LOGINหรงหรงเป็นแม่ทัพหญิงที่เก่งกาจ เธอเสียชีวิตในขณะที่ได้รับภารกิจลับอย่างกระทันหัน และได้ข้ามเวลาไปอยู่ในอีกร่างหนึ่งของยุคโบราณ ในขณะร่างเดิมที่พึ่งจะสิ้นลม ร่างใหม่ก็ได้เข้าไปแทนที่โดยที่เธอเองก็พึ่งจะรู้ตัว หลังจากได้ข้ามภพไปแล้ว
View Moreหรงหรงเป็นหญิงสาวชนบท ปีนี้นางอายุครบ 16 หนาว เกิดมาในตระกูลฐานะที่ยากจนข้นแค้น มารดาป่วยหนักเป็นเวลาหลายปี ทำให้แม่สามีแอบใช้อำนาจในการตัดสินใจแทนมารดาแทบจะทุกอย่าง
แม่สามีหวังจะหุบทรัพย์สมบัติของลูกชายที่ตายจากไป และใช้ประโยชน์จากตัวหลานสาว พร้อมทั้งยังแอบรับเงินค่าสินสอดของหลานสาวเอามาไว้ก่อนล่วงหน้า โดยมิมีผู้ใดรับรู้ถึงแผนการณ์ที่ชั่วร้ายของแม่เฒ่าอิ๋น บุตรชายตระกูลเซิ๋น นามว่าเซิ๋นอี้ฟู ปีนี้อายุได้ 18 หนาว เขาเป็นหัวหน้าอันธพาลใหญ่ในหมู่บ้าน วันๆไม่รู้จักทำการทำงาน เที่ยวหาเรื่องเด็กและคนชราที่ไม่มีทางสู้ ทำให้ชาวบ้านในระแวกนั้น ต่างรู้สึกเอือมระอา อี้ฟูมีรูปร่างอ้วนใหญ่ลงพุง หน้าตามีตุ่มสิวขึ้นเต็มตามใบหน้า ทำให้บรรดาหญิงสาวทั้งหลายที่พบเจอ ต่างเกรงกลัว และรู้สึกสะอิดสะเอียน รีบพากันหลบหนีไปในทันที เพราะไม่อยากมีใครหาเรื่องใส่ตัว นางเมิงมีอาการป่วยหนัก นอนติดเตียงเป็นเวลานานหลายปี หรงหรงซึ่งเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียว จึงคอยดูแลปรนนิบัติมารดาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ในกิจวัตรประจำวัน หรงหรงจะคอยเช็ดตัว หุงหาอาหาร ให้มารดาอยู่เป็นประจำ เช้าวันใหม่อากาศเริ่มสดใส... แม่เฒ่าอิ๋น มีศักดิ์เป็นย่าของหรงหรง นางคิดวางแผนอุบายชั่วช้า เพื่อหลอกให้หลานสาวขึ้นไปเก็บฟืนแทนตนเองบนเขากลางป่า และด้วยนิสัยที่ไม่ทันคนของหลานสาว จึงได้ตกปากรับคำไปอย่างง่ายดาย เพราะมารดาคอยพร่ำสอนอยู่เสมอ ว่าให้บุตรสาวรู้จักกตัญญูรู้คุณ ให้เคารพต่อญาติผู้ใหญ่อย่างเคร่งครัด ห้ามละเลยโดยเด็ดขาด "หรงเอ๋อร์ วันนี้ย่ารู้สึกคั้นเนื้อคั้นตัว เมื่อวานย่าขึ้นเขาไปตัดฟืนทิ้งเอาไว้ หลานช่วยขึ้นเขาไปเอาฟืนลงมาให้ย่าได้หรือไม่ แค่ก...แค่ก...? แม่เฒ่าอิ๋นแสร้งทำทีไออกมาเป็นครั้งคราว เพื่อให้หลานสาวตายใจ "ได้สิเจ้าคะ" "เอ่อ....เจ้าก็ไปสักยามโหย่ว (17.00-19.00)แล้วกันนะ ยามนั้นอากาศจะได้ไม่ร้อนมาก ไม่ต้องรีบกลับ ค่อยๆเก็บฟืนกลับมา ..." แม่เฒ่าอิ๋นวางแผนการได้อย่างแยบยล ไม่นานนักนางก็แอบส่งข่าวไปให้อี้ฟูตามแผนการที่วางเอาไว้ เมื่อหลานสาวถึงวัยออกเรือน แม่เฒ่าอิ๋นมีหรือจะยอมนิ่งเฉย นางถึงกับคิดแผนการชั่วร้ายต่อหลานสาว ไม่มีแม้แต่จะจัดพิธีรีตองอย่างเรียบง่ายขึ้นมา นางยังสั่งให้อี้ฟู รีบรวบรัดตัดตอนหลานสาวได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ได้สนใจว่าอี้ฟูจะเป็นคนเช่นไร ขอเพียงแม่เฒ่าอิ๋นรับเงินค่าสินสอดมาได้เต็มจำนวน อี้ฟูก็มีสิทธิ์เป็นหลานเขยนางได้อย่างเต็มตัว จะกระทำการใดใดต่อหลานสาว ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แม่เฒ่าอิ๋น ถือว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง นางได้ตกปากรับคำไปแล้ว ใครจะกล้ามาเอาเรื่องกับนางขึ้นมา ขึ้นชื่อว่าสามีภรรยาร่วมหลับนอนก่อนเคารพฟ้าดิน มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับแม่เฒ่าอิ๋น วันนี้อี้ฟูนำคนติดตามมาด้วยไม่มาก ในใจพลันคิดว่าวันนี้เขาจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนเสียที เขาเดินยิ้มหน้าบานอย่างมีความสุข ในใจพลันคิด ถึงเวลาที่จะมีเมียเป็นตัวเป็นตน เหมือนกับคนอื่นสักทีแล้วโว้ยยยยย ฮ่าๆๆๆ... อี้ฟูขึ้นเขาไปดักรอว่าที่ภรรยาก่อนหน้านั้นไม่นาน เขาซุ่มอยู่บริเวณพุ้มไม้บนเขาไม่ห่างไกลมาก เพื่อไม่ให้เหยื่อได้ไหวตัวทัน ตอนนี้เป็นเวลาช่วงเย็น หรงหรงเอาตระกร้าแบกไว้ที่หลัง นางเตรียมจะออกไปเก็บฟืนตามที่ท่านย่าร้องขอ เด็กสาวเดินมาถึงด้านบนเขาเป็นที่เรียบร้อย สตรีร่างเล็กค่อยๆนั่งลงเก็บฟืนช้าๆ อย่างไม่คิดอะไร และไม่ทันได้ระวังตัว จู่จู่พลันก็มีเงาของชายปริศนา เดินมาจากทางด้านหลังของนาง เขารีบเอามือปิดปาก โดยที่นางไม่ทันจะตั้งตัว "พรึบ!!!!" ฝ่ามือใหญ่ปิดปากนางจนสนิท เพื่อไม่ให้นางได้กรีดร้อง หรงหรงยังไม่ทันจะตะโกนร้องออกไป ก็ถูกอี้ฟูใช้มืออีกข้างชกเข้าไปบริเวณหน้าท้องอย่างรุนแรง นางรู้สึกจุกเสียดอย่างแรงที่บริเวณท้องน้อย และไม่สามารถขัดขืนต่อบุรุษร่างใหญ่ตรงหน้าได้ จากนั้นบุรุษตรงหน้าไม่รอช้า รีบอุ้มสตรีตัวเล็กเข้าไปในป่า หวังจะรวบรัดตัดตอน เขาใช้ผ้าปูสีแดงเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า ก่อนจะวางสตรีตัวเล็กลงอย่างช้าๆ ราวกับกำลังเข้าพิธีวิวาห์ จากนั้นเขารีบหันไปสั่งลูกน้อง ให้ออกไปเฝ้าดูต้นทาง และห้ามเข้ามาแอบดูเขาเด็ดขาด สตรีร่างเล็กยังคงดิ้นรนสุดชีวิต นางได้แต่ร้องไห้เนื้อตัวสั่นเทา คิดไม่ถึงว่าเหตุการณ์เลวร้ายครั้งแรกในชีวิตของนาง จะต้องมาเจอกับคนชั่วช้าเลวทรามต่ำช้าเช่นนี้เข้า รอยยิ้มอันชั่วร้าย ฉายแววขึ้นมาบนใบหน้าของบุรุษร่างอ้วน ใบหน้าอันอ้วนกลมจนน่าขยะแขยง บวกกับกลิ่นกายที่น่าสะอิดสะเอียน ทำให้สตรีร่างเล็กรู้สึกหวาดกลัว และขยะแขยงจนอยากจะอาเจียนเป็นที่สุด "น้องหรงเอ๋อร์คนดี เจ้ามิต้องกลัวไป พี่อี้ฟูจะค่อยๆ ทะนุถนอมเจ้าเป็นอย่างดี ย่าของเจ้าได้ขายเจ้าให้กับข้าแล้ว ตอนนี้นางได้เอาเงินค่าสินสอดทั้งหมดของเจ้าไปแล้วด้วย ตอนนี้เจ้าก็เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เจ้ากระจ่างแล้วหรือไม่ ฮ่าฮ่าฮ่า" หรงหรงนิ่งอึ้งไปกับสิ่งที่อี้ฟูพูดออกมาเมื่อสักครู่ นางยังคงดิ้นรนต่อสู้สุดชีวิต ไม่คลาดคิดว่าย่าแท้ๆของนาง จะกล้าขายนางได้ลงคอ เพียงหวังเเค่เงินค่าสินสอดจากนางเท่านั้นเอง นางกลับหลงคิดว่า ย่าของนางนั่นเป็นคนดีมาตั้งนาน ที่แท้ก็หวังแค่เงินจากตัวนาง เมื่อได้ฟังเช่นนั้น ยิ่งทำให้สตรีร่างเล็กรู้สึกสิ้นหวังเป็นอย่างมาก น้ำตาค่อยๆไหลอาบแก้มด้วยหัวใจที่แหลกสลาย "น้องหญิงหรงเอ๋อร์...เจ้าอย่าได้คิดดิ้นรนให้เสียแรงเปล่าไปเลย แม้เจ้าจะไม่เต็มใจ แต่หลังจากที่น้องหญิงตกเป็นเมียของข้าแล้ว ยังไงเจ้าก็ต้องทนอยู่กับข้าต่อไป ตลอดชีวิตนี้ เจ้าจะเป็นเมียของข้าแต่เพียงผู้เดียว จงจำใส่สมองเอาไว้ให้ดีเสียเถอะ ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า" "พี่อี้ฟู...ท่านปล่อยข้าไปเถอะ ข้าจะกลับไปพูดกับท่านย่าเอง ข้าจะรีบให้นางนำเงินสินสอดทั้งหมดมาคืนให้แก่ท่าน ฮือ...ฮือ...อย่าทำอะไรข้าเลยน่ะ ข้าขอร้องท่านละ..? สตรีร่างเล็กพนมมือขอร้องอ้อนวอนต่อบุรุษร่างอ้วนตรงหน้าสุดชีวิต นางร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างไม่เต็มใจ และดิ้นรนทุกวิถีทาง "ปล่อยเจ้า ฝันไปเถอะ ถึงอย่างไร วันนี้เจ้าก็ต้องตกเป็นเมียข้าอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง.." "ไม่..ปล่อยข้านะ ฮือ..ฮือ..ปล่อยข้า" หรงหรงยังคงขัดขืนร้องไห้ดิ้นรนต่อบุรุษร่างอ้วนอย่างไม่ลดละ ด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา อี้ฟูกะชากเส้นผมหรงหรงอย่างสุดแรง นางกำลังจะดิ้นหลุดออกไป เขากลับกระชากนางกลับคืนมา เเล้วตบไปที่ใบหน้าของคนตัวเล็กอย่างเต็มกำลังทันที "เพลี้ยะ...." "โอ้ยยย...." หรงหรงใช้เล็บมือข่วนไปที่ใบหน้าอี้ฟู ทำให้มีเลือดไหลออกมา ยิ่งทำให้อี้ฟูรู้สึกเจ็บและโมโหมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว อี้ฟูต่อยไปที่บริเวณท้องน้อยนางอีกครั้ง ครั้งนี้คนตัวเล็กรู้สึกหายใจไม่ออกเหมือนกับจะขาดใจตายในไม่ช้า "อึก...!!!" อี้ฟูรีบล้มทับไปบนร่างของคนตัวเล็กทันที เขากระชากเสื้อผ้าของนางขาดออกอย่างบ้าคลั่ง จนเสื้อผ้าของนางหลุดรุย ผมเพ้ายุ่งเหยิง เนื้อตัวนางเริ่มสั่นเทาราวกับคนเสียสติ คนตัวเล็กเริ่มหมดแรง นางตะเกียดตะกายดิ้นรนสุดชีวิต ครั้งนี้เห็นทีนางคงไม่มีโอกาสได้กลับไปหามารดาของนางอีกแล้วอย่างแน่นอน หยดน้ำตาค่อยๆไหลผ่านหางตาอย่างเศร้าสลด หรงหรงยังคงไม่ยอมแพ้ นางคว้ามือไปสัมผัสโดนกิ่งไม้ จึงใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายทั้งหมดที่มี ใช้ไม้ในมือ แทงไปกลางอกของบุรุษตรงหน้าอย่างสุดแรง "ปึก.." "อ้ากกก....." เลือดสดๆสีแดง ค่อยๆไหลหยดลงไปตามพื้นในทันที "นังสารเลว...กล้าทำร้ายข้ารึ ตายสะเถอะ!!!.." อี้ฟูเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เขาใช้มือบีบไปที่คอของคนตัวเล็กอย่างสุดแรง ใบหน้าสตรีร่างเล็กเริ่มแดงก่ำ แล้วค่อยๆหยุดการเคลื่อนไหวลงอย่างช้าๆ ในตอนนี้อี้ฟูสนใจเพียงร่างกายของนาง ไม่สนใจว่านางจะเป็นหรือตาย เขารีบถือวิสาสะถอดเสื้อผ้าของนางออกจนหมด และกำลังจะแสดงความใคร่อย่างหื่นกระหาย แต่ทันใดนั้นเอง..... "ปั้ก!!!" "โอ้ยยย..ใครว่ะ..?" ขอเพียงท่านลุงตกลงปลูกเรือนให้ข้า หากท่านลุงต้องการสิ่งใดเพิ่มเติม ท่านลุงบอกข้ามาได้เลยเจ้าคะ ข้ายินดีพร้อมใจสุดกำลัง..." "ได้...ช่วงนี้ลุงว่างพอดีเลย ตอนนี้ยังไม่ได้รับงานที่ไหน ถ้าเช่นนั้น...อีกสักสองสามวัน หลังจากที่ลุงทำเก้าอี้ให้เจ้าเสร็จเรียบร้อย ลุงจะพาผู้ช่วยไปตรวจวัดพื้นที่ที่เรือนให้ก่อนก็แล้วกัน..." ช่างไม้ฉู่รีบตกปากรับคำทันที "ได้เจ้าคะ เรื่องอาหารการกิน ข้าจะรับผิดชอบวันละสามเวลาเจ้าคะ ส่วนค่าแรง ข้าจะจ่ายให้ท่านลุงทุกวันหลังจบงาน คนละสิบอิแปะ ท่านลุงคิดเห็นเช่นไรบ้างเจ้าคะ...? หรงหรงมองไปที่ช่างไม้ฉู่อย่างชั่งใจ สิบอิแปะต่อวัน ถือว่าเป็นค่าแรงที่หาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เพราะปกติค่าแรงรายวัน ได้เพียงเเค่ห้าอิแปะต่อวันเท่านั้น มีหรือช่างไม้ฉู่จะไม่รีบตอบตกลง เทียบกับชาวบ้านธรรมดาในหมู่บ้าน ยังได้ค่าแรงวันล่ะ 5 -6 อิแปะต่อวัน สตรีคนนี้ช่างใจปล้ำยิ่งนัก ช่างไม้ฉู่พลันนึกคิดภายในใจ มีลาภลอยมาให้ถึงที่ เหตุใดเขาจะต้องปล่อยให้หลุดมือไปด้วยเล่า "ได้ตกลงตามนี้" "ตกลงตามนี้เจ้าคะท่านลุง" เมื่อตกลงจ้างวานสำเร็จ หรงหรงจึงให้ช่างไม้ฉู่ติดต่อสั่งซื้อกระเบื้อง อิ
ท่านลุงฉู่....ถือเป็นช่างไม้ฝีมือดีอันดับหนึ่งอีกหนึ่งคนของหมู่บ้าน เขาสามารถสร้างผลงานการออกแบบ รวมถึงการต่อเติมเรือนที่แข็งแรงและยังทนทาน ขนาดช่างฝีมือในระแวกใกล้เคียง ยังต้องมาขอเรียนรู้งานเพิ่มเติมจากช่างไม้ฉู่อยู่เป็นประจำ เรียกได้ว่าแถบจะทุกครัวเรือน ล้วนเป็นฝีมือของช่างไม้ฉู่ หากเอ่ยถึงช่างไม้ฝีมือดี คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักช่างไม้ฉู่.... คำเล่าลือถึงความสามารถของช่างไม้ฉู่ ไม่ใช่เฉพาะแต่การสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านเป็นเท่านี้ เขายังสามารถสร้างโต้ะกินข้าว เก้าอี้ โต้ะเครื่องแป้ง และอุปกรณ์ที่ทำจากไม้อีกหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับผู้จ้างวาน ขอเพียงมีแบบร่าง ช่างไม้ฉู่ก็สามารถทำออกมาได้ทั้งนั้น "อ้าว...นางหนู ลมอะไรหอบมา วันนี้ถึงได้มาหาลุงตั้งแต่เช้าเช่นนี้.....? ช่างไม้ฉู่กำลังนั่งลงประกอบโต้ะไม้ เขาพลันเหลือบไปเห็นหรงหรงเดินมาแต่ไกล ก่อนจะรีบเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะตั้งแต่มารดานางป่วย เขาก็ไม่ค่อยเห็นหน้าเด็กสาวคนนี้เลยสักครั้ง "สวัสดีตอนเช้าเจ้าคะ.... พอดีว่าข้าจะมาขอจ้างวานท่านลุง พอจะมีเวลาว่างให้ข้าสักประเดี๋ยว ได้หรือไม่เจ้าคะ.....? หรงเอ๋อร์รีบเข้าประเด็นทันที "ได้
"ข้าจะยอมบอกท่านก็ได้ ในอดีต...ข้าเคยมีคนรักและเพื่อนสนิทที่รักมากอยู่คนหนึ่ง แต่ถูกพวกเขาสองคนสวมเขาให้ข้า ข้าจึงยังไม่อยากเปิดใจคบกับใครอีกแล้ว....ท่านเลิกคิดเรื่องนี้ไปได้เลย..." หรงหรงพูดมาถึงตรงนี้ นางพลันมีสีหน้าที่เศร้าหมอง "หากข้าเป็นบุรุษผู้นั้น ข้าจักต้องดีต่อเจ้าอย่างแน่นอน ทุกคำที่ข้าพูดล้วนเป็นความจริง หรงเอ๋อร์...เจ้าจะให้โอกาสกับข้าได้หรือไม่...? สายตาที่โม่เฉินส่งออกไป ดูจริงจังกว่าทุกครั้ง "ไม่เอาหรอก มีท่านเป็นสามี ข้าคงได้อกแตกตายกันพอดี ข้ามิอยากจะไปสู้รบกับสตรีคนอื่นๆ เพียงเพราะใบหน้าที่งดงามของท่านหรอกนะ" "หน้าตาข้า...ดูคล้ายกับบุรุษมักมายพวกนั้นหรือกระไร....? "ไหน....ขอข้ามองดูแววตาท่านให้ชัดๆหน่อยสิ ว่าท่านกำลังพูดความจริง หรือว่าท่านกำลังโกหกข้าอยู่..." หัวคิ้วของหรงหรงขมวดเข้าหากัน นางขยับตัวลงไปนั่งใกล้ๆโม่เฉิน พลันคิดถึงเรื่องการรักษาเกี่ยวกับขาของโม่เฉินขึ้นมาอย่างกระทันหัน จึงทำให้นางหยุดนิ่งอยู่สักพัก "หรงเอ๋อร์ ว่าอย่างไร ดูพอหรือยัง......? โม่เฉินเรียกนางอยู่นาน แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับใดๆ ราวกับว่าเขากำลังคุยอยู่คนเดียว "หือ.....? หรงห
"เรื่องนี้รู้ไปถึงหูของท่านตา ทำให้ท่านตาขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก ส่วนท่านยาย พอได้ทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น นางถึงกับเป็นลมหมดสติไปหลายวัน ด้วยเกรงว่าตระกูลถังจะเสื่อมเสียชื่อเสียง ท่านตาจึงรีบปิดข่าว เพื่อไม่ให้คนภายนอกได้ล่วงรู้ และให้พ่อกับแม่แต่งงานกันโดยไม่ต้องจัดพิธีรีตอง แต่ท่านตายังถือว่ามีเมตตา ได้แบ่งทรัพย์สินเพื่อเป็นสินเดิมให้แม่ เอาไว้ใช้ในยามจำป็น แต่คนในตระกูลถังไม่ยินยอมให้แม่ใช้ชื่อแซ่เดิม น้ำเสียงส่วนใหญ่เห็นต่างไปจากท่านตา ท่านตาเองก็ทำอะไรมากไม่ได้ จึงได้ตัดสินใจ คัดชื่อแม่ออกจากรายชื่อวงศ์ตระกลู นับแต่นั้นเป็นต้นมา" "ปัดโธ้....คนในตระกลูช่างไม่ยุติธรรมกับท่านแม่เลยนะเจ้าค่ะ...? หรงหรงเมื่อได้ฟังดังนั้น นางก็เริ่มโมโหขึ้นมา "หรงเอ๋อร์ พ่อเจ้าดีกับแม่เป็นอย่างมาก เขาได้เปลี่ยนชื่อแซ่ให้แม่ในภายหลัง แต่หลังจากแม่ย้ายออกมาอยู่กับพ่อเจ้าได้ไม่นาน แม่เฒ่าอิ๋นก็เริ่มใช้สินเดิมของแม่ไปจนหมดสิ้นอย่างไม่เกรงใจ พ่อเจ้าจึงทนดูไม่ได้ เลยขอแยกเรือนออกมาใช้ชีวิตตามลำพังสองผัวเมีย ท่านปู่เจ้า..เห็นว่าแม่เฒ่าอิ๋นใช้สินเดิมแม่ไปจนหมดสิ้น จึงได้แอบยกเงินส่วนตัวจำนวนก้อนหนึ่ง เ



![[Unlimited Money] ระบบเงินทุนไร้ขีดจำกัด](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)







