ใช้เวลาเพียงไม่นานเควินมาถึง สิ่งแรกที่เขามองหาก็คือเธอ แต่ก็ต้องแปลกใจที่มิราไม่ได้อยู่รอเขา"คิดว่าเมียจะวิ่งมากอดซะอีก"เควินสบถขึ้นในใจ ก่อนจะเดินไปหาเธอแม่มิรารีบเข้าไปกอดเมลลี่ทันที ก่อนที่ย่าก็ถามด้วยความเป็นห่วง" ปลอดภัยแล้วนะลูก""ขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะ"ปู่เรียกเควินไปคุยอะไรนิดหน่อยก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน ก่อนจะบอกว่า"พรุ่งนี้ค่อยจัดการพวกมัน"" เควินไปหามิราเถอะ ไม่ต้องห่วงลูก มิราเขาปั๊มนมและฝากลูกกับแม่หนึ่งคืน"" ฝากด้วยนะครับ"เควินรีบขึ้นไปบนห้องด้วยความเร่งรีและตื่นเต้น เป็นในรอบหลายเดือนตั้งแต่เธอท้อง เขาก็ไม่เคยได้สอดแทรกเข้าไปในกายของเธอเลย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วขอจัดคืนนี้ให้หนำใจเลยแล้วกันเควินค่อย ๆ เปิดเข้ามาก่อนมองหาหญิงสาว แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อมิรานั้น ใส่ชุดนอนคอสเพลย์สุดเซ็กซี่ นั่งรออยู่ มิราจ้องมองเควินด้วยสายตายั่วยวน" มาแล้วเหรอคะ ทำไมถึงปล่อยให้รอนานจัง"มิราเอ่ยขึ้นก่อนจะย่างกรายเข้าไปชายหนุ่มพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อผ้าให้ช้า ๆ เควินที่รู้สึกอยากจะขย้ำเธอจึงลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของเธอ ทว่ามิรากลับห้ามเอาไว้"ใจเย็นๆสิคะ เรามีเวลาด้วยกันทั้งคืน ไปอาบน้ำก
วันเวลาผ่านไปไวเกือบสามเดือนแล้วที่มิรานั้นออกมาอยู่บ้านกับปู่และย่าของมาเฟียหนุ่ม เธอโดนบังคับมาโดยให้เหตุผลว่า อยู่ใกล้พวกเขาจะปลอดภัยกว่า มิราไม่มีทางเลือก ถึงยอมมาในขณะที่เธอกำลังให้นมลูกอยู่ในสวน อยู่ ๆ ก็มีย่ากับแม่และเมลลี่ผู้จัดการช่วยเลี้ยงลูกของเธอ ทุกๆ คนเห่อหลานมาก" อะมาร์เวลล์ค่าบ กินนมอยู่เหรอค่าบ"ทุกคนต่างหยอกล้อเด็กน้อยวัยสามเดือนเศษ ก่อนจะฝังจมูกลงแก้มเด็กน้อยวัยสามเดือนเศษตอนนี้น้ำนมของเธอเยอะมากๆ ทว่าลูกของเธอก็กินเก่งมากเหมือนกัน น้ำนมเอ่อไหลจนต้องปั๊มนมใส่ตู้เก็บไว้จำนวนมาก อยู่ๆ เธอก็คิดถึงตอนที่น้ำนมยังไม่มา ตอนนั้นเธอรู้สึกเครียดมาก แต่ก็ยังดีที่ได้กินน้ำขิงของนัทเชลล์ ทำให้เธอมีน้ำนมสต๊อกไว้ถึงสามตู้ฟรีชหลังจากที่มิราให้นมลูกของเธอเสร็จ เมลลี่ก็มาอุ้มมาร์เวลล์ออกไปทันที"มิไปพักเถอะ""มิแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย จะต้องพักด้วยเหรอ"มิราเอ่ยขึ้นทว่าเมลลี่ไม่สนใจเธอ เอาแต่หยอกล้อหลาน"วันนี้แด๊ดดี้ไปไหน ทำไมห่างลูกนานจังเลย ปกติมาทุกสิบนาที"ว่าจบเควินก็เดินเข้ามากอดมิราจากทางด้านหลัง ก่อนจะประกบริมฝีปากแนบชิด ทั้งสองสวีทหวานอย่างไม่อายใคร และทุกคนก็เริ่มชินแล้ว
ครอบครัวเควินและมิราย้ายมาอยู่บนเกาะด้วยกันแทบตลอดเวลา เควินเลือกที่จะเอางานมาทำที่เกาะและดูแลเธอแบบใกล้ชิดเพิ่มความปลอดภัยแบบเต็มกำลังเควินแทบไม่ให้หญิงสาวออกห่างจากตัว และยังสั่งให้เธอนอนดูซีรีส์ฟังเพลงอยู่โซฟาในห้องทำงาน แล้วถ้าเบื่อเขาก็พาออกไปเดินเล่น และไปหาแม่ที่อยู่อีกฟากของเกาะแม่เธอกับผู้จัดการก็มาอยู่ด้วยแต่ว่าขอให้สร้างบ้านหลังเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งของเกาะ พวกเขาอยากใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย จริง ๆ ทั้งสองอยากอยู่ที่ญี่ปุ่นแต่มิราเป็นห่วงจึงขอร้องให้มาด้วยกัน แม่ก็ไม่อยากทำให้ลูกสาวกับเควินต้องเป็นห่วงเลยอยู่ใกล้ ๆ กันจะได้สบายใจ และเชื่อว่าเควินจะดูแลทุกคนได้ปู่และย่าเอ่ยถามถึงข่าวเควินหลานชายจากลูกน้อง เพราะเควินไม่มาหาเขาเลย ด้วยความคิดถึงหลานชายคนเดียวจึงให้คนเป็นย่าแกล้งป่วย"คิดถึงมันมากก็แกล้งป่วยสิ""แกล้งหรือไม่แกล้ง ฉันก็เหมือนคนป่วยอยู่แล้ว"คนแก่ทั้งสองเริ่มปลงและทำใจยอมรับมิราและยิ่งได้รู้ว่านางใจเด็ดและไม่ยอมแพ้ที่จะรักเควินก็ยิ่งรู้สึกชอบ เธอเหมือนย่าของเควินในตอนนั้น ตอนแรกย่าก็อยากได้เมติน่าคู่หมั้นเควินมากเพราะคิดว่าจะทำทุกอย่างได้เพื่อเควิน แต่จริง ๆ แล้วเธอ
. ลูกเควินนั่งดูหมอตรวจหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น มิราเองก็พยายามส่งสายตาให้ชายหนุ่มออกไป ทว่าชายหนุ่มกลับไม่สนใจเธอเอาแต่จ้องมองบนจอ แต่พอเห็นภาพลูกหน้าจอทั้งสองคนก็เงียบไป เควินเอ่ยถามหมอขึ้นว่าเสียงหัวใจเป็นของใคร คุณหมอก็เอ่ยตอบว่า"เสียงของตัวเล็กครับ"เควินนั่งฟังเสียงหัวใจของลูกน้อยด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นครั้งแรกที่ดีใจจนแทบเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่เควินฟังหมออธิบายวิธีดูแลเมียกับลูกอย่างตั้งใจ สงสัยอะไรก็ถามทำเอาคนเป็นแม่อย่างมิรารู้สึกใจเต้นแรงและไม่คิดว่ามาเฟียอย่างเขาจะสนใจลูกขนาดนี้ และนึกภาพไม่ออกเลยว่าเควินจะโกรธมากแค่ไหนถ้าเธอทำแท้งจริงๆเควินเอ่ยถามเพศลูกขึ้น"เพศอะไรครับ""น้องเป็นผู้ชายครับ"เควินพอรู้ว่าได้ลูกชายก็ดีใจมาก ๆ แต่ก็ยังคงเก็บอาการพออัลตราซาวด์เสร็จหมอก็เอ่ยถามมิราขึ้นทันที"ยังแพ้ท้องอยู่มั้ย""ก็มีบ้างค่ะ""แล้วมีวิธีที่ทำให้หายแพ้ไหม"เสียงมาเฟียหนุ่มเอ่ยถามขึ้นทันที สร้างความมึนงงให้คนเป็นหมอเป็นอย่างมากมิรามองหน้าชายหนุ่มแบบงง ๆ"นี่โง่หรือแกล้งโง่ กันแน่ใครจะรักษาอาการแพ้ท้องได้"มิราเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีรำคาญ ทว่าหัวใจกลับเต้นแรงอย่างหนักที
36.มิราค่อย ๆ รู้สึกตัวตื่นก่อนจะนั่งคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา เธอไม่ได้รู้สึกตกใจกับอาการของตัวเอง เพราะเธอมักจะเป็นแบบนี้อยู่บ่อย ๆมิรารู้สึกเครียดมาก ๆ และไม่รู้จะทำยังไงกับเรื่องนี้ ทำได้เพียงคิดว่าเธอนั้นไปทำชั่วอะไรไว้ตั้งแต่ชาติปางไหนทำไมมันถึงได้ซวยซ้ำซ้อนขนาดนี้"จะมีผัวทั้งทีก็เป็นผัวคนอื่นซะงั้น"มิราสบถขึ้นแต่พอพูดถึงผัวเธอก็มองหามาเฟียหนุ่ม ทว่ากลับไม่เจอแล้วก็มีเสียงใครบางคนมาเคาะประตูปู่กับย่าของมาเฟียหนุ่มตั้งใจแอบมาคุยกับเธอตอนที่เควินไม่อยู่ พร้อมกับบังคับเธอให้ทำตามข้อตกลง"เควินควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เธอไม่เหมาะที่จะยืนข้างเควิน เธอมันอ่อนแอเกินไปที่สู้เพื่อเควิน ออกไปจากชีวิตหลานฉันซะ!""ทำไมฉันต้องทำตามที่พวกคุณต้องการนี่มันชีวิตของฉัน พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้ฉันไปจากเควิน" "ความปลอดภัยของครอบครัวเธอมั้ง ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะคนที่จะเป็นเมียมาเฟียอย่างเควินจะต้องเป็นคนที่คู่ควร ดูแลตัวเองและลูกได้ ไม่เป็นภาระให้เควินเหมือนเธอ" "ยังไงเธอเองก็ไม่ได้รักหลานชายฉันอยู่แล้ว สู้เอาเงินไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ไม่ดีกว่าเหรอ ไม่ต้องมาเสี่ยงอันตราย ฉันจะให้เงิน
เช้าต่อมา...เมติน่าเดินย่างกรายเข้ามาในบ้านก่อนจะร่ำไห้ออกมาอย่างหนัก พร้อมกับเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อวานให้คนเป็นปู่และย่าฟัง"เควินทิ้งหนูไว้ในงานทำหนูขายหน้ามากเลยค่ะ พ่อกับแม่โกรธมากที่รับรู้ว่าเควิน ทำร้ายหนูเมื่อวาน พวกท่านรับไม่ได้ที่เควินทำกับลูกสาวท่านแบบนี้ เควินทำแบบนี้ เท่ากับไม่ไว้หน้ากันเลยนะคะ"เมติน่ายังคงเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อวานให้ปู่และย่าของมาเฟียหนุ่มได้รับรู้ มิราตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของวันในอ้อมกอดของชายหนุ่มเป็นเวลาหลายเดือนที่เธอไม่ได้นอนหลับเต็มอิ่มแบบนี้ มิราค่อย ๆ จับจ้องใบหน้าชายหนุ่มก่อนจะฝังจมูกลงที่แก้มของมาเฟียหนุ่มอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าเควินนั้นจะตื่น โดยไม่รู้เลยว่าเควินนั้นตื่นตั้งแต่เธอขยับตัวแล้ว"เป็นถึงนางแบบขโมยหอมแก้มคนอื่นแบบนี้มันไม่ดีนะ"เควินเอ่ยขึ้นทำเอามิราตาเบิกกว้างก่อนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินเสียงทุ้มดังขึ้น "นายละเมอไปเองรึเปล่า"มิราเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเลิ่กลั่กก่อนจะรีบลุกเดิน ทว่ามาเฟียหนุ่มกลับดึงเธอเข้ามากอด พร้อมกับคร่อมร่างเธอเอาไว้ "จะไปไปไหน...ฉันยังไม่ได้เอา....คืนเธอเลยนะ"มาเฟียหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะเน้นคำ