ใครเล่าจะคิดว่าชีวิตเธอจะบัดซบได้เพียงนี้ หญิงสาวตกงานตอนอายุสามสิบ จำยอมต้องรับงานในตำแหน่งเลขานุการ ที่เธอเคยประกาศเสียงกร้าวว่าจะไม่มีทางรับใช้ใครเด็ดขาด ! และดูเหมือนว่านรกจะกลั่นแกล้งเธอไม่เลิก ดันส่งเจ้านายจอมโหดมาปะทะฝีมือ ฟัดคารมณ์ตั้งแต่โต๊ะทำงานยันเตียงนอน ! เรื่องราววุ่น ๆ ของเลขาสายแซ่บกับเจ้านายจอมเผด็จการจะสนุกแค่ไหนไปติดตามกันค่ะ
View Moreณ บริษัท เอ็มเอ็นกรุป จำกัด
‘กนกพิชญ์ เรืองระวี’ หรือ กิ๊ฟ สตรีในชุดทำงานสีเรียบ ผมรวบตึง สวมแว่นสายตากรอบสีดำหนาเตอะ เดินฉับ ๆ มุ่งหน้ามายังโต๊ะหน้าห้องประธานบริษัท ซึ่งมีป้ายบอกตำแหน่ง เลขานุการ
เธอหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะแล้วกวาดสายตามองผ่านแว่นสายตาคล้ายกับกำลังหาอะไรบางอย่าง เมื่อไม่เห็นสิ่งที่ต้องการ เธอจึงก้าวเข้าไปรื้อค้นเอกสารในชั้นใต้โต๊ะทำงานอย่างถือวิสาสะ
“คุณเลขาครับ รบกวนขอกาแฟดำร้อนสักแก้ว”
เสียงทุ้มนั้นทำให้หญิงสาวที่กำลังค้นหาเอกสารหยุดชะงัก แล้วตวัดสายตาดุ ๆ มองไปยังต้นเสียง
“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ใช่เลขา และคนอย่างฉันไม่มีทางที่จะเป็นเลขารับใช้ใคร”
กิ๊ฟตอบกลับอย่างไม่เป็นมิตรพอ ๆ กับใบหน้าที่กำลังอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะเมื่อเช้าเธอเพิ่งจะได้ยินพนักงานฝ่ายบัญชีกำลังซุบซิบนินทาว่า คนที่ครอบครองตำแหน่งหัวหน้าแผนกบัญชี คือ เทมมี่ เลขาสาวสวยหน้าห้องท่านประธานบริษัท แทนที่จะเป็นเธอ !
เธอไม่เชื่อว่า ประธานบริษัทจะทำแบบนี้ ดังนั้น เธอจึงมาค้นหาเอกสารหลักฐานการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการที่โต๊ะของเทมมี่
ชายหนุ่มเมื่อได้ยินพนักงานบริษัทที่เขามาเจรจาธุรกิจด้วยตอบกลับมาดังนั้น ก็หน้าตึงยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“ผมไม่คิดว่า บริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่อย่างเอ็มเอ็นกรุปจะมีพนักงานที่ไม่มีจิตใจบริการแบบนี้ด้วย”
คิงกดเสียงต่ำ ดวงตาสีดำเข้มคมกริบนั้นมองสตรีตรงหน้าอย่างดูแคลน หากว่าเธอเป็นพนักงานในบริษัทของเขา คงจะถูกไล่ตะเพิดออกไปนานแล้ว และตอนนี้คนที่เขาอยากไล่ออกมากที่สุด คือ ‘วศิน’ เลขาของเขา ที่หายหัวไปตั้งแต่เดินเข้ามาในบริษัทนี้
คำพูดนั้น ทำให้กิ๊ฟตวัดสายตาแข็งกร้าวกลับมามองเขาอีกหน คราวนี้ เธอมองเขาอย่างพิจารณาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
ดูจากการแต่งกายที่สวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว พับแขนขึ้นมาครึ่งศอกเช่นนี้แล้วน่าจะเป็นผู้ติดตามผู้บริหารของบริษัทลูกค้าที่มาติดต่อจ้างทำโฆษณา และจากการที่เขาพูดจาไม่รู้เรื่อง และไม่มีทีท่าอ่อนน้อมเช่นนี้ก็คงจะเป็นพวกเด็กใหม่ทำงานไม่กี่ปีแน่ ๆ
เธอจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ แล้วเอ่ยตอบกลับไปว่า
“ขอโทษนะคะ บังเอิญว่าการเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟกาแฟไม่ใช่หน้าที่ของรองหัวหน้าบัญชี และการเงินอย่างฉัน รบกวนนั่งรอเลขาตัวจริงมาแล้ว คุณค่อยเรียกใช้เธอ หรือหากคุณรีบอยากได้กาแฟไปบริการเจ้านายคุณ เพื่อเอาใจก็เชิญที่ห้องครัวด้านนู้นค่ะ”
กิ๊ฟผายมือเชิญเพื่อเป็นการไล่ส่งเขาทางอ้อม เธอจะได้ทำธุระของตนต่อ ก่อนที่เทมมี่จะเข้ามาทำงาน
คิงคิ้วกระตุกชั่วขณะที่ถูกเธอเข้าใจผิด คิดว่าเขาเป็นลูกน้องติดตามเจ้านาย เรื่องนี้ต้องโทษเจ้าวศินอีกนั่นแหละ ที่ลืมหยิบสูทจากรถลงมาด้วย เมื่อเขาไล่ให้กลับลงไปเอาสูทที่รถ เลขาคนใหม่ก็หายหัวไปเลยจนถึงตอนนี้
ชายหนุ่มเดินผละจากไปโดยไม่ได้โต้เถียงกับเธออีก จากนั้น กิ๊ฟจึงเร่งมือหาเอกสารต่อ และแล้วเธอก็เจอมันวางอยู่ในชั้นใต้สุดของโต๊ะเก็บเอกสาร
ในเอกสารระบุอย่างชัดเจนว่า เดือนหน้าคนที่จะเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบัญชี และการเงิน คือ เทมมี่ ไม่ใช่เธอ
“พี่กิ๊ฟ... พี่มาทำอะไรที่โต๊ะเทมมี่หรือคะ”
น้ำเสียงใสซื่อของเจ้าของโต๊ะดังขึ้น พร้อมกับเจ้าตัวที่เดินควงแขนมากับคุณมาโนชย์ หรือประธานบริษัทเอ็มเอ็นกรุปจำกัด
กิ๊ฟไม่สนใจคำถามของเทมมี่ แต่เธอกลับไปถามประธานบริษัทแทนว่า
“ท่านประธานคะ ทำไมคนที่ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีถึงเป็นเทมมี่”
น้ำเสียงของเธอสั่นระริก ชูหนังสือแต่งตั้งตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายให้เขาดู เธออยากได้คำอธิบายว่า เหตุใดคนที่ทำงานทุ่มเทจนแทบจะล้มป่วยเช่นเธอทำไมถึงได้การตอบแทนจากเจ้านายเช่นนี้
มาโนชย์เห็นว่าไม่อาจปิดบังเรื่องนี้ได้แล้ว จึงตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า “เทมมี่เขาเรียนบัญชีมาเหมือนกัน ทำไมจะรับตำแหน่งนี้ไม่ได้”
จากนั้นก็ก้าวเท้าหมายจะเข้าไปในห้องทำงานของตน
กิ๊ฟรีบมาขวางหน้าประธานบริษัทเอาไว้
“แต่ดิฉันทำงานในฝ่ายนี้มาก่อนเทมมี่ ทำผลงานให้กับบริษัทตั้งเยอะแยะ แล้วทำไมตำแหน่งหัวหน้าถึงไม่ใช่ดิฉัน”
เธอแทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความเสียใจ เธอทำงานเป็นรองหัวหน้าฝ่ายบัญชีให้กับบริษัทมานานกว่า 3 ปี เป็นคนแรกของบริษัทที่พัฒนาระบบบัญชีโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้เป็นระบบสากล
ตลอด 3 ปีเธอทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ลากิจ ลาป่วยแม้สักวันเดียว เมื่อตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบัญชีว่างลง คนที่ควรจะขึ้นไปนั่งแท่นหัวฝ่ายก็ควรจะเป็นเธอ แต่ทำไมกลับเป็นเทมมี่ ที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานในตำแหน่งเลขาท่านประธานได้ไม่ถึงปี !
“คุณเป็นประธานบริษัทหรือไง ถึงมาสั่งผมว่าใครที่ควรจะนั่งตำแหน่งนั้น ตำแหน่งนี้ควรเป็นใคร”
มาโนชย์เสียงเข้มขึ้น พร้อมกับชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกลูกน้องโต้แย้งอย่างรุนแรงท่ามกลางสายตาพนักงานคนอื่น ๆ ที่เริ่มทยอยเข้ามาในบริษัทแล้ว
คำพูดนั้น กระแทกเข้าไปในใจของกิ๊ฟอย่างแรง ใช่สิ ตำแหน่งเธอเป็นแค่ลูกน้อง เป็นแค่ขี้ข้าคนหนึ่งที่ต้องยอมรับชะตากรรมที่หัวหน้าเป็นผู้ชี้นิ้วสั่ง
แต่เธอเองก็มั่นใจในผลงานที่ตนเองทำไปไม่น้อยว่า ถ้าไม่มีเธอแผนกบัญชีไม่มีท่าพัฒนามาได้จนถึงจุดนี้แน่ !
“ถ้าท่านประธานยังยืนที่จะให้เทมมี่เป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชี ดิฉันก็จะขอลาออก”
กิ๊ฟประกาศออกมาอย่างทะนงตัว
มาโนชย์จ้องเธอไปชั่วอึดใจ พนักงานทุกคนที่รายล้อมอยู่คล้ายกับกำลังกลั้นหายใจเพื่อรอฟังคำตอบจากประธานบริษัทเช่นกัน
“ถ้าคุณยังมีทิฐิ ตั้งกำแพงไม่ยอมทำงานร่วมกันกับคนอื่นแบบนี้ ก็เชิญคุณลาออกได้เลย”
ถ้อยคำนั้นราวกับมือที่มองไม่เห็นผุดขึ้นมาจากนรกกระชากดึงเธอเต็มแรง จนกิ๊ฟแทบจะยืนทรงตัวไม่ไหว ในหัวมีเสียงที่ตะโกนก้องว่า
– สิ่งที่ฉันทำเพื่อบริษัทที่ผ่านทั้งหมดไม่มีค่าเลยสินะ ฉันตั้งกำแพงเหรอ ? มีทิฐิเหรอ ? ความยุติธรรมมันอยู่ที่ไหนกัน ! –
“พี่กิ๊ฟ... ใจเย็น ๆ นะคะ เดี๋ยวพี่ค่อยกลับมาคุยกับท่านประธานใหม่ดีไหมคะ”
เทมมี่ใช้น้ำเสียงอ่อนโยน พลางเดินเข้ามาจับแขนกิ๊ฟเพื่อลากอีกฝ่ายให้พ้นทางเดินของท่านประธาน
“โธ่เอ๊ย !... ให้มันได้แบบนี้สิ”คิงลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำจัดการปลดปล่อยตัวเองอย่างสุดเซ็ง“คืนนั้น ฉันยังไม่ได้เสียตัวให้คุณเหรอ แล้วทำไมฉันตื่นขึ้นมาในสภาพเปลือยเปล่าแบบนั้นล่ะ แถมยังนอนกอดคุณด้วย”กิ๊ฟซักถามสามี เช้าวันนั้นสภาพที่เห็น ทำให้เธอเข้าใจว่าได้เขาเป็นสามีไปแล้ว มิน่าเล่า ทำไมเธอถึงจำอะไรไม่ได้เลย“ผมเป็นคนถอดเสื้อผ้าคุณออก สร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนว่าเรามีอะไรกันแล้ว เพื่อผูกมัดคุณไม่ให้หนีผมไปไง แต่คิดไม่ถึงว่า ผมยอมลงทุนขนาดนั้นแล้ว คุณยังกล้าทิ้งผมไปอีก ! คืนนี้คุณอย่าหวังว่าจะรอดเลย”คิงคำรามลั่น พร้อมกับพลักเจ้าสาวลงไปกับเตียง จากนั้นก็ขึ้นทาบทับเธอเอาไว้ทั้งตัว“ว๊าย ! เดี๋ยวคะ”หญิงสาวร้องโวยวายขึ้น ใช้สองมือดันหน้าอกเขาไว้ให้ออกห่าง หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว เมื่อรู้ว่าคืนนี้จะเป็นคืนแรกที่เธอจะเสียตัวจริง ๆ“เดี๋ยวอะไรอีก”ชายหนุ่มถามติดจะหงุดหงิด“กะ... กิ๊ฟกลัว” ร่างของเธอสั่นระริกขึ้นมาจริง ๆ ใบหน้าแดงก่ำ เธอเอ่ยตะกุกตะกักออกไปว่า “ขอกิ๊ฟดื่มเหล้าย้อมใจก่อนได้ไหม เผื่อว่าจะได้หายกลัว”คิงหัวเราะเต็มเสียง เลขาสาวผู้แสนจะเก่งกาจไม่เ
หญิงสาวน้ำตารื้นขึ้นมา แผ่นหลังของเธอแนบชิดกับแผงอกจนรับรู้ได้ถึงไออุ่นที่แสนคุ้นเคย แต่หัวใจเธอกลับบีบรัดกันแน่นจนรู้สึกเจ็บ เพราะหากเธอยอมกลับไปอยู่ในสถานะเดิม วันหนึ่งประวัติของเธอก็คงจะซ้ำรอยเหมือนกับแม่ของเธอแน่ ๆ“ปล่อยฉันเถอะค่ะคุณคิง เราสองคนไม่คู่ควรกัน สักวันหนึ่งคุณก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่คุณเลือกให้”เธอพยายามขยับตัวหนี แต่เขากลับรัดวงแขนแน่นขึ้นไปอีก“ไม่ ผมไม่ปล่อย ผมอุตส่าห์ตามคุณมาถึงที่นี่ ทำทุกอย่างเพื่อให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน คุณยังคิดจะหนีไปจากผมอีกหรือ.....”เขาส่งเสียงตัดพ้อออกมา ทันทีที่เขารู้เรื่องราวของหญิงสาวทุกอย่าง และรู้ว่าบริษัทไอยรา กรุปกำลังย่ำแย่ จึงวางแผนเข้ากวาดซื้อหุ้นของไอยรา แย่งชิงสิ่งที่ควรจะเป็นของเธอกลับคืนมาให้ แล้วบีบให้คนที่ทำร้ายเธอในอดีตให้จนตรอกอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าเขาจะหมดเงินไปกี่หมื่นล้านก็ตามชายหนุ่มจับต้นแขนของเธอทั้งสองข้าง แล้วผลักให้หญิงสาวหันมาสบตาเขา ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ชั่วชีวิตนี้ผมจะรัก และแต่งงานกับคุณแค่คนเดียวเท่านั้น”“ถ้าแม่คุณ.....”กิ๊ฟเอ่ยออกมาได้ยากยิ่ง เพราะก้อนแข็ง ๆ วิ่งขึ้นมาจุกที่ลำคอ น้ำตา
คิงแกล้งส่งเสียงไอขึ้น พลางปรายตาคมดุมองมาที่คู่รักข้าวใหม่ปลามันที่จีบกันไม่รู้จักเวล่ำเวลา ทำเอาคนทั้งคู่ยิ้มเจื่อนไปทันที“ผมยังพูดไม่จบ...” คิงเอ่ยขึ้นอย่างทรงอำนาจแม้ว่าจะอยู่ในบริษัทของคนอื่นก็ตาม “เงื่อนไขของผมคือ หุ้นของบริษัทไอยรา กรุปในมือผม จะถูกโอนไปให้นางสาวกนกพิชญ์ เรืองระวี ทันทีที่เธอยอมลงนามในทะเบียนสมรส”เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ เจ้าหน้าที่อำเภอรีบนำเอกสารขึ้นมาทันที ทั่วทั้งต่างตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน คิงจึงเอ่ยต่อท่ามกลางความเงียบนั้นว่า“หากคุณจันทิราต้องการให้ลูกชายของคุณครองตำแหน่งประธานบริษัท ก็เอาเงินที่มีทั้งหมดมาขอซื้อหุ้นจากคุณกิ๊ฟไปได้ แต่ตอนนี้ราคาหุ้นสูงขึ้นมากแล้ว อาจจะได้แค่ 2 – 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น”เมื่อคิงเอ่ยจบ คุณจันทิมาถึงกับกรีดร้องออกมาลั่นห้องทันที“กรี๊ดดดดดดด ฉันไม่ยอม !” หากนังลูกเมียเก็บนั่นยอมจดทะเบียนสมรสกับมหาเศรษฐีหนุ่มคนนี้ เธอสองแม่ลูกก็จะตกเป็นเบี้ยล่างมันทันที นี่เธอตกอับถึงขนาดต้องไปกราบกรานขอซื้อหุ้นจากมันเชียวหรือ“มันไม่ใช่คนในตระกูลไอยรา มันก็แค่ลูกเมียเก็บ มีสิทธิ์อะไรมาครอบครองหุ้นของโรงแรมนี้ !”จันทิราโวยวายขึ้นอย่างไม่ลืมหูลื
“ขออนุญาตค่ะ มิสเตอร์อเล็กซานเดอร์มาถึงแล้วค่ะ”เลขานุการของไอยรา เปิดประตูให้กับแขกคนสำคัญเดินเข้ามา ฝ่ายนั้นเดินเข้ามาในห้องเกือบสิบคนสามคนสุดท้ายที่เดินเข้ามานั้น ทำให้กิ๊ฟถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง หัวใจเธอเต้นโครมครามทันทีที่สบเข้ากับดวงตาคมกริบคู่นั้น“คุณคิง”เสียงแผ่วเบาหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากของหญิงสาว ในขณะที่น้องชายของเธอก็เอ่ยขึ้นว่า“ยินดีต้อนรับครับมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์” เก่งรีบลุกขึ้นเข้าไปจับมือทักทายกับแขกคนสำคัญ “เชิญนั่งครับ”คณะของมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์ หรือ คิงนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม เขามองหญิงสาวที่แสนคิดถึงนั้นด้วยแววตาวาววับคมกล้า ในขณะที่เขาเอ่ยแนะนำคนในทีมของตนให้อีกฝ่ายรู้จักผู้ร่วมทีมของเขาในวันนี้ประกอบด้วยทนายความฝีมือดีที่สุด ผู้แทนของบริษัทหลักทรัพย์ (Broker) เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนราษฎร ผู้จัดการสินทรัพย์ของบริษัท รองประธานคณะกรรมการ และหัวหน้าฝ่ายการตลาดนิวนี่ที่ถูกแนะนำเป็นคนสุดท้าย แอบยักคิ้วให้กับเพื่อนสาว ที่ยังคงนั่งแข็งค้างคล้ายคนถูกสาป คนในตระกูลไอยราไม่ทราบว่าเขากับกิ๊ฟเป็นเพื่อนสนิทกัน ดังนั้น เขาจึงร่วมทีมมากับคุณเค และคุณคิงโดยไม่ต้อง
จันทิราชะงักฝีเท้า แล้วหันมามองสามี แต่เมื่อแลเลยไปเห็นลูกสาวของเมียอีกคนของเขา คอเธอก็ชูตั้งแข็งขึ้นมาทันที“คุณแม่ครับ เชิญมาคุยกันก่อน”เก่งลุกขึ้น เข้าไปโอบมารดาให้มานั่งลงที่โซฟานุ่ม เพื่อที่จะได้สนทนาเรื่องสำคัญ“เรื่องอะไร มีอะไรต้องพูดกัน ทุกวันนี้แกสองพ่อลูกเคยเห็นฉันอยู่ในสายตาไหม ดีแต่จะคอยโอ๋เอาใจคนอื่น”จันทิราปรายตามองไปที่กิ๊ฟ จงใจกระแทกเสียงคำว่า – คนอื่น – ให้ลูกเมียเก็บได้ยิน“แต่คนอื่นที่คุณเอ่ยถึง คือ ลูกสาวของผม และคือคนที่ช่วยบริษัทของเราไว้ เป็นคุณเสียอีกที่ขายบริษัทให้กับคนอื่นกับมือตัวเอง !”ปนนธีร์ขึ้นเสียงเข้มกับภรรยา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง“นี่คุณอย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ ! ฉันขายบริษัทให้ใครที่ไหน”จันทิราตวาดสามีกลับ ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้พลาดพลั้งทำอะไรลงไป“ก็หุ้นของไอยรากรุป ที่คุณขายออกไปจนหมดอย่างไงล่ะ”ปนนธีร์จ้องหน้าภรรยาด้วยใบหน้าถมึงทึง“ฉันขายหุ้นในส่วนของฉัน มันผิดตรงไหน ถ้าราคามันสูงขึ้นเราก็รีบขายเอากำไรสิ ใคร ๆ เขาก็ขายกัน”จันทิราเถียงคอเป็นเอ็น ให้ตายเธอก็ไม่ยอมรับว่าเป็นคนขายบริษัท“พ่อครับ แม่ครับ ใจเย็น ๆ แล้วฟังผมอธิบายก่อนนะ
“เหอะ ! ไปทำงานที่บริษัทไม่กี่วัน แกก็จะนับญาติกับผู้หญิงคนนั้นแล้วเหรอ ผู้หญิงเขาทิ้งพี่แกไป แกยังจะไปเห็นดีเห็นงามอะไรอีก ยังไงยัยหนูมิ้น ลูกสาวของคุณหญิงก็ดีกว่าเป็นไหน ๆ”นริศรเชิดหน้าขึ้น พูดได้ไม่เต็มปากนัก เธอยังไม่อยากยอมรับหญิงสาวเป็นลูกสะใภ้ในตอนนี้ เพราะกลัวจะเสียหน้า“ที่คุณกิ๊ฟเขาทิ้งผมไป ก็เป็นเพราะว่าคุณแม่เป็นคนบีบบังคับให้เธอต้องหนีไป” คิงเอ่ยเสียงขรึม“ตาคิง !”นริศรเสียงสูง ตกใจที่ลูกชายของตนรู้เรื่องที่เธอแอบทำทั้งหมดแล้ว“ส่วนผู้หญิงที่คุณแม่อยากได้มาเป็นสะใภ้นั้น เธอมีผัวแล้ว และที่สำคัญครอบครัวเป็นหนี้ธนาคารอยู่ร้อยล้าน”“ไม่จริง !”นริศรส่ายหน้าอย่างยากที่จะยอมรับได้“คุณแม่ดูคลิปนี่ครับ”เคเปิดคลิปในมือถือให้คุณนริศรดูในหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ปรากฏภาพของมายด์มิ้นเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย ใบหน้าหญิงสาวเต็มไปด้วยความหงุดหงิดนริศรได้ยินเสียงของมายด์มิ้นคุยโทรศัพท์กับคุณหญิงแม่ชัดถ้อยชัดคำ โดยเฉพาะประโยคที่ว่า......ถ้าลูกชายของยัยป้านริศรหน้าโง่นั่นจับง่ายก็ดีสิ ฉันกับแม่จะได้สบายไปทั้งชาติ...........มิ้นกลับไปนอนกอดผัวให้กีฉ่ำดีกว่า....“ตายแล้ว !”นริศรยกมื
Comments