Masuk三
ถังหูลู่หัวเราะคิกคักก่อนจะอุ้มเป่าเปาขึ้นไปนอนกอดบนเตียง ทั้ง ๆ ที่มันยังส่งเสียงอู้อี้ในลำคอเหมือนอยากบอกว่ามันไม่เต็มใจสักเท่าไร “เฮ้อ…หวังว่าอาเฮียทั้งสองจะไม่รังเกียจเรานะ ที่เรากินมูมมามแบบนั้น” เธอพึมพำเสียงแผ่ว ขณะที่ความทรงจำถึงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของหยวนยิงและเสียงหัวเราะล้อเลียนของหยวนหลงก็ย้อนกลับมาเล่นงานเธออีกครั้ง เพียงแค่คิดถึงสายตาของทั้งสองคนที่จ้องมองมาเหมือนรู้ทันทุกอย่าง เธอก็แทบอยากจะกรีดร้องออกมา “คงไม่หรอก...เพราะถ้ายังหัวเราะแบบนั้นได้ พวกเฮียก็เหี้ยพอสมควรเลยที่มารังแกเรา...ใช่ไหมเป่าเปา...” แมวตัวน้อยทำได้แค่ร้องเหมียวเบา ๆ อย่างน่าสงสารในอ้อมกอดของเธอ ท่ามกลางความสับสนและความอายที่ยังคงตีกันยุ่งอยู่ในหัวของถังหูลู่ เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะกอดเป่าเปาแน่นขึ้น “โชคดีนะที่ยังมีแกอยู่ ไม่งั้นแม่คงบ้าตายไปแล้ว” ว่าแล้วเธอก็หลับตาลง ปล่อยให้เจ้าก้อนขนนุ่มในอ้อมกอดช่วยปลอบใจเธอจากความโกลาหลของวันนั้น... หลายวันต่อมา... บรรยากาศยามเช้าที่สดใสปกคลุมไปด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ของวันใหม่ ถังหูลู่รู้สึกตื่นเต้นจนอดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้าง เมื่อถึงวันที่ครอบครัวจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่เพิ่งซื้อหลังจากพิธีแต่งงานของพ่อและแม่เลี้ยงของเธอ “เป่าเปา…นี่คือบ้านใหม่ของแก...เป็นบ้านใหม่ของแม่ด้วย...” เธอพูดพลางเปิดซิปกระเป๋าสัตว์เลี้ยงเล็กน้อย เผยให้เห็นแมวสายพันธุ์แร็กดอลล์ตัวอ้วนที่กำลังมองบ้านหลังตรงหน้าอย่างสงสัย บ้านหลังนี้เป็นบ้านสไตล์จีนโมเดิร์นที่ใหญ่โตและสง่างาม ต้นไม้ใหญ่ในสวนหลังบ้านส่งเงาร่มเย็นปกคลุมพื้นที่โดยรอบ น้ำพุเล็ก ๆ ตรงลานหน้าบ้านไหลเอื่อย ๆ เสียงน้ำกระทบหินให้ความรู้สึกสงบเสมือนโอเอซิสกลางเมืองใหญ่ โรงจอดรถกว้างขวางตั้งอยู่ข้างตัวบ้านอย่างลงตัว ขณะที่บ่อเลี้ยงปลาด้านหลังมีโต๊ะหินอ่อนจัดไว้อย่างเรียบง่าย ทว่าสวยงาม ตัวบ้านเองนั้นสูงถึงสามชั้น ผนังภายนอกถูกออกแบบด้วยโทนสีอบอุ่นตัดกับกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนแสงแดดระยิบระยับ ด้านในประกอบด้วย 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องทานข้าว 1 ห้องออกกำลังกาย และ 2 ห้องนั่งเล่น ทุกมุมในบ้านล้วนแสดงออกถึงความใส่ใจในรายละเอียดและความหรูหรา ในขณะที่พนักงานขนย้ายเฟอร์นิเจอร์กำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้น ถังไห่เฉิง พ่อของเธอ กำลังเดินดูแลการจัดวางอย่างเคร่งครัด ถังหูลู่เดินเข้าไปใกล้พร้อมคำถามที่ติดอยู่ในใจ “ป๊าคะ บ้านหลังนี้ราคาเท่าไหร่กันแน่ล่ะเนี่ย...” เธอถามด้วยความสงสัย “ถ้าไม่นับเฟอร์นิเจอร์ก็ประมาณ 50 ล้าน แต่ถ้ารวมเฟอร์นิเจอร์ด้วยก็น่าจะเกิน 100 ล้าน...” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายราวกับเป็นเรื่องธรรมดา ดวงตากลมโตของถังหูลู่เบิกกว้างด้วยความตกใจ “มันไม่แพงไปหน่อยเหรอคะ สำหรับครอบครัวเราแค่ 5 คน...” เธอปล่อยเป่าเปาออกจากกระเป๋า ก่อนจะหันมาสั่งเจ้าแมวน้อยว่า “อย่างซนนะ” ถังไห่เฉิงหัวเราะเสียงทุ้มต่ำ “แพงงั้นเหรอ...ไม่เลย ป๊าเก็บเงินมานานเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ...” คำตอบของพ่อทำให้ถังหูลู่ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน แม้จะรู้ว่าพ่อของเธอเคยลำบากมาก่อน แต่ความสำเร็จที่เขาสร้างขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงนั้นน่าชื่นชม ถังไห่เฉิงเป็นคนไทยที่ไปเติบโตในประเทศจีน ก่อนจะกลับมาประเทศไทยและก่อตั้งบริษัทผลิตและส่งออกเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำ เขายังถือหุ้นในหลากหลายบริษัทระดับโลก ทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีที่มั่งคั่ง “อวดรวยดีนัก...งั้นหนูขอสัก 10 ล้านได้ไหมคะ จะเอาไปถลุงเล่น” เธอกล่าวหยอกล้อพร้อมแบมือ “หาเงินเองสิ ป๊าสอนเสมอว่าถ้าอยากได้อะไรก็ต้องขวนขวายด้วยตัวเอง ถ้าไม่ทำแบบนั้น เราจะกลายเป็นคนที่ต้องขอคนอื่นไปตลอดชีวิต” คำตอบของถังไห่เฉิงดูจริงจังขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงแฝงความอ่อนโยนในน้ำเสียง “โธ่ป๊า...หนูแค่พูดเล่นเอง...” บรรยากาศระหว่างพ่อลูกเป็นไปอย่างผ่อนคลาย ทั้งสองพูดคุยหยอกล้อกันไปเรื่อยจนถึงเวลาเย็น การย้ายของทุกอย่างเสร็จสิ้นลงในที่สุด แต่แล้ว... “เป่าเปา! เป่าเปาไปไหน!” เสียงของถังหูลู่ดังขึ้นอย่างร้อนรน เธอเดินหาแมวตัวโปรดไปทั่วบ้าน ความกังวลค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจเมื่อไม่เห็นเงาของมัน ในที่สุดเธอก็พบเป่าเปาอยู่ในห้องนั่งเล่น พี่ชายต่างสายเลือดทั้งสองของเธอ—หยวนยิงและหยวนหลง กำลังนั่งอยู่บนโซฟา ขณะที่เจ้าแมวน้อยนอนกลิ้งไปมาบนพรมอย่างสบายใจ “นี่ไงเป่าเปา...แกมาอยู่ที่นี่เอง!” ถังหูลู่ถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มเยาะของหยวนยิงและหยวนหลง เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขินขึ้นมาอีกครั้ง “ทำไมพี่สองคนถึงได้หัวเราะแบบนั้นล่ะ!” เธอแกล้งทำหน้าขึงขัง พยายามปกปิดความอายที่กำลังแล่นพล่าน หยวนยิงยักไหล่ “ก็ไม่มีอะไรนี่...แค่ไม่คิดว่าน้องถังของเราจะดูจริงจังขนาดนี้กับแมวตัวเดียว” หยวนหลงเสริมด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ “หรือว่าเธอกลัวมันจะหนีเพราะรู้ว่าเจ้าของมันตะกละ?” To be continued...เธอเม้มริมฝีปากแน่นเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นไหว“แต่มันจะดีจริง ๆ เหรอคะ... ที่พวกเฮียมาเป็นแฟนหนูกันทั้งสองคนเลย...?”มือเล็กบีบมือพวกเขาแน่นขึ้นจนสัมผัสถึงแรงสั่นที่แผ่วเบาแต่แน่วแน่หยวนยิงหันไปสบตาเธอ เขายกมือลูบผมเธออย่างปลอบประโลม “ไหงไม่มั่นใจขึ้นมาล่ะเด็กดี...?”ถังหูลู่หลุบตาลง มองเห็นเพียงผ้าปูเตียงที่ยับย่นจากเรื่องราวเมื่อครู่เธอสูดหายใจแผ่วเบา ก่อนจะตอบอย่างตรงไปตรงมาในแบบที่เธอเป็น“ก็เพราะพอได้มีเซ็กส์ด้วยกันและนอนด้วยกันแบบนี้แล้ว...มันทำให้ใจหนูอ่อนยวบยาบแปลก ๆ เหมือนหัวใจมันละลายไปหมดแล้วน่ะค่ะ...”เสียงของเธอสั่นเครือ เสียงหัวเราะแห้ง ๆ กลืนหายอยู่ในลำคอ ความรู้สึกอ่อนไหวกำลังพัดผ่านเธออย่างช้า ๆ ราวกับสายลมที่มากับกลิ่นฝนหยวนหลงที่เงียบไปเอื้อมมืออีกข้างมากุมมือเธอ ประคองมือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ด้วยมือหนาทั้งสอง ราวกับจะปลอบโยนและปกป้องในเวลาเดียวกันเขายิ้ม พลางเอ่ยแซว “ยังอยากได้อีกเหรอ...เซ็กส์น่ะ?” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยความห่วงใยไม่ปิดบังถังหูลู่หัวเราะแผ่ว ๆ ส่ายศีรษะน้อย ๆ“หนูไม่ไหวแล้ว...” เสียงเธอฟังดูเหนื่อยอ่อน แต่รอยยิ้มของเธอกลับอ
一百四十八 “อึ๊ก...เฮียบีบนมหนูแรงไปแล้วนะคะ!?” เสียงของเธอสั่นพร่า ขณะดิ้นพล่านอยู่ท่ามกลางสัตว์ร้าย มันทั้งอึดอัด จุกเสียด เสียวซ่าน และวาบหวามเกินคำบรรยาย ในร่องรักก็โดนกระทุ้งแรง... ในรูก้นเองก็โดนกระแทกสวนไม่ขาดสาย ... ถังหูลู่ไม่ได้พักผ่อนจริง ๆ เลย เพราะงั้นเธอจึงอ่อนไหวต่อทุกสัมผัสเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม... แม้เธอจะต้องการหลีกหนี แต่พวกเขาก็คงจะไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ “อยากได้แรงกว่านี้อีกเหรอ?” หยวนยิงแสยะยิ้มชั่วร้าย “แค่นี้ยังไม่พอใจอีกหรือไง?” หยวนหลงหัวเราะเย้ยหยัน แต่ถังหูลู่กลับทำให้เขาพวกเลือดร้อนขึ้นอีกครั้งด้วยคำตอบที่ท้าทาย... “เปล่าค่ะ...อยากโดนพวกเฮียบีบคอไปด้วยและกระแทกไปด้วยมากกว่า...” หญิงสาวยังคงยั่วเย้าไม่เลิกราวกับเสียสติไปแล้ว “ปากแซ่บดีจริง ๆ ...” หยวนยิงคำรามในลำคอ ก่อนที่จะกระทุ้งมดลูกเธอสุดแรงด้วยการแทงสุดถอดสุดอย่างรวดเร็ว “อย่างนี้ต้องโดนหนัก ๆ ” หยวนหลงรัดตรึงเธอแน่นขึ้นอีก ขณะที่กระแทกสวนเธอไม่หยุดยั้ง พวกเขารุกไล้เธออย่างไม่ปล่อยวาง ร่างกายของถังหูลู่คือเวทีแห่งแรงปรารถนา ที่ซึ่งสองบุรุษผลัดกันร่ายรำด้วยความหิวกระหาย ท่อนเนื้อของพวกเขาเป็นร
ภาพนั้นทำให้หยวนยิงหัวเราะเบา ๆ ในลำคออย่างพึงพอใจ ก่อนที่เขาจะจับสะเอวบางของเธออย่างแนบแน่น แล้วสอดใส่ท่อนเอ็นของตนเข้าที่กลางกลีบเนื้อสีชมพูระเรื่อ—ที่ตอนนี้ทั้งบานคลี่และชุ่มฉ่ำ ราวกับกลีบดอกไม้ที่เบ่งบานในยามรุ่งอรุณและเมื่อทั้งสองประสานแรงกันอย่างแนบแน่น ร่างบางของถังหูลู่ก็แทบจะลอยคว้างขึ้นสู่ขอบฟ้าแห่งเสน่หา ถูกผลักดันให้ทะยานขึ้นไปในความสุขสมอย่างไร้จุดสิ้นสุด แผ่นหลังโค้งงอรับแรงรักของพวกเขาอย่างซ่านสะเทือนในเรือนกาย...“พวกเฮีย... ยังไหวอยู่อีกเหรอคะ...” เสียงเธอสั่นเครือ เบาหวิวแทบไร้แรง พูดไปพร้อมกับยืดแขนไปด้านหลัง เผยเรือนร่างยั่วยวนทั้งหมดโดยการเผยใต้วงแขน ขณะที่ใช้ฝ่ามือเล็กประคองจับลำคอแกร่งของหยวนหลงไว้มั่นหยวนหลงเพียงยิ้มบาง มือหนาสอดผ่านสีข้างลำตัวเธอ ลูบไล้ไปตามหน้าท้องแบบราบ ก่อนจะขึ้นไปยังหน้าอกอวบอิ่มและยอดปทุมถันสีชมพูหวาน ราวกับจะปลอบโยนความเหน็ดเหนื่อยของเธอด้วยความรัญจวน “เรื่อย ๆ นั่นแหละ...” เขาพึมพำด้วยเสียงต่ำที่ขับกล่อมประสาท พร้อมละเล่นยอดอกเต่งตึงคู่นี้ของเธออย่างสนุกสนาน ทำให้เธอสั่นไหวทุกครั้งที่เริ่มบีบคลึงหรือดึงแรง“ยิ่งเป็นอาหมวยด้วยแล้ว พวกเ
一百四十七 เมื่อเขาเข้าประชิดตัว ความร้อนในร่างก็ระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง มือหนาโอบเธอไว้แน่น ราวกับต้องการหลอมรวมร่างทั้งสองให้กลายเป็นหนึ่งเดียว เสียงหอบหายใจของทั้งสองดังสะท้อนกับผนังห้อง ผสานกับเสียงจูบลึกที่แลกเปลี่ยนราวจะดูดดึงวิญญาณกันและกัน ร่างของหยวนหลงเคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วง ดุดัน แต่แฝงด้วยความอาทร ในขณะที่ถังหูลู่ตอบสนองอย่างหมดหัวใจ—ไม่ใช่เพียงแค่ร่างกายที่คล้องเกี่ยว แต่คืออารมณ์ ความอ่อนแอ และความปรารถนาที่ท่วมท้นไร้ขีดจำกัด เมื่อถึงจุดสูงสุดของการปลดปล่อย—เสียงสุดท้ายที่เปล่งออกมาก็ไม่ใช่เพียงเสียงแห่งความเสียวซ่าน แต่คือเสียงของผู้ที่เสร็จสมและยอมจำนนให้แก่ความสัมพันธ์อันเร่าร้อน ที่ไม่รู้จะเรียกว่าความรัก ความใคร่ หรือความคลั่งไคล้ดี... หลังจากนั้นการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันก็เริ่มต้นขึ้นอีกรอบ... กระจกบานใหญ่หน้าห้องน้ำสะท้อนภาพของหญิงสาวร่างบางผู้หนึ่ง—ถังหูลู่ยืนค้ำอ่างล้างหน้า ร่างเปลือยเปล่าเปียกเหงื่อเกร็งสั่น ดวงตาภายใต้แว่นกลมที่ไหลลงสู่ขอบจมูกแดงเรื่อจากแรงอารมณ์ เธอมองเห็นเงาในกระจกของตนเอง—สะท้อนใบหน้าที่แดงระเรื่อ ผสมความเหนื่อยล้าและความกระหายชนิดหยุดไม่อ
ในห้องนอนของหยวนหลงเสียงลมหายใจของทั้งสามคนสอดประสานกันอย่างอ่อนระโหย เหงื่อยังไหลย้อยเกาะผิวกายราวกับหยดน้ำค้างที่หลงเหลือในยามรุ่งสาง—บ่งบอกถึงความร้อนแรงที่เพิ่งสงบลงราวพายุที่เพิ่งผ่านพ้นถังหูลู่นอนแนบอยู่บนผืนอกแกร่งของหยวนยิง ร่างกายอ่อนแรงดั่งดอกไม้ที่เพิ่งบานสะพรั่งแล้วถูกสายลมกระโชกแรงพัดซัดจนกลีบร่วงหล่น เธอหายใจถี่ สะโพกยังสั่นระริกจากแรงกระตุกครั้งสุดท้าย คล้ายกับร่างกายยังไม่ยอมรับว่าสงครามแห่งอารมณ์ได้ยุติลงแล้วเมื่อความสงบเริ่มกลับคืนมา ทั้งหยวนยิงและหยวนหลงจึงค่อย ๆ ถอนกายออกจากเธออย่างนุ่มนวล ค่อย ๆ แทนที่ด้วยความโล่งโหว่งท่อนเนื้อใหญ่ยาวราวแขนทั้งสองถูกขย้อนออกมาจากรูร่องของถังหูลู่ ขณะที่หยวนยิงและหยวนหลงช่วยกันพยุงอุ้มเธอขึ้นอย่างทะนุถนอมในที่สุด เมื่อขาดการถูกเติมเต็ม ทั้งร่องรักและรูก้นต่างก็เปิดเผยตัว แสดงให้เห็นถึงความกลวงโบ๋และบานเบอะอย่างน่าตกใจของพวกมันไม่นานนัก รูร่องดังกล่าวก็ค่อย ๆ ถ่ายเทของเหลวสีขาวขุ่นที่ไม่สามารถกักเก็บออกมาเป็นจำนวนมาก พวกมันหยาดเยิ้มอย่างหนืดเหนียวออกจากทั้งสองรูร่อง ก่อนที่จะจรดลงบนเตียงนอนผ้าปูที่นอนสีเทาเข้มตัดกับสีของของเห
一百四十六 ในตอนนั้นเอง... “เฮีย...เฮีย! เฮีย!!” เสียงหวานรีบเปล่งออกจากเรียวปากที่สั่นระริกของถังหูลู่ หญิงสาวในแว่นตากลมที่เคยไร้เดียงสา บัดนี้กลับลนลานราวกับไฟในกายกำลังลุกโชนจนควบคุมไม่อยู่ “หนูจะเสร็จแล้ว...จะเสร็จ...ใกล้แล้ว!” ถ้อยคำที่พร่ำพรูออกมาอย่างสับสนสื่อถึงคลื่นความรู้สึกที่กำลังพัดกระหน่ำภายในจิตใจของเธอ ถังหูลู่พยายามยึดมั่นกับเศษเสี้ยวของสติที่หลงเหลือ ขณะที่ร่างกายสั่นสะท้านสาหัสทุกครั้งที่ถูกกระแทกอย่างหนักหน่วงจากทั้งสองชาย ความรู้สึกตึงเครียด สับสน เสียวซ่าน และต้องการจะปลดปล่อย...หลอมรวมกันเป็นคลื่นความสุขที่ยากจะอธิบาย “อา...ยังตอดแน่นได้อีกนะ...ทั้ง ๆ ที่ก็พึ่งโบ๋ไป!” หยวนยิงเอ่ยขึ้นด้วยเสียงพร่าเหือดแห้งไปด้วยแรงอารมณ์ ดวงตาคู่นั้นทอประกายคล้ายคนที่เพิ่งได้ลิ้มรสของต้องห้าม เขาโถมแรงสวนเธอหนักหน่วงที่สุดเท่าที่ทำได้ ร่างหนาของเขาตึงเกร็งและสั่นสะท้านไม่ต่างจากร่างบางของถังเธอ ขณะที่มือหนาข้างหนึ่งคว้ารั้งเอวบางไว้แน่นหนาสุดขีด อีกข้างยังคงกำขยำเนื้อนมขาวเนียนไม่หยุดหย่อน กระทั่งทำให้มันปรากฏรอยแดงรูปฝ่ามือจำนวนมาก... ครั้งนี้ พวกเขาร่วมรักกันอย่างดุเดือด







