ST ผับ
Draw me my picture I’ ll draw your picture And we’ ll move the furnitures in the motel room Sing me a lullaby And kiss me goodnight Like everything’ s still fine in that motel roomวาดภาพฉันสิ และฉันจะวาดภาพเธอ แล้วเราจะย้ายเฟอร์นิเจอร์ในห้องโมเต็ลนี้ ร้องเพลงกล่อมให้ฉัน และจูบราตรีสวัสดิ์ฉัน เหมือนทุกๆ อย่างยังปกติดีในห้องโมเต็ลนั้นWe knew this has to end And we could only pretend Cause our love only leads to dead endเรารู้ว่าเรื่องนี้มันต้องจบลง และเราทำได้แต่แสร้งทำว่ามันยังดีอยู่ เพราะความรักของเรามันมุ่งสู่ทางตันLet’ s just drive out of town Let’ s runaway Let’ s get high Forget the world Forget everythingมาขับรถออกไปจากเมืองนี้กันเถอะ มาวิ่งหนีไปด้วยกัน มามีความสุขด้วยกัน ลืมโลกนี้ไป ลืมทุกๆ อย่าง ไปให้หมดDon’ t worry about this crowd No one you know is around We can do anything we wantไม่ต้องกังวลเรื่องผู้คนเหล่านี้หรอก ไม่มีคนที่เธอรู้จักอยู่หรอกนะ เราอยากทำอะไรหลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จ พี่ราเรซก็พาฉันมานั่งเล่นที่ห้องสมุดของบ้าน ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าพี่ราเรซจะชอบอ่านหนังสือการ์ตูนขนาดนี้ ฉันเดินไปหยิบหนังสือการ์ตูนออกมาจากชั้นวางเล่มหนึ่ง มันเป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งฉันอ่านไม่ออก หนังสือพวกนี้เปิดกลับหลังด้วยเฮะ ฉันเปิดออกหน้าแรกถึงกับมือไม้อ่อนทำหนังสือหลุดมือร่วงลงพื้นทันทีตุบ!!ภาพวาดการ์ตูนในหนังสือมันติดเรทมากอ่ะ ฉันไม่กล้าหยิบขึ้นมาดูอีกเลยพี่ราเรซเดินเข้ามาพอดี เขามีสีหน้าแปลกใจที่เห็นฉันยืนนิ่ง พี่ราเรซก้มลงไปหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาดู แล้วเขาก็มีสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน“ทำไมต้องหื่นขนาดนี้ค่ะ” ฉันโวยทันทีที่หันหน้ามาหาเขา“อ่านออกด้วยเหรอ ว๊าว..เก่งจัง” พี่ราเรซแกล้งชมเพื่อกลบเกลื่อน“แค่ภาพวาดมันก็ชัดเจนแล้วค่ะ”คนบ้า ไม่รู้จะหื่นอะไรปานนั้น หนังสือการ์ตูนที่เห็นอยู่เต็มห้องเนี้ย ก็คงจะมีแต่แบบนี้ทั้งนั้นสินะ“มันคลายเครียดดีนะ” ยังมีหน้ามายิ้มระรื่นอีก เหอะ!ฉันสะบัดหน้าใส่หนึ่งทีก่อนจะเดินหนีมานั่งลงกับเบาะนั่งสไตล์ญี่ปุ่น หันไปมองรอบๆ ห้อง สายตาก็ไ
“แน่นะ”ฉันเล่ตามองพี่ราเรซอย่างไม่ค่อยไว้ใจ พี่ราเรซพยักหน้าให้แทนคำตอบ แล้วฉันมีทางเลือกอื่นอีกไหม เฮ้อ...ฉันหันตัวกลับมาหาเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่เหมือนพี่ราเรซจงใจแกล้งฉันด้วยการยืนตัวตรงไม่ยอมโน้มตัวลงมา เขาสูงกว่าฉันอ่ะ แล้วฉันจะจูบได้ยังไงถ้าเขาไม่ยอมโน้มตัวลง“ไม่ถึงอ่ะ พี่เรซก็ก้มมาหน่อยสิ” ฉันโวยให้“ก็จูบให้ถึงสิ” พี่ราเรซตอบแล้ววันนี้ฉันจะจูบเขาได้ไหมล่ะเนี้ย ฉันมองหันซ้ายหันขวาและก็เจอกับอ่างล้างหน้า ฉันหันหน้ากลับมายิ้มให้พี่ราเรซเมื่อหาตัวช่วยได้แล้ว ฉันเดินไปนั่งบนขอบอ่างล้างหน้า จากความสูงของอ่างล้างหน้ามันก็พอทำให้ฉันอยู่ในระดับเดียวกันกับร่างหนาพอดี พอนั่งได้เรียบร้อยแล้วฉันก็กวักมือเรียกให้พี่ราเรซเดินเข้ามาหา หึๆ คิดไม่ถึงล่ะสิ ว่าฉันจะฉลาดขนาดนี้ ฉันยิ้มหวานส่งไปให้อย่างเป็นผู้ชนะ“ฉลาดเหมือนกันนะเราน่ะ” พี่ราเรซเดินเข้ามาชิดตัวแล้วยิ้มให้ฉันอย่างมีเลศนัย เดี๋ยวนะ ทำไมรอยยิ้มของพี่ราเรซดูไม่น่าไว้ใจแบบนั้นนะ เหมือนเขากำลังหัวเราะฉันด้วยซ้ำไป“แน่นอน” ฉันตอบเขาอย่างมั่นใจ พี่ราเรซยื่นหน้าเข้ามาใกล้
พี่ราเรซเลี้ยวรถเข้ามาจอดในโรงรถของบ้านหลังหนึ่ง ในโรงรถมีรถจอดอยู่เรียงกันอยู่ห้าคันรวมคันที่พี่ราเรซขับด้วย บ้านหลังนี้ใหญ่โตพอสมควร ดูก็รู้ว่าเป็นบ้านของคนมีเงิน พี่ราเรซลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาฝั่งฉันเพื่อเปิดประตูรถให้“ขอบคุณค่ะ” ฉันกล่าวขอบคุณ พี่ราเรซเอื้อมมือหนามากุมมือบางของฉันไว้แล้วพาฉันเดินเข้ามาภายในบ้าน ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในบ้านฉันก็รับรู้ถึงความอบอุ่นของบ้านหลังนี้ได้ทันที กลิ่นหอมจางๆ จากดอกไม้ที่อยู่ในแจกันข้างประตู ทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย ลดอาการตื่นเต้นได้นิดหน่อย ฉันเดาว่าอีกไม่กี่นาทีนี้ฉันจะได้เจอกับแม่ของพี่ราเรซแน่นอน“แม่ครับ” พี่ราเรซเอ่ยเรียกผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจัดจานชามบนโต๊ะอาหารอย่างสวยงาม เหมือนกับว่าวันนี้จะมีแขกคนพิเศษมาอย่างนั้นแหละ เธอหันมามองฉันกันพี่ราเรซ ฉันเผลอบีบมือพี่ราเรซแน่นด้วยความตื่นเต้น พี่ราเรซบีบมือฉันคืนเบาๆ เพื่อให้ผ่อนคลาย“มากันแล้วเหรอ” เธอส่งยิ้มหวานมาให้ ผู้หญิงคนนี้ยิ้มสวยจังเลย ถึงจะอายุไม่น้อยแล้วก็ตามแต่เธอกลับดูสวยมากจริงๆ ฉันรู้ล่ะ ว่าพี่ราเรซยิ้มสวยเหมือนใคร เหมือนแม่เขานี่เอง“ต้าหนิง
“เรียนเสร็จแล้วใช่ไหม” พี่ราเรซเลิกเล่นกับเฮียโต้งแล้วหันมาถามฉัน “ค่ะ” “พี่โต้งครับ ผมขออนุญาตพาต้าหนิงไปบ้านผมนะครับ แล้วจะมาส่งวันพรุ่งนี้เช้า” พี่ราเรซหันไปคุยกับเฮียโต้งอีกครั้ง “โห.. งั้นไม่ต้องมาส่งแล้วล่ะ ไอ้เรซ..” เฮียโต้งตอบแบบประชด “จริงป่ะ กูจะได้พาต้าไปเก็บเสื้อผ้าแล้วย้ายมาอยู่กับกูเลย” พี่ราเรซพูดอย่างดีใจ ดูก็รู้ว่าตั้งใจกวนทีน... “มึงกล้าสาบานป่ะ ว่าไม่รู้จริงๆ ที่เมื่อกี้กูประชด” เฮียโต้งแกล้งทำหน้าตึงนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้โกรธจริงจังอะไร “เผื่อฟลุคไง” พี่ราเรซตอบ “ไอ้ห่านี่ น้องกูยังเรียนไม่จบเลย เพราะแบบนี้ไง กูถึงไม่อยากให้น้องกูมีแฟน โดยฉะเพราะมีแฟนแบบมึงเนี้ย” “แบบคนหล่อๆ อย่างกู ใช่ไหมล่ะ” พี่ราเรซตอบ “หล่อตายแหละมึงอ่ะ สู้กูก็ไม่ได้ พวกมึงด้วย” แล้วเฮียโต้งก็หันไปอวดความหล่อของตัวเองกับเพื่อนๆ “อ้าว.. ไอ้โต้งพูดงี้ก็สวยดิ น้องแก้มใสครับ บอกมาเลยว่าใครหล่อสุด ยกเว้นไอ้เรซไม่ต้องนับมัน” พี่เลโอหันไปถามความคิดเห็นแก้มใส “เออ... ก็แล้วแต่คนมองล่ะค่ะ พวกพี่ก็ดูดีกันคนล่ะแบบ” แก้มใสตอบแบบเลี่ยงๆ “ไม่เอาดิ ตอบมาเลยพี่สามคนนี้ ใครหล่อสุด” พี่เลโอยังไม่ล่ะควา
“น่าพิศวาสตายแหละ”“จริงอ่ะ สักนิดก็ไม่มีเลยเหรอ” พี่ราเรซลุกขึ้นนั่งแล้วเอียงคอถามอย่างทะเล้น“ไม่!!”ฉันลุกขึ้นไปนั่งบนโซฟาข้างร่างหนา เอื้อมมือบางไปจับคางพี่ราเรซให้หันหน้ามาตรงๆ“โอ๊ะ โอ๊ย..” ทันทีที่มือฉันโดนคางพี่ราเรซก็ร้องลั่น“เจ็บเหรอ ต้าขอโทษ...”“พี่ล้อเล่น แฮ่ๆ ๆ”“คนบ้า!!”ตุบ!! ตุบ!! ตุบ!!ฉันรัวกำปั้นใส่อกเขาไปหลายที เจ้าเล่ห์จริงๆ เลย ไอ้เราก็ตกใจ อุตส่าห์เป็นห่วง มาแกล้งกันซะได้พี่ราเรซรวบมือของฉันเพียงมือข้างเดียวของเขา แล้วออกแรงดึงทำให้ตัวฉันเข้าไปชิดกับอกแกร่ง มือหนาอีกข้างก็เลื่อนผ่านมาด้านหลังเพื่อโอบกอดตัวฉัน“ปล่อย!!” ฉันส่งสายตาดุไปให้“ไม่ปล่อย..” พี่ราเรซลอยหน้าลอยตาตอบ“ถ้าไม่ปล่อยต้าจะตะโกนเรียกเฮียโต้งให้ลงมาลากพี่ขึ้นไปเลย” ฉันพูดขู่เขา“ก็เรียกสิ” พี่ราเรซยักไหล่ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน“เฮะ.. อุ๊บ..”ริมฝีหนาโฉบลงมาปิดปากฉันทันที ลิ้นชื้นแทรกผ่านกรีบปากเข้ามาตวัดดูดดึงลิ้นเล็กอย่างช่ำชอง ลิ้นหนาเกี่ยวกวัดหยอกล้อกับลิ้นเล็กไปมาอยู่ในโพรงปากของฉัน เขาสูบเอาทุกอย่างที่อยู่ในโพรงปากของฉันไม่เหลือแม้แต่อากาศหายใจ ฉันผลักไหล่หนาออกเมื่อเริ่มขาดอากาศหายใจจริง
“พี่ไม่เคยเห็นต้าเป็นแค่สิ่งของนะ พี่จริงจังกับต้า แต่ในขณะเดียวกันพี่ก็กลัวด้วย” พี่ไผ่สบตากับฉัน นัยน์ตาของพี่ไผ่สั่นไหวเหมือนเขาแอบร้องไห้อยู่ภายใน มันทำให้ฉันรู้สึกผิดต่อเขาอย่างมหัน ฉันมันคนนิสัยไม่ดี ฉันทำร้ายเขา..“กลัวอะไรคะ” ฉันถามพี่ไผ่“กลัวจะเสียต้าไป”ฉันถึงกลับจุกจนพูดไม่ออก เพราะเขาดีมาก ฉันจึงไม่มีความกล้าพอที่จะบอกเลิกเขา“พี่ไผ่..” ฉันเอ่ยชื่อเขาเสียงเบาหวิว“ตั้งแต่คบกันมา เราไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้ง มันเหมือนจะดีนะ แต่สำหรับพี่กลับไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น” พี่ไผ่เงยหน้าขึ้นมองฟ้า เมื่อน้ำตาเขากำลังจะไหลออกมา“ต้าไม่เคยงอน ไม่เคยโกรธ หรือหึงพี่เลย มันทำให้พี่เสียใจนะรู้ไหม”“ทำไมล่ะคะ”“เพราะต้าไม่ได้สนใจพี่ตั้งแต่แรกแล้วไง”ฉันหลุบตาลงต่ำไม่อาจสบตากลับพี่ไผ่ได้อีกต่อไป เพราะสิ่งที่พี่ไผ่พูดมามันคือความจริง“แต่พี่ก็ยังดื้อดึงที่จะคบกับต้าต่อ เพราะคิดว่าสักวันหนึ่ง ต้าต้องหันมาสนใจพี่บ้าง แต่แล้ว สิ่งที่พี่กลัวก็กลับมาอีกครั้ง” พี่ไผ่หันไปจ้องหน้าพี่ราเรซ“ต้าขอโทษ..”