LOGINเพื่อนสนิทต้องจูบกันด้วยเหรอวะ เพือนกันเขาไม่หึงไม่หวงกันหรอกนะ เพื่อนต้องนอนกอดกันด้วยเหรอ กฏของการแอบรักเพื่อนสนิท คือเจ็บเสมอ
View Moreแกร๊ง!
เสียงระฆังจากข้างเวทีมวยส่งสัญญาณให้คู่ชกแยกออกจากกันและเข้ามุมฝ่ายตน
“เฮ้ย…ไอ้จิ๋ว เอ็งอย่าเพิ่งแลก การ์ดมันแข็ง เจาะยางเตะตัดไปก่อน พอขามันเริ่มอ่อนได้จังหวะแล้วเสย ฟันศอก”
“เข้าใจป่ะ?” เสียงจากพี่เคน พี่เลี้ยงจำเป็นของชมรมมวยมหาวิทยาลัย ปากพูดไปดวงตาจ้องจริงจังที่ใบหน้าของนักมวยสาว มือก็นวดคลึงบ่าและแขนไปพร้อมกัน
นักชกสาวพยักหน้าหงึก ๆ นั่งพิงมุมพัก หายใจทางปากช่วยดึงออกซีเจนเข้าปอด บ้วนฟันยางออกแล้วรับขวดน้ำจากมือพี่เลี้ยงเข้ามาดื่มอึกใหญ่ ก่อนจะสวมฟันยางเข้าไปใหม่อีกครั้ง
เอวา เทน้ำใส่ผ้าเช็ดหน้าแล้วบิดหมาดกวาดเหงื่อที่ไหลโชกอยู่ตามใบหน้าและลำคอของเพื่อนสาวออก หูก็ฟังพี่เลี้ยงบอกการออกอาวุธในจุดบอดของคู่ต่อสู้ไปพร้อมกับนักมวยอย่างตั้งใจ ถึงแม้จะฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง
“อีกแค่สองยกการ์ดอย่าตกนะมึง ระวังมันยิงหมัดหน้า”
พยักหน้ารับรู้ หูฟังพี่เลี้ยงแต่ตามองตรงไปที่คู่ต่อสู้ที่แสยะยิ้มส่งมาอย่างผู้ชนะ จากยกแรกที่เพิ่งหมดไปและดูเหมือนเธอจะเป็นมวยรองอยู่
“ไหวนะจิ๋ว?”
เสียงเพื่อนสาว เอวา ที่ยื่นหน้าเข้าใกล้เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง หญิงสาวพยักหน้ารับ ส่งสัญญาณว่ายังโอเคอยู่
แกร๊ง
เสียงระฆังยกสองดังขึ้น
สองนักชกหญิงลุกจากมุมพัก เดินเข้าประจันหน้ากันทันที จิวารี สวมกางเกงนักมวยสีน้ำเงิน ฝั่งตรงข้ามคือสาวหน้าหล่อที่สวมกางเกงนักมวยสีแดงเดินเข้าหาฝ่ายน้ำเงินอย่างย่ามใจจากที่เธอเป็นต่อในยกแรก
ฝ่ายแดงกำลังไล่ต้อนฝ่ายน้ำเงินที่ตั้งการ์ดกัน รอจังหวะอยู่ ต่างฝ่ายต่างออกอาวุธหมัดแลกหมัดผลัดกันเจ็บ ทั้งที่รับปากไปแล้วว่าอย่างเพิ่งแลก แต่จะให้รอยึก ๆ ยัก ๆ ไม่ใช่นิสัยจิวารีแน่ ฝ่ายแดงที่ถูกเจาะยางเตะตัดสกัดดาวรุ่งไว้เพราะการไล่ต้อนเพียงเพื่อหวังจะล้มคู่ต่อสู้ให้ได้ไว ๆ ฝ่ายน้ำเงินที่ขาเรียวยาวและแข็งแรงถีบเข้ายอดหน้าฝ่ายรุกจนหงายเงิบที่มัวแต่เผลอชะล่าใจ พร้อมเตะตัดต่ำเข้าซ้ำ ทำให้ฝ่ายแดงล้มลงไม่เป็นท่า แต่ก็รีบลุกขึ้นอย่างว่องไว
การล้มไม่ได้ทำให้สาวหล่อตื่นกลัวเลยแม้แต่น้อย แต่ตรงกันข้ามเหมือนจะสร้างความเดือดดาลให้เธอพอสมควร ก่อนจะปรี่เข้าหาฝ่ายน้ำเงินพร้อมออกหมัดรัวถี่แบบประชิดตัว แต่ก็โดนหมัดแลกกลับพร้อมทั้งฟันศอก บวกกับเข่าเสียบที่สีข้างจุก ๆ ไป
ฝ่ายแดงที่ดันฝ่ายน้ำเงินเข้ามุมพร้อมอัดหมัดหนักๆ ใส่ไม่ยั้ง จิวารีตั้งการ์ดไว้แน่นได้จังหวะเข่าแหลมกระทุ้งสวนเข้าที่ลิ้นปี่ ล็อกคอลากอีกฝ่ายไปตีเหน็บเข่าปักที่กล้ามท้อง แล้วฟันศอกซ้ำ สองนักชกที่กอดคอลากกันไปก่อนที่กรรมการจะจับแยก
เหมือนเป็นการให้นักมวยได้พักหายใจ ก่อนที่สาวหล่อจะบุกไล่บี้ต่อ แต่โดนฝ่ายน้ำเงินถีบผลักออก ฝ่ายแดงที่ไม่ท้อต้อนคู่ต่อสู้เข้ามุมชกหน้าสลับลำตัวอย่างไม่ยั้ง แต่ก็โดนสวนกลับจากฝ่ายน้ำเงินไม่แพ้กัน สาวหล่อโยกตัวออกหลบศอกแหลมเฉียดหัวคิ้วอย่างหวุดหวิด ปล่อยหมัดสวนเข้ากึ่งปากกึ่งแก้มของจิวารี ใบหน้าสวยที่แหงนขึ้นจากการกระแทกของกำปั้นนวมอย่างเต็มกำลังจนฟันยางหลุดกระเด็นออกจากปาก
แกร๊ง
เสียงสัญญาณหมดยกสองเข้าช่วยจิวารีไว้ทันท่วงที
พร้อมกับเสียงเฮของกองเชียร์ที่สงบลงเช่นกัน เปลี่ยนเป็นชุลมุนวุ่นวายและกรูเข้าขอบเวทีมุมพักของฝ่ายตัวเอง
สองนักชกนั่งหายใจหอบอยู่มุมพัก ฝ่ายแดงที่เริ่มออกอาการเดือดดาลเลือดพุ่งที่ล้มคู่ต่อสู้ไม่ได้ง่าย ๆ อย่างที่เธอหวังไว้ทั้งที่ตัวเองก็เป็นมวยเด่น สวนทางกับขาที่ถูกเจาะและเตะตัดจนเริ่มสั่นจนสังเกตได้ รอยแดงจากการถูกฟาดของลำแข้งและหลังเท้าทิ้งร่องรอยไว้ให้เห็นอยู่เต็มเรียวขา
“ดีมากไอ้จิ๋ว ยกสุดท้ายแล้ว ตั้งการ์ดให้แน่นแล้วสวนหมัด ขาแกยาวและแข็งกว่า เตะถีบได้เปรียบ แลกหมัดให้เผลอรอจังหวะแล้วฟันศอก เล็งก้านคอไว้ใช้ขายาวให้เป็นประโยชน์ เข้าใจป่ะ?”
“มีสติเหมือนที่พี่บอกเล็งเป้า…โอเค๊ะ?”
พี่เคนที่เก็บรายละเอียดจากการชกและปรับแก้สอนมวยน้อง เช็ดเหงื่อตามใบหน้าให้ หญิงสาวพยักหน้ารับรู้
“ไหวนะ?” เสียงถามอย่างห่วงใยจากเพื่อนสาวเอวาจับปลายคางเธอเอียงดูรอยแตกที่ปากบางเพราะเลือดซิบอยู่ ก่อนจะซับเลือดออกให้
“อือ”
พยักหน้าบ้วนฟันยางออก อ้าปากรับน้ำที่พี่เคนเทกรอกปากให้ราดลงลำตัวก่อนจะจับผ้ามาเช็ดตามกรอบหน้าที่แดงจากการถูกกระแทกด้วยกำปั้นนวม หายใจถี่แรงแต่ดวงตาเด็ดเดี่ยว วันนี้เธอต้องล้มไอ้หน้าหล่อนี้ให้ได้
ส่วนกองเชียร์ด้านหลังกำลังสาละวนกับยอดเงินพนันขันต่อว่าฝ่ายไหนจะเป็นผู้ชนะโดย จิวากร พี่ชายของจิวารีที่เป็นหัวหอกตั้งต้น
แกร๊ง
เสียงระฆังยกสุดท้ายเริ่มขึ้น
ไม่มีเวลาดูเชิงกันและกันแล้ว ต่างฝ่ายต่างเดินเข้าหา พร้อมกับกองเชียร์ที่วิ่งมาขอบเวทีเรียงหน้าสลอนทั้งสองฝ่าย เนื่องจากเป็นมวยเฉพาะกิจกองเชียร์จึงไม่ถูกเข้มงวด สาวหล่อที่จดมวยเข้าหาพร้อมแจกอาวุธหมัดอย่างดุเดือด จิวารีตั้งการ์ดปิด พร้อมยิงหมัดสวน เตะสกัดไว้ ถีบเข้ากลางอกให้ฝ่ายรุกเสียท่า ก่อนอีกฝ่ายจะตั้งรับและออกหมัดตรง จิวารีโยกหลบเตะเข้าข้างลำตัวตามด้วยหมัดกระแทกที่กกหู
สองนักชกปรี่เข้าหากัน ออกอาวุธอย่างบ้าคลั่ง เสียงเชียร์จากขอบเวทีเหมือนเป็นยากระตุ้นอย่างดีสำหรับคู่มวยหวานซาตานสั่ง คือชื่อที่ถูกตั้งขึ้นเฉพาะกิจในวันนี้
สาวสวยกองเชียร์ของฝ่ายแดงที่หน้าตาไม่สู้ดีนักไม่มีเสียงเชียร์ใด ๆ ออกจากปากเธอเลยสักแอะ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการชกในครั้งนี้ แต่ไม่สามารถห้ามสาวหล่อหัวใจชายได้เลยสักนิด
เสียงเชียร์ที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อสองนักมวยหัวใจใหญ่กว่าตับที่ไม่มีทีท่าว่าจะกลัวเจ็บกันทั้งสองฝ่าย ฝ่ายแดงที่ขาเริ่มล้าจากการถูกเตะสกัดอยู่เป็นระยะ ฝ่ายน้ำเงินที่ถูกป้อนหมัดจนเริ่มเมาเช่นกัน เวลาเหลือน้อยลงเรื่อย ๆ สาวหล่อที่เข้าประชิดตัวปล่อยหมัดถี่ ๆ
จิวารียกการ์ดป้องโยกหลบ เอนหลังตั้งท่าแล้วฟาดแข้งเข้าลำตัวฝ่ายแดง พร้อมกับโดนสวนเข้าที่ปากซ้ำรอยแตกเดิมให้กว้างขึ้น เธอยกการ์ดตั้งปิดไว้ให้แน่นสองสายตาของจิวารีจับจ้องที่คู่ต่อสู้ที่กำลังปรี่เข้ามา มองการขยับไหล่ซ้ายขวาคู่ต่อสู้และคาดการณ์การออกอาวุธของฝ่ายตรงข้ามว่าจะมาทิศทางใด พร้อมกับฝ่ายแดงที่ยิงหมัดมา เธอโยกหลบและกระโดดสูงขึ้นเหวี่ยงฟันศอกลงที่หางคิ้วของฝ่ายแดง สาวหล่อที่เหมือนโดยฟาดด้วยไม้หน้าสาม เห็นดวงดาวพราวระยิบระยับในตอนกลางวัน แสงสว่างจ้าในหัวแต่ภาพกลับเบลอ จิวารีหมุนตัวงัดท่าทีเด็ดจากพี่เคนจระเข้ฟาดหาง เหมือนล็อกเป้าไว้ลงก้านคออย่างเหมาะเหม็ง พร้อมกับร่างสาวหล่อทอมบอยที่นอนหงายตึงล้มทั้งยืนบนเวทีมวย
“เฮ้…”
เสียงกองเชียร์ฝ่ายน้ำเงินกระโดดโลดเต้นและวิ่งกรูขึ้นบนเวที เอวาเพื่อนสาวปีนขึ้นบนเวทีมวย วิ่งไปคว้าแขนผู้ชนะชูขึ้นกลางอากาศอย่างดีอกดีใจ แทนกรรมการ
“น็อคเอ้าท์”
เธอกระโดดพร้อมตะโกนเสียงดังสดใสแข่งกับเสียงเฮด้านล่าง
จิวารียืนแสยะยิ้มมุมปากถอดฟันยางออกปล่อยให้เพื่อนสาวชูมือเธอกระโดดเหยง ๆ ต่อไปอยู่อย่างนั้น
รุ้งทิวา จับพยุงร่างคนพ่ายฝ่ายแดงให้ลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับพี่เลี้ยงที่ช่วยกันปฐมพยาบาลคนละไม้คนละมือ
“ไทเกอร์เป็นไงบ้างเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” เอ่ยถามหวานใจที่พ่ายแพ้อย่างเจ็บปวด
กองเชียร์ฝ่ายแดงที่ล้วงกระเป๋านับเคลียร์ยอดเงินที่ต้องจ่ายให้ฝ่ายตรงข้ามอย่างผิดหวัง เชียร์จนเสียงแหบคอแทบแตกสุดท้ายก็เชียร์เอาเงินทอน
จิวารีเดินมาหาผู้แพ้ที่ยังนั่งอยู่และพิงอกสาวคนรักอย่างผิดหวังด้วยใบหน้าหงอย
“รู้แพ้รู้ชนะแล้วต่อไปก็เลิกยุ่งกับรุ้งซะตามข้อตกลง” เธอเอ่ยกับไทเกอร์
“และเธอก็รู้ตัวไว้ด้วยยัยรุ้งว่าเธอต้องมีแค่พี่แจ็คคนเดียวเท่านั้นตามข้อตกลง”
จิวากร เดินเข้ามาสมทบกับน้องสาว
“ไม่อ่ะ ฉันได้ค่าพนันเยอะแล้ววันนี้ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว” ชายหนุ่มพูดชิว ๆ
“ฮะ” จิวารีหัวคิ้วชนกันเผยอปากแตกอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“ต่อไปฉันกับเธอก็ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวอะไรกันอีก...จบ”
จิวากรพูดต่อตัดจบให้แบบสั้น ๆ กับรุ้งทิวา มองหน้าเจื่อน ๆ ของหล่อนอย่างไม่มีเยื่อใยและเดินลงเวทีอย่างอารมณ์ดี จิวารีสาวเท้าตามมาติด ๆ
“อะไรวะพี่แจ็ค ไม่เอาแล้วให้ฉันชกจนเจ็บตัวฟรีทำไมเนี่ย?”
“ฉันบอกแกชกหรือไง?”
“อ้าว ไมพูดงี้วะ?”
“ฉันก็บอกแล้วว่าฉันไม่สน แกไปรับปากมันทำไมว่าจะชกด้วย”
จากหัวข้อการพนันหลังจากที่ไทเกอร์ไปโวยวายในมหาวิทยาลัยกล่าวหาว่าจิวากรแย่งแฟนสาวของเขา แต่ไม่มีข้อยุติว่าใครมาก่อนมาหลัง สุดท้ายไทเกอร์ก็ท้าชก แต่จิวากรปฏิเสธเนื่องจากเธอเป็นผู้หญิงและเขาจะไม่ชกกับสุภาพสตรี แต่ผู้เป็นน้องที่รู้สึกว่าพี่ชายโดนหยามเกียรติและรับขึ้นชกแทนเอง
“เอาน่า ฉันได้พนันเยอะเดี๋ยวแบ่งให้”
จิวากรเอื้อมมือกอดคอน้องสาวอย่างอารมณ์ดี และเธอที่สลัดมือเขาออกให้พ้นตัวอย่างหงุดหงิด
เสียงลมหนาวพัดผ่านรวงข้าวสีทองที่โอนเอนตามแรงลมอย่างอ่อนช้อย แสงอาทิตย์แรกของวันทาบทอลงบนท้องทุ่งกว้าง กลิ่นฟางกลิ่นดินที่ลอยคละคลุ้งในอากาศเมื่อหมอกจาง ๆ เริ่มคลายตัว กลุ่มนกน้อยใหญ่บินวนจิกเมล็ดข้าวในทุ่งนาโดยไม่สนใจหุ่นไล่กาเลยสักนิด ประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนที่คุ้นหน้ากันเสียอย่างนั้นอิทธิพลขับมอเตอร์ไซค์ตามทางคดเคี้ยวที่ใช้เป็นทางลัดกลับจากท้ายทุ่ง โดยมีจิวารีนั่งซ้อนท้าย ในมือถือตะกร้าผักสดที่เก็บมาใหม่ ๆ สำหรับให้พ่อโจทำกับข้าวในเช้านี้ หลังจากสองหนุ่มสาวเคลียร์ความวุ่นวายของงานลงตัวแล้วและกลับมาเยี่ยมพ่อผ่านพ้นไปหลายฤดูที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามวันเวลาที่ล่วงผ่าน เช่นเดียวกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของการทำงาน ที่ไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันคือวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันอย่างดีให้กับทุกปัญหาของการใช้ชีวิตอิทธิพลได้เข้าศึกษาต่อในสาขาบริหารธุรกิจเพื่อสานต่อตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัวหลังจากทรงศักดิ์จากไปอย่างสงบในวัยชรา ดวงยี่หวาโอนกิจการร้านอาหารให้ทายาทเพียงคนเดียวหลังจากออกไปทำกิจการความสวยความงามตามที่เธอชื่นชอบ และมีจิวารีบริหารกิจการต่อจากเธอจิวากรลาออกจากบ
สองหนุ่มสาวหอบหิ้วถุงขนมขบเคี้ยวและกับแกล้มจากร้านสะดวกซื้อ หิ้วพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด อีกทั้งเครื่องดื่มที่ตุนไว้สำหรับการเชียร์บอลในคืนนี้ด้วย จิวารีขอตัวไปอาบน้ำหลังจากเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ชำระร่างกายคืนความสดชื่นแล้วยังไม่ทันจะได้นั่งพักเหนื่อยเสียงเคาะที่หน้าประตูก็ดังขึ้น ส่องดูหน้าคนเคาะที่ตาแมว อิทธิพลนั่นเอง“รอนานแล้ว” ทันทีที่เปิดประตูให้เขาก็อ้อนทันที พร้อมกับจูงมือหญิงสาวเดินมาที่ห้อง เครื่องดื่มและของขบเคี้ยวถูกนำมาวางตรงโต๊ะหน้าทีวีสำหรับการเตรียมเชียร์บอลเรียบร้อย พร้อมกับเสียงบรรยายเมื่อการแข่งขันกำลังจะเริ่ม จิวารีนั่งลงข้างเขาเอนพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย“ที่ร้านเป็นไงบ้างวันนี้ยุ่งหรือเปล่า?”“อือ ลูกค้าเยอะ วันนี้ใส่รองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ไม่สบายเท้าเลย แถมปวดขามากอีกต่างหาก” มือทุบที่หน้าขาตัวเองเบา ๆ“เหนื่อยก็พักมีพี่ไพลินอยู่ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหรอก” ยกแขนขึ้นโอบไหล่เธอและดึงเข้ามาซบไหล่ตัวเอง“แล้วเรื่องเรียนต่อของนายไปถึงไหนแล้ว?”“รอเรื่องงานลงตัวก่อนค่อยว่ากันอีกที?” ตอบและจูบที่หน้าผากจิวารีเงยหน้าขึ้นมองเขา“อะไร?” อิทธิพลถามเมื่อหญิงสาวเอาแต่ยิ้มแล
จิวารีอยากตอบตกลงการเริ่มงานใหม่กับเอวา เมื่อถูกทาบทามให้ไปทำงานที่สาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดกับการร่วมหุ้นของสองครอบครัวระหว่างดวงยี่หวาและพิมพ์พรรณ แต่ดวงยี่หวาขอร้องให้เธอมาบริหารร้านอาหารแทน โดยยกเหตุผลทั้งร้อยแปดประการให้หญิงสาวใจอ่อน เพียงเพราะเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวไม่อยากให้สาวห่างไกลหูไกลตาเท่านั้นเองส่วนอิทธิพลนั้นตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งตามที่ทรงศักดิ์แต่งตั้ง ในการสานต่อธุรกิจของตระกูล เนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้เป็นปู่ เท่ากับว่าความรักที่เพิ่งผลิบานใหม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและภาระหน้าที่เพราะต่างฝ่ายต่างเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ในชีวิตการทำงาน ทำได้เพียงส่งข้อความหวานและโทรหาเพื่อฟังเสียงเท่านั้น หลังเลิกงานก็มารับหญิงสาวกลับห้องพร้อมกัน เพราะขนกระเป๋าเสื้อผ้ามาอยู่คอนโดที่เคยปฏิเสธแล้ว เนื่องจากดวงยี่หวาอ้างเป็นสวัสดิการและใกล้ที่ทำงานจะได้สะดวกในการเดินทางด้วย“ร้านเดิมนะ ตอนเย็นหลังเลิกงานวันศุกร์”คือข้อความที่นัดเจอกันของกลุ่มเพื่อน หลังจากห่างหายจากการพบปะสังสรรค์นานแล้วหลังจากสิ้นสุดการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะต่างฝ่ายต่างยุ่งกับการจัดการชีวิตให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งเร
“มีอะไรหรือเปล่า?” เป็นเขาที่ถามขึ้นมาก่อน“เอ่อ....” เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ อิทธิพลปิดหลอดยาและเก็บลงกล่อง“เมื่อคืนนายไปส่งฉันใช่ไหม?” ถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าใช่จากที่เอวาบอก“อือ” ตอบและเดินไปหยิบรีโมทย์เปิดทีวี นั่งพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย เลื่อนเลือกช่องดูผลการแข่งขันฟุตบอล“ขอบใจนะ” จิวารีอึกอักพูดต่อ“พี่แจ็คไม่อยู่บ้านน่ะ...ออกไปตั้งแต่เช้าก็เลยยังไม่ได้ถาม” ขยายความให้เผื่อเขาสงสัย“แล้ว...” เธอหยุดคำพูดไว้แค่นั้น กลอกตาล้อกแล้กไปมาเหมือนหัวขโมยจอมโกหกที่กลัวคนจับได้“หือ...” อิทธิพลหันมามองหน้ายกคิ้วเป็นคำถาม และรอฟังว่าเธอจะถามอะไรต่อ จิวารีเม้มปากแน่น หายใจติดขัด“คือ...ฉัน...น่าจะเมาหนักมาก”“แล้ว...เผลอทำอะไรรั่ว ๆ หลุด ๆ ไปบ้างหรือเปล่า?” ถามอย่างมีเลศนัยอิทธิพลยกมือขึ้นจับคางทำท่าครุ่นคิด“ก็...”จิวารีลุ้นคำตอบตามอย่างตื่นเต้น“ไม่มีนะ”เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ฟังคำตอบจากเขา ค่อยยังชั่วหน่อย ที่แท้ก็แค่มโนเท่านั้น ยิ้มอย่างผ่อนคลาย กำลังจะอ้าปากถามเขาว่าอาหารจะมาส่งกี่โมง“เราก็แค่จูบกันเฉย ๆ” อิทธิพลพูดสวนขึ้นมารอยยิ้มบาง ๆ เมื่อครู่ค่อย ๆ หุบลง พร้อมกั