เด็กเลี้ยงของเฮียชัช (Mpreg)

เด็กเลี้ยงของเฮียชัช (Mpreg)

last updateLast Updated : 2024-12-15
By:  ChenaimeiOngoing
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
50Chapters
1.2Kviews
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

รู้ตัวอีกทีอัยย์ก็รักเฮียชัชไปแล้ว ..แล้วหลังจากนี้เขาต้องทำยังไงในเมื่อรู้อยู่เต็มอกว่าความสัมพันธ์ของเราสองคนไม่มีทางเป็นไปได้...

View More

Chapter 1

บทที่ 1.1 อัยย์ อคิราห์

เสียงระฆังดังขึ้นเป็นสัญญาณให้รู้ว่าการต่อสู้บนสังเวียนกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วนับจากนี้ ดวงตากลมสีน้ำตาลเข้มจ้องมองคู่ต่อสู้ด้วยสายตาอันแรงกล้า จับจุดไปยังบริเวณหน้าอกของอีกฝ่าย เพื่อสังเกตการเคลื่อนไหวของร่างกาย

สองแขนยกขึ้นตั้งการ์ดพร้อมรับพร้อมสู้ สองเท้าก้าวลากก้าวตามหลอกล้อคู่ต่อสู้อย่างมีชั้นเชิง

หมัดเปล่าไร้นวมมีเพียงผ้าขาวบางที่พันรอบมือจนหนา ออกแรงส่งตรงมาที่หน้าของเขา ด้วยไหวพริบที่มีทำให้สามารถหลบได้อย่างเฉียดฉิว ก่อนจะสวนหมัดกลับไปที่หน้าท้องแกร่งของอีกฝ่าย

เสียงโหเชียร์ดังลั่น ผู้คนนับร้อยที่เข้าร่วมดูการแข่งครั้งนี้ลุ้นจนตัวโก่งว่าฝ่ายที่ตัวเองเชียร์จะชนะหรือเปล่า เพราะหากชนะเงินพนันที่จะได้มันคุ้มกว่าการแพ้พนันอย่างแน่นอน

เด็กหนุ่มร่างบางที่ใครเห็นก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีทางเอาชนะอีกฝ่ายที่ร่างกายกำยำกว่าได้ อย่างนั้นการลงพนันครั้งนี้จึงมากกว่าครั้งไหน ๆ

และเป้าหมายเดียวของการแข่งขันครั้งนี้ก็เพื่อชัยชนะเท่านั้น เขาต้องห้ามแพ้เป็นอันขาด แม้จะต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดทางกายที่จะได้รับเขาก็จะไม่แพ้

การโจมตีอย่างป่าเถื่อนของอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่บ่งบอกให้รู้ว่าบนสังเวียนนี้ไม่มีกฎเกณฑ์หรือกฎกติกาใด ๆ เพราะยังไงซะมวยใต้ดินก็ไม่ใช่มวยที่ถูกกฎหมายอยู่แล้ว…

.

.

"มึงนี่มันสุดยอดเลยไอ้อัยย์"

เต้เพื่อนชายคนสนิทที่อยู่ค่ายมวยเดียวกันเอ่ยปากชมทันทีที่ลงมาจากสังเวียน หลังชนะน็อกอีกฝ่ายได้

"แล้วนี่ครูไปไหน" ก่อนจะลงมาเขายังเห็นครูชัยอยู่กลาย ๆ

"ไปเอาเงินจากพวกมัน” เต้ยิ้มร่า "มึงอะ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า กลับค่ายแล้วเดี๋ยวกูทำแผลให้"

เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ออกมารอครูชัยที่รถเพื่อกลับค่าย การพูดคุยของครูชัยและอีกฝ่ายที่แพ้พนันอยู่ในสายตาของเด็กหนุ่มที่ยืนพิงประตูรถดูอยู่

หนุ่มวัยกลางคนร่างกายกำยำสมฉายานักมวยเก่าชื่อดังเดินกลับมาที่รถพร้อมยื่นซองสีน้ำตาลหนาให้กับอัยย์

“ครูให้อัยย์แค่ครึ่งหนึ่งก็พอจ้ะ”

เด็กหนุ่มไม่ได้หวังจะเอาเงินพนันที่ได้มาทั้งหมดเพียงคนเดียว แค่สักส่วนหนึ่งให้พอได้เอาไปใช้หนี้งวดล่าสุดนี้ก่อนก็พอ

“เอาไปเถอะ ลุงไม่เอาหรอก”

“แต่ครูอุตส่าห์ช่วยอัยย์ จะให้อัยย์เอาเงินนี่หมดคนเดียวได้ยังไง”

สีหน้าฉายชัดถึงความเกรงใจ เพราะโดยปกติแล้วครูชัยไม่เคยให้เด็กในค่ายมาต่อยมวยเถื่อนผิดกฎกติกาแบบนี้ แต่เพราะความสงสารที่อัยย์อ้อนวอนขอร้องเพราะเดือดร้อนจริง ๆ เลยใจอ่อนยอมช่วย ทั้งที่บอกว่าจะให้ยืมเงินของตัวเองแต่เด็กคนนี้ก็ไม่เอาแต่ปฏิเสธ

“เอาไปเถอะอัยย์ เงินนี้แลกมากับที่เราต้องเจ็บตัวทั้งนั้น มีเรื่องจำเป็นต้องใช้เงินไม่ใช่หรือไง”

ซองเงินถูกยัดใส่มืออัยย์ด้วยความเต็มใจ เด็กหนุ่มมองคนตรงหน้าที่เปรียบเสมือนพ่อของเขาอีกคน เกือบหกปีแล้วที่ครูชัยดูแลเขามา เพราะตั้งแต่วันที่พ่อเสียครูชัยก็กลายเป็นผู้ปกครองคนใหม่ของเขา หลังจากนั้นก็ได้เข้ามาอยู่ในค่ายก้องเมธี

ครูชัยเองก็ไม่เคยเห็นว่าอัยย์เป็นคนนอก เพราะช่วยเพื่อนตัวเองที่เป็นพ่อของอัยย์เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กคนนี้ตีนเท่าฝาหอย อาจจะเพราะครูชัยไม่มีเมียไม่มีลูกเขาถึงได้รักและเอ็นดูอัยย์เหมือนลูกแท้ ๆ รวมไปถึงเด็กในค่ายคนอื่น ๆ

แม้เด็กคนอื่น ๆ ในค่ายจะบอกว่าครูชัยทั้งดุ ทั้งน่าเกรงกลัว แต่สำหรับอัยย์แล้วกลับตรงกันข้ามอย่างที่ใครกล่าวหา

"ขอบคุณนะจ๊ะครู"

"อย่าซึ้งกันดิ เดี๋ยวผมก็ร้องหรอก"

คนที่ยืนเงียบฟังสองลุงหลานคุยกันก็เริ่มน้ำตาคลอขึ้นมา เต้เองก็เป็นอีกคนที่กำพร้าพ่อแม่ อยู่ค่ายมวยกับครูชัยมาตั้งแต่เด็ก แต่กลับไม่เอาดีทางด้านนี้เลยช่วยดูแลความเรียบร้อย ช่วยทำความสะอาดในค่ายแทน

"ครูกับเต้กลับกันก่อนเลยนะจ๊ะ"

"จะไปทำงานที่คลับอีกเหรอมึง" เพื่อนสนิทเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย ว่าเอาแรงที่ไหนไปทำงานไหว

"อือ.. รับปากพี่เขมไว้แล้ว"

"งั้นทำแผลก่อนดีไหม" เต้ยื่นมือไปจับคางมนหันซ้ายหันขวาดูรอยช้ำที่โหนกแก้ม

"นิดเดียวเอง แค่นี้สบายมาก" ก้มมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะเงยหน้ามายิ้มร่าให้ทั้งสองคน "ต้องไปแล้ว เดี๋ยวสาย ขับรถดี ๆ นะจ๊ะครู เลิกงานแล้วเดี๋ยวอัยย์รีบกลับ"

พูดจบก็รีบวิ่งออกไป ทั้งครูชัยและเต้ได้แต่ส่ายหัวให้กับเด็กดื้อที่เก่งมากจนอดชื่นชมไม่ได้ เด็กผู้ชายตัวเล็กแค่นี้แต่กลับทำงานหาเงินเองมาตลอด ไม่เคยทำตัวเป็นภาระให้ใคร

ไม่มีเวลามาเสียใจ ไม่มีเวลามานั่งถอนหายใจทิ้งเพราะเหนื่อยกับชีวิตด้วยซ้ำ อัยย์รู้เพียงแค่หากมีชีวิตอยู่ต่อก็ควรจะประคับประคองตัวเองให้ดี แค่ดูแลตัวเองให้ได้อย่างที่พ่อเคยสอนเอาไว้ก็พอ

@Hola Club

อัยย์นั่งวินมอเตอร์ไซค์มาลงที่คลับลับที่มาตั้งอยู่ในซอยในหลืบ ไร้ซึ่งบ้านผู้คนแต่กลับมีคนรู้จักมากมายเพียงเพราะการบอกต่อปากต่อปาก ที่เขาได้เข้าทำงานที่นี่ก็เป็นเพราะเขมทัศน์พี่ชายที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ยื่นมือเข้ามาช่วย พาเข้ามาทำงานที่ร้านที่ตัวเองเป็นหุ้นส่วนอยู่

ร่างบางเก็บกระเป๋าเข้าตู้ล็อกเกอร์ก่อนหยิบเสื้อผ้าที่ร้านให้ออกมาเปลี่ยน

"บอกแล้วว่าวันนี้ไม่ต้องมาก็ได้"

อัยย์ถอดเสื้อยืนคอย้วยออกจากตัวก่อนจะสวมเสื้อโปโลสีดำแทน พลางเอี้ยวตัวกลับไปยิ้มให้คนคุ้นเคย

"ได้ไงละพี่เขม บอกไว้แล้วไงว่าจะมา"

"ทั้งที่เจ็บตัวมาขนาดนี้น่ะเหรอ"

ตอนที่อีกคนถอดเสื้ออาจจะเพราะผิวขาวเนียนของอัยย์เขาถึงเห็นรอยช้ำบนตัวได้อย่างชัดเจน เกิดคำถามกับตัวเองขึ้นมาว่าทำไมเด็กหนุ่มตัวเล็กตรงหน้าเจ็บตัวขนาดนี้แต่ยังทนทำงานต่อได้ไหว

"แค่นี้เองอัยย์สบายมาก ไม่ได้เจ็บอะไรขนาดนั้น"

"ถ้าอัยย์จำเป็นต้องใช้เงินจริง ๆ ยืมของพี่ก่อนก็ได้"

ร่างบางถอนหายใจเบา ๆ พลางยกยิ้มส่ายหัว เขาเข้าใจว่าพี่ชายคนนี้หวังดี แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะเอามาอ้างในการทำให้ใครต้องใครเดือดร้อนเพราะเขาได้

"ไม่ต้องเลย อัยย์หาเงินเองได้น่า ไม่ได้เดือดร้อนขนาดนั้นหรอก ยังหมุนทันอยู่" พยักหน้าหงึกหงัก พลางทำตาใสให้อีกคนคลายความเป็นห่วง "อัยย์ต้องไปทำงานแล้ว"

"ทำแผลก่อนดีไหม"

"จริงสิ เดี๋ยวอัยย์ติดปลาสเตอร์นิดหน่อยก็พอแล้ว"

"งั้นเดี๋ยวพี่ติดให้ เอาปลาสเตอร์มาสิ"

อัยย์เปิดล็อกเกอร์หยิบปลาสเตอร์ออกจากกระเป๋าส่งให้คนอายุมากกว่า ก่อนจะยืนนิ่งให้อีกคนแปะปลาสเตอร์ลงบนแผลตรงหางคิ้ว

"ใส่ใจอัยย์ขนาดนี้ พนักงานคนอื่นรู้คงน้อยใจแย่"

เอ่ยแซวเล่นอย่างไม่จริงจังเท่าไรนัก ร่างสูงก้มลงมองสบตากับเด็กหนุ่ม ก่อนจะเลื่อนมือขึ้นไปลูบศีรษะคนตรงหน้าแผ่วเบา

"อัยย์ไม่เหมือนพนักงานคนอื่นสักหน่อย"

"พอเลย ในที่ทำงานไม่มีคำว่าพี่น้อง มีแค่เจ้านายกับพนักงานเท่านั้น.. เข้าใจไหมครับเฮียเขม"

เรียกอีกฝ่ายอย่างที่พนักงานคนอื่นเรียก ทั้งยังยิ้มขำเล็กน้อย จับฝ่ามือหนาออกจากหัวตัวเอง เอ่ยขอบคุณที่เขมทัศน์ติดปลาสเตอร์ให้ ก่อนเดินผ่านร่างสูงออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง

เขมทัศน์ได้แต่ยืนนิ่งมองแผ่นหลังเล็กที่หายเดินออกไปไกลจนลับตาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

สำหรับเขมแล้วอัยย์ไม่เหมือนกับพนักงานคนอื่นอย่างที่บอกจริง ๆ และการที่เขาดูแล เป็นห่วงเป็นใยอัยย์มากขนาดนี้ไม่ใช่เพียงเพราะอีกคนคือลูกชายเพื่อนแม่ หรือเห็นอีกคนเป็นน้องชาย

เพราะสำหรับเขมแล้วอัยย์เป็นมากกว่านั้น...

.

.

เวลาเกือบสามทุ่ม พนักงานคนหนึ่งในร้านเดินมาบอกให้อัยย์เอาเหล้าไปเสิร์ฟที่ห้องวีไอพีชั้นสอง ห้อง 106 นึกสงสัยอยู่นิดหน่อย เพราะปกติแล้วเขาไม่ได้มีหน้าที่ขึ้นไปเสิร์ฟชั้นนั้น ส่วนใหญ่จะคอยดูแลรับออร์เดอร์อยู่ชั้นหนึ่งเสียมากกว่า

คนตัวเล็กยกถาดขวดแอลกอฮอล์ราคาแพงที่สุดในร้านขึ้นมาตามห้องที่พนักงานคนนั้นบอก อัยย์ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะปรับสีหน้าให้ดูดีที่สุดสมกับหน้าที่ผู้ให้บริการ

เคาะประตูสองสามครั้งเพื่อขออนุญาตก่อนจะเปิดเข้าไป คิ้วสวยกระตุกครั้นเห็นว่าบุคคลที่อยู่ในห้องคือเขมทัศน์พี่ชายที่ยืนคุยกับเขาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังมีชายหนุ่มอีกหนึ่งคนหน้าตาดูดีใช้ได้ จากที่มองเผิน ๆ แล้วรูปร่างกำยำกว่าเขมเกือบเท่าตัว

ทว่านึกสงสัยได้ไม่นานก็ต้องก้มหน้าเดินเข้าไปทำหน้าที่ของตัวเอง ย่อตัวลงนั่งยองวางขวดแอลกอฮอล์และแก้วลงบนโต๊ะอย่างเบามือ เมื่อเสร็จหน้าที่ของตัวเองแล้วจึงค้อมศีรษะให้ทั้งสองคน แต่ไม่ทันจะได้ก้าวเท้าเดินออกมาพ้นโต๊ะก็ถูกเรียกไว้ซะก่อน

“เดี๋ยวก่อนอัยย์” เด็กหนุ่มร่างบางหันกลับไปมองเขมทัศน์ รอฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรกับตน “มานี่ก่อน พี่จะแนะนำเพื่อนให้รู้จัก”

ในเมื่อเป็นคำสั่งของเจ้านายอัยย์ก็ขัดไม่ได้ จำใจเดินเข้ากลับไปยืนที่เดิม ก่อนจะถูกมือหนาคว้าข้อมือให้นั่งลงข้าง ๆ หากพนักงานคนอื่นมาเห็นเข้ามีหวังได้เอาไปนินทากันสนุกปากแน่ ๆ เพราะไม่เคยมีใครรู้ว่าระหว่างเขากับเขมเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันมานานเท่าไร

“นี่ชัชวินเป็นเพื่อนพี่ตั้งแต่สมัยเรียน แล้วก็เป็นเจ้าของคลับที่นี่ด้วย”

ตอนเข้ามาทำงานช่วงแรก ๆ ก็พอได้ยินพนักงานคุยกันอยู่บ้างว่าเจ้าของคลับตัวจริงไปทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนเขมทัศน์เป็นเพียงหุ้นส่วนเท่านั้น ทว่าหน้าที่การดูแลจัดการเขมทัศน์เองมีสิทธิ์ทั้งหมด ที่แท้ก็เพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนกันนี่เอง

“สวัสดีครับคุณชัชวิน”

เด็กหนุ่มมารยาทดียกมือไหว้คนอายุมากกว่า หากเป็นเพื่อนเขมทัศน์อายุก็คงจะราว ๆ เดียวกัน ซึ่งก็คงประมาณสามสิบห้า แก่กว่าเขาเกินรอบไปถึงสามปี

อีกฝ่ายรับไหว้ตามมารยาท แต่สีหน้าท่าทางกลับเรียบนิ่งไม่แสดงออกถึงความยินดียินร้ายใด ๆ

“ส่วนนี่อัยย์ น้องคนที่กูเคยโทรไปบอกมึงว่าจะรับเข้ามาทำงาน”

“อือ”

ขานตอบสั้น ๆ ในลำคอเท่านั้น อัยย์เริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย เพราะแม้ว่าคนตรงหน้าจะไม่พูดอะไรออกมา แต่สายตากลับเอาแต่จ้องมาที่เขาไม่หยุด

“อัยย์ขอตัวไปทำงานก่อนดีกว่า”

“โอเค เลิกงานเดี๋ยวพี่ไปส่ง”

“ครับ”

ร่างเล็กลุกขึ้นค้อมศีรษะให้อีกครั้งก่อนจะออกไปจากห้อง หากอัยย์หันกลับมามองสักนิดคงจะเห็นว่ามีสายตาสองคู่ที่จ้องมองเขาด้วยสายตาที่ต่างกัน

“เด็กนั่นอายุเท่าไร”

จู่ ๆ คนที่เอาแต่นั่งเงียบอยู่นานสองนานก็เอ่ยถามขึ้นมาลอย ๆ

“อัยย์น่ะเหรอ ปีนี้ยี่สิบ”

“เด็กขนาดนั้นจะทำงานที่นี่ได้เหรอ”

“มึงไม่ต้องห่วง เห็นอัยย์เป็นเด็กตัวเล็กอายุน้อยแบบนั้น แต่เรื่องงานอัยย์ทำได้ดีมาก ตั้งแต่ทำงานที่ร้านมาได้สองเดือนไม่เคยทำอะไรพลาดแม้แต่อย่างเดียว”

“มึงนี่สปอยล์เด็กมันดีนะ”

“กูพูดจริง ๆ”

ชัชวินไม่ได้พูดอะไรต่อเพียงแค่ยกแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นดื่ม ราวกับไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่คุยเมื่อครู่นี้เท่าไรนัก ทว่าแอบเห็นเพื่อนสนิทกลอกตาถอนหายใจใส่อย่างเอือม ๆ เป็นเรื่องที่เขาเองก็ชินไปแล้ว เช่นเดียวกับเขมทัศน์ที่ชินกับท่าทีนิ่งเฉยของเพื่อนคนนี้

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

Comments

No Comments
50 Chapters
บทที่ 1.1 อัยย์ อคิราห์
เสียงระฆังดังขึ้นเป็นสัญญาณให้รู้ว่าการต่อสู้บนสังเวียนกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วนับจากนี้ ดวงตากลมสีน้ำตาลเข้มจ้องมองคู่ต่อสู้ด้วยสายตาอันแรงกล้า จับจุดไปยังบริเวณหน้าอกของอีกฝ่าย เพื่อสังเกตการเคลื่อนไหวของร่างกายสองแขนยกขึ้นตั้งการ์ดพร้อมรับพร้อมสู้ สองเท้าก้าวลากก้าวตามหลอกล้อคู่ต่อสู้อย่างมีชั้นเชิงหมัดเปล่าไร้นวมมีเพียงผ้าขาวบางที่พันรอบมือจนหนา ออกแรงส่งตรงมาที่หน้าของเขา ด้วยไหวพริบที่มีทำให้สามารถหลบได้อย่างเฉียดฉิว ก่อนจะสวนหมัดกลับไปที่หน้าท้องแกร่งของอีกฝ่ายเสียงโหเชียร์ดังลั่น ผู้คนนับร้อยที่เข้าร่วมดูการแข่งครั้งนี้ลุ้นจนตัวโก่งว่าฝ่ายที่ตัวเองเชียร์จะชนะหรือเปล่า เพราะหากชนะเงินพนันที่จะได้มันคุ้มกว่าการแพ้พนันอย่างแน่นอนเด็กหนุ่มร่างบางที่ใครเห็นก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีทางเอาชนะอีกฝ่ายที่ร่างกายกำยำกว่าได้ อย่างนั้นการลงพนันครั้งนี้จึงมากกว่าครั้งไหน ๆและเป้าหมายเดียวของการแข่งขันครั้งนี้ก็เพื่อชัยชนะเท่านั้น เขาต้องห้ามแพ้เป็นอันขาด แม้จะต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดทางกายที่จะได้รับเขาก็จะไม่แพ้การโจมตีอย่างป่าเถื่อนของอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่บ่งบอกให้รู้ว่าบนสังเวียนนี้ไ
last updateLast Updated : 2024-12-12
Read more
บทที่ 1.2 อัยย์ อคิราห์
ระหว่างที่อัยย์กำลังเก็บของเตรียมปิดร้าน ก็มีเพื่อนที่ทำงานด้วยกันเดินเข้ามาประชิดตัว ส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ก่อนจะเอ่ยถามในสิ่งที่ตนอยากรู้"นี่อัยย์""หืม? มีอะไรเหรอ" เด็กหนุ่มหยุดมือที่เก็บแก้วบนโต๊ะ หันมองเด็กหนุ่มหน้าหวานข้าง ๆ"วันนี้ได้ขึ้นไปเสิร์ฟที่ชั้นสองใช่ไหม เห็นว่าเป็นห้องของเฮียเขมกับคุณชัช""อ่า ก็ใช่ทำไมเหรอ""เป็นไงบ้าง คุณชัชน่ะ หล่อไหม"สายตาบ่งบอกถึงความอยากรู้อยากเห็นอย่างชัดเจน ฟองเป็นเด็กใหม่ที่เข้ามาทำงานหลังอัยย์ได้ไม่นาน แต่กลับรู้จักชัชวินก่อนเขาเสียอีก"ก็ดูดีนะ" เลี่ยงที่จะพูดออกไปตรง ๆ ว่าหล่อหรือไม่หล่อ เพราะเขาไม่รู้ว่ามาตรฐานความหล่อของคนตรงหน้าเป็นยังไง"เราอยากมีวาสนาเจอคุณชัชบ้างจัง นี่ได้ยินพวกพนักงานรุ่นพี่คุยกันว่าคุณชัชเพิ่งกลับมาจากประเทศ นาน ๆ ทีจะได้เห็นหน้า ปกติคนที่เข้าร้านจะเป็นเฮียเขมมากกว่า"อัยย์ทำเพียงยืนฟังอีกคนพูด ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ ออกไปเพราะเขาไม่ได้รู้จักชัชวินมาก่อน ไม่เคยถามเขมทัศน์เกี่ยวกับเจ้านายคนนี้ด้วยซ้ำฟองเอาแต่ยืนเพ้อฝันพร่ำพูดถึงชัชวินในเรื่องที่ตนรู้ให้อัยย์ฟัง แม้จะเข้าหูบ้างไม่เข้าหูบ้าง อัยย์ก็ไม่ได้ขัดอะ
last updateLast Updated : 2024-12-12
Read more
บทที่ 2.1 ชัช ชัชวิน
ด้วยความอยากรู้ว่าชัชวินเป็นใคร อัยย์ถึงได้ลองค้นหาข้อมูลตามเว็บไซต์ต่าง ๆ และมันก็ดันมีขึ้นมาจริง ๆ ทว่าเป็นเพียงประวัติย่อ ๆ อาจจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ถูกเปิดเผยให้ได้รู้ชัชวิน เธียรธนากิจ ลูกชายคนเดียวของคุณชูวิทย์ และคุณหญิงอรอนงค์ ธุรกิจหลักของที่บ้านคือเปิดบริษัทผลิตเครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ต และยังมีโรงแรม Thanakit ที่ประเทศจีน ตั้งแต่ที่คุณชูวิทย์เสียไปชัชวินก็ขึ้นเป็นผู้ดูแลกิจการทุกอย่างแทน ทว่านอกจากกิจการของพ่อที่สร้างไว้แล้ว ชัชวินยังเปิดคลับเป็นของตัวเองเนื่องจากความชอบส่วนตัวอัยย์เลื่อนหาข้อมูลเพียงสองสามเว็บก็เขียนเหมือนกันไปหมด ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนี้ แม้ว่าชัชวินจะเป็นที่รู้จักในแวดวงนักธุรกิจนักลงทุน แต่ก็ใช่ว่าจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดให้สื่อรู้ และก็คงไม่มีใครสืบรู้“ดูอะไรอยู่วะ”คนตัวเล็กไม่ได้มีอาการตกใจ แม้คนที่เดินเข้ามาจะวางมือลงบนบ่า อัยย์เพียงเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงคุ้นหู พลางยกยิ้มให้น้อย ๆ“เปล่า”ตอบกลับพร้อมกดปิดหน้าจอ เขาเห็นว่าไม่ได้สำคัญอะไรไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวให้เต้รู้“ครูชัยให้มาตาม เดี๋ยวจะมีคนมาเรียนมวยครูจะให้มึงไปสอน
last updateLast Updated : 2024-12-12
Read more
บทที่ 2.2 ชัช ชัชวิน
เช้าวันอาทิตย์อัยย์ได้เริ่มงานส่งอาหารเป็นวันแรก ความยากเดียวของงานนี้คือเขาไม่ได้ชำนาญเส้นทางสักเท่าไร แม้จะอยู่มานานเกือบสิบปี“เดี๋ยวอัยย์เอาไปส่งตามที่อยู่นี้นะ”หนึ่งในพนักงานเสิร์ฟยื่นกระดาษแผ่นเล็กที่จดที่อยู่ลูกค้า พร้อมถุงกระดาษบรรจุกล่องอาหารส่งให้อัยย์ ก่อนจะเดินกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อเด็กหนุ่มเปิด GPS ที่อยู่ในมือถือ ก่อนจะออกรถขับออกไปตามเส้นทาง โชคดีหน่อยที่ไม่ไกลมาก ทั้งยังเป็นถนนเส้นหลัก ไม่ต้องเข้าซอย ไม่งั้นคงได้หลงกันพอดีนิ้วเรียวกดกริ่งหน้าบ้าน รอเพียงไม่นานก็มีแม่บ้านสาววิ่งออกมารับ พร้อมเงินสดสองแบงก์เทา“ไม่ต้องทอนนะคะ”“ขอบคุณครับ”เด็กหนุ่มค้อมศีรษะขอบคุณเล็กน้อย เก็บเงินใส่กระเป๋าเอาไว้อย่างดี ก่อนกลับไปที่ร้านเพื่อรับออร์เดอร์ต่อไปการเริ่มงานวันแรกสำหรับวันนี้ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี พี่ ๆ ที่ทำงานด้วยกันก็ค่อนข้างจะใจดีกับอัยย์เงินรายวันตามค่าแรกขั้นต่ำบวกกับค่าทิปจากลูกค้า ทางเจ้าของร้านให้อัยย์ทั้งหมด รวมแล้วได้ประมาณพันกว่าบาทอัยย์จำเป็นต้องเก็บเอาไว้ทั้งหมด เพื่อรวมกับเงินที่มีอยู่ อีกเพียงหนึ่งอาทิตย์ก็ถึงเวลาต้องจ่ายดอกเบี้ยร่างบางขึ้นรถเมล์มาล
last updateLast Updated : 2024-12-12
Read more
บทที่ 3.1 เด็กดื้อ
การใช้ชีวิตในทุก ๆ วันของอัยย์ยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน ตื่นเช้ามาก็รีบออกไปทำงานร้านเบเกอรี่ เลิกงานก็ต้องรีบกลับค่ายไปเตรียมตัวเพื่อไปที่คลับ เป็นอย่างนี้มานานถึงสองปี แม้ในระยะเวลานั้นจะมีการเปลี่ยนงานอยู่เรื่อย ๆ ด้วยเหตุผลบางอย่าง“สวัสดีครับพี่ผึ้ง สวัสดีครับพี่อัยย์”พัดยกมือไหว้เจ้านายและเพื่อนร่วมงานที่อายุมากกว่า ก่อนจะรีบไปสวมผ้ากันเปื้อนออกมาช่วยอัยย์เตรียมเปิดร้าน“พี่ฝากอัยย์กับพัดช่วยกันดูแลร้านดูแลลูกค้าด้วยนะ ช่วงนี้พี่คงไม่ว่างได้เข้ามาที่ร้านบ่อย ๆ”“ได้ครับ”เด็กหนุ่มตอบรับคำสั่งเจ้าของร้าน ก่อนเดินไปปลดล็อกกลอนประตู เป็นจังหวะเดียวกันกับลูกค้าคนแรกที่กำลังเดินมาที่ร้าน“สวัสดีครับคุณชัชวิน”เหมือนว่าช่วงนี้เขาจะเจอผู้ชายคนนี้บ่อยขึ้นอย่างไรอย่างนั้น นับตั้งแต่วันที่เขมทัศน์แนะนำให้รู้จัก หลายวันมานี้ชัชวินมักจะแวะมาซื้อกาแฟที่ร้านอยู่บ่อย ๆ บางวันก็เป็นช่วงเช้า บางวันก็เป็นช่วงบ่ายหากคิดแบบผิวเผินร้านเบเกอรี่นี้อาจเป็นทางผ่าน หรือไม่กาแฟของที่ร้านก็อาจจะถูกปากจนต้องมาซื้อซ้ำอัยย์ไม่อยากคิดอะไรให้มากมาย เพราะทุกครั้งที่มาชัชวินก็ไม่ได้พูดคุยกับเขา ทว่าเวลาเ
last updateLast Updated : 2024-12-13
Read more
บทที่ 3.2 เด็กดื้อ
หลายวันต่อมาที่รับปากเอาไว้กับครูชัยว่าก่อนถึงวันขึ้นชกจะหยุดงานเพื่อพักผ่อนให้เต็มที่ อัยย์ทำอย่างนั้นจริง ๆ เป็นครั้งแรกในรอบปีที่รู้สึกว่าร่างกายได้นอนพักอย่างเต็มที่เริ่มเดินทางไปสถานที่แข่งตอนหกโมงเย็น ยังมีเวลาอีกนิดหน่อยให้อัยย์มาแอบซุ่มซ้อมอยู่คนเดียวRrrrrr..ร่างเล็กจับกระสอบทรายให้หยุดนิ่ง พลางเดินไปรับสายเจ้าของเบอร์คุ้นเคย“ฮัลโหลครับพี่เขม”[วันนี้เข้าร้านไหม]“เข้าครับ แต่อาจจะสายหน่อยนะครับ”[หืม? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า]“อัยย์มีขึ้นชกครับ”ปลายสายเงียบไป ทว่ากลับมีเสียงถอนหายใจดังออกให้ได้ยินเบา ๆ หากตอนนี้เขมทัศน์ยืนอยู่ตรงหน้า คงต้องห้ามเขาไม่ให้ไปเหมือนครูชัยแน่นอน[พี่ไปดูได้ไหม]“อย่าเลยครับ ที่นั่นไม่มีอะไรน่าดูหรอก”[พี่จะห้ามอัยย์ยังไงดีนะ]“ห้ามไม่ได้หรอกครับ ฮ่า ๆ”ตอบกลับพร้อมเสียงหัวเราะ ราวกับเป็นเรื่องขำขัน แตกต่างจากปลายสายที่ยืนคิ้วขมวดติดกันจนเกิดปมเด็กหนุ่มหันมองเพื่อนสนิทที่เดินมาตาม ครั้นเห็นเขาคุยโทรศัพท์อยู่ก็เลือกที่จะทำมือชี้ออกไปทางซ้ายเพื่อให้อัยย์รู้ว่าถึงเวลาที่ต้องไปเตรียมตัวแล้ว“เดี๋ยวอัยย์ต้องไปแล้ว ไว้เจอกันที่ร้านครับ”[ครับ]อัยย์กด
last updateLast Updated : 2024-12-13
Read more
บทที่ 4.1 ขอบคุณ
แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างกระจกกระทบใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังนอนหลับพริ้ม ดวงตากลมเริ่มขยับไปมาทั้งที่ยังปิดตาอยู่ พร้อมเรียวคิ้วที่ขมวดเข้าหากันพลันความเจ็บแล่นปราดไปทั่วตัวยามขยับร่างกาย เปลือกตาสีมุกค่อย ๆ ลืมขึ้นมองเพดานห้องสีขาวสนิท เหตุการณ์เมื่อคืนย้อนกลับมาให้คลายความสงสัยทั้งหมดอย่างนั้นที่นี่ก็คือโรงพยาบาล และคนที่พาเขามาก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชัชวิน เพราะในเวลานั้นมีแค่ชัชวินอยู่กับเขา“อัยย์!!” เสียงคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับวิ่งเข้ามาหา “ครู! ไอ้อัยย์ฟื้นแล้ว!”อัยย์เลื่อนสายตามามองเพื่อนสนิทที่ยืนหน้าตื่นอยู่ข้างเตียง เพียงไม่นานคนที่เต้ตะโกนเรียกก็กลับเข้าห้องมาพร้อมกับหมอและพยาบาล“เดี๋ยวหมอขอตรวจหน่อยนะครับ”เต้ขยับถอยออกไปยืนข้าง ๆ ครูชัย ปล่อยให้คุณหมอได้ตรวจเช็กร่างกายของเพื่อน พร้อมเปลี่ยนน้ำเกลือขวดใหม่“เพื่อนผมเป็นยังไงบ้างครับ”“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วครับ แต่ช่วงนี้หมอแนะนำให้คนไข้พักผ่อนให้เพียงพอ แล้วก็ทานอาหารให้ตรงเวลา ส่วนเรื่องรอยช้ำบนร่างกายอาจจะใช้เวลาหน่อยกว่าจะหายดี” ได้ยินอย่างนั้นก็โล่งใจขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก ทั้งเต้แล
last updateLast Updated : 2024-12-13
Read more
บทที่ 4.2 ขอบคุณ
วันต่อมาแม้จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่ครูชัยก็ยังกำชับไม่ให้ออกไปทำงานจนกว่าจะมั่นใจว่าหายดี ด้วยความเกรงใจพี่ผึ้งที่หยุดมาหลายวันเขาเลยต้องพยายามอ้อนครูชัยให้ปล่อยตัวเองไปทำงานที่ร้านเบเกอรี่มีพนักงานแค่สองคน หากเขาหยุดงานก็เท่ากับว่าเหลือพัดแค่คนเดียว ไหนช่วงนี้พี่ผึ้งจะบอกเอาไว้อีกว่าไม่ค่อยว่างได้เข้าร้าน ปล่อยให้พัดอยู่ร้านคนเดียวคงเหนื่อยแย่“ให้อัยย์ไปทำงานเถอะนะจ๊ะครู อัยย์หายดีแล้วจริง ๆ นะ”ครูชัยทำทีเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินในสิ่งที่หลานชายพูด พลางเดินไปทางนั้นทีทางนี้ทีคนที่นั่งมองเหตุการณ์อย่างเต้ได้แต่ยิ้มแหย ๆ ให้กำลังใจอยู่ห่าง ๆ เห็นใจเพื่อนอยู่หรอกแต่ให้ช่วยพูดก็ไม่กล้า มีหวังได้โดนครูเขกหัวกลับมาแน่ ๆ ไหนจะยังมีความผิดติดตัวที่หลุดปากบอกอัยย์เรื่องแข่งอีก“ครูจ๋า”“ลุงจะไม่พูดซ้ำนะอัยย์”อัยย์เพิ่งจะเคยได้สัมผัสด้วยตัวเองก็วันนี้ ไอ้ที่เด็ก ๆ ในค่ายพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าครูชัยน่ะทั้งดุ ทั้งน่ากลัวน้ำเสียงหนักแน่นเด็ดขาดไม่มีทีท่าว่าจะยอมใจอ่อน เด็กหนุ่มได้แต่หันไปส่งสายตาให้เพื่อนช่วยพูดทั้งที่กลัวว่าตัวเองจะโดนด่า ทว่าพอเห็นสายตาน่าสงสารของอัยย์แล้วก็ได้แต่กลืนน้
last updateLast Updated : 2024-12-13
Read more
บทที่ 5.1 คิดดูให้ดีอีกที
หยุดพักไปสองวันเต็ม ๆ หลังออกจากโรงพยาบาล วันนี้อัยย์ก็ได้กลับมาทำงานสักที ตอนแรกก็เกรงว่าพี่ผึ้งจะโกรธ แต่เปล่าเลยเจ้าของร้านเบเกอรี่ยังคงใจดีกับเขาเหมือนเดิม เธอเข้าใจและไม่แม้แต่จะต่อว่าเขาสักคำ ทั้งยังถามไถ่กันอย่างเป็นห่วงเป็นใยรอยแผลฟกช้ำตามร่างกายและใบหน้าก็จางลงเยอะมากแล้ว หากไม่สังเกตก็แทบจะไม่เห็น“พี่อัยย์ไหวไหม นั่งพักได้นะเดี๋ยวพัดจัดการเอง”พอรู้ว่าอัยย์ไม่สบายพัดก็เอาแต่ถามแทบจะทุกสิบนาที กลัวว่ารุ่นพี่คนนี้จะเป็นลมเป็นแล้งไปอีก“พี่ไม่เป็นไร พัดมีอะไรก็ไปทำเถอะ ตรงนี้เดี๋ยวพี่ทำเอง”หันกลับไปตอบพลางยกยิ้มอ่อนให้อีกฝ่ายคลายความเป็นห่วง เด็กหนุ่มพยักหน้าน้อย ๆ ปล่อยให้อัยย์เก็บของตรงเคาน์เตอร์ต่อ ส่วนตัวเองก็กลับไปล้างจานเวลาหกโมงเย็นหลังเลิกงานอัยย์แวะไปบ้านเสี่ยธรรม เจ้าหนี้ของพ่อเพื่อจ่ายเงินในส่วนของเดือนนี้ที่ขอผลัดมาประมาณหนึ่งอาทิตย์“เสี่ยครับคุณอัยย์มาแล้วครับ”“ให้เข้ามา”ชายใหญ่วัยห้าสิบนั่งพิงพนักโซฟาหรูส่งยิ้มให้เด็กหนุ่มรุ่นลูก หากไม่เป็นหนี้เป็นสินอัยย์ขอสาบานว่าจะไม่มาเหยียบที่นี่เด็ดขาดแม้ว่าเจ้าหนี้ของพ่อคนนี้จะใจดีกับเขา ไม่เคยเร่งรัดเรื่องเงิน นั่น
last updateLast Updated : 2024-12-13
Read more
บทที่ื 5.2 คิดดูให้ดีอีกที
ร่างเล็กค่อย ๆ เปิดประตูห้องอย่างเบามือ เกรงว่าจะรบกวนเต้หากอีกคนหลับไปแล้ว“พี่เขมมาส่งมึงเหรอ”คนที่คิดว่าเข้านอนแล้วกลับเอ่ยถามขึ้นมาผ่านความมืด อัยย์เอื้อมมือเปิดสวิตช์ไฟทำให้ภายในห้องสว่างวาบขึ้นมาเพื่อนสนิทนอนตะแคงข้างหันมามองหน้าเขา รอฟังคำตอบ“อือ” กระเป๋าสะพายใบเก่าใบเดิมที่ใช้มานานนับห้าปีถูกตั้งไว้ที่เดิมอย่างเป็นระเบียบ “ทำไมยังไม่นอน”“รอมึง”“บอกแล้วไงว่าให้นอนไปก่อนไม่ต้องรอ”“ก็รอมึงจนมันชิน พอจะนอนก็นอนไม่หลับ”อัยย์ส่ายหัวเบา ๆ พลางยกยิ้มเอ็นดูเพื่อนตัวเอง เสื้อยืดสีดำถูกถอดออกใส่ตะกร้าผ้าด้วยความเคยชิน ไม่ได้นึกเหนียมอายเพราะคิดว่าตัวเองก็ผู้ชายคนหนึ่ง“นี่กูก็กลับมาแล้ว มึงนอนก่อนเลย กูไปอาบน้ำก่อน”“เออ ๆ ไปอาบเถอะ”ร่างบางหยิบผ้าขนหนูพาดบ่าก่อนเดินเข้าห้องน้ำไปในทันที กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ปาไปตีหนึ่งกว่าแล้วออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเต้หลับไปแล้ว ทั้งยังขยับเข้าไปนอนชิดผนัง เว้นที่ว่างที่ประจำไว้ให้อัยย์ เจ้าตัวเดินไปตากผ้าขนหนู พร้อมปิดไฟ เตรียมเข้านอน หลังจากเหนื่อยมาทั้งวันเขาก็จะได้พักผ่อนสักทีทว่า.. แทนที่จะล้มตัวลงนอนแล้วจะเพลียหลับไป กลับเอาแต่คิดอยู
last updateLast Updated : 2024-12-13
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status