로그인ผู้หญิงที่ทำให้เขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจมีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ใกล้ชิดจนเกินห้ามใจ เพื่อนอะไร มานอนด้วยกันทุกคืน
더 보기“มึงว่ากูสวยยังวะ”
“อืม”
“ไอ้สัว กูจริงจังนะ อย่าทำเป็นเล่นได้ปะ”
“กูเล่นเกมอยู่ไม่เห็นเหรอ”
“ก็ช่วยมองสักหน่อยไม่ได้หรือไง”
“หึ”
ฉันถอนหายใจแล้วมองเพื่อนสนิทด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย นอกจากเป็นภาระเวลาเมาแล้วก็ยังหาประโยชน์จากมันไม่ได้สักอย่าง สรุปก็ไม่มีอะไรดีเลยนั่นแหละ
เจ้าสัว มีพ่อเป็นมาเฟียส่วนตัวมันเป็นนักเลง ทำตัวทรงอย่างแบด ทำผู้หญิงแซดไปทั่ว ไม่ว่าคณะไหนก็กวาดมาหมดแล้ว
“อยากดูหนังไม่บอกกูวะ เสื้อยืดกางเกงยีนกูก็พามึงไปดูได้ละ แต่งซะ กูก็นึกว่าไปกินเลี้ยงโต๊ะจีน” อยากฟาดหัวให้แตก
“ลำบากเพราะผู้ชาย มันได้เสมอ”
“กับกูไม่แบบนี้บ้างวะ”
“ก็ปากมึงแบบนี้ไง ไปละ กลับเมื่อไหร่ก็ปิดไฟ ปิดแอร์ให้เรียบร้อยด้วยนะ”
“กูจะนอนนี่ กลับกี่โมงจะรอกินข้าวด้วย” ไอ้มาร ทะเลาะกับใครอีกคราวนี้ถึงได้หนีมานอนห้องฉันอีก
“หากินเองไปก่อนเลย ไม่รู้เหมือนกัน”
“รอ” ความหน้าด้านและหน้ามึนของเจ้าสัวทำให้ฉันเหนื่อยใจทุกครั้ง
“สัว อย่ากดดันได้ปะ”
“กูเปล่ากดดัน”
ร้านเหล้า โซนD
“ไปต่อกันมั้ย พี่เลี้ยงเอง” เจ้าของเสียงนุ่มตรงหน้าคือรุ่นพี่วิศวะปี4ที่เข้ามาจีบฉัน เราสองคนตกลงออกเดตกัน หลังจากดูหนังเสร็จก็มาต่อร้านเหล้านั่งชิลล์
“ไม่ดีกว่าค่ะพรุ่งนี้เกี๊ยวมีเรียนเช้า” พี่บอมคือตัวท็อปของปี4 ส่วนฉัน เกี๊ยวซ่า ปีสามรองท๊อปจากมีนาเพื่อนรักที่ย้ายไปอยู่เมือนนอกอย่างถาวรเรียบร้อย
“แน่ใจ”
“กลับดึกมากมั้ยคะ”
“สัญญาว่าไม่ดึกแน่นอน” ฉันเขินไปหมดเวลาถูกมอง รู้ทั้งรู้ว่าเขาเจ้าชู้และทำตัวแบดแค่ไหนก็ยังชอบแล้วก็พาตัวเองเข้ามาใกล้
พี่บอมพามาต่อที่ผับของเพื่อน ความรวยของแต่ละคนธรรมดาที่ไหน
“หมดแก้วได้มั้ย จิบๆ แบบนี้เมื่อไหร่จะสนุกสักที”
“เฮ้ยเกี๊ยว หน้าแดงแล้วนะ” พี่บอมหันไปมองเจ้าของเสียงด้วยท่าทางไม่พอใจ
“มีผับไหนบ้างที่ไม่เคยไป” ไม่คิดว่าจะเจอออสตินที่นี่แต่ก็ไม่แปลกใจเพราะไอ้นี่ไม่เคยอยู่ติดห้อง
“ไม่มี แล้วสัวไม่มาเหรอ” ออสตินเข้ามาขัดจังหวะการดื่มของฉันกับพี่บอม มันแทรกตัวลงนั่งเก้าอี้ตัวว่างโดยไม่สนใจเลยว่าฉันมากับใคร
“ไม่มา อยู่ห้องไม่รู้ไปทะเลาะกับใครมาอีก”
“เหรอ แล้วนี่จะกลับยัง”
“ยังครับ ถ้ากลับพี่ไปส่งเอง เลิกยุ่งได้แล้วครับ เพื่อนก็อยู่ส่วนเพื่อน” กำลังจะอ้าปากพี่บอมก็สวนกลับออสตินทันที ฉันคิดว่าพี่บอมคงเมาแล้วก็เลยเสียมารยาทตอบแบบนั้นออกไป ที่จริงเขาไม่ได้เน้นมารยาทหรอก พี่บอมก็แค่หวังเคลมฉันคืนนี้เท่านั้นแต่ถูกขัดจังหวะโดยออสตินก็เลยหัวร้อน
“ไม่ได้ยุ่ง ก็แค่เป็นห่วง เพื่อน กับผู้ชายที่เพิ่งรู้จัก แบบไหนมันน่าไว้ใจกว่ากันวะเกี๊ยว”
“ใจเย็นออสติน”
“นี่ไม่เคยใจร้อนก่อนนะ”
“น้องเกี๊ยว กลับกับพี่ครับ เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง” ฉันมองผู้ชายสองคนแล้วเครียด อีออสตินอยู่ๆ ก็โผล่มาส่วนพี่บอมพอเริ่มเมาแล้วก็กร่าง แล้วฉันจะเลือกใครดีล่ะ รู้สึกสวยจัง
“ออสติน” พอฉันเรียกชื่อมันก็ถอนหายใจกระแทกแก้วลงบนโต๊ะทันที
“อยากโดนไอ้เหี้ยนี่ฟันแล้วทิ้งก็ตามใจ”
“อีออสติน” ฉันเรียกชื่อมันเสียงดัง
“พูดเรื่องจริง มึงก็รู้ไอ้นี่มันธรรมดาที่ไหน”
“น้อง เบียร์ชวดนึง” ให้ตายสิ อีเพื่อนพวกนี้ อยู่ๆ เจ้าสัวก็โผล่มาแล้วสั่งเบียร์นั่งดื่มข้างๆ ฉัน
“อะไรกันวะ “มันถามหน้าตาเฉยแล้วกระดกเบียร์ทีเดียวครึ่งขวด
“กูเบื่อ เคลียร์เอง” ออสตินเดินหนีออกไปเมื่อเจ้าสัวมาถึง
“มาทำไม”
“กูหิวข้าว เมื่อไหร่จะกลับ” ฉันกำลังจะหันไปหาพี่บอมที่ยืนอยู่ข้างๆ แต่กลับไม่เห็นแล้ว
“อ้าว”
“มันไปไหนต่อไหนไปแล้ว เฮ้อ”
“เพราะพวกมึงไง”
“ไม่ใช่ว่าเพราะพวกกูเหรอวะ ที่ทำให้มึงเห็นสันดานไอ้นั่น จะเอาภาพจากกล้องวงจรปิดมั้ยว่ามันไปกับใคร” ฉันถอนหายใจแล้วมองบน ก็ไม่ใช่เพราะพวกมันเหรอที่ทำให้พี่บอมหนีไปกับคนอื่น
ขอล่ะ ให้กูได้ฉายเดี่ยวบ้างกูอยากมีแฟน
_______________
“สวัสดีค่ะพี่แจ็ค”ระหว่างที่ฉันอาบน้ำอยู่คนข้างนอกก็เริ่มก่อกวนด้วยการเปิดรายการเดอะโกสย้อนหลังเสียงดัง เรื่องกวนตีนไม่มีใครเกิน ฉันรีบอาบน้ำด้วยความเร็ว แต่ปกติก็เร็วอยู่แล้วเรียกว่าวิ่งผ่านน้ำน่าจะถูกพอก้าวออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าคนบนเตียงนอนหลับตาไปแล้ว โล่งอก มันควรหมดฤทธิ์ได้ตั้งนานแล้วเรื่องที่มันเปิดฟังคือท็อปของเดอะโกสเลย ฟังแล้วขนลุก ใครไม่กลัวผีแต่ฉันกลัวแล้วที่นี่ก็โรงพยาบาลด้วย ผีเยอะ“สัว”ลองเชิงเรียกชื่อก่อน ไม่มีเสียงตอบรับ สงสัยจะหลับจริง ฉันควรไปปิดเสียงนั่นให้เงียบสักที ถ้าถึงจุดไคล์แม็กคิดว่าน่าจะประสาทหลอน นึกภาพตาม คราวนี้ล่ะ ข่มตาไม่ลงอีกหมับ!“ทำอะไร” พอยื่นมือไปหยิบมือถือที่อยู่บนตัวมันก็ลืมตาขึ้นมาแล้วคว้าข้อมือฉันไว้แน่นทันที“นอนได้แล้วมั้ง”“ยังฟังอยู่ จะนอนก็นอนไปสิ”“งั้นก็ปล่อย จะได้ไปนอน” ปากไล่แต่มือไม่ปล่อย“ถ้ากลัวก็มานอนบนเตียงด้วยกันได้นะ”“ไม่เอา กลัวเผลอกระชากสายน้ำเกลือหลุดเลือดสาด” ฉันพูดทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้นและสะบัดแขนตัวเองให้ออกจากการเกาะกุมทันที“ปากแซ่บจังวะ”ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังข่มตาไม่ลงอยู่ดี ไม่มีอะไรอุดหูได้เลย จะลงไปซื้อหูฟังใหม่ก
“เกลียดมึงชิบ”“อย่าบ่น หยิบหมวกให้หน่อย ใส่ให้ด้วย” ก็นึกว่าให้มานั่งดูสวยๆ นี่ไม่ต่างจากคนใช้เลย ใช้หยิบนั่นหยิบนี่จนเหนื่อย“เหนื่อย”“กับกูมึงบ่นเหนื่อย ทีคนอื่น” ทำเป็นพูดลอยๆ ไม่กล้าสบตา“ใคร ใคร ไหนใคร”“กูจะแข่งแล้ว เดี๋ยวออสตินก็มา”“เออ” ฉันกระแทกเสียงใส่ ทำได้แค่นี้แหละเพราะสัวมันใกล้หูหนวกแล้วฉันยืนรอออสติน สักพักก็ได้มานั่งข้างสนาม อากาศไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่เพราะตะวันตกดินแล้ว“น้ำมั้ย ขนมก็มี” ออสตินยื่นน้ำเปล่าให้“อือ ก็ดี แค่น้ำพอขนมไม่เอา คนอื่นล่ะ”“เดี๋ยวตามมา” ฉันพยักหน้าแล้วยื่นมือไปรับขวดน้ำรถของเจ้าสัวอยู่ที่จุดออกสตาร์ทแล้วเรียบร้อย ผู้ชายกับความเร็วเป็นของคู่กันจริงๆ“เห็นคันสีดำข้างๆ นั่นไหม”“อืม ทำไมเหรอ” ออสตินชี้ให้ฉันดูรถคันสีดำที่จอดข้างๆ กับคันของเจ้าสัว“ไอ้นั่นมันท้าไอ้สัว” อ่อ แบบนี้นี่เอง“ท้าเพื่อ? หาเรื่องกันอีกแล้วถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง”“ไปด่าไอ้สัวนู่น นี่ไม่เกี่ยว” หาเรื่องกันอีกแล้ว คิดไว้แล้วเชียวว่าต้องมีอะไรแน่ๆ“เออ ด่าแน่” ลึกๆ แล้วฉันเป็นห่วงไม่น้อย คนอย่างเจ้าสัวไม่ชอบถูกท้าทายแล้วก็จะไม่ยอมเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แน่นอนฉันกลัวจังเลย กลั
“คุณ ช่วยฉันด้วย” เขาใส่ชุดมอปลายสวมแว่นดำ นอกเรื่องหน่อย หล่อฉิบหายเลย“วิ่งตัดหน้ารถแล้วยังมาขอให้ช่วยอีกเนี่ยนะ”“ฉันหนีพวกนั้นมา” ชี้นิ้วไปที่กลุ่มผู้ชายห้าหกคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม “มันจะข่มขืนฉัน” คราวนี้ฉันไม่อาจกลั้นน้ำตาถ้าเกิดฉันหนีออกมาไม่ได้ แทบไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น“ให้ตายสิ ระยำ” เขารีบเปิดประตูออกมาก้าวลงจากรถโดยไม่สนใจเลยว่าฉันกำลังเซพร้อมจะล้มเพราะโดนแรงกระแทกจากประตู ไอ้ห่าเอ๊ย หล่อแต่ช่วยระวังหน่อยเถอะโอเค ไม่เป็นไรเพราะเขายอมลงมาช่วยฉัน "ขอบคุณนะ ที่ช่วย”“เธอทำรถฉันเปื้อน” ฉันก้มมองตัวเองที่ตัวมีรอยน้ำซุปข้าวมันไก่ มันคงหกเลอะตอนชุลมุนวิ่งหนีพวกนั้น“เดี๋ยวฉันล้างให้” เขาถอดแว่นกันแดดออกแล้วหันไปมองกลุ่มคนเลวที่วิ่งตามฉันมาด้วยสายตาเอาเรื่อง“เธอบอกว่าหนีไอ้พวกนั้นมาอยู่ใช่มั้ย”“ชะ ใช่”“ขึ้นรถ”“ฮะ แต่ว่า” แก เมื่อกี้เขายังมองแรงเรื่องที่ฉันทำรถเปื้อนอยู่เลย อยู่ๆ มาชวนขึ้นรถ“ก็บอกให้ขึ้นรถไง”“โอเค โอเค”พอขึ้นรถได้เขาก็รีบรถออกจากตรงนั้นทันที นายคนนี้ต้องบ้านรวยมากขั้นสุด อยู่แค่มอปลายแต่มีรถหลักสิบล้านขับนี่ไม่ธรรมดา“จะให้ไปส่งไหน บ้านหรือว่าสถา
ที่จริงฉันไม่ได้เรียนคณะเดียวกับพวกนั้นหรอก เพราะความบังเอิญมากกว่าที่ทำให้เราสนิทกัน เหตุการณ์วันนั้นทำฉันจำไม่ลืมเกี๊ยวซ่า ม.5เหตุการณ์หลายปีก่อน“ไปก่อนนะป๊า”“รีบไปรีบกลับนะ” ฉันอาสาไปส่งข้าวมันไก่กับบะหมี่เกี๊ยวให้ป๊าเพราะเด็กในร้านยุ่งกันหมดบ้านฉันก็ทำธุรกิจนะจะบอกให้ ป๊าม๊าสืบทอดกิจการต่อจากอาม่า ขายข้าวมันไก่กับบะหมี่เกี๊ยว ขายดีทุกวันคิวยาวเป็นกิโล แล้วตอนนี้กระแสโซเชียลก็แรงด้วย มีรายการมาถ่ายไม่เว้นวัน ถึงไม่ได้รวยเท่าไอ้พวกนั้นก็เทียบๆ นั่นแหละ“ค่าป๊า” ฉันขับมอเตอร์ไซต์มาตามแผนที่ ทางเริ่มเปลี่ยวแล้วก็แคบลงเรื่อยๆ“บ่อนเหรอวะเนี่ย” ถ้ารู้จะไม่มาเลยฉันขับเข้าไปเรื่อยๆ พอถึงด้านหน้าทางเข้าก็บอกพี่ยามตรงป้อมว่ามาส่งข้าวให้ลูกค้าด้านในขับผ่านกลุ่มรถหรูกลุ่มหนึ่ง น่าจะเป็นลูกค้าวีไอพี“มึงไม่มีเหรอ”“ผมตาย พี่ก็จะไม่ได้เงินนะ”“ถ้ามึงตายทั้งบ้าน รถ ที่ดินที่เป็นชื่อมึง นายกูทำได้ทั้งนั้น”ปึก!ฉันสะดุ้งเฮือกแล้วรีบขับรถต่อไป ระยะทางจากป้อมยามด้านหน้าเข้ามาก็ไกลเสียเหลือเกินพอมั่นใจว่าห่างคนพวกนั้นมาพอสมควรแล้วก็รีบโทรหาลูกค้าทันที“ฮัลโหล เอาข้าวมาส่งค่ะ ฮะ อะไรนะ ให้เข้
“อร่อย มึงไม่กินเหรอ”“มึงนี่มันจริงๆ เลยนะ ที่อีออสตินโผล่ไปไม่ใช่บังเอิญใช่มะ”“มึงก็รู้ไอ้ออสตินมันเที่ยวทุกวัน”“บังเอิญไปปะ”ออสตินคือเพื่อนในกลุ่มที่เมาได้ทุกวัน เมาแบบตัวพ่อ ตัวบิดา อะไรแบบนี้ ผู้ชายกลุ่มนี้ไม่ได้มีแค่ออสตินหรอกนะ“ไอ้เจก็ไป มึงไม่เห็นเอง”เจก็เป็นอีกคนที่ชอบสังสรรค์ ร่ำสุราเคล้านารีเป็นกิจวัตรประจำวัน“อย่าบอกอีกนะว่าไอ้เพทายก็ไป”“ไอ้เพทายติดหญิง”เพทายเจ้าชายอบอุ่นที่อ่อนโยนกับผู้หญิงทุกคนบนโลก ยกเว้น กูค่ะ“กินเสร็จแล้วก็เก็บให้ด้วย ล้างให้ด้วยจะดีมาก กูง่วงแล้ว” ภารกิจล้มเหลวเพราะมีไอ้พวกทรงอย่างแบดตามไปรังควาน นี่แหละคือข้อเสียของการมีเพื่อนเป็นผู้ชายแต่ข้อดีมีเป็นร้อย ฉันถึงได้ยอมพวกมันทุกครั้ง ให้อภัยเพราะพวกมันคือเพื่อนที่จริงใจและดีที่สุด“เป็นห่วงหรอกถึงได้ตามไป”“เออ รู้แล้ว” มันไม่ได้พูดอะไรต่อก้มหน้ากินบะหมี่ในชามต่อโดยไม่สนใจฉันอีกฉันเข้ามาอาบน้ำเตรียมนอน สักพักไอ้สัวก็เดินตามเข้ามา“กูไม่อาบน้ำแล้วนะ”“นอนข้างนอก” คอนโดของฉันไม่ได้ใหญ่โตเหมือนของพวกมันแต่ก็ไม่ได้คับแคบจนทำให้อึดอัดเป็นมรดกตกทอดจากเจ้หมวยพี่สาวของฉันเอง นางไปต่อโทเมืองนอกฉันก็เล
“มึงว่ากูสวยยังวะ”“อืม”“ไอ้สัว กูจริงจังนะ อย่าทำเป็นเล่นได้ปะ”“กูเล่นเกมอยู่ไม่เห็นเหรอ”“ก็ช่วยมองสักหน่อยไม่ได้หรือไง”“หึ”ฉันถอนหายใจแล้วมองเพื่อนสนิทด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย นอกจากเป็นภาระเวลาเมาแล้วก็ยังหาประโยชน์จากมันไม่ได้สักอย่าง สรุปก็ไม่มีอะไรดีเลยนั่นแหละเจ้าสัว มีพ่อเป็นมาเฟียส่วนตัวมันเป็นนักเลง ทำตัวทรงอย่างแบด ทำผู้หญิงแซดไปทั่ว ไม่ว่าคณะไหนก็กวาดมาหมดแล้ว“อยากดูหนังไม่บอกกูวะ เสื้อยืดกางเกงยีนกูก็พามึงไปดูได้ละ แต่งซะ กูก็นึกว่าไปกินเลี้ยงโต๊ะจีน” อยากฟาดหัวให้แตก“ลำบากเพราะผู้ชาย มันได้เสมอ”“กับกูไม่แบบนี้บ้างวะ”“ก็ปากมึงแบบนี้ไง ไปละ กลับเมื่อไหร่ก็ปิดไฟ ปิดแอร์ให้เรียบร้อยด้วยนะ”“กูจะนอนนี่ กลับกี่โมงจะรอกินข้าวด้วย” ไอ้มาร ทะเลาะกับใครอีกคราวนี้ถึงได้หนีมานอนห้องฉันอีก“หากินเองไปก่อนเลย ไม่รู้เหมือนกัน”“รอ” ความหน้าด้านและหน้ามึนของเจ้าสัวทำให้ฉันเหนื่อยใจทุกครั้ง“สัว อย่ากดดันได้ปะ”“กูเปล่ากดดัน”ร้านเหล้า โซนD“ไปต่อกันมั้ย พี่เลี้ยงเอง” เจ้าของเสียงนุ่มตรงหน้าคือรุ่นพี่วิศวะปี4ที่เข้ามาจีบฉัน เราสองคนตกลงออกเดตกัน หลังจากดูหนังเสร็จก็มาต่อร้านเหล้าน
댓글