วันที่เธอทุ่มเทรักให้เขา คุณหมอเย็นชาคนนั้น รักที่เคยถูกเขาทิ้งขว้าง ไม่สนใจ และไม่เคยให้ความสำคัญ ผ่านไปหลายปี เธอกับเขากลับมาอีกครั้ง เขานั้นยังรักเธออยู่เต็มหัวใจ แต่เธอยังจมอยู่กับความเจ็บปวดในอดีต ครั้งนี้เป็นเขา ที่ต้องเดินหน้า เติมเชื้อไฟให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง... “ปล่อยนะคุณหมอ ฉันเจ็บนะ คุณทำแบบนี้มันผิดกฎหมายนะ” “ไม่มีกฎหายข้อไหน ที่จะห้ามผัวคุยกับเมีย” “หุบปากนะ! คุณพูดบ้าอะไรน่ะ อย่ามาคุกคามกันนะ ไม่งั้นฉันจะโทรแจ้งตำรวจ อ๊ะ! เอาคืนมานะ!” “ปล่อย!” “ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บ ทางที่ดีอยู่เฉย ๆ แล้วมานั่งคุยกันดี ๆ เถอะ จะได้ไม่เจ็บตัว ถ้าคุณดิ้นมากกว่านี้ ผมไม่รับรองนะว่า จะทำมากกว่าลากคุณมาที่นี่” คนหนึ่ง ยังรู้สึกเข็ด และไม่อยากเจ็บปวดกับความรัก….. อีกคนก็รุกเต็มที่ เพื่ออยากขอโอกาส เพียงแค่รักเธออีกครั้ง…. ที่สุดแล้ว หมอติณณ์จะสามารถจุดถ่านไฟเก่าครั้งนี้ขึ้นมาได้อีกไหม ฝากติดตามเรื่องราวความรักของทั้งคู่ ไปพร้อม ๆ กัน ด้วยนะคะ
もっと見るหน้าคณะแพทย์
“รุ่นพี่ติณณ์ภพคะ คบกับฉันนะคะ”
“อู้หู…... เล่นมาสารภาพหน้าคณะเลยว่ะ น้องมันแน่มาก”
“ยี่หวา” สาวน้อยเฟรชชี่คณะวิศวะกรรมศาสตร์ เดินมาที่คณะแพทย์ด้วยความมุ่งมั่น เธอตามตื๊อรุ่นพี่ ที่เรียนอยู่ปีห้า “ติณณ์ภพ” รุ่นพี่เย็นชาหน้านิ่ง เด็กเนิร์ดตัวท็อปของคณะ ซึ่งไม่เคยมีแฟน และไม่เคยคบกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน เคยถูกเสนอชื่อให้เป็นเดือนคณะ แต่เขาไม่สนใจเรื่องนี้ สุดท้ายก็ไม่ให้ความร่วมมือ และตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเดียว
“ไม่ล่ะ มันเสียเวลา ขอโทษด้วยนะ”
“แต่ยี่หวาชอบพี่ อยากเป็นแฟนกับพี่ ถ้าพี่ตกลงคบกับฉัน พี่ก็จะได้ตัดปัญหาเรื่องผู้หญิงคนอื่นได้ คิดดูนะคะว่ามันคุ้มขนาดไหน”
เขามองไปรอบ ๆ ก็รู้ว่า สิ่งที่เธอพูดไม่ใช่เรื่องเกินจริง มีหลายคนที่อยากลองคบกับเขา หลายปีมานี้ ติณณ์พยายามหลบเลี่ยงจนเบื่อ เพราะถูกรุ่นพี่ รุ่นน้องตามจีบ บางทีก็เหมือนกับพวกโรคจิต ที่คอยเดินตามเขา จนต้องย้ายหอพักถึงสี่ครั้ง
“หมายความว่ายังไง”
“ฉันพึ่งรู้ว่า มีพวกโรคจิตตามพี่เหมือนพวกสตอร์กเกอร์ ถ้าพี่เลือกคบใครสักคน เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เชื่อฉันสิคะพี่ติณณ์ พี่จำฉันไม่ได้ เหรอคะ เราเคยเจอกันที่โรงพยาบาล เมื่อสองเดือนก่อน”
“จำไม่ได้”
“ไม่เชื่อหรอก พี่ยังยิ้มให้ และพาฉันไปส่งขึ้นรถกลับบ้านอยู่เลย”
เขาจำเธอได้ แต่แค่ไม่คิดว่า เด็กรุ่นน้องที่มหาลัยที่เขาเจอในวันนั้น จะใจกล้าขนาดนี้ วันนั้นเขาพบเธอที่นั่งวินมอเตอร์ไซด์ล้ม และกำลังจะไปทำแผล เลยอาสาเข็นรถเข็น พาเธอไปทำแผลในโรงพยาบาล ที่เขาไปฝึกงาน พอเริ่มคุยก็รู้สึกว่าเธอคุยง่าย คงเพราะคณะที่เธอเรียน มีแต่เพื่อนผู้ชาย
“นั่นเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว”
ยี่หวาไม่มีทางยอมแพ้ นี่เป็นคำที่เธอเคยประกาศเอาไว้ จากนั้นเธอก็สืบเรื่องของเขาและรู้ว่า ติณณ์ภพมีคนสนใจเยอะมาก แต่เธอไม่สน เพราะยี่หวาตกหลุมรัก รอยยิ้มที่อ่อนโยนในวันนั้นเข้าเต็ม ๆ เธอจึงตัดสินใจตามตื๊อเขา
“รุ่นพี่ กล่องข้าวแห่งรักค่ะ”
“ไม่กิน เอากลับไปเถอะ”
“ไม่เอาหรอก ฉันจะนั่งเฝ้าพี่กินจนหมด กินเร็ว ๆ สิคะ”
“น่ารำคาญจริง ๆ”
“เอ๊ะ อย่าพึ่งลุกนะคะ มีคนรอเอาน้ำกับขนมที่พี่บอกว่า เป็นอาหารขยะมาให้อีกเพียบ ถ้าพี่ไม่ยอมกินอาหารที่ฉันทำมาให้ ก็คงจะเดินฝ่าออกไปที่โรงอาหารไม่ได้แล้ว”
ติณณ์ภพชำเลืองมองไปรอบ ๆ เขาเห็นรุ่นน้องอีกหลายคน ที่ยืนรออยู่จริง ๆ สุดท้ายเขาก็ต้องกินข้าวกล่องของยี่หวา ซึ่งพอกินเข้าไปถึงได้รู้ว่า มันอร่อยมาก
“อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร และไม่ใส่วัตถุกันเสีย เป็นไง อร่อยไหมคะ”
“อืม ก็พอไหว”
“เชอะ ปากแข็ง ตกลงพี่จะคบกับหวาได้หรือยังคะ นี่หวาไม่เคยเอาใจใครมากขนาดนี้มาก่อนเลยนะ”
“นี่คือจุดประสงค์ของเธอเหรอ”
“ไม่ใช่สักหน่อย สาเหตุที่หวาชอบพี่ติณณ์ พี่คงไม่รู้หรอก เพราะพูดไปสิบวันก็คงไม่หมด”
เขากินข้าวกล่องเธอจนหมด ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นว่าเขาก็เริ่มชินที่มียี่หวามาส่งข้าวให้ที่คณะทุกวัน และนั่งคุยเรื่องของเธอที่คณะทุกวัน ตลอดเกือบสองเดือน จนกระทั่งเย็นวันนั้น ยี่หวาไม่ได้มาหาเขา
“วันนี้เมียมึงไม่มาส่งข้าวเหรอวะไอ้ติณณ์”
“อย่าพูดบ้า ๆ ผู้หญิงเขาจะเสียหาย ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“ส่งข้าวส่งน้ำทุกวันขนาดนั้น นี่มึงยังชะเง้อมองหา ยังจะบอกว่าไม่ใช่อีกเหรอ จะบอกให้นะ กูได้ข่าวว่า ที่คณะวิศวะ น้องยี่หวาคนนี้ก็มีคนมาจีบเยอะนะโว้ย”
"นั่นสิไอ้ติณณ์ ขืนมึงเล่นตัวนานกว่านี้ ระวังจะแดกแห้วนะโว้ย"
ติณณ์ภพไม่เคยรู้เลยว่า ยี่หวาจะมีคนมาจีบ เขาไม่เคยมองเธอแบบนั้น แต่หลายเดือนมานี้ การที่มีเธออยู่ข้าง ๆ ทำให้เขาเคยชิน จากรำคาญกลายเป็นเฉย ๆ และเริ่มมองหาเธอ พอมาช้าก็เริ่มกังวล และมีหลายครั้งที่เขาอยากจะกดโทรหา แต่ก็ไม่ทันจะได้โทร เธอก็ปรากฏตัวตามเวลาทุกครั้ง ทำให้หัวใจของคนที่เคยเย็นชา เริ่มอ่อนยวบลงเรื่อย ๆ
คณะวิศวะกรรมศาสตร์
“โอ๊ย! ไม่เอาหรอกพี่คิว หวาไม่ได้คิดกับพี่แบบนั้นจริง ๆ เราเป็นพี่น้องกันแบบนี้ก็ดีแล้ว เนอะ”
“ก็ได้ พี่รู้ว่าหวาชอบคนฉลาด ตัวสูงแล้วเก่งเหมือนพวกคณะแพทย์”
“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ทำไมพี่ดูถูกตัวเองแบบนั้นล่ะ คนเรามีดีคนละอย่าง และเหมาะกับคนบางคน หวาแค่จะบอกว่า พี่เหมาะเป็นพี่ชายของหวา ไม่เหมาะจะเป็นแฟน”
“ก็จริง ขอบใจนะที่บอกกับพี่ตรง ๆ พี่ไปล่ะ ยัยเด็กดื้อ”
“โอ๊ย! ไอ้พี่คิว ชอบลูบผมอยู่เรื่อยเลย ยุ่งหมดแล้ว เดี๋ยวไม่สวย”
“ฮ่า ๆ อะไร ยังห่วงสวยอยู่เหรอ”
ติณณ์ภพรีบเดินกลับมาทันที เขารู้ว่าเธอปฏิเสธผู้ชายคนนั้น แต่ใจเขากลับสั่น ลุ้นระทึกตลอดเวลา และไม่พอใจที่เห็นคนอื่นแตะต้องตัวเธอ แม้ว่าจะเป็นแค่รุ่นพี่ในคณะก็ตาม
คณะแพทย์
“เลิกสี่โมงไม่ใช่เหรอ ฉันก็มาตรงเวลาแล้วนะ หรือว่ายังไม่ลงมา เอ่อพี่คะ คือว่า…”
เธอทักทายรุ่นพี่คณะแพทย์ ซึ่งเป็นผู้หญิง ที่เคยเห็นเดินกับติณณ์ภพ แต่เธอจำชื่อไม่ได้ เมื่อถูกเรียกก็หันมา
“มีอะไรเหรอ”
“คือว่า เห็นรุ่นพี่ติณณ์ไหมคะ คือ…”
“เธออีกแล้ว มาทุกวันไม่รู้จักเบื่อ คณะวิศวะไม่มีเรียนแล้วเหรอ ถึงได้วิ่งมาหาผู้ชายถึงที่นี่”
“ไม่เอาน่า มีนา น้องก็แค่ถามดี ๆ ติณณ์มันไปที่หอสมุดตั้งแต่บ่ายแล้วครับน้อง ไม่ได้โทรถามมันเหรอ”
“ขอบคุณค่ะพี่ ไม่อยากโทรรบกวนพี่ติณณ์ตอนเรียน ก็เลย…”
“เธอมีเบอร์ของติณณ์ด้วยเหรอ"
“มีนา! พอได้แล้วน่า ถ้ายังไงน้องก็ลองโทรหาติณณ์ดูนะ พวกพี่ไปก่อนล่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
รุ่นพี่สาวคนนั้น ยังหันมามองหน้าเธอ ก่อนจะเดินไปกับกลุ่มเพื่อน ยี่หวาทำตัวไม่ถูก จึงเลือกจะเดินกลับมา
“ปกติไม่ไปหอสมุดวันศุกร์นี่นา ทำไมวันนี้ถึงไปล่ะ”
ยี่หวาตัดสินใจเดินไปที่หอสมุด โดยที่ไม่โทรหาติณณ์ภพ ทั้ง ๆ ที่เธอตื๊อเขาตั้งนาน กว่าจะได้เบอร์โทรมา แต่ก็ไม่เคยกล้าโทรหาเขาก่อนเลยสักครั้ง
หน้าหอสมุด
“รุ่นพี่คะ ฉันชอบรุ่นพี่จริง ๆ นะคะ รับคุกกี้เอาไว้ด้วยค่ะ”
“ฉันไม่ชอบของหวาน แล้วก็ไม่รู้จักเธอ จะให้ชอบได้ยังไง”
“ไม่ชอบตอนนี้ อีกหน่อยก็ชอบเอง เราลองคบกันก่อนก็ได้นี่คะ”
ยี่หวาเดินมาถึงหน้าหอสมุด ก็เจอกับสาว ๆ ที่มารอติณณ์ภพอยู่ เธอคิดไม่ผิดจริง ๆ
“พี่ติณณ์คะ!”
เธอเดินเข้าไปหาติณณ์ภพ พอเขาเห็นเธอก็รีบเดินมาจับมือไว้ทันที เมื่อเด็กรุ่นน้องต่างคณะเห็นก็ถึงกับงง แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร เพราะเห็นว่ายี่หวาสวมเสื้อช็อปของคณะวิศวะเข้ามา
“ยี่หวามาแล้วเหรอ ทำไมมาช้าแบบนี้ล่ะ ไปกินข้าวกันนะพี่หิวแล้ว ขอโทษด้วยนะครับ “แฟนพี่” มาแล้ว คงขอตัวก่อน”
ยี่หวาหาผ้าห่มออกมาห่มให้เขา คนตัวโตไม่เหมาะกับโซฟาเอาเสียเลย แต่เธอเห็นว่าเขานอนหลับสนิท ก็เลยไม่อยากกวน“งานของพวกคุณหมอ คงจะหนักมากจริง ๆ สินะ เพลียจนหมดสภาพขนาดนี้ มีเวลานอนกับเขาบ้างมั้ยเนี่ย”ยี่หวายืนมองดูติณณ์ภพ และคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าห้องไปอาบน้ำ เพราะวันนี้เธอเองก็เหนื่อยมาทั้งวัน เธอเบาแอร์ข้างนอกให้เขาแล้ว เพราะกลัวว่าเขาจะหนาว พรุ่งนี้เป็นวันหยุด แต่คงไม่ดีแน่ ถ้ามีผู้ชายนอนอยู่ในห้องสาวโสดแบบนี้ “เอายังไงดีล่ะ ปลุกเขา หรือว่าไม่ปลุกดี”ยี่หวานั่งคิดอยู่ในห้อง แต่เห็นหมอติณณ์หลับสนิทเพราะความอ่อนเพลีย ก็ไม่อยากให้เขาขับรถกลับไปจริง ๆ ในใจของเธอยังเป็นห่วงเขาอยู่ แต่ก็ไม่อยากยอมรับ ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ คงได้ใจอ่อนให้เขาอีกครั้งแน่ ๆ“ช่างมันเถอะ แค่คืนเดียวเอง ไม่เป็นอะไรหรอกน่า พรุ่งนี้ตื่นมา เผลอ ๆ เขาก็กลับไปแล้ว”ยี่หวาตัดสินใจข่มตาให้หลับ ซึ่งทำได้ยากมาก เพราะรู้ว่าใครยังนอนอยู่ข้างนอก แม้จะมีประตูกั้น แต่เธอยังไม่ลืมอ้อมกอดเพียงชั่วครู่ ที่ถูกเขากอดเมื่อกี้นี้“พอได้แล้ว นอน ๆ ๆ อย่าเพ้อเจ้อ โอ๊ย!!!”ส่วนคนที่นอนอยู่ข้างนอก ก็ได้แต่ยืนพิงประตู
“คุณหมอคะ นี่มัน…”“เมื่อกี้ผมแอบเห็นนะ มีบางคนแอบไม่พอใจ ตอนที่มีนาขอเบอร์ผม อย่าโกหก”“ไม่ใช่ซะหน่อย ก็แค่…”“ไม่รีบขึ้นไปตอนนี้ เดี๋ยวจะดึกนะครับ”ยี่หวาจำใจต้องพาเขาขึ้นห้องมาด้วย ไม่คิดมาก่อนเลยว่าหมอติณณ์ จะรุกหนักกว่าตอนที่เธอจีบเขาด้วยซ้ำไป ตอนนั้นเธอก็คิดว่าตัวเองหน้าด้านสุด ๆ แล้วนะ แต่มาดูตอนนี้แล้ว เธอสู้หมอติณณ์ไม่ได้เลย“เข้ามาก่อนสิคะ”เขาเดินตามเธอเข้าไปในห้องชุดสุดหรู ซึ่งคิดว่าราคาน่าจะแพงเอาเรื่อง เพราะห้องของยี่หวาแม้ว่าจะเล็กกว่าที่เขาอยู่ แต่แยกสัดส่วนชัดเจน มีห้องครัวแยก และห้องนั่งเล่น ดูแล้วห้องน้ำน่าจะมีสองห้อง เพราะเห็นมีห้องนอนแยกอยู่อีกทาง“ผมขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะ”"เชิญค่ะ"เธอเปิดไฟให้เขา และเดินเข้ามาในห้อง เมื่อประตูห้องน้ำปิด ก็รีบมานั่งที่โซฟาเพื่อสงบอารมณ์“ใจเย็น ๆ ไม่มีอะไรทั้งนั้น เขาก็แค่แวะมาเข้าห้องน้ำ”ยี่หวาพยายามไม่ตื่นเต้น เมื่อหมอติณณ์เดินออกมาจากห้องน้ำ เธอก็ยื่นน้ำมาให้เขา“ดื่มน้ำก่อนไหมคะ”“ขอบคุณมากนะ ห้องของคุณ… น่ารักมาก เหมาะกับคุณมากเลย”"เอ่อ นี่คุณหมอคะ ทำไมเดินสำรวจห้องคนอื่นแบบนี้ล่ะ"เธอเดินตามเขาแทบไม่ทัน เพราะคิดว่าจะยื่นขว
หมอติณณ์หันมากระซิบ และโอบเอวเธอเข้ามาจนชิด ก่อนจะตอบเพื่อน ๆ ไป“เอาไว้ค่อยนัดเจอกันวันหลังนะ วันนี้ต้องรีบไปส่งยี่หวากลับบ้านก่อน วันนี้ทำงานเหนื่อย ต้องรีบพากลับไปพักผ่อนน่ะ”“ว้าว…. สุดยอดไปเลยหมอติณณ์ ได้เลยเอาไว้โทรคุยกัน จริงสินายเปลี่ยนเบอร์แล้วนี่ เอาเบอร์มาหน่อยสิ”"ได้สิ หวารอพี่เดี๋ยวนะ"“ค่ะ”เธอทำอะไรไม่ได้ แต่เมื่อเห็นสายตาของมีนา ก็เริ่มอยากจะเอาคืน เพราะรู้ว่า มีนาเคยชอบหมอติณณ์มาตั้งแต่สมัยเรียน และพยายามแทรกเข้ามาระหว่างเธอกับติณณ์เสมอ แต่หมอติณณ์ไม่ได้คิดอะไรกับเธอ และเคยปฏิเสธไปแล้วถึงสองครั้ง“เอาไว้ค่อยนัดเจอกันนะ”“ติณณ์กลับมาคบกับรุ่นน้องคนนี้เหรอ”“มีนา! ไม่เอาน่า นี่มันเรื่องส่วนตัวของหมอติณณ์ ไอ้ตงกับวรุณรออยู่ข้างในแล้วนะ”“แลกเบอร์กับเราด้วยสิหมอติณณ์”มีนายื่นมือถือมาให้เขา ยี่หวาสะบัดไหล่ออกจากเขาเบา ๆ แต่หมอติณณ์ก็รีบคว้าเธอเข้ามาอีกครั้ง แม้แต่หมอเจย์ ก็เห็นถึงอาการที่หมอติณณ์แสดงความเป็นเจ้าของ โดยไม่สนใจมีนาเลย “ไม่เป็นไรหรอกมีนา เอาไว้ผมติดต่อเจย์ไป แล้วค่อยเจอกันก็ได้ ไปก่อนนะเจย์ แล้วเจอกัน”“ได้สิแล้วเจอกัน เอาไว้พาน้องยี่หวา มาทานข้าวด้วยกันด
เขาได้ยินเธอคุยโทรศัพท์ และตัดสินใจตามมาที่นี่ และสังเกตเห็นว่า เธอสั่งกาแฟมานั่งดื่มไปสองแก้ว ระหว่างที่รอคู่ดูตัว ก็นึกเป็นห่วงเธอขึ้นมา“ไม่เป็นไรค่ะ คุณหมอทานข้าวเถอะค่ะ”“หายเผ็ดแล้วใช่ไหม เปลี่ยนกินอย่างอื่นมั้ย”“ก็ได้ค่ะ”ทั้งสองคนนั่งทานข้าวกันต่อเงียบ ๆ หมอติณณ์ไม่อยากจะเร่งรัดเธอ เพราะกลัวว่า นอกจากยี่หวาจะไม่ใจอ่อนแล้ว จะกลายเป็นว่า เธอจะเกลียดเขาแทน ระหว่างที่ทั้งคู่นั่งทานข้าว บรรยากาศก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ยี่หวาไม่คิดเลยว่า หมอติณณ์จะเอาใจใส่เธอ บางทีอาจจะมากกว่าตอนเป็นแฟนด้วยซ้ำไป“กินของหวานแก้เผ็ดสักหน่อยนะ เอาลูกตาลลอยแก้วสองที่ครับ”“คุณหมอชอบกินของหวานด้วยเหรอคะ”“เมื่อก่อนไม่ได้ชอบหรอก แต่เพราะต้องคอยกิน เวลาใครบางคนกินไม่หมด ก็เลยกลายเป็นชอบไปแล้วน่ะ”“เปล่าเสียหน่อย ก็แค่อยากให้ลองชิมเท่านั้นเอง”“ยอมรับเหรอว่า กินไม่หมดจริง ๆ”“ก็…ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ ตอนนั้นกับตอนนี้ เหมือนกันที่ไหนล่ะคะ”“ก็ได้ งั้นคราวนี้กินให้หมดล่ะ”ยี่หวาเผยยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก หมอติณณ์ได้แต่นั่งอึ้งเมื่อเห็นเธอยิ้มออกมา เขาคิดถึงเธอมากจริง ๆ และไม่เคยลืมได้เลย เรื่องเมื่อห้าปีก่อน ที่ยี่หว
“อะไรนะคะ เลี้ยงข้าวเหรอคะ ไม่เกินไปหน่อยเหรอคะ”“คุณไม่เลี้ยงไม่เป็นไร ผมเลี้ยงคุณเองก็ได้ ไหน ๆ ก็อยู่ที่ร้านแล้วนี่ จริงไหม นั่งก่อนสิ ผมหิวมากเลย”“นี่คุณ…”เขาพูดและดันเธอไปนั่งเก้าอี้ตัวในสุด และเขานั่งข้าง ๆ เพื่อไม่ให้เธอหนี ยี่หวาทำตัวไม่ถูก แต่วันนี้ที่จริงแล้ว เธอคงต้องขอบคุณเขาจริง ๆ ที่ช่วยเธอเอาไว้ เพราะไม่คิดว่าศุภนัทจะตื๊อเก่งขนาดนั้น“อยากกินอะไรดีล่ะ ที่นี่มีอาหารที่คุณชอบกินหลายอย่างเลยนะ เลือกร้านได้ดีจริง ๆ”“ฉันไม่ได้เลือกเองหรอกค่ะ”“อ้องั้นเหรอ หรือว่าเราจะไปกินที่อื่นกันดีล่ะ”“ไม่ค่ะ คุณหมอทำแบบนี้เพื่ออะไรกันแน่คะ”หมอติณณ์หันไปมองบริกร ที่กำลังจะเดินมารับออเดอร์ เขาจึงสั่งอาหารสองสามอย่างโดยที่ไม่ถามเธอ ยี่หวานั่งนิ่งไม่พูดอะไร เมื่อเขาสั่งเสร็จก็หันมามองเธออีกครั้ง“ไม่รู้จริง ๆ เหรอ ว่าทำไปเพราะอะไร”ยี่หวาใจเต้นแรง เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มานานแล้ว และตอนนี้เขากำลังจะทำให้เธอ ไม่เป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง“คุณหมอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ค่ะ เรื่องที่ผ่านมาแล้ว ยังไงก็กลับคืนไปไม่ได้”“ผมก็ไม่ได้บอกว่า สนใจเรื่องที่ผ่านมา ที่ผมต้องการคือตอนนี้ต่างหาก”“คุณต้องก
ยี่หวารู้สึกเหนื่อยมาก กับการที่แม่ของเธอ ชอบสรรหาคนมาดูตัวและจับคู่ให้เธอ ยี่หวาไม่อยากขัดใจแม่ ทุกครั้งเธอก็ไปตามนัด และปฏิเสธไปทุกคน ในใจของเธอยังไม่มีใครเข้ามาแทนที่เขาได้“ก็ได้ค่ะ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะคะ ที่ไหนคะ ร้านอาหารในโรงแรม... ก็ได้ค่ะ ครั้งหน้าไม่ต้องนัดใครให้แล้วนะ แค่ทำงานก็เหนื่อยจะตายแล้ว”เธอเดินออกไปเพื่อเรียกรถแท็กซี่ เพื่อไปที่นัดหมายดูตัว ตามที่แม่ของเธอจัดการเอาไว้ให้ ไม่ไปก็คงจะทำให้แม่เสียหน้า ดังนั้นเธอจึงต้องไป และปฏิเสธให้จบ ๆ ไปร้านอาหาร“ง่่วงชะมัดเลย เมื่อไหร่จะมาเนี่ย กาแฟแก้วที่สองแล้วนะ”เธอนั่งรออยู่เกือบครึ่งชั่วโมง คู่ดูตัวของเธอเหมือนว่าจะยังไม่มา “อีกสิบนาทีถ้าไม่มา ฉันจะกลับบ้านแล้วนะ”ไม่นานหลังจากที่เธอพึมพำกับมือถือ เพราะนั่งไถฟีดข่าวไปเรื่อย ผู้ชายสวมชุดสูทสีดำ ก็เดินเข้ามาหาเธอทันที“สวัสดีครับ คุณชื่อยี่หวาหรือเปล่า”“ใช่ค่ะ”เธอเงยหน้าขึ้นไปมองคู่ดูตัวของเธอ เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ ที่น่าจะอายุพอ ๆ กับหมอติณณ์ แต่สีหน้าดูเจ้าชู้มากกว่า เขายื่นมือมาให้เธอ“ผมชื่อศุภนัท จะเรียกว่า “นัท” ก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ"“ยินดีที่ได้รู้จ
コメント