LOGINเพราะเป็นลูกมาเฟียถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก จู่ๆ ก็ถูกแม่ตัดหางปล่อยวัดให้เผชิญชะตากรรมด้วยตนเอง เผชิญชะตากรรมไม่ว่า แต่วันแรกเธอก็ทำคนตายแล้ว เหตุการณ์ในวัยเด็กทำให้เธอไร้สติหยั่งคิด เผลอเข้าร้านหรูจนกินไวน์ราคาแพงหมดไปสองแสน แม้จะจำนำของในตัวจนหมดแต่ก็ไม่พอ เพราะกลัวว่าพ่อกับแม่จะรู้ เธอจึงเลือกใช้กายชดใช้แทน แต่ใครคิดว่าหลังจากสิ้นคิดคืนนั้น เธอก็ต้องพบปัญหาไม่รู้จบ
View Moreเจด้าปรายตามองเพื่อนร่วมชั้นเรียนในห้องพร้อมถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมเธอต้องมานั่งอยู่ที่นี่ท่ามกลางคนแปลกหน้า สถานที่ที่ไม่คุ้นเคย น่าโมโหชะมัด กะอีแค่เธอขัดคำสั่งพ่อแม่ไม่กี่ครั้งก็ถูกส่งกลับเมืองไทยแบบกะทันหันชนิดไม่ให้ตั้งตัว โดยบอกว่าเพื่อดัดนิสัยเจ้าอารมณ์เอาแต่ใจของเธอ หึ ที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่านั้นคือการ ถูกส่งให้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยภาคธรรมดา แทนที่จะเรียนภาคอินเตอร์ให้สมกับฐานะสักหน่อย
เจด้าตัดสินใจเดินออกจากห้องเรียนที่แสนน่าเบื่อโดยไม่สนใจสายตาทุกคู่ที่มองเธอเป็นตาเดียว เมื่อมาถึงรถเก๋งคันงามเด็กสาวก็ออกคำสั่งทันที
“ไปที่ไหนก็ได้”
“ครับ” ลูคัส ชายวัยกลางคนรับคำสั้น ๆ ปิดประตูรถให้สาวน้อยคนงามที่ตอนนี้หน้าตาบึ้งตึง ในฐานะคนขับรถที่ทำงานกับตระกูลนี้มานานจึงขับรถไปยังสวนสาธารณะที่ใกล้ที่สุดทันทีอย่างรู้ใจ ในยามนี้จะมีอะไรดีไปกว่าการพาเธอไปยังที่ที่ทำให้สาวน้อยรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อไปถึงเขาก็หาที่จอด ปล่อยให้เธอลงไปเพียงลำพัง
หญิงสาวลงจากรถแล้วไปเดินเล่นที่ริมบึง ระหว่างนั้นก็หยิบหินก้อนเล็ก ๆ ขึ้นมาเขวี้ยงลงน้ำเพื่อระบายอารมณ์ หลังจากนั้นไม่นานผู้เป็นแม่ก็ตามมาถึง
“คราวนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ”
“พวกเขาแกล้งหนู หาว่าหนูไม่รู้เรื่องอะไร ทำอย่างกับหนูโง่งั้นแหละ เชอะ ลองมาคุยภาษาอิตาลีกับหนูสิ หรือไม่ก็มาประลองเทควันโดกับหนูสักเกมสองเกม ดูซิว่ายังจะกล้าปากดีอีกหรือเปล่า”
แอนนาส่ายหัวกับนิสัยไม่ยอมใครของลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน เธอผิดเองแหละที่ตามใจเจด้าจนเกินไปตั้งแต่เล็ก ๆ มาถึงตอนนี้คิดจะดัดนิสัยลูกก็กลายเป็นว่าเหมือนโยนปัญหาให้อีกฝ่ายต้องเผชิญ แต่ทำอย่างไรได้ ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้จะเข้าทำนองไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก ที่สำคัญเธอต้องพยายามใจแข็งไม่เหมือนที่ผ่านมา คิดแล้วเธอก็ได้แต่ดึงลูกสาวสุดที่รักเข้ามากอดปลอบ
“แม่ขอโทษ แต่แม่ก็ยังเชื่อว่าแม่คิดดีแล้วที่ส่งลูกมาเรียนที่นี่ ชีวิตในวันข้างหน้าน่ะมันไม่ง่ายหรอกนะ ไม่มีใครสามารถอยู่กับลูกได้ตลอดไป แม่จึงอยากให้ลูกรู้จักแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เผื่อในวันที่ไม่มีคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย หรือแม้แต่พ่อกับแม่คอยช่วยเหลือ”
“มีแต่ลุงลูคัสแหละที่ดีกับเจด้าที่สุด” เด็กสาวตัดพ้อขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้ม แอนนาได้แต่ยิ้มน้อยๆ และไม่คิดจะเถียง เพราะทุกวันนี้ลูคัสก็ทำเกินหน้าที่ตัวเองจนกลายเป็นความผูกพันไปแล้ว
“อดทนอีกหน่อยนะ เพื่ออนาคตของลูกเอง”
“ให้หนูเข้าเรียนภาคอินเตอร์ฯ ไม่ได้หรือคะ นะ ๆ แล้วหนูจะตั้งใจเรียนสุด ๆ ไปเลย” เจด้าต่อรอง ส่งสายตาอ้อนวอนคนเป็นแม่ ก่อนจะ พองแก้มด้วยรู้สึกขัดใจเมื่อได้รับคำตอบกลับมาสั้น ๆ ว่า “ไม่ได้”
“ฮือออ หนูอยากตาย” เจด้าโอดครวญเมื่อแผนออดอ้อนไม่ได้ผลเหมือนที่ผ่านมา
“ลูกต้องรู้จักการถูกปฏิเสธซะบ้าง จำไว้ว่าทุกอย่างไม่ได้มาง่าย ๆ หรอกนะ อ้อ แม่เช่าหอพักใกล้ที่เรียนของหนูแล้วด้วย ใกล้มากจนเดินไปกลับได้เลยละ”
เจด้ามองแม่ที่ลุกขึ้นยืนขณะที่ยังคงพูดต่อ
“และแม่ก็จะให้เงินหนูไว้ใช้จ่ายอาทิตย์ละหนึ่งพันบาทเท่านั้น”
“แม่!!” เจด้าร้องเสียงหลง หนึ่งพันบาทเนี่ยนะ ข้าวมื้อเดียวก็หมดแล้ว
“ถ้าหมดก่อนครบอาทิตย์จะไม่มีการเพิ่มให้อย่างเด็ดขาด และอย่าคิดโทร.ไปขอพ่อหรือคุณตาล่ะ” แอนนาพูดดักทางอย่างรู้ทันลูกสาว
“โธ่ แม่ แล้วถ้าเงินหมด หนูจะเอาเงินที่ไหนกินข้าวล่ะ”
“งานก็คือเงิน ถ้ารู้จักทำงานก็มีเงินแลกข้าวกิน” แอนนาพูดทิ้งท้ายสั่งสอนลูกสาวก่อนเดินไปหาลูคัสที่ยืนอยู่ไม่ไกล “ส่วนนาย ตอนนี้มีงานใหม่ต้องทำ”
ฮึ! แม้แต่ลุงลูคัสก็ยังถูกขัดขวางไม่ให้ช่วยเธอ เจด้าได้แต่คร่ำครวญในใจกับชะตาชีวิต ถูกให้ออกจากบ้านหลังโตย้ายมาอยู่หอพักใกล้มหาวิทยาลัย เรียนหนังสือร่วมกับนักศึกษาบ้าน ๆ
เมื่อเจด้าเปิดประตู หญิงสาวคนหนึ่งในห้องหันมามองแล้วรีบแนะนำตัว “สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อมลฤดี เรียกสั้น ๆ ว่ามลก็ได้ ฝากตัวด้วยนะ เธอชื่ออะไรล่ะ”
แม่นะแม่ ใจร้ายชะมัด ส่งลูกสาวตัวเองมาอยู่ห้องเช่ารูหนูไม่พอ ยังให้มาอยู่ร่วมกับคนแปลกหน้า เจด้าเดินกระแทกเท้าไปที่เตียงนอน หยิบหมอนออกมาแล้วกรี๊ดใส่หมอนระบายอารมณ์
เมื่อกรีดร้องจนพอใจแล้วก็เงยหน้ามองเพื่อนร่วมห้องที่ทำหน้างง “ฉันชื่อ...” เจด้านิ่งไปสักพักก่อนตัดสินใจบอกชื่อไทยที่แม่ของเธอตั้งให้
มลฤดีมองเพื่อนใหม่ที่ดูท่าทางน่าจะแสบไม่เบา ก็พอจะเดาได้ว่าอนาคตที่ต้องอยู่ร่วมห้องกับสาวเจ้าอารมณ์คนนี้คงสนุกแน่ ๆ
“เธอเรียนคณะไหนเหรอ?”
เจด้าบอกชื่อคณะ ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายก็เรียนคณะเดียวกันแต่คนละห้อง
“ไปกินข้าวกันไหม” มลฤดีชวน ท้องเจด้าร้องพอดี เธอจึงพยักหน้า ลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ก่อนจะหยิบกระเป๋าถือแบรนด์เนมขึ้นคล้องแขน
“โอ้โฮ กระเป๋าใบนี้เหมือนของจริงเลย เมื่อวานฉันเองก็เห็นขาย ที่ในตลาด มีให้เลือกตั้งหลายสีแน่ะ”
เจด้าอึ้ง ก้มมองกระเป๋าเรือนแสนของตัวเองสลับกับหน้าคนพูด ช่างเถอะ จะเอาอะไรมากกับนักศึกษาจน ๆ คนหนึ่ง มีตาหามีแววไม่ และเธอเองก็ไม่จำเป็นต้องอวดจึงตามน้ำไป “หึ ๆ เพิ่งได้มาเมื่อวานน่ะ เหมือนของจริงจนแยกไม่ออกเลยเนอะ”
อีกฝ่ายพ่นภาษาฝรั่งเศสก่อนตบท้ายด้วยภาษาไทยชัดแจ๋ว “ผมชอบคนไทย”ชอบคนไทยแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอมิทราบ “คนไทยมีทั่วปารีส คุณก็ไปฉุดคนอื่นสิ ไม่ใช่ฉัน”“ไม่เอา ผมถูกใจคุณนี่ แต่ถ้าพรุ่งนี้ก็ไม่แน่ หลังจากที่ผมกินคุณจนหนำใจแล้ว”“บ้า!!” ไอ้บ้านี่ต้องสติไม่ดีแน่ ๆ แต่เธอตอนนี้อยู่ในสภาพโดนมัดมือทั้งสองข้าง จะอย่างไรก็หนีไม่พ้นมิหนำซ้ำตอนนี้อาวุธของเขาก็พร้อมรบ ชูตระหง่านเท่าลำแขน ของเธอ ไม่สิ รู้สึกว่าจะใหญ่กว่าด้วยซ้ำ ถ้าเธอโดนเจ้านั่น ช่วงล่างเธอต้องพรุนแน่“ไม่เอา ฉันจะแจ้งตำรวจถ้าออกไปได้”“เชิญเลย เพราะตำรวจพวกนั้นล้วนรับเงินผมทั้งนั้น” บ้าไปแล้ว แม้แต่ตำรวจก็พึ่งไม่ได้“แถมดีไม่ดี ถ้าคุณเดินออกไปทั้งสภาพแบบนี้รับรองไม่ได้มีผัว คนเดียวแน่”“ไอ้บ้า!!” เมญ่าพยายามดิ้นให้หลุดจากโซ่ แต่ยิ่งดิ้นมันกลับรัดแน่นยิ่งกว่าเดิม สุดท้ายแล้วเธอก็เหนื่อยหอบ เสียแรงเปล่าจริง ๆพอหมดแรงจึงมองผู้ชายตรงหน้าให้ดี หน้าตาก็ไม่ได้แย่นี่ ส่วนเธอเพิ่งถูกคู่หมั้นที่รักกันมาถึงห้าปีหักหลังอย่างเลือดเย็นโดยไปนอนกับเพื่อนสนิทของเธอ ดังนั้นเธอต้องสนใจอะไรอีก ในเมื่อมีเนื้อสเต๊กชิ้นงามมาเสิร์ฟถึงที่ขอสักคืนก็ไ
ทั้งคู่ถูกผลักให้คุกเข่า มาร์กัสสำรวจรอบ ๆ อย่างระวัง ปืนของพวกนั้นดูเหมือนจะเป็นไรเฟิลรุ่นเก่าจากนั้นไม่นานมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามานั่งใกล้กับคนที่เป็นหัวหน้า ชายคนนั้นพูดภาษาพม่ากับเธอ“พวกคุณเป็นใคร ทำไมถึงตกจากเฮลิคอปเตอร์ราคาแพงนั่น เป็นพวกเศรษฐีใช่ไหม” ผู้หญิงคนนั้นแปลคำถามจากหัวหน้าออกมาเป็นภาษาไทยให้ฟังมาร์กัสเงยหน้ามองพวกเขา ถ้าบอกว่าเป็นเศรษฐีคงโดนเรียก ค่าไถ่ จึงบอกไปว่า “เราสองคนเป็นผัวเมียกัน กำลังจะขับเฮลิคอปเตอร์ไปส่งให้คนซื้อ ไม่ใช่เจ้าของ”ผู้หญิงที่พูดภาษาไทยได้หันไปแปลให้คนข้างตัวฟัง อีกฝ่ายตะโกนเหมือนไม่เชื่อ คนถือปืนตรงเข้ามาหา เขาเห็นอีกฝ่ายกำลังจะยิงก็รีบลุกขึ้น คว้าปืนมาแล้วแกะแยกเป็นชิ้นส่วนความเร็วของเขาทำให้หัวหน้าโจรตกใจมาก หันไปพูดกับหญิงสาวข้างตัว เธอหันมาถามเขา “คุณประกอบปืนและยิงปืนเป็นไหม”มาร์กัสส่ายหน้า ลูกมาเฟียแบบเขาฝึกยิงปืนตั้งแต่ห้าขวบ ถ้ายิงไม่เป็นก็เสียชื่อแย่ “เป็น”หัวหน้าพูดอีกหนึ่งประโยค ผู้หญิงคนนั้นจึงพูดต่อ “นายอยากให้คุณพิสูจน์ว่าพูดจริงไหม ถ้าโกหกผู้หญิงคนนั้นจะต้องตกเป็นเมียนาย”ขณะที่แปล สีหน้าของเธอดูไม่พอใจนักโดยเฉพาะประโย
เสียงมือถือที่ดังขึ้นเรียกมาร์กัสให้หันไปมองโต๊ะทำงาน ตอนนี้โรงงานแปรรูปยังไม่เข้าที่เข้าทาง อีกทั้งเกิดเรื่องต่าง ๆ มากมายไม่เว้นแต่ละวัน ช่วงที่เขาปวดหัวกับปัญหาจึงไม่ได้รับสายโทร.สองรอบก็ว่ามากแล้ว แต่นี้เล่นโทร.ไม่หยุด เขาจึงตัดปัญหาโดยกดรับสาย “มาร์คัส พี่ทำงานอยู่” เสียงเข้มบ่งบอกว่าอารมณ์ไม่ดีปลายสายก็รีบบอก “พี่เจนล้ม ตอนนี้กำลังอยู่ในห้องผ่าตัด เด็กหัวใจเต้นอ่อนลง หมอกำลังเร่งช่วยชีวิตทั้งเด็กและแม่ ตอนนี้ผมติดงานอยู่ที่มหาวิทยาลัย อาจจะไปสนามบินช้ากว่าสักหนึ่งชั่วโมง”มาร์กัสได้ยินก็ตกใจ “งั้นพี่จะล่วงหน้าไปก่อน” มาร์กัสรีบวางสาย จัดเตรียมกระเป๋าและของจำเป็นขณะที่กำลังจะออกเดินทาง หญิงสาว คนหนึ่งก็โผล่มาปอฝ้ายมองหุ้นส่วนธุรกิจ “พี่มาร์กัสจะไปไหนหรือคะ”“พอดีพี่เจนเกิดเรื่อง ต้องเข้าห้องฉุกเฉิน พี่ต้องไปภูเก็ตด่วน”พี่เจด้าเกิดเรื่อง ถ้าจำไม่ผิด อีกไม่กี่วันพี่เจด้าก็ถึงกำหนดคลอด ถ้าเกิดเรื่องตอนนี้จะอันตรายทั้งแม่และลูก“ฝ้ายขอตามไปด้วยนะคะ” มาร์กัสมองคนที่ขอตามไปด้วย“ยังไงก็ต้องบินไปกรุงเทพฯ อยู่แล้ว ให้ปอฝ้ายไปเยี่ยมพี่เจนก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยบินวนกลับมามหา’ลัย”ถ้าไม่เพ
มือหนาที่ว่างงานก็ไม่ทำให้เธอผิดหวัง เมื่อมันเลื่อนไล้ไปยังหน้าอก บีบคลึงเคล้นกระตุ้นอารมณ์ของเธอมากขึ้นกว่าเดิม “มีลูกให้ผมอีกคนนะ”“อื้อ” เธอตอบพร้อมรับจูบจากเขา ชายหนุ่มหยอกล้อกับริมฝีปากของเมียอยู่สักครู่ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมาย เจด้าเห็นสายตาของเขาแล้วก็สะดุ้ง“ไม่นะ” ช้าไปแล้วเมื่อมือหนาฉีกเสื้ออิตาลีชุดใหม่ที่เธอเพิ่งสอยมาและใส่ได้แค่ครั้งเดียว หมดกันห้าหมื่นยูโร เธอมองเขาอย่างแค้นเคือง แต่ไม่ทันไรก็หายโกรธเมื่อเขาก้มลงดูดหัวนมเธอดังจ๊วบ เล่นเอาเสียวสะท้านรอบนี้เขาไม่เบามือเหมือนคราวก่อน ทำให้เธอรู้ว่าอันที่จริงแล้วแรงปรารถนาในกายของเขาไม่เคยลดลง มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ“ที่ผ่านมาคุณเก็บงำความจริงไว้เท่าไร” เธอเงยหน้ามองสามี“ผมไม่อยากทำให้คุณเจ็บ”“แล้วเจนบอกเมื่อไรว่าเจนทนไม่ได้”ประโยคนี้เหมือนเป็นใบเบิกทางให้เขา ความปรารถนาอันเร่าร้อนที่อยู่ในตัวของนายหัวถูกส่งออกมาทันที โดยที่เจด้าต้องคิดใหม่ว่าไม่น่าพูดออกไปแบบนั้นพูดจบเขาดูดกลืนหน้าอกเธอแรงกว่าเดิม มือซ้ายที่ว่างก็เลื่อนต่ำลงไปยังด้านล่าง จากนั้นสอดนิ้วเข้าไป“อืม” นิ้วเดียวพอทน แต่พอรู้สึกว่ามีอีกนิ้วเพิ่มเข้าไปเธอก็เบิ