Beranda / วัยรุ่น / เด็กของรามิล / บทที่ 7 บทเรียน  

Share

บทที่ 7 บทเรียน  

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-05 08:29:02

              สถานการณ์เริ่มเข้าสู่ช่วงปกติจนกระทั่งพี่มิลส่งข้อความเข้ามาในไลน์กลุ่มของบริษัทเรื่องกินเลี้ยงต้อนรีบนักศึกษาฝึกงานและพนักงานใหม่ในคราเดียว ดูก็รู้ว่าพี่เขาหาเรื่องชัด ๆ ทำงานมาเป็นสัปดาห์แล้วเพิ่งมากินเลี้ยงอะไรตอนนี้

              ฉันได้แต่ถอนหายใจอย่างจำใจ ทำไงได้ก็เขาเป็นเจ้านาย เป็นคนเขียนประเมินให้ฉันผ่านหรือไม่ผ่านก็ได้

             คิดได้อย่างนั้นก็แค่เข้าร่วมให้มันจบ ๆ ก็พอแล้วใช่ไหมล่ะ

             ฉันเลยมานั่งหงอย ๆ ในร้านเดิม ที่เดิมกับแก้วเหล้าในมือ ร้านของรุ่นพี่ในคณะ และเป็นร้านเดียวกันกับที่เกิดเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อนด้วย

             “น้องมน ไม่ไปดื่มด้วยกันเหรอคะ” รุ่นพี่สาวเดินเข้ามาถาม ฉันส่ายหน้าก่อนจะชูแก้วเหล้าที่ยังค้างอยู่ในมือ

             “มนยังดื่มไม่หมดเลยค่ะพี่” เธอพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปเต้นกับพวกเพื่อน ๆ งานเลี้ยงในวันศุกร์ทำเอาพวกพนักงานที่ทำงานกันอย่างเหนื่อยล้าได้ผ่อนคลายไปด้วย ฉันในตอนนี้แค่ได้นั่งเฉย ๆ โดยไม่ต้องทำอะไรก็มีความสุขแล้ว

             ฉันเดินหลีกหนีความวุ่นวายออกมาที่หลังร้านเพื่อสูดอากาศสักหน่อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองด้านบนฟ้าที่ส่องแสงระยิบระยับจนฉันต้องเอนกายนั่งลงบนม้านั่งไม้แล้วแหงนหน้าขึ้นไปมอง

             วันนี้ท้องฟ้าสวยจัง

             “ออกมาทำอะไรคนเดียว” ฉันหันกลับมามองร่างสูงที่เดินเข้ามาก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ อย่างถือวิสาสะ ไม่เอ่ยขอกันสักคำ ฉันถอนหายใจอย่างเอือมระอาก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าเหมือนเดิม

             “มานั่งดูท้องฟ้าค่ะ” ฉันตอบกลับเพียงสั้น ๆ

             “ทำไมไม่สังสรรค์กับคนอื่น ๆ พี่อุตส่าห์จัดงานนี้ให้เธอเลยนะ” ชายหนุ่มรุ่นพี่เอ่ยถามพลางทอดสายตาจับจ้องมาทางฉัน

             “คุณรามิลใช้อำนาจในทางไม่ชอบอีกแล้วนะคะ” ฉันหันหน้ากลับมามองหนุ่มรุ่นพี่เพื่อคุยกันดี ๆ ก่อนจะกระตุกยิ้มอ่อนที่มุมปาก ในตอนนี้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เจือจางไม่ได้ทำให้สติของฉันจางหาย

             อาจเป็นเพราะเรื่องในคืนนั้น ฉันเลยไม่ดื่มแอลกอฮอล์หนัก ๆ อีกเลย มันเหมือนเป็นบทเรียนสอนชีวิตของฉันไม่ให้พลาดอีก และฉันก็กลัวว่าเรื่องมันจะซ้ำรอยแล้วที่แย่ไปกว่านั้นฉันไม่รู้ว่าถ้าเรื่องครั้งนั้นผู้ชายคนนั้นไม่ใช่พี่มิลมันจะเป็นอย่างไร

             ฉันคงดีใจที่ไม่ได้ท้อง แล้วก็คง... ไม่ต้องมาตกหลุมรักชายหนุ่มแบบที่ฉันเกลียด พวกผู้ชายเจ้าชู้

             “อยู่กันแค่สองคนไม่ต้องเรียกคุณหรอก เรียกพี่ก็ได้ยังไงตอนเรียนเราก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน หรือว่าไม่ได้นับถือพี่แล้ว ฮ่า ๆ” พี่มิลหัวเราะออกมาเบา ๆ

             “ต้องนับถือสิคะก็คุณรามิลเป็นหัวหน้าฉัน สามารถเซ็นใบให้ฉันผ่านประเมินได้ ก็ต้องให้เกียรติด้วยการเรียกว่าคุณสิ จะให้ฉันตีสนิทกับเจ้านายเหรอคะ”

             “โอเค ๆ เรื่องเถียงพี่ยอมเธอแล้วจริง ๆ” ฉันหัวเราะหึในลำคอก่อนจะเสหน้าหันไปมองทางอื่นเพราะสายตาที่พี่มิลจับจ้องมองมามันทำหันใจฉันสั่นข้างในอย่างชอบกล “พี่แค่อยากคุยกับเธออะ”

             “คุยกับฉันเรื่องอะไรคะ” เรียวคิ้วของฉันขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยก่อนจะหันหน้ากลับมามองรุ่นพี่หนุ่มอีกครั้ง

             “ไม่รู้สิ พี่แค่อยากอยู่กับเธอ พี่แค่คิดถึงเธอละมั้ง” คำตอบของพี่มิลทำเอาฉันตกตะลึงจนพูดไม่ออก

             “คุณรามิลพูดเรื่องอะไรคะ” แม้ว่าฉันจะเข้าใจคำตอบของพี่มิลดี แต่ฉันแค่อยากรู้ว่าในใจของพี่เขาคิดอะไรอยู่กันแน่ นึกอยากจะพูดก็พูดทั้งที่พี่เขามีสาวรุมล้อมขนาดนี้อะนะ

             ฉันเกลียดคนแบบนี้ที่สุดเลย

             “พี่พูดจริง ๆ นะ พี่คิดถึงเธอมากจริง ๆ” ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าจะได้ยินคำนี้มาจากพี่รามิล ชายหนุ่มที่แพรวพราวที่สุดในรุ่น

             “คุณรามิลคงจะเมามากแล้ว เลยพูดอะไรโดยไม่ทันคิด ฉันเป็นแค่เด็กฝึกงาน จะไปสำคัญอะไรกับคุณรามิลที่มีผู้หญิงที่เพียบพร้อมเดินเข้านอกออกในห้องทำงานเป็นว่าเล่นล่ะคะ”

             ฉันข่มอารมณ์ขุ่นเคืองของตัวเองเอาไว้ก่อนจะลุกขึ้นยืน พี่มิลพยายามยื้อข้อมือของฉันเอาไว้ด้วยกันดึง

             “ฟังพี่ก่อนนะ”

             “ฉันเคยบอกคุณรามิลแล้วไงคะ พวกเราไม่มีเรื่องอะไรมายุ่งเกี่ยวกันอีกแล้วค่ะ” ฉันดึงข้อมือของตัวเองออกแล้วเดินกลับเข้าไปในร้านปล่อยให้พี่มิลนั่งอยู่ที่ม้านั่งตามลำพัง

             “พี่มนเย็นนี้ไปกินข้าวกัน” น้องชายของฉันพูดขึ้นหลังจากที่นอนเล่นเกมขดอยู่บนเตียงทั้งวัน เมื่อคืนฉันโทร.เรียกให้น้องชายตัวดีของฉันมารับเห็นว่าดึกมากแล้วเลยยอมให้นอนค้างที่ห้องด้วย อันที่จริงก็ทนลูกอ้อนของมันไม่ไหว ไม่รู้แม่เลี้ยงมันมายังไงถึงได้อ้อนเก่งซะเหลือเกิน

             “ที่ไหน” ฉันเอ่ยถามขณะที่ตัวเองนั่งพิมพ์รายงานส่งอาจารย์อยู่บนโต๊ะทานข้าวภายในห้อง

             “ผมจองร้านไว้แล้ว เดี๋ยวผมเลี้ยงข้าวพี่เอง”

             “ไปเอาเงินมาจากไหนจะเลี้ยงข้าวพี่” ฉันหัวเราะเยาะเบา ๆ สงสัยคงเป็นเงินที่ฉันคอยแบ่งให้เวลาที่แม่ฝากเงินเจ้ามิกซ์มาให้แน่ ๆ

             “เอาเหอะน่าพี่มนแต่งตัวสวย ๆ แล้วกัน”

             “จ้า ๆ” ฉันตอบรับทั้งที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าจอแล็ปท็อปเพื่อทำงานให้เสร็จ พอถึงเวลาฉันก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินทางมาตามที่มิกซ์พาไปก่อนจะมาจบที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งภายในห้างดัง ฉันถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

             “ถึงแล้วพี่”

             “นี่มีเงินจ่ายจริง ๆ ใช่ไหม” ฉันหันมากระซิบถามน้องชายเมื่อเห็นลักษณะการตกแต่งร้านอาหารที่ดูเรียบหรูเสียจนการันตีราคาอาหารได้เลยว่าฉันอาจจะต้องเสียเงินเดือนเดือนนี้ของฉันทั้งเดือนเลยก็ได้ถ้ามิกซ์ไม่มีเงินจ่าย

             “มีสิพี่มน ก็เนี่ยร้านอาหารของพ่อผมเอง พ่อผมเป็นเชฟ”

             “หา” ฉันร้องเสียงยาวด้วยความแปลกใจก่อนจะถูกน้องชายลากเข้ามาในร้าน มิกซ์พาฉันให้เดินไปตามทางเดินก่อนจะมาหยุดอยู่ที่โต๊ะริมสุดภายในร้านที่เป็นโซนที่เงียบสงบ ผู้คนน้อยจนให้บรรยากาศความเป็นส่วนตัว สายตาของฉันไปจับจ้องบริเวณแผ่นหลังของผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่

             “แม่ครับ ผมพาพี่มาแล้ว” ฉันถึงกับต้องแปลกใจเมื่อมิกซ์เรียกเธอคนนั้นว่าแม่ นั่นเท่ากับว่าเธอก็เป็นแม่ของฉันด้วยน่ะสิ

              เธอค่อย ๆ หันหน้ามาทำเอาฉันประหลาดใจเข้าไปอีก เพราะแม่ที่ฉันเคยเห็นต่อหน้าจริง ๆ ไม่ใช่ในรูปถ่ายก็เป็นตอนที่ฉันอยู่ประถมนู่นน่ะ ตอนนั้นเธอยังดูซูบผอมหน้าตาดูโทรมมากทั้งที่อายุยังน้อย แต่ในตอนนี้ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

              นี่แม่ฉันจริง ๆ เหรอ ทำไมถึงได้ดูสาวสวยราศีจับอย่างนี้ล่ะ

              “มนเหรอลูก” น้ำเสียงดีใจเอ่ยเมื่อเห็นหน้าฉัน ผู้เป็นแม่ลุกขึ้นยืนก่อนจะเข้ามาจับแขนของฉันเบา ๆ ใบหน้าของเธอเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มสดใส ฉันแอบเกร็งเล็กน้อยจนรู้สึกเหมือนตัวเองหดลงไปเป็นเด็กประถมอย่างนั้นแหละ

              “แม่... จริง ๆ เหรอคะ” หญิงสาวยกยิ้มอย่างดีใจก่อนจะประคองให้ฉันนั่งลง ๆ บนเก้าอี้ข้าง ๆ เธอ

              “แม่ดีใจจริง ๆ ที่ได้เจอลูกวันนี้” ฉันเหลือบตาไปมองมิกซ์อย่างคาดโทษที่พาฉันมาเจอแม่โดยที่ไม่บอกไม่กล่าวกันเลย “อย่าไปโกรธน้องเลยลูก แม่เป็นคนบอกน้องให้พาลูกมาเองแหละ”

              “หนูไม่ได้โกรธหรอกค่ะแม่” ฉันหัวเราะแห้ง ๆ ไม่นานนักอาหารก็มาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะก่อนจะมีชายคนหนึ่งลงมานั่งร่วมโต๊ะข้าง ๆ กับมิกซ์

              “หนูมนตัวจริงหรือนี่ ในรูปว่าสวยแล้วตัวจริงสวยได้คุณเต็ม ๆ เลยนะ” เขากล่าวพลางหัวเราะอย่างขบขันเรียกรอยยิ้มจากแม่ฉันจนพวงแก้มเห่อแดง

              “คุณก็...”

              “พ่อแม่เลิกจีบกันสักวันเถอะครับ ผมเนี่ยอิจฉาอะ” ทั้งโต๊ะหัวเราะกันกับมุกของมิกซ์ทำเอาฉันแอบเกร็งเล็กน้อย

              ฉันไม่เคยสัมผัสบรรยากาศบนโต๊ะอาหารแบบนี้มาก่อนถ้าไม่ได้ไปกินกับเพื่อนหรือพวกรุ่นพี่ที่สนิทกัน

              “ไม่ต้องเกร็งไปหรอกนะมน นี่คุณภูมิพัฒน์ พ่อของมิกซ์จ้ะ” ฉันยกมือไหว้ไว้ก่อน ชายหนุ่มมีอายุแต่ใบหน้ายังมีเค้าลางความหล่อเหลายกยิ้มอย่างอ่อนโยน

              “ทำตัวสบาย ๆ เถอะหนูมน คิดซะว่าพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันหมดนั่นแหละนะ พ่อเองก็อยากมีลูกสาวเหมือนกัน ติดที่ว่าแม่เขาร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเลยมีโควตาให้พ่อแค่นี้” คุณภูมิว่าพลางหัวเราะ

คิกคักเป็นบรรยากาศบนโต๊ะอาหารที่ดูไม่จืดเลย ฉันเองเริ่มผ่อนคลายลงบ้างเมื่อทุกคนเริ่มหันมาทานอาหารกัน

              แม่ตักอาหารหลายอย่างมาไว้ในจานฉันพลางคะยั้นคะยอให้ฉันทานเยอะ ๆ เพราะรู้จากมิกซ์มาว่าฉันชอบทานแต่ข้าวกล่องแช่แข็ง พ่อของมิกซ์เลยเสนอว่าจะทำอาหารฝากเจ้ามิกซ์มาให้บ่อย ๆ ฉันจะได้ร่างกายแข็งแรง

               บรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่น จนฉันสามารถพูดคุยและหัวเราะร่วมกับวงสนทนาได้อย่างไม่รู้สึกเคอะเขิน

               “แล้วลูกมีแฟนหรือยังจ๊ะ” แม่เอ่ยถามจนทุกคนพากันส่งสายตาแซวมาทางฉัน

               “สวย ๆ อย่างนี้ต้องมีอยู่แล้ว ใช่ไหมเจ้ามิกซ์” คุณภูมิว่าก่อนจะหันมาสะกิดไหล่ของบุตรชาย

               “ระดับพี่มนอะนะมีอยู่แล้ว เป็นถึงระดับหัวหน้านู่นน่ะ”

               “มิกซ์” ฉันเรียกชื่อน้องชายเพื่อปราม “จีบเจิบอะไรเล่า”

               “ไม่จีบก็ได้ แต่แค่เขาชอบพี่แค่นั้นเอง” คำพูดของน้องชายฉันทำเอาสองสามีภรรยาตาลุกวาวแล้วหันมาจับจ้องทางฉันด้วยความอยากรู้

               “จริงเหรอลูก เขาเป็นใคร ชื่อแซ่อะไร หน้าตาเป็นยังไงไหนเล่าให้แม่ฟังสิ” ฉันพ่นลมหายใจออกมาอย่างเอือมระอา

               “โธ่แม่คะ จะไปเชื่ออะไรน้องมันล่ะคะ”

               “เขาชื่อรามิลครับแม่ เคยเป็นรุ่นพี่ของพี่มนในคณะ” ฉันรีบส่งสายตาปรามน้องชายสุดปากไวของตัวเองจนเจ้ามิกซ์นั่งอมยิ้มแล้วก้มหน้าลงไม่ยอมสบสายตากับฉัน

               “ว้ายตายแล้ว ถ้าเขามาจีบลูกเมื่อไหร่ต้องพามาให้แม่รู้จักนะจ๊ะ” 

               “แม่ น้องมันก็พูดไปเรื่อยค่ะ” ผู้เป็นแม่หัวเราะก่อนจะตักอาหารใส่ไว้ในจานของฉัน

               “ทานเยอะ ๆ นะจ๊ะ คุณภูมิเขาตั้งใจทำทุกจานเอง” ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองคุณภูมิที่ยกยิ้มอย่างอ่อนโยน จนฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแม่ถึงได้เลือกแต่งงานกับเขา เขาช่างแตกต่างจากพ่อของฉันมากจริง ๆ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เด็กของรามิล   ตอนพิเศษ 2 ครอบครัว

    หลังจากที่ฉันรู้ตัวว่าตัวเองท้องพี่มิลก็ไม่ปล่อยให้ฉันได้ทำงานหนักอีกเลย แถมยังตามใจสุด ๆ ฉันอยากได้อะไร พี่มิลก็จะซื้อให้โดยที่ไม่ต้องขอเลยสักนิด อยากกินอะไรก็ได้กิน จนตอนนี้ฉันมีน้ำมีนวลขึ้นเป็นกอง ไม่เป็นไรลูกคลอดก็คงจะกลับมาเฟิร์มเอง นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ใกล้ถึงวันกำหนดคลอดเต็มที ฉันกับพี่มิลตื่นเต้นเอามาก ๆ ฉันไปอัลตราซาวนด์มา ลูกแข็งแรงมาก แถมยังเป็นเพศชายสมใจอยากอีกต่างหาก “พี่มิลคะ พี่อยากตั้งชื่อลูกว่าอะไรเหรอ” ฉันเอ่ยถามระหว่างที่พี่เขากำลังนั่งลูบท้องของฉันอยู่อย่างอ่อนโยน “พี่อยากให้ลูกชื่อมิ่งขวัญ” พี่มิลพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ทำไมถึงชื่อมิ่งขวัญเหรอคะ” ฉันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “มิ่งขวัญแปลว่าผู้เป็นที่รัก เพราะลูกเกิดจากความรักของเราสองคน และพี่ก็อยากให้ลูกเป็นที่รักของคนอื่น ๆ” ชายหนุ่มโน้มตัวลงมานอนข้าง ๆ กันก่อนจะสวมกอดฉันเอาไว้ “โตมาจะเป็นพวกมากรักเหมือนพ่อไหมเนี่ย” ฉันหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหลับตาลงในอ้อมกอดของคนรัก “แต่เป็นชื่อที่เพราะมากจริง ๆ นะคะ” ในคืนนั้นฉันรู้สึกไม่สบายตั

  • เด็กของรามิล   ตอนพิเศษ 1 ชีวิตสมรส

    หลังจากที่พวกเราแต่งงานกัน เวลาก็ล่วงมาถึงสองปีแล้ว พวกเรายังคงใช้ชีวิตหวานชื่นอย่างที่คู่รักหลังแต่งงานทั่วไปควรจะเป็น เวลาว่างก็พากันไปเที่ยวเล่น เติมความหวานในชีวิตให้แก่กันและกัน จนพวกเราได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าจะมีลูก ฉันอยากมีลูกมาก ๆ ไม่ต่างจากพี่มิลหรอก ฉันอยากมีลูกชายมาก ส่วนพี่มิลบอกว่าจะลูกสาวหรือลูกชายอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น พวกเราเริ่มปรึกษาหมอเรื่องการมีลูก ซื้อหนังสือมาอ่าน เข้าคอร์ส อบรมมากมายเพื่อเตรียมพร้อม และแน่นอนว่าพี่มิลค่อนข้างจะตื่นเต้นจนฉันรู้ตัวอีกทีพี่เขาก็ซื้อบ้านใหม่เพื่อเตรียมห้องให้เจ้าตัวเล็กถึงสองคน ฉันว่าฉันตื่นเต้นมากแล้วนะ แต่พี่มิลตื่นเต้นมากกว่าฉันซะอีก “พ่อกับแม่อยากมีหลานชายหรือหลานสาวคะ” ฉันเอ่ยถามทั้งแม่และลุงภูมิที่กำลังนั่งนับเงินหลังจากที่ร้านปิด ตอนนี้ฉันเรียกลุงภูมิว่าพ่อได้อย่างสนิทใจแล้ว เพราะลุงภูมินั้นรับฉันเป็นลูกบุญธรรมแบบถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนนามสกุลฉันก็เปลี่ยนมาใช้ของพี่มิลหลังจากที่แต่งงานกัน ไม่ต้องพูดถึงพ่อแท้ ๆ ตั้งแต่ที่ฉันมาอยู่กับแม่ก็ขาด

  • เด็กของรามิล   บทที่ 25 The End

    หลังจากการฝึกงานอันแสนหนักหนาสิ้นสุดลง ฉันก็หมกตัวอยู่กับการทำโพรเจกต์จบจนตัวเองไม่ได้หลับไม่ได้นอน รวมทั้งไม่ได้เจอพี่มิลด้วย พี่มิลน่ารักกับฉันอยู่เสมอ คอยเอาใจใส่แม้ในวันที่ฉันจะยุ่งปางตายก็ตามจนในที่สุดฉันก็เรียนจบได้โดยสวัสดิภาพ ตอนนี้เลยมานอนแนบตักของพี่มิลเพื่อให้คลายเหนื่อยซะหน่อย “เรียนจบแล้ว แต่งงานกันเลยดีไหมคะ” พี่มิลเอ่ยถามพลางลูบหัวของฉันไปพลาง “พี่มิลไม่อยากใช้ชีวิตดูก่อนเหรอคะ พวกเราไปเที่ยวกันเยอะ ๆ พอมีลูกคงจะเหนื่อยน่าดู แล้วก็พวกเราจะได้เตรียมพร้อมเพื่อเป็นพ่อเป็นแม่ที่ดีไงคะ” ฉันพูดทั้งที่ยังหลับตาพริ้มอยู่บนตักของคนพี่ “พี่ก็ว่างั้นแหละ ทำไงได้มีเมียเด็กก็ต้องตามใจ” ฉันฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง “ว่านอนสอนง่ายมากค่ะพี่มิล” เพื่อเป็นรางวัลฉันเลยโน้มใบหน้าเข้าไปหอมแก้มขาวของคนพี่ฟอดหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อจะลุกไปหาอะไรมากิน “วันงานปริญญาของเธอ พี่อาจจะไปไม่ได้นะ” มือที่กำลังจะเอื้อมไปเปิดตู้เย็นถึงกับชะงักทันที วันสำคัญทั้งที่แต่กลับไม่ว่างงั้นเหรอ อยากจะงอนน

  • เด็กของรามิล   บทที่ 24 เลี้ยงส่ง

    “ในที่สุดพวกเราก็ได้มาเลี้ยงส่งให้พวกน้อง ๆ ฝึกงานสักที อ้าว ชน” พวกเราทั้งสี่คนชนแก้วกันบนโต๊ะในร้านของรุ่นพี่ในคณะที่กลุ่มของพี่มิลรู้จักมักคุ้นเลยมักจะพามาสังสรรค์บ่อย ๆ “อันที่จริงก็ไม่อยากให้น้องมนไปเลย พอไปแล้วคงจะเหงาแย่” รุ่นพี่คนหนึ่งทำหน้ามู่ทู่ราวระคนกับเศร้าสร้อย “อย่าเศร้าสิคะ หนูจะมาเยี่ยมบ่อย ๆ นะ” ฉันว่าด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มก่อนจะยกเครื่องดื่มขึ้นดื่ม แน่นอนว่าฉันก็ยังดื่มน้ำหวานอยู่ดี คราวนี้พี่มิลคุมเองทุกแก้วไม่มีสารปนเปื้อนแน่นอน “เออน้องมน ตอนที่เราไปทะเลกันพี่ไม่ค่อยเห็นน้องมนเลย หายไปไหนมาเหรอคะ” แก้วเครื่องดื่มในมือฉันเริ่มสั่นคลอนเพราะใจสั่นที่กระตุกวูบ ฉันเงยหน้าขึ้นมาพลางฝืนยิ้มให้ปกติที่สุด “คือว่า... อ๋อ ๆ มนมีเพื่อนอยู่แถวนั้นพอดีเลยไปหาเพื่อนน่ะค่ะ” ฉันพูดแถไปอย่างนั้นทั้งที่ฉันก็เอาแต่กกตัวอยู่กับพี่มิลในห้องพักนั่นแหละ “ไม่เนียนนะคะลูกสาว” กลายเป็นว่าพวกรุ่นพี่ดันจับพิรุธได้พลางส่งสายตาจับผิดมาทางฉันกันยกใหญ่ “แอบคบกับคนในบริษัทก็บอกค่ะ พวกพี่จะไม่บอกใครสัญญา” ฉันกลืนน้ำลายเอื้อกให

  • เด็กของรามิล   บทที่ 23 แกะของขวัญ NC

    หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อย พี่รดากับพ่อก็ขอตัวเพื่อจะกลับบ้าน ส่วนฉันกับพี่มิลก็กลับมาที่คอนโดฯ ของพี่มิลเหตุผลเพราะพี่มิลรอของขวัญวันเกิดจากฉันอยู่ ระหว่างทางกลับบ้านฉันรู้สึกเสียวสันหลังวาบชอบกลยามที่สายตาของคนพี่จ้องมองมา อย่างคาดหวังเยอะได้ไหมใจคอมันไม่ดี พอมาถึงห้องฉันก็บอกให้พี่มิลรอฉันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นก่อนแล้วขอจัดแจงอะไรสักพัก ฉันรีบมุ่งตรงมาที่ห้องน้ำก่อนที่จะเปิดน้ำในอ่างแช่น้ำอันใหญ่ในห้องน้ำของพี่มิล หลังจากนั้นก็โรยกลีบกุหลายแล้วจุดเทียนเพิ่มบรรยากาศเสียหน่อย “พี่มิลคะพร้อมแล้วค่ะ” ฉันออกมายืนรอหน้าห้องน้ำด้วยชุดคลุมอาบน้ำยิ่งทำให้ชายหนุ่มดวงตาวาววับยิ่งขึ้นไปอีก “จะเล่นอะไรคะเนี่ย” พี่มิลย่างเท้าเดินเข้ามาใกล้ด้วยดวงตาเจ้าเล่ห์รอยยิ้มบ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังชอบใจ “บอกไปก็ไม่เซอร์ไพรส์สิคะ” ฉันว่าก่อนจะดันให้ร่างสูงเข้าไปในห้องน้ำที่ปิดไฟมือสนิทมีเพียงแสงสว่างรำไรจากแท่งเทียนหอมที่ถูกวางไว้แต่ละจุดในห้องน้ำเพื่อสร้างบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก เสียงประตูถูกปิดลงก่อนที่ฉันจะเดินเข้าไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิ

  • เด็กของรามิล   บทที่ 22 ของขวัญวันเกิด

    วันนี้เป็นวันธรรมดาวันหนึ่งที่ฉันมาทำงานอย่างเช่นปกติ เพียงอีกแค่สามวันเท่านั้นที่ฉันจะฝึกงานจบเสียที มิกซ์กลัวว่าฉันจะโดนคุณวิรชาตามราวีอีก เจ้าตัวแสบเลยจะมารับในตอนเย็น ฉันเลยเดินลงมาเพื่อที่จะมองหาน้องชายของตัวเองจะได้กลับบ้านพร้อมกัน “มน” ฉันหันหน้าไปมองตามเสียงเรียกก่อนจะเผยรอยยิ้มเมื่อเห็นพี่รดาเดินเข้ามาหา “พี่รดา หายเจ็บแล้วเหรอคะ” ฉันเดินเข้าไปหารุ่นพี่สาวที่กำลังจะเดินสวนทางฉันขึ้นไปยังบริษัท “อื้อ หายแล้ว อันที่จริงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย พี่มิลอะเวอร์” หญิงสาวหัวเราะร่วน “พี่รดาหายเจ็บแล้วหนูก็สบายใจ มิกซ์เป็นห่วงพี่มากนะคะ” พี่รดานิ่งเงียบไปก่อนจะเผยยิ้มขึ้นมาถึงแม้ว่ามันจะดูฝืนไปสักหน่อย “พี่ต้องขอโทษแทนแม่พี่อีกครั้งนะ” หญิงสาวเอื้อมมือมากุมมือของฉันเอาไว้พลางเอ่ยคำขอโทษออกมาด้วยใจจริง “หนูยอมหายโกรธเพราะพี่นะคะ” พี่รดายกยิ้มอย่างโล่งใจ “พรุ่งนี้วันเกิดพี่มิล คุณพ่อพี่อยากเจอเธอนะ” ฉันถึงกับรีบหันขวับไปสบตากับพี่รดาด้วยความตกตะลึง “อะไรนะคะ พ่อพี่มิลอย

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status