เสียงทุ้มจากคนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งประธานบริษัทเอ่ยขึ้นแทนผู้สัมภาษณ์
ทุกคนรอบด้านต่างเงียบกริบ สีหน้าแต่ละคนคล้ายกับแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน บางคนก้ม ๆ เงย ๆ คล้ายกับกำลังหาอะไรบางอย่างในแฟ้มเอกสาร
หัวใจของกิ๊ฟเต้นกระหน่ำแรงยิ่งขึ้นเมื่อเขาเอ่ยต่อมาว่า
“ตำแหน่งงานล่าสุด คือ รองหัวหน้าการเงินและบัญชี บริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ อย่าง เอ็มเอ็น จำกัด”
เอ่ยจบ คิงก็กระตุกยิ้มที่มุมปากนิด ๆ คล้ายกับเจ้าแห่งนรกที่กำลังพิพากษาดวงวิญญาณที่ไร้หนทางสู้
กิ๊ฟถึงกับหน้าซีดเผือด เพราะสิ่งที่เขาเอ่ยมานั้น เธอไม่ได้เขียนลงไปในใบสมัครงานแม้แต่น้อย แต่เขากลับรู้ประวัติของเธอเกือบทั้งหมด
นั่นแสดงว่า เขาไม่เพียงแต่จำเธอได้ แต่ยังแค้นฝังใจด้วย !
“ถูกไล่ออกจากงานหรือ ทำไมถึงได้มาสมัครงานในตำแหน่งเลขากระจอก ๆ แบบนี้ล่ะ”
คิงจงใจใช้คำพูดจี้ใจดำหญิงสาวตรงหน้า
หลังจากเกิดเรื่องในวันนั้น เขาก็ให้คนไปสืบข้อมูลของเธอมาอย่างละเอียด และสวรรค์ก็ช่างเป็นใจ ส่งเธอให้มาสมัครงานในบริษัทของเขา ถึงเวลาที่เอาคืนเธอแล้ว !
คณะกรรมการคนอื่น ๆ ราวกับจะกลั้นหายใจฟังการสนทนา รู้สึกกดดันแทนผู้ถูกสัมภาษณ์ เพราะเธอเป็นคนแรกที่ถูกประธานบริษัทเชือดตั้งแต่วินาทีแรกที่เอ่ยปาก ราวกับว่าจะไม่ให้เธอได้ผุดได้เกิดเสียอย่างนั้น
กิ๊ฟเม้มริมฝีปากแน่น คำพูดของเขาทำให้เธอหน้าชาไปหมด ดวงตาที่หวาดหวั่นเมื่อครู่ เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าววาวโรจน์ขึ้นด้วยความโกรธ
นิวที่นั่งอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการตลาด แอบส่งซิกให้เพื่อนสาวใจเย็น ๆ
- คอนโด.... คอนโด.... –
นิวทำปากพะงาบ ๆ เอ่ยไม่ออกเสียง ให้เพื่อนสาวเห็นเพียงคนเดียว ในใจก็สวดมนต์อ้อนวอนต่อพระเจ้าว่า ขอให้อีกิ๊ฟมีสติ อย่าให้มันระเบิดอารมณ์ออกมาตอนนี้เลย ไม่งั้น... ศึกมหาสงครามได้เกิดขึ้นกลางกรุงเทพแน่ ๆ
กิ๊ฟพอจะอ่านปากนิวออก เธอสูดลมหายใจเข้า ...คอนโด.... ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออก ....คอนโด... หากเธอไม่ได้งาน ไม่มีเงินผ่อนคอนโด เดือนต่อไปเธอต้องไม่มีที่ซุกหัวนอนแน่ ๆ
ฉับพลันนั้น เธอก็ปั้นยิ้ม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำจนแทบจะเน้นเสียงลงทุกคำว่า
“ดิฉันไม่ได้ถูกไล่ออกค่ะ แต่ดิฉันยื่นหนังสือลาออกด้วยตนเอง และเหตุผลที่ออกคือเรื่องส่วนตัว”
คำตอบนั้น ทำเอาคณะกรรมการสัมภาษณ์งานที่นั่งอยู่สะบัดร้อนสะบัดหนาวไปตาม ๆ กัน เพราะคำตอบนั้นสื่อความหมายไปถึงบอสใหญ่ว่า
– ฉันออกจากงานเป็นเรื่องส่วนตัว กรุณาอย่าสาระแน -
“....และดิฉันไม่เคยคิดว่า ตำแหน่งเลขากระจอก เพราะตำแหน่งเลขานุการ คือ ผู้ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านประธานบริษัท เปรียบเสมือนเลขศูนย์ ที่ทุกคนคิดว่าไม่มีค่า แต่ถ้าเราเอาเลขศูนย์ไปคูณกับตัวเลขอื่น ๆ ดูสิคะ ไม่ว่าจะเก้าหมื่นเก้าพัน หรือ แปดร้อยล้าน สุดท้ายก็กลายเป็นศูนย์ พังพินาศได้เช่นกัน”
กิ๊ฟจ้องดวงตาคมกริบของคิงอย่างไม่หวั่นเกรง ราวกับจะประกาศให้เขารู้ว่า เธอไม่ใช่มดที่เขาจะมาบี้ได้ง่าย ๆ แต่เธอเป็นระเบิด พร้อมที่จะสู้ให้พังพินาศกันไปข้างหนึ่ง
- โอ้แม่เจ้า... มงลงหัวอีกิ๊ฟไปเลยจ้า –
นิวอุทานในใจ แทบอยากจะลุกขึ้นปรบมือรัว ๆ ให้เพื่อนสาว แต่แล้วเขาก็ดีได้เพียงไม่นาน เมื่อบอสใหญ่เอ่ยสวนกลับอย่างเนิบนาบทันทีว่า
“คุณคิดอย่างนั้นจริง ๆ หรือ คำพูดของคุณจริงใจแค่ไหนกัน”
“ดิฉันพร้อมจะพิสูจน์ความจริงใจให้คุณเห็นค่ะ หากว่าคุณจะให้โอกาส”
กิ๊ฟยื่นข้อเสนอทันที นิวได้ยินเช่นนั้นก็แอบยกนิ้วโป้งให้เพื่อนสาวใต้โต๊ะ - สมกับเป็นอีกิ๊ฟซ่า ท่าพระจันทร์จริง ๆ -
“งั้นคุณก็ไปชงกาแฟมาให้ผม หากผมพอใจ.... ผมก็จะยอมรับคุณเข้าทำงาน”
“ด้วยความยินดีค่ะ”
กิ๊ฟเชิดหน้าขึ้นตอบรับ พลางคร่ำครวญในใจว่า - อีตาหน้าดุนี่ จะมาไม้ไหนอีกเนี่ย ! –
จากนั้น เจ้าหน้าที่สาวคนเดิมก็พากิ๊ฟไปยังห้องครัวที่อยู่ด้านหลังห้องประชุม ห้องครัวนี้มีไว้สำหรับจัดเตรียมของว่าง หรืออาหารง่าย ๆ สำหรับการประชุม
“เชิญคุณกนกพิชญ์ ตามสบายเลยนะคะ”
“เอ่อ... เดี๋ยวสิคะ ไม่ทราบว่า ท่านประธานฯ ชอบดื่มกาแฟแบบไหนคะ”
กิ๊ฟรีบเอ่ยถามเจ้าหน้าที่สาวคนนั้น เพราะกาแฟมีหลากหลายรสชาติ แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ดังนั้น หากอยากจะเอาชนะเขา ก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเขาชอบแบบไหน
“เอ่อ... ดิฉันไม่ทราบค่ะ ต้องขออภัยจริง ๆ นะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เมื่อเจ้าหน้าที่สาวคนนั้นออกไปแล้ว กิ๊ฟจึงต้องทดลองเดาใจท่านประธานหน้าดุดูสักหน่อย
โดยเริ่มจากกาแฟดำขั้นพื้นก่อน เธอตักเพียงผงกาแฟใส่น้ำร้อนแล้วนำไปเสิร์ฟที่โต๊ะท่านประธาน ฯ ซึ่งบัดนี้เขาเปลี่ยนท่านั่งเป็นเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทีสบาย ๆ ขายาว ๆ ของเขายกขึ้นไขว่ห้าง รูปร่างได้สัดส่วนของเขาทำให้ดูเหมือนกับประติมากรรมชั้นเยี่ยม ทำให้กิ๊ฟอดที่จะประหม่าไม่ได้เมื่อต้องเข้าไปเสิร์ฟกาแฟเขาใกล้ ๆ
“เชิญดื่มค่ะ”
เธอบรรจงวางแก้วกาแฟร้อน ๆ ตรงหน้าเขา แล้วขยับตัวถอยออกห่างในระยะเหมาะสม
เขายกกาแฟขึ้นจิบคำเล็ก ๆ ใบหน้านิ่งเฉยจนคาดเดาไม่ถูกว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“ดื่มน้ำล้างจานยังดีกว่านี้ ไปชงมาใหม่”
คิงเอ่ยเสียงต่ำ
“รับทราบค่ะ”
กิ๊ฟยกแก้วกาแฟกลับไป แล้วไปชงกาแฟแก้วที่สองมาใหม่อย่างว่าง่าย
“เชิญดื่มค่ะ”
“ขมไป... ฉันต้องการกินกาแฟนะ ไม่ใช่กินยา ชงมาใหม่”
“รับทราบค่ะ”
จากนั้น กิ๊ฟแทบจะวิ่งเข้าวิ่งออกห้องครัวเพื่อชงกาแฟให้เขาดื่ม แก้วที่ 3 4 5 6 7.....
“ทั้งหวาน ทั้งมัน... ขืนฉันกินเข้าไป เป็นเบาหวานตายพอดี ไปชงมาใหม่”
“รับทราบค่ะ”
แก้วที่ 11 12 13 14..... จนกระทั่งถึงแก้วที่ 20 เขาก็ยังไม่พอใจ !
เคร้ง !
กิ๊ฟกระแทกแก้วใส่อ่างล้างจานด้วยความโมโห เธออุตส่าห์ตั้งใจชงกาแฟให้เขาทุกแก้วอย่างบรรจง ค่อยเติมเมล็ดกาแฟ น้ำตาลนิด ครีมหน่อย หวังว่าเขาจะถูกใจสักแก้ว แต่สุดท้ายเขาก็ไล่เธอให้กลับมาชงใหม่อยู่ดี
“แบบนี้มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ”
เขาต้องการแก้แค้นเธอแน่ ๆ เพราะวันนั้นเธอปฏิเสธไม่ยอมไปชงกาแฟมาเสิร์ฟเขา
“ไม่ได้งาน ก็ไม่ได้งานสิวะ เจ้านายเรื่องมาก เอาใจยากแบบนี้ อีกิ๊ฟจะไม่ทน !”
พูดจบ เธอก็หันไปคว้าเอากระปุกสีขาวเล็ก ๆ เปิดฝาออกแล้วเทใส่แก้วกาแฟจนหมดกระปุก เติมน้ำร้อน ต่อด้วยตักกาแฟบดใส่ลงไปลวก ๆ แล้วคนให้เข้ากัน
“กาแฟถ้วยนี้..... พิเศษสำหรับท่านประธานนะคะ”
หญิงสาวยิ้มที่มุมปาก รอยยิ้มนั้น คล้ายกับแม่มดมองหม้อต้มยาที่กำลังเดือดปุด ๆ อย่างพึงพอใจ
“โธ่เอ๊ย !... ให้มันได้แบบนี้สิ”คิงลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำจัดการปลดปล่อยตัวเองอย่างสุดเซ็ง“คืนนั้น ฉันยังไม่ได้เสียตัวให้คุณเหรอ แล้วทำไมฉันตื่นขึ้นมาในสภาพเปลือยเปล่าแบบนั้นล่ะ แถมยังนอนกอดคุณด้วย”กิ๊ฟซักถามสามี เช้าวันนั้นสภาพที่เห็น ทำให้เธอเข้าใจว่าได้เขาเป็นสามีไปแล้ว มิน่าเล่า ทำไมเธอถึงจำอะไรไม่ได้เลย“ผมเป็นคนถอดเสื้อผ้าคุณออก สร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนว่าเรามีอะไรกันแล้ว เพื่อผูกมัดคุณไม่ให้หนีผมไปไง แต่คิดไม่ถึงว่า ผมยอมลงทุนขนาดนั้นแล้ว คุณยังกล้าทิ้งผมไปอีก ! คืนนี้คุณอย่าหวังว่าจะรอดเลย”คิงคำรามลั่น พร้อมกับพลักเจ้าสาวลงไปกับเตียง จากนั้นก็ขึ้นทาบทับเธอเอาไว้ทั้งตัว“ว๊าย ! เดี๋ยวคะ”หญิงสาวร้องโวยวายขึ้น ใช้สองมือดันหน้าอกเขาไว้ให้ออกห่าง หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว เมื่อรู้ว่าคืนนี้จะเป็นคืนแรกที่เธอจะเสียตัวจริง ๆ“เดี๋ยวอะไรอีก”ชายหนุ่มถามติดจะหงุดหงิด“กะ... กิ๊ฟกลัว” ร่างของเธอสั่นระริกขึ้นมาจริง ๆ ใบหน้าแดงก่ำ เธอเอ่ยตะกุกตะกักออกไปว่า “ขอกิ๊ฟดื่มเหล้าย้อมใจก่อนได้ไหม เผื่อว่าจะได้หายกลัว”คิงหัวเราะเต็มเสียง เลขาสาวผู้แสนจะเก่งกาจไม่เ
หญิงสาวน้ำตารื้นขึ้นมา แผ่นหลังของเธอแนบชิดกับแผงอกจนรับรู้ได้ถึงไออุ่นที่แสนคุ้นเคย แต่หัวใจเธอกลับบีบรัดกันแน่นจนรู้สึกเจ็บ เพราะหากเธอยอมกลับไปอยู่ในสถานะเดิม วันหนึ่งประวัติของเธอก็คงจะซ้ำรอยเหมือนกับแม่ของเธอแน่ ๆ“ปล่อยฉันเถอะค่ะคุณคิง เราสองคนไม่คู่ควรกัน สักวันหนึ่งคุณก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่คุณเลือกให้”เธอพยายามขยับตัวหนี แต่เขากลับรัดวงแขนแน่นขึ้นไปอีก“ไม่ ผมไม่ปล่อย ผมอุตส่าห์ตามคุณมาถึงที่นี่ ทำทุกอย่างเพื่อให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน คุณยังคิดจะหนีไปจากผมอีกหรือ.....”เขาส่งเสียงตัดพ้อออกมา ทันทีที่เขารู้เรื่องราวของหญิงสาวทุกอย่าง และรู้ว่าบริษัทไอยรา กรุปกำลังย่ำแย่ จึงวางแผนเข้ากวาดซื้อหุ้นของไอยรา แย่งชิงสิ่งที่ควรจะเป็นของเธอกลับคืนมาให้ แล้วบีบให้คนที่ทำร้ายเธอในอดีตให้จนตรอกอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าเขาจะหมดเงินไปกี่หมื่นล้านก็ตามชายหนุ่มจับต้นแขนของเธอทั้งสองข้าง แล้วผลักให้หญิงสาวหันมาสบตาเขา ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ชั่วชีวิตนี้ผมจะรัก และแต่งงานกับคุณแค่คนเดียวเท่านั้น”“ถ้าแม่คุณ.....”กิ๊ฟเอ่ยออกมาได้ยากยิ่ง เพราะก้อนแข็ง ๆ วิ่งขึ้นมาจุกที่ลำคอ น้ำตา
คิงแกล้งส่งเสียงไอขึ้น พลางปรายตาคมดุมองมาที่คู่รักข้าวใหม่ปลามันที่จีบกันไม่รู้จักเวล่ำเวลา ทำเอาคนทั้งคู่ยิ้มเจื่อนไปทันที“ผมยังพูดไม่จบ...” คิงเอ่ยขึ้นอย่างทรงอำนาจแม้ว่าจะอยู่ในบริษัทของคนอื่นก็ตาม “เงื่อนไขของผมคือ หุ้นของบริษัทไอยรา กรุปในมือผม จะถูกโอนไปให้นางสาวกนกพิชญ์ เรืองระวี ทันทีที่เธอยอมลงนามในทะเบียนสมรส”เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ เจ้าหน้าที่อำเภอรีบนำเอกสารขึ้นมาทันที ทั่วทั้งต่างตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน คิงจึงเอ่ยต่อท่ามกลางความเงียบนั้นว่า“หากคุณจันทิราต้องการให้ลูกชายของคุณครองตำแหน่งประธานบริษัท ก็เอาเงินที่มีทั้งหมดมาขอซื้อหุ้นจากคุณกิ๊ฟไปได้ แต่ตอนนี้ราคาหุ้นสูงขึ้นมากแล้ว อาจจะได้แค่ 2 – 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น”เมื่อคิงเอ่ยจบ คุณจันทิมาถึงกับกรีดร้องออกมาลั่นห้องทันที“กรี๊ดดดดดดด ฉันไม่ยอม !” หากนังลูกเมียเก็บนั่นยอมจดทะเบียนสมรสกับมหาเศรษฐีหนุ่มคนนี้ เธอสองแม่ลูกก็จะตกเป็นเบี้ยล่างมันทันที นี่เธอตกอับถึงขนาดต้องไปกราบกรานขอซื้อหุ้นจากมันเชียวหรือ“มันไม่ใช่คนในตระกูลไอยรา มันก็แค่ลูกเมียเก็บ มีสิทธิ์อะไรมาครอบครองหุ้นของโรงแรมนี้ !”จันทิราโวยวายขึ้นอย่างไม่ลืมหูลื
“ขออนุญาตค่ะ มิสเตอร์อเล็กซานเดอร์มาถึงแล้วค่ะ”เลขานุการของไอยรา เปิดประตูให้กับแขกคนสำคัญเดินเข้ามา ฝ่ายนั้นเดินเข้ามาในห้องเกือบสิบคนสามคนสุดท้ายที่เดินเข้ามานั้น ทำให้กิ๊ฟถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง หัวใจเธอเต้นโครมครามทันทีที่สบเข้ากับดวงตาคมกริบคู่นั้น“คุณคิง”เสียงแผ่วเบาหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากของหญิงสาว ในขณะที่น้องชายของเธอก็เอ่ยขึ้นว่า“ยินดีต้อนรับครับมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์” เก่งรีบลุกขึ้นเข้าไปจับมือทักทายกับแขกคนสำคัญ “เชิญนั่งครับ”คณะของมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์ หรือ คิงนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม เขามองหญิงสาวที่แสนคิดถึงนั้นด้วยแววตาวาววับคมกล้า ในขณะที่เขาเอ่ยแนะนำคนในทีมของตนให้อีกฝ่ายรู้จักผู้ร่วมทีมของเขาในวันนี้ประกอบด้วยทนายความฝีมือดีที่สุด ผู้แทนของบริษัทหลักทรัพย์ (Broker) เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนราษฎร ผู้จัดการสินทรัพย์ของบริษัท รองประธานคณะกรรมการ และหัวหน้าฝ่ายการตลาดนิวนี่ที่ถูกแนะนำเป็นคนสุดท้าย แอบยักคิ้วให้กับเพื่อนสาว ที่ยังคงนั่งแข็งค้างคล้ายคนถูกสาป คนในตระกูลไอยราไม่ทราบว่าเขากับกิ๊ฟเป็นเพื่อนสนิทกัน ดังนั้น เขาจึงร่วมทีมมากับคุณเค และคุณคิงโดยไม่ต้อง
จันทิราชะงักฝีเท้า แล้วหันมามองสามี แต่เมื่อแลเลยไปเห็นลูกสาวของเมียอีกคนของเขา คอเธอก็ชูตั้งแข็งขึ้นมาทันที“คุณแม่ครับ เชิญมาคุยกันก่อน”เก่งลุกขึ้น เข้าไปโอบมารดาให้มานั่งลงที่โซฟานุ่ม เพื่อที่จะได้สนทนาเรื่องสำคัญ“เรื่องอะไร มีอะไรต้องพูดกัน ทุกวันนี้แกสองพ่อลูกเคยเห็นฉันอยู่ในสายตาไหม ดีแต่จะคอยโอ๋เอาใจคนอื่น”จันทิราปรายตามองไปที่กิ๊ฟ จงใจกระแทกเสียงคำว่า – คนอื่น – ให้ลูกเมียเก็บได้ยิน“แต่คนอื่นที่คุณเอ่ยถึง คือ ลูกสาวของผม และคือคนที่ช่วยบริษัทของเราไว้ เป็นคุณเสียอีกที่ขายบริษัทให้กับคนอื่นกับมือตัวเอง !”ปนนธีร์ขึ้นเสียงเข้มกับภรรยา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง“นี่คุณอย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ ! ฉันขายบริษัทให้ใครที่ไหน”จันทิราตวาดสามีกลับ ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้พลาดพลั้งทำอะไรลงไป“ก็หุ้นของไอยรากรุป ที่คุณขายออกไปจนหมดอย่างไงล่ะ”ปนนธีร์จ้องหน้าภรรยาด้วยใบหน้าถมึงทึง“ฉันขายหุ้นในส่วนของฉัน มันผิดตรงไหน ถ้าราคามันสูงขึ้นเราก็รีบขายเอากำไรสิ ใคร ๆ เขาก็ขายกัน”จันทิราเถียงคอเป็นเอ็น ให้ตายเธอก็ไม่ยอมรับว่าเป็นคนขายบริษัท“พ่อครับ แม่ครับ ใจเย็น ๆ แล้วฟังผมอธิบายก่อนนะ
“เหอะ ! ไปทำงานที่บริษัทไม่กี่วัน แกก็จะนับญาติกับผู้หญิงคนนั้นแล้วเหรอ ผู้หญิงเขาทิ้งพี่แกไป แกยังจะไปเห็นดีเห็นงามอะไรอีก ยังไงยัยหนูมิ้น ลูกสาวของคุณหญิงก็ดีกว่าเป็นไหน ๆ”นริศรเชิดหน้าขึ้น พูดได้ไม่เต็มปากนัก เธอยังไม่อยากยอมรับหญิงสาวเป็นลูกสะใภ้ในตอนนี้ เพราะกลัวจะเสียหน้า“ที่คุณกิ๊ฟเขาทิ้งผมไป ก็เป็นเพราะว่าคุณแม่เป็นคนบีบบังคับให้เธอต้องหนีไป” คิงเอ่ยเสียงขรึม“ตาคิง !”นริศรเสียงสูง ตกใจที่ลูกชายของตนรู้เรื่องที่เธอแอบทำทั้งหมดแล้ว“ส่วนผู้หญิงที่คุณแม่อยากได้มาเป็นสะใภ้นั้น เธอมีผัวแล้ว และที่สำคัญครอบครัวเป็นหนี้ธนาคารอยู่ร้อยล้าน”“ไม่จริง !”นริศรส่ายหน้าอย่างยากที่จะยอมรับได้“คุณแม่ดูคลิปนี่ครับ”เคเปิดคลิปในมือถือให้คุณนริศรดูในหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ปรากฏภาพของมายด์มิ้นเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย ใบหน้าหญิงสาวเต็มไปด้วยความหงุดหงิดนริศรได้ยินเสียงของมายด์มิ้นคุยโทรศัพท์กับคุณหญิงแม่ชัดถ้อยชัดคำ โดยเฉพาะประโยคที่ว่า......ถ้าลูกชายของยัยป้านริศรหน้าโง่นั่นจับง่ายก็ดีสิ ฉันกับแม่จะได้สบายไปทั้งชาติ...........มิ้นกลับไปนอนกอดผัวให้กีฉ่ำดีกว่า....“ตายแล้ว !”นริศรยกมื