พี่ขุน และน้องหมูแดง พระเอก-นางเอกที่สุดจะน่ารักน่าหยิก ภายใต้รั้วมหาวิทยาลัย ฉายาแต่ละอย่างที่พี่ขุนตั้งให้น้องหมูแดงของเราวอนโดนหยิกตลอด หมูปีศาจบ้าง หมู ๆ ทั้งที่คนเขาชื่อหมูแดง แต่ถึงพี่เขาจะกวนแต่คลั่งรักน้องหมูสุดหัวใจ สกินชิพขั้นสุด ตำแหน่งผัวของน้องหมูต้องเป็นของพี่เท่านั้น
ดูเพิ่มเติมมหาวิทยาลัย G
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมขึ้นปีสองวันแรกหลังจากปิดภาคเรียนไปสามเดือนเต็มและเทอมนี้ฉันก็ต้องลงเรียนวิชาจิตวิทยาทั่วไปเป็นวิชาเลือกในหมวดสังคมเพียงแค่คนเดียว เพราะว่าเพื่อนสนิทอีกสองคนมันดันลงทะเบียนวิชานี้ไม่ได้เนื่องจากมันเต็มเลยกระเด็นหลุดโผต้องไปลงวิชาอื่นแทน ซึ่งมันทำให้ฉันเซ็งมากถึงมากที่สุดเลยแหละ และตอนนี้ก็ต้องมานั่งแกร่วเป็นเล่นเกมส์ในมือถือไปพลางๆ เพราะเปิดประตูเข้าห้องเรียนมาเป็นคนแรก เพื่อนร่วมคลาสคนอื่นๆ ก็ยังไม่มีใครโผล่มาให้เห็นหน้าเลยสักคนเดียว ชักช้ากันจังเลย แล้ววิชานี้ต้องเรียนรวมกับทุกชั้นปีแบบไม่จำกัดคณะ สาขาวิชาอีกด้วยสิ คือมันไม่ดีตรงนี้นี่แหละค่า คนไม่มีเพื่อนมาเรียนด้วยเช่นฉันคงหงอยเหงาเศร้าสร้อยเป็นนกปากเจ็บแน่เลย จะมีคนรู้จักมาเรียนบ้างไหนหนอคงต้องรอดู
นี่ก็เหลือเวลาเข้าเรียนตามตารางสอนอีกประมาณยี่สิบนาทีเห็นจะได้ ไม่ใช่ว่าฉันเป็นคนขยันจัดหรือรักเรียนเป็นชีวิตจิตใจหรอกนะ ฉันกลัวรถมันจะติดต่างหากเลยรีบออกทั้งที่คอนโดกับมหาลัยไม่ได้ไกลกันมากมายอะไร คือด้วยความที่เป็นวันเปิดเทอมวันแรกไง สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์มันจะคึกคักกันเป็นพิเศษ คนเยอะ รถแยะ ปีหนึ่งเข้ามาใหม่สถานที่กว้างขวางจะกลายเป็นเล็กไปถนัดตา การจราจรในบริเวณใกล้เคียงก็พาลติดตามไปด้วยเลยต้องพาตัวเองมาให้เร็วไว้ก่อน แต่พอเวลาผ่านไปได้สักระยะก็จะเข้าสู่สภาวะปกติ ความตื่นเต้นทั้งหลายก็จะหายไปด้วย ฉันเรียนรู้มันมาแล้ว รับน้องเหรอ กิจกรรมบลาๆ เหรอ ไม่บังคับให้ทำหรอกที่นี่อ่ะ ใครใคร่สมัครใจอยากเข้าร่วมสนุกก็เข้าไปเถอะ ถ้าไม่สนก็ไม่ต้อง เอาใจโดยแท้จริง มีเพียงชมรมเท่านั้นที่จะบังคับให้นักศึกษาทุกคนเข้าร่วมเพื่อให้ได้รู้จักกันมากขึ้น ไม่อย่างนั้นจะเอาแต่พวกพ้องที่เรียนด้วยกันเท่านั้น ฉันว่าก็ดีเหมือนกันนะแนวความคิดนี้ ไม่งั้นต้องเรียนและเรียนเพียงอย่างเดียว
“ขอให้ฉันมีมิตรดี น่ารักๆ ในวิชานี้ด้วยเถิดนะเจ้าคะ สาธุค่ะ” ฉันภาวนาขอในใจแล้วยกมือท่วมหัวกันเลยทีเดียว ไม่ใช่ว่าฉันกลัวการอยู่เพียงลำพังคนเดียว แต่ฉันคิดการณ์ไกลไปถึงอนาคตภายภาคหน้านับต่อจากนี้ต่างหาก เพราะการเรียนรู้ๆ กันอยู่ว่ามันต้องมีงานมีการบ้านที่อาจารย์สั่ง เพื่อเอาในส่วนนั้นมาช่วยเสริมกับคะแนนสอบอีกที ฉันเลยอยากมีคนที่คอยถามไถ่อะไรได้บ้าง อย่างน้อยสักคนหรือสองคนก็ยังดีกว่าไม่มีเลย
ปัง!
เสียงเปิดประตูดังปังเหมือนคนเปิดกำลังโกรธใครมาทำเอาฉันที่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยสะดุ้งโหยงสุดตัวไม่กล้าหันไปมองเพราะกลัวจะไม่ส่งผลดีต่อชีวิตอันแสนสงบ และไม่นะ เสียงฝีเท้าเหมือนมีใครเดินมาตรงที่ฉันนั่งอยู่เลย หรือว่านี่คือคำขอที่เป็นจริงของฉันกันนะ โอ สวรรค์คงได้ยินคำอ้อนวอนฉันแล้วใช่ไหม
“นี่เธอ ที่ตรงนี้มีใครนั่งรึเปล่า”
เหลียวซ้ายแลขวาไม่เห็นว่ามีใครเลยเงยหน้าขึ้นไปมองแล้วก็แทบหยุดหายใจไปชั่วขณะ หล่อมาก คือคำสั้นๆเลยที่หัวสมองฉันคิดได้ในตอนนี้ ผู้ชายหน้าตาเกาหลีอปป้าเหมือนพระเอกซีรีย์มาถามฉันว่าที่ว่างข้างๆ ฉันมีใครนั่งไหม โอย แต่ฉันจะมาแสดงท่าทางว่าหลงใหลได้ปลื้มเขามากมายไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะถูกมองว่าฉันบ้าผู้ชายจนขึ้นสมองน่าอายตายเลย
“มะ...ไม่ ไม่มีคนนั่งหรอก เชิญนั่งได้ตามสบายค่ะ” ที่นั่งมีตั้งเยอะแยะแต่เขาเลือกมานั่งตรงนี้ฉันควรดีใจใช่ไหมแม้นิสัยจะดูออกอันธพาลไปหน่อยเรื่องเปิดประตูน่ะนะ แปลกจังเรียนที่นี่มาปีนี้ปีที่สองแล้วทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้าเขาเลยนะ ว่าแต่เรารุ่นเดียวกันรึเปล่าเนี่ยอยากรู้จังเลยแต่ใครจะกล้าถามก่อนล่ะ
“เธอสติดีใช่มั้ย ? ฉันเห็นเธอพึมพำๆ อะไรคนเดียวเหมือนท่องบทสวด ว่าแต่มันคือคาถาไล่ผีหรือคาถาป้องกันตัวล่ะบอกหน่อยดิเผื่อได้ยืมไปใช้มั่ง” เลิกคิ้วมองแล้วกระตุกยิ้มตรงมุมปากเมื่อเห็นเธอทำหน้าเอ๋อๆ แถมยังอ้าปากซะกว้างเชียว ผมแค่แกล้งหยอกเธอเล่นไปอย่างนั้นเอง ขำๆ น่ะไม่ได้เห็นว่าเธอทำอย่างที่พูดหรอกแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะเชื่อผมซะเต็มเปาเลยมั้งเนี่ยว่าตัวเองทำท่าเปิ่นๆ ออกมาจริง
อ้าปากค้างเติ่งเลยฉัน ถามแบบนี้หมายความว่าไง ? เขาคิดว่าฉันจิตไม่ปกติงั้นเหรอหรือว่าฉันแสดงท่าทางทุเรศๆ อะไรออกไปให้เขาเห็น เหอะๆ แต่เอาเถอะฉันจะไม่ถือสาหาความละกัน จะบอกว่าถ้าไม่สนิทด้วยอย่ามาตลก ฉันคงดูไม่ต่างจากนายนี่เท่าไหร่ เจอหน้ากันครั้งแรกและคาบแรกต้อนรับเปิดเทอมด้วย ไม่ควรมีเรื่องมีราวกับใครสุ่มสี่สุ่มห้าหมูแดง ท่องเอาไว้มีมิตรดีกว่ามีศัตรู อะไรยอมได้ก็ยอมๆ ไป อย่าเก็บใส่ใจเลยมองโลกในแง่ดีมันคงเป็นการสร้างความคุ้นเคยในฐานะเพื่อนร่วมคลาสในแบบของเขาละมั้ง
“ฉันโอเค สติดีไม่ได้ป่วยเป็นโรคจิตหรือกำลังท่องบทสวดอะไรอย่างที่นายคิดร้อยเปอร์เซ็นต์” ฉันนี่แทบจะกัดฟันตอบออกมาเลยล่ะถึงใจจะคิดว่าไม่ควรถือสาหาความ แต่มันอดไม่ได้ที่จะใช้สายตามองค้อนอย่างขุ่นเคืองไม่ได้ คือเจอหน้ากันครั้งแรกดันมาถามว่าฉันสติดีรึเปล่าเนี่ยนะ เชื่อเขาเลยแหละ มารยาทไม่สมกับหน้าตาหล่อเหลาที่ฉันชื่นชมสักนิด นี่ขนาดว่าฉันพยายามมองโลกในแง่บวก มองโลกแบบสวยๆแล้วนะแต่ก็ยังอดคิดอคติกับนายนี่อยู่เลย
“อือ ปกติก็ดีแล้วล่ะ ถ้าไม่ปกติเธอคงน่าสงสารตายชักเลย” ปากหยักแดงอย่างเป็นธรรมชาติคลี่ยิ้มเล็กน้อย ขณะที่สายตากำลังจดจ่ออยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์ ฟังจากเสียงของคนข้างกายแล้วคงจะโมโหอยู่ไม่น้อย แต่ใครสนกันล่ะ
ฉันนั่งหุบปากเงียบไม่คิดตอบโต้อะไรอีก เพราะคิดว่านั่นคือประโยคบอกเล่าธรรมดาทั่วไป ถึงแม้มันจะทำให้ฉันรู้สึกอยากบีบคอของหมอนี่มากก็ตามที ดังนั้นเลิกสนใจดีที่สุด ในห้องเรียนตอนนี้ก็เริ่มมีนักศึกษาทยอยเดินเข้ามาจับจองที่นั่งบ้างแล้ว เลยไม่วังเวงและเงียบเหงาเหมือนก่อนหน้านี้
ผมเงยหน้าจากซอกคอขาวที่ฝากฝังเขี้ยวไว้หลายจุด ประสานนัยน์ตาเอาเรื่องของเมียหมู พลางยักคิ้วกวนอารมณ์ขุ่นมัวของคนกำลังอินซีรีส์แต่ดันค้าง เพราะผมชิงปิดก่อน งับจมูก จูบมุมปาก ก่อนจะล้มตัวลงนอนกอดก่ายหมอนข้างมีชีวิต ซุกหน้าเข้าหานมหนองโพคู่โตที่ประจำของผม วันไหนไม่ได้แตะต้องจะทำให้ผมงุ่นง่าน ของผู้หญิงคนอื่นผมเฉยๆ แต่กับของเมียมันทำให้ผมตื่นตัวได้ตลอดเวลา ขนาดว่าเห็นจนชิน กินทุกวันก็เถอะ“เอาไว้ค่อยดูวันหลัง เวลานี้ควรเป็นของขุน ไม่ใช่ซีรีส์”“ก็อยากดูตอนนี้ให้จบ ทำไมต้องปิดก่อนด้วย แล้วตัวเนี่ยมีแต่ กลิ่นบุหรี่ทั้งนั้น รีบไปอาบน้ำ ล้างกลิ่นออกเดี๋ยวนี้เลยนะ ก็รู้ว่าไม่ชอบ ยังจะแกล้งมานอนทับอีก ไล่ออกไปนอนนอกห้องดีไหมเนี่ย” เมียคนสวยได้ทีแล้วบ่นผัวใหญ่ แต่เท่าที่ผมลองพิสูจน์กลิ่นก่อนเข้ามามันก็ไม่ได้รุนแรงเท่าไหร่นะ ถ้าไม่ถอดเสื้อออกนี่สิ คงเป็นเรื่องมากกว่านี้ เพราะมันซึมซับมาเต็มๆ“ไม่เอา พี่ขุนไม่นอนนอกห้อง จะนอนกอดเมีย ขอห้านาทีนะครับแล้วเดี๋ยวพี่ขุนจะไปอาบน้ำตามคำบัญชาของคุณนายหมูแดง” ผมต่อรองเสียงอ่อน ใช้ลูกอ้อนนิดหน่อย พร้อมส่ายหน้าไปมากับอกนุ่มๆ ของเมียหมูที่นอนตะแคงข้างโอบกอดผมเอ
12:15 A.M....@ Marina ClubKunponTalksควันบุหรี่ลอยคละคลุ้ง ตลบอบอวลอยู่ในอากาศมันทำให้ผมหงุดหงิดมาก ความรู้กเหมือนตัวเองกำลังจะถูกรมควัน หรือย่างสดเลย เข้าใจหัวอกคนอยู่ท่ามกลางไอ้พวกสิงห์อมควันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ถ่องแท้ก็ตอนเลิกสูบนี่แหละ ยอมรับว่าแต่ก่อนผมก็มีนิสัยไม่ต่างจากพวกมันนักหรอก แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วไง ไม่น่าเชื่อว่าผมจะเลิก มันได้เด็ดขาด ไม่ลงแดงเหมือนใครหลายๆ คนที่ถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษา ถือว่ามันเป็นความโชคดีของผมด้วยแหละ และแรงบันดาลใจ ของผมก็คือหมูแดง พอรู้ว่าแม่คุณทูนหัวไม่ชอบกลิ่นเหม็นๆ ของมัน ผมก็พยายามไม่แตะต้องมันอีก กลายเป็นความเคยชินมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าหมูจะไม่ได้ห้ามเด็ดขาดแต่ผมก็รู้ตัวเองดี เมื่อก่อนนอกจากคนในครอบครัว เพื่อนรักเวรๆ อย่างไอ้เคน ไอ้จิว ผมก็ไม่แคร์ หรือสนใจใคร กระทั่งมีหมูแดงเข้ามาในชีวิต มีอิทธิพลกับผมมากกว่าแม่เสียอีกมั้ง ผู้หญิงสองคนนี้ที่ผมรักไม่น้อยไปกว่ากันนี่เวลาอยู่ด้วยกันทีไร เข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ไอ้ขุนเลยกลายเป็นหมาเฮ้อ...ห่างกันยังไม่ถึงสองชั่วโมงผมก็คิดถึงแล้ว ในหัวผมมัน ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรให้คิดมากมายนักหรอก
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะขุน มีความสุขในทุกวัน สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย อยู่กันไปแบบนี้เรื่อยไปจนเราแก่เฒ่าเลยนะ หมูแดงรักขุน รักนะคะ” พออวยพรจบปุ๊บฉันก็ประคองข้างแก้มแล้วจุ๊บที่ริมฝีปากหยัก แสงไฟสีนวลที่เปิดเอาไว้ส่องกระทบใบหน้าขุนทำให้ฉันเห็นว่าเขาตาแดงๆ ฉันว่าฉันก็พูดธรรมดานะ แต่ออกมาจากหัวใจล้วนๆ “โอ๋ มามะ” ฉันหอมแก้มแล้วดันท้ายทอยหนาให้ทิ้งหน้าลงกับไหล่ฉัน เกลือกกลั้วใหญ่เลย เอ็นดู“รักหมู รักหมู” เด็กชายขุนพลหอมซอกคอฉันแล้วไซร้ใหญ่เลย สงสัยจะมันเขี้ยว แต่ฉันเนี่ยจั๊กจี้ แต่เอาเถอะ ฉันจะยอมทนให้ก็ได้ เห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิด“อยากได้ของขวัญเลยไหม” มาปลุกให้ตื่นขึ้นมาแล้วฉันว่าฉันควรทำอะไรให้มันครบครันไปเลย ไหนๆ ฉันก็มีของขวัญเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วขุนพยักหน้าแต่พอฉันจะดันตัวออกห่างเพื่อไปหยิบสิ่งที่คิดไว้ว่าจะให้ตอนเย็นวันนี้พร้อมคนอื่นๆ ก็ไม่ยอมปล่อย “ไม่ให้ขยับแล้วจะไปหยิบของขวัญมาให้ได้ยังไง”“อย่าช้านะ อยากกอด”ฉันย่นจมูกใส่แล้วรีบรุดลงจากเตียงเมื่อเจ้าของอ้อมกอดยอมให้อิสระแก่ฉัน และเดินหายเข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อหยิบกล่องของขวัญขนาดใหญ่ออกมา“ไม่รู้ว่าจะถูกใจรึเป
ฉันโอ๋เด็กโข่งอยู่นานกว่าขุนจะยอมกลับบ้านไปอย่างจำยอม แก้มก็แทบจะช้ำ เพราะจมูกกับปากขยันเอามาชน เหตุผลนอกเหนือจากที่บอกขุนไปแล้ว แน่นอนว่าฉันย่อมมีเหตุผลอื่นอีก เพียงแต่ฉันไม่ได้พูดออกมาก็เท่านั้น“คุณนายหมูเจ้าขา เลิกอมยิ้มกับตัวเองแล้วช่วยกรุณาสนใจเพื่อนๆ ด้วยค่ะ พี่ขุนของแกเขากลับไปพักใหญ่แล้วค่ะ” พิ้งค์โบกมือฉวัดเฉวียนไปมาตรงหน้าฉันย่นจมูกใส่แล้วปัดความคิดที่เกี่ยวข้องกับขุนออกไปชั่วคราว เดี๋ยวเพื่อนจะกัดแกมหยอกอีก ซึ่งเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เช้าและทุกครั้งที่ฉันชื่นชมทรงผมตัวเองแบบเงียบๆ“เลิกเรียนไปหาของขวัญให้พี่ขุนดีไหม หมูแดงคงไม่ต้องถามเพราะคิดว่ามีเตรียมเอาไว้สุดที่รักแล้วเรียบร้อย” มินนี่ถามพิ้งค์แล้วก็หันมามองฉันด้วยกันทั้งคู่“สายตาไม่ค่อยอยากจะรู้กันเลยเนอะ” ฉันประชด“เออน่า บอกมาเหอะหมวย ฉันสองคนไม่คิดปริปากหรือแอบแย้มบอกสามีแกหรอก ประเด็นคือจะได้ไม่ซื้อซ้ำกันไง น่านะ” วิธีการหลอกถามของพิ้งค์ที่มองผิวเผินคือไม่มีอะไร แต่แท้จริงคือการหลอกถามดีๆ นี่เอง01.05 น.หลังจากฉันส่งข้อความไปสุขสันต์วันเกิดขุนตอนเที่ยงคืนพอดิบพอดีเป็นที่เรียบร้อยก็ล้มตัวลงนอน แต่ข่มตาเท่าไหร่ก็ยัง
กระจกขนาดเหมาะมือลวดลายสวยงามคู่กายที่มีติดไว้ในกระเป๋าถูกฉันหยิบมาใช้งานแทบตลอดเวลา ในระหว่างเรียน กินข้าวกินขนม หรือคุยเล่น คือไม่ได้มองเบ้าหน้าแต่ฉันชื่นชมผมเปียคล้ายทรงเจ้าหญิงเอลซ่าของฉันต่างหาก ก็แหม... ขุนถักให้ฉันเองกับมือเชียวนะ จะไม่ภูมิใจได้ยังไงกัน เขาบอกว่าแอบฝึกหัดกับเส้นผมของวิกที่สั่งซื้อมาจากอินเทอร์เน็ตเพื่องานนี้เลย โดยเปิดยูทูปแล้วทำตามคนสอน กว่าจะทำได้ก็หัวเสียแล้วหัวเสียอีกจนอยากจะปาทิ้งอยู่หลายรอบ ใช้เวลาเมื่อตอนไม่มีฉันไปที่ร้านด้วย ซึ่งมันแทบจะไม่มีวันนั้นเลย พอฉันไม่ไปก็โวยวาย ลากไปด้วยจนได้ เพื่อนก็ไม่ให้ใครมารู้เห็นด้วย เพราะกลัวเอามาป่าวประกาศจนฉันล่วงรู้ก่อนที่เขาจะทำในสิ่งที่ยากเกินไปสำหรับผู้ชายเป็น อย่าว่าแต่ยากสำหรับสุภาพบุรุษทั้งหลายเลย กับผู้หญิงเองก็ยากเหมือนกันนั่นแหละ เห็นว่าเรื่องนี้เงียบๆ ไปนับตั้งแต่ครั้งนั้น ฉันคิดว่าล้มเลิกความตั้งใจหรืออาจลืมไปแล้ว ฉันเองก็ไม่ได้คาดหวังด้วย และมันก็ไม่ใช่ความลับระดับชาติที่ต้องปิดบัง แต่เขาต้องการเซอร์ไพรส์ฉัน เรื่องเล็กน้อยที่เขาเก็บใส่ใจทำให้ฉันมีความสุขและฉันก็ใกล้เหมือนคนบ้าเข้าไปทุกทีเมื่อหุบยิ้มได้ยาก
กว่าผมจะพาหมูออกจากห้องอีกครั้งก็เป็นเวลาอาหารค่ำเลย สีหน้าสาวๆ ของเพื่อนหมูก็ดูอิดโรยไปตามๆ กัน คนบนตักผมก็เช่นเดียวกัน ซบหน้ากับซอกคอผมเป็นลูกแมวสิ้นฤทธิ์เลย ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟผมก็แทะเมียเล่นไปก่อน บอกแล้วว่าอย่าดื้อกับพี่ขุนให้มากนักถ้าไม่อยากหมดแรง ก่อนพากันออกมาที่นี่ผมถามแล้วว่าอยากกินที่ห้องแทนไหม หมูรีบส่ายหน้าพร้อมพูดเสียงแข็งใส่หน้าว่าไม่เอา มาทั้งทีจะให้อยู่แต่ในห้องน่าเบื่อตายชัก กิจกรรมก็มีให้ทำให้ดูเพียบแต่เพราะคนแถวนี้ซึ่งก็คือผมทำให้เธอมีสภาพไม่ต่างกจากผักสักเท่าไหร่ ดูเมียผมเปรียบเทียบตัวเอง“ทำไมชอบทำให้หมูแดงคอยหมดแรงอยู่เรื่อยเลยนะ คนนิสัยไม่ดีมาเที่ยวน่าจะเว้นว่างจากความหื่นลงบ้าง ไม่ใช่เพิ่มเลเวลขึ้นแบบนี้”เสียงอู้อี้ต่อว่าผมเบาๆ คล้ายคนจะหลับ ผมชอบนะที่จะเป็นเก้าอี้หรือเตียงนอนให้เมียได้พักร่างกาย สิ่งที่หมูต้องการนั้นทำได้โคตรยากเลยแต่ผมก็ไม่ใช่คนใจร้ายกับเมียนักหรอก เหนื่อยก็พัก หายเหนื่อยก็ต่อ ธรรมดาจะตายไป“ก็ชอบดื้อไง และเรื่องแบบนี้มันว่างเว้นได้ยากมากหมูก็รู้นี่นายิ่งมาต่างสถานที่ ในบรรยากาศดีๆ ด้วย ใครจะไปอดใจไหวจริงไหม” ผมแนบริมฝีปากกับข้างแก้มนุ่ม
ความคิดเห็น