Masukวันขึ้นศาลมาถึง ช่อพิกุลมาถึงตามเวลานัดหมายช่วงเช้า ใบหน้าหวานแต้มเครื่องสำอางค์บางเบาผิวขาวละเอียดตัดกับชุดสีดำคุมโทนกางเกงยาวขากระบอกเสื้อโค้ทคลุมถึงเข่า
เป็นไปตามคาด คริสโตเฟอร์ส่งตัวแทนและทนายมาดำเนินการแทนและฟ้องร้องการผิดนัดชำระหนี้ต่อธนาคารในเครือของตระกูลเฮมเวิร์ท ช่อพิกุลยอมรับอย่างใจเย็น เวลานี้เธอต้องใช้สติให้มากที่สุด เตรียมข้อมูลมาชี้แจงต่อศาลและตกลงว่าจะดำเนินการชำระหนี้ทั้งหมดภายในเจ็ดวันก่อนจะลงลายมือในฐานะตัวแทนของบริษัทอิตาเลียนวู้ดส์ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่คริสโตเฟอร์วางไว้ ตระกูลเบลลามี่หมดตัวสูญสิ้นทุกอย่างภายในระยะเวลาไม่ถึงปี ไม่ว่าเธอพยายามสักแค่ไหนก็พ่ายแพ้แก่ตระกูลเฮมเวิร์ทอยู่ดีและเธอก็เตรียมใจไว้แล้วช่อพิกุลเดินลงจากอาคารที่ทำการศาลก่อนจะขึ้นก้าวขึ้นรถมุ่งหน้ากลับบริษัททันที ร่างบางนั่งในห้องทำงาน ดวงตากลมโตกวาดมองข้าวของต่างๆ ที่ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบก่อนจะเริ่มเก็บเอกสารสำคัญใส่กระเป๋าจนกระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงค่ำในที่สุดข้าวของสำคัญก็เต็มกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้าใบตั้งเรียงกัน"เอาไปไว้ที่บ้านนะคะ" เสียงหวานเอ่ยบอกคนขับรถ"คก๊อก..ก๊อก..ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองสามครั้ง ชายร่างสูงใหญ่มือขวาของเฟลิกซ์ก้าวเข้ามารายงาน"นายครับสายของเราแจ้งว่าคุณช่อพิกุลกลับมาเยี่ยมครอบครัวที่มิลานครับ" เฟลิกซ์ละสายตาจากโน๊ตบุ๊คเมื่อได้รับรายงานเรื่องของช่อพิกุล"คุณช่อกลับมามิลานงั้นเหรอ" เฟลิกซ์ทวนซ้ำพร้อมกับคลี่ยิ้ม เขาควรจะชวนเธอไปทานข้าวสักมื้อเพราะนานครั้งจะได้เจอกันสักที"ครับ เมื่อคืนคนของเราเห็นเธอขึ้นไปบนเรือยอร์ชของตระกูลเฮมเวิร์ทประมาณห้านาทีก่อนจะออกมา ตอนนี้เธอพักอยู่กับครอบครัวที่คฤหาสน์ของตระกูลครับ" เฟลิกซ์ชะงักเมื่อได้ยินลูกน้องรายงานว่าขึ้นไปบนเรือของตระกูลเฮมเวิร์ท"ขึ้นไปบนเรือนั้นเนี่ยนะ อืม ขอบใจ" เสียงทุ้มเอ่ยราบเรียบก่อนจะโบกมือไล่ลูกน้องออกไปพลางครุ่นคิดบางอย่าง ช่อพิกุลยังคงติดต่อกับคริสโตเฟอร์? เธอไปทำอะไรที่นั่นณ คฤหาสน์ของตระกูลเบลลามี่ ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตาบนโต๊ะทานอาหารเย็นที่ทำเยอะเป็นพิเศษเพราะช่อพิกุลกลับมาเยี่ยมบ้าน"ทำไมไม่บอกป้าล่วงหน้าล่ะลูก จะได้เตรียมกับข้าวที่หลานชอบไว้ให้ ตาแซมพี่ชายเราก็ไม่ว่างวันนี้เสียด้วยออกไปตกปลาบ้าง ตีกอล์ฟบ้างช่วงนี้ออกไป
มือบางคว้าผ้าขนหนูรีบเอาพันกายก่อนจะลุกออกจากอ่างน้ำ"คุณคริส!" เสียงหวานเรียกชื่อเขาอย่างตื่นตระหนกพลางก้าวถอยหลัง"ระวังลื่น" คริสโตเฟอร์เอ่ยบอกพลางหยุดยืนนิ่ง"ถอยไปสิคะ ฉันจะใส่เสื้อผ้า" ช่อพิกุลเอ่ยบอกเขา"โอเค โอเค" คริสโตเฟอร์ยกมือขึ้นก่อนจะยอมถอยออกมาเล็กน้อยนั่งรอที่เตียงนุ่ม มองคนตัวเล็กที่เดินอ้อมไปทางตู้เสื้อผ้าพร่อมกับคอยหันมามองเขาอย่างหวาดระแวง"เรามานั่งคุยกันดีดี" "คุยข้างนอกบ้านค่ะ" "ตรงนี้แหล่ะ" มือใหญ่เอื้อมไปคว้าเอวคอดเล็กเอาไว้ก่อนจะดึงร่างบางนั่งทับตักแกร่งแล้วรวบกอดเอาไว้แน่น"นี่คุณจะมาทำรุ่มร่ามกับฉันอีกเหรอคะ!" ช่อพิกุลโวยวายขึ้นมาพร้อมกับดิ้นขลุกขลั่ก"ฟังสิ..ฟังก่อน" คริสโตเฟอร์พยายามใจเย็นทั้งที่เขาไม่เคยต้องอดทนกับใครแบยนี้มาก่อนในชีวิต"ว่าธุระคุณมาเลยค่ะ" ใบหน้าหวานเชิดขึ้นในขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาก้มคลอเคลียไหล่มนพร้อมกับประทับจูบลง"ฉันต้องการให้เธอกลับมิลานไปทำงานกับฉันในฐานะเลขาส่วนตัวดูแลเรื่องส่วนตัวของฉัน ฉันจะจ่ายเงินค่าตัวให้ห้าล้านยูโรต่อเดือน มีคอนโดหรูให้อยู่และรถให้ใช้ งานเธอไม่มีอะไร
ณ โฮมสเตย์ฟาร์ม ร่างบางในชุดทะมัดทะแมงเดินหิ้วกระเป๋ามาใส่รถโดยมีทับทิมเดินมาส่ง "เดี๋ยวซื้อขนมมาฝากนะ" เสียงหวานเอ่ยก่อนจะขึ้นรถจิ๊ปคู่ใจขับออกมายังตัวเมืองตอนเช้า ลมเย็นต้นฤดูหนาวโชยปะทะใบหน้าหวานจนต้องกระชับเสื้อกันหนาว ผมสลวยเริ่มยาวประบ่าพลิ้วไสวตามแรงลม"เชิญด้านในก่อนค่ะ" เสียงหญิงวัยกลางคนเอ่ยกับช่อพิกุลที่เดินเข้ามาด้านในตึกแห่งหนึ่งที่ติดริมถนนใหญ่แหล่งท่องเที่ยวที่มักจะมีแวะเวียนมาทุกปีและยังติดกับลานจัดงานเทศกาลประจำปีอีกด้วยวันนี้เธอแวะเข้ามาดูอาคารแห่งหนึ่งที่สนใจเพราะอยากเปิดหน้าร้านเพื่อนำสินค้าจากในฟาร์มมาวางขายและเป็นการโชว์ออกสู่ภายนอกไปในตัวด้วย"สวยมากเลยค่ะ ฉันสนใจอยากทำสัญญาเช่าไปก่อนถ้าไปได้ดีก็อยากจะซื้อเลย" เสียงหวานเอ่ย"ดีค่ะ ดิฉันก็อยากจะขาย ถ้าคุณช่อจะซื้อก็จะลดราคาให้เป็นพิเศษเลย ลูกเต้าก็ไม่มีเลยไม่รู้ว่าจะเก็บไว้ทำไม" น้ำเสียงท่าทางใจดีของหญิงเจ้าของอาคารเอ่ยบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นมาเธอเริ่มแข็งแกร่งและทำงานเก่งขึ้นมากต่างจากเมื่อก่อนลิบลับที่อ่อนแออ้อนแอ้นเหมือนลูกคุณหนู ตอนนี้เธอสามารถลุยได้ทุกสถ
เช้าวันต่อมาช่อพิกุลเข้าไปดูงานในฟาร์มพืชดอกแต่เช้าต่อด้วยเข้าไปดูโรงบ่มไวน์ ชีวิตในฟาร์มชนบทแม้จะไม่หรูหราเท่ากับในเมืองที่เธอเคยอยู่มาแต่ก็เงียบสงบและมีความสุขไปอีกแบบ ในหนึ่งวันเธอยุ่งมากมีงานหลายอย่างให้ทำเพลิดเพลินเผลอแปบเดียวเวลาก็ผ่านไปนานเกือบครึ่งปีตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ พี่ชาย ป้าดารินทร์และแม่นมจะลงมาเยี่ยมเดือนละครั้งเพราะแซมยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาลที่มิลานอย่างต่อเนื่อง รายได้ถึงจะไม่มากเท่ากับตอนมีบริษัทของตัวเองแต่ก็พออยู่ได้แบบไม่ขัดสนและยังพอมีเก็บบางส่วน ข้าวของแบรนด์เนมเธอเลิกซื้อและเลิกใช้ไปนานแล้ว รถหรูคันเก่ายังจอดสนิทที่คฤหาสน์ในมิลาน "คุณช่อคะ เพื่อนๆ มาเยี่ยมค่ะ" ทับทิมเข้ามาบอกเจ้านายสาวที่กำลังเปิดไวน์ชิมรสชาติ "เดี๋ยวฉันไป ให้พวกเขาไปรอที่คาเฟ่" เสียงหวานเอ่ยตอบ "รับทราบค่ะ" "ว้าว! อากาศดีจังเลย" เอ็มม่าเอ่ยบอกพร้อมกับมองไปด้านนอกโดยที่ไทเลอร์กับเฟลิกซ์นั่งจิบกาแฟพลางมองสำรวจบรรยากาศรอบๆ ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ มีนักท่องเที่ยวทยอยมาเรื่อยๆ "อืม..ไม่หนาวมาก" ไทเ
รถสปอร์ตคันหรูแล่นเข้ามาจอดในเพ้นท์เฮ้าส์หลังใหญ่ ไอรีนก้าวลงจากรถก่อนจะเดินเข้าด้านในหมับ! เอวคอดเล็กถูกกระชากอย่างแรงจนร่างบางลอยปลิวหวือกระแทกแผงอกคนตัวโตอย่างแรง"กรี๊ด!!!..แก!" เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นนาธานนั่นเอง หมอนี่เข้ามาอยู่ในนี้ได้ยังไงนะ! "แกเข้ามาที่นี่ได้ยังไง ใครอยู่แถวนี้บ้าง!" ไอรีนหันไปมองรอบๆ พร้อมกับตะโกนเรียกคนช่วยแต่กลับไร้เงาบอดี้การ์ดที่เคยยืนประจำการอยู่แถวนี้"หายหัวไปไหนกันหมด! ฉันจะฟ้องคริส! ออกไปนะ!" ไอรีนตะโกนใส่หน้าชายหนุ่มที่เป็นอดีตสามี"ไอ้คริสเหรอจะมาช่วย เธอคิดว่าฉันจะเข้ามาที่นี่ได้หรือไงถ้าเจ้าของมันไม่รับรู้น่ะห้ะ" นาธานเอ่ยพร้อมกับก้มลงหมายจะฉกจูบ"ไม่จริง! คริสไม่มีวันทำแบบนั้นหรอก""รีบไปเก็บข้าวของยัยนี่ให้เสร็จภายในครึ่งชั่วโมง" นาธานขี้คร้านจะต่อปากต่อคำกับหล่อนจึงหันไปเอ่ยกับชายชุดดำที่ยืนหลบมุมอยู่แถวนั้น"ครับนาย" ไอรีนเบิกตากว้างก่อนจะตวัดมองนาธานตาเขียวปั่ดแล้วตะหวาดแหวใส่ทันที"ทำอะไร! สั่งพวกนั้นหยุดเดี๋ยวนี้!""มานี่!" มือใหญ่กระชากคนตัวเล็กเดินตามเข้ามาในห้องรับรองชั้นล่างอย่างง่ายดายก่อนจะปิดประตูลงกลอนปัง! "ฉัน
ณ สนามแข่งรถ คริสโตเฟอร์นั่งดื่มเงียบๆคนเดียวที่อัฒจรรย์ข้างสนามในขณะที่เพื่อนฝูงกำลังดื่มฉลองกันอย่างสนุกสนาน"ไอ้คริส!" "คุณคริสคะ!" เสียงผู้คนรอบตัวที่คอยเรียกเขามันแทบไม่เข้าหูเลยด้วยซ้ำ มือใหญ่ถือแก้วเบียร์เอาไว้ตลอดเวลาเรียกได้ว่าแทบจะดื่มแทนน้ำเปล่า ในขณะเดียวกันก็คอยเช็คโทรศัพท์ตลอดเวลาเผื่อลูกน้องจะรายงานความคืบหน้าเข้ามา"เหม่ออะไรวะ" เสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นอีกครั้งที่บังเอิญเจอไอ้หมอนี่ "อย่าเสือกจะดีกว่า" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยกลับโดยไม่หันไปมอง"ให้กูเดานะ มึงกำลังคิดถึงใครสักคนอยู่" นาธานเอ่ยออกมาพร้อมกับกลั้วหัวเราะในลำคอ".....มึงมาทำไม" คริสโตเฟอร์เอ่ยถามแม้จะพอเดาได้ว่าว่าไอ้นาธานมันมาทำไม"กูจะมาคุยเรื่องไอรีน" นาธานเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนทำเอาคริสโตเฟอร์เลิ่กคิ้วขึ้นก่อนจะหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างจับผิด"มึงจะมาคุยเรื่องไอรีนกับกูทำไม กูไม่ว่าง มึงมีธุระก็โทรหาเธอเองโดยตรง" คริสโตเฟอร์ตอบกลับพร้อมกับยกแก้วเบียร์ดื่ม "ทำไมยัยรีนมาพักบ้านมึง" นาธานไม่สนใจประโยคก่อนหน้าของคริสโตเฟอร์แต่กลับยิงคำถามของตัวเองออกไป"ทำไมไม่







