Masuk二
บนเวที เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ยังยืนเคียงข้างกันมองเหตุการณ์นี้ด้วยรอยยิ้มขำขัน แต่คนที่ดูจะสนุกที่สุดกลับเป็น หยวนยิง และ หยวนหลง สองพี่ชายฝาแฝดต่างสายเลือดจอมเย้าแหย่ของถังหูลู่ พวกเขาคือลูกชายของหยวนชิงหลาน หยวนยิง มีรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวผ่อง ใบหน้าคมคาย ดวงตาเรียวดูเจ้าเล่ห์ ปากหยักบางที่มักแต้มด้วยรอยยิ้มมุมปากเสมอ หยวนหลง แม้จะเป็นฝาแฝด แต่เขามีลักษณะต่างจากพี่ชายเล็กน้อย ใบหน้าเนียนเกลี้ยงกว่าและดูอ่อนโยนกว่า ดวงตากลมโตและรอยยิ้มสดใสทำให้เขาดูเข้าถึงง่าย ทั้งคู่ปรบมือด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ ก่อนที่หยวนหลงจะเอนตัวกระซิบพี่ชาย “เฮียหยิง เฮียว่าช่อดอกไม้นี่มันตั้งใจเลือกอาหมวยถังของพวกเรารึเปล่า?” หยวนยิงหัวเราะเบา ๆ แต่เต็มไปด้วยความหมาย “เฮียว่ามันไม่ได้แค่เลือกนะ แต่มันคงอยากไปอยู่กับน้องถังตั้งแต่แรกแล้วล่ะ...” คำพูดนั้นทำให้ทั้งสองมองหน้ากันพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ และเสียงหัวเราะขบขันที่ดังขึ้นตามมา... หลังจากพิธีจบลง แขกหลายคนทยอยกันมาถ่ายรูปกับเจ้าบ่าวเจ้าสาว แต่ระหว่างนั้นถังหูลู่กลับตกเป็นจุดสนใจมากพอ ๆ กับคู่บ่าวสาว บรรดาญาติ ๆ และเพื่อนสนิทต่างแวะมาร่วมแสดงความยินดีที่เธอได้ช่อดอกไม้แห่งความโชคดี บางคนแซวเธออย่างสนุกสนาน บ้างยื่นมือมาจับช่อดอกไม้เหมือนจะดูดซับพลังความรักจากมันไป ในขณะที่ถังหูลู่ยืนรับคำแซวด้วยรอยยิ้มที่ฝืนเต็มที มือเล็กยังคงจับช่อดอกไม้ไว้แน่นอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ราวกับไม่รู้จะทำอย่างไรดี แม้ช่อดอกไม้นั้นจะเปื้อนคราบน้ำซุปเล็กน้อย แต่กลีบดอกไม้สีขาวกลับยังดูงดงาม ราวกับมันเกิดมาเพื่ออยู่ในมือของเธอ เมื่อความวุ่นวายในงานเริ่มสงบลง หยวนยิง และ หยวนหลง เดินเข้ามาหาถังหูลู่ ทั้งสองยังคงประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนเดิม หยวนหลงเอ่ยขึ้นก่อนด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการเย้าแหย่ “อาหมวย ถ้าหนูยังไม่เลิกกิน เดี๋ยวเจ้าบ่าวคนต่อไปของหนูอาจเป็นขาหมูตุ๋นแทนคนจริง ๆ แล้วนะ” คำพูดนั้นทำให้ถังหูลู่หันขวับ ใบหน้าเล็กขึ้นสีแดงก่ำด้วยความอาย แต่ยังไม่วายกลืนอาหารที่ค้างในปาก “เฮียหลง! หยุดแซวหนูได้แล้ว! กินขาหมูมันเกี่ยวอะไรกับความโชคดีเรื่องความรักเนี่ย?” หยวนยิงที่ยืนฟังอยู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่แฝงด้วยการเย้าแหย่เช่นกัน “เฮียว่ามันก็เหมาะดีนะ น้องถังจะได้ทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจไปพร้อมกันเลยไง...” ถังหูลู่ที่ยังถือช่อดอกไม้อยู่ในมือกระทืบเท้าเล็ก ๆ ของเธออย่างหงุดหงิด รอยยิ้มของพี่ชายทั้งสองยิ่งทำให้เธอรู้สึกเสียเปรียบ ก่อนจะโพล่งออกมาอย่างเหลืออด “เฮียหยิง! เฮียหลง! หนูจะเก็บดอกไม้นี่แล้วหนีไปเลย! ไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะ!” เสียงหัวเราะดังลั่นจากสองพี่ชาย ขณะที่ถังหูลู่หันหลังเดินออกไปพร้อมกับช่อดอกไม้ในมือ ดวงตาของเธอฉายแววทั้งความอายและความไม่พอใจ แต่หากใครมองให้ลึกลงไป อาจเห็นความอ่อนโยนที่หลบซ่อนอยู่ในนั้น รอยน้ำซุปบนดอกไม้ยังคงเป็นร่องรอยที่ช่วยบอกเล่าเรื่องราวความวุ่นวายในวันแต่งงานครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ค่ำคืนนั้น กลายเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่ทุกคนในครอบครัวจะจดจำไปอีกนาน ราวกับช่อดอกไม้เปื้อนน้ำซุปนั้นไม่ได้มอบเพียงโชคดีให้กับถังหูลู่ แต่มอบความสุขและเสียงหัวเราะให้กับทุกคนที่ได้ร่วมอยู่ในช่วงเวลานี้... เมื่อกลับถึงห้อง ถังหูลู่ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มราวปุยนุ่น ความเหนื่อยล้าจากงานแต่งงานยังคงฝังลึกในร่างกาย แต่มากกว่านั้นคือความขวยเขินที่แล่นริ้วขึ้นมาเมื่อภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานย้อนกลับมาในหัว เธอเผลอยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองเบา ๆ แต่กลับพบว่าความร้อนที่อุ่นวาบยังไม่จางหาย “ไม่น่าเลย…ไม่น่าให้ความหิวเข้ามาครอบงำเราเลย...” เธอพึมพำกับเงาสะท้อนในกระจกที่มองกลับมาด้วยดวงตาเศร้าสร้อย ภายใต้กรอบแว่นตากลม ริมฝีปากบางของเธอเม้มแน่น ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นตัวตลกในสายตาคนทั้งงาน ‘ขาหมูเป็นเหตุสังเกตได้…แต่ที่น่าอายกว่านั้นคือ ทุกคนเห็นแล้วว่าเราตะกละแม้กระทั่งในงานแต่งของพ่อ…’ ถังหูลู่ถอนหายใจหนักหน่วง ‘แล้วยังจะดันไปคว้าช่อดอกไม้ของน้าชิงหลานมาได้อีก…นี่มันวันซวยชัด ๆ ’ เสียงแผ่วเบาของประตูที่แง้มออกทำให้เธอเงยหน้าขึ้น ก่อนจะเห็นแมวสายพันธุ์แร็กดอลล์ตัวขาวสะอาด ตาโตเหมือนดวงแก้ว เดินย่างเท้าอย่างอ้อยอิ่งเข้ามา “เป่าเปา! แกไปไหนมา แม่ตามหาแทบแย่” น้ำเสียงอ่อนโยนปนความน้อยใจดังขึ้นเมื่อเห็นเจ้าตัวเล็ก เธอรีบเดินเข้าไปหา ย่อตัวลงก่อนจะคว้าแมวตัวโปรดเข้ามากอดอย่างเต็มแรงจนมันร้องเหมียวออกมาอย่างตกใจ “โธ่…มาให้แม่กอดหน่อยสิ วันนี้แม่เหนื่อยจนแทบจะขาดใจอยู่แล้วเนี่ยรู้บ้างไหม?” เธอบ่นพลางลูบขนสีขาวนุ่มเหมือนปุยฝ้ายของมัน แต่แรงกอดที่มากเกินไปทำให้เป่าเปาดิ้นหนีอย่างน่าสงสาร “อย่าดิ้นสิ! ถ้าแกหนีอีก คราวนี้แม่จะทำให้แกกลายเป็นเหมือนทูน่าที่แกกิน...” น้ำเสียงข่มขู่นั้นทำให้เจ้าแมวน้อยหยุดนิ่งราวกับเข้าใจในทันที มันเงยหน้าขึ้นส่งเสียงเหมียว ๆ ที่ฟังดูเหมือนการอ้อนวอนมากกว่าคำตอบ To be continued...เธอเม้มริมฝีปากแน่นเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นไหว“แต่มันจะดีจริง ๆ เหรอคะ... ที่พวกเฮียมาเป็นแฟนหนูกันทั้งสองคนเลย...?”มือเล็กบีบมือพวกเขาแน่นขึ้นจนสัมผัสถึงแรงสั่นที่แผ่วเบาแต่แน่วแน่หยวนยิงหันไปสบตาเธอ เขายกมือลูบผมเธออย่างปลอบประโลม “ไหงไม่มั่นใจขึ้นมาล่ะเด็กดี...?”ถังหูลู่หลุบตาลง มองเห็นเพียงผ้าปูเตียงที่ยับย่นจากเรื่องราวเมื่อครู่เธอสูดหายใจแผ่วเบา ก่อนจะตอบอย่างตรงไปตรงมาในแบบที่เธอเป็น“ก็เพราะพอได้มีเซ็กส์ด้วยกันและนอนด้วยกันแบบนี้แล้ว...มันทำให้ใจหนูอ่อนยวบยาบแปลก ๆ เหมือนหัวใจมันละลายไปหมดแล้วน่ะค่ะ...”เสียงของเธอสั่นเครือ เสียงหัวเราะแห้ง ๆ กลืนหายอยู่ในลำคอ ความรู้สึกอ่อนไหวกำลังพัดผ่านเธออย่างช้า ๆ ราวกับสายลมที่มากับกลิ่นฝนหยวนหลงที่เงียบไปเอื้อมมืออีกข้างมากุมมือเธอ ประคองมือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ด้วยมือหนาทั้งสอง ราวกับจะปลอบโยนและปกป้องในเวลาเดียวกันเขายิ้ม พลางเอ่ยแซว “ยังอยากได้อีกเหรอ...เซ็กส์น่ะ?” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยความห่วงใยไม่ปิดบังถังหูลู่หัวเราะแผ่ว ๆ ส่ายศีรษะน้อย ๆ“หนูไม่ไหวแล้ว...” เสียงเธอฟังดูเหนื่อยอ่อน แต่รอยยิ้มของเธอกลับอ
一百四十八 “อึ๊ก...เฮียบีบนมหนูแรงไปแล้วนะคะ!?” เสียงของเธอสั่นพร่า ขณะดิ้นพล่านอยู่ท่ามกลางสัตว์ร้าย มันทั้งอึดอัด จุกเสียด เสียวซ่าน และวาบหวามเกินคำบรรยาย ในร่องรักก็โดนกระทุ้งแรง... ในรูก้นเองก็โดนกระแทกสวนไม่ขาดสาย ... ถังหูลู่ไม่ได้พักผ่อนจริง ๆ เลย เพราะงั้นเธอจึงอ่อนไหวต่อทุกสัมผัสเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม... แม้เธอจะต้องการหลีกหนี แต่พวกเขาก็คงจะไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ “อยากได้แรงกว่านี้อีกเหรอ?” หยวนยิงแสยะยิ้มชั่วร้าย “แค่นี้ยังไม่พอใจอีกหรือไง?” หยวนหลงหัวเราะเย้ยหยัน แต่ถังหูลู่กลับทำให้เขาพวกเลือดร้อนขึ้นอีกครั้งด้วยคำตอบที่ท้าทาย... “เปล่าค่ะ...อยากโดนพวกเฮียบีบคอไปด้วยและกระแทกไปด้วยมากกว่า...” หญิงสาวยังคงยั่วเย้าไม่เลิกราวกับเสียสติไปแล้ว “ปากแซ่บดีจริง ๆ ...” หยวนยิงคำรามในลำคอ ก่อนที่จะกระทุ้งมดลูกเธอสุดแรงด้วยการแทงสุดถอดสุดอย่างรวดเร็ว “อย่างนี้ต้องโดนหนัก ๆ ” หยวนหลงรัดตรึงเธอแน่นขึ้นอีก ขณะที่กระแทกสวนเธอไม่หยุดยั้ง พวกเขารุกไล้เธออย่างไม่ปล่อยวาง ร่างกายของถังหูลู่คือเวทีแห่งแรงปรารถนา ที่ซึ่งสองบุรุษผลัดกันร่ายรำด้วยความหิวกระหาย ท่อนเนื้อของพวกเขาเป็นร
ภาพนั้นทำให้หยวนยิงหัวเราะเบา ๆ ในลำคออย่างพึงพอใจ ก่อนที่เขาจะจับสะเอวบางของเธออย่างแนบแน่น แล้วสอดใส่ท่อนเอ็นของตนเข้าที่กลางกลีบเนื้อสีชมพูระเรื่อ—ที่ตอนนี้ทั้งบานคลี่และชุ่มฉ่ำ ราวกับกลีบดอกไม้ที่เบ่งบานในยามรุ่งอรุณและเมื่อทั้งสองประสานแรงกันอย่างแนบแน่น ร่างบางของถังหูลู่ก็แทบจะลอยคว้างขึ้นสู่ขอบฟ้าแห่งเสน่หา ถูกผลักดันให้ทะยานขึ้นไปในความสุขสมอย่างไร้จุดสิ้นสุด แผ่นหลังโค้งงอรับแรงรักของพวกเขาอย่างซ่านสะเทือนในเรือนกาย...“พวกเฮีย... ยังไหวอยู่อีกเหรอคะ...” เสียงเธอสั่นเครือ เบาหวิวแทบไร้แรง พูดไปพร้อมกับยืดแขนไปด้านหลัง เผยเรือนร่างยั่วยวนทั้งหมดโดยการเผยใต้วงแขน ขณะที่ใช้ฝ่ามือเล็กประคองจับลำคอแกร่งของหยวนหลงไว้มั่นหยวนหลงเพียงยิ้มบาง มือหนาสอดผ่านสีข้างลำตัวเธอ ลูบไล้ไปตามหน้าท้องแบบราบ ก่อนจะขึ้นไปยังหน้าอกอวบอิ่มและยอดปทุมถันสีชมพูหวาน ราวกับจะปลอบโยนความเหน็ดเหนื่อยของเธอด้วยความรัญจวน “เรื่อย ๆ นั่นแหละ...” เขาพึมพำด้วยเสียงต่ำที่ขับกล่อมประสาท พร้อมละเล่นยอดอกเต่งตึงคู่นี้ของเธออย่างสนุกสนาน ทำให้เธอสั่นไหวทุกครั้งที่เริ่มบีบคลึงหรือดึงแรง“ยิ่งเป็นอาหมวยด้วยแล้ว พวกเ
一百四十七 เมื่อเขาเข้าประชิดตัว ความร้อนในร่างก็ระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง มือหนาโอบเธอไว้แน่น ราวกับต้องการหลอมรวมร่างทั้งสองให้กลายเป็นหนึ่งเดียว เสียงหอบหายใจของทั้งสองดังสะท้อนกับผนังห้อง ผสานกับเสียงจูบลึกที่แลกเปลี่ยนราวจะดูดดึงวิญญาณกันและกัน ร่างของหยวนหลงเคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วง ดุดัน แต่แฝงด้วยความอาทร ในขณะที่ถังหูลู่ตอบสนองอย่างหมดหัวใจ—ไม่ใช่เพียงแค่ร่างกายที่คล้องเกี่ยว แต่คืออารมณ์ ความอ่อนแอ และความปรารถนาที่ท่วมท้นไร้ขีดจำกัด เมื่อถึงจุดสูงสุดของการปลดปล่อย—เสียงสุดท้ายที่เปล่งออกมาก็ไม่ใช่เพียงเสียงแห่งความเสียวซ่าน แต่คือเสียงของผู้ที่เสร็จสมและยอมจำนนให้แก่ความสัมพันธ์อันเร่าร้อน ที่ไม่รู้จะเรียกว่าความรัก ความใคร่ หรือความคลั่งไคล้ดี... หลังจากนั้นการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันก็เริ่มต้นขึ้นอีกรอบ... กระจกบานใหญ่หน้าห้องน้ำสะท้อนภาพของหญิงสาวร่างบางผู้หนึ่ง—ถังหูลู่ยืนค้ำอ่างล้างหน้า ร่างเปลือยเปล่าเปียกเหงื่อเกร็งสั่น ดวงตาภายใต้แว่นกลมที่ไหลลงสู่ขอบจมูกแดงเรื่อจากแรงอารมณ์ เธอมองเห็นเงาในกระจกของตนเอง—สะท้อนใบหน้าที่แดงระเรื่อ ผสมความเหนื่อยล้าและความกระหายชนิดหยุดไม่อ
ในห้องนอนของหยวนหลงเสียงลมหายใจของทั้งสามคนสอดประสานกันอย่างอ่อนระโหย เหงื่อยังไหลย้อยเกาะผิวกายราวกับหยดน้ำค้างที่หลงเหลือในยามรุ่งสาง—บ่งบอกถึงความร้อนแรงที่เพิ่งสงบลงราวพายุที่เพิ่งผ่านพ้นถังหูลู่นอนแนบอยู่บนผืนอกแกร่งของหยวนยิง ร่างกายอ่อนแรงดั่งดอกไม้ที่เพิ่งบานสะพรั่งแล้วถูกสายลมกระโชกแรงพัดซัดจนกลีบร่วงหล่น เธอหายใจถี่ สะโพกยังสั่นระริกจากแรงกระตุกครั้งสุดท้าย คล้ายกับร่างกายยังไม่ยอมรับว่าสงครามแห่งอารมณ์ได้ยุติลงแล้วเมื่อความสงบเริ่มกลับคืนมา ทั้งหยวนยิงและหยวนหลงจึงค่อย ๆ ถอนกายออกจากเธออย่างนุ่มนวล ค่อย ๆ แทนที่ด้วยความโล่งโหว่งท่อนเนื้อใหญ่ยาวราวแขนทั้งสองถูกขย้อนออกมาจากรูร่องของถังหูลู่ ขณะที่หยวนยิงและหยวนหลงช่วยกันพยุงอุ้มเธอขึ้นอย่างทะนุถนอมในที่สุด เมื่อขาดการถูกเติมเต็ม ทั้งร่องรักและรูก้นต่างก็เปิดเผยตัว แสดงให้เห็นถึงความกลวงโบ๋และบานเบอะอย่างน่าตกใจของพวกมันไม่นานนัก รูร่องดังกล่าวก็ค่อย ๆ ถ่ายเทของเหลวสีขาวขุ่นที่ไม่สามารถกักเก็บออกมาเป็นจำนวนมาก พวกมันหยาดเยิ้มอย่างหนืดเหนียวออกจากทั้งสองรูร่อง ก่อนที่จะจรดลงบนเตียงนอนผ้าปูที่นอนสีเทาเข้มตัดกับสีของของเห
一百四十六 ในตอนนั้นเอง... “เฮีย...เฮีย! เฮีย!!” เสียงหวานรีบเปล่งออกจากเรียวปากที่สั่นระริกของถังหูลู่ หญิงสาวในแว่นตากลมที่เคยไร้เดียงสา บัดนี้กลับลนลานราวกับไฟในกายกำลังลุกโชนจนควบคุมไม่อยู่ “หนูจะเสร็จแล้ว...จะเสร็จ...ใกล้แล้ว!” ถ้อยคำที่พร่ำพรูออกมาอย่างสับสนสื่อถึงคลื่นความรู้สึกที่กำลังพัดกระหน่ำภายในจิตใจของเธอ ถังหูลู่พยายามยึดมั่นกับเศษเสี้ยวของสติที่หลงเหลือ ขณะที่ร่างกายสั่นสะท้านสาหัสทุกครั้งที่ถูกกระแทกอย่างหนักหน่วงจากทั้งสองชาย ความรู้สึกตึงเครียด สับสน เสียวซ่าน และต้องการจะปลดปล่อย...หลอมรวมกันเป็นคลื่นความสุขที่ยากจะอธิบาย “อา...ยังตอดแน่นได้อีกนะ...ทั้ง ๆ ที่ก็พึ่งโบ๋ไป!” หยวนยิงเอ่ยขึ้นด้วยเสียงพร่าเหือดแห้งไปด้วยแรงอารมณ์ ดวงตาคู่นั้นทอประกายคล้ายคนที่เพิ่งได้ลิ้มรสของต้องห้าม เขาโถมแรงสวนเธอหนักหน่วงที่สุดเท่าที่ทำได้ ร่างหนาของเขาตึงเกร็งและสั่นสะท้านไม่ต่างจากร่างบางของถังเธอ ขณะที่มือหนาข้างหนึ่งคว้ารั้งเอวบางไว้แน่นหนาสุดขีด อีกข้างยังคงกำขยำเนื้อนมขาวเนียนไม่หยุดหย่อน กระทั่งทำให้มันปรากฏรอยแดงรูปฝ่ามือจำนวนมาก... ครั้งนี้ พวกเขาร่วมรักกันอย่างดุเดือด







