“เด็กอนามัยจัดอย่างคุณวุ้นง่วงแล้วสินะครับ”
ภาสกรเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวปิดปากหาว หลังจากตกลงกันได้เธอก็ให้เขาขยับไปนั่งห่างอีกหน่อย
“อนามัย?”
คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน พร้อมพึมพำอย่างสงสัย
“ก็เห็นต้องกลับก่อนห้าทุ่ม แถมนี่เพิ่งห้าทุ่มครึ่งคุณก็หาวตาโรยแล้ว”
เขาพูดพร้อมยิ้มบางราวเอ็นดูเธอทำเอาพนิดาหน้างอแล้วลุกขึ้นขณะบอก
“ใช่ พี่ง่วงแล้ว ซันก็กลับได้แล้วล่ะ”
อีกฝ่ายฉุดข้อมือเธอไว้ทันทีที่จบประโยค พอมองแล้วก็ต้องถอนหายใจยาว แววตากับสีหน้าคนตัวโตเห็นชัดว่าพยายามอ้อนสุดฤทธิ์
“ผมยังไม่อยากกลับเลย”
“ซันก็เห็นว่าพี่ง่วงแล้ว”
“แต่ผมเหงาคุณวุ้นก็รู้”
“จะให้พี่ทำยังไงล่ะจ๊ะ ซันจะอยู่กับพี่ทั้งคืนหรือไง”
พูดออกไปแล้วก็พลันใจวูบวาบ เมื่ออีกฝ่ายเงียบแต่แววตาแสดงความต้องการออกมาอย่างชัดเจน ทำเอาคนมองต้องส่ายหน้าช้าๆ
“ไม่ได้”
“นะครับ”
“ไม่”
“โธ่ คุณวุ้นครับ”
ครั้งนี้พนิดาบิดข้อมืออกจากมือหนา รู้สึกว่าชายหนุ่มได้ใจมากไปแล้ว หากเธอไม่ใจแข็งเขาก็ได้คืบจะเอาศอก
“พี่ยอมซันถึงขนาดนี้แล้ว วันนี้น่าจะพอแค่นี้ได้แล้วนะ”
เธอเอ่ยอย่างใจเย็น น้ำเสียงหวานอ่อนโยนไม่มีความฉุนเฉียวแต่อย่างใด
“แต่ผมอยากอยู่กับคุณวุ้นนี่ครับ คุณทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นจริงๆ ไม่อยากกลับไปห้องเลย กลับไปก็หลับไม่ลง”
ภาสกรไม่ได้พยายามจะยื้อร่างบางเอาไว้ เขายอมปล่อยมือหญิงสาว นั่งเฉย เก็บไม้เก็บมือ เมื่ออยากชนะเกมการต่อรองนี้เขาก็ต้องทำให้อีกฝ่ายเชื่อใจ วางใจในตัวเขา
“ยังไงพี่ก็ไม่โอเค”
เธอยืนยันกลับไป
“ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกครับ”
พนิดาเงียบ ไม่ตกลงง่ายๆ เขาก็สำทับซ้ำ
“ถ้าคุณวุ้นไม่สบายใจ ผมสัญญาว่าจะอยู่แค่ข้างนอก ไม่ก้าวเข้าห้องนอนของคุณเด็ดขาด”
นั่นไม่ได้เป็นการการันตีเลยว่าเธอจะปลอดภัย เพราะหากคิดจะล่วงเกิน ในห้องหรือนอกห้องก็ได้ทั้งนั้น ทว่าพนิดาคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะไม่อยากกลับคอนโดของตัวเองจริงๆ มากกว่าวางแผนทำอะไรเธอ หากเขาจะทำ เพียงก้าวเข้าห้องมาก็มีโอกาสแล้ว แต่เธอยังปลอดภัยมาจนถึงตอนนี้
หลังจากทบทวนอยู่ครู่หนึ่งพนิดาก็พยักหน้ารับ ยังไม่ทันได้พูดร่างสูงกำยำก็ลุกพรวดโผเข้ามากอดเธอ
“ขอบคุณครับ คุณวุ้นน่ารักที่สุด”
จบคำพูดยังหอมแก้มเธอซ้ำมาอีกแล้วก็หยุดชะงัก ใบหน้าขาวคมถอยห่างออกไปส่งยิ้มอ้อน
“เอ่อ ขอหอมนะครับ”
เมื่อไม่อาจห้ามได้แล้วหญิงสาวก็ได้แต่มองตอบด้วยสายตาดุ แล้วถอนหายใจอย่างระอา
“ปล่อยพี่จ้ะ”
เสียงหวานราบเรียบ ดวงหน้าสวยนิ่งจนคนอ้อนไม่อยากเสี่ยงจึงยอมปล่อยเจ้าของร่างนุ่ม แต่ยังยิ้มในหน้าให้รู้ว่าเขาดีใจที่เธออนญาตให้อยู่ด้วย
“ที่นี่ไม่มีอะไรนะ ถ้าจะดื่ม มีแค่น้ำเปล่ากับน้ำส้ม ซันคงจะเบื่อหน่อย”
“ไม่หรอกครับ มีคุณวุ้นอยู่นี่นา”
“พี่จะนอนแล้วจ้ะ”
ภาสกรพูดไม่ออกเมื่ออีกฝ่ายบอกอย่างนั้น แม้จะทำท่าเหมือนยอมจำนนหากในหัวคิดหาทางทำอะไรสักอย่าง ขณะร่างสูงกำยำนั่งลง ให้หญิงสาวได้พักผ่อนตามที่ต้องการ
“งั้นเชิญคุณวุ้นครับ ผมจะนั่งดื่มน้ำส้มอยู่ตรงนี้”
การที่ชายหนุ่มไม่ฝืนดื้อดึงและยินยอมง่ายดายทำให้พนิดาอดขมวดคิ้วแปลกใจไม่ได้ แต่ก็หันหลังเดินจากมา เมื่อหันกลับไปมองอีกครั้งก็รู้สึกเหมือนท่าทางของเขาดูเศร้านิดๆ หากเธอก็พยายามไม่มองนานนัก คิดว่าที่ตนให้อีกฝ่ายอยู่ต่อได้ก็ถือว่าใจดีกับเขามากแล้ว
ตาคู่คมเหลือบมองร่างบางที่เข้าห้องนอนไปพร้อมยกแก้วน้ำส้มของตนขึ้นจิบ มุมปากได้รูปยกยิ้มเล็กน้อย
พนิดาอาบน้ำเสร็จแล้วก็มานั่งพิมพ์งาน ทว่ากลับพิมพ์ได้ไม่ถึงห้าบรรทัดด้วยซ้ำ เธอมีโน้ตบุ๊กอยู่ที่นี่ด้วยแม้จะไม่ค่อยมาพัก หากก็ตั้งใจใช้ที่นี่เป็นที่เขียนนิยายของตัวเอง เธอเริ่มกลับมาเขียนนิยาย หลังจากวางพล็อตและหาข้อมูลมาพักใหญ่แล้ว หญิงสาวคิดว่าจะคุยกับบิดาขอพักที่คอนโดในคืนวันศุกร์กับเสาร์เพื่อทำงาน กลับบ้านเช้าวันอาทิตย์
เกิดเรื่องในธนัญการทำให้เธอรู้สึกว่าอยากกลับมาเขียนนิยาย ไม่ใช่อยากทิ้งงานของที่บ้าน แต่แค่อยากทำในสิ่งที่ตัวเองรักบ้าง ให้ความสุขกับตัวเองบ้าง ไม่จมอยู่กับงานที่บริษัทจนจิตตกด้วยความเครียด
เมื่อเห็นว่างานไม่คืบหน้าแล้วตนก็ง่วงจัดพนิดาจึงคิดว่านอนดีกว่า แต่ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไร จึงตั้งใจออกไปดูสักหน่อย
ข้างนอกเงียบ ภาสกรไม่อยู่ที่โซฟา พนิดามองไปยังระเบียงตามสัญชาตญาณแล้วก็เห็นร่างสูงใหญ่นั่งอยู่ที่เก้าอี้
“อยากอาบน้ำไหมจ๊ะซัน”
เธอเดินไปถามโดยยืนอยู่ข้างในไม่ได้ก้าวออกไปยังระเบียง
ชายหนุ่มหันมามอง สบตากันแล้วเธอก็แอบถอนหายใจบางเบา ท่าทางอีกฝ่ายดูเหงา แม้เขาจะส่งยิ้มให้เธอก็ตาม แต่เมื่อเห็นแก้วน้ำส้มอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ แล้วเธอก็อดยิ้มไม่ได้เหมือนกัน
“จิบน้ำส้มแทนเหล้าไปกี่แก้วล่ะ ระวังจะสอดท้อง”
“นั่นสิครับ ดื่มไปแก้วที่สามรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาแล้วเนี่ย”
พนิดาหัวเราะเบาๆ กับคำบอกของเขา
“เข้ามาเถอะ นั่งข้างนอกยุงไม่กัดหรือไง อยู่ชั้นสูงยุงก็บินมาได้นะ แล้วนี่ยังเปิดประตูไว้อีก แถมดึกกว่านี้น้ำค้างลงด้วย”
ภาสกรยอมลุกตามมาโดยง่าย เธอจะยื่นรับแก้วจากเขาไป แต่ชายหนุ่มส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรครับ ผมล้างเอง”
“งั้นเดี๋ยวพี่เอาผ้าขนหนูกับเสื้อคลุมมาให้ก็แล้วกันนะ ที่นี่มีเครื่องซักผ้าอยู่ วินซักเสื้อผ้าได้เลยจ้ะ เช้าคงแห้งอยู่ จะได้ไม่ต้องใส่ซ้ำ”
เธอบอกพร้อมเดินนำร่างสูง ไม่ได้เห็นว่าสายตาคมมองตนเองอย่างไร
“ครับ”
=====
“อยากทำแบบนี้กับคุณวุ้นตั้งแต่วันที่แอบจูบแน่ะ”เสียงทุ้มดูสนุกตื่นเต้น ทว่าคนได้ยินอายจนตัวแทบม้วน“ใครจะยอม”“รู้ว่าวันนั้นไม่ยอม แต่วันนี้ยอมนะครับ”คุยไปด้วยมือหนาก็ดึงชายเสื้อที่อยู่ในขอบเอวกระโปรงหญิงสาวขึ้น สอดมือเข้ามาเคล้นคลึงอกอวบภายใน ปลุกเร้าอารมณ์สาวไปด้วยอย่างไม่ยอมเสียเวลา สะโพกสวยถูกบดเบียดรุมร้อน เร่งความปรารถนาให้กับคนทั้งคู่ พนิดารับรู้ถึงกายแกร่งชัดเจน“อื้อ ใจร้อนไปไหม เร็วจัง”“กับคุณวุ้นก็เร็วตลอดอยู่แล้วนี่ครับ”ชายหนุ่มยิ้มมุมปากทั้งยังขยับสะโพกเข้าหาไม่หยุด กับพนิดาแล้วเขาไม่เคยรู้สึกตัวช้าเลย หากก็รั้งตัวเองให้เวลาหญิงสาวเสมอ“นะครับ ขอนะ”เสียงทุ้มครางพร่าชิดซอกคอนุ่มบ่งบอกว่าเจ้าตัวมาถึงจุดที่ฝืนไม่ไหวแล้ว นอกจากเขาจะตั้งใจเร่งร้อนแล้วน้ำตาของหญิงสาวก็ทำให้เขายิ่งอยากกอดเธอ ภาสกรแพ้น้ำตาอีกฝ่ายเห็นเมื่อไรทนไม่ได้ทุกที อยากกอดอยากคลุกเคล้ากระโปรงบานพอดีเข่าไม่ยากที่จะรั้งขึ้นสูง มือหนาโลมเล้าผ่านผ้าเนื้อบางแนบสัดส่วนอ่อนไหว ปากก็เม้มผิวเนื้ออ่อนข้างลำคอ ได้ยินเจ้าของร่างบางหอบแรงและไม่มีเสียงห้ามปรามอีกแล้ว เขาจึงเดินหน้าดูแลให้ หญิงสาวพร้อมก้าวขั้นต่อไป ซ
1 ปีผ่านไป...ภาสกรไปส่งพนิดาทุกบ่ายวันเสาร์ตามคำสั่งของคุณไพศาลหลังจากหญิงสาวอยู่กับเขาที่คอนโดในคืนวันศุกร์ และอยู่กินข้าวเย็นที่นั่นทุกวัน ชายหนุ่มไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของบิดาหญิงสาวนัก หากท่านก็ยอมรับในตัวเขา เพราะถือว่าทำมาหากินดูแลตัวเองมาตั้งแต่เรียนจบ ค่อนข้างมีความมั่นคงในหน้าที่การงาน และเป็นคนเก่งคนหนึ่ง โดยข้อนี้พศินกับพริษฐ์ยืนยันเสียงเดียวกัน ถือว่าอนาคตไกล ส่วนกับคุณดารณีนั้นท่านถูกใจ ชายหนุ่ม เพราะเขาเอาใจเก่งปากหวานกับท่านเหมือนกับพนิดา และเอาอกเอาใจท่านกับหญิงสาว ต่างจากคุณไพศาลที่ชายหนุ่มไม่เข้าหาหรือตีสนิท เขาวางตัวปกติ ตอบคำถามอย่างเป็นการเป็นงานข้อนี้พนิดาบอกกับมารดาว่าน่าจะเพราะภาสกรไม่ได้รับการเลี้ยงดูที่อบอุ่นจากบิดาของเขา เขาอยู่กับมารดา เมื่อสูญเสียมารดาก็โหยหาความรักความทะนุถนอมอ่อนโยนแบบที่เคยได้รับ จึงชินกับการเข้าหาผู้หญิงและทำให้รักเอ็นดูตนเองมากกว่าผู้ชาย สังเกตได้จากที่ชายหนุ่มสนิทกับผู้หญิงหลายคนในที่ทำงาน รวมทั้งอนงค์นางกับนิอรด้วยตอนนี้ภาสกรมีคีย์การ์ดสำรองเข้าห้องของพนิดาได้โดยที่หญิงสาวไม่ต้องลงไปรับอีกแล้ว หลังจากล้างหน้าล้างตาก็มาหาเจ้าของร่าง
“อือ ซัน”เสียงหวานพึมพำเมื่อชายหนุ่มเร่งมือก่อนจะตัวสั่นเล็กน้อย ทว่าเพียงเท่านั้นยังไม่พอ อีกฝ่ายปล่อยให้หน้าอกเธอเป็นอิสระ ใบหน้าขาวคมซุกไซ้ลงเรื่อยไป หากก็ไม่ลืมพาเธอลงไปนอนแล้วเปิดเปลือยร่างงามไปด้วยเมื่อหญิงสาวไร้ซึ่งเสื้อผ้า เขาก็ปลดเปลื้องตนเองเช่นกันอย่างไม่ให้น้อยหน้า พาร่างสูงกำยำแทรกกลางเรียวขาสวย หากเมื่อเคลื่อนใบหน้าลงต่ำก็ได้ยินทักแผ่วหวิว“ซันจ๊ะ”พนิดาอายที่เขาจะทำแบบนี้กับเธออีก เพราะเวลานี้ร่างกายเธอตอบสนองว่าตนเองพร้อมแล้ว ทว่าชายหนุ่มส่งยิ้มอ่อนโยนพร้อมบอก“ผมอยากทำครับ”หน้าที่ร้อนผ่าวอยู่แล้วของเธอร้อนราวกำลังไหม้เมื่อตามองใบหน้าขาวคมฝังลงกลางกาย สัมผัสนุ่มนวลอ่อนโยน หากก็ประชิดทุกซอกมุมทำให้เธอเขินสุดขีด แต่ก็ต้องยอมรับว่าปลายลิ้นร้อนชื้นกับปากอุ่นทำให้เธอรู้สึกดีอย่างเหลือแสน สุขสมเต็มอิ่มล้นอกภาสกรไล้ปากกับปลายลิ้นอย่างพึงพอใจ ความงามตรงหน้าเชิญชวนให้ลิ้มชิมไม่รู้เบื่อ ยิ่งเห็นสะโพกสวยขยับ เขาก็ยิ่งปรนเปรอหญิงสาว หากมือหนาก็ไม่ลืมเตรียมตนเองไปด้วย ใช่ว่าเขาไม่ลุกเพราะพนิดา แต่เพราะอยากตื่นตัวถึงขีดสุดเพื่อจัดเต็มในทันทีที่ชิดใกล้ต่างหาก แน่นอนว่าครั้งนี้เขา
พนิดาไม่ยอมให้ภาสกรอาบน้ำด้วยแม้เขาจะอ้อนแค่ไหนก็ตาม ขณะกินข้าวด้วยกันเจ้าตัวก็ส่งสายตาคมวาบหวามให้เธออย่างมีความนัยตลอดเวลาจนเธอต้องถอนหายใจให้รู้ว่าอ่อนใจกับเขาแค่ไหน ทว่าแทนที่ชายหนุ่มจะสลดกลับหัวเราะกรุ้มกริ่มในลำคอเสียอย่างนั้น“ซันล้างจานแล้วกันนะ”หญิงสาวบอกแล้วก็ลุกขึ้นเดินหนีไปทันที ทั้งที่ปกติเธอจะช่วยเขา แม้ชายหนุ่มจะอาสาทำเองก็ตาม ทำเอาภาสกรได้แต่เกาหัว“สงสัยแสดงออกมากเกินไปแฮะเรา”หลังจากจัดการในครัวเรียบร้อย ภาสกรก็ไปยังห้องทำงานของพนิดาเพราะคิดว่าหญิงสาวน่าจะอยู่ในนั้น ร่างสูงกำยำชะงักเมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนหันหลังหาอะไรสักอย่างบนชั้นหนังสือขณะคุยโทรศัพท์“หึๆ ไม่ต้องอ้อนเลยอ้น ไม่ได้ผล”คิ้วเข้มขมวด พยายามตีความกับสิ่งที่ได้ยิน“ไม่...ไม่เล่า”พนิดาเสียงแข็งแต่ก็เจือความขำ“หาเอาเองสิจ๊ะ ผู้ชายแซบๆ น่ะ ไม่ได้เก็บได้ตามถนนสักหน่อย”ภาสกรเริ่มย่องเบาๆ เข้าไปใกล้ร่างบาง เหมือนเธอจะได้หนังสือเล่มที่ต้องการแล้ว“ไม่ให้ลูบ หวง...เด็กใครเด็กมัน วุ้นยังไม่สนใจจะยุ่งกับเด็กอ้นเลย”คราวนี้เขาหยุดไม่ห่างจากหญิงสาวนักแล้วเกาหัว“เดี๋ยวจะกระซิบบอกซันว่าเจอกันอ้นจะแอบลูบกล้าม เขาจะได้ร
“ตอนนี้มีแต่กลิ่นกับข้าวมั้งจ๊ะ”เธอแย้งเสียงเบาหวิวอารมณ์ใคร่ตีตื้นวนเวียนเพราะมืออีกฝ่ายไม่ได้อยู่นิ่ง“ไม่ครับ หอม”ชายหนุ่มย้ำแล้วจูบซ้ำมาอีก คลอเคลียปากกับจมูกจนผิวอ่อนเริ่มแดงเพราะไรเครา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเม้มแล้วจูบแรงขึ้น ร่างบางสะดุ้งนิดๆ ขณะที่มือหนาไล้วนช่วงท้องน้อยไม่ห่าง“ซันจ๊ะ ขาวุ้น...”พนิดาชักจะยืนไม่ไหวแล้ว เธออ่อนเปลี้ยไปทั้งตัว เมื่อบอกไปแล้วอีกฝ่ายก็ช้อนอุ้มเธอขึ้นพาเดินมายังโซฟา ทิ้งกระเป๋าเป้ของเขาไว้ที่พื้นหน้าประตูห้องอย่างนั้นชายหนุ่มวางคนตัวเล็กให้นั่งบนโซฟา ส่วนตนคุกเข่าข้างหนึ่งคร่อมข้างสะโพกสวยโน้มหน้าลงไปหาปากอิ่มแสนหวาน ขณะเดียวกันก็ถอดสูทของหญิงสาวออก ลูบผะแผ่วไปบนบ่าบอบบาง ทรวงอวบงดงาม หน้าท้องขาวผ่องแล้วกลับมากอบกุมบีบกระชับหน้าอกหน้าใจที่เสื้อตัวสั้นลูกไม้สีขาวโอบอยู่ สิ่งที่รับรู้ทำให้ภาสกรถอนจูบ ตาคมหลุบลงมองแฟชั่นแสนเซ็กซี่ของคนรักแล้วยิ้มมุมปาก มีเสื้อสูทคลุมก็ดูเรียบร้อยดี ใครจะไปคิดว่าด้านในจะทั้งหวานทั้งเซ็กซี่ขนาดนี้ เขารู้มาบ้างว่าบางครั้งสาวๆ ก็ใส่เพียงเสื้อชั้นในด้านในสูท ทว่าผิวขาวนวลกับเสื้อลูกไม้ขาวตัวสั้นบนเรือนร่างงามลออของพนิดาก็เห
ร่างสูงกำยำที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงหน้าประตูแผนกทำให้คนที่เพิ่งก้าวออกมาเห็นรีบเดินเข้าไปตบไหล่หนา“เฮ้ย มาทำอะไรถึงนี่ หรือมาหาเพื่อนกินข้าว”จักรินทร์ถามเจ้าตัวก็หันมายกมือไหว้เขา“พี่โจ๊ก สวัสดีครับ”ภาสกรทักทาย ขณะนั้นหลายคนในแผนกเริ่มออกมาแล้วมองเขาอย่างสนใจและทักเช่นกัน เพราะไม่ได้เห็นหน้าเท่าไรนัก รวมทั้งญาดาด้วย“ว่าแต่ ทำไมหน้าเหมือนไปกินยำตีนมาวะ”คนถูกถามยิ้มขื่น ญาดาซึ่งเดินมาใกล้จึงเอ่ยแทน“ซันมันไปสะดุดตอใหญ่มาก”“สะดุดตอก็น่าจะล้ม ทำไมไม่หัวแตก แต่ดันปากแตกหน้าช้ำ”จักรินทร์ยิ่งสงสัย หลายคนขมวดคิ้วไปตามๆ กัน“นั่นสิคะพี่พริก”นัชชาสาวกราฟิกคนสนิทของญาดาพูดพร้อมพยักหน้า“น่า บอกว่าสะดุดตอก็สะดุดตอสิ แล้วนี่...อย่าบอกนะว่ามา...”ดวงตาคู่กลมโตของญาดาเหลือบเข้าไปข้างในแวบหนึ่งโดยไม่พูดอะไร ขณะที่ภาสกรยกยิ้มมุมปาก ทำเอาคนอื่นยิ่งสงสัย แล้วสามสาวเพื่อนซี้รุ่นใหญ่ในแผนกก็ออกมาพอดี“มายืนมุงอะไรกันตรงนี้จ๊ะ ไม่รีบไปกินข้าวเหรอ”เสียงอนงค์นางดังขึ้นทำให้หลายคนเริ่มขยับตัว ทว่าเมื่อปรากฏร่างสูงกำยำท่ามกลางผู้คนหญิงสาวก็ถอนหายใจ ทว่าเสียงที่ทักขึ้นเป็นนิอร“แหม มารอเร็วจังนะพ่อคุณ”