Mag-log inปึง!
ประตูรถปิดลงทั้งสองฝั่งพร้อมกัน วันนี้ฉันถูกพากลับพร้อมพี่เฮนรี่ จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้ต้องเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง ทุกเรื่องที่รู้ ทุกเรื่องที่เกิดขึ้น ระหว่างสเตฟานกับลัลลาเบล แต่ยกเว้นเรื่องที่ตัวเองเข้าไปที่คลับเพราะไม่อยากให้พี่เฮนรี่เป็นห่วงไปมากกว่านี้
“แน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าเป็นเขา” เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับหักเลี้ยวพวงมาลัยรถขับวนลงจากตึกจอด
“ถ้าไม่ใช่เขาจะเป็นใคร เพื่อนของไอรีนมีผู้ชายที่ชอบอยู่แค่คนเดียว”
“พี่ถึงถามนี่ไงว่าแน่ใจใช่มั้ย เพราะภาพนั้นถูกส่งเข้าสู่เมลนักศึกษาทั้งมหา’ลัยนะ แล้วพี่ก็เห็นว่าไม่ได้มีผู้ชายแค่คนเดียว”
“เข้าข้างผู้ชายด้วยกันเองหรือเปล่าเนี่ย”
“ไม่ใช่สักหน่อย” พี่เฮนรี่หันมาสบตา
“มองน้องแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“ก็ที่รู้มานะ สเตฟานไม่มีทางคบผู้หญิงคนไหน และไม่มีทางพาเรื่องแบบนี้เข้ามาหาตัวเองแน่นอน ระดับคาร์พาเธียไม่ปล่อยอะไรโง่ ๆ แบบนี้หรอก”
“ครั้งนี้อาจจะเล่นสนุกจนลืมนึกถึงผลที่ตามมาก็ได้”
“ไม่มีทาง สเตฟานชอบเฮเลนผู้ดูแลพิเศษของไอรีนไง เขาไม่มีทางพลาดเรื่องแบบนี้ให้ตัวเองดูไม่ดี”
“ชอบพี่เฮเลน?” ถึงว่าสิ น้ำเสียงเวลาคุยกับพี่เฮเลน ทั้งตอนที่รับโทรศัพท์ตรงห้องชมรมเก่า และในคลับต่างจากคุยกับคนอื่นลิบลับ
“อือ ถึงเฮเลนจะมีคู่หมั้นอยู่แล้วก็ตาม”
“...” รักที่ไม่มีทางสมหวัง หึ!
“แล้วอีกอย่างสเตฟานคงไม่จำเป็นต้องใช้ยาเพื่อทำให้เพื่อนไอรีนสมยอมก็ได้ เพราะเธอคงจะสมยอมด้วยความรักอย่างเต็มใจแน่นอน”
“พี่เฮนรี่” เสียงเล็กดังขึ้นพร้อมนัยน์คมเฉี่ยวปาดมองไปฝั่งคนขับ
“ก็พูดตามหลักของมนุษย์ที่ทุ่มเทความรักจนสุดตัว”
“...” ฉันเถียงไม่ออกเลย ความจริงมันก็เป็นแบบนั้นแหละ
“ให้พี่จัดการเรื่องนี้ให้เอามั้ย” พี่เฮนรี่เสนอความคิดออกมา
“ไม่ค่ะ ไอรีนจะจัดการเรื่องนี้เอง”
“ถ้าทำแบบนั้นเท่ากับว่าสเตฟานจะรู้ว่าไอรีนเป็นใครนะ”
“นั่นแหละที่ต้องการ”
“ทำไมล่ะ ทำไมถึงยอมเปิดเผยตัวเอง”
“ก็ถ้าให้พี่เฮนรี่ไปจัดการเขาจะคิดว่ายังไงล่ะคะ เด็กกำพร้าเอาเรื่องของเพื่อนมาฟ้องรัชทายาทลำดับที่หนึ่ง เพื่อให้จัดการเรื่องนี้แทน เขาจะหัวเราะเยาะเอานะคะ” เพราะฉันลงเล่นเองสนุกกว่า
“ไม่ใช่เด็กกำพร้าสักหน่อย น้องสาวของพี่ต่างหาก” พี่เฮนรี่ยกมือขึ้นลูบหัวด้วยความเอ็นดู
“ค่ะ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ไอรีนขอจัดการเองนะคะ”
“น่าสนุกจัง...สเตฟานเป็นคนแรกที่ทำให้เจ้าหญิงไอรีนอยากลงไปเล่นด้วยเลยเหรอเนี่ย” พี่เฮนรี่ถึงกับเอ่ยปากแซว เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเรียกได้ว่าปิดบังตัวตนอย่างดีเยี่ยมมาเสมอ
“มันจะสนุกขึ้นไปมากกว่านี้อีกนะคอยดูสิ” ริมฝีปากบางฉีกยิ้มให้พี่ชาย หมอนั่นเป็นคนแรกจริง ๆ ที่ทำให้ฉันอยากจะอ้วกเวลาเห็นหน้า
หลายวันต่อมา
ณ คฤหาสน์ของคาร์พาเธีย
เอี๊ยด!
รถหรูจอดนิ่งหน้าประตูรั้วสูง กระจกเลื่อนลงให้เห็นผู้เป็นเจ้าของรถ ผู้ดูแลประจำคฤหาสน์คาร์พาเธียตรงเข้ามาหยุดยืน สายตาจ้องมองหญิงสาวอย่างคุ้นหน้าค่าตา
“คุณผู้หญิงมาพบใครครับ”
“พบคุณสเตฟานค่ะ”
“คุณสเตฟานยังไม่กลับเข้ามาครับ” เมื่อได้ยินเช่นนั้นสายตาก็มองไปยังเลขบอกเวลาหน้ารถทันที ตอนนี้ 23.30 น. นี่ฉันก็กะเวลาให้เสียมารยาทรบกวนเวลานอนของเขาสุด ๆ แล้วนะ แต่ที่ไหนได้หมอนั่นยังไม่กลับเข้ามา
“ถ้างั้น...ใครก็ได้ที่จะให้เจ้าหญิงแห่งคาเลนเซียเข้าพบ”
“...” ผู้ดูแลทำหน้างุนงง เพราะชื่อนี้น้อยคนที่จะรู้จัก
“ลองแจ้งไปที่เจ้านายคุณสิคะ เผื่อจะมีใครตื่นมารับฉันได้”
“...” ดูเขาจะไม่เชื่อแฮะ ก็แน่ละเวลาแบบนี้คนปกติที่ไหนจะมาขอพบคนอื่นกัน
มือเล็กเอื้อมไปหยิบของสิ่งหนึ่งออกจากกระเป๋า เข็มกลัดเพชรสีชมพูเรียงเป็นรูปดอกกุหลาบด้านบนประดับมงกุฎสัญลักษณ์ของราชวงศ์ ผู้ดูแลของตระกูลเก่าแก่ย่อมรู้ดีว่าของตรงหน้าคือของจริง
“ขอโทษครับ ขอโทษที่ผมเสียมารยาทครับ!” เขาก้มหัวกล่าวขอโทษแก่ฉัน
“ไม่เป็นอะไรค่ะ คนไม่รู้ยังไงก็ไม่ผิด” พูดจบก็ส่งยิ้มหวานใจดีให้อีกฝ่ายไม่รู้สึกผิดไปมากกว่านี้ รถยนต์ขับผ่านเข้ายังด้านในอย่างง่ายดาย แสงไฟของคฤหาสน์เปิดสว่างขึ้นพร้อมกัน และผู้เป็นเจ้าของที่นี่ก็ลงมาต้อนรับฉันอย่างพร้อมเพรียง
30 นาทีต่อมา
“ขอโทษที่ต้องให้เจ้าหญิงเสียเวลานะครับ แต่ว่า...” ชายวัยกลางคนพูดด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
“ติดต่อคุณสเตฟานไม่ได้สินะคะ” ใบหน้าสวยส่งยิ้มให้กับทุกคนที่ยืนอยู่
“เจ้าหญิงกลับไปพักก่อนก็ได้ครับ พรุ่งนี้ผมจะพาลูกชายเข้าพบโดยด่วน ไม่ทำให้เจ้าหญิงต้องระ!”
“ไม่เป็นอะไรค่ะ เดี๋ยวเราตามหาเขาเอง” ร่างบางลุกขึ้นยืน ภายในใจแทบใกล้ระเบิดออกมา เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ทำให้ใครรู้สึกผิดเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขายังใช้ชีวิตแบบปกติและมีความสุข
“ผมขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ” พ่อของสเตฟานเดินเข้ามาหยุดยืนใกล้ฉัน เขาถามด้วยความสุภาพ
“คะ”
“ลูกชายของเราทำอะไรให้เจ้าหญิงไม่พอใจหรือเปล่าครับ” สีหน้าผู้เป็นพ่อแม่แสดงความกังวลอย่างชัดเจน แต่ฉันยังคงเอาแต่ยิ้ม
“ไม่ใช่ไม่พอใจค่ะ แต่ทำให้สนใจต่างหาก” พูดทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นแล้วเดินออกจากคฤหาสน์ตรงไปยังรถของตัวเองทันที
ชายหญิงผู้เป็นพ่อและแม่ต่างหันมองหน้ากัน ก่อนที่ทั้งคู่จะรีบติดต่อหาลูกชายตัวเองไม่หยุด ถึงหญิงสาวคนนั้นจะบอกว่าสนใจ แต่สายตาของเธอมันไม่ได้สื่อความหมายว่าสนใจในเชิงชอบเลยสักนิด
(ด้านสเตฟาน)
ณ คอนโดส่วนตัว
ครืด!! ครืด!!
โทรศัพท์สั่นไม่หยุดมาหลายนาที จำนวนสายที่แสดงบนหน้าจอหลายสิบสายไม่สามารถทำให้ผู้เป็นเจ้าของสนใจมันเลยสักนิด ถ้าให้เทียบระหว่างเรือนร่างเปลือยสะกดสายตากับโทรศัพท์ เขาย่อมสนใจที่สิ่งล่อตาล่อใจตรงหน้านี้มากกว่า
“อะ อื้อ! โทรศัพท์ของพี่ดังหรือเปล่าคะ เหมือนหนูได้ยิน...” เสียงหวานเอ่ยขึ้นในขณะที่เอวบางขึ้นควบขย่มท่อนเอ็นแข็ง ใบหน้าสวยที่หันไปมองตามความรู้สึกเหมือนได้ยินอะไรบางอย่างสั่นถูกมือหนาแตะข้างแก้มบังคับให้หันมามองที่เขา
“อย่าละสายตาจากพี่สิครับเด็กดี” เสียงแหบพร่าเอ่ยพูด นัยน์ตาคมไล่มองร่างบางที่นั่งคร่อมบนตัว
“อื้อ! หนูขอโทษค่ะ ยกโทษให้หนูนะคะ” สะโพกบางขยับโยกสายตาจ้องมองไปที่คนตัวสูง เสียงหวานเอ่ยอ้อนทำให้คนตรงหน้าเผยยิ้มอย่างพอใจ
“ไม่ให้อภัยครับ ต้องโดนทำโทษนะ” สิ้นเสียงคนตัวสูงก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมจับร่างบางนอนราบไปบนที่นอน ขาเรียวอ้ากว้างออกตอบรับอย่างอัตโนมัติ ไม่มีใครสนใจเสียงสัญญาณที่กำลังสั่นอยู่บนโต๊ะ พวกเขาสนใจแค่เซ็กซ์ของกันและกันเท่านั้น
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
ร่างสูงในชุดคลุมอาบน้ำเดินมาหยิบบุหรี่ขึ้นใช้ริมฝีปากเม้มคาบเอาไว้ไฟแช็กในมือถูกจุดติดไฟ ควันบุหรี่พ่นออกจากริมฝีปากแดงลอยขึ้นกลางอากาศ สายตาจ้องไปยังคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่บนเตียง
ครืด!!
เสียงโทรศัพท์สั่นทำให้เขาละสายตาจากเธอ เบอร์โชว์บนหน้าจอคือสายจากทางบ้าน สเตฟานเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมากดรับสาย
(แกอยู่ที่ไหน!) เสียงปลายสายดังขึ้นราวกับกำลังตะโกนทำให้เขาต้องยกโทรศัพท์ห่างออกจากหู
“ทำไม”
(มีคนมาหาลูก) เสียงของแม่เป็นฝ่ายพูดกับเขาเอง ดูเหมือนว่าจะเปิดลำโพงสินะ
“มาหา...ใครมา”
(เจ้าหญิง)
กริ้ง ~
เสียงกริ่งห้องพักดังแทรกได้จังหวะ กลบสิ่งที่แม่เขากำลังพูด
“แม่พูดอีกทีใครนะ” เขาถามกลับพร้อมดับบุหรี่ในมือ แล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอนตรงไปยังประตู
(เจ้าหญิงแห่งคาเลนเซีย พระองค์มาพบแก)
“เจ้าหญิง...” แต่ชื่อที่ไม่คุ้นหูนี่ทำให้เขาถึงกับขมวดคิ้ว เชื้อพระวงศ์มาพบ หึ! ยายเด็กกำพร้านั่น
(แกไปทำอะไรไว้ฉันไม่รู้นะ แต่เหมือนพระองค์ต้องการพบแกตอนนี้เธอน่าจะกำลังไปหาแกอยู่)
“เธอรู้เหรอครับว่าผมอยู่ที่ไหน”
(ระดับพระองค์ไม่ต้องบอก เธอก็หาแกไม่ยากหรอก)
กริ้ง ~ เสียงกริ่งดังขึ้นอีกครั้ง
“มาแล้วมั้งเนี่ย” สเตฟานพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปเปิดประตู โดยที่เข้าไม่คิดจะมองผ่านรูตาแมวสักนิดว่าใครมา
แอด ~ ประตูเปิดออก
สายตาของผู้เป็นเจ้าของห้อง และผู้มาเยือนสบสายตากัน ริมฝีปากบางยกยิ้มให้กับคนตรงหน้า สเตฟานขมวดคิ้วไล่สายตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ไหนเจ้าหญิง มีแต่เด็กกำพร้าอยู่ตรงหน้า” เขาพูดกับคนในสาย สายตาก็มองเด็กกำพร้าที่พูดถึงด้วยสายตาดูถูก
(เฮ้อ...เจ้าหญิงน่ะ ผมยาวสีดำ และมีไฝใต้ตาขวา)
“...” เขาไล่สายตามองยังบุคคลตรงหน้า ทุกอย่างที่พ่อเขาพูดมามันตรงทั้งหมด
(ถ้าตรง...นั่นแหละเจ้าหญิงลำดับที่สาม เจ้าหญิงแห่งคาเลนเซีย)
“...หึ” เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็หลุดขำในลำคออย่างไม่เชื่อตัวเอง นิ้วมือกดวางสายแล้วความสนใจมาที่ผู้หญิงตรงหน้า
“รบกวนเวลาหรือเปล่าคะคุณสเตฟาน” เสียงหวานเอ่ยถาม แต่เธอไม่รอฟังคำตอบเดินผ่านเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะ
หมับ! มือหนาคว้าต้นแขนเล็กเอาไว้ ทำให้สองเท้าหยุดก้าวเดิน
“ออกไป” เสียงทุ้มต่ำพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“เฮ้...ไม่เหมือนที่พูดเอาไว้นี่” ฉันตอบกลับเขาทั้งที่สายตายังมองตรงไปข้างหน้า
“จะบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงเหรอ”
“ฉันไม่ได้พูดเลยนะ คนของนายต่างหากที่พูด” ความยียวนที่ทำให้อีกฝ่ายเริ่มโมโห
“...” สเตฟานออกแรงเพียงเล็กน้อยก็ดึงตัวฉันถอยหลังกลับมายืนตรงหน้าเขา
ตึก ตึก ตึก! สองเท้าย่ำเดินตามแรงดึงกลับมายืนที่เดิม
“อย่ารุนแรงกับผู้หญิงนักสิคะ หรือเป็นที่สันดานเลยทำจนชิน”
“ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นฉันรุนแรงแค่เวลาอื่น แต่ถ้าเธอเหรอ...ทำไปก็ตายเปล่า” แรงบีบที่แขนทำให้ขึ้นรอยแดงทีละนิด
“...” ต่อให้ถูกกระทำ แต่ฉันก็ไม่แสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาให้ได้เห็น
“นี่ยายเด็กขี้โกหก กลับไปอยู่ในที่ของตัวเองไป แค่เด็กกำพร้าอย่ามายกตัวเองขึ้นเป็นเจ้าหญิง ทุเรศ” สเตฟานพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“...”
“พยายามดีนี่ใช้คำพูดแบบไหนล่ะที่ทำให้บ้านฉันเชื่อได้ สภาพเด็กดูไม่ได้แบบนี้เนี่ยนะเจ้าหญิง หึ!”
“...”
“ออกตัวเรื่องของเพื่อน พอบอกว่าให้เอาเชื้อพระวงศ์มาคุยฉันถึงจะยอมคุยก็เลยสร้างเรื่องโกหกว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง แล้วยังเข้าใจว่าฉันทำเพื่อนเธอ...” สเตฟานโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ กลิ่นบุหรี่อ่อน ๆ ลอยมาจากตัว
“...” เห็นหน้าใกล้ ๆ แบบนี้แล้วมัน...
“ฉันเลือกนะ เลือกเยอะเลยละ...ถึงเพื่อนเธอจะชอบฉัน แล้วยอมทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะเล่นด้วยนี่ ไปมั่วกับคนอื่นแล้วอย่าโยนให้กันสิ”
“...” หมดความอดทนแล้วนะ
“ขนาดถ้าเป็นเธอแก้ผ้าต่อหน้า ฉันก็น่าจะ...ช่วยตัวเองแทนที่จะลงมือทำกับเธอ คงสนุกกว่า” ปากนี่มัน!
“พูดได้ดี สาระเลวดีจริง ๆ ปกติแค่เห็นหน้าก็จะอ้วกละ ยิ่งปากแบบนี้ยิ่งขยะแขยงจนไม่อยากหายใจร่วมโลกเลย”
พึ่บ! สิ้นเสียงสเตฟานออกแรงกระชากแขนเล็กเข้าหาตัว
“ก็ตายไปซะสิ”
“ฉันไม่ตายก่อนนายแน่”
“เป็นคนของควีนมาเรียแล้วคิดว่าไม่กล้าเหรอ”
“ก็ลองดู...” ริมฝีปากบางยกยิ้มอย่างท้าทาย
ติ้ง! เป็นจังหวะเดียวกันที่ประตูลิฟต์เปิดออก
ตึก ตึก ตึก! เสียงฝีเท้าดังขึ้นตามหลังเกิดจากคนจำนวนมากที่เดินออกมา
“ปล่อยมือจากเจ้าหญิงด้วยครับคุณสเตฟาน” เสียงหนึ่งดังขึ้น แต่เราทั้งสองคนก็ยังไม่ละสายตาจากกัน สเตฟานไม่ปล่อยแขนต่อให้ผู้ดูแลจะเข้ามาหยุดยืนซ้อนหลังฉันไว้แล้วก็ตาม
“บอกว่าไม่ต้องขึ้นมา ฟังไม่รู้เรื่องกันหรือไง” ถึงปากจะดุผู้ดูแล แต่ก็ยังยิ้มอย่างผู้ชนะให้กับคนตรงหน้า
“ขอโทษครับ แต่พวกเราปล่อยให้เจ้าหญิงขึ้นมาเพียงลำพังในช่วงเวลานี้ไม่ได้จริง ๆ” ยิ่งฟังสิ่งที่ผู้ดูแลพูด สเตฟานก็ดูเหมือนจะยังไม่เชื่อหูตัวเอง
“ปล่อยแขนฉันได้ละ ไอ้สกปรก”
พึ่บ! แขนเล็กสะบัดออกจากมือหนา สเตฟานไล่สายตามองไปยังกลุ่มคนข้างหลัง
“หึ...จริงเหรอเนี่ย” คนตัวสูงหยุดสายตามองมาที่ฉัน
“คงจะคุยกับฉันได้แล้วนะคุณสเตฟาน”
“...” ต่อให้เขารู้ว่าฉันอยู่สถานะไหน สายตาของคนตรงหน้าก็ไม่ได้แสดงความเกรงกลัวออกมาเลยสักนิด
“ฉันลดตัวลงมาขนาดนี้ ก็คงต้องคุยแล้วแหละ” พูดจบก็เดินเขาเข้าไปในห้องทันที ผู้ดูแลเดินตามเข้ามาติด ๆ แค่เริ่มก็สนุกแล้ว...
2 เดือนต่อมา ก่อนถึงงานแต่ง 1 อาทิตย์‘แถลงประกาศจากสำนักพระราชวัง เรื่องการลาออกจากราชวงศ์ของ ‘เจ้าหญิง เมอร์ลีอา คาเลนเซีย เจนนิวีพ’ รัชทายาทลำดับที่สามแห่งราชวงศ์อิตาลี พระองค์ประสงค์สละยศ และฐานันดรศักดิ์ของราชวงศ์ แต่พระองค์จะยังคงเป็นที่รู้จักของประชาชนในฐานะ เมอร์ลีอา เจนนิวีพ ทายาทของคิงและควีนแห่งราชวงศ์อิตาลี โดยอดีตเจ้าหญิงจะไม่ขอรับทรัพย์สมบัติในส่วนของรัชทายาททั้งหมด พระองค์ขอบริจาคแก่มูลนิธิทั่วประเทศ’ร่างบางยืนมองประกาศทางสำนักราชวังที่กำลังฉายทางหน้าจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่กลางห้องนั่งเล่น ใบหน้าของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าหญิงลำดับที่ 3 ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะชนครั้งแรก‘การลาออกจากราชวงศ์ของเจ้าหญิงเมอร์ลีอา คาเลนเซีย เจนนิวีพจะมีผลนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศต่อไป...พิธีสมรสของอดีตเจ้าหญิงคาเลนเซีย กับนายสเตฟาน คาร์พาเธีย ทายาทตระกูลคาร์พาเธียจะมีขึ้นในวันที่แปดเดือน... โดยพิธีจะจัดขึ้นเป็นการส่วนตัว มีเพียงญาติของทั้งสองและเพื่อนสนิทเพียงเท่านั้น’ “ไอรีนครับ...” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างใบหู พร้อมกับแขนแกร่งที่โอบกอดเอวบางจากข้างหลัง แล้ววางปลายคางลงบนไหล่“อะไรเหรอ” ฉันเอียงใบหน
“หยุดเลยนะ...”นิ้วเรียวชี้ใส่ร่างสูงที่คร่อมตัวอยู่ สเตฟานหยุดชะงัก นัยน์ตาคมจ้องมองใบหน้าสวย ฉันเอื้อมมือไปดึงเอาผ้าห่มมาคลุมร่าง แต่ยังไม่ทันที่มันจะได้เข้ามาคลุมตัว ก็ถูกเขาแย่งดึงออกจากมือแล้วโยนไว้ปลายเตียงพึ่บ!“ไอรีนครับ...” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ขาทั้งสองข้างพยายามหนีบเข้าหากัน แต่ก็ถูกมือของเขาจับมันอ้ากว้างออกตามช่วงลำตัวที่แทรกเข้ามา“ไม่ต้องเรียกเลย ปล่อย...” ฉันพยายามดึงเขาออก แต่ก็ถึงรวบจับข้อมือทั้งสองเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวของสเตฟานเขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ ส่วนกลางลำตัวเบียดชิดแนบเข้าหาจุดหวงแหน ทำให้รับรู้ได้ถึงความแข็งตัวที่คับแน่นอยู่ภายในกางเกง มืออีกข้างรั้งเอวบางไม่ให้ขยับหนี“...” สเตฟานใช้สายตามองไล่ทั่วร่างกายเปลือยตรงหน้า ทำเอาคนถูกมองถึงกับหน้าร้อนผ่าว“มองอะไร ไม่เคยเห็นหรือไง” ยิ่งพยายามดิ้นเท่าไร ก็ดูจะไร้ประโยชน์ เพราะสู้แรงเขาไม่ไหว“ไม่เคย...ไม่เคยเห็นตอนไอรีนหึงแล้วขู่เป็นลูกแมวแบบนี้” สิ้นเสียงสเตฟานก็ปล่อยมือออกจากเอวบาง แล้วสอดมือเข้ากลางหว่างขา“อือ! ม ไม่เอานะ”“เอาครับ เมียหึงต้องโดนตี”“ถ้าหึงต้องทุกครั้งเลยหรือไง”“ใช่ แ
ณ คฤหาสน์ตระกูลคาร์พาเธีย“ให้อาบน้ำให้มั้ย” สเตฟานถามขึ้นในขณะที่ฉันกำลังจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ“ไม่ต้อง”“ให้เข้าไปช่วยมั้ย”“ไม่” ฉันยังคงยืนยันอย่างหนักแน่น“ให้...” ยังไม่ทันจะพูดจบฉันก็แทรกขึ้นมาด้วยคำเดิม“ไม่”“ยังไม่ทันพูดอะไรเลย” คนตัวสูงเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับบ่นพึมพำ“ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่” ฉันกอดอกมองเขาอย่างรู้ทัน“มันออกทางสีหน้าขนาดเลยเหรอ”“ชัดเจน”“รู้ชัดขนาดนั้นเลย”“ใช่ แค่มองหางตาก็รู้แล้วว่าคิดอะไร”“แล้วรู้มั้ยว่ารักมากแค่ไหน”“...”สิ่งที่เขาพูดไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยิน แต่มันแปลกไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา หัวใจเต้นแรง สายตาจ้องมองร่างสูงที่เอื้อมมือโอบเอวบางดึงเข้ามากอด สเตฟานจรดริมฝีปากจูบลงบนหน้าผาก แล้วกดหัวฉันซบลงบนอกกว้าง“ฉันเหมือนหัวใจจะหยุดเต้นเลยนะตอนไอรีนพูดแบบนั้น”“...” มืออุ่นลูบหัวด้วยความอ่อนโยน เสียงหัวใจของเขาเต้นเป็นจังหวะดังใกล้หู“ไอรีนทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าทุกคน ทั้งที่ความจริงแล้วไอรีนก็แค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง มีความอ่อนแอไม่ต่างจากคนอื่น”“...” ฉันหยุดร้องไห้ไปได้แล้ว แต่ดูเหมือนว่ามันจะพร้อมไหลออกมาได้อีกครั้งตลอดเวลา“ขอโทษ...ตลอดเวลาที่ผ่
“...”ทุกอย่างเข้าสู่ความเงียบ ลัลลาเบลที่ดูจะยังคงช็อกกับเรื่องราวที่เดินขึ้น ฉันเดินเข้าไปใกล้แล้วยกมือสัมผัสข้างแก้มเนียนที่เริ่มขึ้นเป็นรอยนิ้วมือ“มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะที่ลัลลาเบลจะไปเที่ยวพูดให้ใครมองเราไม่ดี ว่าเป็นลูกเมียน้อยคุณพ่อควีนมาเรีย ไปเที่ยวบอกคนทั้งโรงเรียนว่าเราถูกเลี้ยงเอามาไว้ใช้ดูแลความสุขบนเตียงของผู้ชายตระกูลควีน”“...” เธอนิ่งไม่พูดอะไรออกมา ก้มหน้ามองพื้น“เธอบอกคนในโรงเรียนว่าเราเป็นโรคร้ายแรง อย่าเข้าใกล้ คลิปของเธอที่ตัดต่อหน้าเราใส่แทนถูกขายภายในกลุ่มลับของคนนอกโรงเรียน ภาพแอบถ่ายของเราตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าเธอก็เอาไปแจกพวกผู้ชายโรงเรียนอื่น”“...”“และลัลลาเบลก็คือคนเดียวที่เข้ามาเป็นเพื่อนด้วย แต่ก็ยังบอกกับคนอื่นว่าที่มาเป็นเพื่อนเพราะถูกบังคับจากตระกูลของควีน”“...”“ตลอดเวลาที่ผ่านมาลัลลาเบลบอกกับเราว่าพวกเขาไม่คบกับคนไร้ประโยชน์ ซึ่งเราไม่ได้สนใจคำพวกนั้น เพราะเราสนใจแค่ลัลลาเบล”“...”“ถึงพวกเขาจะไม่เคยพูดอะไรแบบนี้ออกมาตั้งแต่แรกก็เถอะ พวกเขาก็แค่ฟังจากเธอแล้วก็ตัดสินโดยที่ไม่เคยสัมผัสเรา...เขาเชื่อทุกอย่างที่เป็นลัลลาเบลบอก”“...หึ” เหมือนเธอจะ
วันต่อมา ณ โรงพยาบาลในเครือของตระกูลคาร์พาเธียห้องทำงานของสเตฟาน เวลา 16.00 น.“ลูกชายท่านกงสุลบาระก็ดูดีมากเลยนะ สมที่เป็นลูกชายท่านกงสุลใหญ่ประเทศญี่ปุ่นแล้วเหมือนว่าจะพึ่งเคยมาประจำที่อิตาลีด้วย อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชินสักเท่าไร” เนยถั่วทาลงบนขนมปังด้วยความบรรจง ปากเล็กเล่าถึงสิ่งที่ตัวเองพึ่งไปพบมาวันนี้ในช่วงเช้าฉันได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของราชวงศ์ต้อนรับท่านกงสุลจากประเทศญี่ปุ่น การออกทำหน้าที่เองโดยลำพังเริ่มเข้าที่เข้าทางไปในด้านที่ดี“...อืม” สเตฟานยังคงนั่งฟังอยู่เงียบ ๆแขนแกร่งยกขึ้นโอบไหล่เล็กแล้วใช้มือลูบไล้อย่างเบามือ อาการเริ่มออกทีละนิดแต่ก็ไม่ขัดในสิ่งที่ฉันกำลังเล่ากลับกันยังตั้งใจฟังอีกต่างหาก ซึ่งฉันก็รู้ดีว่าเขากำลังไม่พอใจที่พูดถึงผู้ชายคนอื่น“ลูกชายท่านกงสุลเป็นผู้ชายที่น่ารักมากเลยนะ พูดครับทุกคำเลย”“...อือ” เสียงทุ้มตอบกลับในลำคอ ในขณะที่ก็เริ่มออกแรงดึงตัวฉันให้เข้ามาชิดเขามากขึ้น“เขาชวนฉันไปเที่ยวด้วย อะ อ้าปาก” ขนมปังถูกจ่อเข้าใกล้ริมฝีปาก แต่เขาก็ยังเอาแต่นิ่งแล้วมองหน้าฉัน“...” มีคำถามอยู่ในสายตาคู่นั้น แต่ก็ไม่ถามออกมา ไม่โวยวาย ไม่เสียงดังใส่ฉัน แต่ก็
เหนือพันธะ 35 : พี่ชาย——————✧◦♚◦✧——————“ไอรีนมานั่งนี่สิ” พี่เฮนรี่ตบมือบนเบาะข้างกาย“นั่งตรงนี้ดีกว่าไอรีน ตรงนั้นแอร์มันโดนเดี๋ยวจะไม่สบายนะครับ” สเตฟานดึงมือฉันให้นั่งลงข้างเขาซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพี่เฮนรี่“ห้ามเรียกชื่อไอรีน ต้องเรียกเจ้าหญิง” พี่เฮนรี่พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบจนน่ากลัว“เวลาอยู่ข้างนอกผมก็เรียกว่าเจ้าหญิงครับ แต่ถ้าอยู่ด้วยกันแค่สองคน...ก็จะเรียกไอรีน” สเตฟานตั้งใจเน้นคำว่า แค่สองคน อย่างชัดเจน“...” พี่เฮนรี่จ้องหน้าผู้ชายฝั่งตรงกันข้ามด้วยสายตาที่คาดเดาอะไรไม่ได้“...” อีกฝ่ายเองก็มองกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นกัน“เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในห้อง ผู้ชายสองคนถอนสายตามามองที่เธอพร้อมกันแล้วรีบลุกขึ้นเดินเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง“รู้สึกไม่สบายใจเหรอไอรีน ไปพักในห้องนะ” สเตฟานที่อยู่ใกล้ตัวฉันที่สุดจึงเข้ามาประชิดตัวได้ก่อน“เอามือออกจากไอรีน” พี่เฮนรี่เข้ามาดึงตัวฉันออกจากมือเขาแล้วดึงเข้าไปก่อนพึ่บ!“ภรรยาผม ผมดูแลเองครับ” พูดจบก็ดึงตัวฉันกลับเข้ามาไว้ในอ้อมกอดหมับ!“ยังไม่แต่งงาน แล้วงานหมั้นก็คือสิ้นปี ถึงจะประกาศตอนที่ผมไม







