Share

บทที่ 739

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
แน่นอนว่าซ่างกวนอวิ๋นซียินดีจัดหาพาหนะให้อยู่แล้ว

เมื่อฉินซูทราบเรื่องก็ถามด้วยความสงสัยว่า “เสวี่ยเจี้ยน ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเจ้าบาดเจ็บตั้งแต่เมื่อใด? เหตุใดจู่ ๆ อาการบาดเจ็บเก่าจึงกำเริบขึ้นมาได้?”

“เรื่องมันยาวเพคะ อาการบาดเจ็บของศิษย์พี่หญิงใหญ่กำเริบขึ้นปีละครั้งเสมอ และทุกครั้งที่กำเริบ จำเป็นต้องใช้วิชาบริสุทธิ์หทัยสูตรของหม่อมฉันช่วยรักษาเสมอ ดังนั้นหม่อมฉันจึงต้องรีบกลับทันทีเพคะ”

“อืม เดินทางระมัดระวังด้วย”

ฉินซูไปส่งกู้เสวี่ยเจี้ยนถึงนอกเมือง เขามองนางเดินทางออกไปแล้วจากนั้นก็หันหลังกลับไปยังหอดารารักษ์

เมื่อกู้เสวี่ยเจี้ยนมิอยู่ข้างกาย ต่อไปเขาก็มิต้องห่วงหน้าพะวงหลังมากนักเมื่อต้องกระทำการใดในเป่ยเยี่ยน

......

ต้าเหยียน

ห้องทรงพระอักษร

ฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้ว เอ่ยถามว่า “ขุนนางเหลย รัชทายาทไปถึงเป่ยเยี่ยนแล้วกระมัง? เหตุใดเสวี่ยเจี้ยนจึงยังมิกลับมา? พึงระลึกไว้ด้วยว่านางแบกรับโชคชะตาแห่งต้าเหยียนไว้ อย่าให้เกิดเรื่องอันใดขึ้นเป็นอันขาด!”

เหลยเจิ้นปลอบโยนว่า “ขอฝ่าบาทโปรดวางพระทัย ยามนี้เสวี่ยเจี้ยนน่าจะกำลังเดินทางอยู่ อีกทั้งข้าน้อยได้ส่งจีอันไปรับตัว เชื่อว่าจะไม่ม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 740

    วันรุ่งขึ้นฉินซูรู้สึกเบื่อหน่ายจึงคิดจะออกไปเดินเล่นทว่า เพิ่งก้าวเท้าพ้นจากประตูหอดารารักษ์ เสียงเย็นชาของซ่างกวนอวิ๋นซีก็ลอยลงมาจากชั้นบน“หากเจ้าบังอาจหนี จุดจบเป็นเช่นไรเจ้าย่อมรู้ดี!”ฉินซูมุมปากกระตุกสองสามครั้ง กล่าวโดยมิหันกลับไปว่า “วางใจเถิด ข้าเพียงแค่ออกไปเดินเล่นเท่านั้น ในเมื่อรับปากว่าจะอยู่แล้ว ไม่มีทางหนีไปหรอก”กล่าวจบเขาก็เดินออกไปในตอนนั้นเองหลัวชางก็กระซิบถามว่า “ท่านเจ้าสำนัก จำเป็นต้องลอบจับตาดูเขาหรือไม่ขอรับ?”“มิต้อง ด้วยวรยุทธ์ของเขา พวกเจ้ามิอาจจับตาดูเขาได้หรอก”“นั่นก็จริงขอรับ ว่าแต่ องค์รัชทายาทผู้รอวันปลดผู้นั้นอยู่ในระดับใดกันแน่?” หลัวชางมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความอยากรู้อยากเห็นอีกฝ่ายส่ายหน้าเบา ๆ “ข้าเองก็มิอาจมองเห็นระดับของเขาได้ รู้เพียงว่ามิแข็งแกร่งเท่าข้า”เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ หลัวชางกล่าวอย่างจนใจว่า “เป่ยเยี่ยนกับต้าเหยียน ผู้ที่มีวรยุทธ์แข็งแกร่งกว่าท่านเจ้าสำนักเห็นทีจะมีเพียงผู้อาวุโสสูงสุดและเหลยเจิ้นแห่งสำนักหอดูดาวหลวงเท่านั้นกระมัง?”“นอกจากสองท่านนั้น แท้จริงแล้วยังมีคนอีกผู้หนึ่ง!”“หืม? ผู้ใดกันขอรับ?”ซ่างกวนอวิ๋

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 739

    แน่นอนว่าซ่างกวนอวิ๋นซียินดีจัดหาพาหนะให้อยู่แล้วเมื่อฉินซูทราบเรื่องก็ถามด้วยความสงสัยว่า “เสวี่ยเจี้ยน ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเจ้าบาดเจ็บตั้งแต่เมื่อใด? เหตุใดจู่ ๆ อาการบาดเจ็บเก่าจึงกำเริบขึ้นมาได้?”“เรื่องมันยาวเพคะ อาการบาดเจ็บของศิษย์พี่หญิงใหญ่กำเริบขึ้นปีละครั้งเสมอ และทุกครั้งที่กำเริบ จำเป็นต้องใช้วิชาบริสุทธิ์หทัยสูตรของหม่อมฉันช่วยรักษาเสมอ ดังนั้นหม่อมฉันจึงต้องรีบกลับทันทีเพคะ”“อืม เดินทางระมัดระวังด้วย”ฉินซูไปส่งกู้เสวี่ยเจี้ยนถึงนอกเมือง เขามองนางเดินทางออกไปแล้วจากนั้นก็หันหลังกลับไปยังหอดารารักษ์เมื่อกู้เสวี่ยเจี้ยนมิอยู่ข้างกาย ต่อไปเขาก็มิต้องห่วงหน้าพะวงหลังมากนักเมื่อต้องกระทำการใดในเป่ยเยี่ยน......ต้าเหยียนห้องทรงพระอักษรฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้ว เอ่ยถามว่า “ขุนนางเหลย รัชทายาทไปถึงเป่ยเยี่ยนแล้วกระมัง? เหตุใดเสวี่ยเจี้ยนจึงยังมิกลับมา? พึงระลึกไว้ด้วยว่านางแบกรับโชคชะตาแห่งต้าเหยียนไว้ อย่าให้เกิดเรื่องอันใดขึ้นเป็นอันขาด!”เหลยเจิ้นปลอบโยนว่า “ขอฝ่าบาทโปรดวางพระทัย ยามนี้เสวี่ยเจี้ยนน่าจะกำลังเดินทางอยู่ อีกทั้งข้าน้อยได้ส่งจีอันไปรับตัว เชื่อว่าจะไม่ม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 738

    สีหน้าของมู่หรงเซี่ยวเทียนพลันเคร่งขรึมขึ้น เขาส่ายหน้า“ถึงจะไม่มีเรื่องหยวนหัว เป่ยเยี่ยนกับแคว้นฉีก็ต้องทำสงครามปะทะกันในสักวัน แต่การให้เจ้าห้าอยู่ที่ต้าเหยียนก็เพื่อรักษาอนาคตของเป่ยเยี่ยนไว้ มิใช่เพราะแคว้นฉีทั้งหมด”“เสด็จพ่อทรงหมายความว่า นอกจากแคว้นฉีแล้วยังมีผู้อื่นที่ต้องการรุกรานเป่ยเยี่ยนของเราอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”มู่หรงโม่พลอยมิสบายใจไปด้วยตลอดหลายปีมานี้ แคว้นฉีรีดนาทาเร้นเป่ยเยี่ยนหนักข้อขึ้นทุกปี จนกระทั่งคลังหลวงของเป่ยเยี่ยนว่างเปล่า อยู่ในสภาพที่ภายนอกแข็งแกร่งภายในอ่อนแอในยามนี้หากยังมีแคว้นอื่นใดคิดจะระรานอีก เกรงว่าเป่ยเยี่ยนคงจะแบกรับภาระหนักมิไหว ผลลัพธ์ย่อมคาดมิถึง“เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ข้าได้รับข่าวลับที่เชื่อถือได้ว่า ภายในแคว้นตงอี๋ได้เริ่มเพิ่มกำลังทหาร เสบียงและยุทธภัณฑ์ก็ทยอยขนส่งไปยังแนวรบด้านตะวันตก เกรงว่าอีกมินานกองทัพตงอี๋ก็จะรุกรานชายแดนเราแล้ว”“มิใช่กระมังพ่ะย่ะค่ะ? ตลอดหลายปีมานี้เป่ยเยี่ยนกับตงอี๋เรียกได้ว่าอยู่กันอย่างสันติ เหตุใดพวกเขาจึงคิดจะยกทัพมาโจมตีเรากะทันหันเช่นนี้? หรือว่าพวกเขาต้องการทวงคืนเมืองทั้งสามที่ยกให้เป่ยเยี่ยนมาเมื

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 737

    อยู่ใต้ร่มเงาผู้อื่นจำต้องก้มศีรษะ! ข้าอดทนได้!เขาปลอบใจตนเองแล้วก็กลับเข้าห้องไปวันรุ่งขึ้นภายในท้องพระโรงมู่หรงเซี่ยวเทียนเพิ่งกินมื้อเช้าเสร็จ ชายหนุ่มในอาภรณ์พญางูสี่กรงเล็บผู้หนึ่งก็เดินเข้ามาเขาคือองค์รัชทายาทแห่งเป่ยเยี่ยน มู่หรงโม่!“ถวายพระพรเสด็จพ่อ!”เขาเข้ามาแล้วก็คารวะด้วยความเคารพมู่หรงเซี่ยวเทียนโบกมือ “ลุกขึ้นเถิด ต่อไปหากไม่มีคนนอกอยู่ พิธีเช่นนี้ก็มิจำเป็น”“พ่ะย่ะค่ะ!”มู่หรงโม่ลุกขึ้นแล้ว ก็กล่าวเข้าเรื่องทันทีว่า “เสด็จพ่อ ลูกได้ยินมาว่า ทางหอดารารักษ์ตัดสินใจให้องค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นั้นเป็นบุตรแห่งนักปราชญ์ เรื่องนี้เกรงว่าจะมิเหมาะสม ถึงอย่างไร...”ยังมิทันกล่าวจบ มู่หรงเซี่ยวเทียนก็ขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน “เรื่องนี้เป็นอาจารย์เจ้าได้อนุญาตแล้ว มิจำเป็นต้องกล่าวถึงอีก”“ที่แท้ท่านอาจารย์ก็อนุญาตนี่เอง แต่ว่าเสด็จพ่อ ฉินซูผู้นั้นสังหารหยวนหัวด้วยตนเอง หากวันหน้าข่าวรั่วไหลออกไป เกรงว่าอ๋องเซียงหยางจะโกรธแค้นยิ่งนัก เช่นนี้แล้ว เป่ยเยี่ยนของเราจะมิถึงคราวเคราะห์เพราะองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดผู้นั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“เรื่องนี้ตัวข้าย่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 736

    ฉินซูมิได้ใส่ใจความยินดีของซ่างกวนอวิ๋นซีมากนักเขาถามย้ำว่า “ดังนั้น ท่านจึงต้องการให้ข้าเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนกระไรนั่นแล้วนำบางสิ่งกลับมาให้ท่านหรือ?”“ถูกต้อง เจ้าฉลาดดีนี่!”“วรยุทธ์ของท่านแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมิเข้าไปเองเล่า?”“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนมีข้อจำกัด อนุญาตให้ผู้ที่มีวรยุทธ์ต่ำกว่าระดับเหนือมนุษย์เท่านั้นที่เข้าไปได้”ฉินซูขมวดคิ้วถามว่า “ข้าอยู่ในระดับเหนือมนุษย์หรือ?”ซ่างกวนอวิ๋นซีส่ายหน้าเล็กน้อย แต่แล้วก็อธิบายว่า “ข้ามีวิธีที่จะทำให้เจ้าดูเหมือนอยู่ในระดับเหนือมนุษย์ได้”“ดูเหมือนมีประโยชน์อันใดเล่า หรือว่าท่านสามารถหลบเลี่ยงข้อจำกัดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้?”“ทำได้อยู่แล้ว มิเช่นนั้นข้าจะสาธยายให้เจ้าฟังจนปากแฉะไปไย!”เมื่อเห็นซ่างกวนอวิ๋นซีมีท่าทางมั่นใจเสียเต็มประดา ฉินซูจึงมองนางลึกซึ้งกว่าเดิมยายเฒ่าบ้าผู้นี้ ดูท่าทางแล้วมิใช่คนที่มีเล่ห์เหลี่ยมธรรมดาในเวลานั้น ซ่างกวนอวิ๋นซีก็เปลี่ยนเรื่อง “รีบไปพักผ่อนเถิด ไว้เรื่องของหยวนหัวคลี่คลายลงเมื่อใด หอดารารักษ์จะจัดพิธีรับตำแหน่งให้เจ้า”“มิต้องกระมัง พวกท่าน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 735

    คำพูดนั้นทำให้ฉินซูตกใจในทันใด!เขาเบิกตากว้างแล้วกวาดตามองซ่างกวนอวิ๋นซีขึ้นลง จากนั้นก็ส่ายหน้ากล่าวว่า “อย่าพูดเล่นดีกว่า มู่หรงเซี่ยวเทียนอายุอานามน่าจะเกือบหกสิบแล้วกระมัง? อย่างมากท่านก็แค่ยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดเท่านั้น เขาจะเป็นศิษย์น้องของท่านได้อย่างไร?”เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ ซ่างกวนอวิ๋นซีก็ยกมือปิดปากหัวเราะร่วนนางหัวเราะจนตัวโยน เปี่ยมด้วยเสน่ห์ชวนหลงใหลเมื่อมองดูของใหญ่ที่สั่นกระเพื่อมขึ้นลง ในใจของฉินซูก็พลันเกิดความรุ่มร้อนขึ้นอีกครั้งเห็นเขาคลำจมูก แล้วถามว่า “มีกระไรน่าขำนักหนา?”“หาได้มีไม่ วันนี้ข้าอารมณ์ดี เรื่องที่เจ้าสังหารหยวนหัว ข้าจะมิถือสาหาความกับเจ้าแล้วกัน”“พูดกระไรของท่าน ในเมื่อท่านต่างหากที่เป็นต้นเหตุ ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับท่านเลย”สีหน้าของซ่างกวนอวิ๋นซีพลันเย็นชา “ข้ายังพูดมิจบ เรื่องที่เจ้าสังหารหนานกงจื่อชิน และยังสังหารผู้อาวุโสของข้าอีกหนึ่งคน หนี้ก้อนนี้ จะคิดบัญชีอย่างไร?”เห็นซ่างกวนอวิ๋นซีเปลี่ยนสีหน้าเร็วยิ่งกว่าพลิกหน้าตำรา ฉินซูทำได้เพียงกางมืออย่างจนปัญญา“ยามนั้นที่ท่านมาไล่ตามข้า ข้าก็บอกไว้แล้วว่าหนานกงจื่อชินรนหาที่ตายเอง หา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 734

    ซ่างกวนอวิ๋นซีพาฉินซูเข้าไปด้านใน มู่หรงเซี่ยวเทียนก็เอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “ท่านเซียนซ่างกวนบอกว่าจะมาวันพรุ่งมิใช่หรือ? เหตุใดจึงมาโดยกะทันหันเช่นนี้เล่า?”“ฝ่าบาท หม่อมฉันมาในครั้งนี้ ด้วยมีประสงค์ให้ฝ่าบาทออกพระราชโองการปิดข่าวการตายของหยวนหัวเพคะ”“ปิดข่าวหรือ?”มู่หรงเซี่ยวเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ในมิช้าก็เข้าใจความตั้งใจของซ่างกวนอวิ๋นซีเขาส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “เหล่าผู้ติดตามของหยวนหัวสองสามคน ออกจากเมืองหลวงจินหลิงไปหลายชั่วยามแล้ว ตัวข้าเพิ่งจะทราบข่าวเมื่อครู่นี้เอง จะปิดข่าวเอายามนี้เกรงว่าจะสายเกินไปเสียแล้ว”“หาได้สายเกินไปไม่เพคะ หม่อมฉันได้ส่งคนไปสกัดแล้ว ส่วนคนของหยวนหัวหม่อมฉันจะเป็นผู้จัดการเอง แต่ปากของเหล่าขุนนางในราชสำนักและราษฎรนั้นต้องขอให้ฝ่าบาทช่วยปิดเพคะ”“เรื่องนี้มิยาก ช่วงหลายวันมานี้หยวนหัวก่อเรื่องชั่วช้าไปทั่ว ราษฎรพากันเกลียดชังเขาเข้าไส้ การตายของเขา พวกชาวบ้านย่อมมิพูดถึงมากนักส่วนเหล่าขุนนางในราชสำนัก พวกเขาย่อมรู้ดีถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ ย่อมมิโง่เขลานำความไปรายงานลับหลังข้าหรอกทว่า เพื่อป้องกันไว้ก่อน ตัวข้าจะให้คนไปตั้งด่านที่ชายแ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 733

    ซ่างกวนอวิ๋นซีเดินเข้าไป เลิกคิ้วถามว่า “เมื่อครู่พวกเจ้ากล่าวว่า หยวนหัวแอบหนีออกมาโดยมิได้บอกอ๋องเซียงหยางหรือ?”หูซางกวาดตามองซ่างกวนอวิ๋นซีผาดหนึ่งยามนี้ แม้ซ่างกวนอวิ๋นซีจะสวมผ้าคลุมหน้า ทำให้ผู้อื่นมิอาจมองเห็นใบหน้าที่งดงามราวเทพธิดาได้ชัดเจนแต่อาภรณ์ของนางกลับบางเบา ทำให้มองเห็นรูปทรงโค้งเว้างดงามสะกดใจนั้นได้อย่างชัดเจน!หูซางและพวกเหม่อมองจนน้ำลายแทบหก“ฮิ ๆ นึกมิถึงว่าแคว้นเล็ก ๆ อย่างเป่ยเยี่ยนจะมีสาวงามเช่นนี้ สวรรค์ช่างใจดีกับหูซางผู้นี้เสียจริง! พี่น้องทั้งหลาย ข้าขอลิ้มรสก่อน แล้วค่อย...”ยังมิทันกล่าวจบ เขาก็ถูกซ่างกวนอวิ๋นซีบีบคอ!คนอื่น ๆ เห็นดังนั้นก็ตกใจจนแทบสิ้นสติ!ซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “หากมิอยากตาย ก็จงตอบคำถามของข้ามา!”“อ่า คือว่า...” ทุกคนลังเลโดยฉับพลันกร๊อบ!ซ่างกวนอวิ๋นซีบีบคอหูซางหักในทันใดแล้วโยนร่างทิ้งไปข้าง ๆอีกสองสามคนที่เหลือต่างตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง มิคาดคิดว่าสตรีผู้มีรูปร่างโดดเด่นผู้นี้ จะลงมือสังหารคนอย่างโหดเหี้ยมโดยมิพูดพร่ำทำเพลง“ดูเหมือนพวกเจ้าจะเบื่อหน่ายชีวิตกันแล้วสินะ!” ซ่างกวนอวิ๋นซีมองพวกเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 732

    ฉินซูกล่าวพึมพำ "อันดับแรก ข้าคือบุตรแห่งนักปราชญ์คนใหม่ของหอดารารักษ์ของพวกท่านอยู่แล้ว อีกอย่างมีพวกท่านเป่ยเยี่ยนคอยรับมือเป็นด่านหน้า แม้ว่าอ๋องเซียงหยางหมายจะระรานต้าเหยียน ก็ต้องผ่านด่านพวกท่านไปก่อนมิใช่หรือ?"แม้ปากจะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังรู้สึกหวั่น ๆ อยู่มิใช่น้อยเพราะเขาเองก็มิแน่ใจว่า อ๋องเซียงหยางจะใช้อำนาจของตนเองกดดันต้าเหยียนในเรื่องอื่นหรือไม่ซ่างกวนอวิ๋นซีพูดอย่างมิค่อยสบอารมณ์นัก "เจ้าพล่ามกระไรนักหนา ตกลงคิดหาวิธีได้หรือยัง?""คิดได้แล้ว" ฉินซูพูดด้วยท่าทีจริงจัง"รีบว่ามา!""ก่อนอื่นตอนนี้ต้องปิดข่าวเรื่องการตายของหยวนหัวไปก่อน แล้วค่อยดูสถานการณ์กันต่อไป!"ซ่างกวนอวิ๋นซีขมวดคิ้ว "นี่คือวิธีที่เจ้าคิดได้หรือ?"ฉินซูพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง"ดูเหมือนเจ้าจะคิดว่า คำพูดของข้าก่อนหน้านี้แค่ขู่เจ้าเท่านั้นสินะ"เมื่อสิ้นเสียงพูด กระบองหนามแหลมก็ปรากฏขึ้นในมือของนางแล้ว!ฉินซูรีบถอยร่นไปหลายก้าว "ใจเย็นก่อน ข้ามิได้หลอกท่าน ข้าจริงจังนะ"ซ่างกวนอวิ๋นซีโบกกระบองหนามในมือ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "เรื่องที่จะหักขาสกปรกของเจ้า เรื่องนั้นข้าก็พูดจริงเช่นกัน!"

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status