Share

บทที่ 1226

Aвтор: อี้ซัวเยียนอวี่
เหล่าองครักษ์ลับตามมาช่วยได้ทัน ล้อมเซียวอวี้ไว้ในพื้นที่ที่ปลอดภัย

“คุ้มกันฝ่าบาทกลับไปก่อน!”

พวกเขามีเพียงไม่กี่คน ไม่สามารถจัดการกับคนเป่ยเยี่ยนเหล่านี้ได้

ขณะนี้เอง หยิ่นเอ้อร์ที่จับองค์หญิงเซี่ยนอี๋เป็นตัวประกันไว้ก็กล่าวด้วยเสียงเยือกเย็น “บอกให้พวกเขาหยุดซะ”

องค์หญิงเซี่ยนอี๋ไม่รู้ว่าคนผู้นี้คือใคร ทว่านางมั่นใจ ต้องเป็นคนของแคว้นหนานฉี ที่มาช่วยฮ่องเต้ฉีเป็นแน่

นางกัดริมฝีปาก

“พวกเจ้าจะจับข้าไปก็ไร้ประโยชน์! การสังหารเขา คือคำสั่งของเสด็จพ่อข้า!”

นางพูดความจริง

แววตาของหยิ่นเอ้อร์พลันเย็นชา

จากนั้น เขาก็ลากองค์หญิงเซี่ยนอี๋มาที่ลานกว้าง ให้นางปรากฏตัวท่ามกลางอันตราย

เหล่ามือธนูเห็นเช่นนั้น จึงลังเล

หากยิงองค์หญิงตาย โทษของพวกเขาก็คงหนัก

ทว่าขณะนี้เอง หัวหน้ามือธนูก็ส่งเสียงอย่างเด็ดขาด

“ยิงต่อไป! ห้ามหยุด!”

เขามองไปยังองค์หญิงเซี่ยนอี๋ด้วยแววตาไร้ความรู้สึก

องค์หญิงแล้วอย่างไร ต่อให้เป็นองค์ชาย ก็ไม่สามารถมาขัดขวางการจับตัวฮ่องเต้ฉีไปได้

ยิ่งไปกว่านั้น เพราะคำพูดเพียงไม่กี่ประโยคขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ ก็ทำให้ฝ่าบาททรงฆ่าองครักษ์ไปหลายคนแล้ว

ในเมื่อคิดว่าชีวิตของพ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Заблокированная глава
Комментарии (16)
goodnovel comment avatar
wanwisach2550
มากกว่า4ตอนได้มั๊ย ค้างๆๆๆๆ
goodnovel comment avatar
นงชนก เจิมวิจิตร
ลุ้นมากๆเลย..กลัวเต้จะไม่เจอฮองเฮา..ขออ่านมากกว่า4บทได้มั๊ย...
goodnovel comment avatar
Sun Sun
สิ้นสุดการรอคอย ต้องพรุ่งนี้
ПРОСМОТР ВСЕХ КОММЕНТАРИЕВ

Related chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1

    “แม่ทัพน้อย สารด่วนที่สุด! คุณหนูใหญ่ได้รับความอัปยศจนปลิดชีพตัวเอง นายหญิงต้องการให้ท่านกลับโดยเร็วที่สุด เพื่ออภิเษกสมรสแทนคุณหนูใหญ่!”ชายแดนแคว้นหนานฉี เกือกม้าย่ำผ่านลำธารที่เพิ่งละลาย หยดน้ำกระเซ็นซ่านเฟิ่งจิ่วเหยียนควบม้านำอยู่หน้าสุด นางสวมอาภรณ์เรียบง่ายแขนสอบสีดำ ใช้ปิ่นไม้อันเดียวรวบผมดำขลับ เส้นผมและชายชุดสะบัดพลิ้ว ในความองอาจเหนือคนนั้นแฝงไว้ซึ่งอารมณ์อันคุกรุ่นนางกับเฟิ่งเวยเฉียงน้องสาวเป็นฝาแฝดกัน แต่เนื่องจากการมีฝาแฝดไม่เป็นมงคล นางจึงถูกเลี้ยงดูอยู่ข้างนอกมาตั้งแต่เล็กเวยเฉียงมีนิสัยอ่อนโยนอ่อนหวาน ไม่เคยผูกความแค้นกับใครนางไม่เข้าใจเลย ใครจะทำร้ายคนที่บริสุทธิ์ดีงามเช่นนั้นนางจะจับคนผู้นั้นมาถลกหนังเลาะกระดูก สับเป็นชิ้น ๆ ป้อนให้สุนัขกินเสีย!องครักษ์เห็นว่าจะตามไม่ทันความเร็วของนางแล้วจึงตะโกนว่า“แม่ทัพน้อย ตอนนี้ควบม้าตายไปสองตัวแล้ว ข้างหน้ามีโรงเตี๊ยม แวะพักก่อนดีหรือไม่...”เฟิ่งจิ่วเหยียนสะบัดแส้ม้า“ตามไม่ทันก็ไสหัวกลับค่ายทหาร! ย่าห์!”โง่เง่า! มีเวลามาพักผ่อนเสียที่ไหน!สิ่งที่นางแบกรับอยู่ตอนนี้คือหนึ่งร้อยกว่าชีวิตในตระกูลเฟิ่ง!องคร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 2

    เฟิ่งจิ่วเหยียนที่อยู่ในห้องหรี่ดวงเนตรงามลงเล็กน้อยวันนี้ไม่ว่าผลตรวจร่างกายเป็นเช่นไร ก็ล้วนแต่ไม่เป็นผลดีต่อตระกูลเฟิ่งทั้งสิ้นหวงกุ้ยเฟยจะต้องตัดสินว่าบุตรีตระกูลเฟิ่งไม่บริสุทธิ์เป็นแน่ จากนั้นก็ใช้เหตุนี้สร้างเรื่องตามมาถ้าคนที่มาสวมรอยแทนอย่างนางถูกตรวจร่างกายได้ผลว่ายังบริสุทธิ์ ถึงจะสามารถป้องกันแผนร้ายของหวงกุ้ยเฟย แต่ก็คงจะทำให้หวงกุ้ยเฟยนึกสงสัยขึ้นมาทันทีที่เรื่องสวมรอยแต่งงานมีพิรุธปรากฏ ถึงยามนั้นโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูงก็เพียงพอให้ตระกูลเฟิ่งประสบหายนะได้แล้ว!สายตาเฟิ่งจิ่วเหยียนมองตรงไปข้างหน้า ใช้มือที่จับทวนมาจนชินนั้นแต้มบุปผาตรงหว่างคิ้วของตนเองอย่างหนักแน่นสิ่งที่อาจารย์สั่งสอนนางมีเพียงหลักพิชัยสงครามและหลักการเป็นขุนนางอาจารย์หญิงเคยสอนหลักการครองเรือนให้นาง ในนั้นย่อมมีธรรมเนียมปฏิบัติในวังหลวงด้วยเช่นกัน ยามนั้นแม้นางได้เรียนรู้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้นำมาใช้งานเพราะปณิธานของนางอยู่ที่ใต้หล้า ไม่ต้องการถูกคุมขังไว้ในเรือน เป็นเพียงภรรยาตัวน้อยที่โอนอ่อนผ่อนตามสามีคิดไม่ถึงว่าคนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิตนอกห้องขันทีผู้นั้นเดินนำนางกำนัลจากในวังหลวงตรงมา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 3

    ณ ตำหนักฉือหนิง ที่ประทับของไทเฮาไทเฮาได้ยินเรื่องที่จวนตระกูลเฟิ่งแล้วก็มีสีพระพักตร์แช่มชื่น กล่าวกับกุ้ยหมัวมัวที่ปรนนิบัติอยู่ข้างกายว่า“ตอนงานวันเกิดของข้าปีที่แล้ว เคยเห็นเฟิ่งเวยเฉียงผู้นั้น นิสัยนางอ่อนโยนเกินไป เวลานั้นข้าก็รู้สึกว่านางยากจะรั้งตำแหน่งฮองเฮาได้“เรื่องในวันนี้กลับแปลกใหม่นัก ถึงกับโต้แย้งคนของหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ต่อหน้าธารกำนัล“ข้าต้องมองนางใหม่เสียแล้ว”กุ้ยหมัวมัวเป็นคนเก่าคนแก่ข้างกายไทเฮา เข้าใจความซับซ้อนในวังอย่างลึกซึ้ง นางรินน้ำชาร้อนกรุ่นให้ไทเฮา“แต่ดูจากความโปรดปรานที่ฝ่าบาทมีต่อหวงกุ้ยเฟย แม้ฮองเฮาจะปราดเปรื่องกล้าหาญเพียงไหนก็ยากจะรับมือท่านที่อยู่ตำหนักหลิงเซียวผู้นั้นได้ คืนนี้ ยากจะรับประกันว่าหวงกุ้ยเฟยจะไม่ก่อเรื่องนะเพคะ”เห็นได้ชัดว่านางมีความเห็นแตกต่างจากไทเฮา ไม่คิดว่าฮองเฮาจะมีความสามารถถึงเพียงนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าไทเฮาสลายไป“เจ้าพูดถูก ข้ายังจำได้ว่า วันที่ซิ่วหว่านเข้าวัง เดิมนั้นฝ่าบาทตั้งใจจะไปหานาง ผู้ใดจะคาดคิดว่าหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ผู้นั้นจะเข้ามาขัดขวาง เชิญฝ่าบาทไปหา“น่าสงสารก็แต่ซิ่วหว่านเด็กคนนั้น แม้แต่อาหญิงอย่างข้าก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 4

    ฮ่องเต้ทรราชจะเสด็จมา เฟิ่งจิ่วเหยียนได้แต่บอกให้เหลียนซวงทำทรงผมกลับไปตามเดิม แต่มือของเหลียนซวงสั่นเทิ้ม คิดว่าคงเป็นเพราะหวาดกลัวฮ่องเต้ทรราชที่กำลังจะมาเยือนผู้นั้นนางมือสั่น ย่อมทำผิดพลาดอย่างไม่อาจเลี่ยงเมื่อถูกถอนผมเป็นเส้นที่สาม เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ทนไม่ไหว เอ่ยเสียงเย็นชาว่า“ถอยไป ข้าจัดการเอง” นางเชี่ยวชาญวิชาแปลงโฉม การฝึกฝนทำผมทรงต่าง ๆ ให้ได้อย่างคล่องแคล่วจึงเป็นสิ่งจำเป็นด้วยเหตุนี้ นางจัดแจงเพียงไม่กี่ครั้งก็ทำให้ทรงผมกลับไปเหมือนตอนแรกได้แล้ว เหลียนซวงเห็นแล้วก็ตกตะลึงเหลือล้น“ฮองเฮา ท่านมีฝีมือยอดเยี่ยมนักเพคะ!”แต่ขณะที่ฝั่งพวกนางเตรียมความพร้อมต้อนรับฮ่องเต้ คนจากนอกตำหนักก็มารายงานอีกครั้งว่า“ฮองเฮา โรคปวดศีรษะของหวงกุ้ยเฟยกำเริบ ฝ่าบาทเสด็จไปตำหนักหลิงเซียวแล้วเพคะ”เหลียนซวงเผยอปาก รู้สึกโมโหแต่ไม่กล้าพูดออกมาหวงกุ้ยเฟยจะต้องแกล้งป่วยเป็นแน่ โรคปวดศีรษะกำเริบขึ้นมาตอนนี้ จะเหมาะเจาะขนาดนี้ได้อย่างไรคงเห็นว่าฝ่าบาทเสด็จกลับวังมาแล้วจึงให้คนไปเชิญน่ะสิพอเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยินคำว่าหวงกุ้ยเฟยก็คิดถึงเวยเฉียงน้องสาวเวยเฉียงถูกทำร้ายแสนสาหัสจนถึงแก่คว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 5

    กลับถึงห้องหอ หัวหน้าหมัวมัวที่ตอนแรกก้มหน้าก้มตาท่าทางเข้มงวดก็สั่งให้คนเตรียมน้ำมาปรนนิบัติฮองเฮาอาบน้ำนางเบียดเหลียนซวงออก เข้ามายิ้มกว้างให้เฟิ่งจิ่วเหยียน“ฮองเฮา หลายปีมานี้ นอกจากหวงกุ้ยเฟยแล้ว ฝ่าบาทยังไม่เคยโปรดปรานสนมคนอื่นมาก่อนเลยนะเพคะ ท่านนับเป็นคนแรก!”เหลียนซวงยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกไม่ใคร่พอใจหมัวมัวผู้นี้ตอนแรกยังไม่เห็นว่านางจะปรนนิบัติด้วยความกระตือรือร้นปานนี้ ช่างเป็นพวกประจบผู้มีอำนาจเหยียบย่ำคนฐานะต่ำกว่าโดยแท้ในวังหลวงแห่งนี้ ฐานะของสตรีล้วนพึ่งพาความโปรดปรานของฮ่องเต้ดังคาด มิฉะนั้น ต่อให้สูงส่งเป็นฮองเฮาก็ยังถูกเมินเฉยไม่ได้รับการเหลียวแลหัวหน้าหมัวมัวพูดอะไรไปมากมาย เฟิ่งจิ่วเหยียนล้วนไม่ตอบนางสั่งความอย่างเย็นชา “ออกไปให้หมด ให้เหลียนซวงปรนนิบัติในตำหนักคนเดียวก็พอ”……หลังจากในตำหนักเงียบลงแล้ว เหลียนซวงก็ถามอย่างกังวลใจ“ฮองเฮา ฝ่าบาทเสด็จมาย่อมเป็นเรื่องดี“แต่ท่านทำเช่นนี้ จะมิเป็นการขัดแย้งกับหวงกุ้ยเฟยหรือเพคะ?“นายหญิงบอกให้พวกเราอยู่ในวังหลวงอย่างเงียบ ๆ อย่าสร้างศัตรู โดยเฉพาะหวงกุ้ยเฟย...”“ท่านแม่ก็สอนเวยเฉียงเช่นนี้หรือ” เฟิ่งจิ่ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 6

    เมื่อเหลียนซวงได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวก็รีบเข้าไปในตำหนัก“ฮองเฮา เกิดอะไรขึ้นเพคะ...”เหลียนซวงพูดยังไม่ทันจบ ก็มีเสียงสายหนึ่งดังออกมาจากม่านอักษรมงคล [1] “ไสหัวไป”เป็นเสียงของบุรุษ!เหลียนซวงตระหนักว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว คิดจะตะโกนเรียกคนเข้ามาทันใดนั้นขันทีคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาขวางนางไว้อย่างรีบร้อน เสียงที่พยายามกดความโกรธเกรี้ยวเอาไว้กล่าวว่า“ไม่รู้จักเบิกตาดูซะบ้าง! นั่นคือฮ่องเต้!”เหลียนซวงตกตะลึงจนพูดไม่ออกฝ่ะ ฝ่ะ ฝ่า...ฝ่าบาท? ฮ่องเต้ทรราชผู้ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตาผู้นั้น?มืดค่ำถึงเพียงนี้แล้ว เหตุใดอยู่ ๆ พระองค์ถึงเสด็จมาเล่า!!ภายในม่านฝ่ามือใหญ่ของบุรุษกดไหล่ข้างหนึ่งของเฟิ่งจิ่วเหยียนเอาไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งจับข้อมือข้างที่นางถือกริช โน้มร่างอยู่เหนือนาง ราวกับสิงโตที่กำลังโถมเข้าหาเหยื่อเดิมเฟิ่งจิ่วเหยียนสามารถลองสลัดให้หลุดได้ แต่เมื่อรู้สถานะของอีกฝ่ายนางจึงไม่ได้ลงมือในความมืดมิด นางไม่อาจมองเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดแต่รังสีฆ่าฟันบนร่างของเขาเข้มข้นยิ่ง“ฮองเฮา ไม่อธิบายซักหน่อยหรือ?”น้ำเสียงทุ้มอันราบเรียบของบุรุษทำให้คนรู้สึกกลัวเกรงหากเป็นสต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 7

    คืนนี้ถูกลิขิตไว้แล้วว่านางต้องถูกเอาเปรียบซักครั้ง เฟิ่งจิ่วเหยียนคาดการณ์เรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วที่จริงเมื่อเทียบกับโดนฮ่องเต้ทรราชนี่พรากคืนแรกไป ให้ทำเองยังนับว่าดีกว่ามากนักอย่างน้อยก็ไม่ต้องทนถูกคนกดไว้ข้างล่างเฟิ่งจิ่วเหยียนฉีกผ้าจากชายกระโปรงออกมาชิ้นหนึ่ง นำมาปูรองไว้เป็นผ้าพรหมจรรย์[1]หลังจากนั้นก็ใช้มือหนึ่งถลกกระโปรงขึ้นมา อีกข้างพลิกมือจับกริชนั้นถึงแม้นางตัดสินใจแล้วว่าจะทำ แต่ร่างกายยังคงต่อต้านโดยสัญชาตญาณนางปลอบใจตัวเอง คิดเสียว่าโดนแทงหนึ่งทีแล้วกันตั้งแต่เล็กจนโตนางบาดเจ็บมาน้อยหรือไร?จากนั้นนางก็เริ่มออกแรง...เพียงชั่วพริบตานั้นเองพละกำลังสายหนึ่งพุ่งเข้ามาจับข้อมือนางเอาไว้แน่นเฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วเซียวอวี้แย่งกริชในมือนางไปอีกครั้ง ครั้งนี้น้ำเสียงของเขาเย็นยะเยือกยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก“ช่างเป็นสตรีที่โง่เสียจริง”เคร้ง!กริชถูกโยนออกไปนอกม่านเตียงอักษรมงคล“เจ้าจะบริสุทธิ์หรือไม่ เราไม่แยแสแม้แต่น้อย”“ในเมื่อเจ้ากล้าแลกทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเป็นฮองเฮาให้ได้ เช่นนั้นก็อย่าแกล้งโง่ไปเลย”“ดังเช่นที่เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าเราอยู่ที่ตำหนักห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 8

    เฟิ่งจิ่วเหยียนดูไม่เหมือนพระมเหสีที่ถูกพระสวามีทอดทิ้งอย่างเย็นชาแม้แต่น้อย นางสวมชุดอย่างฮองเฮา แลดูสูงศักดิ์ดั่งพญาหงส์ที่เดินดินนัยน์ตาที่เยือกเย็นคู่หนึ่ง ม่านตาสีอ่อนเผยให้เห็นถึงความสูงศักดิ์ที่มิอาจเอื้อมราวกับหยกผิวพรรณของนางหาได้ซีดขาวอมโรคเหมือนดังที่สตรีในเมืองหลวงนิยมกันไม่ แต่เป็นผิวที่อิ่มเอิบและเปล่งปลั่งดังกลีบกุหลาบรูปลักษณ์งดงามแฝงด้วยความสูงศักดิ์น่าเกรงขาม งามล้ำดั่งเทพธิดาในวังจันทราเหล่าผู้คนในวังหลังล้วนคุ้นเคยกับการเห็นสนมนางในที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับหรงเฟยดี พอวันนี้ได้พบกับความงามพิลาสล้ำของฮองเฮาก็ตาลุกวาวราวกับจะเปล่งแสงได้ไม่เสียทีที่เป็นหญิงงามผู้มีชื่อเสียงโดดเด่นในเมืองหลวง รูปโฉมงดงามล่มเมืองเช่นนี้ หาใช่ปุถุชนคนธรรมดาจะเทียบเคียงได้ตั้งแต่เฟิ่งจิ่วเหยียนเข้าสู่ยุทธภพเพียงลำพัง นางก็ใช้ชีวิตแปลงโฉมหน้ามาโดยตลอดสำหรับนางแล้วหน้าตาที่งดงามคือภาระ โดยเฉพาะในค่ายทหารอาจารย์หญิงมักบอกว่าใบหน้างามนี้ของนางช่างเสียเปล่ายิ่งนัก วัน ๆ ล้วนแต่ถูกนางใช้อย่างส่งเดชเหลียนซวงที่เดินติดตามอยู่ด้านหลังฮองเฮาก็พลันรู้สึกมีหน้ามีตาไปด้วยเมื่อเดินจนถึง

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1226

    เหล่าองครักษ์ลับตามมาช่วยได้ทัน ล้อมเซียวอวี้ไว้ในพื้นที่ที่ปลอดภัย“คุ้มกันฝ่าบาทกลับไปก่อน!”พวกเขามีเพียงไม่กี่คน ไม่สามารถจัดการกับคนเป่ยเยี่ยนเหล่านี้ได้ขณะนี้เอง หยิ่นเอ้อร์ที่จับองค์หญิงเซี่ยนอี๋เป็นตัวประกันไว้ก็กล่าวด้วยเสียงเยือกเย็น “บอกให้พวกเขาหยุดซะ”องค์หญิงเซี่ยนอี๋ไม่รู้ว่าคนผู้นี้คือใคร ทว่านางมั่นใจ ต้องเป็นคนของแคว้นหนานฉี ที่มาช่วยฮ่องเต้ฉีเป็นแน่นางกัดริมฝีปาก“พวกเจ้าจะจับข้าไปก็ไร้ประโยชน์! การสังหารเขา คือคำสั่งของเสด็จพ่อข้า!”นางพูดความจริงแววตาของหยิ่นเอ้อร์พลันเย็นชาจากนั้น เขาก็ลากองค์หญิงเซี่ยนอี๋มาที่ลานกว้าง ให้นางปรากฏตัวท่ามกลางอันตรายเหล่ามือธนูเห็นเช่นนั้น จึงลังเลหากยิงองค์หญิงตาย โทษของพวกเขาก็คงหนักทว่าขณะนี้เอง หัวหน้ามือธนูก็ส่งเสียงอย่างเด็ดขาด“ยิงต่อไป! ห้ามหยุด!”เขามองไปยังองค์หญิงเซี่ยนอี๋ด้วยแววตาไร้ความรู้สึกองค์หญิงแล้วอย่างไร ต่อให้เป็นองค์ชาย ก็ไม่สามารถมาขัดขวางการจับตัวฮ่องเต้ฉีไปได้ยิ่งไปกว่านั้น เพราะคำพูดเพียงไม่กี่ประโยคขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ ก็ทำให้ฝ่าบาททรงฆ่าองครักษ์ไปหลายคนแล้วในเมื่อคิดว่าชีวิตของพ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1225

    เมื่อเห็นองครักษ์ถูกหักคอตายต่อหน้า องค์หญิงเซี่ยนอี๋ก็ตกตะลึงพอได้ยินอีกว่าพิษของผงสลายเส้นเอ็นถูกถอนแล้ว นางยิ่งทำอะไรไม่ถูกต่างกล่าวกันว่าฮ่องเต้หนานฉีพระองค์นี้ได้ทั้งบุ๋นและบู๊ ก่อนที่จะขึ้นครองราชย์ก็ได้นำทัพด้วยตนเอง ในการศึกครั้งเดียวได้ตัดศีรษะของแม่ทัพฝ่ายศัตรูไปนับไม่ถ้วนครั้งนี้ที่แคว้นเป่ยเยี่ยนสามารถจับเขามาได้เพราะใช้วิธีการต่ำช้า อาศัยตอนที่อีกฝ่ายไม่ทันระวัง ทำให้เขาถูกพิษผงสลายเส้นเอ็นตั้งแต่แรกทว่ายามนี้ฮ่องเต้หนานฉีฟื้นพลังภายในกลับมาได้แล้ว เช่นนั้นย่อมส่งผลเสียต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก!องค์หญิงเซี่ยนอี๋ถอยหลังตามสัญชาตญาณ แล้วให้องครักษ์เข้าไปจัดการ“จับเขา! ต้องจับเขาให้ได้...ไม่สิ ปิดประตูห้องลับ! ปิดประตู!”นางลนลาน พยายามวิ่งไปทางกลไกองครักษ์บางคนเองก็นึกถึงจุดนี้ได้เช่นกัน แต่ทว่าพวกเขาก็ยังช้าไปก้าวหนึ่งเซียวอวี้โจมตีองครักษ์หลายคนจนล้มลงไปแล้วออกมาจากห้องลับกลับเป็นองครักษ์พวกนั้นที่ถูกขังอยู่ในห้องลับองครักษ์ด้านนอกเห็นแนวโน้มไม่ดี จึงกางค่ายกลแหฟ้าข่ายดินไว้หลายชั้นนานแล้วไม่กี่อึดใจ เหล่าองครักษ์ก็ล้อมจากด้านนอกเข้ามาด้านใน แม้แต่บนขื่อก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1224

    พู่หยกที่เฟิ่งจิ่วเหยียนมอบให้เซียวอวี้ นางจำมันได้ทว่าไม่ใช่ชิ้นตรงหน้านี้ทว่าสร้อยเงินที่ผูกไว้นั้นกลับคุ้นตานักนี่ก็เป็นเพราะสร้อยเงินเส้นนั้น หยิ่นลิ่วถึงได้มั่นใจ ว่านี่คือพู่หยกของฝ่าบาทเฟิ่งจิ่วเหยียนหยิบมันมาวางไว้บนมือ แล้วมองดูอย่างละเอียดพู่หยกชิ้นนั้นที่นางให้ ด้านบนไม่ได้สลักอะไรไว้มากนัก เป็นเพียงหยกที่ถูกขัดเงาอย่างประณีต สะอาดสะอ้านเท่านั้น ทว่าชิ้นที่ในมือนี้ ด้านบนมีร่องรอยแกะสลักที่หยาบอย่างยิ่งนี่ไม่ใช่ผลงานของช่างฝีมือแน่นอน กลับเหมือนชิ้นงานฝึกของผู้ที่เพิ่งเริ่มเรียนมากกว่าอีกทั้งรอยแกะสลักยังใหม่มากด้วยหลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนดูแล้วนางก็แน่ใจ“เป็นการแกะสลักด้วยกริช“กริชเป็นมีดที่มีรูปร่างเล็กชนิดหนึ่ง ส่วนปลายคมมากพอที่จะแกะสลักหยกได้ ทว่าส่วนปลายของมันสั้น กว้างไม่มากพอ เปลืองเวลาอย่างยิ่ง ไม่ใช่ตัวเลือกแรกของการแกะสลักหยกชิ้นใหญ่“มีบางคนที่ใช้กริชแกะสลักอย่างประณีตได้ ทว่ากริชไม่เหมาะ...”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองภาพที่ถูกแกะสลักไว้ นางค่อย ๆ คลายคิ้วที่ขมวดทันใดนั้นนางก็วางพู่หยกลงด้วยแววตาคม แล้วลุกขึ้นสั่งทุกคน“ไปตรวจสอบจวนองค์หญิงทั้งหมด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1223

    จวนองค์หญิงเซี่ยนอี๋เซียวอวี้ต้องการยาถอนพิษผงสลายเส้นเอ็น ทว่าของสิ่งนี้ทำได้เพียงอาศัยคนอื่นตัวเขาอยู่ในคุก ไม่อาจหามาได้โชคดีที่สาวใช้นามอาจือนั่นไม่โง่ นางเอายาถอนพิษมาได้จริง ๆ“ฮ่องเต้หนานฉี บ่าวไม่รู้ว่ายาถอนพิษนี้ได้ผลจริงหรือไม่ ท่านลองใช้ดูก่อนดีหรือไม่? หากใช้ไม่ได้ บ่าวจะไปหามาให้ท่านใหม่เพคะ”อาจือมุ่งมั่นอยากจะปีนป่ายขึ้นไปสู่ตำแหน่งสูงส่ง จะได้เป็นคนที่เหนือกว่าผู้อื่นเพื่อที่จะได้ยาถอนพิษนี้มา นางใช้เงินที่ใช้เวลาสะสมมาเป็นเวลาหลายปีนั่นเป็นเงินที่นางค่อย ๆ สะสมทีละเล็กละน้อย เพื่อเตรียมไว้เป็นสินเจ้าสาวในอนาคตเซียวอวี้เปิดกล่องยาแล้วใช้เข็มเงินตรวจพิษดูก่อนอย่างระมัดระวัง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีปัญหา เขาค่อยกินยาลงไปจากนั้นเขาก็ตั้งใจเข้าณาณ ปรับกำลังภายในเดิมอาจือยังอยากจะถามเขาว่ารู้สึกเป็นยังไงบ้าง ทว่าเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้นางจึงได้แต่ถอยออกไป จะได้ไม่รบกวนเขาระหว่างเดินกลับตำหนักบรรทมขององค์หญิง อาจือก็คิดไปต่าง ๆ นานานางคาดหวังการมาถึงของฮองเฮาแคว้นหนานฉียิ่งกว่าใครได้ยินว่าสตรีนางนี้เก่งกาจมาก สามารถเล่นงานกองทัพเป่ยเยี่ยนให้อยู่ในกำมือได้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1222

    ครั้งนี้ องค์ชายสี่รู้สึกผิดหวังถึงขีดสุด ยังมีความโกรธแค้นที่ล้นพ้น ล้วนพุ่งเป้าไปยังเสด็จพ่อของเขา “ตาเฒ่าไม่รู้จักตาย!ทหารสามพันนายก็นับว่าน้อยอยู่แล้ว ล้วนยังเป็นพวกคนแก่เฒ่าเจ็บป่วยพิการ!เห็นได้ชัดว่ากำลังเย้ยหยันเขา! องค์ชายสี่โกรธจนแทบหายใจไม่ทัน มือเกาะขอบโต๊ะไว้ กำหมัดแน่น แทบอยากจะบุกเข้าวังเดี๋ยวนี้เลย เฟิ่งจิ่วเยียนล่วงรู้เรื่องนี้ในไม่ช้า องค์ชายสี่เชิญนางมาที่จวน เพื่อขอคำปรึกษา“ทหารสามพันนายนั่น ข้าดูมาแล้ว ล้วนไร้ประโยชน์ พึ่งพาพวกเขา...ไปกระทำการนั้น เห็นทีจะมิได้ “ไม่แน่เสด็จพ่อไม่วางใจในตัวข้า จึงป้องกันข้าไว้?”องค์ชายสี่รำพึงรำพันอยู่มากมาย ก็ถูก ยามคนตกอยู่ในห้วงแห่งความหวาดกลัวและร้อนรน ย่อมมิอาจอดกลั้นต่อการพร่ำวาจา เพื่อระบายอารมณ์ตนเองให้ผ่อนคลายลง เขาพูดจบก็ดื่มน้ำชาไปหลายคำ เหงื่อผุดเต็มหน้าผาก ตรงข้ามกับเฟิ่งจิ่วเยียน นางนิ่งสงบ ราวกับฟ้าพังทลายก็หาใช่เรื่องใหญ่อะไรท่วงท่ามั่นใจของนาง ทำให้องค์ชายสี่มีความหวังขึ้นมาเขาวางถ้วยน้ำชา แล้วโน้มกายถาม “มีแผนการอันใดหรือไม่ ที่จักให้เสด็จพ่อให้กำลังพลเพิ่มขึ้น?”เฟิ่งจิ่วเยียนกลับ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1221

    ดูภายนอก เฟิ่งจิ่วเหยียนเหมือนมาเพียงลำพัง ความจริง ทั้งภายในภายนอกจวนองค์ชายสี่ ถูกเหล่าองครักษ์ลับล้อมไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เห็นฮองเฮาออกมาอย่างปลอดภัย เหล่าองครักษ์ลับค่อยวางใจลงครั้นกลับถึงโรงพักแรม อู๋ไป๋ก็เร่งร้อนเอ่ยถาม “นายท่าน องค์ชายสี่บอกหรือไม่ ยามนี้ฝ่าบาทถูกคุมขังอยู่ที่ใด?”เฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องมองแผนที่ในมือ สีหน้าสงบเยือกเย็น “ไม่มีตำแหน่งที่ชัดเจน” นางก็หาได้ถาม ต่อให้ถาม อีกฝ่ายก็มิอาจตอบตามสัตย์จริง เว้นเสียแต่ องค์ชายสี่จะโง่เขลาจริง ๆหลังจากนั้นนางก็พูดต่อ “ทว่ามั่นใจได้ ฝ่าบาทอยู่ในเมืองหลวง ไม่มีอันตรายถึงชีวิต”หยิ่นลิ่วปรากฏตัวอย่างกะทันหัน เอ่ยถามอย่างร้อนรน “ยามนี้ไม่มีอันตราย ทว่าผ่านไปหลายวันล่ะ? ฮองเฮา ต้องรีบสืบหาตำแหน่งที่อยู่ของฝ่าบาทให้ได้โดยไว…”เฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปมองเขา “องค์ชายสี่เป่ยเยี่ยนต้องการพระราชบัลลังก์ ก็จำต้องรักษาชีวิตฝ่าบาทไว้ให้มั่น“จากนี้ไปพวกเราแบ่งทหารออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งออกตามหาฝ่าบาทในเมืองหลวงต่อไป อีกส่วนหนึ่งช่วยองค์ชายสี่ยึดอำนาจก่อการกบฏ”“ก่อกบฏ?” หยิ่นลิ่วกับอู๋ไป๋มองตากันเรื่องนี้เป็นเรื

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1220

    เดิมองค์ชายสี่ยึดถือหลักทำดียิ่งมากยิ่งดี จึงให้เฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่ต่อ พลางฟังนางก่อน นางมีแผนการที่ดีอันใดเฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งลง พูดอย่างคล่องแคล่ว“ยามนี้องค์ชายเจ็ดยกทัพบุกแคว้นหนานฉี กองทัพพร้อมเพรียงมิใช่น้อย”ได้ยินนางพูดถึงองค์ชายเจ็ด องค์ชายสี่รีบพูดขัด“ศึกครั้งนี้มีอันเกี่ยวพันเป็นเรื่องใหญ่ เสด็จพ่อตรัสชัดเจน หากผู้ใดคิดส่อเจตนาไม่ซื่อ พึงตายสถานเดียว”เฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายศีรษะ“ข้าหาได้มีใจคิดร้ายไม่”“ที่ข้าอยากพูดก็คือ เหล่าทัพหลักล้วนมุ่งมั่นหมายทำศึกตัดสินแพ้ชนะ จึงเป็นอันว่า แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง เป่ยเยี่ยนทอดทิ้งอย่างสิ้นเชิง ไม่มีทางส่งทัพไปหนุนได้อีก“เท่าที่ข้ารู้ ทหารเป่ยเยี่ยนที่ยังหลงเหลืออยู่ในแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง มิอาจต้านทานการโต้กลับจากแคว้นซีหนี่ว์”“แล้วอย่างไรเล่า?” สายตาองค์ชายสี่จับจ้องเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยความสนใจเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดอย่างสั้น ๆ “หากเป็นข้า ข้าจะขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้เยี่ยน ขออาสานำทัพไปตีแคว้นซีหนี่ว์ แย่งชิงแผ่นดินแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง“เช่นนี้ ทั้งไม่ส่งผลกระทบใดต่อการศึกขององค์ชายเจ็ด ทั้งยังสามารถหาภารกิจมาใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1219

    จากการจับจ้องขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ อาจือก็รู้สึกกลัวว่าจะถูกจับได้อยู่บ้างทว่านางไม่อาจบอกความจริงได้เด็ดขาดมีเพียงฮ่องเต้ฉีที่จะช่วยให้นางหลุดพ้นจากสถานะต่ำต้อย หรือถึงขั้นว่า ในอนาคตนางสามารถเข้าไปในวังหลวงของหนานฉี และเป็นพระสนมสิ่งเหล่านี้ ไม่อาจให้องค์หญิงเซี่ยนอี๋ทำลายได้อย่างแน่นอนอาจือคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง “ตึง” เพื่อแสดงความซื่อสัตย์และภักดี“บ่าวทำทุกอย่างล้วนคำนึงถึงองค์หญิง!“หาก...หากองค์หญิงไม่เชื่อบ่าว เช่นนั้นก็หาคนอื่นไปพบฮ่องเต้ฉีแทนก็ได้เพคะ!”หากเปลี่ยนคนกลางคัน ฮ่องเต้ฉีจะต้องเกิดความสงสัยเป็นแน่องค์หญิงเซี่ยนอี๋ไม่มีทางทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้ทว่าอาจือผู้นี้ ไม่รู้เพราะเหตุใด ถึงทำให้นางรู้สึกเหมือนมีความคิดที่ซับซ้อนสุดท้าย ความทะนงตนขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ก็มีอำนาจเหนือกว่าที่นี่คือจวนขององค์หญิง อาจือแค่สาวใช้ต่ำต้อยคนหนึ่ง จะสร้างความวุ่นวายอะไรได้?อีกอย่างสาวใช้คนนี้ก็เชื่อฟังมาตลอด ไม่กล้าหักหลังนางเด็ดขาด......ช่วงกลางดึก อาจือฉวยโอกาสขณะที่องค์หญิงเซี่ยนอี๋บรรทมอยู่ ใช้ทางลับมาที่ห้องลับนางยังคงทำได้เพียงยื่นศีรษะออกมา เมื่อเห็นฮ่อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1218

    องค์ชายเจ็ดทรงนำทัพออกศึกแล้ว ยามดึกเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้าไปค้นหาที่จวนขององค์ชาย ก็ไม่มีองครักษ์เฝ้าอยู่มากนักค้นหาติดต่อกันสามคืนแล้ว ก็ยังไม่มีเบาะแสใดเลยพวกอู๋ไป๋ก็ไปค้นหาที่จวนขององค์ชายองค์อื่น ๆ ทว่าก็ไม่มีข่าวดีเช่นเดียวกันทางด้านวังหลวงจนถึงตอนนี้ก็ยังสืบหาไม่พบสถานที่ที่เหมาะสมกับการคุมขังคนหยิ่นลิ่วไปสืบหาในจวนองค์ชายสี่ ก็แอบได้ยินองค์ชายสี่ทรงเอ่ยตัดพ้อกับที่ปรึกษา“เสด็จพ่อทรงโปรดปรานน้องเจ็ด ข้าจะแย่งชิงได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้ยังมีฮ่องเต้ฉีคอยแนะนำข้า ตอนนี้แม้แต่จะพบฮ่องเต้ฉีก็ยังไม่อาจทำได้เลย!”หยิ่นลิ่วจับจุดสำคัญนี้ได้ จึงรีบกลับไปที่โรงพักแรมเพื่อทูลรายงาน“ฮองเฮา มิต้องสงสัยเลยว่า องค์ชายสี่ผู้นี้จะต้องทราบว่าฝ่าบาททรงถูกขังอยู่ที่ใด!”เมื่อเทียบกับหยิ่นลิ่ว เฟิ่งจิ่วเหยียนใจเย็นยิ่งกว่านางต้องการยืนยันอีกครั้ง “องค์ชายสี่ทรงเอ่ยคำพูดเช่นนี้จริงหรือ”หยิ่นลิ่วมั่นใจอย่างยิ่งอู๋ไป๋เริ่มรู้สึกร้อนใจ“นายท่าน ข้าน้อยจะไปจับตัวองค์ชายสี่ และสอบสวนอย่างลับ ๆ !”ด้วยการทรมานอย่างหนัก องค์ชายสี่แห่งเป่ยเยี่ยนไม่มีทางที่จะไม่บอกความจริงเฟิ่งจิ่วเหยียนยกม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status