"พี่มาร์ว่ายังไงบ้างคะ โอเคหรือเปล่ากับเวทีนี้" เสียงวีนัสเอ่ยถามรุ่นพี่สาวขึ้นด้วยน้ำเสียงเกรงใจ
"โอเคเลยนะ พี่ว่ามันก็...ใช้ได้เลย" ใบหน้าสวยเฉี่ยวตอบกลับ
"ถ้างั้น เดี๋ยวอีกสองสามวัน เรามาคุยกันอีกทีเรื่องรายละเอียดต่าง ๆ ดีไหมคะ พี่มาร์ได้บทที่วีส่งให้ทางไลน์แล้วใช่ไหม"
"ได้แล้วจ้ะ งั้นเดี๋ยวอีกสองสามวัน พี่มาคุยอีกทีก็ได้ หรือจะเริ่มซ้อมเลยก็ได้นะ พี่อ่าน ๆ บทดูแล้ว ไม่ยากเลย"
"อุ๊ยพี่มาร์ ใจดีมาก ๆ เลย ขอบคุณนะคะ"
"ไม่เป็นไรจ้า ช่วย ๆ กันนะ พี่ก็เคยผ่านมาก่อน เข้าใจพวกเราเลยแหละ ช่วงนี้น่าจะเหนื่อยเอาเรื่องเลยใช่ไหม"
"ใช่เลยค่ะพี่มาร์ เหนื่อยมากกก ฮ่า ๆ" วีนัสยืนยิ้มพูดคุยอยู่กับรุ่นพี่สาวก่อนที่เสียงโทรศัพท์ของมาร์จะดังขึ้น ใบหน้าเรียวสวยจึงก้มลงไปมอง
"งั้นเดี๋ยวพี่ขอตัวกลับก่อนนะ" มาร์เอ่ยบอกรุ่นน้องทั้งสามขึ้น
"ให้พวกวีเดินไปส่งไหมคะ"
"ไม่ต้องหรอก แค่นี้เอง ไว้เจอกันอีกสองสามวันนะ"
"ค่ะ" วีนัสพยักหน้าตอบกลับ ตามด้วยปลายฟ้ากับไลลาที่ก้มผงกหัวตอบรุ่นพี่คนสวยด้วยรอยยิ้มหวานเป็นมิตร มาร์เองก็ยิ้มตอบทั้งสามกลับก่อนจะสาวเท้าเดินกลับไปยังรถหรูที่จอดอยู่ไม่ไกล โดยทันทีที่มาร์เดินออกไป
ขวับ!
"อะไรยังไง เธอไปดึงตัวพี่มาร์มาได้ยังไง ไหนพูด!" ปลายฟ้าหันถามวีนัสขึ้นทันทีด้วยความอยากรู้สุดขีด เพราะมาร์ถือเป็นสิ่งที่เกินคาดสำหรับปลายฟ้าไปมาก ๆ เนื่องจากมาร์นั้นเป็นนักแสดงสาวที่กำลังมีชื่อเสียงในระดับหนึ่งอยู่ในตอนนี้
"ก็ไม่มีอะไร พี่มาร์เขาสนิทกับอาจารย์แบม ฉันก็เลยแกล้งเสนอขอให้อาจารย์แบมลองชวนพี่มาร์มาแสดงบทนำละครเวทีเราดู แต่ดันโชคดีที่พี่มาร์เขาสนใจอยากช่วยพอดี เลยได้คิวพี่เขามาแบบงง ๆ แล้วคือพี่เขาใจดีมากกกก แบบมาก ๆ เลย" วีนัสอธิบาย
"จริง คือพี่เขาพูดดีมาก แล้วดูใจดีมาก ๆ" ปลายฟ้าเอ่ย
"ใช่ แถมยังสวยมาก ๆ ด้วย" ไลลายิ้มพูดเสริมออกมาด้วยรอยยิ้มตาหยี แต่แล้วก็ต้องชะงักไป
"ว่าแต่ เธอรู้จักกับพี่ผู้ชายที่มากับพี่มาร์หรือเปล่า" เสียงปลายฟ้าหันมองหน้าถามไลลาขึ้น
"ฮ ฮะ" คนตัวเล็กขานกลับด้วยสีหน้าที่แปลกไปจากทุกครั้ง
"ฉันเห็นเธอมองหน้าพี่เขาแล้วดูมีท่าทีแปลก ๆ ตลอดเลย"
"มะ ไม่นี่ เราไม่ได้รู้จักอะไรกับพี่เขา" ร่างบางเลือกที่จะไม่บอกความจริงเพื่อนทั้งสองไปอย่างไม่อยากจะพูดถึงเหตุการณ์ไร้สติในตอนนั้นของตัวเอง ไปสารภาพรักคนไร้หัวใจไม่พอแถมยังไปเสียจูบแรกให้เขาอีกแถมเป็นจูบแรกที่ทำเอาอีกคนโกรธจนแทบหักกระดูกเธอทิ้ง...
เฮ้อ
ไลลาได้แต่แอบลอบถอนหายใจขึ้นภายในใจไปกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้
"ไลลาจะไปรู้จักกับพี่คามิลได้ยังไง" วีเอ่ยพูดขึ้น
"คามิล?" ปลายฟ้าหันทวนถามเพื่อน
"อืม ชื่อพี่ผู้ชายคนนั้นไง เขาชื่อพี่คามิล เรียนอยู่คณะแพทยศาสตร์ปีห้า มหา’ลัยเรา"
"เรียนแพทย์ มหา’ลัยเรางั้นเหรอ" ไลลาเผลอมองหน้าถามวีนัสไปด้วยสีหน้าสงสัย
"อืม ไม่เคยเห็นพี่เขากันใช่ไหมล่ะ..." วีนัสยิ้มก่อนจะพูดออกมา
"...จะเห็นได้ไง พอเราเข้ามาปีหนึ่ง พี่เขาก็เริ่มออกไปเรียนที่โรงพยาบาลแล้ว"
"อ่อ แบบนี้นี่เอง ว่าแต่ทำไม...เธอรู้เรื่องพี่เขาเยอะจัง" ปลายฟ้าถามเพื่อน
"ก็พอรู้บ้างแหละ แต่ก็ไม่เยอะแยะอะไรหรอก" วีนัสตอบ
"งั้นที่พี่มาร์มาด้วยกันกับพี่เขาก็คือ...เขาเป็นแฟนกัน?" ปลายฟ้าถาม ไลลาที่ได้ยินแบบนั้นก็ยืนนิ่งฟังคำตอบอยู่เงียบ ๆ
"เรื่องสถานะของพวกเขา ฉันก็ไม่รู้นะว่าเป็นแฟนกันไหม เพราะไม่เคยเห็นพวกเขาพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็คง...แฟนกันแหละมั้ง ไม่ใช่แฟนจะมารับมาส่งกันแบบนี้เหรอ" วีนัสเอ่ย ซึ่งทันทีที่วีนัสพูดจบ ร่างบางที่ยืนฟังอยู่ก็นิ่งคิดตามคำพูดของเพื่อน มันก็จริงอย่างที่วีนัสบอกทุกอย่าง ถ้าไม่ใช่แฟน...จะมารับมาส่งตัวติดกันขนาดนี้ได้ยังไง
"ไลลา เป็นอะไรหรือเปล่า" เสียงปลายฟ้าเอ่ยเรียกเพื่อนตัวเล็กขึ้น
"อ อ่อ เปล่าหรอก ว่าแต่เราก็ไม่ต้องหาใครมาแล้วใช่ไหม" ดวงตากลมโตมองหน้าเอ่ยถามเพื่อน
"ไม่ต้องแล้วแหละ แค่ได้พี่มาร์มาคนเดียวทุกอย่างก็น่าจะเอาอยู่หมดแล้ว" วีนัสยิ้มบอกด้วยสีหน้ารู้สึกพอใจเป็นที่สุดที่ผลงานของตัวเองจะมีนักแสดงชั้นดีแบบรุ่นพี่สาวเข้ามาช่วยแสดงให้
"โอเค" ไลลาก็ยิ้มตอบกลับเพื่อนไปด้วยรอยยิ้มหวานสดใสพยายามเลิกสนใจอดีตที่ตัวเองเคยทำไว้
มันผ่านไปแล้ว...
ตอนนี้รุ่นพี่เย็นชาคนนั้นก็ได้มีเจ้าของหัวใจแล้ว เธอควรจะเลิกสนใจเขาแล้วสนใจแต่งานที่ตัวเองได้รับมอบหมายให้ทำเพื่อให้งานออกมาให้ดีที่สุดต่างหาก
"...เริ่มเลย" ทันทีที่เรียวปากหนาพูดจบ มือบางก็จัดการผลักร่างแกร่งของสามีให้ล้มลงนอนบนเตียงขนาดใหญ่ก่อนที่เธอจะรีบกระโดดเข้าไปขึ้นคร่อมร่างหนา ไม่รอช้าที่จะก้มลงไปซุกไซ้เข้าที่ซอกคอสามีพร้อมทั้งใช้มือที่ว่างอยู่จัดการถอดเสื้อผ้าของคนใต้ร่างออก คามิลที่นอนมองการกระทำของหญิงสาวก็อดที่จะรู้สึกวูบวาบพอใจไม่ได้ เพราะไลลาไม่เคยแสดงความร้อนแรงแบบนี้ใส่เขามาก่อน พอได้เห็นภรรยาตัวเล็กที่หน้าตาไม่ต่างจากบาร์บี้มีชีวิตทำ ความพลุ่งพล่านก็ปะทุอยู่ในร่างกายของหมอมาเฟียอย่างไม่น่าเชื่อลิ้นเล็กสอดแทรกเข้ามายังปากหนาของสามีตัวสูงพร้อมกับซุกซนจนคนที่นอนอยู่ทนไม่ไหวต้องจูบตอบกลับด้วยความเร่าร้อนหนักหน่วง"อื้อออ~" ทั้งสองต่างแลกลิ้นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่ไลลาจะรู้สึกได้ความแข็งตึงจากอะไรบางอย่างที่เธอกำลังนั่งทับอยู่ตรงนั้นของเขายังคงไวต่อความรู้สึกเหมือนเคย..."ถอดกางเกงให้พี่หน่อย" เจ้าของใบหน้าหล่อเอ่ยบอกภรรยาน้ำเสียงกระเส่า ซึ่งมือเล็กก็ทำตามอย่างที่พ่อของลูกบอกทันที โดยขณะที่หญิงสาวกำลังใช้มือถอดกางเกงที่อีกคนสวมใส่อยู่ มือหนาของอีกคนที่นอนอยู่ก็เคลื่อนเข้ามาลูบยังหน้าท้องแบนราบของร่างเล็ก
@อิตาลีครืดดด ~เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ไม่ไกลดังขึ้นทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อที่เพิ่งกลับมาจากการประชุมงานเดินเข้าไปหยิบขึ้นมากดรับสายติ้ด(ไงคะพี่คามิล เลี้ยงลูกได้ไหม) เสียงหวานจากปลายสายเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง หลังจากตกลงกันว่าคามิลจะพาไลลากับลูกน้อยมาคุยงานด้วยที่อิตาลีเพื่อเป็นการพักผ่อนไปด้วยในตัว วันนี้คนตัวสูงจึงปล่อยให้แม่ของลูกได้ออกไปเที่ยวเล่นช็อปปิงตามประสา โดยมีเขาเป็นคนอาสาที่จะเลี้ยงลูกน้อยแทนเอง"เลี้ยงได้" เจ้าของใบหน้าหล่อเอ่ยพร้อมกับอุ้มลูกน้อยวัยทารกที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่กี่เดือนขึ้นมาอุ้มไว้แนบอกแกร่ง(จริงนะ ให้ไลลารีบกลับไปช่วยดูไหม)"ไม่เป็นไร หาความสุขใส่ตัวไปเถอะ เรื่องลูกไม่ต้องห่วง พี่เลี้ยงได้" เรียวปากหนากรอกเสียงบอกปลายสาย(โอเค แต่ถ้ามีอะไรหรือเลี้ยงไม่ไหว โทรหาไลลาได้ตลอดเลยนะคะ)"อืม"(งั้นไลลาขอไปช็อปปิงต่อก่อนน้าาา~)"..." ร่างสูงเผลอยิ้มออกมากับเสียงใสที่ยังคงสดใสอยู่ตลอดเวลาของภรรยา นิ้วแกร่งกดตัดสายไปก่อนจะก้มลงเล่นกับลูกชายตัวเองที่นอนกินนมอยู่บนอ้อมแขนหนาของเขาเด็กน้อยนอนมองหน้าคนเป็นพ่อตาใสไม่รู้เรื่องพร้อมกับปากที่ยังคงดูดกินขวดนมอย่าง
หนึ่งปีผ่านไป...ตึกตึกเสียงสองเท้าหนักของหมอหนุ่มในชุดสูทสุขุมเดินตรงออกไปจากบริเวณคลินิกของตัวเองด้วยสีหน้าเรียบนิ่งท่ามกลางเหล่าพยาบาล พนักงานในคลินิกที่ต่างผงกหัวทักทายเจ้านายสุดหล่อเจ้าของใบหน้าเย็นชา ทว่าในตอนนั้นเองครืดดด ~ โทรศัพท์ราคาแพงของร่างสูงดังขึ้นขณะที่เขากำลังเดินอยู่ทำให้ดวงตาคมก้มลงไปมองธนาติ้ด"อืม"(คุณคามิลครับ จะแวะเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยเลยไหมครับ)"อืม เดี๋ยวเข้าไป"(ครับ) หลังจากที่คุยกับลูกน้องคนสนิทเสร็จ หมอหนุ่มก็ไม่รอช้าที่จะเดินตรงไปยังรถสปอร์ตราคาแพงของตัวเองขับเคลื่อนออกไปด้วยความรวดเร็วเอี๊ยด!ไม่นานสปอร์ตสีเทาดำคันใหม่ที่เพิ่งถอยออกมาได้ไม่นานก็ถูกขับเข้ามาจอดยังบริเวณใต้ตึกอาคารขนาดใหญ่พร้อมกับมีเหล่าการ์ดมากมายที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตูรีบก้มหัวทักทายแก่เจ้านายตัวสูงที่เพิ่งมาถึง"สวัสดีครับคุณคามิล" เสียงธนาเดินเข้ามาทักทายเจ้านายอีกครั้ง"..." คามิลก็พยักหน้ารับรู้ใช้มือหนาเลื่อนลงไปติดกระดุมเสื้อสูทของตัวเองด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเดินตรงเข้าไปยังด้านในตึกอาคารขนาดใหญ่ที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจของเขา ทว่าธุรกิจนี้มันไม่ได้ใสสะอาดอย่างที่หลายคนรู
สองเดือนผ่านไป..."มึนหัวจัง..." เสียงหวานของร่างเล็กพึมพำออกมาขณะที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ภายในห้องครัวขนาดใหญ่ ไลลามีสีหน้าที่รู้สึกไม่ดีบอกไม่ถูกกับอาการบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ภายในร่างกายของตัวเอง ช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ หญิงสาวมักจะมีอาการมึนหัว รวมถึง..."ทำไมวันนี้กลิ่นอาหารไม่ค่อยดีเลย" เรียวปากบางอมชมพูเอ่ยก่อนจะรู้สึกทนไม่ไหวรีบสาวเท้าเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลเพื่อที่จะอาเจียนออกมาด้วยสีหน้าซีดเซียวหมดแรง"ปะ...เป็นอะไรไปเนี่ย" เจ้าของใบหน้าเรียวใสเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกไม่ดี ทว่าในตอนนั้นเอง"ลลิดา" เสียงทุ้มคุ้นเคยของใครบางคนดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กพยายามทำตัวเป็นปกติพยุงร่างไร้เรี่ยวแรงของตัวเองลุกขึ้นปรับสีหน้าให้ดูยิ้มแย้มอย่างเคยเดินออกจากห้องน้ำคอนโดหรู"กลับมาแล้วเหรอคะ" ร่างบางเดินยิ้มหวานเข้าไปเอ่ยถามยังสามีป้ายแดงของเธอหลังจากที่แต่งงานกันมาได้เข้าเดือนที่สอง"อืม พี่เข้ามาเห็นแก๊สเปิดอยู่แต่ไม่เจอเธอเลยเรียกหาดู""ไลลาอยากเข้าห้องน้ำกะทันหันน่ะค่ะ""..." คามิลพยักหน้ารับรู้พร้อมกับมองหน้าภรรยาตัวเล็กนิ่ง"พะ พี่คามิลมีอะไรหรือเปล่า""ทำไมวันนี้หน้าซีด ๆ " เจ
หนึ่งเดือนต่อมา...หมับ!เสียงมือเล็กแอบย่องเข้าไปสวมกอดเข้าที่เอวหนาของแฟนหนุ่มรุ่นพี่ที่กำลังยืนทำอาหารเช้าอยู่ด้วยรอยยิ้มหวานสดใส"เอ๊ะโอ~ วันนี้คุณพ่อบ้านทำอะไรให้หมูน้อยทานคะ" เรียวปากบางอมชมพูเอ่ยถาม"ข้าวผัดปูกับไข่เจียวหมูสับ""ว้าว รู้ใจจังเลย รู้ได้ไงคะว่าไลลาอยากกิน""เธอละเมองอแงใส่พี่มั้ง" เจ้าของใบหน้าหล่อตอบกลับอย่างประชดใส่คนตัวเล็ก เพราะเมื่อคืนก่อนนอน ร่างบางเอาแต่พูดกรอกหูเขาว่าอยากจะกินข้าวผัดปูกับไข่เจียวหมูสับ"ชิ!" คนตัวเล็กทำหน้ายู่ออกมาพร้อมกับผละมือเล็กออกจากเอวแกร่ง เดินตรงเข้าไปยังบริเวณที่มีแซนด์วิชหน้าตาน่ากินวางอยู่ มือบางไม่รอช้าที่จะหยิบแซนด์วิชนั้นขึ้นมากัดกินด้วยสีหน้ามีความสุข คามิลที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ก็ได้แต่ลอบยิ้มออกมากับความน่ารักของแฟนตัวเล็กที่ทุกครั้งไม่ว่าจะกินอะไรก็จะยิ้มหวานตาหยีมีความสุขอยู่ตลอด รวมถึงแซนด์วิชที่เขาตั้งใจทำไว้เพื่อให้คนตัวเล็กได้หยิบกินระหว่างรออาหารหลักจากเขาอยู่ใช้เวลาไม่นาน นักศึกษาแพทย์หนุ่มก็ทำอาหารทุกอย่างเสร็จนำลงไปใส่จานเดินเข้าไปวางไว้ให้ร่างเล็กอย่างที่มักจะทำให้อยู่เป็นประจำ ทว่า..."ทำไมวันนี้เสื้อถึงได้รัด
@โรงแรมเมื่อกินอาหารเสร็จ ทุกคนก็ต่างพากันแยกย้ายกลับมายังห้องพักของตัวเอง โดยไลลาเองก็รีบเดินเข้าไปจัดการอาบน้ำชำระล้างความเหนียวตัวอยู่พอสมควรจากอากาศร้อนที่อบอ้าวอยู่ไม่น้อย ซึ่งใช้เวลาไม่นาน สองเท้าเล็กก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าท่าทีสบายตัวในชุดนอนสีหวานตัวเก่ง ทว่าเดินออกมาได้ไม่นาน ดวงตากลมโตก็ต้องชะงักไปหลังจากที่เหลือบไปเห็นแฟนหนุ่มร่างสูงกำลังนั่งไขว่ห้างจ้องมองหน้าเธอนิ่ง สวมใส่เพียงแค่กางเกงสแล็กส์สีดำเผยให้เห็นหน้าท้องกำยำไร้สิ่งปกปิด"พี่คามิล ถอดเสื้อทำไมคะ แอร์เย็นนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก" เรียวปากเล็กเอ่ยถามขึ้นอย่างคนไม่รู้เรื่องในเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ร่างเล็กสาวเท้าเดินตรงเข้าไปยังบริเวณโต๊ะเครื่องแป้งหมายจะทาครีมราคาแพงลงบนใบหน้าใส แต่แล้วก็ต้องถูกมือหนาของคนที่นั่งอยู่เอื้อมเข้าไปคว้าร่างเล็กเข้าหาตัว"อ๊ะ...อะไรคะเนี่ย" ดวงตากลมโตมองหน้าถามแฟนตัวสูงขึ้นสีหน้างุนงงสงสัย"ลืมจริง หรือแกล้งเนียน""คะ?" ไลลาถามด้วยสีหน้าไม่เข้าใจกว่าเดิม เพราะวันนี้เธอมัวแต่มีความสุขไปกับการกิน การทำนั่นทำนี่ จนลืมบางอย่างไปเสียสนิท"ลืมจริงสินะ" คามิลเอ่ยพึมพำขึ้น