Share

บทที่ 100

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
เฟิ่งจิ่วเหยียนถูกพิษแดนฝัน ระหว่างที่รอข่าวคราวจากอู๋ไป๋ที่อยู่นอกวัง นางก็ลองขับพิษออกด้วยตัวเองไปด้วย

ทว่าไม่ทันระวังจึงหมดสติไปโดยไม่รู้ตัว

จากนั้น นางเหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีต ขณะเดียวกันก็เหมือนอยู่ในฝันร้าย

ได้ ‘พบ’ กับคนผู้นั้นที่ไม่ปรากฏตัวในความฝันของนางมานานมากแล้ว

นางได้คุยอะไรกับเขาเยอะมากมาย…

ครั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนฟื้นคืนสติ นางไม่รู้ว่าตัวเองหมดสติไปนานเท่าไร

นางรู้สึกเพียงว่าภายในตำหนักเงียบสงัด แม้แต่การหายใจก็ไม่ค่อยราบรื่นนัก

เหลียนซวงปรนนิบัติอยู่ด้านข้าง ใบหน้าของนางซีดขาวราวกับกระดาษ ส่วนมือก็สั่นเทา

“พระนาง…ท่าน ท่านฟื้นแล้ว…”

เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เมื่อลุกขึ้นมองก็พบว่าเซียวอวี้อยู่ที่นี่ด้วย

เขานั่งอยู่บนตั่งที่ไม่ไกลออกไป สีหน้าเย็นชาดั่งน้ำแข็งหมื่นปีที่ไม่ละลาย เวลานี้ เขากำลังจ้องนางเงียบ ๆ

เฟิ่งจิ่วเหยียนใจไม่ดีเล็กน้อย

หรือเขาจะรู้แล้วว่านางถูกพิษแดนฝัน?

พรึ่บ—

บุรุษลุกพรวดขึ้น ผ้าคลุมตัวยาวแกว่งไปมาราวกับคลื่นทะเล

“ฮองเฮา เจ้าดีมาก”

เขาทิ้งถ้อยคำที่มีความหมายไม่ชัดเจนไว้แล้วสะบัดแขนเสื้อจากไป

เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วแน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (3)
goodnovel comment avatar
กิ๊บบบบบ เก๋
เมื่อไรอีเต้ มันจะสำนึก
goodnovel comment avatar
ดวงใจ มูลระดับ
แต่ฮ่องเต้ใจร้าย
goodnovel comment avatar
ดวงใจ มูลระดับ
อ่านแล้วสนุกมาก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 101

    รุ่ยอ๋องทำความเคารพก่อน “ฝ่าบาท”สายตาของเซียวอวี้ข้ามผ่านรุ่ยอ๋องไป จับจ้องไปที่ตัวเฟิ่งจิ่วเหยียนเขาใช้น้ำเสียงออกคำสั่งพูดกับนางทันที“เจ้า กลับไป เสด็จย่าไม่ชอบให้คนนอกมารบกวน”เหลียนซวงหน้าชื่นอกตรมพระนางเป็นถึงภรรยาที่ถูกต้องของฮ่องเต้ หลานสะใภ้ของไทฮองไทเฮา ไยอยู่ในคำพูดของฮ่องเต้ทรราชย์ก็กลายเป็นคนนอกไปแล้ว?เฟิ่งจิ่วเหยียนทำความเคารพด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง“เพคะ”นางก็ไม่อยากมาตั้งแต่เริ่มแรกอยู่แล้วเมื่อเขาบอกว่าไม่ต้อง นางก็สบายอารมณ์......ณ ตำหนักวั่นโซ่วไทฮองไทเฮานั่งอยู่ตำแหน่งหลัก ฮ่องเต้และรุ่ยอ๋องนั่งอยู่สองข้างนางกวาดสายตาดุดันไปด้านหน้า“โมงยามนี้แล้ว เหตุใดฮองเฮายังไม่มาน้อมทักทายข้า?”เซียวอวี้ตอบกลับด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง“ฮองเฮาปากพล่อย มีแต่จะทำให้เสด็จย่าอารมณ์เสียเปล่า ๆ“เราให้นางกลับไปแล้ว”ไทฮองไทเฮาไม่ได้ซักถามต่อชั่วครู่ทว่าหลังจากที่ฮ่องเต้และรุ่ยอ๋องจากไปแล้ว นางให้โจวหมัวมัวไปสืบถามผ่านไปครู่เดียว โจวหมัวมัวกลับมาแล้ว“บ่าวไปสืบถามมาแล้ว ที่แท้เมื่อวานฮองเฮาไม่สบาย มีอาการหมดสติในเวลากลางคืน“คิดดูแล้ว ฮ่องเต้คงจะเอ็นดูฮ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 102

    วันรุ่งขึ้น ฟ้าเพิ่งสว่าง กุ้ยเฟยก็ตื่นบรรทมแล้วในตำหนักไร้ซึ่งร่างเงาของฮ่องเต้ สายตาของนางพลันปรากฎความเศร้าสร้อยชุนเหอแขวนม่านมุ้งขึ้น ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม“ยินดีกับพระนางที่ฮ่องเต้ไม่ตัดขาดความโปรดปราน“เช้าวันนี้ก่อนฮ่องเต้เสด็จออกไปได้ทรงรับสั่งให้บ่าว ปรุงแกงไก่ใส่โสมบำรุงร่างกายให้ท่าน พระนาง บ่าวบังอาจกล่าวถาม เมื่อคืนท่าน...ได้ปรนนิบัติแล้วงั้นหรือ?”ฮ่องเต้โปรดปรานพระนางเป็นเรื่องที่ดี ทว่าแผลสาหัสของพระนางยังไม่หายดี ไม่ควรที่จะปรนนิบัติชุนเหอกังวลใจอย่างเลี่ยงไม่ได้กุ้ยเฟยไม่ได้ตอบกลับ “น้ำ”ตอนที่ชำระร่างกาย ชุนเหอกล่าวว่า“ไทฮองไทเฮากลับวังมาไม่ถึงสองวัน ก็จะไปภูเขาอวี้หยางอีกแล้ว พระนาง ท่านจะไปส่งเสด็จหรือไม่เพคะ?”กุ้ยเฟยยิ้มอย่างเยือกเย็น แววตาเปี่ยมไปด้วยความแค้นเคือง“ส่งเสด็จ? ไปส่งศพเสียมากกว่า!“เดิมทีคิดว่านางจะสามารถลงมือจัดการเฟิ่งจิ่วเหยียน แต่นางกลับส่งเสริมให้ฮ่องเต้กับฮองเฮาร่วมเรือนหอ นางอายุมากจนเลอะเลือน อายุขนาดนี้แล้ว ยังจะมีชีวิตอยู่ไปทำไมกัน!” ชุนเหอมองไปด้านนอกตำหนักด้วยความระแวดระวัง เกรงว่าคำพูดเมื่อครู่จะถูกใครได้ยิน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 103

    ประตูตำหนักป้องกันเข้มงวดกวดขัน ฮูหยินเฟิ่งขอเข้าพบฮองเฮา รอมาหนึ่งวันเต็ม ๆ จึงสามารถย่างก้าวเข้าสู่ประตูวังได้หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ฟังเรื่องของพี่ใหญ่แล้ว ท่าทีนิ่งเฉย“ปราศจากการทำลายล้าง ย่อมไร้การประกอบสร้าง”เรื่องของเฟิ่งเหยียนเฉิน นางก็กำลังสืบสอบเช่นกันทว่า ไม่ว่าในอดีตจะเป็นเยี่ยงไร ในฐานะที่เขาเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเฟิ่ง เขาไม่สามารถหมดอาลัยตายอยากเช่นนี้ไปได้ตลอดฮูหยินเฟิ่งคิดว่านางไม่สนใจใยดี“นั่นเป็นพี่ชายของเจ้านะ หากตัดอนาคตของเขาจริง ๆ ในภายภาคหน้าตระกูลเฟิ่งจะเป็นเช่นไร? อย่ามาอ้างว่าพวกเจ้าไม่ได้เติบโตสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก เจ้าจึง...”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองนัยน์ตาของมารดา กล่าวขัดคำพูดอย่างเคร่งขรึม“ล้มลงอยู่ที่ใด ก็ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาที่นั่น“เหตุใดเขาจึงถูกผู้อื่นควบคุม เป็นเพราะเขาพึงพอใจกับสภาพความเป็นอยู่ตอนนี้ เป็นเพียงเจ้านครฝ่ายซ้ายอำนาจน้อยนิด สูญเสียปณิธาน เขาทำลายอนาคตด้วยตัวเขาเอง“เวยเฉียงเกิดเหตุร้าย ในฐานะที่เขาเป็นพี่คนโตยังปกป้องนางไว้ไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดเรื่องอนาคต เรื่องที่สามารถรับหน้าที่สำคัญของวงศ์ตระกูลได้อีก!”ฮูหยิน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 104

    ภายในตำหนักหย่งเหอ เซียวอวี้สีหน้าเคร่งขรึมประทับนั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาเย็นยะเยือก ถามเฟิ่งจิ่วเหยียนเชิงตำหนิ“หากไม่ใช่ว่าเราบังเอิญเจอวันนี้ ก็ไม่ทราบว่าเจ้าแอบดื่มยานี้ด้วย”เฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าเรียบนิ่ง กล่าวตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน“ยานี้ท่านแม่ของหม่อมฉันส่งมาให้ นางไม่ทราบเรื่องเบื้องลึกการร่วมเรือนหอ หม่อมฉันกำลังจะสั่งให้เหลียนซวงไปจัดการเสียเพคะ” นางปฏิเสธรวดเร็วเช่นนี้ ทำให้คนสังเกตร่องรอยการกล่าวโป้ปดไม่ได้แม้แต่น้อยเซียวอวี้มองนางอย่างพินิจพิเคราะห์ แววตาเย็นยะเยือก“ทางที่ดีเจ้าอย่าได้คิดเป็นอื่น”จากนั้น เขาทรงรับสั่งตามหน้าที่“ราชทูตรัฐเหลียงจวนจะเสด็จมาเยี่ยมเยือน จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองต้อนรับ“ก่อนหน้านั้นกุ้ยเฟยเป็นผู้จัดการ ทว่าเพลานี้นางบาดเจ็บสาหัส เราจึงส่งมอบต่อให้เจ้า“จำไว้ด้วย เรื่องนี้เกี่ยวเนื่องกับสัมพันธภาพระหว่างสองแคว้น อย่าให้เกิดข้อผิดพลาดใด ๆ ได้ทั้งสิ้น!”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยคนของรัฐเหลียงหน้าไหว้หลังหลอก วาจากลับกลอกการเสด็จมาเยือนแคว้นหนานฉีของราชทูตรัฐเหลียงครั้งนี้ จะต้องมีการต่อสู้แก่งแย่งชิงกันอีกเป็นแน่ทว่า เหล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 105

    ณ จวนตระกูลเฟิ่งฮูหยินเฟิ่งมองบุตรชายที่กลับมาด้วยอาภรณ์สภาพดูไม่ได้ เจ็บปวดใจเหลือคณา“เหยียนเฉิน เจ้าเป็นอะไรไป!”เฟิ่งเหยียนเฉินไม่ใยดีความห่วงใยของมารดา มุ่งหน้าเดินตรงเข้าไปที่ลานด้านในตลอดทาง สายตาของเขาว่างเปล่าเคว้งคว้าง ข้างหูล้วนเป็นเสียงการรบราฆ่าฟัน และซากศพที่ตายตาไม่หลับมากมายในปีนั้น เป็นเพราะเขาเป็นผู้ไร้ประโยชน์เช่นนี้ จึงทำให้ทุกคนผิดหวัง“พี่ใหญ่!” เฟิ่งหมิงเซวียนที่เป็นน้องชายขวางทางเขา พินิจพิเคราะห์เขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แววตาเผยความยินดีที่เห็นผู้อื่นมีความทุกข์อย่างซ่อนไม่อยู่“เป็นอะไรเช่นนี้พี่ใหญ่ ขุนนางชั้นผู้น้อยเยี่ยงพี่ เหตุใดแม้กระทั่งอาภรณ์ยังรักษาไว้ไม่ได้กันล่ะ?”เฟิ่งเหยียนเฉินไม่ได้สนใจเฟิ่งหมิงเซวียนหยิบหนังสือแต่งตั้งออกมาหนึ่งใบ โอ้อวดอย่างออกนอกหน้า ยิ้มจนเนื้อปิดตาทั้งสองข้างมิด“เห็นหรือไม่ ข้าเป็นทูตส่งสาสน์แล้ว! ระดับแปดเชียวนะ สู้กว่าเจ้านครฝ่ายซ้ายของพี่ตั้งหนึ่งขั้น!”“ยินดีด้วย” เฟิ่งเหยียนเฉินเดินจากไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เฟิ่งหมิงเซวียนถ่มน้ำลายไปทางร่างเงาของเขา“ถุย! เจ้าคนไร้ประโยชน์!”เป็นถึงจอหงวนฝ่ายบู๊ กลับทำต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 106

    ครั้งแรกของทุกสิบวันที่พิษกำเริบก็มาเยือนเช่นนี้ทว่าฝั่งซ่งหลี่นั้นยังไม่มีข่าวคราวเลยเฟิ่งจิ่วเหยียนรวบรวมพลังภายในเพื่อระงับพิษกำเริบอย่างเงียบเชียบ ทว่านี้ทำได้เพียงทุเลาลงเท่านั้น ไม่สามารถระงับได้ทั้งหมดดูแล้ว นางจำเป็นต้องไปขอยาถอนพิษจากเซียวอวี้ย่างเข้ายามค่ำคืนเฟิ่งจิ่วเหยียนเปลี่ยนโฉมหน้า รุดหน้าไปที่ตำหนักฉางซิ่นเพื่อขอยาครั้งนี้ นางระมัดระวังตัวมากกว่าเดิมในตำหนักฉางซิ่นไร้ผู้คนซุ่มโจมตีในตำหนักมีเพียงองครักษ์เฉินจี๋ผู้เดียว“ฮ่องเต้รับสั่ง ใช้พิษนี้ก็สามารถควบคุมเจ้าได้แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจับกุมเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องระแวดระวังตัวเช่นนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ปักใจเชื่อฮ่องเต้ทรราชย์นั้นพูดจากลับกลอกหลายคราแล้วนางได้ยาแล้ว รุดหน้าหลบหนีไปก่อนเฉินจี๋ไม่ได้ไล่ตามนางไป มุ่งหน้ากลับตำหนักจื้อเฉินเพื่อไปรายงานเซียวอวี้นั่งอยู่ริมโต๊ะยาว ข้าง ๆ มือได้วางแส้เก้าท่อนของนักฆ่าผู้นั้นไว้เฉินจี๋ฉงนอยู่ในใจ ผ่านไปนมนานแล้ว เหตุใดฮ่องเต้ยังเก็บไว้อีก?“ฝ่าบาท ไม่จำเป็นต้องจับกุมนักฆ่าผู้นั้นจริง ๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ?”เซียวอวี้สีหน้าเย็นยะเยือก“จับไว้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 107

    กุ้ยเฟยฉลองพระองค์สีชาดที่เป็นสีของภรรยาหลวงสวมใส่ได้เท่านั้น ความมุ่งมาดปรารถนาเด่นเห็นได้ชัดนางงดงามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผนวกกับการแต่งแต้มของเครื่องประทินโฉม สะกดทุกสายตาของเหล่าฝูงชน บดบังรัศมีนางสนมทั้งหมด ย่อมไม่ใช่เรื่องยากอันใดไม่คิดว่า เมื่อฮองเฮาปรากฏกาย สายตาที่จับจ้องนางมลายสิ้นแล้วนางผินสายตามองตามฝูงชนไป ดวงตาเบิกกว้างทันที...เฟิ่งจิ่วเหยียนฉลองพระองค์อาภรณ์พิธีการสีเหลือง สวมมงกุฎราชินี งดงามสง่า ดูดีมีชาติตระกูลหากกล่าวว่ากุ้ยเฟยงดงามเย้ายวนใจ ฮองเฮาสง่างามยากจะหาสิ่งใดเปรียบได้กุ้ยเฟยคือบุปผาท่ามกลางชลาศัย ความงามที่เย้ายวนใจทำให้คนปรารถนานำมาเชยชมฮองเฮาคือจันทราบนท้องนภา ทำให้คนใฝ่หาทว่าเอื้อมไม่ถึง รู้อยู่แก่ใจว่าไม่คู่ควร และมิกล้าคิดสกปรกโสมม ทำได้เพียง“เคารพบูชา”นางอย่างระมัดระวัง นี่เป็นความงามชนิดหนึ่งที่ทำให้คนยอมสวามิภักดิ์ไทเฮานั่งอยู่ที่ตำแหน่ง มองไปที่ฮองเฮา อดไม่ได้ที่เหม่อลอยมังกรคู่หงส์ ดุจคู่สร้างคู่สมฮองเฮาอยู่ในลักษณะที่ควรจะเป็นสตรีตระกูลเฟิ่งชื่อเสียงสมคำร่ำลือรังสีที่ทำให้คนสวามิภักดิ์เช่นนั้น แผ่ซ่านออกจากเนื้อใน สวยงามอ่อน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 108

    “ฮองเฮา!” ราชทูตรัฐเหลียงทุกคนกล่าวพร้อมกันเฟิ่งจิ่วเหยียนสุขุมอย่างมาก เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ข่าวลือเหล่านี้ ข้ามิเคยหลงเชื่อ”เหล่าราชทูตมองหน้ากันไปมา รู้สึกอึดอัดใจทันทีนางพูดสุภาพเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่สามารถชักสีหน้าได้!เกรงว่าฮองเฮาแคว้นหนานฉีผู้นี้จะพูด “ข่าวลือ” ไปมากกว่านี้หูเอ่อร์ต๋ากัดฟันกรอด“ถูกต้องแล้ว ล้วนเป็นข่าวลือ!“ข้าไม่มีกลิ่นกายแม้แต่น้อย!”ส่วนพวกอัครเสนาบดีจะเป็นเยี่ยงไรนั้น เขาขอไม่แสดงความคิดเห็นผ่านการตื่นตระหนกครั้งนี้ เหล่าราชทูตไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวถึงเรื่องที่ฮองเฮาถูกโจรภูเขาลักพาตัวไปอีกเหล่าเสนาบดีแคว้นหนานฉีกลับต่างออกไปพวกเขาอยากได้ยินสิ่งที่ฮองเฮาพูดต่อไปที่พูดไปเมื่อครู่ยังไม่สาแก่ใจ!กุ้ยเฟยยังคงกัดฟันกรอดหูเอ่อร์ต๋ามิพูดอันใดแล้วงั้นรึ?เพียงข่าวลือไม่กี่เรื่อง ก็ทำให้พวกเขาสะอึกจนพูดไม่ออกแล้วหรือ?ความจริงแล้ว สิ่งที่เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวนั้นล้วนเป็นความจริงทั้งหมดเป็นเพียง“ข่าวลือ”เท่านั้น สิ่งที่นางทราบยังมีอีกมากมาย เกรงว่านางกล้าพูด พวกเขาก็ไม่กล้าฟัง!เซียวอวี้สายตาเรียบนิ่งมองไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียนโดยไม่ตั้งใจส

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1230

    ฉับ! ศีรษะร่วงลงบนพื้น ฮ่องเต้ในรัชสมัยหนึ่ง สิ้นพระชนม์ด้วยน้ำมือของพระโอรสแท้ ๆ องค์ชายสี่ลงมือสังหารด้วยดวงตาแดงก่ำ มือถือดาบใหญ่ หายใจหอบถี่ แฮกแฮก—— หน้าอกของเขากระเพื่อมอย่างแรง หัวใจเต้นแรงแทบจะหลุดออกมา เขา สังหารเสด็จพ่อ เขาสังหารเสด็จพ่อที่ลำเอียงพระองค์นั้น! ตาเฒ่าคนนี้ ในที่สุดก็ตายแล้ว! มือของเขายังไม่หายสั่น ขณะเดียวกัน เขาคิดว่าตนเองแข็งแกร่งกว่าเสด็จพี่รอง เสด็จพี่รองคนนั้นยังใจอ่อนนัก และเขา...ไม่โหดเหี้ยมไม่นับเป็นชายชาตรี! “ถ่ายทอดราชโองการ เสด็จพ่อสิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน!” “พ่ะย่ะค่ะ!” ยามนี้ องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกหวาดกลัวนัก นางล้มลงกับพื้น โดยไม่เชื่อเลยว่า เสด็จพี่สี่จะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้! ไม่สิ ไม่ถูกต้อง ล้วนแต่เกิดจากการยุยงของนังสารเลวเฟิ่งจิ่วเหยียนนั่น! ที่ผ่านมาเสด็จพี่สี่เป็นคนดีมาก! เฟิ่งจิ่วเหยียน ล้วนเป็นเพราะเฟิ่งจิ่วเหยียน! องค์หญิงเซี่ยนอี๋พยายามจะลุกขึ้น คิดอยากจะหนีออกไปจากที่แห่งนี้ นางหวาดกลัวนัก ทว่า บัลลังก์ที่องค์ชายสี่ได้ครอบครองอย่างผิดวิธี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1229

    เมื่อเทียบกับถูกพระโอรสบังคับให้สละราชบัลลังก์ ฮ่องเต้เยี่ยนมิอาจทนต่อการสมคบร่วมคิดกับศัตรูต่างแคว้นมากกว่า! เดิมคิดว่าเจ้าสี่มีความฉลาดขึ้นบ้างแล้ว ใช้ทหารเพียงสามพันนายบังคับฮ่องเต้ให้สละราชบัลลังก์สำเร็จ พอมีความสามารถอยู่บ้าง ผู้ใดจะรู้... ผู้ใดจะรู้ว่าเป็นเฟิ่งจิ่วเหยียนที่บงการอยู่เบื้องหลัง! ฮ่องเต้เยี่ยนโกรธจนเจ็บหัวใจ เขาถลันกายลุกขึ้นยืน ชี้นิ้วไปที่องค์ชายสี่พลางด่าทอ “เจ้าโง่สมองมีแต่หนอง! “เราให้กำเนิดคนโง่เช่นเจ้าได้อย่างไร! “สารเลว! ไอ้สารเลว!! “เจ้าโง่ถึงขนาดที่ยอมร่วมมือกับชาวฉี เจ้า เจ้ามัน...” ฮ่องเต้เยี่ยนโกรธเกรี้ยวอย่างหนัก จนกระอักโลหิต “พรวด” เต็มปาก “เสด็จพ่อ!” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ได้แต่ยืนมอง และร้องไห้อย่างช่วยไม่ได้ นางก็ถูกลูกธนูยิงเช่นกัน ใครจะมาช่วยนางได้! “เสด็จพี่สี่! ท่านจะเป็นอย่างไร ก็มิควรร่วมมือกับชาวฉี!” องค์ชายสี่หาได้สนใจไม่ พ่อและลูกสาวคู่นี้ช่างไร้สมอง พวกเขาหารู้ไม่ว่า เขาเพียงหลอกใช้ชาวฉีเท่านั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนตามหาฮ่องเต้ฉีไม่พบ ย่อมจะถูกเขาควบคุม ถึง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1228

    องค์หญิงเซี่ยนอี๋คงไม่เข้าใจ เฟิ่งจิ่วเหยียนผู้นี้เป็นบ้าอะไร ถึงได้รนหาที่ตายเองเช่นนี้นังสารเลวนี่ หลังจากช่วยฮ่องเต้ฉีได้ ไม่คิดที่จะเผ่นหนี กลับคิดที่จะเข้าไปในวังแทน!แถมยังพาองค์หญิงเช่นนางร่วมทางไปด้วย!เซียวอวี้เองก็แปลกใจเช่นเดียวกันทว่า เขาเชื่อมั่นในทุกการตัดสินใจของนางเมื่อมาถึงประตูวัง องค์หญิงเซี่ยนอี๋ก็ร้องขอความช่วยเหลือเสียงดัง“ข้าอยู่นี้! รีบมาจับพวกเขาซะ!”ทว่า เหล่าองครักษ์ที่เฝ้าประตูวังอยู่ไม่สนใจนาง กลับหันไปทำความเคารพเฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้แทน“ถวายบังคมฝ่าบาทและฮองเฮา!”องค์หญิงเซี่ยนอี๋ตกตะลึง“พวกเจ้า…พวกเจ้าเรียกพวกเขาว่าอะไรนะ? นี่พวกเจ้าบ้าไปแล้วหรือไร!”หรือว่านางกำลังฝัน? ทุกอย่างดูแปลกไปหมด!เซียวอวี้จำได้ ในบรรดาองครักษ์ที่เฝ้าประตูวัง มีคนคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ผู้หนึ่งคนผู้นี้ก็คืออู๋ไป๋อู๋ไป๋ใส่เครื่องแบบของชาวเป่ยเยี่ยน ดูกลมกลืนอย่างมากความจริงแล้ว องครักษ์คนอื่นล้วนเป็นกองทัพอินทรีเหินของเฟิ่งจิ่วเหยียนเช่นเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาจึงทำหูทวนลมกับเสียงร้องขอความช่วยเหลือขององค์หญิงเซี่ยนอี๋องค์หญิงเซี่ยนอี๋ไม่เข้าใจเรื่องรา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1227

    กำลังคนที่เฟิ่งจิ่วเหยียนพามาด้วยมีมากพอ ด้วยเหตุนี้นางจึงไร้กังวลในขณะนี้ในที่สุดนางก็ตามหาเซียวอวี้เจอภายใต้ชายคา นางกอดเซียวอวี้ไว้แนบแน่น มีเพียงความรู้สึกแท้จริงเช่นนี้ นางจึงสามารถดึงตัวเองออกมาจากความหวาดหวั่นได้“ลูกอยู่ที่วัง รอเรากลับไปหา” นางเสียงแหบพร่าเซียวอวี้ถอนหายใจอย่างโล่งอกการที่พวกนางสองแม่ลูกปลอดภัย คือความปรารถนาอันสูงสุดของเขา มีค่ามากกว่าความเป็นความตายของตัวเขาเองด้วยซ้ำน่าเสียดาย ที่ไม่สามารถไปเจอลูกในทันทีได้เขาไม่ได้ซักถามสิ่งใดมากมาย เพียงตกอยู่ในภวังค์แห่งความดีใจในการพบเจอกันอีกครั้ง จึงยกแขนข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ กอดตอบเฟิ่งจิ่วเหยียนกลับไปได้กลับมาเจอเขาอีกครั้ง เฟิ่งจิ่วเหยียนตื้นตันเป็นอย่างมากเพียงแต่ว่า นิสัยเดิมย่อมแก้ยาก ด้วยความที่นางเป็นคนไม่อ่อนไหวกับสิ่งใดง่าย ๆ แม้นในใจจะมีมวลคลื่นก่อตัวรุนแรงเพียงใด เบื้องหน้ายังคงควบคุมอาการไว้ได้ตามสัญชาตญาณกล่าวให้ถูกต้องคือ นางที่ไม่ค่อยแสดงสีหน้า ขณะอยากใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้า จึงค่อนข้างดูฝืนสีหน้าของนางในตอนนี้เหมือนร้องไห้ก็ไม่ใช่ยิ้มให้ก็ไม่เชิงเดิมทีก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว พอมาเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1226

    เหล่าองครักษ์ลับตามมาช่วยได้ทัน ล้อมเซียวอวี้ไว้ในพื้นที่ที่ปลอดภัย“คุ้มกันฝ่าบาทกลับไปก่อน!”พวกเขามีเพียงไม่กี่คน ไม่สามารถจัดการกับคนเป่ยเยี่ยนเหล่านี้ได้ขณะนี้เอง หยิ่นเอ้อร์ที่จับองค์หญิงเซี่ยนอี๋เป็นตัวประกันไว้ก็กล่าวด้วยเสียงเยือกเย็น “บอกให้พวกเขาหยุดซะ”องค์หญิงเซี่ยนอี๋ไม่รู้ว่าคนผู้นี้คือใคร ทว่านางมั่นใจ ต้องเป็นคนของแคว้นหนานฉี ที่มาช่วยฮ่องเต้ฉีเป็นแน่นางกัดริมฝีปาก“พวกเจ้าจะจับข้าไปก็ไร้ประโยชน์! การสังหารเขา คือคำสั่งของเสด็จพ่อข้า!”นางพูดความจริงแววตาของหยิ่นเอ้อร์พลันเย็นชาจากนั้น เขาก็ลากองค์หญิงเซี่ยนอี๋มาที่ลานกว้าง ให้นางปรากฏตัวท่ามกลางอันตรายเหล่ามือธนูเห็นเช่นนั้น จึงลังเลหากยิงองค์หญิงตาย โทษของพวกเขาก็คงหนักทว่าขณะนี้เอง หัวหน้ามือธนูก็ส่งเสียงอย่างเด็ดขาด“ยิงต่อไป! ห้ามหยุด!”เขามองไปยังองค์หญิงเซี่ยนอี๋ด้วยแววตาไร้ความรู้สึกองค์หญิงแล้วอย่างไร ต่อให้เป็นองค์ชาย ก็ไม่สามารถมาขัดขวางการจับตัวฮ่องเต้ฉีไปได้ยิ่งไปกว่านั้น เพราะคำพูดเพียงไม่กี่ประโยคขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ ก็ทำให้ฝ่าบาททรงฆ่าองครักษ์ไปหลายคนแล้วในเมื่อคิดว่าชีวิตของพ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1225

    เมื่อเห็นองครักษ์ถูกหักคอตายต่อหน้า องค์หญิงเซี่ยนอี๋ก็ตกตะลึงพอได้ยินอีกว่าพิษของผงสลายเส้นเอ็นถูกถอนแล้ว นางยิ่งทำอะไรไม่ถูกต่างกล่าวกันว่าฮ่องเต้หนานฉีพระองค์นี้ได้ทั้งบุ๋นและบู๊ ก่อนที่จะขึ้นครองราชย์ก็ได้นำทัพด้วยตนเอง ในการศึกครั้งเดียวได้ตัดศีรษะของแม่ทัพฝ่ายศัตรูไปนับไม่ถ้วนครั้งนี้ที่แคว้นเป่ยเยี่ยนสามารถจับเขามาได้เพราะใช้วิธีการต่ำช้า อาศัยตอนที่อีกฝ่ายไม่ทันระวัง ทำให้เขาถูกพิษผงสลายเส้นเอ็นตั้งแต่แรกทว่ายามนี้ฮ่องเต้หนานฉีฟื้นพลังภายในกลับมาได้แล้ว เช่นนั้นย่อมส่งผลเสียต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก!องค์หญิงเซี่ยนอี๋ถอยหลังตามสัญชาตญาณ แล้วให้องครักษ์เข้าไปจัดการ“จับเขา! ต้องจับเขาให้ได้...ไม่สิ ปิดประตูห้องลับ! ปิดประตู!”นางลนลาน พยายามวิ่งไปทางกลไกองครักษ์บางคนเองก็นึกถึงจุดนี้ได้เช่นกัน แต่ทว่าพวกเขาก็ยังช้าไปก้าวหนึ่งเซียวอวี้โจมตีองครักษ์หลายคนจนล้มลงไปแล้วออกมาจากห้องลับกลับเป็นองครักษ์พวกนั้นที่ถูกขังอยู่ในห้องลับองครักษ์ด้านนอกเห็นแนวโน้มไม่ดี จึงกางค่ายกลแหฟ้าข่ายดินไว้หลายชั้นนานแล้วไม่กี่อึดใจ เหล่าองครักษ์ก็ล้อมจากด้านนอกเข้ามาด้านใน แม้แต่บนขื่อก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1224

    พู่หยกที่เฟิ่งจิ่วเหยียนมอบให้เซียวอวี้ นางจำมันได้ทว่าไม่ใช่ชิ้นตรงหน้านี้ทว่าสร้อยเงินที่ผูกไว้นั้นกลับคุ้นตานักนี่ก็เป็นเพราะสร้อยเงินเส้นนั้น หยิ่นลิ่วถึงได้มั่นใจ ว่านี่คือพู่หยกของฝ่าบาทเฟิ่งจิ่วเหยียนหยิบมันมาวางไว้บนมือ แล้วมองดูอย่างละเอียดพู่หยกชิ้นนั้นที่นางให้ ด้านบนไม่ได้สลักอะไรไว้มากนัก เป็นเพียงหยกที่ถูกขัดเงาอย่างประณีต สะอาดสะอ้านเท่านั้น ทว่าชิ้นที่ในมือนี้ ด้านบนมีร่องรอยแกะสลักที่หยาบอย่างยิ่งนี่ไม่ใช่ผลงานของช่างฝีมือแน่นอน กลับเหมือนชิ้นงานฝึกของผู้ที่เพิ่งเริ่มเรียนมากกว่าอีกทั้งรอยแกะสลักยังใหม่มากด้วยหลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนดูแล้วนางก็แน่ใจ“เป็นการแกะสลักด้วยกริช“กริชเป็นมีดที่มีรูปร่างเล็กชนิดหนึ่ง ส่วนปลายคมมากพอที่จะแกะสลักหยกได้ ทว่าส่วนปลายของมันสั้น กว้างไม่มากพอ เปลืองเวลาอย่างยิ่ง ไม่ใช่ตัวเลือกแรกของการแกะสลักหยกชิ้นใหญ่“มีบางคนที่ใช้กริชแกะสลักอย่างประณีตได้ ทว่ากริชไม่เหมาะ...”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองภาพที่ถูกแกะสลักไว้ นางค่อย ๆ คลายคิ้วที่ขมวดทันใดนั้นนางก็วางพู่หยกลงด้วยแววตาคม แล้วลุกขึ้นสั่งทุกคน“ไปตรวจสอบจวนองค์หญิงทั้งหมด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1223

    จวนองค์หญิงเซี่ยนอี๋เซียวอวี้ต้องการยาถอนพิษผงสลายเส้นเอ็น ทว่าของสิ่งนี้ทำได้เพียงอาศัยคนอื่นตัวเขาอยู่ในคุก ไม่อาจหามาได้โชคดีที่สาวใช้นามอาจือนั่นไม่โง่ นางเอายาถอนพิษมาได้จริง ๆ“ฮ่องเต้หนานฉี บ่าวไม่รู้ว่ายาถอนพิษนี้ได้ผลจริงหรือไม่ ท่านลองใช้ดูก่อนดีหรือไม่? หากใช้ไม่ได้ บ่าวจะไปหามาให้ท่านใหม่เพคะ”อาจือมุ่งมั่นอยากจะปีนป่ายขึ้นไปสู่ตำแหน่งสูงส่ง จะได้เป็นคนที่เหนือกว่าผู้อื่นเพื่อที่จะได้ยาถอนพิษนี้มา นางใช้เงินที่ใช้เวลาสะสมมาเป็นเวลาหลายปีนั่นเป็นเงินที่นางค่อย ๆ สะสมทีละเล็กละน้อย เพื่อเตรียมไว้เป็นสินเจ้าสาวในอนาคตเซียวอวี้เปิดกล่องยาแล้วใช้เข็มเงินตรวจพิษดูก่อนอย่างระมัดระวัง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีปัญหา เขาค่อยกินยาลงไปจากนั้นเขาก็ตั้งใจเข้าณาณ ปรับกำลังภายในเดิมอาจือยังอยากจะถามเขาว่ารู้สึกเป็นยังไงบ้าง ทว่าเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้นางจึงได้แต่ถอยออกไป จะได้ไม่รบกวนเขาระหว่างเดินกลับตำหนักบรรทมขององค์หญิง อาจือก็คิดไปต่าง ๆ นานานางคาดหวังการมาถึงของฮองเฮาแคว้นหนานฉียิ่งกว่าใครได้ยินว่าสตรีนางนี้เก่งกาจมาก สามารถเล่นงานกองทัพเป่ยเยี่ยนให้อยู่ในกำมือได้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1222

    ครั้งนี้ องค์ชายสี่รู้สึกผิดหวังถึงขีดสุด ยังมีความโกรธแค้นที่ล้นพ้น ล้วนพุ่งเป้าไปยังเสด็จพ่อของเขา “ตาเฒ่าไม่รู้จักตาย!ทหารสามพันนายก็นับว่าน้อยอยู่แล้ว ล้วนยังเป็นพวกคนแก่เฒ่าเจ็บป่วยพิการ!เห็นได้ชัดว่ากำลังเย้ยหยันเขา! องค์ชายสี่โกรธจนแทบหายใจไม่ทัน มือเกาะขอบโต๊ะไว้ กำหมัดแน่น แทบอยากจะบุกเข้าวังเดี๋ยวนี้เลย เฟิ่งจิ่วเยียนล่วงรู้เรื่องนี้ในไม่ช้า องค์ชายสี่เชิญนางมาที่จวน เพื่อขอคำปรึกษา“ทหารสามพันนายนั่น ข้าดูมาแล้ว ล้วนไร้ประโยชน์ พึ่งพาพวกเขา...ไปกระทำการนั้น เห็นทีจะมิได้ “ไม่แน่เสด็จพ่อไม่วางใจในตัวข้า จึงป้องกันข้าไว้?”องค์ชายสี่รำพึงรำพันอยู่มากมาย ก็ถูก ยามคนตกอยู่ในห้วงแห่งความหวาดกลัวและร้อนรน ย่อมมิอาจอดกลั้นต่อการพร่ำวาจา เพื่อระบายอารมณ์ตนเองให้ผ่อนคลายลง เขาพูดจบก็ดื่มน้ำชาไปหลายคำ เหงื่อผุดเต็มหน้าผาก ตรงข้ามกับเฟิ่งจิ่วเยียน นางนิ่งสงบ ราวกับฟ้าพังทลายก็หาใช่เรื่องใหญ่อะไรท่วงท่ามั่นใจของนาง ทำให้องค์ชายสี่มีความหวังขึ้นมาเขาวางถ้วยน้ำชา แล้วโน้มกายถาม “มีแผนการอันใดหรือไม่ ที่จักให้เสด็จพ่อให้กำลังพลเพิ่มขึ้น?”เฟิ่งจิ่วเยียนกลับ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status