“นายจะได้หรือไม่ได้ใครมันเกี่ยวอะไรกับฉัน แล้วมองหน้าแบบนี้อย่าบอกนะว่าฉันต้องไปนอนกับนายชดใช้ที่นายไม่ได้นอนกับสาว สติเนอะ ชีวิตจริงไม่ใช่นิยายน้ำเน่า เกลียดขี้หน้ากันจะตายชัก เอากันลงเหรอ หึ! ประสาทป้ะ!” ดารินด่ากราดเสียงดังจนคนรอบข้างหันมามองแต่เตชินดันไม่นึกอาย เขายังปล่อยหัวเราะขำ
“เธอคิดอะไร อย่างฉันเนี่ยนะจะเอาเธอ ฝันเหรอ ปากแบบนี้จูบไม่ลงหรอกนะจะบอกให้ แต่ที่บอกให้ชดใช้คือเธอต้องไปดื่มเป็นเพื่อนฉัน เพราะเธอทำให้ฉันหมดอารมณ์เอาตั้งแต่หน้าห้องน้ำแล้ว อ้อ.. ที่สำคัญ เมื่อกี้เธอก็ยืนเหยียบเท้าฉันด้วย เพราะฉะนั้นซื้อรองเท้าคู่ใหม่มาชดใช้ให้ฉันซะ เข้าใจไหม”
คราวนี้เป็นดารินที่ยืนอึ้งหน้าเหวอ อ้าปากค้าง รู้อยู่หรอกว่าเตชินไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่เป็นสุภาพบุรุษสักเท่าไหร่ แต่ไม่คิดว่าปากจะยังแจ๋วขนาดนี้ ตอนเรียนว่าปากแซ่บแล้ว ตอนนี้ก็ยังคงคุณภาพอยู่ไม่จางหายไปตามกาลเวลาเลย ผู้ชายบ้าอะไร!
“นี่! ปากฉันออกจะสวย อวบอิ่มน่าจูบ ปากนายต่างหากล่ะ หมาไม่รับประทาน แล้วไอ้รองเท้านายน่ะ ฉันวางเท้าเปล่าไปเฉย ๆ เถอะ ไม่ได้ขยี้ มันไม่สึกหรอเลยสักนิด” ดารินก้มมองรองเท้าราคาหกหลักของเตชิน ให้ซื้อคู่ใหม่ชดใช้ ตอนนี้ในไทยจะหาได้ไหมเถอะ มันเป็นรุ่นลิมิติดด้วย เธอจำได้
“ไม่รู้แหละ แต่ตอนนี้เธอต้องไปดื่มเป็นเพื่อนฉันก่อน” เตชินไม่สนใจฟังคำบ่นก่นด่าของดาริน เขาถือวิสาสะกอดคอเธอแล้วพาเดินมาที่จอดรถ ไม่สนใจเสียงร้องโวยวายของหญิงสาว แล้วไอ้มือที่ตีเขาหยิกเขาก็แรงเท่ามด คิดว่าหนังหนา ๆ แบบเตชินจะระคายเคืองรึไง
“เพื่อนนายไม่มีเหรอ ฉันไม่ไปโว้ย!”
“ก็เพื่อนเธอคาบไอ้โปรดไปแดกแล้ว ตอนนี้ฉันเหงา อย่าพูดมากดิเดียร์ ขึ้นรถไป!” ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถวีไอพีพอดิบพอดี เตชินจับดารินยัดเข้ารถซูเปอร์คาร์ของตัวเองที่จอดอยู่
“ไม่ไปโว้ย! บอกว่าไม่ไป! แล้วรถฉันล่ะ” ดารินยังโวยวายไม่หยุด เธอจะลงจากรถแต่โดนเตชินชี้หน้าดุ
“ถ้าออกมา ฉันจะเอาเธอตรงนี้แหละ เกลียดขี้หน้าก็เอาได้นะบอกไว้ เอาถุงดำคลุมหน้าก็จบแล้ว” เจอเตชินขู่ดารินเลยยอมสงบแล้วนั่งนิ่ง ร่างสูงนั่งประจำหลังพวงมาลัย หลังจากนั้นก็ทะยานรถออกไป
“ไหนบอกจะดื่ม แล้วขับออกจากคลับทำบ้าอะไร” ทำไมไม่ดื่มที่เดิมดารินไม่เข้าใจ
“เบื่อ อยากไปนั่งร้านชิล”
“ร้านไหน”
“นั่งไปเงียบ ๆ เหอะน่า หุบปากสักสิบห้านาทีเถอะขอร้อง” เตชินกลอกตา คิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ที่ลากยายนี่ออกมาดื่มเป็นเพื่อน
“พูดมากฉิบหาย ด่าก็เก่งเริ่มรำคาญแล้วเนี่ย จอดรถแล้วทิ้งไว้กลางทางเลยดีไหม” เตชินบ่น แต่เหมือนจะบ่นดังไปหน่อยดารินเลยรีบดักไว้
“ถ้าทิ้งฉันไว้กลางทาง สาบานว่าฉันฆ่านายตายคามือแน่เตชิน!”
ตื่นมาเธอก็ไม่เห็นคนเอาแต่ใจนอนข้างกาย ร่างบอบบางพยายามลากสังขารของตัวเองเข้าห้องน้ำในช่วงสายของอีกวันอย่างยากลำบาก เมื่อคืนโดนสามีเอาแต่ใจคาชุดเจ้าสาว กว่าเขาจะยอมหยุดก็ตอนที่เธอรน้องบอกว่าไม่ไหวแล้ว แทบจะต้องยกมือไหววิงวอนไม่ให้เขาทำต่อเธอพาตัวเองลงไปแช่ในอ่างที่มีน้ำอุ่นพร้อมไว้ คงจะเป็นสามีที่เตรียมให้ ส่วนเขาคงตื่นก่อนแล้วออกไปหาลูกชายทั้งสองหญิงสาวถอนหายในโล่งเมื่อได้นอนแช่น้ำอุ่น ๆ กลิ่นหอมของสบู่ทำให้เธอผ่อนคลายขึ้นมาก หลับตาซึมซับกับความสบายได้ไม่นานก็รู้สึกถึงแรงกระเพิ่มของน้ำ ร่างบอบบางโดนเบียดเสียดด้วยร่างหนาหนั่นแน่นที่มานั่งซ้อนหลัง“หิวรึยังครับ เมื่อกี้เฮียลงไปยกอาหารเช้ามาให้” เสียงทุ้มกระวิบแผ่วข้างหูขาว มือข้างหนึ่งกดนวดที่ไหล่สวยอีกข้างเค้นคลึงก้อนนุ่มหยุ่นเต็มไม้เต็มมือสลับกับบดบี้ยอดถันสีหวานที่เริ่มแข็งชันสู้นิ้ว จนคนที่ยังหลังตาพริ้มอดขนลุกเกรียวด้วยความเสียวซ่านไม่ได้ ซินหยานยกยิ้ม ชอบจังเวลาเขาทำอะไรแบบนี้ให้“เฮียไม่เหนื่อยเหรอคะ” เธอถามบ้าง เพราะเขาดูแลทั้งเธอและลูกอย่างนี้ทุกวัน ยิ่งตอนที่ได้ย้ายกลับไปอยู่ไทยด้วยกันที่บ้านหลังเล็ก ๆ แสนอบอุ่นของเขา ทรงโป
ลำพังแค่อาชีพหมอและกิจการที่เจ้าลูกเขยหมอนี่ไปลงทุนไว้และกำลังริเริ่มทำก็มากเกินจนล้น จนไม่มีเวลาได้หายใจอยู่แล้ว ไม่รู้มันจะร้อนเงินอะไรกันนักหนา จะขยันไปไหนเขาแค่อยากให้มีคนที่ดีอยู่เคียงข้างซินหยานในวันสุดท้ายที่ตาแก่อย่างเขาหมดลมหายใจ หวังแค่ให้ทรงโปรดเป็นทั้งสามีและพ่อที่ดี เป็นเสาหลักให้แก่ลูกและหลานของเขาได้และไม่รู้อะไรมันดลจิตดลใจถึงทำให้เขาเชื่อว่าทรงโปรดจะเป็นทั้งหลักยึด ทั้งครอบครัว และที่พักพิงทางใจให้ซินหยานและหลานๆของเขาได้อย่างแน่นอนซินหยานและทรงโปรดได้ฤกษ์เข้าพิธีแต่งงานกันในตอนที่ลูกชายคนแรกอายุได้สี่ขวบ ลูกชายคนที่สองอายุได้สองขวบกว่า ฤกษ์ที่ว่าคือฤกษ์สะดวกของตัวเจ้าสาวเองด้วย เพราะกว่ารูปร่างจะเข้าที่เข้าทางสวยเช้งแบบนี้ในวัยที่ลูกสองแล้วไม่ใช่เรื่องง่าย เล่นเอาคนเป็นสามีบ่นจนท้อ“เฮ้อ.. กว่าจะได้แต่ง” ชายหนุ่มบ่นเสียงอ่อนแล้วทิ้งร่างลงนอนบนเตียงใหญ่ที่ถูกจัดอย่างสวยงาม โรยด้วยกลีบกุหลาบสีขาวอย่างที่เจ้าสาวชอบ จนกลีบดอกกระดอนขึ้นตามแรงยวบจนมันฟุ้งกระจายไม่เหลือเค้ารูปหัวใจ“ก็ได้แต่งแล้วนี่ไงคะ ยังจะบ่นไม่หยุดอีก” ซินหยานบ่นกลับบ้าง พลางยืนถอดเครื่องประดับที่เป็
หลายเดือนแล้วที่ซินหยานและลูกย้ายตามทรงโปรดมาอยู่ที่ไทย ตอนที่รู้ว่าบิดาเป็นคนอยากให้ย้ายมาอยู่กันเป็นครอบครัว เธอเองก็อดกังวลใจไม่ได้ที่ต้องจากบิดา ทิ้งให้ท่านต้องอยู่เหงา ๆ คนเดียวที่คฤหาสน์หลังโตนั่น และพรากหลานออกมาจากอกอากงที่รักแสนรักหลานชายแต่เพราะบิดายืนยันหนักแน่นว่าอยากให้ลูกและหลานได้อยู่เป็นครัวครัวที่อบอุ่นสมบูรณ์ ตัวท่านเองไม่เป็นไร หากเหงาก็จะมาเยี่ยมบ่อยๆ ส่วนเธอจะบินกลับบ้านเมื่อไหร่ก็ได้ แค่อยากให้ซินหยานปักหลักสร้างครอบครัวที่เมืองไทย“ป๊ายังอยากมีลูกเขยเป็นหมออยู่นะ เกิดมันบ้าลาออกแล้วตามลูกเมียมาเกาะป๊ากินขึ้นมา แย่แน่ ๆ ” ท่านพูดว่าอย่างนั้น ทั้งที่จริงแล้วท่านแค่ไม่อยากให้ลูกเขยอย่างทรงโปรดต้องลาออกจากงานที่รัก ไม่อยากสร้างความลำบากใจให้ลูก ๆและเป็นดังที่หยางหวังพูดว่าจะมาเยี่ยมบ่อย ๆ คนแก่คิดถึงหลานชายก็มาเยี่ยมบ่อยดังปากว่าจริง ๆ มาเยี่ยมทุกเดือนอย่างน้อยครั้งละเจ็ดถึงสิบวัน เดือนนี้บ่อยกว่า หยางหวังมาไทยสองครั้ง ครั้งละหนึ่งสัปดาห์จนทรงโปรดถึงขั้นออกปากพูดว่า..“ผมว่าอาป๊าย้ายมาอยู่ไทยด้วยกันเลยดีกว่าไหมครับ” เสียงชายหนุ่มพูดอย่างหน่ายใจ ไหนบอกว่าให้พวกเข
“มาถึงขั้นนี้แล้วจะหวงอะไรอีกครับป๊า น่า.. เดี๋ยวผมเสกหลานชายเพิ่มให้นะครับ” คุณหมอปากหมาก็ยังกระเซ้าเย้าแหย่พ่อตาต่อจากที่เคยโดนกระทืบปางตาย ทุกวันนี้เขาใช้ลูกตื๊อหน้าหนาหน้าทนซื้อใจพ่อตามาได้แล้ว จะตีจะเตะจะด่าหรือสารพัดก็เอาวะ ก็อยากได้ลูกเขา แล้วตอนนี้เป็นไงล่ะ หึ!“จะกลับไทยวันนี้ใช่ไหม กี่โมงล่ะ” เมื่อพ่อตาถามทรงโปรดก็ทำหน้าเป็นหมาป่วยใส่ ไม่ตอบคำถามไม่พอ แต่ดันถามพ่อตากลับด้วยนี่สิเป็นคำถามที่เขาไม่จำเป็นต้องถามความเห็นใครก็ได้นอกจากภรรยา ทว่าเมื่อเข้ามาในครอบครัวของหญิงสาวแล้วเขาก็เคารพบุพการีของเธอเสมือนบุพการีตัวเองที่ไม่เคยมีมานานแล้ว“ป๊าครับ.. ถ้าเกิดผมจะลาออกจากหมอ ป๊าจะว่าอะไรไหม” เสียงชายหนุ่มจริงจังไร้ท่าทางล้อเล่นจนผู้อาวุโสกว่าชะงักแล้วละสายตาจากใบหน้าแป้นแล้นของหลานชายมามองขี้หน้าไอ้ลูกเขยตัวดี คิ้วขมวดมุ่น“ทำไม?” หยางหวังถามเหตุผล“ผมอยากอยู่กับลูกเมียครับ“ ทรงโปรดสารภาพตามความจริง เสียงทุ้มหนักแน่น ให้เดินทางมาหาบ่อย ๆ แบบทุกวันนี้มันเหนื่อย เหนื่อยกายแค่ไหนเขาทนได้ แต่หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากจากครอบครัวไปสักนาที คนเคยขาดอย่างเขาแค่อยากมีชีวิตครอบครัวที่ปกติ เลี้
ทรงโปรดตื่นมาในช่วงสายของอีกวันเพราะเมื่อคืนมัวแต่ถ่างขาเมีย.. เอ้ย ถ่างตาช่วยเมียเลี้ยงลูกนานไปหน่อย...หน่อยที่แปลว่ายันเช้าเขาอุ้มลูกชายมาส่งให้พี่เลี้ยงช่วยอาบน้ำแต่งตัว ปล่อยให้ซินหยานนอนหลับพักผ่อนไปยาว ๆ บ้าง ปกติเธอจะจัดการทุกเรื่องของลูกเป็นหลักเพราะไม่ค่อยไว้ใจใคร มีพี่เลี้ยงไว้เพื่อเป็นผู้ช่วย เขาอยากให้เธอพักผ่อน และเมื่อคืนก็แทบไม่ได้นอนเพราะซินหยานมัวแต่ถ่างขะ.. ตา เธอถ่างตาดูแลลูกกับเขาเมามันกันจนเผลอครางเสียงดัง จนน้ำสุดท้ายตอนใกล้สว่างน้องแซมเลยตื่นก่อนเวลามาร้องไห้งอแง เพราะตกใจเสียงครางราวกับสัตว์ป่าของพ่อกับแม่ ก็ทำไงได้คนมันเก็บกดมานานกว่าครึ่งค่อนปี "ขอโทษนะครับ ต่อไปนี้ปะป๊าจะไม่เสียงดังให้น้องแซมตื่นอีกแล้วน้า.." คนเป็นพ่อเอ่ยขอโทษลูกชายด้วยเสียงสองที่คิดว่าน่ารักที่สุดในชีวิตแล้ว ในตอนที่อุ้มเจ้าก้อนลงมาส่งให้อากงที่ห้องเลี้ยงเด็กของบ้าน หยางหวังที่ปกติก็ตื่นเช้าทุกวันเพื่อมาออกกำลังกายก่อนจะออกไปดูแลกิจการ ทุกวันนี้กลับกลายเป็นตาเฒ่าต้องตื่นเช้ามาออกกำลังกายหนักกว่าเก่าเพื่อที่จะได้มีร่างกายแข็งแรงไว้อุ้มหลาน หยางหวังออกกำลังกายเสร็จก็รีบอาบน้ำแต่งตัวหอม
เธอส่ายหน้าจนผมยาวปลิวสยาย ความเสียวซ่านพุ่งทะยานถึงขีดสุดซินหยานก็กัดริมฝีปากจนแดงก่ำ หวีดร้องในคอแล้วร่างนวลก็กระตุกเกร็งเมื่อเขาใช้ทั้งปลายนิ้วและลิ้นร้อนแสนร้ายกาจส่งเธอไปแตะขอบรุ้งอันพร่างพราย หญิงสาวทิ้งตัวอ่อนปวกเปียกนอนแน่นิ่งแล้วกอบโกยลมหายใจเข้าปอดถี่กระชั้น เพราะในตอนที่เสียวซ่านเธอเผลอกลั้นหายในเสียเนิ่นนานเขาเกือบจะทำให้เธอขาดใจไม่กี่นาทีเท่านั้นที่ทรงโปรดปล่อยให้เธอได้พักเพราะไม่นานเขาก็จับเรียวขาขาวข้างหนึ่งมาพาดไหล่กำยำไร้ปราการปกปิด รั้งขอบกางเกงนอนลงต่ำจนท่อนเอ็นดีดขึงโด่ชี้ฟ้า เขาจับแก่นกายที่พองขยายจนเต็มตึงแทบปริแตกถูไถกับน้ำหวานสีใสที่ฉ่ำเยิ้มตรงร่องสาวแล้วค่อย ๆ กดมันเข้าไปในโพรงสวาทคับแน่น“อื้อ! เฮียขา..” ซินหยานเบิกตากว้างเพราะช่องทางรักของเธอคับแน่นกว่าเก่า และท่อนลำของเขาก็ใหญ่เกินขนาดมาตรฐานไปมากโข ทรงโปรดกัดกรามแน่น เขาเองก็ปวดตึงไม่ต่างจากซินหยาน ของเธอตอดรัดเสียจนเขาแทบขยับไม่ไหว“อา... เกือบแตกแล้วซิน” ชายหนุ่มสารภาพเสียงต่ำพร่า ก่อนจะหยุดขยับแน่นิ่ง แช่ท่อนลำที่ยังค้างอยู่เพียงครึ่งไว้เท่านั้นแล้วโน้มตัวลงประกบจูบปากซินหยานที่น้ำตาไหลออกจากหางตา เขา