หน้าหลัก / แฟนตาซี / 5/B ห้างร้างต้องคำสาป / การฟื้นตัวด้วยแร่รัตนากาล

แชร์

การฟื้นตัวด้วยแร่รัตนากาล

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-31 23:22:24

ทันทีที่คาซิมิและเคชิกลับมาถึงที่ซ่อน ป้าซาเอะก็เริ่มพิธีรักษาเคนตะทันที ป้าซาเอะใช้ คาถาหลอมรวมแสง ของเธอเพื่อหลอมรวมแร่รัตนากาลเข้ากับพลังอาคมฟื้นฟู

แสงสีทองอ่อนๆ ห่อหุ้มร่างของเคนตะ บาดแผลไฟไหม้ที่แขนของเขาค่อยๆ สมานตัวลงอย่างรวดเร็ว พลังอาคมที่เคยแห้งเหือดก็กลับมาเติมเต็มอีกครั้งในอัตราที่น่าอัศจรรย์

หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง เคนตะก็ลืมตาขึ้น เขาขยับแขนขวาได้อย่างคล่องแคล่วและรู้สึกแข็งแกร่งกว่าเดิม

> เคนตะ: “ฉันรู้สึกดีกว่าที่เคยเป็นมา...นี่คือพลังของแร่รัตนากาลสินะ”

> คาซิมิ: “ใช่ค่ะเคนตะ...คุณต้องขอบคุณเคชิและป้าซาเอะ”

>

เคนตะมองไปที่คาซิมิที่ใบหน้ายังซีดเซียว และเคชิที่เหนื่อยล้า “ขอบคุณมากจริงๆ ฉันจะไม่ทำให้การเสียสละของพวกคุณสูญเปล่า”

คำสั่งสุดท้ายก่อนการเดินทาง

เมื่อเคนตะฟื้นตัวเต็มที่ ป้าซาเอะก็เรียกเขากับคาซิมิมาพบอีกครั้ง

> ป้าซาเอะ: “ตอนนี้เจ้ามีพลังอาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูลเจ้าแล้วเคนตะ และหนูคาซิมิ...ก็มีพลังจิตที่ได้รับการพัฒนาจนถึงขีดสุด”

> ป้าซาเอะ: “แต่การต่อสู้ที่รอพวกเจ้าอยู่ข้างหน้าคือ การต่อสู้ทางกายภาพที่แท้จริง! ผ้ายันต์แห่งวิญญาณมักถูกปกป้องโดย อสุรกายแห่งพลัง ที่โจมตีด้วยกำลังกายที่เหนือกว่า”

> ป้าซาเอะ: “ข้าจะให้พวกเจ้า ฝึกฝนร่างกาย ตามตำราโบราณเป็นเวลา ห้าวัน เพื่อให้ร่างกายของพวกเจ้าสามารถรองรับพลังอาคมที่มหาศาล และสามารถต่อสู้ในระยะประชิดกับปีศาจเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

>

เคชิเสนอตัวช่วยฝึกฝน “ผมจะช่วยฝึกฝนด้านความเร็วและความว่องไวให้พวกเขาเองครับป้าซาเอะ! ผมรู้จักวิธีใช้พื้นที่ใต้ดินที่แคบๆ ให้เกิดประโยชน์”

ห้าวันแห่งการหล่อหลอมกายา

การฝึกฝนเริ่มต้นขึ้นทันทีในพื้นที่ว่างของห้องใต้ดิน โดยมีป้าซาเอะควบคุมการฝึกฝนด้านพลังอาคม และเคชิคอยดูแลด้านกายภาพและความว่องไว

วันที่ 1: การฝึกฝนความทนทานและความสมดุล (Endurance and Balance)

หลักสูตร: การฝึกเพื่อเพิ่มขีดจำกัดความทนทานของร่างกายและการทรงตัวภายใต้สภาวะกดดัน

* การวิ่งระยะไกลในพื้นที่จำกัด: เคชิให้เคนตะและคาซิมิ วิ่งซิกแซ็กและหมอบคลาน ผ่านสิ่งกีดขวางที่ซับซ้อนในห้องใต้ดินเป็นเวลา 3 ชั่วโมง โดยไม่หยุดพัก

* เคนตะ: เน้นการเคลื่อนไหวที่ใช้พลังงานน้อยแต่ให้ความเร็วสูงสุด

* คาซิมิ: เน้นการทรงตัวและการเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว เพื่อหลบหลีกการโจมตีที่ไม่คาดคิด

* การทรงตัวบนจุดศูนย์กลาง: ป้าซาเอะให้ทั้งคู่ยืนอยู่บน ท่อเหล็กแคบๆ ที่ถูกวางขวางไว้

* เคนตะ: ต้อง ทรงตัวบนขาเดียว และใช้พลังอาคมดิน (ผ้ายันต์) เพื่อรักษาจุดศูนย์ถ่วงของตัวเอง

* คาซิมิ: ต้อง ทรงตัว ขณะใช้ ‘นิมิต’ เพื่อ สแกน สภาพแวดล้อมทั้งหมดไปพร้อมกัน โดยที่ไม่ตกลงมา การฝึกนี้ช่วยเพิ่มสมาธิทางกายภาพและจิตใจไปพร้อมกัน

> เคชิ: “ความทนทานทางร่างกายเป็นรากฐานของอาคมที่แข็งแกร่ง! ถ้าตัวนายเหนื่อย...จิตใจของนายก็จะอ่อนแอตามไปด้วย!”

>

วันที่ 2: ความเร็วและการตอบสนอง (Speed and Reaction)

หลักสูตร: การเพิ่มความเร็วในการตอบสนอง และการเคลื่อนไหวในพื้นที่แคบ

* แบบฝึกหัดการหลบหลีกเงา: เคชิใช้ ก้อนหินเล็กๆ และ เศษโลหะ โยนเข้าใส่เคนตะและคาซิมิจากทิศทางที่คาดไม่ถึงหลายทิศทางอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

* เคนตะ: ต้องใช้ กระบองเหล็ก ปัดป้องวัตถุทั้งหมด โดยต้อง มองไม่เห็น (อาศัยเพียงเสียงและแรงสั่นสะเทือน)

* คาซิมิ: ต้องใช้ นิมิต ทำนายวิถีของวัตถุ แล้วใช้ การเคลื่อนไหวที่น้อยที่สุด ในการหลบหลีก

* การเคลื่อนไหวประสาน: เคชิให้ทั้งคู่ วิ่งเข้าชนกัน โดยมีเป้าหมายคือการ สัมผัสตัว ของอีกฝ่ายให้ได้ก่อน

* การหลอมรวม: เคนตะต้องอาศัย การสื่อสารทางจิต ของคาซิมิเพื่อเปลี่ยนทิศทางในวินาทีสุดท้าย และคาซิมิก็ต้องใช้ ความเร็ว ของเคนตะเพื่อสร้างความได้เปรียบในการหลบหลีก

> เคนตะ: “เร็วขึ้นคาซิมิ! ถ้าเธอมองเห็นอนาคต...เธอต้องเร็วกว่านั้น!”

> คาซิมิ: “ฉันรู้ค่ะ! คุณก็ต้องเชื่อในจังหวะของฉันมากกว่านี้!”

>

วันที่ 3: ความแข็งแกร่งและการรับน้ำหนัก (Strength and Burden Bearing)

หลักสูตร: การเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ และการรองรับน้ำหนักของอาคม

* การยกของหนักแบบรวมธาตุ: ป้าซาเอะให้ทั้งคู่ ยกเสาคอนกรีตที่ถูกทิ้งไว้

* เคนตะ: ต้องยกเสาคอนกรีตโดยใช้ กำลังกาย และใช้ ผ้ายันต์แห่งไฟ เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อของเขาให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

* คาซิมิ: ต้องยกเสาคอนกรีตโดยใช้ พลังอาคม และ ผ้ายันต์แห่งลม เพื่อทำให้เสารู้สึก เบาขึ้น แต่ต้อง ควบคุมน้ำหนัก ไม่ให้ลอยขึ้นอย่างรวดเร็ว

* การต่อสู้ภายใต้แรงกดดัน: เคชิให้เคนตะ แบกน้ำหนักของลังเหล็กหลายใบ แล้วต่อสู้กับเขาในระยะประชิด

* เคนตะ: การฝึกนี้สอนให้เขา ต่อสู้ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบด้านกำลังกาย และต้องอาศัย ความเร็ว ของคาซิมิในการชี้ช่องโหว่

> เคชิ: “ปีศาจไม่สนใจความเหนื่อยของพวกนาย! พวกมันสนใจแค่เลือดและวิญญาณเท่านั้น! จงแข็งแกร่งกว่าความเหนื่อยล้าของตัวเอง!”

>

วันที่ 4: การปรับตัวเข้ากับธาตุ (Elemental Adaptation)

หลักสูตร: การให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง โดยใช้ผ้ายันต์

* การฝึกฝนไฟและความเย็น: ป้าซาเอะแบ่งพื้นที่ฝึกฝนออกเป็นสองส่วน

* ส่วนที่ 1 (ไฟ): เคนตะใช้ ผ้ายันต์แห่งไฟ สร้าง ความร้อนที่รุนแรง เข้าสู่ร่างกายของเขาเป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นและทนทานต่อความร้อน

* ส่วนที่ 2 (น้ำ): คาซิมิใช้ ผ้ายันต์แห่งน้ำ สร้าง ไอน้ำเย็นจัด เข้าสู่ร่างกายของเธอเป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้ร่างกายมีความทนทานต่ออุณหภูมิที่ลดลง

* การเคลื่อนไหวในสภาพอากาศแปรปรวน: ป้าซาเอะให้ทั้งคู่ เคลื่อนไหวไปพร้อมกัน ในขณะที่เธอใช้ ผ้ายันต์แห่งดินและลม เพื่อสร้าง พายุฝุ่น

* การหลอมรวม: พวกเขาต้องเคลื่อนไหวอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในสภาพที่ มองไม่เห็น, หายใจลำบาก, และถูกแรงลมกดดัน การประสานงานและการสื่อสารทางจิตต้องแม่นยำที่สุด

> ป้าซาเอะ: “ร่างกายของเจ้าต้องเป็น ภาชนะ ที่ยืดหยุ่น! ไม่ใช่กำแพงที่แข็งทื่อ! จงปรับตัวเข้ากับพลังที่เจ้ามี!”

>

วันที่ 5: การหล่อหลอมกายาอาคม (The Arcana Body Forging)

หลักสูตร: การรวมทุกการฝึกฝนเข้ากับการใช้งานอาคมในสถานการณ์จำลองที่ซับซ้อน

* การฝึกจำลองการต่อสู้ระยะประชิด: เคชิสวมชุดเกราะป้องกันและต่อสู้กับทั้งสองคนพร้อมกันอย่างดุเดือด โดยมีป้าซาเอะคอย จำลองการโจมตีด้วยอาคม จากระยะไกล

* เคนตะ: ต้องใช้ ความเร็วและความแข็งแกร่ง ที่ฝึกมา เพื่อเข้าโจมตีเคชิในระยะประชิดอย่างต่อเนื่อง

* คาซิมิ: ต้องใช้ ความว่องไวและการทรงตัว เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีอาคมของป้าซาเอะ และใช้ คาถา ‘กระแทกจิต’ เพื่อสนับสนุนเคนตะในจังหวะที่สำคัญ

* บททดสอบสุดท้าย – ความต่อเนื่อง: ทั้งคู่ต้องทำการฝึกทั้งหมดที่กล่าวมาใน 4 วันแรก ต่อเนื่องกัน เป็นเวลา 1 ชั่วโมง โดยไม่แสดงสัญญาณของความอ่อนล้าใดๆ

> เคนตะ: (หอบหนัก) “คาซิมิ...ฉันพร้อมแล้ว! ไปกันเลย!”

> คาซิมิ: (เหงื่อท่วมตัว) “ฉันก็พร้อมแล้วเคนตะ! เรามาได้ไกลเกินกว่าจะหยุดแล้ว!”

>

การเตรียมตัวสำหรับการค้นหาสุดท้าย

เมื่อการฝึกฝนสิ้นสุดลง เคนตะและคาซิมิรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน พวกเขาไม่เพียงแต่แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น แต่ร่างกายของพวกเขายัง หล่อหลอมรวมเข้ากับพลังอาคมธาตุทั้งสี่ อย่างสมบูรณ์ ทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้รวดเร็วและทนทานกว่าเดิมหลายเท่า

ป้าซาเอะพยักหน้าด้วยความพอใจ “เยี่ยมมาก...ตอนนี้ร่างกายของพวกเจ้าพร้อมที่จะเดินทางสู่ภารกิจสุดท้ายแล้ว”

> เคชิ: “พวกคุณจะไปที่ไหนต่อครับ? ผ้ายันต์แห่งวิญญาณถูกซ่อนไว้ที่ใด?”

>

เคนตะหยิบผ้ายันต์ทั้งสี่ผืนออกมา เขาวางผ้ายันต์ ดิน, น้ำ, ไฟ, ลม ไว้บนพื้น แล้วรวบรวมพลังอาคมทั้งหมดที่ฝึกฝนมาเพื่อ ร่ายคาถาค้นหา!

แสงสีรุ้ง พุ่งออกมาจากผ้ายันต์ทั้งสี่ผืน! แสงนั้นพุ่งทะยานขึ้นไปบนเพดาน แล้ว ส่องผ่านชั้นต่างๆ ของห้างสรรพสินค้า ไปยังจุดศูนย์กลางแห่งหนึ่ง!

> เคนตะ: “เจอแล้วคาซิมิ! ผ้ายันต์แห่งวิญญาณอยู่ที่...”

>

> คาซิมิ: (ใช้ ‘นิมิต’ ตรวจสอบ) “ที่ ชั้นบนสุด ค่ะ! มันอยู่ที่ ห้องควบคุมระบบศูนย์กลาง ของห้างสรรพสินค้า! ตรงกับจุดที่รอยแยกมิติแรกปรากฏขึ้น!”

>

> ป้าซาเอะ: “นั่นคือ หัวใจ ของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้! เป็นจุดที่ประตูมิติกำลังจะเปิดออกอย่างสมบูรณ์! พวกเจ้าต้องรีบไปก่อนที่มันจะสายเกินไป!”

>

เคนตะและคาซิมิเก็บผ้ายันต์ทั้งสี่ผืน พวกเขาหันไปมองเคชิและป้าซาเอะด้วยความมุ่งมั่น

“เราจะจบเรื่องนี้ให้ได้” เคนตะกล่าว

“ไปกันเถอะเคนตะ! สู่ภารกิจสุดท้าย!” คาซิมิตอบอย่างมั่นใจ

เคนตะและคาซิมิกำลังมุ่งหน้าสู่ชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้า สถานที่ที่ผ้ายันต์แห่งวิญญาณรอพวกเขาอยู่

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ

    หลังจากที่เคนตะกำจัดราชันย์แห่งวิญญาณบาปได้สำเร็จ ทั้งคู่ก็ยืนอยู่หน้า ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ สีทองอร่าม มันลอยอยู่เหนือพื้นเบื้องหน้ารอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ผ้ายันต์ผืนนี้ไม่ได้แผ่พลังธาตุที่รุนแรงเหมือนผืนอื่น แต่มันแผ่ ความสงบและความว่างเปล่า ที่น่าขนลุกออกมาเคนตะเดินเข้าไปใกล้ผ้ายันต์อย่างระมัดระวัง เมื่อเขาแตะมัน พลังอาคมจากผ้ายันต์ทั้งสี่ผืน ที่เขาครอบครองอยู่ก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!> เคนตะ: “คาซิมิ...ฉันรู้สึกว่าพลังงานทั้งหมดกำลัง หลอมรวม กัน! มัน...สมบูรณ์แล้ว!”> ทันใดนั้น ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ ก็เรืองแสงจ้าขึ้น แล้ว เสียงทุ้มลึก ก็ดังก้องอยู่ในหัวของพวกเขา!> เสียงปริศนา: “ยินดีต้อนรับ...ผู้แสวงหาพลังแห่งการผนึก...แต่พลังแห่งวิญญาณนี้...ไม่สามารถถูกนำไปได้โดยง่าย”> การปรากฏตัวของผู้พิทักษ์จากรอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ร่างโปร่งใส ก็ปรากฏตัวขึ้น มันดูเหมือนมนุษย์ แต่ร่างกายของมันหมุนวนราวกับ ฝุ่นดาวและแสง ที่ถูกบิดเบือน!ผู้พิทักษ์: มิธรัส (Mithras - The Guardian of Null)ลักษณะ/ขนาด: ร่างโปร่งแสงที่สูงประมาณ 2 เมตร ไม่มีเพศที่ชัดเจน ร่างกายประกอบด้วยแสงที่สั่นไหว มีดวงตาสองดวงท

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การปีนขึ้นสู่ชั้นบนสุด

    เคนตะและคาซิมิใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมงในการปีนขึ้นสู่ชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้า พวกเขาใช้ พลังแห่งลม (ผ้ายันต์ที่ 4) เพื่อเพิ่มความว่องไว และ พลังแห่งเงา (คาซิมิ) เพื่อหลีกเลี่ยงปีศาจที่ลาดตระเวนอยู่ตามทางเมื่อพวกเขามาถึง ห้องควบคุมระบบศูนย์กลาง ที่ชั้นบนสุด พวกเขาก็ต้องหยุดชะงัก ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ถูกทำลายจนหมดสิ้น กลางห้องมี รอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ที่แผ่พลังงานมหาศาลออกมา!และที่ด้านหน้าของรอยแยกมิตินั้น ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ ก็กำลังเรืองแสงอย่างเจิดจ้า!แต่ก่อนที่พวกเขาจะก้าวเข้าไป กลิ่นอายของพลังปีศาจที่รุนแรงที่สุด ก็พุ่งเข้าใส่พวกเขา!“คาซิมิ! ระวัง!” เคนตะคำรามจากเงามืดและซากปรักหักพัง ปีศาจทั้งหมด 15 ตัว ก็พุ่งเข้าล้อมพวกเขาไว้! พวกมันคือ อสุรกายที่ถูกส่งมาโดยตรงจากมิติปีศาจ เพื่อปกป้องผ้ายันต์แห่งวิญญาณ!การปะทะครั้งใหญ่: การหลอมรวมเพื่อเอาชีวิตรอดเคนตะและคาซิมิอยู่กลางวงล้อม ปีศาจ 15 ตัวที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าล้วนมีความสามารถที่ซับซ้อนและแข็งแกร่งกว่าปีศาจตัวก่อนๆ ที่เคยเจอมา> เคนตะ: “คาซิมิ! ใช้ นิมิต หาจุดอ่อนที่ซับซ้อนที่สุดของพวกมัน!

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การฟื้นตัวด้วยแร่รัตนากาล

    ทันทีที่คาซิมิและเคชิกลับมาถึงที่ซ่อน ป้าซาเอะก็เริ่มพิธีรักษาเคนตะทันที ป้าซาเอะใช้ คาถาหลอมรวมแสง ของเธอเพื่อหลอมรวมแร่รัตนากาลเข้ากับพลังอาคมฟื้นฟูแสงสีทองอ่อนๆ ห่อหุ้มร่างของเคนตะ บาดแผลไฟไหม้ที่แขนของเขาค่อยๆ สมานตัวลงอย่างรวดเร็ว พลังอาคมที่เคยแห้งเหือดก็กลับมาเติมเต็มอีกครั้งในอัตราที่น่าอัศจรรย์หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง เคนตะก็ลืมตาขึ้น เขาขยับแขนขวาได้อย่างคล่องแคล่วและรู้สึกแข็งแกร่งกว่าเดิม> เคนตะ: “ฉันรู้สึกดีกว่าที่เคยเป็นมา...นี่คือพลังของแร่รัตนากาลสินะ”> คาซิมิ: “ใช่ค่ะเคนตะ...คุณต้องขอบคุณเคชิและป้าซาเอะ”> เคนตะมองไปที่คาซิมิที่ใบหน้ายังซีดเซียว และเคชิที่เหนื่อยล้า “ขอบคุณมากจริงๆ ฉันจะไม่ทำให้การเสียสละของพวกคุณสูญเปล่า”คำสั่งสุดท้ายก่อนการเดินทางเมื่อเคนตะฟื้นตัวเต็มที่ ป้าซาเอะก็เรียกเขากับคาซิมิมาพบอีกครั้ง> ป้าซาเอะ: “ตอนนี้เจ้ามีพลังอาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูลเจ้าแล้วเคนตะ และหนูคาซิมิ...ก็มีพลังจิตที่ได้รับการพัฒนาจนถึงขีดสุด”> ป้าซาเอะ: “แต่การต่อสู้ที่รอพวกเจ้าอยู่ข้างหน้าคือ การต่อสู้ทางกายภาพที่แท้จริง! ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การรักษาที่วิกฤต

    เคนตะและคาซิมิกลับมาถึงที่ซ่อนของผู้รอดชีวิตในสภาพที่ย่ำแย่ คาซิมิอ่อนล้าจากการใช้พลังอาคมคนเดียว ส่วนเคนตะก็ทรุดหนักจากการบาดเจ็บที่แขนขวาและภาวะพลังงานอาคมพร่องป้าซาเอะรีบเข้าตรวจอาการเคนตะทันทีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด> ป้าซาเอะ: “บาดแผลไฟไหม้ที่แขนขวาของเคนตะลึกมาก...มันไม่ใช่แค่ไฟธรรมดา แต่เป็นการกัดกินของ พลังงานอาคมร้อน ที่ทำลายแกนพลังงานของเขา”> คาซิมิ: “แล้วเราจะทำยังไงดีคะป้าซาเอะ?”> ป้าซาเอะ: “ข้าสามารถเยียวยาบาดแผลภายนอกได้ แต่การซ่อมแซมแกนพลังงานที่เสียหายนั้น...ต้องใช้ แร่รัตนากาล (Chronos Ore)”> แร่รัตนากาลเป็นแร่ในตำนานที่เชื่อกันว่ามีพลังในการฟื้นฟูอาคมบริสุทธิ์และสามารถเร่งการเติบโตของพลังงานอาคมได้> เคชิ: “แร่รัตนากาล...ผมจำได้! มันเป็นแร่ที่ถูกใช้ตกแต่งใน ห้องจัดแสดงอัญมณี ของห้างสรรพสินค้า! มันอยู่ในกล่องนิรภัยเหล็กกล้าที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์!”> ป้าซาเอะ: “ใช่! แต่การจะสกัดแร่นั้นออกมาใช้ได้ ต้องใช้ คาถาหลอมรวมแสง ของข้า...และเราต้องมีแร่นั้นก่อน”> ทุกคนรู้ดีว่าห้องจัดแสดงอัญมณีเป็นพื้นที่เปิดกว้างและอันตรายที่สุดแห่งหนึ่งในห้าง> คาซิมิ: “ฉันจะไปเองค่ะ! ฉันยัง

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   บาดแผลและการล่าถอย

    เคนตะและคาซิมิออกจากห้องเตาหลอมพร้อมกับ ผ้ายันต์แห่งลม ในมือ แม้จะได้รับชัยชนะ แต่เคนตะก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถ่ายโอนพลังป้องกันในช่วงท้ายของการต่อสู้ แขนขวาของเขาถูกไอความร้อนกัดกินจนเป็นรอยไหม้พุพอง และร่างกายของเขาก็อ่อนแรงจากการใช้ธาตุคู่เกินขีดจำกัด“เราต้องกลับไปหาเคชิเดี๋ยวนี้เคนตะ!” คาซิมิกล่าวด้วยความเป็นห่วง เธอพยุงร่างของเคนตะไว้เคนตะกัดฟันแน่น “ฉันไหวคาซิมิ...รีบไปกันเถอะ ก่อนที่ปีศาจตัวอื่นจะได้กลิ่นเลือดของเรา”ทั้งคู่ใช้พลังอาคมที่เหลืออยู่ของคาซิมิสร้าง เกราะพรางตัว (Stealth Cloak) ที่มองไม่เห็นและปราศจากกลิ่น เพื่อพยายามหลบหนีออกจากชั้นใต้ดินที่เต็มไปด้วยอันตราย พวกเขาเดินตามทางที่เคชิเคยให้ไว้ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไกลออกไป แต่ปลอดภัยที่สุดกับดักที่คาดไม่ถึงพวกเขาเดินทางผ่านซอกหลืบของโกดังสินค้าที่มืดมิดและเย็นชื้นอย่างเงียบๆ คาซิมิใช้ ‘นิมิต’ สแกนทุกตารางนิ้วของการเดินทาง เธอรู้ดีว่าในสภาพที่เคนตะบาดเจ็บ พวกเขาไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแล้วเมื่อพวกเขามาถึงทางแยกสุดท้ายก่อนจะถึงทางเข้าลับของที่ซ่อน คาซิมิก็หยุดชะงักทันที!“เคนตะ...หยุดค่ะ” เธอสั่งเสียงกระซิบอย่างตื่นตร

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การเข้าสู่แดนเพลิง

    เคนตะและคาซิมิมาถึงหน้าห้องเตาหลอมที่ลึกที่สุดของห้างสรรพสินค้า ประตูเหล็กบานใหญ่ที่ปิดอยู่แผ่รังสี ความร้อนที่แผดเผา ออกมาอย่างรุนแรงเคนตะใช้ผ้ายันต์แห่งดิน (ผืนที่ 1) แตะที่ประตูเหล็ก ครืนนน! พลังแห่งดินทำให้ประตูเหล็กเปิดออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็น ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเปลวไฟและไอร้อน * สภาพแวดล้อม: ห้องโถงนี้ดูเหมือนเป็นโรงงานเก่าที่ถูกทิ้งร้าง มีเตาหลอมขนาดมหึมาสามเตาตั้งอยู่กลางห้อง ซึ่งส่งแสงสีส้มแดงออกมาอย่างบ้าคลั่ง อากาศร้อนอบอ้าวและเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นไหม้และกำมะถัน * เป้าหมาย: ผ้ายันต์แห่งลม (ผืนที่ 4) คาดว่าจะถูกซ่อนอยู่ใน แกนควบคุมความดัน ที่อยู่เหนือเตาหลอมกลาง“ความร้อนสูงมากเคนตะ!” คาซิมิกล่าวพลางใช้มือป้องใบหน้าจากความร้อนเคนตะหยิบผ้ายันต์แห่งน้ำ (ผืนที่ 2) ออกมา เขารวบรวมพลังอาคมแล้วร่าย คาถา ‘ม่านไอน้ำเย็น’ อย่างรวดเร็ว ฟู่! ไอน้ำเย็นก่อตัวเป็นม่านบางๆ รอบตัวพวกเขา ทำให้ความร้อนที่เข้ามาบรรเทาลงได้ชั่วคราว“เราต้องเร็วคาซิมิ! ม่านไอน้ำจะอยู่ได้ไม่นานในความร้อนขนาดนี้!”การต้อนรับของอสุรกายแห่งความร้อนทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามาในห้องโถง เสียงโหยหวน ก็ดังขึ้นจา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status