“ผมทุบกระป๋องก๊าซได้รึยังพี่แพรว!”
หนูน้อยป้องปากตะโกนถาม ภายใต้กระแสลมต้านที่พุ่งอัดเข้ามาอย่างรุนแรง
.
ณ ตอนนี้หัวเรือกำลังเชิดทำมุมราว 30 องศา มันแล่นแหวกอากาศและโดนน้ำทะเลน้อยมาก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร เพราะทุกครั้งที่แรงพุ่งจากก๊าซด้านหลังเริ่มซาลง ส่วนหน้าที่โบ๊ทรับผิดชอบอยู่ก็จะเป็นที่แรกที่โดน Covid-19 เล่นงานก่อนส่วนอื่น แพรวจึงรีบตะโกนตอบน้องกลับไปในเสี้ยวอึดใจ
.
“รอจังหวะให้เรือช้ากว่านี้อีกนิดแล้วจัดการเลยโบ๊ท! เราต้องทำงานให้สัมพันธ์กันนะ งั้นจะใช้ประโยชน์จากก๊าซได้ไม่เต็มที่!”
“เราอาจจะหนีไปไม่พ้นเมืองหลวงก็ได้ ถ้าก๊าซในสต็อกเราหมดก่อน!”
.
“ครับพี่.. ผมเข้าใจแล้ว!”
.
ร่างเล็กของเด็กประถมก้มต่ำลงจนลำตัวแทบจะครูดกับพื้นเรือ โบ๊ทเจตนาจะทำให้ตัวเองสัมผัสโดนลมให้น้อยที่สุด พลันกระเถิบตัวขึ้นหน้ากระดืบ ๆ ไปราวกับตัวหนอน กระทั่งมาถึงจุดที่เป็นมุมสามเหลี่ยมตรงหัวเรือได้สำเร็จ ที่นี่เขาก้มลงไปมองผืนน้ำด้านล่างได้อย่างสบาย อ่านค่าความเร็วจากการกะด้วยสายตา แล้วทันทีที่เห็นว่าเรือเริ่มช้า เขาก็ได้ทุบก๊าซกระป๋องหนึ่งแล้วก็ปามันลงไป
.
“ตูมมมมม!!!!”
.
“ฟู่~~~!!!!!!!!!!!!”
.
ควันสีแดงแบบเดียวกันและอานุภาพเท่ากันเป๊ะคละคลุ้งฟุ้งตลบ ทว่าหนนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบนตัวเรือแต่ย้ายลงไปฟุ้งบนท้องทะเลด้านล่างแทน มันทำปฏิกิริยาแทบจะทันที และผลจากการชะเง้อคอดูแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ของโบ๊ท ก็ทำให้เขาได้พานพบเข้ากับสิ่งที่น่าอัศจรรย์บางอย่าง
.
ทะเลแม่งเปลี่ยนสี! โควิดในกระแสน้ำตายเกลี้ยงตราบเท่าที่ระยะของก๊าซจะกระจายตัวออกไปถึง ผืนน้ำที่เคยเป็นสีดำในยามค่ำคืนก็เลยเรืองแสงสว่างวาบขึ้นมา แฟรงตอนพืชในน้ำคือผู้ได้รับอานิสงษ์ พวกมันได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหลังจากที่เชื้อโควิดถูกกำราบลงไปหมด การเรืองแสงของพวกมันมีไว้เพื่อล่อสัตว์ทะเลตัวเล็ก ๆ แต่หารู้ไม่ว่ามันได้ล่อเด็กตัวเล็กอย่างโบ๊ทให้เจริญหูเจริญตาตามไปด้วย
.
สิ่งนี้ดูแฟนตาซีเหลือเกินในสายตาเขา โบ๊ทถึงกับคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกจากหนังเรื่อง Avatar เลยทีเดียว ตอกย้ำว่าการปาก๊าซลงน้ำของเขานั้นทรงอิทธิพลขนาดไหน หมอกก๊าซจากส่วนหน้าเปรียบเสมือนการเปิดทางให้เรือได้แล่นฝ่ากระแสเชื้อไปได้ มิหนำซ้ำผลพลอยได้จากการเรืองแสงบนผิวน้ำ ก็ยังทำให้เจนิสที่อยู่ด้านหลังกะจังหวะการใช้ก๊าซจากท้ายเรือได้แม่นยำขึ้น
.
“ตูมมมมมมม!!!!!”
“ฟู่!!!!!!!!!!!!!!!!!”
.
“ตูมมมมมม!!!!!”
“ฟู่!!!!!!!!!!!!!!!!”
.
โบ๊ทเปิดทาง เจนิสผลักดันเรือ ส่วนก๊าซที่กระจายออกมาแล้วเหลือ ก็จะทิ้งตัวพรมลงมาปกคลุมเรือลำนี้เอาไว้ไม่ให้โดน covid รุกล้ำเข้ามากัดแทะได้ นี่จึงเป็นส่วนผสมที่โคตรลงตัว ทีมเวิร์คระดับเทพพและพวกเขาต้องทำงานผสานกันเป็นจังหวะ กระป๋องต่อกระป๋องหน้าหลังต้องสอดคล้องกันต่อเนื่อง โดยมีแพรวเป็นหัวหน้าทีมคอยดูแลจากวงนอก
.
บวกกับกระแสน้ำเองก็แสนจะเป็นใจ มันเลิกบ้าคลั่งเหมือนตอนแรกที่ออกมาจากโกดังท่าเรือแล้ว แถมยังมีทิศทางความเชี่ยวกรากที่มากพอจะนำพาทุกคน ให้ไปถึงที่ราบลุ่มภาคกลางได้ก่อนที่ก๊าซจะหมดสต็อกซะอีก
.
.
จากกลางคืนพาดผ่านมาถึงรุ่งสาง แดดอ่อนเริ่มทอแสงผ่านชั้นบรรยากาศลงมาแผดเผาหัว คล้อยกันกับสถานการณ์ของแคลนที่ต่างก็อิดโรยกันเต็มที กระป๋องก๊าซถูกใช้ไปหมดแล้วตั้งแต่เมื่อหลายชั่วโมงก่อน เรือเหล็กที่แต่ก่อนก็มีแต่โครงอยู่แล้วตอนนี้กลับเหลืออยู่แค่เสี้ยวเดียว เอียงกระเท่เร่เจียนอยู่เจียนไปคล้ายกับแผ่นเหล็กบาง ๆ แผ่นหนึ่ง
.
แพรวคำนวณผิดไปเล็กน้อย เมื่อปริมาณก๊าซดันไม่สอดคล้องกับระยะทาง เธอก็เป็นแค่คนธรรมดาแถมยังเป็นแค่นักศึาษาที่ยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ การจะพลาดอะไรไปบ้างจึงถือเป็นเรื่องปกติ ไม่มีใครตำหนิเธอสักคน แถมครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกในรอบสองปีเลยก็ว่าได้ ที่แพรวได้ออกมาจากเขตการปกครองของเมืองหลวง
.
ที่รู้เพราะทุกคนยังมีชีวิต แพรวสัมผัสได้ว่าความเข้มข้นของเชื้อนั้นเริ่มเจือจางลงไป หลักฐานคือแผ่นเหล็กที่พวกเธอเหยียบยืนอยู่ ถ้ายังอยู่ในเมืองหลวงหากโดนปล่อยลอยแพรเป็นชั่วโมงขนาดนี้ ยังไงซะก็ต้องโดนเชื้อกัดกินไปหมดแล้ว แต่นี่ไม่เลย! ถึงจะสูญเสียเนื้อเหล็กไปบ้างแต่ทั้งแคลนก็ยังไม่จมลงสู่ก้นทะเล แปลว่าเชื้อตรงนี้น่าจะอ่อนความเข้มข้นลงไปแล้ว
.
“เจนิส , โบ๊ท , เด็กๆ ฉันว่าพวกเรามาถึงแล้วล่ะ มีทำนบดินขนาบข้างกับตลิ่งที่ยกตัวสูง นี่คือแม่น้ำ! ตรงนี้ไม่ใช่ทะเลอีกต่อไปแล้ว!”
แพรวตั้งข้อสังเกตและชี้ให้ทุกคนดู
.
ประจักษ์แก่สายตาว่านอกเหนือจากเนินดินขอบตลิ่งแล้ว เมื่อทอดสายตาเลยขึ้นไปอีกนิด ทุกคนยังได้เห็นถึงทิวแถวของหลังคาบ้านทรงไทยที่เป็นหน้าจั่วตั้งเรียงรายกระจายตัวกันอยู่ทั่ว ต้นไม้ใบหญ้ารอบบริเวณก็เป็นสีเขียวสุกสกาว บรรยากาศนั้นต่างจากสิ่งแวดล้อมในเมืองหลวงลิบลับ แพรวจึงได้พูดเสริมขึ้นมาว่า
.
“เราจะเอาเรือขึ้นฝั่งกันเดี๋ยวนี้เลยนะ! มีใครจะคัดค้านไหม?”
.
เจนิสกับเพื่อนที่นั่งชะเง้อคออยู่ส่วนท้ายตอบกลับทันควัน
.
“ไม่มีใครค้านหรอกพี่ แต่เราแค่สงสัยว่าพี่จะทำยังไงในเมื่อเราไม่มีอะไรที่จะใช้พายได้สักอย่าง เศษไม้ต่าง ๆ ก็โดนย่อยสลายกัดกินไปหมดแล้ว ถ้าพี่จะให้หนูใช้มือกวัก พวกเราไม่เอาด้วยหรอกนะบอกเลย!”
.
“บ้า! จะบ้าเหรอใครเขาจะทำแบบนั้นกัน! เราแค่ต้องถ่ายเทน้ำหนักให้แผ่นเหล็กมันเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง จากนั้นรอให้คลื่นจากแม่น้ำพัดมากระแทก แล้วแผ่นเหล็กของเราก็จะกลายเป็นกระดานวินเซิร์ฟที่ลอยเข้าสู่ตลิ่งได้เอง”
แพรวอธิบาย พูดไปพลางทำให้น้องดูไปด้วย
.
ซึ่งมันก็ได้ผลจริง ๆ คลื่นเบา ๆ ของแม่น้ำกระแทกออกด้านข้าง ทำให้ทิศทางของแผ่นเหล็กเบนเข้าหาฝั่ง แคลนของแพรวกำลังจะรอด การเดินทางข้ามคืนข้ามวันกำลังจะจบลง หากไม่ติดปัญหาตรงหินโสโครกกับตะกอนทรายที่ทับถมกันอยู่ด้านล่างและไม่มีใครเห็น!
.
“โครมมมม!!!”
.
ชนแรงประหนึ่งรถบั๊มงานวัดอัดกับซุ้มดีเจ ไม่ถึงกับตายแต่มากพอจะเทกระจาด แต่ละคนตกน้ำป๋อมแป๋มเคราะห์ดีอย่างที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ริมตลิ่ง ขาก็เลยหยั่งถึงแต่ก็ทุลักทุเลกันเต็มที
.
ยกเว้นแต่เพียงโบ๊ท เด็กน้อยลอยอยู่บนฟากฟ้าเหนือหัวคนอื่น ๆ โดยใช้ประโยชน์จากโดรนที่ตนมี แขนเล็ก ๆ เหนี่ยวที่ก้านจับเอาไว้แน่น ไม่เปียกน้ำแม้แต่หยดเดียว มิหนำซ้ำยังร่อนลงจอดบนเนินตลิ่งได้อย่างสวยงาม สร้างความอิจฉาตาร้อนให้แก่ทุกคนที่พบเห็น
.
“ทุกคนเป็นไงบ้าง? รอแป๊บนะผมจะรีบใช้โดรนดึงทุกคนขึ้นมาเดี๋ยวนี้ล่ะ”
“ผมทุบกระป๋องก๊าซได้รึยังพี่แพรว!”หนูน้อยป้องปากตะโกนถาม ภายใต้กระแสลมต้านที่พุ่งอัดเข้ามาอย่างรุนแรง .ณ ตอนนี้หัวเรือกำลังเชิดทำมุมราว 30 องศา มันแล่นแหวกอากาศและโดนน้ำทะเลน้อยมาก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร เพราะทุกครั้งที่แรงพุ่งจากก๊าซด้านหลังเริ่มซาลง ส่วนหน้าที่โบ๊ทรับผิดชอบอยู่ก็จะเป็นที่แรกที่โดน Covid-19 เล่นงานก่อนส่วนอื่น แพรวจึงรีบตะโกนตอบน้องกลับไปในเสี้ยวอึดใจ.“รอจังหวะให้เรือช้ากว่านี้อีกนิดแล้วจัดการเลยโบ๊ท! เราต้องทำงานให้สัมพันธ์กันนะ งั้นจะใช้ประโยชน์จากก๊าซได้ไม่เต็มที่!”“เราอาจจะหนีไปไม่พ้นเมืองหลวงก็ได้ ถ้าก๊าซในสต็อกเราหมดก่อน!”.“ครับพี่.. ผมเข้าใจแล้ว!”.ร่างเล็กของเด็กประถมก้มต่ำลงจนลำตัวแทบจะครูดกับพื้นเรือ โบ๊ทเจตนาจะทำให้ตัวเองสัมผัสโดนลมให้น้อยที่สุด พลันกระเถิบตัวขึ้นหน้ากระดืบ ๆ ไปราวกับตัวหนอน กระทั่งมาถึงจุดที่เป็นมุมสามเหลี่ยมตรงหัวเรือได้สำเร็จ ที่นี่เขาก้มลงไปมองผืนน้ำด้านล่างได้อย่างสบาย อ่านค่าความเร็วจากการกะด้วยสายตา แล้วทันทีที่เห็นว่าเรือเริ่มช้า เขาก็ได้ทุบก๊าซกระป๋องหนึ่งแล้วก็ปามันลงไป.“ตูมมมมม!!!!”.“ฟู่~~~!!!!!!!
“ซ่าาาา~!”เสียงโครงเรือยอร์ชที่ยังต่อไม่เสร็จกระทบผิวน้ำกระซ่านเซ็น พอดีกันกับโดรนอารักขาที่ใช้งานได้โคตรจะคุ้ม มันตัดสายเคเบิลที่ยึดโยงออกไปหมดสิ้น พลันลอยขึ้นไปบนฟ้าเพื่อทำหน้าที่ฉายไฟส่องสว่างลงมา ราวกับสปอร์ตไลท์ตามสนามกีฬากลางแจ้ง.“แชะ! , แชะ!”.ราตรีกาลเข้าครอบครองท้องฟ้า ส่วนท้องธาราก็เป็นไปตามการคำนวณ ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจริงเฉกเช่นที่แพรวฟันธงเอาไว้ ต่างคนต่างรีบกระโจนลงเรือ และแม้ตัวบอดี้จะโคลงเคลงหนักมาก แต่ก็นับว่าดีอย่างที่ยังพอจะแบกรับน้ำหนักของทุกคนไหว ในส่วนนี้ต้องยกเครดิตให้กับทักษะของช่างต่อเรือ หรือไม่ก็เศรษฐีเจ้าของทุนทรัพย์ เพราะลำพังก้าวแรกที่ย่ำลงมา แพรวก็เห็นแล้วว่าทุกส่วนของโครงสร้างล้วนทำขึ้นจากวัสดุชั้นเยี่ยมเกรดพรีเมี่ยมทั้งสิ้น .เธอสั่งให้สองเด็กสาวเพื่อนเจนิสเอาเศษไม้แผ่นแบน ที่วางกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปมาทำเป็นที่คัดท้าย มีความโชคดีอย่างที่ของเหล่านี้ไม่ใช่ของหายากอะไรนัก ถ้าอยู่บนเรือที่ยังต่อไม่เสร็จ หลังจากนั้นก็สั่งให้พวกเธอ Stand by รอคัดท้ายตามคำสั่งอีกที ก็เลยเหลือแต่เจนิสกับโบ๊ทที่ยังว่างงานและยังไม่ได้รับมอบหมายให้ทำอะไร.เรือค่อย ๆ แล่นออ
นั่นจึงเท่ากับว่าน้ำในทะเลอาจจะไม่ปลอดภัย บางทีแม่น้ำสาขาทุกสายก็อาจจะปนเปื้อนไปด้วยเชื้อแล้วก็ได้ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงโบ๊ทจึงได้ขยับนิ้วมือกับแหวนทั้ง 5 ของเขาอีกที .“ฟิ้ว~!”โดรนอารักขาลำเก่งโฉบปักหัวลงมาจากเบื้องบน ราวกับพญาอินทรีย์พร้อมเข้าประจำที่.มันยื่นท่อนเหล็กสีเงินลักษณะคล้ายก้านปรอทวัดไข้ออกมาจากลำตัวส่วนล่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่กระสุน .35 มม. จำนวนมหาศาลร่วงกราวลงมาเมื่อตอนก่อน ความยาวของอุปกรณ์ชนิดนี้น่าจะราว 2 ไม้บรรทัดเห็นจะได้ และโบ๊ทเรียกมันว่า “โคโรน่ามิเตอร์” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีไว้สำหรับตรวจหาเชื้อโควิดโดยเฉพาะ.เขาสั่งการให้โดรนอารักขาหย่อนมันลงไปในน้ำทะเล แกว่งส่ายวนคนไปมาราว 20 - 30 ทีโดรนก็ยกตัวเองขึ้นจากน้ำ ปรากฏว่าไฟสถานะบนลำโดรนถึงกับแดงโล่! การลิงค์สัญญาณเกิดขึ้นทันที ก่อนจะฉายค่าสถานะและชุดข้อมูลพร้อมกับผลแล็บไปยังกระจกครอบแก้วที่โบ๊ทสวมใส่อยู่ พลันเปลี่ยนใบหน้าบ่องแบ้วของเขาให้กลายเป็นจอแสดงผลไปในบัดดล.“มันก็เหมือนการ “swab”(สว็อป) ตอนเราไปให้หมอแหย่จมูกนั่นแหละครับพี่ ๆ แค่เปลี่ยนจากรูจมูกคนเป็นน้ำทะเล ว่าแต่ผลเป็นไงบ้างครับ? ”โบ๊
ห้าชีวิตกับอีกหนึ่งลำโดรนย่างกรายเข้ามายังโซนลับแลแห่งนี้ด้วยความมุ่งมั่น ย้อนกลับไปไม่ได้คือเหตุผลข้อที่หนึ่ง ส่วนการไปต่อไม่ได้เพราะข้างหน้ามีแต่ทะเลคือเหตุผลข้อที่สอง แพรวก็เลยเดินนำหน้าแบกกระเป๋าเป้อาด ๆ พลางควัก Glock 18 อาวุธประจำกายขึ้นมาประทับเล็งเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรียนตามตรงว่าท่าเรือเป็นแอเรียที่เธอมีข้อมูลน้อยมากเมื่อเทียบกับที่อื่น ที่นี่แทบจะไม่ได้ถูกเขียนรายละเอียดใด ๆ ไว้ในแผนที่เลย ฉะนั้นหน้าที่ของมันจึงจบลงเพียงเท่านี้.“พรึบ!”แพรวพับแผนที่เก็บเข้าไปในกระเป๋า สื่อให้ทุกคนเห็นว่าแต่นี้ต่อไปคือการด้นสดล้วน ๆ พลาดก็คือตายและถ้าไม่อยากตายก็จงอย่าพลาด.“ระวังตัวด้วยทุกคน เราจะเข้าไปในโกดังนั่นดู คิดว่าน่าจะเป็นคลังเก็บสินค้าและบันไดลงสู่ท่าเรือก็น่าจะอยู่ในนั้น”แพรวกระซิบบอก.เช่นกันกับเจนิสกับเพื่อน ๆ ที่ต่างก็ระวังหน้าระวังหลังให้กันเป็นอย่างดี เธอจับมือโบ๊ทเอาไว้แทบจะตลอดเวลา โดยหารู้ไม่ว่าโดรนอารักขาที่ลอยอยู่บนฟ้า นั้นมีขีดความสามารถที่สูงกว่าคนจริง ๆ อย่างพวกเธอสามคนรวมกันซะอีก.“ไม่เป็นไรครับพี่เจนิสไม่ต้องดูแลผมดีนักหรอก ทางที่ดีผมว่าพ
พรรคพวกของโบ๊ทมีกันอยู่หลายคน แล้วก็ดำรงชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากการตามล่าของพวก AP เหมือนกับแคลนอื่น ๆ พวกเขามี LGBT รวมอยู่ในกลุ่มเยอะ ก่อนที่ความผิดพลาดจะมาเกิดขึ้นที่ท้องฟ้าจำลอง เมื่อหน่วยแพทย์ของ AP ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมเกิดย้อนกลับมาเช็คทรัพย์สิน มีการปะทะกันเกิดขึ้น! แคลนของโบ๊ทแตกเป็นเสี่ยงเนื่องจากไปถือวิสาสะยึดเอาแลนด์มาร์คตรงนี้เป็นจุดพักแรม ผู้คนก็เลยถูกกวาดต้อนไปเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงพ่อแม่ของเขาด้วย .ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมโบ๊ทถึงรอดมาได้นั้น ก็อยู่ที่แหวนทั้ง 5 วงบนนิ้วมือของเขานั่นเอง อุปกรณ์ชิ้นนี้มีไว้ใช้บังคับโดรนมากกว่า 150 ลำ บางลำเป็น Riot โดรนติดอาวุธหนัก บางลำเป็นโดรนอารักขา ส่วนบางลำก็เป็นโดรนข่าวสาร โบ๊ทใช้พวกมันอย่างคล่องแคล่วในการต่อสู้กับพวก AP และขับไล่พวกทรราชเหล่านี้ออกไปจากอาคารท้องฟ้าจำลองได้เป็นผลสำเร็จ ทว่าก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการอยู่คนเดียวในอาคารหลังโตแบบโดดเดี่ยว พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เพื่อนฝูงพี่น้องก็โดนหางเลขไปด้วยหมด.ย้อนกลับไปหลายตอนก่อนหน้านี้ เราจึงได้เห็นโบ๊ทใช้กล้องโทรทัศน์ส่องหาแคลนที่ยังมีผู้รอดชีวิตไปทั่วเมือง จนกระทั่งมาพบกับกลุ่
เสมือนหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่กระเสือกกระสนหาทางรอด ตัวเป็นจักรกลทว่าข้างในคงมีจิตวิญญาณของปลาช่อนที่กำลังจะโดนทุบหัวบรรจุอยู่ Riot โดรนถึงได้แสดงพฤติกรรมเกรี้ยวกราดดังที่เห็น เปลวไฟพ่นออกมารอบทิศราวกับลูกข้างที่รวมร่างกับกระบองไฟ มันพ่นขู่คำรามแล้วก็ได้ผล เมื่อกลุ่มเรดี้ทั้ง 4 นางต่างก็ถอยกรูออกห่างไปทุกที พอเจนิสลองสืบเท้าเข้าไปใกล้มันก็พ่นไฟออกมาใส่อีก.“อ๊ายยย! ไม่ได้เลยพี่แพรวไฟร้อนมากค่ะ!”เธอรีบผินหน้ากลับมาบอก.สวนทางกับแพรวที่มีประสบการณ์มากกว่า หลังจับสัญญาณได้จากไฟสถานะบนตัวโดรนที่มีการกระพริบเปลี่ยนจังหวะไป พลางบอกให้น้อง ๆ ตระเตรียมอาวุธขึ้นมือเอาไว้.“ไม่เป็นไรเจนิส.. ไม่ต้องเข้าไปหรอก.. เราแค่ต้องตามเจ้านี่ไปก็พอ”.“ไปไหนอ่ะพี่?”.“เดี๋ยวก็รู้! เจ้าโดรนนี่ไม่มีทางทำแบบนี้ได้ถ้าไม่มีใครบังคับ.. เชื่อฉัน!”.แล้วก็จริงอย่างที่แพรวสันนิษฐาน ผ่านไปราว 3 นาทีกับอีกนิดหน่อยแก๊สในตัวก็หมดลง จากไฟพุ่ง ๆ ตอนนี้แค่ถ่มถุยออกมายังยากลำบาก ไหนจะท่วงท่าการบินที่กระท่อนกระแท่นเต็มทีนั่นอีก เพดานบินเริ่มลดระดับต่ำลง Riot โดรน เริ่มเบี่ยงเส้นทางบินหนีออกไปอีกฝั่งผ่านการร่อนที่เอียงกระเ