ฝนนั่งกอดกระเป๋าไว้แนบอก ไม่พูดไม่จาจนมาถึงบ้านของตัวเอง พี่ดำเอากล่องใส่อาหารไปให้นางฉวีและนายสอนพ่อกับแม่ของฝนเสร็จแล้วเขาก็ขับรถเลยไปส่งอรที่บ้าน แม้ว่าอรจะไม่พอใจอย่างแรงแต่ก็ได้แค่เก็บอาการไว้เข้มเดินไปยังรถมอร์เตอร์ไซค์และเปิดผ้าห่มที่ฝนใช้คลุมรถเขาออกและส่งให้เธอฝนจึงพับและนำไปเก็บในบ้าน"อยากไปไหว้พระขอพร มีวัดใหนแนะนำบ้าง ?"เข้มเริ่มโปรแกรมเที่ยวแล้ว ฝนนึกอยู่สักพักและมองเวลาในมือถือตอนนี้เกือบบ่ายสองแล้ววัดในอำเภอเราก็เยอะซะด้วยสิไปวัดนี้ก่อนละกัน 'วัดเขาช่องชาด' ใกล้ ๆ นี่แหละ วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงข้ามเขาไปจะเป็นอำเภอโนนสังข์จังหวัดหนองบัวลำภู ไฮไลท์ของวัดคือมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งอยู่บนเขาสูงให้เราไปกราบไหว้ขอพรและจะมีหมูป่าตัวอ้วน ๆ ให้เราไปถ่ายรูปและซื้อขนมไปให้มันด้วย เข้มเดินไปจูงมอร์เตอร์ไซค์ของเขาออกมาจากใต้ถุนบ้านโยนหมวกกันน็อคให้เธอและก็สวมให้ตัวเองด้วย เมื่อเธอใส่หมวกกันน็อคเรียบร้อยแล้วก็เดินไปหาเขา เข้มก้าวขาขึ้นคร่อมมอร์เตอร์ไซค์ ฝนก็ขึ้นซ้อนท้ายเขา แต่ก่อนที่เข้มจะขับรถออกไปฝนก็ถามเขาขึ้นมา"ค่านายหน้าในกระเป๋านี่เท่าไหร่คะ ?"ก้มมองกระเป๋าใบสีน้ำตาล
เมื่อมาถึงรีสอร์ทที่พักแล้ว เข้มก็จัดการอาบน้ำอาบท่าพร้อมกับโทรหาพี่ดำซึ่งก็มาเปิดห้องพักที่รีสอร์ทแห่งนี้ด้วยเหมือนกัน เขาต้องการปรึกษาหารือเรื่องที่จะซื้อบ้านที่อยู่ในตัวจังหวัดว่าจะเอายังไงกันแน่ ระหว่างสร้างบ้านใหม่ลงบนที่ผืนที่เพิ่งซื้อ หรือว่าจะซื้อบ้านในตัวจังหวัดดี ออกมาจากห้องน้ำด้วยกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียวไม่สวมเสื้อ เผยให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ กล้ามเนื้อตรงหน้าอกแข็งแกร่ง หน้าท้องที่อุดมด้วยซิกแพ็คน่าลูบไล้ แผ่นหลังที่ปกคลุมด้วยรอยสักแลดูดิบเถื่อนแต่แฝงด้วยเสน่ห์ของบุรุษเพศ พี่ดำที่นั่งรออยู่บนเก้าอี้ที่มีเพียงสองตัวอยู่ในห้องนั้น เข้มจึงเดินไปนั่งเก้าอี้ตัวที่เหลือ"เรื่องบ้านพี่ดำคิดว่าผมควรทำยังไง ?""สร้างใหม่ดีกว่าครับ เอาให้หลังใหญ่ ๆ หน่อย ถ้าจะให้ดีผมว่าให้คุณฝนช่วยออกแบบเลยดีกว่า ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่"เข้มดีดนิ้วเปาะ อยากกระโดดกอดพี่ดำมาก ๆ ทำไมเรื่องแค่นี้เขาถึงคิดไม่ได้นะ "ผมว่าสร้างสองหลังเลยดีกว่าเอาไว้ให้คุณพ่อกับคุณแม่ด้วย"เข้มเสนอความคิดเห็น เมื่อคุยกันรู้เรื่องแล้วพี่ดำก็ขอตัวไปพักผ่อน จากเมียมาหลายวันชักจะคิดถึง โทรหาเมียดีกว่าถ้าเกิดว่าเจ้านายยังไม่ส
"คุณเข้มแน่ใจนะว่าจะไปไหว้พระจริง ๆ ?"ฝนถามเข้มทันทีที่เขาก้าวขายาว ๆ ลงมาจากมอร์เตอร์ไซค์คันเก่ง เพราะดูสีหน้าของเขาแล้วมันไม่สดใสเอาซะเลย"แน่ใจสิ อยากอาบน้ำมนต์ด้วยเลยถ้าเป็นไปได้"เพราะข่าวจากพี่ขาวเมื่อคืนทำเอาเขาแทบนอนไม่หลับ ถ้าพ่อกับแม่มาหาเขาที่นี่จริง ๆ เรื่องของเธอกับเขาก็อาจจะมีปัญหานิดหน่อย เพราะพ่อกับแม่คงไม่ยอมรับฝนง่าย ๆ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเข้มก็ยังยืนยันว่าเขาจะยืนเคียงข้างเธอตลอดไป "ได้ ๆ ถ้าจะอาบน้ำมนต์แนะนำวัดนี้เลย วัดโนนสว่าง ตำบลหมากหญ้าอำเภอหนองวัวซอไปให้หลวงพ่อเจริญท่านอาบน้ำมนต์ให้"ตกลงกันได้ก็ซ้อนมอร์เตอร์ไซค์กันออกไป จัดยาให้พ่อและทำกับข้าวไว้ให้พ่อกับแม่เรียบร้อยแล้วก็ไม่มีอะไรน่าห่วง ฝนแวะหาฟองจันทร์ที่ร้านกาแฟก่อนเพื่อแจ้งว่าเธออาจจะไม่ได้มาขายน้ำแข็งใสหลายวันเพราะยังไม่เสร็จธุระ ส่วนเรื่องค่าเช่าเธอจะจ่ายเต็มเดือนเหมือนเดิม ฟองจันทร์กับเพชรก็ไม่มีปัญหา ผ่านธนาคาร ธกส. สาขาอำเภอหนองวัวซอเข้มก็แวะพาเธอไปเปิดบัญชีและทำบัตร ATM ด้วย ฝนจึงนึกขึ้นได้ว่าเธอมีเรื่องจะปรึกษาเขาแต่เดี๋ยวพาเขาไปอาบน้ำมนต์ก่อน เธอแวะร้านค้าซื้อเสื้อผ้าให้เขาหนึ่งชุดพื่อเอาไว
เมื่อกินข้าวอิ่มและเก็บสำรับเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็แยกย้าย น้องสาวทั้งสองคนของฝนแยกไปทำการบ้านในห้องนอน ส่วนตาสอนกับนางฉวีก็พากันนั่งดูทีวีที่โถงกลางบ้าน เข้มไปนั่งรอเธอที่แคร่หน้าบ้าน ฝนเอายากันยุงไปจุดให้เขาเพราะเริ่มมืดแล้วยุงจะเยอะ จุดยากันยุงให้เขาแล้วฝนก็ขอตัวไปอาบน้ำเข้มนั่งมองบรรยากาศโดยรอบ ผู้คนในหมู่บ้านเริ่มเปิดไฟแล้ว ยังมีบ้างที่จูงฝูงวัวและฝูงควายพามันไปเข้าคอก เสียงหรีดหริ่งเรไรร้องระงม อากาศเริ่มอบอ้าวเสียงฟ้าคำรามครืน ๆ มาจากขอบฟ้า ดูท่าคืนนี้ฝนน่าจะตก"คุณเข้ม"ฝนตะโกนเบา ๆ ที่ข้างหูเขา เพราะเรียกหลายครั้งแล้วเข้มก็ไม่ตอบสนองเธอเลย จากเสียงของเธอทำให้เขาออกจากภวังค์หันหน้าไปตามเสียงเรียกโอยอัตโนมัติจมูกแทบจะชนกับจมูกของเธอ กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำและแชมพูลอยอ้อยอิ่งมาปะทะจมูกของเขา เข้มสูดดมกลิ่นเข้าไป ความสดชื่นแผ่ซ่านเข้าไปสู่ร่างกาย ฝนผละออกห่างเขาเล็กน้อย หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที"พร้อมแล้วค่ะ"เธอยกสมุดและปากกาให้เขาดู เพราะเรื่องที่จะคุยกับเข้มคืนนี้ก็คือวางแผนการใช้เงินหนึ่งล้านห้าแสนที่เธอได้มาให้เกิดประโยชน์สูงสุด เข้มมองการแต่งตัวของเธอแล้วแอบถอนหายใจ เสื้อยืดสีข
เช้าวันนี้อากาศสดใสมากเนื่องจากฝนตกเมื่อคืน ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ เข้มตื่นแต่เช้าทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วเขาก็มุ่งตรงไปหาฝนเลย ซึ่งเธอก็ทำกับข้าวไว้รอเขา ฝนบอกเรื่องระหว่างเธอกับเข้มให้พ่อกับแม่รับรู้แล้ว นางฉวีกับตาสอนก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่เตือนลูกสาวว่าให้ทำในสิ่งที่เหมาะที่ควร เมื่อทั้งคู่ทานข้าวเช้าเสร็จแล้วก็เข้าไปหาเพชรกับฟองจันทร์ เพราะเข้มต้องการปรึกษาเรื่องตัดอ้อย และอยากจะสร้างบ้านใหม่ลงบนที่ผืนนั้นด้วย เพชรรับจัดการให้ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่การปรับที่ ถมที่และการก่อสร้างบ้าน ส่วนแปลนบ้านเข้มจะเขียนเอง การตัดอ้อยจะเริ่มดำเนินการพรุ่งนี้เพชรก็จัดหาให้ทั้งรถตัดอ้อย รถขน และคนงาน เพราะที่บ้านของเพชรนั้นทำสวนอ้อยด้วย มีรถตัดอ้อย รถขนอ้อย รถตักดิน และรถขนดินพร้อมสรรพ เข้มก็ตกลง เขาไม่เกี่ยงราคาเลยแม้แต่น้อย แต่อยากให้ทุกอย่างดำเนินการให้เร็วที่สุด ระหว่างที่เพชรกับเข้มคุยกันอยู่นั้น ฟองจันทร์ก็คุยกับฝนด้วยเช่นกัน"ตกลงว่า ?"ฟองจันทร์ถามฝน"เราตกลงเป็นแฟนกันแล้วจ้ะพี่ฟอง"ฟองจันทร์ยินดีกับฝน แต่ก็ยังมีความเป็นห่วงน้องสาวคนนี้อยู่"พี่ดีใจด้วย แต่ยังไงก็ยังห่วงอยู่ดี เพราะเค้าไม่ใช่คนบ้
ไม่นานนักก็มาถึงบ้านของฝนซึ่งในตอนนี้ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว เมื่อมีรถมาจอดที่หน้าบ้านฝนก็รีบเดินออกไปต้อนรับแขกผู้มาเยือน ในคราแรกที่เธอสบตากับพ่อของเขาเธอตกใจแทบเป็นลม แต่ก็ได้สายตาอันอ่อนโยนของแม่ของเขาช่วยปลอบประโลม เข้มรีบเดินมาโอบไหล่เธอและแนะนำให้พ่อกับแม่ได้รู้จัก"แม่ครับพ่อครับนี่..ฝนแฟนของผม""สวัสดีค่ะคุณท่านทั้งสอง"ฝนยกมือไหว้ทั้งสองท่านอย่างนอบน้อม รูปร่างหน้าตาไม่เลว กิริยาท่าทางก็น่าเอ็นดูได้คะแนนจากคุณหญิงอมรรัตน์ไปไม่น้อย "อือ.."คุณวิกรณ์กล่าวคำออกมาแค่นั้นไม่พูดอะไรต่อ "เชิญนั่งก่อนค่ะ"ทั้งคุณหญิงและคุณวิกรณ์จึงนั่งลงที่แคร่หน้าบ้าน นางฉวีและตาสอนก็เดินออกมากล่าวคำทักทายทั้งสองคน บรรยากาศแม้จะดูแปลก ๆ แต่ก็ถือว่าไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียว ฝนกับน้อง ๆ จึงได้นำกับข้าวมาเสิร์ฟ ในตอนแรกตาสอนกับนางฉวีไม่กล้ากินข้าวร่วมวงกับคุณวิกรณ์และคุณหญิงอมรรัตน์แต่คุณวิกรณ์ก็เรียกให้ทั้งสองคนมากินข้าวร่วมกัน"ลูกชายของฉันมาสร้างความรำคาญให้พวกคุณไหม ?"ชวนคุยเพื่อลดความตึงเครียด เพราะดูแล้วนางฉวีกับตาสอนดูจะระวังตัวและเกร็งเหลือเกิน"บ่ ๆ จ้า" ( ไม่จ้า)คุณวิกรณ์รู้สึกว่าจะติดใจในรสชาด
ตื่นเช้าขึ้นมาทุกคนเตรียมพร้อมเต็มที่ ต่างแต่งตัวทะมัดทะแมงพร้อมที่จะไปดูการตัดอ้อย โดยเฉพาะคุณหญิงอมรรัตน์ที่ตื่นเต้นกว่าใคร ๆ เพราะไม่เคยเห็นการตัดอ้อยแบบใกล้ชิดแบบนี้มาก่อน จะว่าไปตั้งแต่เกิดมาคุณหญิงไม่เคยสัมผัสชีวิตชาวไร่ชาวนาแบบนี้ ไม่ได้รังเกียจรังงอนแต่อย่างใดแต่ไม่มีโอกาสได้มาทำอะไรแบบนี้ต่างหากประมาณเก้าโมงเช้ารถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดก็ไปจอดที่ไร่อ้อยของเข้ม ซึ่งเพชรก็ได้นำเครื่องมือและอุปกรณ์ในการเก็บเกี่ยวอ้อยไปไว้และลงมือเก็บเกี่ยวไปบางส่วนแล้ว ฝนนำเครื่องดื่มชูกำลังไปแจกจ่ายให้คนงานทุก ๆ คนอย่างทั่วถึง พี่ดำกับพี่ขาวไปหาเก้าอี้ชายหาดกับร่มมาจากไหนไม่อาจทราบได้นำมาให้คุณวิกรณ์และคุณหญิงอมรรัตน์นั่ง"เออ..ดี ๆ ขอบใจมาก"คุณวิกรณ์บอกกับพี่ดำและพี่ขาวอย่างชอบใจ พร้อมกับหันไปชวนคุณหญิงอมรรัตน์ให้นั่งลงด้วย ฝนกับเข้มเดินไปคุยกับเพชรที่กำลังสั่งการกับคนขับรถตัดอ้อยอยู่ เมื่อเพชรคุยกับคนขับรถตัดอ้อยเรียบร้อยแล้ว คนงานคนนั้นก็ขึ้นประจำตำแหน่งและเริ่มลงมือขับรถไปตัดอ้อยทันที"น่าจะประมาณสามวันครับถึงจะเสร็จ"เพชรบอกกับเข้ม เขาพยักหน้า"งานนี้ผมให้เพชรจัดการได้เต็มที่เลย"เข้มย้ำกับเ
และแล้วก็มาถึงวันงานบุญบั้งไฟ อ้อยตัดเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อวาน เสร็จเร็วกว่ากำหนดหนึ่งวัน เพราะคนงานต่างก็เร่งตัดให้เสร็จก่อนวันงานบุญบั้งไฟ เพื่อที่จะไปเที่ยวงานให้สบายใจไม่มีอะไรค้างคา วันนี้ในตำบลอูบมุงซึ่งประกอบไปด้วยหมู่บ้านทั้งหมดสิบหมู่บ้าน หมู่บ้านของฝนก็เป็นหนึ่งในนั้น ต่างก็คึกคักไปด้วยผู้คนที่มาเที่ยวงานโดยเฉพาะหมู่บ้านของฝนที่เป็นศูนย์รวมในการตั้งขบวนแห่บั้งไฟ มีการประกวดขบวนเซิ้งบั้งไฟของแต่ละหมู่บ้านข่าวว่าเงินรางวัลก็หลายบาทอยู่ ประเพณีแบบนี้จะเน้นให้ทุกหลังคาเรือนมีส่วนร่วม โดยการออกเงินช่วยเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่นค่าชุดของนางรำ ค่าบั้งไฟที่จะนำไปจุด ค่าแต่งตัวของผาแดงนางไอ่ และอะไรอีกหลายอย่าง โดยที่ไม่ได้กำหนดว่าแต่ละหลังคาเรือนจะต้องออกเท่าไหร่ แล้วแต่ความพร้อมบ้านใหนที่ฐานะดีหน่อยก็ออกเยอะบ้านใหนที่ฐานะไม่ดีก็ออกตามกำลัง บ้านของฝนก็ออกช่วยด้วยเช่นกันผู้คนต่างหลั่งใหลมาจากทุกสารทิศเพื่อมาเที่ยวงานนี้โดยเฉพาะ ทั้งมาจากต่างอำเภอ หรือแม้กระทั่งมาจากต่างจังหวัดเพราะปีนี้เขาจัดยิ่งใหญ่จริง ๆ มีการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึงจากหน่วยงานเทศบาลตำบลเพื่อเป็นการส่งเสริมและรณรง
หนึ่งปีต่อมา"อ้ายเข้ม ตื่นได้แล้วจ้า มื้อนี่เฮาต้องไปหว่านข้าวเด้ อ้ายลืมบ่ ?"ฝนเขย่าตัวปลุกสามีของเธอ เข้มงัวเงียลุกขึ้นมาดูเวลาในมือถือ ตีห้าครึ่งแล้ว รีบลุกไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน พลางบอกกับตัวเอง ไม่ได้ลืมหรอกว่าวันนี้ต้องหว่านข้าว แต่ว่าเมื่อคืน..กับเมียมากไปหน่อยเลยลุกไม่ขึ้น ทำธุระส่วนตัวเสร็จก็มากินกาแฟอุ่น ๆ กับข้าวต้มมัดที่แม่ยายทำมาให้รองท้อง วันนี้เขาต้องไปไถนาและหว่านข้าวเพราะสองสามวันที่แล้วฝนแรกของฤดูโปรยปรายลงมา ช่วงนี้แหละจะเป็นช่วงที่ชาวนาจะเริ่มไถและเริ่มหว่านข้าวเข้มกับฝนแต่งงานกันได้ครบหนึ่งปีแล้ว เขาซื้อที่นาเพิ่มอีกหลายสิบไร่ จนคุณวิกรณ์กับคุณหญิงอมรรัตน์บ่น มัวแต่ทำไร่ไถนาจนไม่มีเวลาทำหลานให้ท่าน เมื่อคืนเข้มจึง..กับเมียหวังลบคำปรามาสของพ่อให้ได้'จุ๊บ'ทานกาแฟเสร็จก็จูบแก้มเมียรัก แล้วเดินไปที่รถไถขับออกไปยังท้องนา เพื่อไถนาเตรียมหว่านข้าว เข้มยิ้มอย่างมีความสุข ชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรแล้ว การอยู่อย่างเรียบง่ายแบบนี้ก็คือที่สุดของความสุขฝนเลิกขายน้ำแข็งใสเพราะเข้มไม่อยากให้เธอเหนื่อย อีกอย่างเขาต้องเดินทางเข้ากรุงเทพ ฯ เดือนละครั้งเพื่อไปดูงานที่บริษัท แน่น
เข้มพาฝนแวะทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้านข้างทาง และพาเธอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านโดยขับมอเตอร์ไซค์คนละคัน เข้มขับมอเตอร์ไซค์ของฝน ส่วนฝนขับมอเตอร์ไซค์ของเข้ม ในตอนแรกฝนก็ไม่กล้าขับเพราะเธอไม่เคยขับรถมีคลัตช์มาก่อน และอีกอย่างมอเตอร์ไซค์ของเข้มคันใหญ่มากด้วย เครื่องยนต์มีขนาดถึง 1252 ซีซี เป็นทรงสปอร์ต แต่เพราะฝนหัวเร็วแทบทุกเรื่องเข้มแนะนำแค่นิดเดียวเธอก็ขับได้ปร๋อ แถมยังติดใจอีกต่างหาก"คุณเข้มขอขี่บ่อย ๆ ได้ไหมอ้ะ"เข้มยิ้มอ่อน"ตอบคำถามมาก่อน ระหว่างฉันกับรถ เธอชอบขี่อะไรมากกว่ากัน ?"ฝนตีผลัวะเข้าที่แขนเขาแก้เขิน"บ้าสิ ฝนยังไม่เคยขี่คุณเข้ม"พูดจบเธอก็หน้าแดง เข้มคิดในใจเดี๋ยวคืนนี้เธอจะได้ลองขี่เขาดู ถึงตอนนั้นเขาจะถามเธออีกทีระหว่างขี่พี่กับขี่รถของพี่อันใหนดีกว่ากันตอนแรกเข้มกะว่าถ้าพาเธอออกไปหาอะไรกินเสร็จแล้ว เขาจะยังไม่พาเธอกลับบ้านกะว่าจะนอนกกเธอสักสามวันสามคืน แต่เจ้าของร้านขายบ้านน็อคดาวน์โทรมาบอกว่ากำลังเอาบ้านเข้ามาส่ง แผนการณ์ที่วางไว้จึงต้องมีอันเปลี่ยนแปลง จำต้องเข้าไปดูเรือนหอสำเร็จรูปของตัวเองก่อน"ว้าว ๆๆ สวยมากเลยคุณเข้ม หลังกะทัดรัดน่ารักด้วย"เมื่อฝนเห็นบ้านไม้ไผ่ท
"อยากให้หยุดไหม ?"ฝนส่ายหน้าและหลับตาลง เข้มจึงอุ้มเธอไปที่เตียง ถอดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างนุ่มนวลโยนออกไปไม่ใส่ใจทิศทาง ฝนสั่นสะท้านไปทั้งตัว เอนกายลงบนเตียงกว้างช้า ๆ คิดจะคว้าผ้าห่มมาคลุมกาย แต่เข้มรวบมือทั้งสองข้างของเธอไปไว้เหนือหัว พร้อมกับใช้สายตาสำรวจรูปร่างที่แสนงดงามของเธอ หน้าอกอวบที่มีขนาดใหญ่เกินตัว เอวเล็กคอดกิ่ว เรียวขายาว และผิวอันเรียบเนียนนั้นเป็นประกายยามต้องแสงไฟ ตัดกับผิวสีเข้มของเขาได้อย่างลงตัว"ไม่ต้องกลัว"เพราะเห็นร่างกายของเธอสั่นสะท้านเขาจึงกระซิบที่ข้างหูของเธอเป็นการปลอบใจ จูบแก้มเธอเบา ๆ และไล่ริมฝีปากอุ่นร้อนนั้นมาประกบกับริมฝีปากของเธออีกครั้ง ปล่อยมือของเธอให้เป็นอิสระ เพื่อจะใช้มือทั้งสองข้างของตัวเองให้เป็นประโยชน์ เพราะเป้าหมายลำดับต่อมาของเข้มก็คือสองเต้าอวบใหญ่นั้น ฝ่ามือร้อนทั้งสองข้างของเข้มประกบลงบนสองเต้าอวบของเธอ ฝนสะดุ้ง เข้มบีบคลึงเบา ๆ สร้างความคุ้นเคยให้เธอผ่านความเสียวซ่าน ก่อนจะออกแรงขยำตามอารมณ์ที่คุกรุ่นของเขา "อือ .."ฝนครางประท้วงในลำคอเพราะความเจ็บ เข้มจึงเบามือลงจากการบีบเค้นเป็นลูบไล้ ถอนริมฝีปากบางออกจากริมฝีปากอวบอิ่มที่บวมเ
ฝนนั่งมองโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่เข้มซื้อให้เธอแทนเครื่องที่พวกมันทุบอย่างหงอยเหงาตลอดช่วงบ่ายนั้นเข้มไม่ได้โทรหาฝนเลย ยิ่งตอกย้ำให้เธอคิดว่าเข้มจะต้องโกรธเธอแน่นอนแต่ไม่รู้ว่าเขาโกรธเรื่องอะไร ฝนจึงโทรไปปรึกษาฟองจันทร์คนที่เธอรักเหมือนพี่สาว ด้วยประสบการณ์อันมากมายของฟองจันทร์จะต้องช่วยเธอได้แน่ ๆ "ว่าไงฝน ?""พี่ฟอง ฝนมีเรื่องอยากปรึกษาเดี๋ยวไปหาที่ร้านนะ""มีเรื่องอะไร ? ได้ ๆ เข้ามาหาพี่เลย"ฟองจันทร์เองก็รักและเป็นห่วงฝนเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเหมือนกัน ฝนจึงขออนุญาติพ่อกับแม่ไปหาฟองจันทร์ที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง โดยขับมอเตอร์ไซค์คันเก่าของพ่อไป ตาสอนกับนางฉวีไม่อยากให้ลูกสาวออกจากบ้านไปไหนเลยเพราะเพิ่งเกิดเรื่อง แต่ก็ทนลูกอ้อนและเหตุผลของลูกสาวไม่ไหว"แม่จ๋า พ่อจ๋า ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ คนที่ทำมันก็ถูกจับไปแล้ว อีกอย่างร้านพี่ฟองก็ไม่ไกลสักหน่อยเดี๋ยวหนูจะรีบไปรีบกลับน้า"พูดจบเธอก็รีบสตาร์ทมอเตอร์ไซค์และขับออกไปทันที ประมาณยี่สิบนาทีก็มาถึงร้านกาแฟของฟองจันทร์"พี่ฟอง สวัสดีจ้า พี่เพชรไปทำงานเหรอจ๊ะ ?""เปล่าจ้ะ พี่เพชรเขาพาแฟนของฝนไปธุระน่ะ นี่คุณเข้มเขาไม่ได้บอกฝนเหรอ"ฝนส่ายหน้า ดวงต
เมื่อจัดการยามหน้าประตูเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยพวกของเข้มก็บุกเข้าไปในโกดังร้าง "หยุด ! นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ"เมื่อสิ้นเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มของคนร้ายและเจ้าหน้าที่ ส่วนอมรกับเข้ม พี่ดำและพี่ขาวรีบตรงไปยังอาคารหลังเล็กที่แยกออกมาจากโกดังหลังใหญ่ ซึ่งตรงนี้ไม่มีเวรยามเลย ผิดกับตรงโกดังหลักที่มีเวรยามวางอยู่ทั้งห้าคน"สัญญาณแจ้งว่าอยู่ตรงจุดนี้แน่นะครับนาย ?"พี่ดำถาม เข้มพยักหน้า กระชับปืนในมือและค่อย ๆ ย่องไปตรงหน้าประตู ฝนที่ได้ยินเสียงปืนเธอรีบลุกขึ้นและเดินมะงุมมะงาหราในความมืดตรงไปยังประตู เธอวางแผนไว้ในใจว่าถ้ามีคนเปิดประตูเข้ามาเธอจะวิ่งสวนออกไป ตายเป็นตาย เธอเอาหูแนบกับประตูไว้เพื่อฟังเสียงด้านนอกเสียงปืนทางด้านโกดังใหญ่เงียบลงแล้ว อมรจึงขอตัวไปดูทางนั้น เมื่อเป็นดังนี้แล้วเข้มก็รับรู้ได้ทันทีว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว เขาจึงส่งเสียงเรียกออกไป"ฝน ! เธออยู่ในนั้นไหม ?"ฝนดีใจแทบบ้าตาย ในตอนแรกเธอคิดว่าตัวเองหูฝาดไป แต่พอเขาตะโกนเรียกอีกเป็นครั้งที่สองเธอก็แน่ใจว่าเป็นเสียงของเข้มแน่ ๆ"คุณเข้ม ! ช่วยฝนด้วยค่ะ"เมื่อได้ย
ในใจของเข้มตอนนี้ร้อนรนราวกับไฟ เขารู้ได้ทันทีว่าคนที่จับตัวฝนไปจะต้องเป็นไอ้หน้าตัวเมียที่ชื่อเก่งคนนั้นแน่ ๆ เพราะเขาไม่ได้มีศัตรูที่ใหนนอกจากมันคนนี้ฝนงัวเงียตื่นขึ้นมาในห้องมืดสลัวห้องหนึ่ง เธอจำได้ว่าหลังจากออกมาจากห้องน้ำมีพวกวัยรุ่นสามคนจับตัวเธอมา โดยคนหนึ่งใช้ปืนจี้ที่เอวของเธอ และอีกสองคนประกบซ้ายขวา ดูเผิน ๆ แล้วเหมือนวัยรุ่นหนุ่มสาวมาเที่ยวงานบุญบั้งไฟทั่วไป หากไม่สังเกตให้ดีจะมองไม่เห็นปืนที่จี้อยู่ที่เอวของเธอเลย เพราะพวกมันใช้ตัวบังเอาไว้ เธอพยายามตั้งสติและมองหาเข้มแต่มันพาเธอเดินออกไปทางหลังโรงเรียนซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับสนามฟุตบอลที่กำลังทำการแสดงอยู่ บริเวณนั้นเป็นทุ่งนาและป่ายาง มันบังคับให้เธอขึ้นรถตู้คันสีขาวที่จอดรออยู่ในสวนยางแห่งนั้น และตอนที่เธอขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว หนึ่งในสามก็ควักเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดปากและจมูกเธอไว้ ฝนเดาได้ทันทีว่านั่นคือยาสลบเพราะมันเหมือนฉากในละครไม่มีผิด เธอกลั้นหายใจไว้แต่ก็กลั้นไว้ได้ไม่นานจำต้องสูดเอาอากาศเพื่อนำมันเข้าปอดทำให้เธอสูดเอากลิ่นเหม็นเอียนบนผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นเข้าไปเต็มรูจมูก สติของเธอค่อย ๆ ดับวูบลงเมื่อลำดับเหต
และแล้วก็มาถึงวันงานบุญบั้งไฟ อ้อยตัดเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อวาน เสร็จเร็วกว่ากำหนดหนึ่งวัน เพราะคนงานต่างก็เร่งตัดให้เสร็จก่อนวันงานบุญบั้งไฟ เพื่อที่จะไปเที่ยวงานให้สบายใจไม่มีอะไรค้างคา วันนี้ในตำบลอูบมุงซึ่งประกอบไปด้วยหมู่บ้านทั้งหมดสิบหมู่บ้าน หมู่บ้านของฝนก็เป็นหนึ่งในนั้น ต่างก็คึกคักไปด้วยผู้คนที่มาเที่ยวงานโดยเฉพาะหมู่บ้านของฝนที่เป็นศูนย์รวมในการตั้งขบวนแห่บั้งไฟ มีการประกวดขบวนเซิ้งบั้งไฟของแต่ละหมู่บ้านข่าวว่าเงินรางวัลก็หลายบาทอยู่ ประเพณีแบบนี้จะเน้นให้ทุกหลังคาเรือนมีส่วนร่วม โดยการออกเงินช่วยเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่นค่าชุดของนางรำ ค่าบั้งไฟที่จะนำไปจุด ค่าแต่งตัวของผาแดงนางไอ่ และอะไรอีกหลายอย่าง โดยที่ไม่ได้กำหนดว่าแต่ละหลังคาเรือนจะต้องออกเท่าไหร่ แล้วแต่ความพร้อมบ้านใหนที่ฐานะดีหน่อยก็ออกเยอะบ้านใหนที่ฐานะไม่ดีก็ออกตามกำลัง บ้านของฝนก็ออกช่วยด้วยเช่นกันผู้คนต่างหลั่งใหลมาจากทุกสารทิศเพื่อมาเที่ยวงานนี้โดยเฉพาะ ทั้งมาจากต่างอำเภอ หรือแม้กระทั่งมาจากต่างจังหวัดเพราะปีนี้เขาจัดยิ่งใหญ่จริง ๆ มีการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึงจากหน่วยงานเทศบาลตำบลเพื่อเป็นการส่งเสริมและรณรง
ตื่นเช้าขึ้นมาทุกคนเตรียมพร้อมเต็มที่ ต่างแต่งตัวทะมัดทะแมงพร้อมที่จะไปดูการตัดอ้อย โดยเฉพาะคุณหญิงอมรรัตน์ที่ตื่นเต้นกว่าใคร ๆ เพราะไม่เคยเห็นการตัดอ้อยแบบใกล้ชิดแบบนี้มาก่อน จะว่าไปตั้งแต่เกิดมาคุณหญิงไม่เคยสัมผัสชีวิตชาวไร่ชาวนาแบบนี้ ไม่ได้รังเกียจรังงอนแต่อย่างใดแต่ไม่มีโอกาสได้มาทำอะไรแบบนี้ต่างหากประมาณเก้าโมงเช้ารถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดก็ไปจอดที่ไร่อ้อยของเข้ม ซึ่งเพชรก็ได้นำเครื่องมือและอุปกรณ์ในการเก็บเกี่ยวอ้อยไปไว้และลงมือเก็บเกี่ยวไปบางส่วนแล้ว ฝนนำเครื่องดื่มชูกำลังไปแจกจ่ายให้คนงานทุก ๆ คนอย่างทั่วถึง พี่ดำกับพี่ขาวไปหาเก้าอี้ชายหาดกับร่มมาจากไหนไม่อาจทราบได้นำมาให้คุณวิกรณ์และคุณหญิงอมรรัตน์นั่ง"เออ..ดี ๆ ขอบใจมาก"คุณวิกรณ์บอกกับพี่ดำและพี่ขาวอย่างชอบใจ พร้อมกับหันไปชวนคุณหญิงอมรรัตน์ให้นั่งลงด้วย ฝนกับเข้มเดินไปคุยกับเพชรที่กำลังสั่งการกับคนขับรถตัดอ้อยอยู่ เมื่อเพชรคุยกับคนขับรถตัดอ้อยเรียบร้อยแล้ว คนงานคนนั้นก็ขึ้นประจำตำแหน่งและเริ่มลงมือขับรถไปตัดอ้อยทันที"น่าจะประมาณสามวันครับถึงจะเสร็จ"เพชรบอกกับเข้ม เขาพยักหน้า"งานนี้ผมให้เพชรจัดการได้เต็มที่เลย"เข้มย้ำกับเ
ไม่นานนักก็มาถึงบ้านของฝนซึ่งในตอนนี้ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว เมื่อมีรถมาจอดที่หน้าบ้านฝนก็รีบเดินออกไปต้อนรับแขกผู้มาเยือน ในคราแรกที่เธอสบตากับพ่อของเขาเธอตกใจแทบเป็นลม แต่ก็ได้สายตาอันอ่อนโยนของแม่ของเขาช่วยปลอบประโลม เข้มรีบเดินมาโอบไหล่เธอและแนะนำให้พ่อกับแม่ได้รู้จัก"แม่ครับพ่อครับนี่..ฝนแฟนของผม""สวัสดีค่ะคุณท่านทั้งสอง"ฝนยกมือไหว้ทั้งสองท่านอย่างนอบน้อม รูปร่างหน้าตาไม่เลว กิริยาท่าทางก็น่าเอ็นดูได้คะแนนจากคุณหญิงอมรรัตน์ไปไม่น้อย "อือ.."คุณวิกรณ์กล่าวคำออกมาแค่นั้นไม่พูดอะไรต่อ "เชิญนั่งก่อนค่ะ"ทั้งคุณหญิงและคุณวิกรณ์จึงนั่งลงที่แคร่หน้าบ้าน นางฉวีและตาสอนก็เดินออกมากล่าวคำทักทายทั้งสองคน บรรยากาศแม้จะดูแปลก ๆ แต่ก็ถือว่าไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียว ฝนกับน้อง ๆ จึงได้นำกับข้าวมาเสิร์ฟ ในตอนแรกตาสอนกับนางฉวีไม่กล้ากินข้าวร่วมวงกับคุณวิกรณ์และคุณหญิงอมรรัตน์แต่คุณวิกรณ์ก็เรียกให้ทั้งสองคนมากินข้าวร่วมกัน"ลูกชายของฉันมาสร้างความรำคาญให้พวกคุณไหม ?"ชวนคุยเพื่อลดความตึงเครียด เพราะดูแล้วนางฉวีกับตาสอนดูจะระวังตัวและเกร็งเหลือเกิน"บ่ ๆ จ้า" ( ไม่จ้า)คุณวิกรณ์รู้สึกว่าจะติดใจในรสชาด