ตอนที่ 23 ว่าที่พี่สะใภ้
เขามองเพลงรักนิ่ง ๆ ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ยิ่งเมื่อนึกถึงใบหน้าหวาด ๆ ของหญิงสาวในห้องน้ำ มันก็ยิ่งตอกย้ำว่าบางทีอาจจะมีเรื่องที่ผิดพลาดเกิดขึ้นมาจริง ๆ
“พ่อหนุ่มจะกินอะไร” ในตอนที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าตกลงแล้วผู้หญิงเมื่อเช้าคือใคร ป้าร้านอาหารของคณะก็เอ่ยถามเสียงเข้ม ทำให้ทั้งสองหันไปสนใจกับของกินตรงหน้าแทน
หลังจากนั้นเพลงรักและกรณ์ก็ไม่มีใครพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก ทั้งสองยังคงเข้าเรียนตามปกติ แม้เพลงรักนั้นจะมีความคิดถึงเรื่องที่การันต์หายไปอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าเธอแยกแยะเรื่องเรียนและปัญหาส่วนตัวได้ดี
แต่ดูเหมือนคนที่จะเป็นหนักในตอนนี้เห็นจะเป็นผู้ชายที่นั่งข้างเธอมากกว่า
เพลงรักเหลือบสายตามองเขาอยู่หลายครั้งในตอนที่อาจารย์สอน แต่ยังไงผู้ชายที่นั่งข้างเธอก็ดูจะไม่ได้สนใจเนื้อหาตรงหน้าเลยสักนิด เขายังคงเหม่อลอยและพึมพำเบา ๆ กับตัวเองจนเธอเองก็เริ่มเป็นห่วงเพื่อนไม่น้อย
“กรณ์.. ไหวไหมเนี่ย” หญิงสาวหันไปสะกิดเพื่อนในตอนที่อาจารย์หันมาจ้องเขานิ่ง และก็เป็นเพลงรักที่ยิ้มแห้ง ๆ ส่ง
ตอนที่ 38 จีบเมียตัวเองย้อนกลับไปเมื่อ1ชั่วโมงก่อน“คุณใช่ไหมที่เป็นเจ้านายของเพลงรัก?” หลังจากที่การันต์เดินออกจากห้องมาได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็มีเสียงที่เขาไม่อยากได้ยินดังขึ้นเมื่อหันไปมองต้นเสียงและก็พบว่าเป็นคนที่เขาไม่ชอบขี้หน้า ทำให้การันต์เบือนหน้ากลับไปมองท้องฟ้าต่อราวกับไม่ได้อยากจะสนใจอะไรผู้ที่มาใหม่นักและเมื่อไม่รู้ว่าจะทำอะไร แม้แต่จะกลับเข้าไปหาเพลงรักเขาก็กลัวว่าเธอจะหวาดกลัวขึ้นมาอีก สุดท้ายก็ทำได้เพียงแค่นั่งอยู่ตรงนี้ก่อนจะล้วงมือไปหยิบซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ“เพลงรักแพ้บุหรี่” กรณ์พูดขึ้นเรียบ ๆ พลางเดินล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบหมากฝรั่งออกมายื่นให้มือของการันต์ที่กำลังจะจุดบุหรี่สูบชะงักกลางอากาศ นิ้วที่กำลังจะหยิบบุหรี่เปลี่ยนไปหยิบหมากฝรั่งแทนก่อนเขาจะเอ่ยเสียงต่ำถามเด็กคนนี้ออกไป“มีอะไร” กรณ์ไม่ตอบทันที แต่เขาทำเพียงแค่เดินมานั่งข้าง ๆ แล้วเอนหลังพิงพนักพิงของเก้าอี้ใบหน้าหล่อละมุนเหมือนหนุ่มเกาหลีแหงนมองท้องฟ้าเงียบ ๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพู
ตอนที่ 37 เขาเป็นใครก็ไม่รู้หลังจากที่พันตำรวจเอกอภิธิคุณเข็นรถเข็นพาภรรยาเข้ามาในห้อง เขาก็ค่อย ๆ พยุงคุณหญิงขึ้นเตียง ร่างบอบบางตามวัยที่ยังดูอ่อนแรงจากการผ่าตัดสมองค่อย ๆ เอนหลังพิงหมอน ก่อนจะหยิบกระดาษทิชชูออกมาจากกระเป๋าเสื้อผู้ป่วยแล้วยื่นให้สามี“อะไรเหรอคุณ” คุณท่านอธิคุณเปิดกระดาษทิชชูออกมาก่อนจะพบว่าในนั้นคือเส้นผมสองสามเส้น เขามองหน้าภรรยาก่อนจะถามออกไปเสียงแผ่วเบา“ของหนูเพลงรักเหรอ” คุณหญิงพยักหน้าก่อนจะส่งยิ้มมาให้ด้วยความคาดหวัง เมื่อเห็นว่าสามีไม่ได้คัดค้านอะไรเธอจึงหันไปดึงเส้นผมของตนเองออกมาด้วย แล้วค่อย ๆ ยื่นมือไปหมายจะดึงของผู้เป็นสามีในตอนนั้นแม้ว่าคุณท่านอธิคุณจะไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ยอมโน้มศีรษะลงไปให้ภรรยาดึงได้สะดวก จนเมื่อคุณหญิงนั้นดึงเส้นผมของสามีออกมาได้สำเร็จ“คุณเอาไปให้หมอช่วยตรวจดีเอ็นเอหน่อยนะคะ ฉัน.. ไม่รู้สิ ฉันรู้สึกผูกพันกับหนูเพลงมา
ภายในห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ที่เงียบสนิทจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงหยดน้ำเกลือจากขวดเหนือเตียง การันต์นั่งอยู่ข้าง ๆ เพลงรักยังคงนอนนิ่ง ดวงหน้าซีดเซียวไม่มีสีเลือด ยิ่งเห็นสภาพของเธอแล้วหัวใจของเขาก็เหมือนถูกบีบทุกวินาที“ลืมตาสิเพลงรัก.. ลืมตาขึ้นมาเถอะนะ จะนอนอยู่อย่างนี้ไปถึงเมื่อไหร่” น้ำเสียงเขาแหบพร่าราวกับกำลังฝืนและพยายามไม่ให้เสียงสั่นเขายังคงจ้องมองเธอไม่ละสายตาไปไหน มือหนากุมมือของเธอเอาไว้นิ่ง ๆ หลังจากที่เธอถูกส่งมาพักที่ห้องพักฟื้น จนตอนนี้ก็เข้าสู่วันที่3แล้ว แต่เพลงรักกลับยังไม่มีทีท่าจะฟื้นขึ้นมานั่นจึงทำให้การันต์ค่อนข้างกังวลอยู่ไม่น้อยในตอนที่เขานั่งมองเธอไม่ขยับไปไหน ใบหูก็ได้ยินเสียงล้อรถเข็นดังมาจากด้านนอก ก่อนที่ประตูห้องพักจะถูกเปิดออกเมื่อเขาหันไปมองก็พบว่าเป็นคุณท่านอธิคุณที่เข็นคุณหญิงพรรณพิลาเข้ามา ใบหน้าของคุณหญิงเองก็ไม่สู้ดีนักสักเท่าไหร่ มันดูซีดเซียวไม่ได้ต่างไปจากเพลงสักเลยสักนิด ที่รถเข็นมีสายน้ำเกลือระโยงระยาง แต่ดวงตาของท่านยังเปล่งประกายเหมือนคนมีแรงเหลือเต็มหัวใจ“หนูเพลงเป็นอย่างไรบ้าง”
ตอนที่ 36 ยอมได้แค่เธอเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงที่เพลงรักและคุณหญิงเข้าไปในห้องผ่าตัด การันต์ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่หน้าห้อง ข้างกายเขาคือราเชนทร์ที่ดูมีท่าทีวิตกไม่ต่างกันชายหนุ่มเท้าแขนลงบนหัวเข่า สองมือประสานกันแน่น สายตาจ้องไปยังประตูห้องผ่าตัดที่ยังคงปิดสนิทจนกระทั่งมีเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งดังขึ้นจากมุมทางเดิน“นั่นการันต์ไม่ใช่เหรอ?” เขาหันขวับไปตามเสียงนั้นก่อนจะเห็นชินที่เดินเคียงมากับนีน่า ทั้งคู่ดูสดใสและมีความสุขเกินกว่าจะเข้ากับบรรยากาศของโรงพยาบาลได้ เมื่อสายตาของทั้งสองปะทะเข้ากับเขาชินก็รีบเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้ากังวลทันที“มึงมาทำอะไรที่นี่ เกิดอะไรขึ้น?” เขาถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่การันต์กลับไม่ได้ตอบอะไร เขาเอาแต่หันไปมองห้องผ่าตัดสลับกับใบหน้าทั้งสองก่อนจะตอบสั้น ๆ“ไม่มีอะไร.. แล้วมึงมาทำไรที่โรงพยาบาล”“ไม่มีอะไร พานีน่ามาตรวจสุขภาพเฉย ๆ อยู่เมืองนอกนานขนาดนั้น แต่กลับยังไม่เคยตรวจสุขภาพเลย” เขาหันไปมองห้องผ่าตัดที่การันต์เอาแต่มองทุก ๆ สามวินาทีเห็นจะได้ ก่อนจะถา
ตอนที่ 35 อุบัติเหตุมาลีไม่แม้แต่ที่คิดจะตอบคำถามของเพลงรัก เธอยังคงยืนนิ่งราวกับเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่กระแสไฟฟ้าลัดวงจร และเป็นเสียงฝีเท้าของคุณท่านและคุณหญิงที่เดินใกล้เข้ามาคุณหญิงพรรณพิลาเดินตรงมาที่พวกเขาก่อนจะก้าวมาหยุดยืนตรงหน้าของมาลี สายตาของท่าจ้องมองผู้หญิงตรงนี้ไม่ละสายตาไปไหน จนแม้แต่คนมองดูอย่างเพลงรักก็ยังรู้สึกอึดอัด“เธอ.. ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?” เสียงถามนั้นดูเหมือนจะราบเรียบ ทว่าเต็มไปด้วยแรงสั่นของน้ำเสียงที่สะท้อนอารมณ์ที่ของผู้พูดเอาไว้“ไม่ใช่ว่าเธอหายสาบสูญไปแล้วเหรอ?” ทันใดนั้นก็เหมือนบรรยากาศรอบตัวกำลังหยุดนิ่งเพลงรักขมวดคิ้วมองหน้าทุกคนอย่างไม่เข้าใจ ขณะที่มาลีชะงักกึกริมฝีปากเม้มแน่น สีหน้านั้นซีดเผือด ในตอนที่ทุกคนกำลังนิ่งก็เป็นคุณท่านอธิคุณที่เดินเข้ามายืนข้างภรรยา ก่อนเอ่ยด้วยเสียงเข้ม“เธอใช่ไหมที่เอาลูกของฉันไปมาลี!&rd
มือกร้าน ๆ ของคนที่ได้ชื่อว่าแม่กระชากเธอเอาไว้อย่างแรง และตามมาด้วยพ่อเลี้ยงที่คว้าแขนของเธอเอาไว้แน่นอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว“ปล่อยเธอ!” จนเมื่อการันต์นั้นตวาดใส่ทั้งคู่เสียงดังก่อนจะกระชากตัวเพลงรักออกมา พร้อมเอาร่างของตัวเองบังเธอเอาไว้เต็มที่หญิงสาวเบี่ยงตัวมามองทั้งสองก่อนจะเบิกตากว้าง ตะลึงในสภาพของทั้งสองที่ดูทรุดโทรม เสื้อผ้าของแม่มาลีขาดวิ่น ตามตัวเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำเขียวคล้ำ ใบหน้าผอมซีดดูเหมือนผ่านเรื่องเลวร้ายมาในช่วงที่เธอไม่อยู่ แทบจะเรียกได้ว่าเธอเกือบจะจำแม่ไม่ได้ด้วยซ้ำ“แม่.. ทำไม เกิดอะไรขึ้นกับแม่คะ” หญิงสาวที่เห็นสภาพของคนเป็นแม่แล้วได้แต่หัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม มือไม้ของเพลงรักสั่นจนแทบจะควบคุมไม่ได้เธอเดินออกมาจากด้านหลังของการันต์กำลังจะก้าวเข้าไปหา แต่กลับเป็นชายหนุ่มคว้าข้อมือเธอไว้แน่นก่อนจะพูดเสียงดุ ๆ เพื่อเตือนสติ“อะไรที่ต้องตัดก็ควรตัด”“แต่นั่น.. นั่นคือแม่ของฉันนะคุณ!” เสียงเธอสั่นพร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้า ดวงตาที่เคยสดใสตอนนี้กลับสีแดงอย่างน่าสงสาร เรียวนิ้วสวยชี้ไปทางแม่รัว ๆ ราวกับคนที่สติกำลังจะหลุด