดมิถึงว่าสหายฉินจะมีความรู้ทางการทหารล้ำลึกถึงเพียงนี้ สมกับเป็นอัจฉริยะโดยแท้!”ฉินซูโบกมือเบา ๆ กล่าวว่า “สหายมู่หรงกล่าวเกินไปแล้ว เรื่องในสนามรบนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คำพูดของข้าเมื่อครู่เป็นเพียงการวางแผนรบบนกระดาษเท่านั้น”มู่หรงโม่ยิ้ม “สหายฉินถ่อมตนแล้ว ท่านเพียงนำทหารชั้นยอดหมื่นนายก็ยึดครองหนานเยวี่ยได้สำเร็จ ผลงานระดับนี้แม้แต่แม่ทัพผู้เลื่องชื่อบางคนยังต้องถอนหายใจยอมแพ้ มิทราบว่าสหายฉินจะกรุณาเล่ากระบวนการให้ข้าน้อยฟังอย่างละเอียดได้หรือไม่?”ฉินซูก็มิได้ปิดบัง และเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังจนหมดเปลือกหลังจากฟังคำบอกเล่าของฉินซูแล้ว มู่หรงโม่ก็กล่าวด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจว่า “วางแผนช่วยชีวิตแ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 742

    ฉินซูอธิบายว่า “เมื่อครู่ คุณชายน้อยแห่งจวนเสนาบดีกรมอาญาผู้นั้นเห็นท่านแล้วตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง มองไปทั่วเมืองหลวงจินหลิง คงมีเพียงองค์รัชทายาทเท่านั้นที่สามารถทำให้เขาเป็นเช่นนั้นได้กระมัง”“องค์ชายคนอื่นก็ทำให้เขาตกใจได้เช่นกัน เหตุใดท่านมองเพียงปราดเดียวก็รู้ว่าข้าเป็นองค์รัชทายาทแล้วเล่า?” มู่หรงโม่สงสัยหนัก“บางทีฐานะของเราอาจจะเหมือนกัน เมื่อเห็นท่าน จึงรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด”“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ท่านฉิน ที่นี่มิเหมาะแก่การสนทนา มิสู้หาโรงสุราดื่มสักสองจอกดีหรือไม่?”“ถ้าเช่นนั้นข้าน้อยก็มิขัด เชิญ!”“เชิญ!”มู่หรงโม่นำฉินซูมายังโรงสุราชื่อว่าโรงเซียนสุราในเวลานั้น แขกในโรงสุราต่างก็ถูกเชิญออกไปหมดแล้ว ภายในโรงสุราอันกว้างขวาง มีเพียงเถ้าแก่และเสี่ยวเอ้อร์มิกี่คนทันทีที่มู่หรงโม่เข้ามา เถ้าแก่ก็นำเสี่ยวเอ้อร์คารวะด้วยความหวาดกลัวมู่หรงโม่โบกมือ “มิต้องมากพิธี ลุกขึ้นได้แล้ว นำอาหารและสุราที่ดีที่สุดมาที ข้าจะร่ำสุรากับบุตรแห่งนักปราชญ์แห่งหอดารารักษ์!”เมื่อได้ยินดังนั้น เถ้าแก่และเสี่ยวเอ้อร์เหล่านั้นก็มองฉินซูด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพยำเกร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 741

    เมื่อสิ้นเสียง มือคู่หนึ่งก็เอื้อมตรงมาที่หยกขาวในมือฉินซูฉินซูปัดมืออีกฝ่ายออก แล้วกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “หยกขาวชิ้นนี้ข้าซื้อแล้ว”ชายหนุ่มผู้สวมอาภรณ์หรูหราผู้นั้นแผดเสียงด้วยความโอหังในทันใด “เจ้าเด็กเหลือขอ บังอาจแย่งชิงของรักของหวงของข้ารึ? เจ้ามิรู้หรือว่าข้าเป็นใคร?”ฉินซูมองสำรวจอีกฝ่ายแล้วถามกลับว่า “ข้าควรรู้ด้วยรึ?”“ฮ่า ๆ ที่แท้ก็เป็นคนต่างถิ่นโง่เง่า หากมิอยากตายก็รีบเอาหยกขาวนั่นมา มิเช่นนั้นตัวข้าคุณชายผู้นี้จะทำให้เจ้ามิได้เห็นแสงตะวันในวันพรุ่ง!”เห็นอีกฝ่ายเย่อหยิ่งถึงเพียงนี้ เดิมทีฉินซูมิได้คิดจะสนใจไยดีทว่า ในเวลานั้นเอง เถ้าแก่แผงลอยก็รีบเอ่ยปากเกลี้ยกล่อมว่า “คุณชาย ท่านยอมยกหยกขาวนั้นให้แก่คุณชายเซียวเถิดขอรับ เขาคือคุณชายใหญ่แห่งตระกูลเซียว อย่าได้ล่วงเกินเป็นเด็ดขาดเลยขอรับ”ฉินซูยิ่งสงสัย “ตระกูลเซียวเก่งกาจมากหรือ?”“ฮ่า ๆ ๆ แม้แต่ตระกูลเซียวของข้าก็ยังมิรู้จัก เจ้านี่ช่างโง่เขลาเสียจริง!”ผู้ติดตามที่อยู่ข้างกายชายหนุ่มเชิดหน้าขึ้นกล่าวว่า “เจ้าเด็กเหลือขอ จงฟังให้ดี นายท่านของบ้านพวกข้าคือเสนาบดีในราชสำนักผู้ดูแลเรื่องคดีอาญา ทีนี้รู้สึกกลัวขึ้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 740

    วันรุ่งขึ้นฉินซูรู้สึกเบื่อหน่ายจึงคิดจะออกไปเดินเล่นทว่า เพิ่งก้าวเท้าพ้นจากประตูหอดารารักษ์ เสียงเย็นชาของซ่างกวนอวิ๋นซีก็ลอยลงมาจากชั้นบน“หากเจ้าบังอาจหนี จุดจบเป็นเช่นไรเจ้าย่อมรู้ดี!”ฉินซูมุมปากกระตุกสองสามครั้ง กล่าวโดยมิหันกลับไปว่า “วางใจเถิด ข้าเพียงแค่ออกไปเดินเล่นเท่านั้น ในเมื่อรับปากว่าจะอยู่แล้ว ไม่มีทางหนีไปหรอก”กล่าวจบเขาก็เดินออกไปในตอนนั้นเองหลัวชางก็กระซิบถามว่า “ท่านเจ้าสำนัก จำเป็นต้องลอบจับตาดูเขาหรือไม่ขอรับ?”“มิต้อง ด้วยวรยุทธ์ของเขา พวกเจ้ามิอาจจับตาดูเขาได้หรอก”“นั่นก็จริงขอรับ ว่าแต่ องค์รัชทายาทผู้รอวันปลดผู้นั้นอยู่ในระดับใดกันแน่?” หลัวชางมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความอยากรู้อยากเห็นอีกฝ่ายส่ายหน้าเบา ๆ “ข้าเองก็มิอาจมองเห็นระดับของเขาได้ รู้เพียงว่ามิแข็งแกร่งเท่าข้า”เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ หลัวชางกล่าวอย่างจนใจว่า “เป่ยเยี่ยนกับต้าเหยียน ผู้ที่มีวรยุทธ์แข็งแกร่งกว่าท่านเจ้าสำนักเห็นทีจะมีเพียงผู้อาวุโสสูงสุดและเหลยเจิ้นแห่งสำนักหอดูดาวหลวงเท่านั้นกระมัง?”“นอกจากสองท่านนั้น แท้จริงแล้วยังมีคนอีกผู้หนึ่ง!”“หืม? ผู้ใดกันขอรับ?”ซ่างกวนอวิ๋

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 739

    แน่นอนว่าซ่างกวนอวิ๋นซียินดีจัดหาพาหนะให้อยู่แล้วเมื่อฉินซูทราบเรื่องก็ถามด้วยความสงสัยว่า “เสวี่ยเจี้ยน ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเจ้าบาดเจ็บตั้งแต่เมื่อใด? เหตุใดจู่ ๆ อาการบาดเจ็บเก่าจึงกำเริบขึ้นมาได้?”“เรื่องมันยาวเพคะ อาการบาดเจ็บของศิษย์พี่หญิงใหญ่กำเริบขึ้นปีละครั้งเสมอ และทุกครั้งที่กำเริบ จำเป็นต้องใช้วิชาบริสุทธิ์หทัยสูตรของหม่อมฉันช่วยรักษาเสมอ ดังนั้นหม่อมฉันจึงต้องรีบกลับทันทีเพคะ”“อืม เดินทางระมัดระวังด้วย”ฉินซูไปส่งกู้เสวี่ยเจี้ยนถึงนอกเมือง เขามองนางเดินทางออกไปแล้วจากนั้นก็หันหลังกลับไปยังหอดารารักษ์เมื่อกู้เสวี่ยเจี้ยนมิอยู่ข้างกาย ต่อไปเขาก็มิต้องห่วงหน้าพะวงหลังมากนักเมื่อต้องกระทำการใดในเป่ยเยี่ยน......ต้าเหยียนห้องทรงพระอักษรฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้ว เอ่ยถามว่า “ขุนนางเหลย รัชทายาทไปถึงเป่ยเยี่ยนแล้วกระมัง? เหตุใดเสวี่ยเจี้ยนจึงยังมิกลับมา? พึงระลึกไว้ด้วยว่านางแบกรับโชคชะตาแห่งต้าเหยียนไว้ อย่าให้เกิดเรื่องอันใดขึ้นเป็นอันขาด!”เหลยเจิ้นปลอบโยนว่า “ขอฝ่าบาทโปรดวางพระทัย ยามนี้เสวี่ยเจี้ยนน่าจะกำลังเดินทางอยู่ อีกทั้งข้าน้อยได้ส่งจีอันไปรับตัว เชื่อว่าจะไม่ม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 738

    สีหน้าของมู่หรงเซี่ยวเทียนพลันเคร่งขรึมขึ้น เขาส่ายหน้า“ถึงจะไม่มีเรื่องหยวนหัว เป่ยเยี่ยนกับแคว้นฉีก็ต้องทำสงครามปะทะกันในสักวัน แต่การให้เจ้าห้าอยู่ที่ต้าเหยียนก็เพื่อรักษาอนาคตของเป่ยเยี่ยนไว้ มิใช่เพราะแคว้นฉีทั้งหมด”“เสด็จพ่อทรงหมายความว่า นอกจากแคว้นฉีแล้วยังมีผู้อื่นที่ต้องการรุกรานเป่ยเยี่ยนของเราอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”มู่หรงโม่พลอยมิสบายใจไปด้วยตลอดหลายปีมานี้ แคว้นฉีรีดนาทาเร้นเป่ยเยี่ยนหนักข้อขึ้นทุกปี จนกระทั่งคลังหลวงของเป่ยเยี่ยนว่างเปล่า อยู่ในสภาพที่ภายนอกแข็งแกร่งภายในอ่อนแอในยามนี้หากยังมีแคว้นอื่นใดคิดจะระรานอีก เกรงว่าเป่ยเยี่ยนคงจะแบกรับภาระหนักมิไหว ผลลัพธ์ย่อมคาดมิถึง“เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ข้าได้รับข่าวลับที่เชื่อถือได้ว่า ภายในแคว้นตงอี๋ได้เริ่มเพิ่มกำลังทหาร เสบียงและยุทธภัณฑ์ก็ทยอยขนส่งไปยังแนวรบด้านตะวันตก เกรงว่าอีกมินานกองทัพตงอี๋ก็จะรุกรานชายแดนเราแล้ว”“มิใช่กระมังพ่ะย่ะค่ะ? ตลอดหลายปีมานี้เป่ยเยี่ยนกับตงอี๋เรียกได้ว่าอยู่กันอย่างสันติ เหตุใดพวกเขาจึงคิดจะยกทัพมาโจมตีเรากะทันหันเช่นนี้? หรือว่าพวกเขาต้องการทวงคืนเมืองทั้งสามที่ยกให้เป่ยเยี่ยนมาเมื

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status