“ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” จีน่าเริ่มรู้สึกกลัวแววตาของแม็คที่กำลังแทะโลมมองอกอิ่มสลับกับใบหน้าของเธอ ราวกับเสือที่พร้อมตะปบเหยื่อ
“เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อน” ขุนพลรีบลุกขึ้นยืน เพื่อพาหญิงสาวไปเข้าห้องน้ำในตัวบ้าน
“คุณขุนพล พ่อเลี้ยงเรียกให้ไปพบเจ้า” แม่บ้านเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม เมื่อบิดาของเขาอยากให้ลูกชายได้ทำความรู้จักกับนักการเมืองที่มีอิทธิพลในท้องถิ่น
“คุณขุนพลรีบไปเถอะค่ะ อย่าให้ผู้ใหญ่รอนาน” เมื่อจีน่าเห็นท่าทีอ้อยอิ่งของชายหนุ่ม เธอจึงบอกให้เขารีบไปพบบิดา
“ถ้าอย่างนั้น เอื้อยพาคุณจีน่าไปเข้าห้องน้ำในบ้านด้วยนะ” เสียงทุ้มของชายหนุ่มหันไปสั่งแม่บ้าน เมื่อเขานั้นไม่ไว้ใจแม็คเพื่อนในกลุ่มเอาเสียเลย
“ได้เจ้า ตามเอื้อยมาเลยเจ้า” จีน่าเดินตามแม่บ้านไปติดๆ ด้วยความรู้สึกโล่งใจ เมื่อเธอกำลังคิดหาทางออกมาให้พ้นจากโต๊ะที่เต็มไปด้วยสายตาเอาเปรียบ ซึ่งพวกเขาก็ไม่ผิด เมื่อชุดที่เธอสวมใส่ดูวาบหวิวขนาดนั้น เป็นใครก็คงคิดว่าเธอตั้งใจมาอ่อย
“ขอบคุณมากนะ เอื้อยไปทำงานเถอะ”
“เจ้า” เมื่อเอื้อยมาส่งจีน่าถึงห้องน้ำที่ชั้นล่างของบ้าน เธอจึงเดินเลี่ยงออกไปช่วยงานด้านนอก ซึ่งในเวลานี้ไม่มีใครอยู่ในบ้านเพราะต่างคนต่างก็ออกไปช่วยงานด้านที่กำลังวุ่น
หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมกับความรู้สึกที่อยากกลับบ้านเต็มที โดยไม่ทันสังเกตว่ามีใครแอบตามเข้ามา แน่นอนว่าเธอกำลังจะไม่ปลอดภัย เพราะเสียงเพลงด้านนกเริ่มดังกระหึ่ม แม่บ้านก็ออกไปช่วยงานด้านนอกจนหมด
ในขณะที่ขุนพลทำความรู้จักกับผู้ใหญ่ที่บิดาได้แนะนำให้รู้จัก ทุกคนต่างคุยกันถูกคอ เมื่อชายหนุ่มสนใจอยากลองเล่นการเมืองท้องถิ่นดูบ้าง แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้ จนทำให้เขาเผลอลืมไปว่าจีน่าได้ไปเข้าห้องน้ำภายในบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากสนามที่จัดงานพอสมควร
“ลูกชายของผมคนนี้ นิสัยค่อนข้างเงียบแต่ใจกว้าง รับรองว่าเขาจะต้องทำงานเพื่อส่วนรวมได้ดีแน่” พ่อเลี้ยงภูผาพูดจาปอปั้นลูกชายคนเดียวให้กับทุกคนได้ชื่นชม ในความเพอร์เฟกต์ของขุนพล
“ผมชอบนะครับ เด็กหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงแบบนี้ ค่อยๆ เรียนรู้งานรับรองว่าอนาคตไกลอย่างแน่นอน” น้ำเสียงที่เห็นดีเห็นงาม กำลังเป็นแรงผลักดันให้ขุนพลยิ้มกว้าง เมื่อเขานั้นชอบทำงานเพื่อสังคม ควบคู่ไปกับการทำไร่องุ่น และธุรกิจอีกหลายอย่าง ซึ่งถือว่าพ่อเลี้ยงภูผาเป็นคนมีทรัพย์สินเงินทองมากมายคนหนึ่งในจังหวัดเลยก็ว่าได้
“ขอบคุณนะครับท่าน รับรองว่าผมจะตั้งใจทำงาน เพื่อพัฒนาให้จังหวัดของเราได้นำร่องในเรื่องการท่องเที่ยว ต่างชาติจะต้องหลั่งไหลกันเข้ามาไม่ขาดสาย ทางด้านเกษตรกรและเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้า จะต้องมีรายได้เพิ่มขึ้นมาเป็นกอบเป็นกำอย่างแน่นอนครับ แต่ตอนนี้ขอทำงานที่ไร่ไปก่อน”
“ดีมากเลย” คำพูดของขุนพล ต่างก็ถูกใจชายสูงวัยทั้งนั้น การสนทนายังคงดำเนินไปต่อเนื่องอย่างไม่รู้เบื่อ
ทางด้านจีน่าเธอยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจกเงาภายในห้องน้ำ เพื่อสำรวจชุดที่หญิงสาวเพิ่งรู้ตัวว่ามันดูเซ็กซี่เกินไป ตอนแรกก็มั่นใจ แต่พอพวกผู้ชายกลุ่มนั้นมองตาเป็นมัน จึงทำให้เธอนั้นถึงกับยืนถอนหายใจออกมา พร้อมกับใบหน้างอ เมื่อนึกถึงสายตาคมของปฐพี
“คนอย่างคุณมันไม่มีหัวใจ คงได้มอบให้เขาไปจนสิ้น ผู้หญิงอย่างฉันคงอยู่นอกสายตา วันเวลาที่เราเคยรู้จักกัน มันเป็นเพียงแค่ความทรงจำสีจางๆ อีกไม่กี่วันมันคงเลือนรางค่อยๆ ห่างหาย ฉันจะลบคุณออกไปจากใจให้จงได้ ฉันจะเป็นคนใหม่ ฉันจะไม่รักคุณ” จีน่าพูดรำพึงรำพันคนเดียวที่หน้ากระจก เมื่อความพยายามของเธอกำลังจะสิ้นสุดลง ผู้ชายที่แอบปลื้มเริ่มเปลี่ยนเป็นรักจนยากจะหักห้ามใจไม่ให้ฝักใฝ่ แต่สุดท้ายเธอก็คลั่งไคล้หลงใหลได้ปลื้มเขาอยู่ฝ่ายเดียว
“น่าเบื่อจัง อยากหนีไปให้ไกล แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี” ทุกถ้อยคำที่จีน่าพร่ำออกมา ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตูได้ยินชัดทุกประโยค พร้อมกับแววตาที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ เมื่อเขากำลังหมายมั่นปั้นมือ คิดจะทำในสิ่งที่จีน่าคาดไม่ถึง
“กลับบ้านดีกว่า แล้วใครจะไปส่ง” จีน่าพูดออกมาพร้อมกับหมุนตัว เพื่อเอื้อมมือไปเปิดประตู และแล้วหญิงสาวถึงกับตาโต เมื่อชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เบียดประตูเข้ามาพร้อมกับลงกลอน
“คุณดิน!” จีน่าร้องเรียกชื่อของชายตัวโตออกมาด้วยความตกใจ ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา แม้ว่าคลุมไปด้วยหนวดเครารุงรัง แต่ก็ไม่เคยทำให้บดบังความมีเสน่ห์ของปฐพีลงไปได้เลยแม้แต่น้อย
“ทำไมกลัวจำชื่อฉันไม่ได้หรือไง ถึงเรียกออกมาเสียงดังขนาดนี้” คำพูดที่ฟังดูธรรมดา แต่สายตาคมที่กำลังฉายแววดุดันวาววับราวกับจะพ่นไฟได้นั้น กำลังทำให้หัวใจดวงน้อยของจีน่าสั่นระริกเพราะความกลัว เมื่อเขาเดินเข้ามาประชิดตัวเธอ
“ถอยไป ฉันจะกลับบ้าน” น้ำเสียงที่ฟังดูห้วนๆ กลับทำให้ชายหนุ่มยกยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัย
เมื่อปฐพีรู้ว่าสรวิชมาส่งเธอไว้แล้วเขาก็กลับบ้านไปแล้ว เพราะขุนพลเล่าให้ฟังก่อนที่จีน่าจะเข้ามาในงาน ซึ่งเพื่อนของเขาตั้งใจจะไปส่งและจะหาจังหวะบอกรักเธออีกครั้ง ซึ่งมันจะไม่มีวันนั้นเมื่อปฐพีกำลังคิดหาทางขัดขวางความรักระหว่างขุนพลกับจีน่า ด้วยเหตุผลอะไรนั้นเขาน่าจะรู้คำตอบดี แต่ก็ทำเป็นหมางเมินไม่ยอมรับความจริงสักที จนเวลาล่วงเลยผ่านมาปีแล้วปีเล่า เขาก็ยังคงเย็นชากับจีน่าเหมือนอย่างเคย
“ใครใช้ให้เธอแต่งตัวแบบนี้ ทำไมไม่แก้ผ้ามาเลยล่ะ ชอบโชว์นักหรือไง” น้ำเสียงที่ตะคอกใส่หน้า ทำให้หญิงสาวสัมผัสได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆ ที่โชยมาแตะปลายจมูกของเธอ
“อืม...” เสียงอื้ออึงดังมาจากลำคอของคนตัวเล็กอย่างไม่มีทีท่าขัดขืน แถมเธอยังใช้แขนคล้องไปที่ลำคอแกร่งของสามีเอาไว้แน่น เพื่อโน้มเข้าหาให้ได้องศารับกับช่วงจังหวะที่ดูดดื่ม จากจูบที่อ่อนโยนนุ่มนวลได้กลายเป็นร้อนแรงดังจะกลืนกินคนตัวเล็กเข้าไปทั้งตัว เมื่อเลือดในกายของความเป็นชายเริ่มสูบฉีก ซึ่งจีน่าเองก็ปรารถนาคนตัวโตไม่แพ้กัน เรียวลิ้นของเขาและเธอเกี่ยวกระหวัดกันไปมา อยู่ในโพรงปากของคนใต้ร่างอย่างไม่มีทีท่าว่าจะยอมกัน อาภรณ์ที่ห่อหุ้มกายของคนทั้งสอง ถูกชายหนุ่มเปลื้องออกไปกองรวมกันอยู่ที่พื้นอย่างไม่ไยดี ปฐพีไล้มืออีกข้างไปตามเรียวขาเสลาของภรรยา “อืม...อื้ม” เสียงครางดังออกมาแข่งกัน เมื่อต่างคนต่างก็อยากสานสัมพันธ์ ปลายลิ้นอุ่นของชายหนุ่มยังคงกวาดต้อนฉกชิมเอาความหอมหวานจากโพรงปากของภรรยาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อ “ฉันรักเธอจัง จุ๊บ! จร๊วบ!” เสียงแหบพร่าที่ดังบอกรักอยู่ข้างหู กำลังทำให้จีน่าม้วนตัวบิดไปมา เมื่อเธอรู้สึกเสียวซ่านจากสัมผัสที่ได้รับ เพราะเวลานี้ปฐพีกำลังใช้ลิ้นร้อนโ
ในที่สุดปฐพีก็พ่ายแพ้ให้กับความรัก ทั้งที่เขาพยายามผลักไสให้เธอออกไปไกล แต่ทว่าจีน่ากลับใช้ความพยายามที่จะเข้าใกล้ ยิ่งเธอถูกเขาประกาศกร้าว ระยะเวลาหนึ่งปี ที่หญิงสาวจะต้องเอาชนะหัวใจของปฐพี เธอก็ยิ่งทำทุกทาง เพื่อให้ชายหนุ่มยอมจำนน ซึ่งตอนนี้จีน่าก็ทำมันสำเร็จ เมื่อเธอได้เปลี่ยนคำพูดของปฐพี ที่เคยบอกเอาไว้ว่า สามร้อยหกสิบห้าวันฉันจะไม่รักเธอ กลับกลายเป็นสามร้อยหกสิบห้าวันไม่มีวันไหนที่จะไม่รัก เธอกลายเป็นดังจิตวิญญาณของชายหนุ่ม ที่ทำให้เขามีลมหายใจอยู่ได้ในทุกๆ วัน ห้าปีผ่านไป ลูกสาวของจีน่ากับปฐพีกำลังอยู่ในวัยน่ารักน่าฟัง ชื่อว่านภาที่แปลว่าท้องฟ้า เสียงพูดของเด็กหญิงเจี๊ยวจ๊าวใสซื่อทำให้ไร่ชาดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม ส่งผลให้นายแพทย์จิรายุและภรรยาไม่เป็นอันอยู่กรุงเทพฯ ภายในหนึ่งเดือนเขาเทียวไปมาหลายครั้ง จนปฐพีต้องปรามให้คนทั้งคู่อยู่ที่ไร่ เนื่องจากเขาไม่อยากให้บิดามารดาเดินทางบ่อยๆ เพราะคนทั้งคู่อายุมากขึ้น แม้จะยังดูดีราวกับหนุ่มสาววัยสี่สิบต้นๆ ซึ่งคำชมของลูกชายมักจะทำให้ฝนสุดายิ้มหน้าหวาน เพราะปฐพีชอบหยอดคำหวายไม่แพ้นายแพทย์จิรายุบิดาของเขา
“พอแล้วค่ะจีหิว” หญิงสาวผละคนตัวโตออกห่างเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรที่เลยเถิดมากไปกว่าจูบ “อยากกินฉันเหรอ หืม” “คนบ้า พูดอะไรก็ไม่รู้” จีน่าพูดออกมาด้วยใบหน้าร้อนผ่าว “ไหนลูกพ่อหิวแล้วใช่ไหมครับ ไปกินข้าวกัน” เขากระซิบลงไปที่หน้าท้องของจีน่า จากนั้นปฐพีได้โอบภรรยาลงไปที่โต๊ะอาหาร กับบรรยากาศที่ไม่เหมือนอยู่ในโรงพยาบาล เมื่อปฐพีตั้งใจเซอ์ไพรส์เธอกลับพร้อมกับอยากให้ภรรยาประทับใจ กับของขวัญล้ำค่าที่เธอได้มอบให้กับเขา “เธอออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ ฉันจะจัดการกับช้องนาง เธอควรได้รับโทษ ที่กล้าทำร้ายดวงใจของฉัน ส่วนไอ้ขุนพล มันได้หนีไปต่างประเทศแล้ว” พอพูดถึงคนทั้งสอง ใบหน้าของปฐพีดูเคร่งขรึมขึ้นมาอย่างถนัดตา “จีขอได้ไหมคะ ให้ทุกอย่างจบแต่เพียงเท่านี้ จีเองก็ปล
ภายในห้องพิเศษ ปฐพีนั่งเฝ้าภรรยาของเขาทั้งคืน จนเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ พอจีน่างัวเงียตื่นขึ้นมา หญิงสาวค่อยๆ ปรือตาขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะหลับลงอีกครั้งเพื่อปรับกับแสงที่แยงมา ซึ่งจีน่าพบว่าที่นี่ไม่ใช่กระท่อมแต่เป็นห้องที่เต็มไปด้วยสีขาว จากนั้นหญิงสาวจึงค่อยๆ กวาดสายตามองไปทั่วห้อง เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันที เมื่อปฐพีกำลังซบหน้าลงกับเตียง มือเรียวเอื้อมไปแตะลงที่ศีรษะของสามีเบาๆ “อืม... จีน่า! เธอเป็นยังไงบ้างเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เมื่อเห็นภรรยารู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ปฐพีรีบดีดตัวลุกขึ้นพร้อมกับเอามือกุมใบหน้าของเธอเอาไว้ แล้วเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย ก่อนที่เขาสำรวจว่าเธอเจ็บตรงไหนบ้าง “ฉันขอโทษนะจีน่า ที่ทำให้เธอต้องไปเจอกับเรื่องบ้าๆ พวกนั้น ลืมมันไปเถอะนะ คิดว่ามันคือฝันร้ายจะได้ไหม ฉันอาจจะขอเธอมากไป แต่ต่อจากนี้ฉันจะทำให้เธอฝันดีทุกคืน พร้อมกับตื่นมาเจอกับฉันในทุกวัน จะไม่มีใครกล้าทำอะไรเธอได้อีกแล้ว” ดวงตาคมจับจ้องไปที่ใบหน
“ฉันขอโทษนะจีน่า ต่อไปฉันจะไม่ให้เธอต้องห่างกายไปไหนไกล อดทนรอฉันอีกนิดนะ ใกล้ถึงแล้ว” พอพูดจบชายหนุ่มรีบหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปในไร่ ที่เขาตั้งใจอยากจะสร้างบ้านไว้ที่นี่ เพื่อมาพักผ่อนกับจีน่า ในเวลาที่เขาและเธอว่างจากงานในไร่ชา พอรถยนต์ออฟโรดคันคู่ในแล่นมาถึง ชายหนุ่มไม่รอช้าหยิบไฟฉายออกมา แล้วเดินตรงไปยังกระท่อมทันที ซึ่งเขากึ่งวิ่งกึ่งเดินอย่างกับกลัวว่าจะมีคนคว้าเส้นชัยไปก่อน “เฮ้ย! อะไรเนี่ย กระเป๋าของจีน่า” ชายหนุ่มรีบคว้ากระเป๋าของหญิงสาวมาสะพายเอาไว้ ก่อนจะรีบเดินออกไปให้เร็วที่สุด เพราะกระท่อมอยู่ห่างจากที่จอดรถพอสมควร ถ้าคนที่ไม่เคยออกกำลังกาย อาจจะต้องหยุดนั่งพักเอาแรง แล้วค่อยเดินต่อด้วยซ้ำ เมื่อมาถึงกระท่อมหัวใจของชายหนุ่มแทบสลาย ที่เห็นร่างของภรรยาถูกพันธนาการเอาไว้กับเสา เขารีบเข้าไปแก้มัดให้กับเธอ ขณะที่จีน่าไม่ได้สติ เขาเรียกยังไงเธอก็ไม่ยอมตื่น
“ไม่จริงคุณขุนพลเดินทางไปกรุงเทพตั้งแต่บ่ายแก่ๆ ป่านนี้เขาคงบินออกนอกประเทศไปแล้ว” ช้องนางเดินผ่านมาได้ยินประโยคที่ปฐพีพูดขึ้นพอดี หล่อนเลยสวนกลับอย่างไม่คิด “ลูกไม่ได้ทำเรื่องแย่ๆ ใช่ไหมช้องนาง” แม่เลี้ยงเวียงพิงค์เอ่ยถามลูกสาวออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่ทว่าดวงตาของนางกลับแฝงไปด้วยความกังวลใจ “ช้องนางเป็นลูกแม่นะคะ ทำไมแม่ต้องมองลูกสาวของตัวเองด้วยสายตาแบบนั้นด้วย” “เพราะแม่รักลูก เลยไม่อยากให้ลูกทำผิด” “หยุดพูดจาบ้าบอได้แล้ว กลับไปเถอะคุณปฐพีที่นี่ไม่มีผู้หญิงชื่อจีน่า” น้ำเสียงของพ่อเลี้ยงสิงห์คำฟังดูห่างเหินอย่างรุนแรง เมื่อเขารู้ถึงจุดประสงค์การมาที่นี่ของปฐพี “ถ้าเรื่องนี้ถึงตำรวจผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จีน่าอยู่ที่ไหน ตอบผมมาคุณช้องนาง