Share

บทที่ 741

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
เมื่อสิ้นเสียง มือคู่หนึ่งก็เอื้อมตรงมาที่หยกขาวในมือฉินซู

ฉินซูปัดมืออีกฝ่ายออก แล้วกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “หยกขาวชิ้นนี้ข้าซื้อแล้ว”

ชายหนุ่มผู้สวมอาภรณ์หรูหราผู้นั้นแผดเสียงด้วยความโอหังในทันใด “เจ้าเด็กเหลือขอ บังอาจแย่งชิงของรักของหวงของข้ารึ? เจ้ามิรู้หรือว่าข้าเป็นใคร?”

ฉินซูมองสำรวจอีกฝ่ายแล้วถามกลับว่า “ข้าควรรู้ด้วยรึ?”

“ฮ่า ๆ ที่แท้ก็เป็นคนต่างถิ่นโง่เง่า หากมิอยากตายก็รีบเอาหยกขาวนั่นมา มิเช่นนั้นตัวข้าคุณชายผู้นี้จะทำให้เจ้ามิได้เห็นแสงตะวันในวันพรุ่ง!”

เห็นอีกฝ่ายเย่อหยิ่งถึงเพียงนี้ เดิมทีฉินซูมิได้คิดจะสนใจไยดี

ทว่า ในเวลานั้นเอง เถ้าแก่แผงลอยก็รีบเอ่ยปากเกลี้ยกล่อมว่า “คุณชาย ท่านยอมยกหยกขาวนั้นให้แก่คุณชายเซียวเถิดขอรับ เขาคือคุณชายใหญ่แห่งตระกูลเซียว อย่าได้ล่วงเกินเป็นเด็ดขาดเลยขอรับ”

ฉินซูยิ่งสงสัย “ตระกูลเซียวเก่งกาจมากหรือ?”

“ฮ่า ๆ ๆ แม้แต่ตระกูลเซียวของข้าก็ยังมิรู้จัก เจ้านี่ช่างโง่เขลาเสียจริง!”

ผู้ติดตามที่อยู่ข้างกายชายหนุ่มเชิดหน้าขึ้นกล่าวว่า “เจ้าเด็กเหลือขอ จงฟังให้ดี นายท่านของบ้านพวกข้าคือเสนาบดีในราชสำนักผู้ดูแลเรื่องคดีอาญา ทีนี้รู้สึกกลัวขึ้
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 744

    ฉินซูพูดอย่างจริงจัง "ตงอี๋ติดกับเป่ยเยี่ยนและต้าเหยียน พวกท่านกับแคว้นตงอี๋ถูกคั่นด้วยทิวเขาสูงชัน มิเหมาะแก่การเดินทัพกลับกันต้าเหยียนของเรา ติดกับตงอี๋บริเวณพื้นที่ราบ หากตงอี๋ต้องการจะรุกราน การยกทัพโจมตีต้าเหยียนของเราจะมิง่ายกว่าหรือ?อีกอย่างเมื่อหลายสิบปีก่อน หลังจากตงอี๋พ่ายแพ้ในสงคราม ก็ยกเมืองหลายเมืองให้ต้าเหยียนของเรา บัดนี้ท่านกลับบอกว่าพวกเขาจะยกทัพโจมตีเป่ยเยี่ยนของพวกท่าน ข้ามิเข้าใจเลยจริง ๆ""รายละเอียดแน่ชัดข้าเองก็มิค่อยแน่ใจนัก อย่างไรเสีย เสด็จพ่อก็ตรัสเช่นนี้กับข้าเมื่อวาน" มู่หรงโม่เองก็รู้สึกสงสัยในเรื่องนี้เป็นอันมากเช่นกันฉินซูเลิกคิ้วถามว่า "เป็นเพราะกังวลว่าทางตงอี๋จะยกทัพบุกเข้ามา เสด็จพ่อของท่านถึงให้มู่หรงฟู่พักอยู่ที่ต้าเหยียนมิต้องกลับมาหรือ?""ถูกต้อง เป็นเช่นนั้น"ฉินซูลูบคางพลางทำท่าครุ่นคิด จากนั้นก็มองมู่หรงโม่ด้วยแววตาเคลือบแคลง ท่าทางคล้ายอยากจะพูดบางอย่างแต่ก็ลังเลเมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้น มู่หรงโม่อดถามมิได้ "สหายฉิน ท่านคิดกระไรออก อยากจะบอกกระไรหรือ?"ฉินซูถามกลับอย่างใจเย็น "สหายมู่หรง ท่านกับพวกน้องชายของท่าน ความสัมพันธ์เป็นอย่า

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 743

    มู่หรงโม่ลูบคาง แล้วกล่าวอีกครั้งว่า “ถ้าเช่นนั้นเราลองสมมติว่าอ๋องเซียงหยางยกทัพล้านนายตรงมาประชิดชายแดนต้าเหยียนของท่าน ต้าเหยียนของท่านจะต้านทานศัตรูเช่นไร?”“กองทัพนับล้านเดินทางไกล เสบียงย่อมตามมามิทัน เพียงส่งกองทหารชั้นยอดอ้อมไปตัดเส้นทางส่งเสบียงอาหาร ก็มิต้องกังวลว่าพวกเขาจะมิยอมถอยทัพแล้ว”มู่หรงโม่จึงกระจ่างแจ้งในทันที เขาอุทานด้วยความประหลาดใจว่า “คาดมิถึงว่าสหายฉินจะมีความรู้ทางการทหารล้ำลึกถึงเพียงนี้ สมกับเป็นอัจฉริยะโดยแท้!”ฉินซูโบกมือเบา ๆ กล่าวว่า “สหายมู่หรงกล่าวเกินไปแล้ว เรื่องในสนามรบนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คำพูดของข้าเมื่อครู่เป็นเพียงการวางแผนรบบนกระดาษเท่านั้น”มู่หรงโม่ยิ้ม “สหายฉินถ่อมตนแล้ว ท่านเพียงนำทหารชั้นยอดหมื่นนายก็ยึดครองหนานเยวี่ยได้สำเร็จ ผลงานระดับนี้แม้แต่แม่ทัพผู้เลื่องชื่อบางคนยังต้องถอนหายใจยอมแพ้ มิทราบว่าสหายฉินจะกรุณาเล่ากระบวนการให้ข้าน้อยฟังอย่างละเอียดได้หรือไม่?”ฉินซูก็มิได้ปิดบัง และเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังจนหมดเปลือกหลังจากฟังคำบอกเล่าของฉินซูแล้ว มู่หรงโม่ก็กล่าวด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจว่า “วางแผนช่วยชีวิตแ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 742

    ฉินซูอธิบายว่า “เมื่อครู่ คุณชายน้อยแห่งจวนเสนาบดีกรมอาญาผู้นั้นเห็นท่านแล้วตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง มองไปทั่วเมืองหลวงจินหลิง คงมีเพียงองค์รัชทายาทเท่านั้นที่สามารถทำให้เขาเป็นเช่นนั้นได้กระมัง”“องค์ชายคนอื่นก็ทำให้เขาตกใจได้เช่นกัน เหตุใดท่านมองเพียงปราดเดียวก็รู้ว่าข้าเป็นองค์รัชทายาทแล้วเล่า?” มู่หรงโม่สงสัยหนัก“บางทีฐานะของเราอาจจะเหมือนกัน เมื่อเห็นท่าน จึงรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด”“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ท่านฉิน ที่นี่มิเหมาะแก่การสนทนา มิสู้หาโรงสุราดื่มสักสองจอกดีหรือไม่?”“ถ้าเช่นนั้นข้าน้อยก็มิขัด เชิญ!”“เชิญ!”มู่หรงโม่นำฉินซูมายังโรงสุราชื่อว่าโรงเซียนสุราในเวลานั้น แขกในโรงสุราต่างก็ถูกเชิญออกไปหมดแล้ว ภายในโรงสุราอันกว้างขวาง มีเพียงเถ้าแก่และเสี่ยวเอ้อร์มิกี่คนทันทีที่มู่หรงโม่เข้ามา เถ้าแก่ก็นำเสี่ยวเอ้อร์คารวะด้วยความหวาดกลัวมู่หรงโม่โบกมือ “มิต้องมากพิธี ลุกขึ้นได้แล้ว นำอาหารและสุราที่ดีที่สุดมาที ข้าจะร่ำสุรากับบุตรแห่งนักปราชญ์แห่งหอดารารักษ์!”เมื่อได้ยินดังนั้น เถ้าแก่และเสี่ยวเอ้อร์เหล่านั้นก็มองฉินซูด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพยำเกร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 741

    เมื่อสิ้นเสียง มือคู่หนึ่งก็เอื้อมตรงมาที่หยกขาวในมือฉินซูฉินซูปัดมืออีกฝ่ายออก แล้วกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “หยกขาวชิ้นนี้ข้าซื้อแล้ว”ชายหนุ่มผู้สวมอาภรณ์หรูหราผู้นั้นแผดเสียงด้วยความโอหังในทันใด “เจ้าเด็กเหลือขอ บังอาจแย่งชิงของรักของหวงของข้ารึ? เจ้ามิรู้หรือว่าข้าเป็นใคร?”ฉินซูมองสำรวจอีกฝ่ายแล้วถามกลับว่า “ข้าควรรู้ด้วยรึ?”“ฮ่า ๆ ที่แท้ก็เป็นคนต่างถิ่นโง่เง่า หากมิอยากตายก็รีบเอาหยกขาวนั่นมา มิเช่นนั้นตัวข้าคุณชายผู้นี้จะทำให้เจ้ามิได้เห็นแสงตะวันในวันพรุ่ง!”เห็นอีกฝ่ายเย่อหยิ่งถึงเพียงนี้ เดิมทีฉินซูมิได้คิดจะสนใจไยดีทว่า ในเวลานั้นเอง เถ้าแก่แผงลอยก็รีบเอ่ยปากเกลี้ยกล่อมว่า “คุณชาย ท่านยอมยกหยกขาวนั้นให้แก่คุณชายเซียวเถิดขอรับ เขาคือคุณชายใหญ่แห่งตระกูลเซียว อย่าได้ล่วงเกินเป็นเด็ดขาดเลยขอรับ”ฉินซูยิ่งสงสัย “ตระกูลเซียวเก่งกาจมากหรือ?”“ฮ่า ๆ ๆ แม้แต่ตระกูลเซียวของข้าก็ยังมิรู้จัก เจ้านี่ช่างโง่เขลาเสียจริง!”ผู้ติดตามที่อยู่ข้างกายชายหนุ่มเชิดหน้าขึ้นกล่าวว่า “เจ้าเด็กเหลือขอ จงฟังให้ดี นายท่านของบ้านพวกข้าคือเสนาบดีในราชสำนักผู้ดูแลเรื่องคดีอาญา ทีนี้รู้สึกกลัวขึ้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 740

    วันรุ่งขึ้นฉินซูรู้สึกเบื่อหน่ายจึงคิดจะออกไปเดินเล่นทว่า เพิ่งก้าวเท้าพ้นจากประตูหอดารารักษ์ เสียงเย็นชาของซ่างกวนอวิ๋นซีก็ลอยลงมาจากชั้นบน“หากเจ้าบังอาจหนี จุดจบเป็นเช่นไรเจ้าย่อมรู้ดี!”ฉินซูมุมปากกระตุกสองสามครั้ง กล่าวโดยมิหันกลับไปว่า “วางใจเถิด ข้าเพียงแค่ออกไปเดินเล่นเท่านั้น ในเมื่อรับปากว่าจะอยู่แล้ว ไม่มีทางหนีไปหรอก”กล่าวจบเขาก็เดินออกไปในตอนนั้นเองหลัวชางก็กระซิบถามว่า “ท่านเจ้าสำนัก จำเป็นต้องลอบจับตาดูเขาหรือไม่ขอรับ?”“มิต้อง ด้วยวรยุทธ์ของเขา พวกเจ้ามิอาจจับตาดูเขาได้หรอก”“นั่นก็จริงขอรับ ว่าแต่ องค์รัชทายาทผู้รอวันปลดผู้นั้นอยู่ในระดับใดกันแน่?” หลัวชางมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความอยากรู้อยากเห็นอีกฝ่ายส่ายหน้าเบา ๆ “ข้าเองก็มิอาจมองเห็นระดับของเขาได้ รู้เพียงว่ามิแข็งแกร่งเท่าข้า”เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ หลัวชางกล่าวอย่างจนใจว่า “เป่ยเยี่ยนกับต้าเหยียน ผู้ที่มีวรยุทธ์แข็งแกร่งกว่าท่านเจ้าสำนักเห็นทีจะมีเพียงผู้อาวุโสสูงสุดและเหลยเจิ้นแห่งสำนักหอดูดาวหลวงเท่านั้นกระมัง?”“นอกจากสองท่านนั้น แท้จริงแล้วยังมีคนอีกผู้หนึ่ง!”“หืม? ผู้ใดกันขอรับ?”ซ่างกวนอวิ๋

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 739

    แน่นอนว่าซ่างกวนอวิ๋นซียินดีจัดหาพาหนะให้อยู่แล้วเมื่อฉินซูทราบเรื่องก็ถามด้วยความสงสัยว่า “เสวี่ยเจี้ยน ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเจ้าบาดเจ็บตั้งแต่เมื่อใด? เหตุใดจู่ ๆ อาการบาดเจ็บเก่าจึงกำเริบขึ้นมาได้?”“เรื่องมันยาวเพคะ อาการบาดเจ็บของศิษย์พี่หญิงใหญ่กำเริบขึ้นปีละครั้งเสมอ และทุกครั้งที่กำเริบ จำเป็นต้องใช้วิชาบริสุทธิ์หทัยสูตรของหม่อมฉันช่วยรักษาเสมอ ดังนั้นหม่อมฉันจึงต้องรีบกลับทันทีเพคะ”“อืม เดินทางระมัดระวังด้วย”ฉินซูไปส่งกู้เสวี่ยเจี้ยนถึงนอกเมือง เขามองนางเดินทางออกไปแล้วจากนั้นก็หันหลังกลับไปยังหอดารารักษ์เมื่อกู้เสวี่ยเจี้ยนมิอยู่ข้างกาย ต่อไปเขาก็มิต้องห่วงหน้าพะวงหลังมากนักเมื่อต้องกระทำการใดในเป่ยเยี่ยน......ต้าเหยียนห้องทรงพระอักษรฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้ว เอ่ยถามว่า “ขุนนางเหลย รัชทายาทไปถึงเป่ยเยี่ยนแล้วกระมัง? เหตุใดเสวี่ยเจี้ยนจึงยังมิกลับมา? พึงระลึกไว้ด้วยว่านางแบกรับโชคชะตาแห่งต้าเหยียนไว้ อย่าให้เกิดเรื่องอันใดขึ้นเป็นอันขาด!”เหลยเจิ้นปลอบโยนว่า “ขอฝ่าบาทโปรดวางพระทัย ยามนี้เสวี่ยเจี้ยนน่าจะกำลังเดินทางอยู่ อีกทั้งข้าน้อยได้ส่งจีอันไปรับตัว เชื่อว่าจะไม่ม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 738

    สีหน้าของมู่หรงเซี่ยวเทียนพลันเคร่งขรึมขึ้น เขาส่ายหน้า“ถึงจะไม่มีเรื่องหยวนหัว เป่ยเยี่ยนกับแคว้นฉีก็ต้องทำสงครามปะทะกันในสักวัน แต่การให้เจ้าห้าอยู่ที่ต้าเหยียนก็เพื่อรักษาอนาคตของเป่ยเยี่ยนไว้ มิใช่เพราะแคว้นฉีทั้งหมด”“เสด็จพ่อทรงหมายความว่า นอกจากแคว้นฉีแล้วยังมีผู้อื่นที่ต้องการรุกรานเป่ยเยี่ยนของเราอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”มู่หรงโม่พลอยมิสบายใจไปด้วยตลอดหลายปีมานี้ แคว้นฉีรีดนาทาเร้นเป่ยเยี่ยนหนักข้อขึ้นทุกปี จนกระทั่งคลังหลวงของเป่ยเยี่ยนว่างเปล่า อยู่ในสภาพที่ภายนอกแข็งแกร่งภายในอ่อนแอในยามนี้หากยังมีแคว้นอื่นใดคิดจะระรานอีก เกรงว่าเป่ยเยี่ยนคงจะแบกรับภาระหนักมิไหว ผลลัพธ์ย่อมคาดมิถึง“เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ข้าได้รับข่าวลับที่เชื่อถือได้ว่า ภายในแคว้นตงอี๋ได้เริ่มเพิ่มกำลังทหาร เสบียงและยุทธภัณฑ์ก็ทยอยขนส่งไปยังแนวรบด้านตะวันตก เกรงว่าอีกมินานกองทัพตงอี๋ก็จะรุกรานชายแดนเราแล้ว”“มิใช่กระมังพ่ะย่ะค่ะ? ตลอดหลายปีมานี้เป่ยเยี่ยนกับตงอี๋เรียกได้ว่าอยู่กันอย่างสันติ เหตุใดพวกเขาจึงคิดจะยกทัพมาโจมตีเรากะทันหันเช่นนี้? หรือว่าพวกเขาต้องการทวงคืนเมืองทั้งสามที่ยกให้เป่ยเยี่ยนมาเมื

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 737

    อยู่ใต้ร่มเงาผู้อื่นจำต้องก้มศีรษะ! ข้าอดทนได้!เขาปลอบใจตนเองแล้วก็กลับเข้าห้องไปวันรุ่งขึ้นภายในท้องพระโรงมู่หรงเซี่ยวเทียนเพิ่งกินมื้อเช้าเสร็จ ชายหนุ่มในอาภรณ์พญางูสี่กรงเล็บผู้หนึ่งก็เดินเข้ามาเขาคือองค์รัชทายาทแห่งเป่ยเยี่ยน มู่หรงโม่!“ถวายพระพรเสด็จพ่อ!”เขาเข้ามาแล้วก็คารวะด้วยความเคารพมู่หรงเซี่ยวเทียนโบกมือ “ลุกขึ้นเถิด ต่อไปหากไม่มีคนนอกอยู่ พิธีเช่นนี้ก็มิจำเป็น”“พ่ะย่ะค่ะ!”มู่หรงโม่ลุกขึ้นแล้ว ก็กล่าวเข้าเรื่องทันทีว่า “เสด็จพ่อ ลูกได้ยินมาว่า ทางหอดารารักษ์ตัดสินใจให้องค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นั้นเป็นบุตรแห่งนักปราชญ์ เรื่องนี้เกรงว่าจะมิเหมาะสม ถึงอย่างไร...”ยังมิทันกล่าวจบ มู่หรงเซี่ยวเทียนก็ขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน “เรื่องนี้เป็นอาจารย์เจ้าได้อนุญาตแล้ว มิจำเป็นต้องกล่าวถึงอีก”“ที่แท้ท่านอาจารย์ก็อนุญาตนี่เอง แต่ว่าเสด็จพ่อ ฉินซูผู้นั้นสังหารหยวนหัวด้วยตนเอง หากวันหน้าข่าวรั่วไหลออกไป เกรงว่าอ๋องเซียงหยางจะโกรธแค้นยิ่งนัก เช่นนี้แล้ว เป่ยเยี่ยนของเราจะมิถึงคราวเคราะห์เพราะองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดผู้นั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“เรื่องนี้ตัวข้าย่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 736

    ฉินซูมิได้ใส่ใจความยินดีของซ่างกวนอวิ๋นซีมากนักเขาถามย้ำว่า “ดังนั้น ท่านจึงต้องการให้ข้าเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนกระไรนั่นแล้วนำบางสิ่งกลับมาให้ท่านหรือ?”“ถูกต้อง เจ้าฉลาดดีนี่!”“วรยุทธ์ของท่านแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมิเข้าไปเองเล่า?”“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนมีข้อจำกัด อนุญาตให้ผู้ที่มีวรยุทธ์ต่ำกว่าระดับเหนือมนุษย์เท่านั้นที่เข้าไปได้”ฉินซูขมวดคิ้วถามว่า “ข้าอยู่ในระดับเหนือมนุษย์หรือ?”ซ่างกวนอวิ๋นซีส่ายหน้าเล็กน้อย แต่แล้วก็อธิบายว่า “ข้ามีวิธีที่จะทำให้เจ้าดูเหมือนอยู่ในระดับเหนือมนุษย์ได้”“ดูเหมือนมีประโยชน์อันใดเล่า หรือว่าท่านสามารถหลบเลี่ยงข้อจำกัดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้?”“ทำได้อยู่แล้ว มิเช่นนั้นข้าจะสาธยายให้เจ้าฟังจนปากแฉะไปไย!”เมื่อเห็นซ่างกวนอวิ๋นซีมีท่าทางมั่นใจเสียเต็มประดา ฉินซูจึงมองนางลึกซึ้งกว่าเดิมยายเฒ่าบ้าผู้นี้ ดูท่าทางแล้วมิใช่คนที่มีเล่ห์เหลี่ยมธรรมดาในเวลานั้น ซ่างกวนอวิ๋นซีก็เปลี่ยนเรื่อง “รีบไปพักผ่อนเถิด ไว้เรื่องของหยวนหัวคลี่คลายลงเมื่อใด หอดารารักษ์จะจัดพิธีรับตำแหน่งให้เจ้า”“มิต้องกระมัง พวกท่าน

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status