“สวัสดีดีครับคุณลุงขจร สุขสันต์วันเกิด ขอให้คุณลุงสุขภาพแข็งแรงนะครับ” เวทานนท์เอ่ยกับคุณขจรเจ้าของงานที่ยืนอยู่พร้อมภรรยาและลูกสาว
“หวัดดี หลานชายแล้วนี่เจ้าสัวไม่ได้มาเหรอ” “คุณพ่อติดธุระด่วนครับ เลยส่งผมกับเลขามาแทน นี่คุณนวพรรษเลขาผมครับคุณลุง” คนร่างโปร่งที่ยืนอยู่ข้างชายหนุ่มยกมือไว้เจ้าของงานทันที “สวัสดีครับท่าน สวัสดีครับคุณหญิง ” “หวัดดีหลานชาย ตามสบายเลยนะ น้องนิวน่ะลุงรู้จักดี ลูกชายเจ้านุเพื่อนลุงเอง พ่อกับแม่สบายดีนะน้องนิว เมื่อไหร่จะมาเมืองไทยล่ะ” “ท่านทั้งสองสบายดีครับ เห็นว่าสิ้นปีถึงจะกลับครับ” “ เข้าไปในงานกันเลยนะ อ่อ นี่น้องเฟิร์นลูกลาวคนเล็กของลุงเอง รู้จักกันไว้ จะได้สนิทกัน เฟิร์นลูกหนูดูแลพี่เวย์กับพี่นิวเขาแทนพ่อกับแม่หน่อยนะลูก พาพี่เขาไปนั่งก่อนไป” “ได้ค่ะคุณพ่อ เดี๋ยวเชิญพี่เวย์กับพี่นิวตามเฟิร์นมาเข้าไปข้างในกันค่ะ” เฟิร์นหรือกมลวรรณลูกสาวคนเล็กของคุณขจรเจ้าของรูปร่างสวยหุ่นดีทรงโต หน้าเฉี่ยวตามสมัยนิยมกล่าวกับชายหนุ่มทั้งสอง ทั้งสองหนุ่มหล่อถูกใจเธอ อีกคนหล่อคมแบบลูกครึ่งที่สำคัญรวยมาก ส่วนอีกคนหล่อแบบโอปป้าถึงจะเป็นเลขาแต่คุณพ่อเธอบอกว่ารวยไม่น้อยกว่าคนเป็นเจ้านาย เธออยากได้ทั้งสองคนแบบรักพี่เสียดายน้อง วันนี้แหละเธอต้องได้ใครสักคนมาเป็นของตัวเองให้ได้ เธอตกลงกับคุณพ่อกับคุณแม่เธอแล้ว ตอนนี้การเงินของครอบครัวเธอค่อนข้างฝืด ที่จัดงานวันนี้ เพราะพ่อเธอต้องการหาคนร่วมทุนและหาลูกเขยรวยๆเพื่อจับคู่ให้เธอ ซึ่งเธอก็เล็งสองหนุ่มหล่อนี้ไว้แล้ว สองหนุ่มเดินตามมานั่งที่โต๊ะตามที่ลูกสาวเจ้าของงานพามา นวพรรษมองดูท่าทีที่พยายามที่จะสนิทชวนคุยตลอดเวลาของสาวงามอย่างเฟิร์นและเวทานนท์เจ้านายหนุ่ม สองชายหญิงคุยกันกระซิบกระซาบหญิงสาวใช้หน้าอกใหญ่เบียดลำแขนแกร่งด้วยท่าทีเชิญชวน เจ้านายเขาก็กระไรนั่งให้เขาเอานมเบียดอยู่ได้ สงสัยจะชอบเห็นคุยไปด้วยยิ้มไปด้วย ไอ้คนหื่นเอ๊ย “คุณนวพรรษ สวัสดีดีครับเจอกันอีกแล้ว สงสัยชะตาเราจะต้องกัน” เสียงทักข้างๆหู ทำให้นวพรรษหันไปมองตามเสียง “อ่อ สวัสดีครับคุณไกรสร” “ผมขอนั่งด้วยคนนะครับ” ไกรสรเอ่ยปากแล้วนั่งลงข้างหนุ่มหน้าสวย ใช่เขาถูกใจนวพรรษมาก พยายามจะเข้ามาจีบแต่เหมือนอีกฝ่ายระวังตัวมาก เขารู้มาว่าครอบครัวของนวพรรษรวยมาก เขาจึงต้องจีบให้ติด “อ้าวคุณเวทานนท์ สวัสดีครับ สวัสดีครับคุณเฟิร์น เห็นคุณเวทานนท์คุยถูกคอกับคุณเฟิร์น แบบนี้คุณนวพรรษคงเหงา ถ้างั้นไปนั่งที่โต๊ะอื่นกับผมสองคนไหมครับ จะได้ไม่เป็น กขค เจ้านายคุณเค้า” ไกรสรพูดทักทายเวทานนท์และคิดเองเออเอง ไม่ให้อีกฝ่ายได้ตอบโต้เลย ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้จักกมลวรรณหรือเฟิร์น เค้าสองคนเคยกินกันมาก่อน ตัวไกรสรเป็นเสือใบได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ผู้หญิงเขาไม่ถือแต่ถ้าเป็นผู้ชายจะชอบมากกว่า ตอนแรกจะเอากมลวรรณมาเป็นคู่ควง แต่พอรู้ฐานะทางการเงินคุณขจร เขาขอถอยดีกว่า เพราะเขาเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าคุณขจรมากนัก พอได้จังหวะเวทานนท์รีบบอกอีกฝ่ายด้วยความหงุดหงิด “ผมมากับเลขาของผมครับ เลขาของผมก็ต้องอยู่ข้างตัวผมสิครับคุณไกรสร ผมคงให้ไปกับคุณไม่ได้ คุณเฟิร์น เค้าแค่มาดูแลแขกแทนคุณพ่อเขาแค่นั้น เดี๋ยวคุณเฟิร์นก็ต้องไปรับแขกกับคุณพ่อของเค้าแล้วครับ ใช่ไหมครับคุณเฟิร์น ” สุดท้ายแล้วประธานหนุ่มก็หันมาทางหญิงสาวคนเดียวในโต๊ะ เชิงพูดกรายๆว่าให้ลุกไปรับแขก ดูแลแขกคนอื่นได้แล้ว ที่จริงเขารำคาญหญิงสาวเหมือนกัน แต่กำลังหาวิธีหาทางออกให้หญิงสาวลุกจากโต๊ะไปยังไงดี เพื่อจะได้ดูไม่เสียมารยาทกับสุภาพสตรี ต้องขอบคุณไกรสรที่เอาตัวเข้ามาถูกจังหวะพอดี แต่ไม่ชอบใจตรงมาคุยสนิทกับเลขาเขานี่แหละ “งั้น เดี๋ยวเฟิร์นขอตัวไปช่วยคุณพ่อกับคุณแม่รับแขกก่อนนะคะ พี่เวย์กับพี่นิวรับอะไรเพิ่มไหมคะ เดี๋ยวเฟิร์นบอกเค้าเอามาเสิร์ฟให้ คุณไกรสรด้วยค่ะ เดี๋ยวเฟิร์นมานะคะ” หญิงสาวลุกเดินออกจากโต๊ะไปอย่างเสียมิได้ ดีเลยกำลังหาโอกาสออกมาปรุงน้ำสูตรพิเศษให้พี่เวย์กับพี่นิวสุดหล่ออยู่พอดี เดี๋ยวน้องมานะคะที่รักหญิงสาวคิดในใจ “คุณนิว วันหยุดเสาร์ อาทิตย์นี้ไปไหนไหมครับ พอดีเพื่อนผมเปิดร้านอาหารใหม่ อยากจะชวนคุณนิวไปลองทานดู มันบอกมันจ้างเชฟมาจากโรงแรมดัง มันอยากให้เข้าไปชิม กับช่วยคอมเมนท์ให้หน่อย” “เอ่อ…” “เสาร์ อาทิตย์นี้เจ้าสัวจะให้คุณนิวเดินทางไปดูงานกับผมที่เชียงใหม่ครับ เค้าคงไม่ว่างไปเป็นนักชิมกับคุณไกรสร” เวทานนท์รีบตอบแทนอีกคนที่มัวแต่อ้ำอึ้งอยู่ คำตอบของชายหนุ่มทำเอาคุณเลขางง ไหนว่าจะไปภูเก็ตแล้วทำไมบอกไกรสรว่าไปเชียงใหม่ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร “ว้า… เสียดายจังเลยครับ งั้นเดี๋ยวรอคุณนิวกลับมาก่อนก็ได้ครับ ว่าแต่ว่า บริษัทของคุณเวทานนท์ใช้งานพนักงานหนักจังเลยครับ หลังเลิกงานก็ให้ออกงานกับเจ้านาย เสาร์อาทิตย์ก็ไม่ให้หยุด แบบนี้แย่เลยครับไม่มีเวลาส่วนตัวเลย” “ไม่ต้องห่วงเลขาผมหรอกครับ เขาได้รับค่าตอบแทนจนคุ้มนั่นแหละ นิว คุณไปคุยกับ ท่านขจรเป็นเพื่อนผมหน่อย” “ได้ครับ” “งั้นผมกับเลขาของผม ขอตัวก่อนนะครับ คุณไกรสร” พูดจบเวทานนท์ก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะมองมาที่เลขาเชิงบังคับให้ลุกตามออกมา “ทำไม ทำหน้าเหมือนไม่อยากลุกออกมาจากโต๊ะนี่คือ อยากคุยกับคุณไกรสรสายเปย์ รูปหล่อต่อใช่ไหม” เวทานนท์ถามนวพรรษด้วยน้ำเสียงประชด “เปล่าครับ ” เวทานนท์เดินนำนวพรรษไปทักทายท่านขจรเสร็จ ก็เดินทักทายคู่ธุรกิจของเจ้าสัวคนอื่นๆต่อ แล้วก็พากันเดินมานั่งที่โต๊ะซึ่งมีไกรสรและเฟิร์นนั่งคุยกันอยู่ก่อนแล้ว “พี่เวย์กับพี่นิวไปนานจังเลยค่ะ คุณไกรสรนั่งฟังเฟิร์นพูดจนเบื่อแย่แล้วเนี่ย” “พอดีเจอเพื่อนๆคุณพ่อพี่น่ะครับเลยคุยนาน ” เวทานนท์ตอบหญิงสาว พลางนั่งลงโดยสลับที่นั่งจากตามย้ายตัวเองมานั่งข้างไกรสรแทน นวพรรษเลยต้องนั่งติดกับเวทานนท์อีกข้าง ซึ่งติดกับกมนวรรณ “น้ำน่าจะละลายหมดเเล้ว เดี๋ยวเฟริ์นให้เด็กมาเปลี่ยนให้ใหม่นะคะ ” หญิงสาวมองหาบริกรที่นัดแนะกันไว้ “น้องคะ เชิญทางนี้ค่ะ พี่เวย์กับพี่นิวรับน้ำอะไรดีคะ” “ขอน้ำเปล่าทั้งสองที่เลยแล้วกัน เพราะเดี๋ยวพี่ต้องขับรถเอง ขอบคุณครับน้องเฟิร์น” เวทานนท์ตอบหญิงสาวไป เริ่มทานกันได้สักพัก อวยพรวันเกิดคุณขจรเจ้าของวันเกิดเสร็จก็ถึงเวลากลับ “เดี๋ยวเราต้องกลับแล้ว ไปลาคุณลุงขจรกันเถอะ” เวทานนท์พูดกับนวพรรษ เหมือนแจ้งให้ที่โต๊ะรู้ด้วยว่าเขาทั้งสองจะกลับแล้ว ตอนนี้เขารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว รู้สึกมีความต้องการทางอารมณ์ เขาคิดว่าน่าจะโดนยาปลุกแน่ๆ เขาต้องรีบกลับบ้านด่วน ไม่งั้นเกิดเรื่องแน่ ส่วนเฟิร์นได้ยินดังนี้คิดว่ายาที่ใส่ในน้ำเปล่าให้ทั้งสองคนได้ดื่มน่าจะเริ่มออกฤทธิ์แล้ว นับว่าเธอเดาถูกคิดว่าทั้งสองคงจะรับน้ำเปล่าแต่กันพลาดเธอให้บริกรใส่ในน้ำชนิดต่างๆมาทั้งถาดเลย ถ้าทั้งสองไม่กินก็เททิ้ง กมลวรรณจึงมองสบตากับไกรสรเป็นอันรู้กัน “พี่เวย์คะ ก่อนกลับพี่เวย์ช่วยไปเอาของขวัญที่เฟิร์นซื้อไว้ให้คุณพ่อกับเฟิร์นหน่อยได้ไหมคะ พอดีมันต้องยกสองคนค่ะ ช่วยเฟิร์นหน่อยนะคะ” “เอ่อ ของอยู่ที่ไหนนะน้องเฟิร์น” “เฟิร์นแอบไว้ อยู่ที่ห้องเฟิร์นค่ะ ไปแปล๊บเดียวนะคะ” “ก็ได้ครับ แค่แปล๊บเดียวนะครับ” ก่อนที่กำลังจะเดินออกไปหญิงสาวก็หันมาบอกเลขาหน้าสวย “ป่ะ คุณนิวไปช่วยผมหน่อย คุณเฟิร์นบอกต้องไปยกสองคน” ประธานหนุ่มพยายามสบตาเลขาเพื่อสื่อให้มาด้วยกัน ไกรสรได้ยินก็รีบพูดทันที “คุณนิวครับ พอดีผมมีของมาฝากคุณนิว แต่อยู่ที่รถ คุณนิวเดินไปเอากับผมแปล๊บนึงได้ไหมครับ นะครับ มาครับคุณนิวผมตั้งใจเลือกมาให้คุณนิวของผมโดยเฉพาะ ปล่อยเจ้านายคุณไปกับคุณเฟิร์นก่อนเถอะครับ” พูดเสร็จไกรสรก็ถือโอกาสคว้ามือเรียวของนวพรรษให้เดินตามตัวเองทันที นวพรรษเองก็รู้สึกขนลุกซู่ รู้สึกอยากให้ไกรสรสัมผัสมากกว่านั้น แววตาที่มองไกรสรดูเย้ายวน ขาเรียวก้าวตามแรงจูงของไกรสรแบบงงๆ เวทานนท์ได้ยินไกรสรพูดรีบหันกลับมาและดึงมืออีกข้าง “คุณนิวจะไปไหน ไปกลับผมก่อน” แม้กระทั่งสัมผัสของเจ้านายหนุ่มเองนวพรรษก็รู้สึกดีไปด้วย ตอนนี้นวพรรษเองอยากโดนสัมผัสมากกว่านี้จากใครก็ได้ เวทานนท์มองดูแววตาเย้ายวนแปลกๆ ของนวพรรษซึ่งปกติไม่เคยได้เห็น ก็รู้สึกแปลกใจคิดว่าเลาขหนุ่มต้องโดนยาปลุกเหมือนเขาเป็นแน่ เวทานนท์ล้วงเอาโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อสูทออกมาคุยเพื่อเอาตัวเองออกจากสถานการณ์แย่ๆ นี้ “ครับ คุณพ่อ ครับๆ ผมกับนิวกำลังจะกลับครับ ครับกำลังจะออกมาแล้วครับ” หลังจากแกล้งคุยโทรศัพท์ทิพย์กับเจ้าสัวเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์หวาดเสียวนี้ก็หันมาหาเลขา “คุณนิวเราต้องกลับแล้วคุณพ่อโทรตามให้ไปโรงพยาบาลด่วน งั้นผมกับเลขาขอตัวก่อนนะครับ น้องเฟิร์นคุณไกรสร ยังไงน้องเฟิร์นให้คุณไกรสรไปเอาของแทนพี่ก่อนนะ รบกวนคุณไกรสรด้วยนะครับ ผมไปแล้วครับ” “เดียวซิคะพี่เวย์ ไปกับเฟิร์นแปล๊บเดียวเองค่ะ” เฟิร์นพยายามยื้อเวทานนท์ไว้ ให้ชายหนุ่มไปกับตัวเองให้ได้ แต่ชายหนุ่มก็เอามือหนาปลดมือของหญิงสาวออกจากเเขนตัวเองเช่นกัน แล้วก็รีบไปแย่งมือของนวพรรษข้างที่โดนไกรสรจับอยู่ออก แล้วก็รีบดึงไปที่รถทันที “ขอโทษนะครับคุณไกรสร พอดีคุณพ่อผมตามให้ไปที่โรงพยาบาลด่วนครับ ” “เดี๋ยวซิครับคุณให้คุณนิวไปเอาของขวัญกับผมแปล๊บเดียวครับ” “ไว้วันหลังนะครับพวกผมต้องไปแล้ว” นวพรรษเองที่รู้สึกแปลกๆกับตัวเอง ไม่ได้ตอบโต้อะไรกับคุณไกรสรออกไป ได้แต่เดินแบบงงๆตามแรงจูงของเจ้านายไปที่รถเวลาผ่านไปจนหนูน้อยน้องเนมเติบโตจนอายุได้สองขวบ เด็กชายวรานนท์โตมาท่ามกลางความรักของทุกคนในครอบครัว เด็กน้อยตัวสูงหน้าตาคมคายคล้ายไปทางลูกครึ่งเหมือนผู้เป็นบิดา แต่ก็มีดวงตาคมขนตางอนผิวขาวเนียนเหมือนผู้เป็นมารดา อีกทั้งยังมีความฉลาดเกินวัยใครเห็นก็หลงรัก หนักสุดคือผู้เป็นแด็ดดี้อย่างเวทานนท์ที่หลงลูกหนักมากตามใจทุกอย่าง จนบางทีผู้เป็นแม่อย่างนวพรรษต้องปราม จนเหนื่อยจะปรามทั้งพ่อทั้งลูก ทุกวันนี้คุณป๊ากับคุณม๊าได้ย้ายมาอยู่คฤหาสน์เจ้าสัวตามคำชวนของเพื่อนรักแล้ว เพราะจะได้ช่วยกันดูแลหลานคนเดียว แด็ดดี้กับมามี๊ของหลานน้อยจะได้ไม่ต้องคอยอุ้มน้องเนมนอนบ้านคุณปู่ทีนอนบ้านคุณตาที อีกอย่างทั้งสองครอบครัวต่างมีลูกแค่คนเดียวพ่อแม่ก็แก่ลงทุกวัน เจ้าสัวกลัวลูกสะใภ้จะคอยกังวลเรื่องพ่อแม่ ให้มาอยู่รวมกันเสียที่นี่จะได้ช่วยกันดูแลกันและกัน ตอนนี้ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของเจ้าสัวเลยคึกคักไม่เหงาอีก พอน้องเนมเริ่มโต อีกไม่กี่ปีก็จะได้เข้าโรงเรียน ถึงตอนนั้นบรรดาคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายคงเหงา เพราะถ้าน้องเนมไปโรงเรียนระหว่างรอหลานตอนกลางวันคนแก่คงพากันเหงาน่าดู เลยอยากมีหลานเยอะๆ ไว้แก้เหงา พอเรียบๆ เคียงๆ ถ
วันนี้คุณแม่ท้องแก่ใกล้คลอดอยู่บ้านคนเดียวกับเหล่าบรรดาคนรับใช้ เพราะคุณสามีมีประชุมบอร์ดบริหารที่ไม่สามารถเลี่ยงได้จำเป็นต้องไปเอง แต่กว่าจะไปได้ก็อิดออดไม่อยากไป ย้ำคิดย้ำทำสั่งเสียเมียรักไม่ให้เดินเยอะ ให้แม่บ้านคอยอยู่ใกล้ชิด มีอะไรให้โทรหาทันที จนเจ้าสัวเวทินผู้เป็นพ่อซึ่งล่วงหน้าไปทำงานก่อนหน้าโทรมาตามคุณประธานถึงได้จำใจห่างเมียรักไปทำงาน เวลาผ่านไปล่วงเข้าช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันหลังทานของว่างมื้อบ่ายเสร็จนวพรรษก็เดินมาเพื่อที่จะเอนหลังพักผ่อนโดยมีป้าใจหัวหน้าแม่บ้านคอยพยุงมานั่ง แต่รู้สึกว่าปวดหน่วงๆ ที่เอวและที่ท้อง “ซี๊ดดดด ถีบม่ามี๊แรงจังเลยลูก คิดถึงแด็ดดี้เหรอครับ เดี๋ยวแด็ดดี๊ก็กลับมาแล้วครับ เรามานอนรอดีกว่านะครับ” ยังไม่ได้ทันได้นั่งลงที่โซฟาเลย จู่ๆ นวพรรษก็รู้สึกว่ามีน้ำไหลลงระหว่างขา พร้อมปวดท้องมากขึ้น“อ๊ะ ป้าใจ มีน้ำอะไรไหลลงมาที่ขานิวไม่รู้ อูยยย นิวปวดหน่วงท้องจัง ” ป้าใจแม่บ้านก็ตกใจกับสิ่งที่คนเป็นนายบอก“คุณนิวจะคลอดคุณหนูแน่เลยค่ะป้าว่า เดี๋ยวเรารีบไปโรงพยาบาลกันก่อนดีกว่านะคะ นังรุ้งวิ่งแกไปบอกคนรถเอารถออกพาคุณนิวไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ป่ะ ยัยหวีแกไปเอากระเป๋าท
“หมดเรื่องซะทีนะเจ้าตัวดี อยู่ๆ พ่อก็ต้องเสียเงินฟรีกับขาดรายได้จากโรงแรมซะงั้น แต่ไม่เป็นไรแลกกับความสบายใจของน้องนิวลูกสะใภ้พ่อ” เจ้าสัวเอ่ยขึ้นกับลูกชายตัวดีหลังจากพากันส่งอิงจันทร์ขึ้นรถที่หน้าบ้านแล้วให้คนขับรถไปส่งเข้าที่พักที่โรงแรมอีกที่ “โธ่พ่อเงินแค่น้ี แต่ยังไงเวย์ต้องขอบคุณพ่อด้วยนะครับที่จัดการให้ เพราะถ้าพ่อมาไม่ทันเวย์ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงกลัวเมียงอนก็กลัว ตอนนี้เวย์ไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้ว” เวทานนท์ถือโอกาสขอบคุณผู้เป็นพ่อที่ช่วยเหลือจัดการไม่ให้ทางโน้นบอบช้ำมากและไม่ให้เค้ามีปัญหากับเมียรัก “เอ่อไม่เป็นไร แล้วนี่น้องนิวลูกสะใภ้ของพ่อไปไหนแล้วล่ะ ต้ังแต่มายังไม่เห็นหน้าเลย คงไม่โกรธแกจนหนีไปบ้านแม่เค้าแล้วนะ” เจ้าสัวถามหาลูกสะใภ้คนโปรดเพราะตั้งแต่เข้าบ้านมายังไม่เห็นหน้าอีกฝ่ายเลย “พ่ออย่ามาชี้โพรงให้กระรอกเดี๋ยวเกิดมาได้ยินเก็บไปเป็นไอเดียเอาไปใช้ตอนงอนเวย์จริงๆ แย่เลย ขึ้นไปพักตั้งแต่อิงจันทร์มาแล้วครับ เดี๋ยวเวย์ไปหาก่อนนะครับ คงต้องง้อนานหน่อยเจอกันตอนทานข้าวเย็นเลยนะครับ พ่อก็รีบขึ้นไปเถอะเมียพ่อรอนานแล้วเดี๋ยวนึกว่าติดใจอิงจันทร์นะครับเห็นเปย์ทั้งเงินท
เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนตอนนี้อายุครรภ์ของนวพรรษได้ 8 เดือน ท้องเริ่มโตขึ้นนูนเด่นชัดเจน เจ้าตัวเล็กในท้องก็ขยันดิ้นเคลื่อนไหวร่างกายให้คุณพ่อกับคุณแม่ตื่นเต้นตลอด หลังๆ เวลาขยับดิ้นคุณแม่เริ่มมีอาการเจ็บเล็กน้อย พอคุณพ่อเอามือลูบปลอบเจ้าตัวเล็กในครรภ์ก็เหมือนจะเชื่อฟังคุณพ่อหยุดดิ้นเพื่อให้คุณแม่คลายเจ็บ จนบางทีคุณแม่นึกน้อยใจที่ลูกน้อยในครรภ์ดูจะรักและเชื่อฟังคุณพ่อมากกว่าคนอุ้มท้องเสียอีก ช่วงหลังๆ เวทานนท์ไม่ยอมให้คุณแม่ท้องโตตามตัวเองไปทำงานที่บริษัทเพราะท้องเริ่มโต เริ่มเดินเหินลำบาก และเป็นตะคริวบ่อยๆ จนตอนนี้ตัวเวทานนท์เองเลยต้องเอางานมานั่งทำที่บ้านแล้วเฝ้าคุณแม่ท้องโตแทน ส่วนที่บริษัทก็ให้เจ้าสัวกับธนศิลป์ดูแลไป ตอนนี้คุณพ่อกำลังนวดเท้าให้คุณแม่ท้องโตเพราะเท้าบวมโดยให้คุณแม่นอนบนโซฟาตัวใหญ่แล้ววางขาบนตักของคุณพ่อ “เท้าบวมมากเลยที่รัก แต่ก็ดูอวบๆ น่ารักดี สบายขึ้นไหม ฮืมม ฟอดดดดด” เวทานนท์ก้มลงหอมเท้าบวมน่ารักของคุณภรรยาอย่างหมั่นเขี้ยว “พี่เวย์ ไม่เอาครับมันสกปรก” คุณแม่รีบถดขาถอยหนี คุณพ่อคว้าขาเรียวกลับมาวางบนตักอีก “สกปรกที่ไหน น่ารักและหอมขนาดนี้ ” พูดไปมือก็ลูบคลึงเท้า
“เป็นยังไงบ้างเบบี๋ นิทานของแด็ดดี้สนุกไหมครับ”เวทานนท์ทำเสียงเล็กเสียงน้อยอ่านนิทานให้ลูกน้อยในท้องของภรรยาฟัง ตอนนี้นวพรรษอายุครรภ์ได้ 5 เดือนแล้ว หลังจากทำอัลตร้าซาวน์ดูเพศเด็กแล้วปรากฏว่าทั้งสองได้ลูกชาย สร้างความยินดีให้กับทุกคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก ถึงแม้อายุครรภ์จะได้ 5 เดือน แต่กระนั้นเป็นท้องแรกของคุณแม่เลยดูยังไม่โตมากเท่าไรแค่เหมือนคนอ้วนลงพุง ทุกคืนเวทานนท์จะต้องมานอนเล่านิทานให้ลูกน้อยในท้องฟังก่อนนอนเสมอ ตามด้วยการไปเยี่ยมทักทายลูกชายในครรภ์ อายุครรภ์เลยช่วงการมีความเสี่ยงต่อการแท้งแล้ว ทำให้คนพ่อจอมหื่นเลยขยันไปเยี่ยมลูกน้อยเป็นพิเศษอ้างว่าลูกบอกเหงาอยากคุยกับแด็ดดี้ และแด็ดดี้ก็อยากต่อแขนต่อขาให้เบบี๋แข็งแรง วันนี้หลังอ่านนิทานเสร็จมีหรือคนหื่นจะพลาด จากตอนนี้ที่เวทานนท์นอนตะแคงซ้อนอยู่ด้านหลังคนร่างเพรียวที่ดูอวบขึ้นนิดหน่อยให้น้องน้อยนอนตะแคงหันหลังหนุนแขวนตัวเองฟังนิทานอยู่ พอนิทานจบคนเจ้าเล่ห์ก็วางหนังสือลงบนโต๊ะข้างเตียง พอชะโงกมาดูหน้าคนในอ้อมกอดพบว่าตอนนี้คุณแม่เริ่มตาปรือแล้ว ทำท่าจะหลับมิหลับแหล่ จะโดนลักหลับยังไม่รู้ตัวอีกเมียตู“ที่รักอย่าเพิ่งหลับซิ เบบี
พอมาถึงบ้านว่าที่คุณพ่อก็รีบแจ้งข่าวดีให้ทั้งฝั่งเจ้าสัวและคุณป๊าคุณม๊าของนวพรรษให้ทุกคนได้ทราบด้วยความตื่นเต้นและดีใจ แม้กระทั่งคนรับใช้ในบ้านต่างก็รับทราบและยินดีกันถ้วนหน้า ว่าที่คุณพ่อไม่ค่อยจะเห่อเลย คอยประคบประหงม ประครองเวลาคุณแม่จะเดินไปไหนมาไหนก็ไปด้วย ทำตัวติดร่างเพรียวตลอดเวลา“ค่อยๆ ลุก ค่อยๆ เดินครับเมีย มานั่งพักตรงนี้ก่อนมา ระหว่างรอทานข้าว ” นวพรรษแอบมองบนสามีขี้เห่อ ไม่ว่านวพรรษจะขยับตัวทางไปไหน ร่างสูงของสามีก็จะคอยเข้ามาประครองตลอด จนตอนนี้ตัวแทบจะสิงร่างเพรียวอยู่แล้ว “พี่เวย์ครับ นิวแค่ท้องไม่ได้เป็นง่อยหรือพิการนะครับ นิวเดินเองได้” พอโดนเมียห้ามคุณพ่อขี้เห่อก็ทำหน้าหงอยทันที นึกน้อยใจที่ภรรยาหน้าหวานมองไม่เห็นความหวังดีหรือคงรำคาญตัวเขา เวทานนท์เลยแทบจะปล่อยมือจากเอวบางทันที“พี่ขอโทษนะครับ ที่พี่เป็นห่วงหนูมากไปหน่อยจนทำให้หนูรำคาญ” พอได้เห็นสีหน้าและน้ำเสียงของสามีเลยทำให้นวพรรษรู้เลยว่าทำให้อีกคนน้อยใจเสียแล้ว ลำบากคุณแม่ต้องง้อแล้วสิ “ฟอดดดดด พี่เวย์ไม่งอนนะครับคนดีของเมีย นิวแค่กลัวพี่เวย์ลำบาก กลัวพี่เวย์เหนื่อย คอยทำโน่นทำนี่ให้นิวตลอดเวลา ตัวเล็กช่ว
โอ๊ก อ๊วก อ๊วก แว่ะเสียงในห้องน้ำตอนเช้าทำเอานวพรรษตื่นจากนิทรารมณ์แสนหวาน เมื่อคืนกว่าจะได้นอนผ่านศึกรักกับคุณสามีถึงค่อนคืนจึงค่อนข้างเพลีย ว่าแต่ตัวต้นเรื่องหายไปแสดงว่าเสียงในห้องน้ำเป็นเสียงของพี่เวย์แน่ๆ แล้วพี่เวย์เป็นอะไรล่ะ คิดได้ดังนั้นจึงลุกจากที่นอนไปหาคนที่อยู่ในห้องน้ำด้วยความเป็นห่วง“ก๊อก ก๊อก ก๊อก พี่เวย์ครับเป็นอะไรหรือเปล่า นิวเข้าไปนะ” พอเปิดประตูเข้าไม่รู้จะขำหรือจะสงสารดีที่เห็นท่านประธานบริษัทหมื่นล้านมานั่งกอดชักโครกอาเจียนจนหมดสภาพ“เป็นยังไงบ้าง ทำไมอยู่ๆ ก็อาเจียนล่ะครับ อาหารเป็นพิษหรือเปล่า” นวพรรษถามคนไม่สบายอย่างเป็นห่วงพร้อมกับคิดหาสาเหตุที่ทำให้คนที่สุขภาพดีมาตลอด ไม่สบายได้“เมียจ๋า ผัวไม่ไหวแล้ว เวียนหัว คลื่นไส้ อยากอ๊วก ฮือ ฮือ ” นวพรรษอึ้งเลยพอเห็นสามีพูดไปร้องไห้ไป อารมณ์ไหนของคุณเค้าเนี่ย สงสัยจะอาการหนัก “โอ๋ โอ๋ พี่เวย์มีแรงลุกไหม มาเดี๋ยวนิวช่วยพยุง เดี๋ยวเราไปหาหมอกันนะครับ” คนเป็นเมียเข้าไปพยุงคนป่วยให้ลุกขึ้นแล้วไปล้างหน้าบ้วนปากที่อ่างล้างหน้า “อาบน้ำไหวไหม ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวนิวอาบให้” คนตัวหนารีบส่ายหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาทันที อยากใ
ผ่านพ้นงานแต่งไปได้อาทิตย์กว่า สองสามีภรรยาก็กลับมาทำงานปกติในฐานะท่านประธานกับเลขาส่วนตัวเพราะตอนนี้โต๊ะทำงานเดิมของนวพรรษมีหญิงวัยกลางคนมาทำหน้าที่เลขามานั่งแทนที่ ส่วนที่นั่งใหม่สามีให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันในห้องเดียวกัน มีหรือสามีของนวพรรษจะให้มานั่งเฉยๆ ตอนนี้คอยหาเศษหาเลยหาทางเอาเปรียบภรรยา ตอดเล็กตอดน้อยอยู่ตลอดเวลา พอให้ชื่นใจ “พี่เวย์ปล่อยนิวก่อน เดี๋ยวทำงานไม่ทันนะ วันนี้มีประชุมบอร์ดบริหารด้วย ปล่อยก่อนนะครับคุณสามี” เสียงออดอ้อนให้ท่านประธานจอมหื่นปล่อยตัวเองที่ตอนนี้โดนสามีจับให้มานั่งบนตักหลังเอากาแฟมาเสิร์ฟ โดนสามีจับมาจูบจับมาหอมแก้มจนไม่ได้ทำงาน ร่างเพรียวเริ่มเหนื่อยใจกับสามีที่งอแงบ่อยช่วงนี้ “ขอผัวหอมหน่อย เวียนหัวอ่ะตอนนี้ พอได้กลิ่นเมียแล้วมันสดชื่น มีแรงทำงานหาเงินเลี้ยงเมียขึ้นเยอะเลย ฟอดดดด ถ้าไม่อยากเสียเปรียบหอมพี่คืนได้นะ” “กริ้ง กริ้ง กริ้ง ” เสียงโทรศัพท์ติดต่อภายในจากเลขาหน้าห้องดังขึ้นขัดจังหวะสวีทหวานกับเมียทำเอาท่านประธานหัวเสียทันที “มีอะไรครับ คุณมาลีวรรณ” เวทานนท์ถามเลขาหน้าห้องเสียงเข้มปนหงุดหงิด“เอ่อ ขอประทานโทษค่ะท่านประธาน พอดีดิฉันจะแจ้งท่าน
จากวันที่ผู้ใหญ่คุยตกลงกันจนกระทั่งวันนี้ก็ผ่านไป 3 สัปดาห์ วันนี้เป็นฤกษ์ดีที่คุณม๊าไปหามาจากพระอาจารย์ที่นับถือ จึงได้เป็นวันหมั้นกับวันแต่งงานของเวทานนท์กับนวพรรษ เมื่อเช้าเพิ่งผ่านงานหมั้นมา ช่วงเย็นนี้เลยเป็นงานแต่งที่จัดขึ้นที่โรงแรมชื่อดังระดับ 6 ดาว ซึ่งเจ้าสัวเวทินเป็นเจ้าของ งานแต่งนี้ตั้งใจจัดเป็นการส่วนตัวภายในเชิญแต่เครือญาติ แต่คู่แต่งงานทั้งสองเป็นลูกคนดัง จึงเป็นงานที่สื่อมวนชลให้ความสนใจขออนุญาตเจ้าสัวเข้ามาเก็บรูปทำข่าว ซึ่งเจ้าสัวอนุญาตแค่ไม่กี่สำนักข่าวเท่านั้น กว่าจะเสร็จสิ้นงานพิธีการจนตอนนี้ถึงขั้นส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอเล่นเอาทั้งคู่เหนื่อยเลย แต่ก็เป็นการเหนื่อยแบบอิ่มเอมใจ เจ้าบ่าวยืนยิ้มกริ่มตลอดงาน พอผู้หลักผู้ใหญ่เข้ามาอวยพรในห้องหอที่จัดไว้ที่ห้องพักพิเศษสมฐานะเจ้าของโรงแรมแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาส่วนตัวของทั้งคู่ เวทนนท์รีบเดินไปล็อคประตูทันทีแล้วกลับมาสวมกอดนวพรรษที่หันหลังกำลังเช็ดหน้าเพื่อที่จะอาบน้ำ “ฟอดดด ขอบคุณนะครับ ที่ไว้ใจพี่ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพี่ รักนะครับ” นวพรรษหันกลับมาหาอีกคนพร้อมสวมกอดตอบและหอมแก้มคนพี่“ขอบคุณพี่เวย์เช่นกันนะครับ ที่ให