Share

ตอนที่ 3.

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-29 20:00:05

สี่ปีก่อน...

ปัง!! ปังๆ!!เสียงปืนดังสนั่นทั่วโกดังในยามค่ำคืนที่เงียบสงัด และโกดังเป็นโกดังที่ใกล้กับชุมชนและตลาดแถบสลัมติดชายน้ำลำคลองชลประทานของหมู่บ้านแห่งนี้ ชายชุดดำกลุ่มใหญ่สองกลุ่มที่เต็มไปด้วยปืนผาหน้าไม้อาวุธครบมือต่างพากันสาดกระสุนฟาดฟันอาวุธใส่กันและกัน สองชายหนุ่มที่ดูเหมือนกันจะเป็นหัวหน้ายืนสูบบุหรี่มวนใหญ่จ้องหน้ากันไปมาท่ามกลางผู้คนที่ต่อยตีกันอย่างนิ่งๆ

เมื่อมวนบุหรี่ถูกเผาไหม้มาถึงก้านม้วนก็ถูกโยนถึงลงพื้นก่อนที่หัวหน้าทั้งสองจะเดินเข้าหากันพร้อมกับแลกหมัดมวยใส่กันไม่หยุดยั้ง อาวุธที่ซ่อนติดตัวมาถูกควักเอาออกมาใช้ มีดสั้นของทั้งสองฟาดฟันกันไปมาจนรอยเลือดติดที่คมมีด ทั้งหัวหน้าและลูกน้องต่างทุลักทุเลกับความต่อสู้กันไม่หยุด

“คนของกูเยอะกว่า...ยอมเถอะน่าไอ้แฟรงค์!”

“มึง..ทรยศกู!”

“ก็แค่ขายท่าเรือนิดๆ หน่อยๆ จะหวงอะไรนักวะ”

“กูไม่เคยให้อภัยคนทรยศ”

ทั้งสองพูดคุยกันทั้งๆ ที่คมมีดต่างจ่อไปที่คอของอีกฝ่าย ก่อนจะเข้าบรรเลงต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย แฟรงค์ได้ทีก็พลิกตัวกลับรั้งชายผู้ที่ทรยศยอมเป็นปรปักษ์กับเขาลงกับพื้นพร้อมเอาปลายมีดคมจ่อที่คอคนผู้นั้นอย่างเหนื่อยหอบ สายตาคมจ้องมองคนที่นอนอยู่ข้างใต้อย่างดุดันน่ากลัว

“หึๆ ...พวกมึงน้อยกว่ากูนะไอ้แฟรงค์ มึงอย่าลืม”

ปัง!! เสียงปืนนัดหนึ่งดังขึ้นหลังจากชายผู้ทรยศที่นอนกองกับพื้นพูดจบ วิถีกระสุนแล่นไปยังร่างของแฟรงค์เข้าเต็มๆ จนเขาล้มลงไปกองกับพื้น มือหนากุมที่หน้าท้องของตนคิ้วขมวดแน่นด้วยความรู้สึกเจ็บปวดร้าวแล่นไปทั่วร่าง

“นาย!! เฮ้ย!! ถอยก่อน!!”

ปัง!! เสียงปืนอีกนัดดังขึ้นเมื่อลูกน้องคนสนิทของแฟรงค์หันไปเห็นคนที่ยิงเจ้านายของตน ธาวินก็ชิงลั่นไกก่อนที่มือปืนคนนั้นจะลั่นไกซ้ำไปที่แฟรงค์อีกครั้ง พร้อมกับรีบเข้าไปพยุงผู้เป็นนายให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เมื่อแฟรงค์ลุกขึ้นได้ก็คว้าปืนจากมือของลูกน้องคนสนิทก่อนจะเป่ากระสุนเข้าที่หัวของชายผู้ทรยศอย่างเลือดเย็น เลือดสีแดงกระเด็นเลอเปอะเปื้อนตัวของเขาและลูกน้องหนุ่ม

“หนีก่อนเถอะครับนาย พวกมันพาพวกมาเพิ่ม...ลูกน้องเราก็เหลือไม่กี่คนแล้ว”

ลูกน้องคนสนิทพูดขึ้นก่อนที่แฟรงค์จะพยักหน้า เพราะเขาเองก็ใกล้จะหมดสติเต็มทน ก่อนที่ลูกน้องคนสนิทของเขาจะหันไปสั่งให้ลูกน้องคนอื่นๆ แยกย้ายกันหนี

“ไอ้ยีนส์! มาช่วยกูพยุงนายเร็ว!” ยีนส์หันมาตามเสียงเรียกของเพื่อนที่พยุงผู้เป็นนายอยู่ ก่อนที่สายตาของเขาจะหันไปเห็นชายคนหนึ่งกำลังชี้กระบอกปืนมาทางหัวหน้าของเจ้านาย ร่างกายไปไวกว่าความคิดทันทีที่ชายคนนั้นลั่นไกปืนด้วยแรงเฮือกสุดท้าย

ปัง!!!

“ไอ้ยีนส์!!!”

มือซ้ายของแฟรงค์ได้ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดจนวินาทีสุดท้าย ร่างของยีนส์ที่บังตัวเจ้านายของเขาให้รอดจากกระสุนนัดนั้นก็ทรุดลงต่อหน้าต่อตา ทั้งแฟรงค์และลูกน้องมือขวารีบคว้าร่างของยีนส์ที่กำลังจะล่วงลงพื้นไว้ ก่อนที่แฟรงค์จะยกปืนขึ้นยิงที่ชายคนนั้นซ้ำจนแน่นิ่งไป

“มึงทำใจดีๆ ไว้นะ”

“ไอ้...วิ..วิน...พานาย..ไป..”

ยีนส์พูดสั่งเสียเพื่อนเสียงสั่น ก่อนจะสิ้นใจไปในที่สุด ธาวินทำได้แค่กำมือเพื่อนของตนไว้แน่นก่อนจะยอมตัดใจทิ้งร่างของเขาไว้แล้วหันกลับไปพาแฟรงค์หนี เพราะทั้งตำรวจและคนของศัตรูเริ่มกรูเข้ามาหาพวกเขาแล้ว

ทั้งสองเจ้านายลูกน้องกอดคอกันฝ่าวงล้อมของศัตรูออกไปอย่างทุลักทุเล ทั้งวิ่งทั้งหลบ...แม้พวกเขาจะไม่เคยแพ้เลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้มันเป็นเพราะกลอุบายของสหายจึงได้พลาดท่าเสียทีจนผู้เป็นนายบาดเจ็บ

ทั้งสองวิ่งหนีเข้ามาในชุมชนตลาดร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยเลือดล้มลุกคลุกคลานเข้ามาในตลาดที่ตอนนี้ทุกคนต่างปิดบ้านเงียบเชียบหมดแล้ว แฟรงค์เริ่มไม่ได้สติเพราะเสียเลือดมากบวกกับความเหนื่อยล้าที่วิ่งหนีมาทั้งที่โดนยิง เขาล้มลงหน้าบ้านของใครคนหนึ่งที่แม้จะปิดประตูเงียบแต่ก็ยังเปิดไฟอยู่

“หาพวกมันให้เจอ!!”

เสียงคนที่วิ่งตามพวกเขาดังอยู่ไกลๆ แฟรงค์พยายามประคองสติแล้วยันตัวลุกขึ้นโดยมีธาวินช่วยพยุง ก่อนที่ทั้งสองจะคลานเข้าไปหลบหลังเคาน์เตอร์หน้าบ้านหลังนั้นอย่างเงียบๆ เสียงฝีเท้าหลายเท้าวิ่งผ่านพวกเขาไป ทั้งสองนั่งหอบหายใจพิงประตูบ้านหลังนั้น

“มึง...หนีไป...ทิ้งกูไว้”

“ไม่ได้ครับนาย...ถึงผมจะเป็นลูกน้องแต่นายก็เป็นเพื่อนผม และยังเป็นผู้มีพระคุณ”

“กูบอกให้ไป...เอกสาร...มอบอำนาจอยู่ที่โต๊ะทำงาน...”

“ไม่ครับ...ครั้งนี้ผมขอขัดคำสั่ง...ถ้าจะตายก็ตายด้วยกัน”

แอ๊ดดด... เสียงประตูบ้านไม้เปิดออกมาก่อนจะมีเด็กสาววัยรุ่นโผล่หน้ามาดูพวกเขา ดวงตากลมโตของเธอเบิกกว้างมองทั้งสองคนที่นั่งจมกองเลือด เธอรีบเปิดประตูให้กว้างขึ้นแล้วรีบวิ่งไปบอกผู้เป็นพ่อ

“พ่อๆ มีคนเจ็บหนักเลือดท่วมตัวเลย”

“ที่ไหน...ล้อพ่อเล่นหรือเปล่า?”

“หน้าบ้านค่ะพ่อ มีตั้งสองคน...เลือดเต็มเลย”

ชายวัยกลางคนรีบวิ่งออกมาดูตามที่ลูกสาวบอกก่อนจะตกใจเมื่อเห็นดังที่ลูกสาวตัวเองว่า เขารีบเข้าไปดูทั้งสองคนก็ถึงกับทำหน้าเครียด

“พวกคุณไปโดนอะไรมา”

“เฮ้ย!! กลับไปหาใหม่ มันต้องอยู่แถวนี้แน่! มันหนีไปได้ไม่ไกลหรอก!”

ชายวัยกลางคนชะเง้อมองตามเสียงจากไกลๆ ก่อนจะหันกลับมาหาทั้งสองคนที่นั่งหอบหายใจแรงใกล้จะหมดสติเต็มทน เขาจึงตัดสินใจช่วยพยุงทั้งสองโดยมีลูกสาวคอยช่วยเปิดประตูบ้านให้อีกแรง

“พวกคุณคงโดนตามมา เข้าไปข้างในก่อนเถอะ เพื่อนของคุณจะหมดสติอยู่แล้ว”

“แต่....”

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว แผลของคุณก็ใช่เล่น เร็วเข้า”

ธาวินยอมพยักหน้ารับแต่โดยดีก่อนจะรีบพากันเข้าบ้านไม้เก่าๆ นั้น ผู้เป็นลูกสาวรีบปิดประตูทันทีก่อนที่คนเหล่านั้นจะวิ่งมาทางหน้าบ้านของเธออีกครั้ง แต่เพราะความที่บ้านของเธอยังคงเปิดไฟในบ้านอยู่ คนพวกนั้นจึงได้เดินมาเคาะประตู ทำเอาทั้งสี่คนมองหน้ากันไปมา

ก๊อกๆ

“มีใครอยู่ไหม? เห็นเปิดไฟอยู่ เปิดประตู!”

เสียงพูดอย่างเกรี้ยวกราดพร้อมเคาะประตูรัวๆ ชายวัยกลางคนจึงพาพวกเขาขึ้นไปหลบอยู่ที่มุมบันไดทางขึ้นชั้นสอง ก่อนจะรีบถอดเสื้อที่เลอะเลือดออกแล้วคลุมตัวเองด้วยผ้าขาวม้าเดินมาเปิดประตูกับลูกสาว

“มีอะไรหรือครับ?”

“มีใครมาขอความช่วยเหลือลุงไหม?”

ชายฉกรรจ์คนหนึ่งถามขึ้นพร้อมกับมองชายวัยกลางคนตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองลูกสาวของชายวัยกลางคนที่ยืนหลบและแอบมองอยู่ด้านหลัง ก่อนที่จะสอดส่องสายตาเข้าไปในบ้านของพวกเขา สายตาของชายฉกรรจ์มองไปยังพื้นที่มีรอยเลือดอย่างนึกสงสัย

“เลือดอะไร? อย่าบอกนะ...”

“อ๋อ เลือดหมูน่ะครับ ผมกำลังจะเตรียมของขายพรุ่งนี้ เอามันออกมาชำแหละแล้วเอากลับเข้าตู้เย็นน่าจะเลอะตอนนั้น”

“แน่นะ?”

“ทำไมหรือครับ? พวกคุณหาใครหรือครับ? แล้วหาทำไม?”

“ไม่ต้องอยากรู้เยอะ...ไปพวกเรา!”

พอชายวัยกลางคนถามสวนกกลับ พวกเขาถึงกับทำหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนจะตอบแบบปัดๆ แล้วยอมเดินจากไปแต่โดยดีเพราะไม่อยากให้ชายวัยกลางคนถามอะไรมากมายอีก สองพ่อลูกมองคนเหล่านั้นวิ่งไปจนลับตาก็ถึงกับถอนหายใจแล้วรีบปิดประตูลงทันที ทั้งสองพ่อลูกเดินไปดูชายหนุ่มทั้งสองที่ยังคงนั่งเจ็บปวดอยู่ตรงบันได

“พวกคุณไปหาหมอดีกว่าไหมครับ?”

“ยังไปตอนนี้ไม่ได้ครับ...ยังก็ขอบคุณลุงมาก...พวกผมรอดไปได้จะกลับมาตอบแทน”

“เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ เพื่อนคุณน่าจะอาการหนักนะ ทำอะไรสักอย่างก่อน...พาเขาขึ้นไปข้างบนสิ”

ธาวินพยักหน้าก่อนจะพยุงแฟรงค์ขึ้นไปข้างบนตามที่ชายวัยกลางคนบอก ชายวัยกลางคนรีบเดินลงไปหาผ้าและกะละมังใส่น้ำขึ้นมาพร้อมกับบอกให้ลูกสาวไปเอากล่องยาตามมา

“อย่างน้อยก็ทำแผลก่อนเถอะ...น้ำหวานถอดเสื้อคนที่หมดสติแล้วห้ามเลือดเร็วลูก”

“ห้ามยังไงล่ะพ่อ หนูทำไม่เป็น”

“ถอดเสื้อเขาออกก่อนแล้วเช็ดเลือด”

ผู้เป็นลูกสาวพยักหน้าทั้งที่ยังคงทำหน้าเครียดก่อนจะรีบถอดเสื้อของแฟรงค์ออก ส่วนผู้เป็นพ่อหันไปทำแผลให้ธาวิน เมื่อน้ำหวานถอดเสื้อเขาออก็ถึงกับตกใจ แผลที่เหมือนกับโดนมีดบาดเต็มตัวไปหมด ซ้ำที่ท้องที่ที่เลือดออกเยอะก็เหมือนเป็นรู

เธอพยายามตั้งสติก่อนจะเอาผ้าชุบน้ำเช็ดเลือดของเขาออก เมื่อผู้เป็นพ่อทำแผลให้ธาวินเสร็จก็หันมาทำแผลที่พอจะทำได้ให้แฟรงค์ อย่างน้อยก็อาจจะช่วยห้ามเลือดได้บ้าง

“เพื่อนคุณ...โดนยิงมาหรือครับ?”

“....ครับ”

“ผมไม่ใช่หมอช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่พอจะพันแผลได้...เดี๋ยวผมไปส่งที่โรงพยาบาล ไม่งั้นเขาเสียเลือดตายแน่ๆ”

“...ได้ครับ”

“แต่รถที่ผมมีเป็นรถซาเล้งเก่าๆ อาจจะสะเทือนแผลไปบ้างก็อดทนนะครับ”

ธาวินพยักหน้ารับแล้วมองชายวัยกลางคนคนนั้นจะทำแผลให้เจ้านายของเขา เมื่อทำแผลเสร็จก็ได้พาพวกเขาลงไปยังชั้นล่าง และออกทางประตูหลังบ้านที่มีรถซาเล้งจอดอยู่

พวกเขาช่วยกันแบกร่างของแฟรงค์ที่ไม่ได้สติขึ้นไปนอนบนที่วางของรถพ่วงข้างโดยมีธาวินและลูกสาวของเขานั่งช่วยประคองอยู่ ก่อนที่ชายวัยกลางคนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกไปโผล่อีกซอยด้านหลังตลาด

“ผมขอถามชื่อคุณได้ไหมครับ?”

“อ๋อ...ผมชื่อวินัยครับ...เคยเป็นตำรวจเก่าแต่ไม่มียศอะไรหรอกนะ”

“...ครับ...แล้วทำไมถึงไม่เป็นตำรวจต่อละครับ”

“ลูกสาวผมอยู่คนเดียวน่ะ ภรรยาผมเสียผมก็ออกมาขายกาแฟเพราะตอนนั้นลูกสาวยังเล็กมากไม่มีคนดูแล”

“อย่างนี้เองหรอครับ...ผมจะกลับมาตอบแทนแน่”

“ไม่เป็นไรๆ ชีวิตคนจะให้มองข้ามได้ยังไง ช่วยได้ก็ช่วย”

วินัยพูดอย่างยิ้มๆ ด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ ก่อนที่รถซาเล้งของเขาจะแล่นเข้าไปยังโรงพยาบาลที่ธาวินบอกให้เลี้ยวเข้าไป ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ถึงก่อนโรงพยาบาลของชุมชน วินัยจอดรถหน้าห้องฉุกเฉินก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปบอกบุรุษพยาบาลที่เข้าเวร

เหล่าพยาบาลและบุรุษพยาบาลรีบเข็นเตียงมายังรถซาเล้งเก่าๆ นั้นแล้วมองหน้ากันไปมาเมื่อเห็นหน้าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่พวกเขาจะรีบช่วยพยุงร่างของแฟรงค์ขึ้นไปนอนบนเตียงเข็นแล้วรีบเข็นเข้าห้องฉุกเฉินไป ธาวินหันกลับไปมองวินัยพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ มือยังคงกุมที่แผลของตนแล้วเดินเข้าไปหาเขา

“ขอบคุณมากนะครับ..ผมเป็นหนี้บุญคุณพวกคุณแล้ว”

“ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ ถึงมือหมอก็ดีแล้ว”

“พ่อเท่ห์มากเลย หวานรักพ่อที่สุด”

ผู้เป็นลูกสาวยิ้มให้พ่อพร้อมกับกอดพ่อของตนอย่างภาคภูมิใจ ผู้เป็นพ่อก็กอดตอบลูกสาวของตนพร้อมกับหัวเราะ ธาวินมองสองพ่อลูกอย่างยิ้มๆ ดูก็รู้ว่าวินัยรักลูกสาวของเขามากแค่ไหน

“ลูกสาวอายุเท่าไหร่หรือครับ?”

“16 ครับ กำลังเรียนม.ปลายอยู่เลย แต่เจ้าลูกคนนี้ไม่ดื้อเลย ไม่ติดเพื่อน ไปเที่ยวก็ไม่ไป”

“อ๋อ...ยังเด็กอยู่เลยนะครับ”

“ครับ...ผมถึงเป็นห่วง”

“คุณวินัยจะกลับก่อนก็ได้นะครับ รบกวนคุณสองพ่อลูกมามากแล้ว”

วินัยพยักหน้าอย่างยิ้มๆ ก่อนจะตบบ่าของธาวินเบาๆ น้ำหวานเองก็ละจากกอดแล้วยกมือไหว้ธาวินเพื่อเป็นการบอกลา เมื่อสองพ่อลูกกลับบ้านไปแล้วเขาก็เข้าไปรักษาแผลตามปกติ

โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลที่เจ้านายของเขาบริจาคเงินช่วยเหลือเยอะ จึงไม่แปลกที่เหล่าพยาบาลหรือหมอจะจำพวกเขาได้

พอผ่านพ้นคืนนั้นไป สองพ่อลูกก็มาเยี่ยมพวกเขาทุกวันซ้ำยังเอาของฝากมาให้ ผู้เป็นลูกสาวก็ช่วยดูแลแฟรงค์ป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดตัวตั้งแต่ที่เขายังไม่ฟื้นจนเขาฟื้น

พอพวกเขาดีขึ้นและเรื่องรู้ถึงหูของคุณหญิงผู้เป็นแม่ของแฟรงค์ก็มีคนมารับไปรักษาที่โรงพยาบาลใหญ่ โดยไม่ทันได้บอกลาพวกเขาเลยด้วยซ้ำ ทิ้งแต่กระดาษโน้ตเล็กๆ ไว้ให้ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่เคยติดต่อมาเลย ทั้งที่ทิ้งเบอร์โทรที่อยู่ไว้ หลังจากหายดีแฟรงค์ก็ไปหาที่บ้านหลังเดิมของสองพ่อลูก แต่พวกเขาก็ย้ายออกไปเสียแล้ว...

...จนกระทั่ง...มาพบกับลูกสาวของเขา...ในงานประมูล...

.

.

.

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
พี่แฟรงค์ต้องช่วยพ่อของน้องนะ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • Black Dessert ขนมหวานจานโปรด   ตอนที่ 31.

    น้ำหวานยิ้มออกมาอย่างดีใจ เมื่อได้ยินเขารับปากว่าจะไม่พรากชีวิตคนอื่นอีก แฟรงค์เองก็ยิ้มเจื่อนๆ ตอบกลับไปเท่านั้น ทั้งที่ภายในหัวของเขากำลังคิดวุ่นวายกับเรื่องพ่อของเธออยู่“งั้น...ฉันขอไปเข้าห้องน้ำสงบสติอารมณ์ตัวเองก่อนนะคะ”แฟรงค์พยักหน้ารับ น้ำหวานก็รีบลุกแล้วออกจากห้องไปสวนกับธาวินที่เดินเข้ามาพอดี“จัดการเรียบร้อยแล้วครับนาย”“อืม...มีอีกเรื่อง...”“เรื่องอะไรครับนาย”“เรื่องลุงวินัย”“อ๋อ...ครับ อีกไม่กี่วันก็จะครบร้อยวันแล้วนะครับนาย”“น้ำหวานเริ่มถามแล้ว...กูจะบอกเธอยังไงดีว่าพ่อของเธอโดนไอ้เจ้าสัวลีฆ่าตายแล้ว”“บอกไปตรงๆ สิครับ”“มึงคิดว่าเธอจะ....น้ำหวาน!!”น้ำหวานเดินเข้าห้องมาพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตามองเขาและธาวิน นั่นเดาไม่ยากเลยว่าเธอได้ยินที่เขากับธาวินพูดแล้ว น้ำหวานเดินโซซัดโซเซเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าแฟรงค์อย่างหมดแรง...

  • Black Dessert ขนมหวานจานโปรด   ตอนที่ 30.

    แฟรงค์ไปรับไปส่งน้ำหวานทุกวันไม่เคยขาด ไม่มีวันไหนสักวันที่จะไม่ไปรับ แต่ถึงเขาจะไปรับไปส่งเองเขาก็ยังสั่งให้ลูกน้องของตนไปเฝ้าจนไม่มีใครกล้าที่จะเข้าใกล้หรือแม้แต่เข้าไปจีบ ชุดนักศึกษาที่เธอเลือกซื้อมาเขาก็เอาไปเผาทิ้งหมด เพราะเขาซื้อชุดใหม่ไว้เผื่อแล้วในทุกๆ วันที่มหาวิทยาลัยก็เหมือนเช่นเคยในทุกๆ วันมาเป็นเดือนๆ แฟรงค์คอยดูแลทุกอย่างและเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี และที่สำคัญ...เขา...ไม่พลาดเลยทั้งเช้าทั้งเย็น ถ้าเป็นอาหารคงบอกว่าเขากินดุมาก แถมกินจุอีกต่างหาก...แต่เพราะมันเป็นเธอเนี่ยสิ กินเท่าไหร่ก็ไม่ยอมอิ่มเสียที จนล้าร่างหมดแล้ว ยิ่งตอนนี้...ช่วงปิดเทอมของมหาลัยเสียด้วย...“วันศุกร์นี้เตรียมตัวให้ดีล่ะ”“เตรียมตัว? ไปไหนคะ?”“ฉันจะจัดงานหมั้น”“งานหมั้น? คุณอาจะหมั้นเหรอ? กับใคร?”แฟรงค์ที่กำลังขับรถพาเธอมายังบริษัทหลังจากพาเธอออกไปทานอาหารกลางวันที่ห้างทิ้งธาวินให้ทำงานที่บริษัท แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ซื้อข้าวและขนมไปฝากลูกน้องคนสนิทด้วยอยู่ดี วันนี้เขามาเธอมาที่บริษ

  • Black Dessert ขนมหวานจานโปรด   ตอนที่ 29.

    “อื้อ!! อ๊า อ๊า....”เสียงครางหวานดังขึ้นเมื่อท่อนยักษ์แทรกเข้าไปจนสุด ความเสียวซ่านแล่นเข้าร่างผ่านช่องท้องจนร่างบางสั่นสะท้าน หัวใจเต้นรัวเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อได้ยินเสียงครางทุ้มต่ำร้องแผ่วข้างหู“ฮืมมมม....”ก่อนที่แฟรงค์จะหยัดตัวขึ้นจับไหล่เพรียวกดลงแล้วดึงรั้งเข้าหาตัว เป็นเหตุให้ร่างบางแอ่นบั้นท้ายงอนรับองศาแรงกระแทกได้พอดิบพอดี มือเล็กเกาะยึดกำแพงไว้เพื่อพยุงตัวรับแรงกระแทกกระทั้นของเขา“อ๊า อ๊ะ อ๊า!”“ครางอีกสิคะ...ครางดังๆ ให้สมใจเธอที่ต้องการมัน”“อ๊า อ๊า..อื้อ!”“ดี! เด็กดี...อืมมมม...ต้องอย่างนั้น”“อาคะ! อ๊ะ!! ลึก! อ๊า!!”“ลึกไปเหรอคะ...อา...ก็หนูตอดอาแน่นเลย”ยิ่งคำพูดหวานเข้าหูยิ่งทำให้น้ำหวานตื่นตัว...เขารู้ดีว่าเธอชอบให้เขาพูดแบบนี้ ภายในตอบรับรัดตัวตนใหญ่ยักษ์ของเขาแน่นกว่าเดิม สะโพกสวนตอบรับแรงตอดรัดนั้นอย่างหนักหน่วง ความเสียวซ่านแล

  • Black Dessert ขนมหวานจานโปรด   ตอนที่ 28.

    “ฮะ? จะลองทำไม?”“ถ้าใส่ไม่ได้จะได้ซื้อใหม่”“ทำไมจะใส่ไม่ได้ ฉันใส่ไซด์นี้ประจำอยู่แล้ว”“แน่ใจ?”น้ำหวานชะงักไป เพราะความจริงเธอใส่แต่เสื้อหลวมๆ กระโปรงพรีทเท่านั้น พึ่งจะมาซื้อเสื้อรัดรูปกระโปรงทรงเอใส่ก็ตอนตั้งใจจะกวนประสาทคุณอาหนุ่มเท่านั้น น้ำหวานหลบสายตาเล็กน้อย แฟรงค์เห็นอย่างนั้นก็ยกยิ้มขึ้น“เกิดเธอใส่ไม่ได้ ก็ไม่มีชุดใส่ไปเรียนวันจันทร์”“รู้แล้ว จะไปลองเดียวนี้แหละ!”พูดจบน้ำหวานก็หยิบชุดนักศึกษาเดินเข้าห้องน้ำไป เพื่อลองชุดที่เธอซื้อมา แฟรงค์หย่อนตัวนั่งลงบนโซฟารอหญิงสาวอย่างเงียบๆ นึกจะขัดใจเขาต้องเตรียมรับมือให้ดี ไม่นานนักน้ำหวานก็ตะโกนออกมาจากห้องน้ำโดยที่ตัวเองไม่ยอมเดินออกมา“ใส่ได้ พอดีด้วย”น้ำหวานพูดพร้อมกับมองตัวเองในกระจก แต่มันจะขัดใจเธอไปเสียหน่อยเพระเสื้อมันรัดรูปพอดีตัวแต่หน้าอกหน้าใจแน่นจนกระดุมเกือบปริออกมา ส่วนกระโปรงแค่นั่งลงก็คงจะเลิกขึ้

  • Black Dessert ขนมหวานจานโปรด   ตอนที่ 27.

    น้ำหวานชะงักกับคำพูดของแฟรงค์ที่ถามเธอกลับ น้ำหวานดึงสติของตัวเองก่อนจะหลบสายตาของเขาก่อน พร้อมกับคิดว่า...นั่นสิ...เธอต้องการคำตอบอะไรเหรอ ในเมื่อเธอเป็นแค่คนที่เขาซื้อมาเป็นนางบำเรอ นั่นก็มีเหตุผลมากพอที่เขาจะดูแลเธอเป็นอย่างดี เหมือนกับเด็กเสี่ยที่ใครๆ เขาพูดกันนั่นแหละ แล้วเธอกำลังหวังอะไร“ไม่ต้องตอบแล้ว”“หือ? ทำไม....”“ฉันหิวแล้ว”น้ำหวานพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งก่อนจะเดินนำเขาไปในทันที แฟรงค์ขมวดคิ้วอีกครั้งมองตามหลังของคนตัวเล็กไปอย่างไม่เข้าใจ“อะไรของเธอวะ”“แบบนี้เขาเรียกสาวงอนครับนาย”“มึงนี่รู้ดี รู้เยอะ เหมือนมีเมียซุกไว้”ธาวินยิ้มกริ่มลอบมองเจ้านายของตน แฟรงค์มองธาวินด้วยใบหน้ายุ่งเหยิงก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองลูกน้องที่ถือของพะรุงพะรังเพราะสาวเจ้าเลือกซื้อมาเหมือนจะไม่ได้ซื้ออีกแล้วทั้งชาติ“พวกมึงเอาของไปเก็บที่รถแล้วไปหาอะไรแดกซะ ค่อยมาเจอกูที่รถ”

  • Black Dessert ขนมหวานจานโปรด   ตอนที่ 26.

    จนแล้วจนรอดเขาก็เดินตามเธอเลือกชุดชั้นใน แถมยังเลือกซื้อแบบตามใจตัวเขาเองมาเป็นโหล กลายเป็นว่าคนที่เดินตามเขาและเขินเป็นเธอเอง เพราะพนักงานก็เชียร์ขายสุดโต่งกับชุดชั้นในวาบหวิวและยังหันมาแซวว่าเธอมีแฟนหล่อแถมยังนิสัยน่ารักเอาใจใส่อีก...ก็ใช่สิ พนักงานเหล่านั้นไม่รู้ว่าเขาเป็นคนไร้ปราณีและเป็นตาแก่โรคจิตแค่ไหน“พอใจหรือยังครับอีหนู”“อย่ามาเรียกแบบนั้นนะ”“เธอเรียกฉันว่าตาแก่โรคจิตเอง...เธอก็เป็นอีหนูของตาแก่คนนี้ไง”“ใครอยากเป็นอีหนูของคุณกัน”“ไม่อยากก็เป็นไปแล้วนี่ หรือจะให้ฉันรื้อฟื้นความจำอีกหลายๆ ครั้งถึงจะได้จำได้ขึ้นใจ”“ผู้ชายคิดแต่เรื่องทะลึ่งรึไง”“ใช่ ผู้ชายมันคิดแต่เรื่องทะลึ่งกับ...ผู้หญิงของตัวเอง”แฟรงค์พูดพร้อมยื่นใบหน้าหล่อเข้าไปใกล้เธอ น้ำหวานผละศีรษะออกเล็กน้อยก่อนจะสบตากับเขาค้างอยู่นาน นัยน์ตาสีอ่อนของเขามันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แววตาดุดันน่ากลัวหายไปหมดแล้วเหลือแต่แววตาทะเล้นหยอกเย้าเธอ...รอยยิ้ม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status