LOGINหัสดิน หรือ ดิน อายุ30ปี น้องชายคนละแม่กับหัสวีร์ : สัมพันธ์ลับ(รัก)ประธานพันล้าน เชฟดิน ชายหนุ่มโปรไฟล์ยอดเยี่ยม เขาไม่ค่อยเปิดเผยตัวเองในสังคมนัก ทำงานอยู่เบื้องหลังบริษัทของตระกูลศาตนันท์ ตระกูลเก่าแก่ที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆของโลก เป็นน้องชายต่างมารดากับ “หัสวีร์” เบื้องหน้าเขาคือหัสดิน เชฟหนุ่มที่มีรอยยิ้มตลอดเวลา แต่เบื้องหลังเขาดูธุรกิจสีเทาของครอบครัว และยังมีบุคลิกอันซับซ้อน แพรดาว เธอมีชีวิตเรียบง่ายมาจนอายุ22 อยู่กับแม่เพียงสองคนตั้งแต่เธอจำความได้ แม่ของเธอทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดกับบริษัทแห่งหนึ่ง แพรดาวเองก็ทำงานพิเศษหารายได้ช่วยแม่มาตลอด การเรียนระดับปานกลาง สองแม่ลูกใช้ชีวิตราบเรียบไม่มีอะไรเป็นพิเศษ จนเมื่อครึ่งปีก่อนแม่ของเธอป่วยหนัก หญิงสาวจึงเข้าไปทำงานแทนตำแหน่งของแม่ คิดแค่ว่าจะทำไปก่อนระหว่างที่ยังหางานประจำไม่ได้ หัสดินผู้มีรอยยิ้มอ่อนโยนและท่าทีขี้เล่น มีเพียงแพรดาวที่บังเอิญล่วงรู้ความลับของเขา ความลับที่ชายหนุ่มไม่ต้องการให้ใครรู้! จงเก็บศัตรูไว้ข้างกาย เขาจึงจำเป็นต้องกักขังเธอไว้ข้างตัว!
View Moreบทนำ
“แพรดาว” หญิงสาวในวัยยี่สิบสอง เธออยู่กับ “ศรีฟ้า”แม่ของเพียงสองคน แพรดาวเรียกแม่ว่า “แม่จ๋า” จนติดปาก ตั้งแต่จำความได้เธอก็มีเพียงแม่จ๋าคนเดียว ไม่ปรากฏญาติพี่น้องที่ไหน ชีวิตสองแม่ลูกหาเช้ากินค่ำล้มลุกคลุกคลานมาด้วยกัน จนมาตอนนี้เช่าบ้านหลังน้อยอยู่ เธอเองก็ทำงานพิเศษมาตั้งแต่ยังเด็ก อะไรที่พอช่วยเหลือแม่จ๋าได้ ก็ทำทุกอย่าง ขอเพียงงานสุจริต เธอก็ไม่อายที่จะทำมัน
หกเดือนก่อนแม่จ๋าของแพรดาวประสบอุบัติเหตุ โดยรถมอเตอร์ไซค์ชนได้รับบาดเจ็บสาหัส อยู่ห้องไอซียูนานครึ่งเดือนก่อนจะออกมาพักรักษาตัว แพรดาวเพิ่งเรียนจบคณะบริหารมาหมาดๆ ยังหางานทำไม่ได้ ด้วยความที่ต้องการใช้เงิน เธอจึงทำงานในตำแหน่งของแม่ไปก่อน ระหว่างนี้เธอก็ยื่นใบสมัครงานไปทั่ว แต่ก็ยังไม่มีข่าวดีมาเสียที
ตอนนี้เลือกงานไม่ได้ มีอะไรก็ทำไปก่อน
แพรดาวบอกกับตัวเอง เธอไม่ได้รังเกียจงานที่ตัวเองทำอยู่ เพียงแค่อยากทำงานให้ตรงสายงานที่เรียนมาก็เท่านั้น
“หนูแพร”
หญิงสาวหันไปตามเสียงเรียก พนักงานในชุดสีฟ้าสดใสโบกมือเรียกก่อนที่ร่างอวบอ้วนจะวิ่งมาถึง แพรดาวส่งยิ้มและหยุดรอ แม่จ๋าของเธอทำงานกับบริษัท คลีน แอนด์ คลีน จำกัด มาหลายปี เจ้านายใจดีมีสวัสดิ์การและโอทีให้ แม้งานจะหนักสักหน่อยแต่ก็ไม่หนักหนาขนาดทนไม่ได้ พอแม่จ๋าประสบอุบัติเหตก็มีเงินใส่ซองเป็นค่าทำขวัญมอบให้ คอยดูแลในหลายๆเรื่อง และเสนอให้เธอมาทำงานแทนแม่จ๋าไปก่อน จนกว่าแม่จ๋าจะกลับมาทำงานได้ปกติเหมือนเดิม
“ว่าไงค่ะน้าแป้ง” เธอทัก กระชับกระเป๋าสะพายที่คล้องไหล่อยู่ บริษัทส่งเธอไปทำความสะอาดที่บริษัทแห่งหนึ่งย่านสาทร เธอเพิ่งจะกลับเข้าบริษัทและเตรียมตัวกลับบ้าน
“พรุ่งนี้ว่างไหม”
“พรุ่งนี้วันหยุดแพรค่ะ แต่แพรไม่มีคิวอะไร” เธอตอบไปตามตรง
“น้าต้องพาย่าไปหาหมอที่โรงพยาบาลนะ หาคนมาเปลี่ยนเวรอยู่”
“ได้ค่ะ” แพรดาวตอบเร็วเหมือนไม่ต้องคิด “ไปที่ไหนคะ”
“พรุ่งนี้ไปบริษัทศาตนันท์กรุ๊ฟจ๊ะ”
“อ้อ แพรเคยไปหลายหนแล้ว น้าแป้งบอกหัวหน้าหรือยังคะ”
“ยังเลย รอหาคนมาแทนได้ก่อน ตกลงหนูแพรรับไปนะลูกนะ”
“ได้ค่ะ แพรไม่มีปัญหาอะไร”
“ขอบใจหนูแพรมาก”
แพรดาวได้แต่ยิ้ม ชีวิตเธอก็เรียบง่ายแบบนี้แหละ ขอแค่กินอิ่มนอนหลับ ผ่านแต่ละวันไปอย่างเป็นสุขก็พอแล้ว
หัสดิน
หัสดิน ศาตนันท์ ชายหนุ่มอายุสามสิบพอดิบพอดี โปรไฟล์เร้าใจสาวๆ ในฐานะเชฟหนุ่มสุดหล่อที่มีรอยยิ้มกระชากใจสาวๆ เบื้องหน้าคือรอยยิ้มทะเล้นและเจ้าของร้านอาหารสุดหรูหลายสาขา แต่เบื้องหลังเขาดูแลธุรกิจสีเทาของตระกูลศาตนันท์ การทำงานด้านนี้เพื่อแลกกับการที่เขายังคงตำแหน่งเชฟและไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานในบริษัทศาตนันท์กรุ๊ฟ ซึ่งมีพี่ชายต่างมารดา ‘หัสวีร์’ นั่งตำแหน่งประธานบริษัทฯ
หลายคนอาจไม่รู้ ภายนอกท่าทีไม่เอาไหนวันๆ เอาแต่หมกมุ่นกับการทำอาหาร หัสดินทำงานดูแลบริษัทในสาขาที่อเมริกา เดิมที่เขาอยู่เมืองนอกมากกว่าเมืองไทย แต่เพราะบริษัทฯที่เมืองไทยต้องปรับฟื้นฟูสภาพคล่อง เขาจึงกลับมาดูแลบริษัทได้ราวครึ่งปีแล้ว
เขาเติบโตในตระกูลร่ำรวยมั่งคั่ง
แต่ในหัวใจว่างเปล่า
แม่ให้กำเนิดเขาโดยไม่ได้แต่งงานหรือจดทะเบียนสมรส แต่กระนั้นพ่อก็ยังรับเขากับแม่เข้ามาอยู่ในตระกูลศาตนันท์ เพื่อให้ลูกชายคนเดียวมีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ ได้เรียนหนังสือในโรงเรียนอินเตอร์ ไม่ว่าจะถูกดูแคลนอย่างไร แม่ของเขาอดทนได้
ชีวิตมันก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียทั้งหมด เพราะ...เขามีพี่ชายต่างมารดาที่แม้ปากร้ายไปสักหน่อย แต่คอยดูแลเขาในฐานะน้องชายมาตลอด
แต่ครั้งหนึ่ง...เรื่องที่น้อยคนจะรู้
แม่ที่ตอนนั้นยังไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า เคยพยายามวางยานอนหลับในน้ำหวานเพื่อให้เขาตายก่อนและแม่ตั้งใจจะตายตาม
“แม่ทำอะไรฮะ”
เขาอายุเพียง 8 ขวบ แต่จำใบหน้านองน้ำตาของแม่ได้อย่างดี ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีเขาไม่เคยลืมภาพในคืนนั้น
“ดิน” แม่เรียกทั้งน้ำตา “อย่าโกรธแม่นะ แม่ทำดีที่สุดแล้ว”
ดวงตาของแม่เหมือนคนอดนอนหลายวัน เห็นเส้นเลือดในตาขาวชัดจนเหมือนดวงตากลายเป็นสีแดง มือที่เคยโอบกอดยื่นมาบีบคอของเขา เด็กชายตาเหลือกไม่คิดว่าแม่จะทำเช่นนี้
“แม่ฮะ นี่ดินนะ แม่!”
“แม่ขอโทษ อย่าโกรธแม่นะ เดี๋ยวแม่จะตามดินไป”
แม่ร้องไห้ แต่เขาเศร้า เสียใจ และกลายเป็นโกรธแค้นที่แม่กำลังจะฆ่าเขา อาจเพราะแม่มีแรงไม่มากพอ เด็ก8ขวบมีความฮึดขึ้นมา เขาดิ้นสุดกำลัง พลัน! เงาทมึนเบื้องหลังเคลื่อนไหวด้านหลัง เป็นหัสวีร์ที่เข้ามาช่วยได้ทันเวลา!
“คุณน้า! อย่าทำแบบนี้!”
น้อยครั้งที่คนหยิ่งผยองอย่างหัสวีร์จะเรียกผู้หญิงของพ่อแบบนี้ พ่อของเขาเจ้าชู้ที่ทำให้ผู้หญิงทนไม่ไหวแม้จะแต่งงานกันแล้วก็ยังมีบ้านเล่นบ้านน้อย จนแม่ของหัสวีร์เป็นฝ่ายหย่าร้างและย้ายกลับไปต่างประเทศ แต่เพราะข้อเสนอของคุณปู่ ให้หลานชายได้เติบโตที่เมืองไทย นอกจากได้รับการเลี้ยงดูที่ดีแล้ว ยังมีเงินค่าปลอบใจที่ต้องหย่าร้าง เป็นเงินหลายล้านดอลร์ล่าเลยทีเดียว
แม่ของหัสดินเหมือนเพิ่งได้สติ เธอตกใจปล่อยมือจากคอเล็กๆของลูกชายคนโต ผงะถอยหลังอย่างหวาดกลัว
“ถ้าคุณน้าไม่ต้องการดินแล้วก็ยกเขาให้ผมเถอะ ผมจะดูแลดินเอง!”
“ขอโทษ...ดิน ...แม่ขอโทษ”
หัสวีร์โอบไหล่ปกป้องหัสดินที่อายุน้อยกว่า2ปี แม้อายุน้อยแต่เติบโตมาภายใจการเลี้ยงดูที่เข้มงวดของปู่และย่า ทำให้เขาดูโตเกินวัย และสามารถจัดการปัญหาตรงหน้าได้ เขาโทรบอกคุณปู่ ไม่นานนักก็มีคนมารับตัวแม่ของหัสวีร์ไปโรงพยาบาล แต่หัสดินไม่รู้ความคิดว่าแม่จะถูกส่งเข้าคุกเข้าตะราง
“อย่าเอาแม่ไปนะ!”
“คุณปู่จะพาแม่ไปรักษา แม่นายไม่สบายต้องไปรักษาตัวก่อน อืม...เขาเรียกอะไรนะ ซึมเศร้าหลังคลอดอะไรนี่แหละ”
“แม่ป่วยเหรอ?”
“อืม ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะดูแลนายเอง”
นี่เป็นความลับเล็กๆ ของเด็กชายสองคน แต่เป็นเหตุผลยิ่งใหญ่ที่ทำให้หัสดินรักและเคารพหัสวีร์ยิ่งกว่าบิดาที่ให้กำเนิดเสียอีก
ฝ่ามือใหญ่สอดไปใต้เสื้อนอนน่ารัก แล้วหัสดินต้องประหลาดใจเมื่อรู้ว่าผิวเรียบเนียนนุ่มนั้นไม่มีอาภรณ์ชิ้นน้อยปกปิด เขาผละจากริมฝีปากหวานเพื่อให้หญิงสาวได้สูดอากาศหายใจ แม้อยู่ในความมืดเขายังเห็นประกายตางดงามของคนรัก “มันอึดอัด น้องแพรเลยไม่ได้ใส่...” แพรดาวพูดเสียงเบาหวิว ปกตินอนคนเดียวก็ใส่ชุดนอนแต่ไม่ใส่ชุดชั้นใน และตั้งแต่แต่งงานกันมาก็ไม่เห็นว่าสามีหมาดๆ จะเป็นฝ่ายเริ่มอะไรสักนิด แรกๆ แพรดาวถึงกับหาชุดชั้นในเซ็กส์ซี่มาใส่ แต่เพราะเขาหลับเป็นตายเธอก็ก็ถอดใจ ไม่คิดว่าคืนที่ไม่ได้เตรียมตัว เขาจะเป็นฝ่ายเริ่มแบบนี้ “ไม่ใส่อะไรนอนก็ได้นะ งั้นพี่ถอดด้วยน้องแพรจะได้ไม่เขิน” หัสดินยิ้มทะเล้นให้แล้วขยับตัวถอยออกมาเพื่อถอดเสื้อนอนของตัวเองออก สายตาของแพรดาวปรับกับความมืดในห้องได้แล้วจึงเห็นร่างกายกำยำของคนรัก เขาโน้มตัวแล้วพูดเสียงพร่า “พี่ดินเป็นของน้องแพรแล้วอยากมองก็มองอยากจับลูบคลำตรงไหนก็ได้” เขาดึงมือเล็กมาวางบนแผ่นอกของตน แพรดาวเขินอายแต่ก็ลองลูบกล้ามเนื้อแน่นของคนตรงหน้า เพียงการสัมผัสแผ่วเบากลับปลุกเร้าเลือดในกายให้เดือดพล่านจนเข
แพรดาวเพิ่งได้พบหน้าคุณพ่อคุณแม่ของหัสดินครั้งแรกก็ตอนที่ผู้หลักผู้ใหญ่มาพบหน้าเพื่อเจรจาการสู่ขอและแต่งงาน คุณแม่ของหัสดินดูเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยแต่พอได้คุยกันตามลำพังและรู้ว่าเธอรู้เรื่องที่เขาเป็นโรคสองบุคลิกแล้วและอยู่ระหว่างการรักษาตัว ‘ถ้าหนูแพรไม่รังเกียจ ก็ฝากลูกชายแม่ด้วยนะจ๊ะ’ ‘จะรังเกียจได้ยังไงคะ พี่ดินยังไม่เคยรังเกียจตอนที่น้องแพรเป็นแค่แม่บ้านกับเด็กเสิร์ฟเลยค่ะ และไม่ว่าจะเป็นเชฟดินหรือมิสเตอร์ดาร์ก น้องแพรก็รักทั้งสองคนค่ะ’ สวนเรือนหอนั้น สร้างขึ้นใหม่ในบริเวณเดียวกับคฤหาสน์ตระกูลศาตนันท์ ตอนนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง สองหนุ่มสาวตัดสินใจพักด้วยกันที่คอนโดของหัสดิน ‘จะไม่คับแคบไปเหรอ อยู่คอนโดสองคนแบบนั้น’ คทาภัทรอดเป็นกังวลไม่ได้ แต่อีกส่วนก็ดีใจเพราะอยู่ใกล้กัน ‘ดีเสียอีก ห้องเล็กดูแลง่าย เลี้ยงแมวก็ได้ แล้วก็ใกล้ที่ทำงานด้วยค่ะ’ ตั้งแต่ตัดสินใจรับการรักษา แพรดาวไม่เห็นบุคลิกของมิสเตอร์ดาร์กเลย เพียงแค่บางครั้งเธอรู้สึกเหมือนทั้งสองคนรวมอยู่ในร่างผู้ชายตรงหน้า เชฟดินที่ดูอ่อนโยนขี้เล่นเส
การปรากฏตัวของสองหนุ่มตระกูลศาตนันท์ ทำให้นักข่าวและช่างภาพหันไปสนใจแสงแฟลชวูบวาบชวนตาพร่า แม้คนมากมายเพียงใดแต่สายตาของหัสดินมีเพียงแพรดาวเท่านั้น หัสวีร์เดินเข้ามาแล้วยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน เขาสวมสูทสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำในขณะที่น้องชายต่างมารดาสวมสูทสีดำลบบุคลิกเชฟหนุ่มขี้เล่นไปหมดสิ้น “ผมเป็นตัวแทนตระกูลศาตนันท์ แต่คิดว่าอีกไม่กี่วันญาติผู้ใหญ่ของเราจะขอเข้าไปเยี่ยมเยือนทักทายที่บ้านนะครับ” คทาภัทรได้ยินก็กระตุกยิ้มมุมปาก ดูเหมือนจะมีคนรีบร้อนแต่งงานจริงๆ “เรื่องที่ควรทำให้ถูกต้องก็ควรรีบทำ ใช่ไหมครับคุณคทาภัทร” หัสวีร์พูดขึ้นอย่างรู้ทัน เอาเถอะอย่างไรวันข้างหน้าก็เป็นญาติกันแล้ว เขาจะมาใส่ใจท่าทีไร้สาระนี้เพื่ออะไร คนเป็นพ่อแม่ย่อมมองออกว่าลูกสาวมีใจให้ใคร ทำให้ถูกครรลองย่อมดีกว่าปล่อยให้ลูกสาวไปค้างแรมกับผู้ชายโดยไม่มีสถานะที่ชัดเจน แล้วแพรดาวก็สัญญาแล้วว่าต่อให้แต่งงานแล้วก็จะยังทำงานที่บริษัทอัครเวช ครอบครัวของศาตนันท์เองก็อยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้ห่างกันไกลจนมาเยี่ยมเยือนกันไม่ได้ หัสดินก้าวเท้าเข้าไป
ขอบตาของคทาภัทรดำคล้ำเพราะอดนอน ในขณะที่น้องสาวหน้าชื่นตาบานจนน่าหมั้นไส้ เพิ่งคุยกันเรื่องนี้แท้ๆ แต่แพรดาวกลับมาค้างคืนกับหัสดิน แม้รู้ว่าน้องสาวทำตามที่พูดแน่นอน แต่เขาก็ไม่สบายใจอยู่ดี “พี่ภัทร” แพรดาวเข้าไปกอดเอวพี่ชาย การมีพี่น้องนี้ดีแบบนี้เองเหรอที่ผ่านมาใช้ชีวิตกับแม่จ๋าแค่สองคน หนีเจ้าหนี้บ้าง หลบซ่อนคนต้องย้ายโรงเรียน ผ่านเรื่องมากมายสุดท้ายก็ได้อยู่กับครอบครัวและคนที่รัก คทาภัทรได้แต่ถอนหายใจแล้วก็ยิ้มบางๆ เคยจินตนาการไว้เขาต้องเป็นพี่ชายที่หวงน้องสาว ใครจะมาจีบน้องต้องผ่านเขาก่อน นี่พอเกิดขึ้นจริงเขาก็อดปวดหัวไม่ได้เลย แต่ทำอย่างไรได้เล่า ก็เขามีน้องสาวคนเดียว และเป็นคนที่เขาเคยทำหายไป “เอาล่ะๆ ไม่ได้ยอมรับไอ้ เอ่อ หัสดินหรอกนะ” “ค่ะ น้องแพรทราบแล้ว” หญิงสาวไม่อยากกวนอารมณ์พี่ชาย ทุกอย่างคลี่คลายไปได้ด้วยดีแล้วก็ไม่อยากให้มีเรื่องไม่สบายใจอีก “ทำไมพี่ภัทรไม่ชอบพี่ดินล่ะคะ” “พี่ก็ไม่ชอบทุกคนที่เข้าใกล้น้องแพรนั้นแหละ” เขาสารภาพไปตามตรง “แต่ที่สำคัญ หัสดินไม่ใช่คนดีนักหรอก” แพรดาว
reviews