Masukตั้งแต่วันที่รู้เรื่องฉันยังคงรอคุณธีร์กลับมาหาที่บ้าน แต่เขาก็ไม่มาให้เจอ เขาส่งข้อความเสียงมาให้ลูกฟัง ถ่ายวีดีโอมาให้ลูกดู พร้อมกับบอกลูกว่าเขางานยุ่งมาก ๆ ช่วงนี้กลับมาหาไม่ได้แม้ว่าเขาจะไม่ได้มา แต่เรื่องเงินเดือนที่เขาให้ฉันและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่เคยขาด ทั้งยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆนี่ก็ผ่านไปอีกหนึ่งเดือนแล้ว งานแต่งที่เพื่อนฉันบอกมาก็ถูกจัดไปเรียบร้อย ไอยาส่งรูปมาให้ดู บอกว่าพี่เอสแอบถ่ายมาให้เธอดูภาพที่ฉันเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวเหมาะสมกันมาก คุณธีร์ยิ้มอย่างมีความสุขคนที่ได้อยู่กับคนที่รักเป็นแบบนี้เองสินะ“แม่อย่าร้อง ไม่ร้องนะคับ” เสียงสั่นเครือของลูกชายทำให้ฉันรีบเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า ไม่คิดว่าลูกที่หลับไปแล้วจะตื่นขึ้นมากลางดึกหรือว่าฉันสะอื้นดังเกินไป“น้องปัทม์ทำไมตื่นลูก”“ปัทม์ตื่นมาไม่เห็นแม่ ปัทม์เสียใจ แม่อย่าทิ้งปัทม์นะ”“ปัทม์เป็นลูกแม่ แม่ไม่ทิ้งลูกค่ะ”“แต่พ่อทิ้งเรา พ่อทิ้งเราไปแล้ว”“ไม่ใช่แบบนั้นนะลูก พ่อเขางานยุ่ง”“พ่อไม่ต้องการเรา ฮือ ฮือ…”“ไม่เอาไม่ร้องนะปัทม์ เดี๋ยวพ่อว่างพ่อก็มาค่ะ เดี๋ยวพ่อก็มาหาปัทม์นะ”“ปัทม์คิดถึงพ่อ แม่คับปัทม์คิดถึงพ่อ”“แม่ขอโทษ แม่
ว่ากันว่าอะไรที่ได้มาง่าย ๆ มักจะกลายเป็นของไร้ค่าง่ายเสมอ โดยเฉพาะกับคนรวยที่แค่เห่อช่วงแรก ๆ เท่านั้นคำว่าจะดูแลอย่างดีก็ไม่ได้ผิดคำพูดอะไร เพียงแต่เป็นฉันเองที่ตีความหมายผิดไป คิดเข้าข้างตัวเองอีกตามเคย และก็ยังโง่ซ้ำซาก หลงรักคนคนเดียวซ้ำแล้วซ้ำเล่ายอมเป็นเมียเก็บ อยู่ในที่ลับตาคน อยู่ในสังคมอันน้อยนิดที่เขาสร้างขึ้นโลกอีกใบของเขาไม่มีใครรู้จักฉันและลูกชายเลยสักคนจากเด็กเลี้ยงในวันวานเปลี่ยนมาเป็นแม่ของลูกที่พ่วงด้วยตำแหน่งเมียเก็บเพราะหลงคารมและความดีที่เขามีให้ฉันก็เลยตกอยู่ในสถานะเมียเก็บ“แม่คับวันนี้พ่อธีร์จะมาหาปัทม์ไหมคับ” ลูกชายวัยสามขวบเอ่ยถามด้วยวาจาฉะฉาน“พ่องานยุ่งค่ะ ช่วงนี้น่าจะไม่ได้มาหาเรานะคะ”“โทรหาพ่อได้เปล่าคับ”“เวลาพ่อทำงานเราต้องห้ามโทรกวนนะคะ”“แต่ว่าพ่อหายไปนานแล้วนะ ปัทม์คิดถึงพ่อจังเลย แม่คิดถึงพ่อหรือเปล่าคับ”“คิดถึงค่ะ” ฉันลูบหลังลูกชายที่กำลังจะเคลิ้มหลับ “นอนนะคะ พรุ่งนี้แม่พาไปโรงเรียน”“คับแม่”นับตั้งแต่ฉันคลอดลูกนี่ก็ผ่านมาสามปีได้แล้ว หลังจากคลอดลูกในครั้งนั้น ในวันที่ออกจากโรงพยาบาลคุณธีร์ก็พาฉันมาอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้ถูกซื้อโด
เป็นช่วงเวลาเกือบสามเดือนก่อนคลอดที่ฉันแทบไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากกินนอนออกกำลังกายบ้างเล็กน้อย งานบ้านคุณธีร์ก็ไม่ให้ฉันทำ เขาบอกว่าอันตราย ท้องโตแล้วควรเห็นความปลอดภัยของลูกเป็นหลักฉันหงุดหงิดมากที่ต้องอยู่แบบไม่ต้องทำอะไรกับเพื่อนก็ได้คุยกันน้อยมาก กับไอยาก็แทบไม่ได้คุยเลย ได้แค่ดูเพื่อนผ่านหน้าไลฟ์ แต่เท่าที่รู้ดูเหมือนผู้ชายที่เคยเป็นพ่อของเด็กในท้องไอยาจะเป็นพี่เอสพี่ชายของเอลลี่ก่อนหน้านี้ฉันเคยแอบคิดว่าเป็นพี่บีมคู่หมั้นของเอลลี่ เพราะวันนั้นวันเกิดพี่เอสไอยาดูเสียใจเมื่อลองทบทวนดูอีกครั้งตอนนั้นที่ไอยาเสียใจอาจจะเป็นเพราะเพิ่งรู้ว่าพี่เอสคือพี่ชายของเพื่อนสนิทฉันก็นะ ในหัวตอนนั้นเข้าใจว่าไอยาเพิ่งรู้ว่าคนที่เคยมีสัมพันธ์กลายเป็นคู่หมั้นของเพื่อน ไอยาวันนั้นถึงได้เสียใจมากแต่ตอนนี้จะเป็นคนไหน เป็นใคร ก็เหมือนกลับเข้ามาเพื่อตอกย้ำความเจ็บปวดของไอยา ตอกย้ำเรื่องที่เธอเคยตัดสินใจผิดพลาดสงสารเพื่อน อยากไปหาเพื่อน อยากไปอยู่ข้าง ๆ อยากปกป้องเพื่อนติดก็ตรงที่ ‘ท้องโตขนาดนี้จะออกไปข้างนอกทำไมบ่อย ๆ อันตราย รอคลอดแล้วอยากไปไหนก็ไป’พ่อของลูกอารมณ์สวิงกว่าฉันที่เป็นคนท้องอีก“ไม
เกือบเที่ยงคืนเราเดินทางมาถึงคอนโด คอนโดเดิมที่ฉันเคยอยู่ ฉันกลับมาที่นี่อีกครั้งหลังจากที่เดินออกไปจากที่นี่เป็นเวลาหลายเดือน อายุครรภ์ตอนนี้หกเดือนกว่าใกล้เจ็ดเดือน เรียกว่ากำลังย่างเข้าสัปดาห์ที่ 28“ไม่มีคนอยู่ที่นี่เหรอคะ”“พี่ไง พี่คนนะ”“อ้อ ค่ะ” ฉันหมายถึงผู้หญิงที่เขาเลี้ยงไว้ต่างหากแต่เขาบอกเองว่าอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา ฉะนั้นก็ไม่ควรถามต่อ“หิวไหมครับ”“ไม่ค่ะ”“ลูกของพี่หิวหรือเปล่า”“ดึกแล้ว ไม่กินแล้วค่ะ”“ดื่มนมหน่อยไหม” นมที่พูดถึงคือนมสำหรับคนท้อง เขาแวะร้านสะดวกซื้อก่อนเข้าคอนโด“ไม่ค่ะ”“...” คุณธีร์มองหน้าฉันด้วยสายตาไม่พอใจ“ขอยืมโทรศัพท์ได้ไหมคะ”“ไม่ได้”“บัวต้องบอกเพื่อน เพื่อนจะได้ไม่เป็นห่วง”“พี่ให้เพื่อนพี่บอกแล้ว เราไม่ต้องห่วงอะไร ดื่มนมแล้วเข้าห้องนอนได้เลย”“พี่เอสเป็นเพื่อนคุณธีร์เหรอคะ”“ใช่ ทำไม”“เปล่าค่ะ”“พี่กับเซรีนเป็นเพื่อนกัน”“...”“เผื่อเธอเข้าใจผิด”“บัวจะเข้าใจผิดหรือเปล่าคุณธีร์ไม่จำเป็นต้องใส่ใจนี่คะ ความรู้สึกของบัวบัวรับผิดชอบเอง”“เมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่ว่าตอนนี้เธอท้องลูกของพี่ ความรู้สึกของเธอตอนตั้งท้องพี่ต้องรับผิดชอบ พี่ไม่อยา
เพราะวันนี้เอลลี่ออกไปดินเนอร์อย่างเป็นทางการกับพี่บีมคู่หมั้นของเธอตามที่ครอบครัวของเอลลี่สั่งมา ฉันจึงอยู่บ้านกับไอยา ไอยาติดไลฟ์สดมาเปิดประตูให้คนที่มาไม่ได้ จึงเป็นฉันที่ยังไม่นอนออกมาเปิดประตูแทนก็ไม่คิดว่าจะเจอกับคุณธีร์ ถ้ารู้ว่าเป็นเขามีเหรอฉันจะออกมา“น้องบัวก็อยู่ที่นี่เหรอครับ” พี่ชายของเพื่อนปรับท่าทีที่ก่อนหน้านี้เหมือนคนเมา เขาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ“ค่ะ พี่เอสมาหาเอลลี่เหรอคะ เอลลี่ไม่อยู่ค่ะ”“พี่...” พี่ชายของเอลลี่ดูอึกอัก“มันเมา ส่วนเรามีเรื่องต้องคุยกัน” คุณธีร์ที่ยืนจ้องจนฉันรู้สึกเสียวสันหลังได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบราบ“รู้จักกันเหรอ” พี่เอสเอ่ยด้วยสีหน้าสงสัย“ไม่รู้จักค่ะ/รู้จัก”“สรุปรู้จัก”“เรื่องของมึงกูช่วยแค่นี้ ที่เหลือจัดการเอง” คุณธีร์พูดกับพี่ชายของเอลลี่จบก็ผลักพี่เอสออกแล้วก็ยื่นมือมาจับมือฉัน เขาออกคำสั่ง “ขึ้นรถ”“ไม่ค่ะ”“แน่ใจนะ”“...”“พี่ถามว่าแน่ใจใช่ไหมที่จะสู้กับพี่”“...”“ว่าไง”“มึงจะทำอะไรบัวไอ้ธีร์ น้องไม่เต็มใจไปกับมึงมึงก็อย่า...”“ไปจัดการเรื่องของมึง เรื่องกูกูจัดการเอง”“แต่น้องบัวเป็นเพื่อนน้องสาวกู มึงจะมาเอาน้องไปแบบนี้ไม่
“ทำไมมึงทำหน้าเหมือนคนอกหักเลยวะ” มาวินเจ้าเดิมเอ่ยทัก ทักแบบนี้อย่าทักดีกว่า“มีคนคู่ควรให้กูใช้คำนี้ด้วยเหรอ”“คนไหนก่อน ตั้งแต่เลิกกับน้องบัวกูก็เห็นมึงไม่ซ้ำหน้า มึงสองคนเป็นบ้าอะไรกันครับ ของขาดเหรอ”“กูเกี่ยวอะไรวะ” เอสเพื่อนอีกคนเงยหน้าจากเต้าขาว ๆ เพื่อมองหน้ามาวิน“เลิกอะไรด้วย กูไม่ได้คบกับเขาจะเลิกอะไร”“อ้อ โทษที กูใช้คำผิดน่ะ ตั้งแต่เลิกเลี้ยงน้องบัวมึงก็เอาไม่เลือกเลยเพื่อน มึงเป็นอะไร ตกหลุมรักเขาเหรอ”“ตกหลุมรักนี่เกิดขึ้นได้บ่อยด้วยเหรอ”“เกิดไม่บ่อย แต่ที่เกิดกับลิลิอาจจะเป็นความยึดติดมากกว่าตกหลุมรัก”“ความรู้สึกของกูเอง ทำไมกูจะไม่รู้”“เออ มึงเก่ง เก่งจนลิลิแม่งมีผัวมีลูกไปแล้ว สุดท้ายมึงก็เลยอยู่เป็นโสดรอลิลิเลิกกับผัว”“ตอกย้ำกูเพื่อ นี่มึงกินอะไรผิดมา”“กูไม่ได้กินอะไรผิด กูต่างหากต้องถามมึงว่ามึงเป็นอะไร”“จะเป็นอะไร ปกติดี”“แบบนี้เรียกปกติ?”“อืม แค่ผู้หญิงคนเดียวไม่ได้ทำให้กูเสียศูนย์อะไร”“คนไหน ลิลิหรือน้องบัว”“ไม่ต้องเสือก”“ได้ กูไม่เสือกครับเพื่อน งั้นคืนนี้พกกลับกี่คนดีครับเพื่อน”“วันนี้มันพกกูกลับ” เอสพูดแทรก“พวกมึงหันมากินกันเองเหรอวะ” มาวินหน้าต







