รถลัมโบร์กินีคันหรูแล่นเข้ายังลานจอดรถภายในตึกองค์กรมาเฟียประจำอิตาลี สถานที่ต้องห้ามของบุคคลธรรมดา สายตาทุกคู่ที่อยู่บริเวณนั้นจ้องมองร่างบางที่กำลังก้าวเท้าลงจากรถ ผมสลวยสีดำถูกปล่อยยาวกลางหลัง ชุดเดรสสั้นสีแดงทำให้เธอโดดเด่นท่ามกลางชุดสีดำของทุกคนรอบตัว
เธอเดินตรงไปยังประตูทางเข้าพร้อมกับยื่นบัตรไปยังคนเฝ้าประตู พวกเขามีสีหน้าตกใจและจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอลดแว่นตากันแดดลง สายตาคมจ้องมองเขาทีละคน
"มาพบคนที่ชื่อการ์เนทค่ะ" ริมฝีปากแดงเอ่ยชื่อของคนที่จะเข้าพบ ทำให้พวกเขาลนลานรีบเปิดประตูให้เธอผ่านไปอย่างง่ายดาย
"ลืมถามว่าชั้นไหนอีก" เธอหันมองหาคนที่พอช่วยเธอได้บ้าง จนในที่สุดเธอก็เจอเข้ากับผู้ชายสูงวัยคนหนึ่ง เขากำลังเดินไปทางลิฟต์ด้วยไม้เท้า เขาส่งยิ้มให้ทุกคนที่เดินผ่านไปด้วยความใจดี จนในที่สุดเขาก็เดินมาหยุดลงหน้าลิฟต์ข้างเธอ
ติ๊ง!
ประตูลิฟต์เปิดออก เธอผายมือเป็นการบอกให้เขาเข้าไปก่อน แล้วเธอจึงเดินตามเขาเข้าไป ประตูลิฟต์ถูกปิดลง ภายในเหลือเพียงแค่เธอและผู้ชายสูงวัยเท่านั้น เขาหันมามองเธอแล้วส่งยิ้มใจดีมาให้ เธอเองก็ยิ้มตอบเขาเช่นกัน
"ไม่เคยเห็นหนูเลย มาพบใครที่นี่เหรอ" ผู้ชายสูงวัยเอ่ยปากถาม
"มาพบคนที่ชื่อการ์เนทค่ะ" ฉันส่งยิ้มกลับให้ แต่เขากลับมีสีหน้าที่ตกใจ
"การ์เนท" เขาถามทวนอีกครั้ง
"ใช่ค่ะ คุณตารู้จักเหรอคะ"
"รู้สิ" ดีล่ะ ฉันจะได้ไม่ต้องไปตามหาตัวยาก
"เขาอยู่ชั้นไหน คุณตาพอจะรู้มั้ยคะ"
"ไปชั้นเดียวกันนี่แหละ"
"อ่อ ขอบคุณค่ะ" ฉันมองไปยังเลขชั้นลิฟต์ที่ถูกกดคือชั้นบนสุดของที่นี่
"แล้วหนูมาหาเขาทำไมเหรอ" คุณตาเป็นฝ่ายเริ่มชวนคุย นั่นสินะ ฉันมาทำไม
"ก็ยังไม่รู้เลยค่ะ รู้แค่ว่าถ้าไม่มาจะทำให้คนอื่นมีปัญหาไปด้วยน่ะค่ะ"
"หนูผ่านประตูเข้ามาได้ง่าย ๆ เลยสินะ"
"หนูมีบัตรอันนี้ค่ะ" ฉันชูบัตรในมือให้เขาดู
"ถูกเลือกให้มาด้วย" ฉันยิ้มให้กับคนตรงหน้า ในใจก็สงสัยกับคำพูดของเขา แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะถามออกไป
"..." ฉันได้แต่ยืนยิ้มไม่พูดอะไร
"การ์เนทไม่เคยให้ผู้หญิงขึ้นมาที่นี่เลย"
"คะ?" ฉันเอียงคอถามกลับด้วยความสงสัย วิเศษมากขนาดนั้นเลยหรือไง เด็กที่ชื่อการ์เนทอะไรนั้น
"การ์เนทเนี่ยนะเป็นคนเชิญผู้หญิงให้มาหาถึงที่" ยิ่งพูดฉันก็ยิ่งสงสัย
กึก!
แต่ก็ต้องเก็บความสงสัยได้เพียงเท่านี้ก่อน เพราะจู่ ๆ ลิฟต์ก็หยุดชะงักลง ค้างงั้นเหรอที่นี่หรูหรามากเลยนะ จำนวนชั้นที่ลิฟต์พาขึ้นมาก็เกินครึ่งแล้ว จะมาเป็นอะไรตอนนี้ไม่ได้สิ ถ้าเกิดร่วงไปฉันตายสถานเดียว ถ้าฉันตายไอ้คินมันจะเสียใจไหมนะ ก็มันอยากเป็นลูกคนเดียวคงสมใจน้องฉันแหละ
"เอ๊ะ! ลิฟต์ค้างเหรอเนี่ย" เสียงของผู้ร่วมชีวิตอีกคนดังเรียกสติฉันขึ้นมา
"คุณตาเป็นอะไรมั้ยคะ" ฉันตรงเข้าไปพยุงเขาไว้ ลืมไปเลยว่าไม่ได้อยู่คนเดียว
"ไม่เป็นอะไรหนู เดี๋ยวคนดูแลก็คงมา"
"นั่งลงก่อนนะคะคุณตา" ฉันช่วยพยุงให้เขานั่งลงที่มุมของลิฟต์ ก่อนจะเดินตรงไปกดปุ่มฉุกเฉินเพื่อแจ้งคนดูแล
"หนูก็มานั่งตรงนี้สิ อย่าไปยืนเลยเดี๋ยวมันจะเมื่อยนะ" เขากวักมือเรียก ฉันจึงเดินเข้าไปและนั่งลงข้าง ๆ อย่างว่าง่าย
"คุณตาร้อนมั้ยคะ เดี๋ยวหนูหาอะไรพัดให้" ฉันหาพัดลมพกของตัวเองออกมาเป่าให้
"หนูพกของแบบนี้ด้วยเหรอ" คุณตาถามพร้อมกับจ้องมองพัดลมสีชมพูในมือ
"ค่ะ หนูเป็นขี้ร้อนเวลาต้องออกไปชอปปิงจำเป็นต้องใช้ค่ะ" ฉันเป็นคนที่ชอบอากาศเย็นจัด ไม่ถูกกับอากาศร้อนอย่างแรง เวลากลับไทยเป็นอะไรที่ฉันสะพรึงกับอากาศมากที่สุด
"แต่หนูเหมือนคนเอเชีย ไม่ชอบอากาศร้อนหรอกเหรอเนี่ย"
"ใช่ค่ะ หนูเป็นคนไทย" คุณตามีท่าทีที่ตกใจ
"หนูพูดสำเนียงอิตาเลี่ยนได้ดีมากเลยนะ"
"ขอบคุณค่ะ"
"ผู้หญิงเอเชียสวยมากเลยนะ"
"ขอบคุณค่ะ" ฉันส่งยิ้มหวานให้คุณตา ไม่ใช่คนแรกที่ชมฉันสวยหรอกนะ ชินแล้วแหละ
"แล้วหนูไม่พัดให้ตัวเองเหรอ ตาไม่ร้อนหรอก เหงื่อหนูเริ่มไหลแล้ว" คุณตาชี้ไปที่หน้าผาก ที่เริ่มมีเม็ดเหงื่อเกาะ
"ไม่เป็นไร แค่นี้เอง"
"หนูเอาไปพัดให้ตัวเองเถอะนะ ตาไม่เป็นอะไร" เขาผลักมือฉันให้หันเข้าหาตัวเอง
"ไม่เป็นไรค่ะ หนูอยากพัดให้คุณตา" ฉันหันกลับไปพัดให้เขาตามเดิม เขาชวนฉันคุยไปเรื่อยจนตอนนี้เราไม่รู้เลยว่ามันผ่านไปกี่นาทีแล้ว จนกระทั่งประตูลิฟต์ถูกเปิดออก
กึก ๆ!
ฉันหันไปมองยังประตูลิฟต์ที่เปิดออก ผู้ชายร่างสูงจำนวนหลายสิบคนต่างยืนรอกันอยู่หน้าประตู พวกเขาตรงเข้ามาพยุงคุณตาขึ้นและพาเดินออกไปยังนอกลิฟต์ ฉันลุกขึ้นยืนและเดินตามหลังพวกเขาไปอย่างเงียบ ๆ
"คุณท่านครับ ต้องขออภัยที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นที่นี่ครับ" พวกกลุ่มชายชุดดำต่างก้มหัวให้กับบุคคลที่ติดลิฟต์กับฉัน
"ไม่ต้องคิดมาก ๆ เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นได้ทุกที่" เขายังคงอารมณ์ดีและใจดีเหมือนเดิม ฉันคิดไว้แล้วว่าเขาต้องไม่ใช่คนธรรมดา ลูกน้องเยอะขนาดนี้คงใหญ่โตพอตัวเลย
ฉันแอบย่องหลบเพื่อไปขึ้นลิฟต์อีกฝั่งเงียบ ๆ อย่างไม่ให้เป็นจุดสังเกต แต่กลุ่มชายชุดดำไม่ได้มีแค่นั้น เพราะอีกกลุ่มกำลังมุ่งตรงมาทางนี้ ฉันเบี่ยงตัวหลบแล้วเดินแยกไปอีกทาง
"หนูคนนั้นน่ะ มาหาการ์เนทไม่ใช่เหรอ เขาอยู่นี่ไง" เสียงของคุณตาทำให้ฉันต้องหยุดชะงักทันที
เมื่อหันหลังกลับไปมองยังทางที่เดินหลบมา กลุ่มชายชุดดำจำนวนมากต่างหันมามองที่ฉันเป็นจุดเดียว คุณตาผู้ใจดีส่งยิ้มให้ฉันพร้อมกับชี้ไปยังคนข้าง ๆ
ผู้ชายตัวสูง ผมดำเงา ผิวขาวเรียบเนียน ดวงตาคมสีนิลจ้องมองมาที่ฉันด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนจะปรับสีหน้าให้เรียบเฉย จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าได้อย่างดี ริมฝีปากแดงคล้ำน่าสัมผัส
โอเค...โดยรวมฉันยอมรับมาว่าหล่อพอ ๆ กับน้องฉัน ถือว่าเป็นผู้ชายคนที่สองที่ฉันยอมรับ เขาจ้องฉันเพียงครู่เดียวก่อนจะหันไปคุยกับคนที่อยู่ข้าง ๆ
"คุณปู่ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ" ปู่เหรอ ถึงว่าทำไมถึงพูดเหมือนรู้จักเขาดีนัก ที่แท้ก็เป็นปู่หลานกันนี่เอง
"ไม่เป็นไร ๆ ปู่สบายดี โชคดีได้พัดลมตัวเล็กของหนูคนสวยช่วยให้คลายร้อนได้ดีเลย" พวกเขาหันกลับมามองที่ฉันอีกครั้ง ฉันได้แต่ส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับคุณปู่ แต่รู้สึกว่าจะถูกจ้องด้วยสายตาไม่ไว้ใจจากชายชุดดำที่ยืนล้อมอยู่ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยคนพวกนี้นี่มองฉันอย่างกับว่าเป็นตัวอันตราย
"พาคุณปู่ไปพักผ่อน แล้วอย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก" ผู้ชายที่ชื่อการ์เนทหันไปบอกคนที่กำลังตรวจสอบลิฟต์อยู่
"แต่ว่าคุณการ์เนทครับ ปุ่มหยุดลิฟต์มะ...!"
คนดูแลลิฟต์ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกขัดขึ้นจากบุคคลที่ติดลิฟต์กับฉัน
"อะ แฮ่ม! เราไปกันเถอะ ฉันหิวน้ำละ อยู่ในนั้นนานคอแห้ง แล้วก็การ์เนทหลานเชิญหนูคนสวยคนนั้นมานี่ ไปดูแลเธอซะสิ มีอะไรจะคุยกันล่ะถึงให้เธอมาหาถึงที่นี่" ทุกคนที่อยู่บริเวณต่างมีสีหน้าที่ตกใจเมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น
"ครับ เดี๋ยวต้องดูแลเธอยาวเลยล่ะ" ผู้ชายที่ชื่อการ์เนท
พูดกับปู่ของเขาโดยที่ไม่หันมามองฉันที่ยืนทำหน้างงอยู่ด้านหลัง
"งั้นปู่ไปก่อนนะ...ขอบใจมากหนูคนสวย หนูชื่ออะไรนะ" คุณปู่ถามฉัน
"…ชื่อคิมค่ะ"
"ปู่จะจำชื่อไว้นะ….หนูคิม" ฉันได้ยินเพียงประโยคแรก แต่ประโยคสุดท้ายเขากระซิบพูดกับหลานของตัวเองเท่านั้น แล้วก็เดินจากไปทิ้งฉันให้อยู่ท่ามกลางฝูงอะไรสักอย่าง
ฉันจ้องมองไปรอบ ๆ สายตาของกลุ่มผู้ชายนับสิบคนจ้องมองมาที่เป็นจุดเดียว คนตัวสูงยืนหันหลังให้ฉันจ้องมองไปทางที่ปู่ของเขาเดินไปจนลับสายตา เมื่อเห็นว่าคุณปู่ของเขาไปแล้วจึงหันกลับมามองฉัน ที่ยืนถือพัดลมพกพาสีชมพูเป่าหน้าตัวเองรออยู่
"เรียกฉันมามีอะไร" ฉันเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามก่อน เพราะตอนนี้เสียเวลาการชอปปิงของฉันมากพอแล้ว
"..." การ์เนทเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าฉัน สายตาสีนิลจ้องมองฉันอย่างน่ากลัว ซึ่งมันไม่สามารถทำอะไรฉันได้อยู่แล้ว
"จะเรียกมาจ้องเหรอคะ" ฉันช้อนสายตาขึ้นมองคนตัวสูงกว่า
"ไปคุยกันที่เงียบ ๆ ดีกว่า" ในที่สุดเขาก็เปิดปากพูด
"ไม่ค่ะ คุยตรงนี้มีอะไรก็รีบ ๆ พูดมา"
"เธอชื่อคิม" เขาถามทวนชื่อของฉันอีกครั้ง ซึ่งฉันก็พยักหน้ารับอย่างไม่ใส่ใจ
"อื้อ" คนตรงหน้าเอาลิ้นดุนแก้มตัวเอง ก่อนจะหันมามองคนที่ยืนยิ้มให้อย่างไม่สะทกสะท้าน
"ไม่คิดว่าจะกล้ามา" ฉันส่งยิ้มหวานให้กับผู้ชายตรงหน้า
"ฉันต่างหากที่ต้องเป็นคนพูด ไม่คิดว่าเด็กแบบนายจะกล้าเชิญฉันมา" ดวงตาสีนิลลุกวาวอย่างน่ากลัวเมื่อได้ยินคำพูดของผู้หญิงตรงหน้า
มือหนาคว้าข้อมือเล็กดึงเข้าหาตัว เธอไม่มีท่าทีขัดขืน เพียงจ้องมองไปที่ข้อมือที่ถูกจับอยู่ ก่อนจะล้วงมือหยิบสเปรย์ในกระเป๋าตัวเองเอาขึ้นมาฉีดใส่มือหนาที่จับแขนเธอไว้ การ์เนทจ้องมองสิ่งที่อยู่ในมือด้วยความสงสัย ก่อนที่เธอจะเป็นคนเฉลยมันเอง
"สเปรย์แอลกอฮอล์น่ะ...ฆ่าเชื้อ" พูดจบก็ไม่ลืมที่จะส่งยิ้มหวานให้เช่นเคย แรงบีบที่ข้อมือแรงขึ้น สายตาที่มองมาคือสามารถฆ่าเธอได้ทุกเมื่อ ชายชุดดำรอบข้างต่างถอยห่างออกจากตรงนั้นและยืนมองอยู่เฉย ๆ ไม่มีใครเข้ามายุ่ง ถ้ายังไม่มีคำสั่ง